Home / โรแมนติก / ในเงาของหัวใจ / บทที่ 11 คืนก่อนประกายจะพร่า

Share

บทที่ 11 คืนก่อนประกายจะพร่า

last update Last Updated: 2025-04-14 14:24:41

แสงแดดอุ่นคลี่ตัวลงบนพื้นผิวของอาคารจัดแสดงนิทรรศการที่ถูกเนรมิตขึ้นอย่างวิจิตร ภายในห้องโถงหลัก ทีมงานต่างขะมักเขม้นตรวจความเรียบร้อยอย่างเงียบงัน ท่ามกลางความตึงเครียดที่แฝงอยู่ในความเรียบหรู

นาราเดินตรวจพื้นที่ด้วยสายตาที่แน่วแน่ ไม่หลุดโฟกัสแม้เพียงรายละเอียดเล็กน้อยของแสง เวที หรือกรอบโชว์เครื่องประดับ พรุ่งนี้คือวันจริง และเธอรู้ดีว่าทุกอย่างจะต้องไร้ที่ติ

ขณะเดียวกัน พราวฟ้าปรากฏตัวในชุดฝึกซ้อมที่ตัดเย็บอย่างเรียบโก้ ผ้าเนื้อดีพลิ้วไหวไปตามจังหวะการก้าวเดิน เส้นผมถูกรวบขึ้นอย่างหลวม ๆ เผยลำคอระหงและแววตาที่เจิดจรัสด้วยประกายของหญิงสาวที่มั่นใจในความงามในตัวเอง

แสงแดดอ่อนที่ลอดผ่านกระจกสูงสะท้อนแสงกระทบพื้นหินอ่อนเงาวับ เก้าอี้จัดเรียงตามแนวเวทีอย่างประณีต กล่องประดับเพชรหลักยังคงวางเด่นอยู่กลางโถงใต้แสงไฟไลต์เฉพาะจุดราวกับราชินีผู้สง่างาม

เสียงดนตรีจำลองที่เปิดเบา ๆ ในห้องโถง เริ่มคลี่คลายความเงียบงัน ทีมงานทยอยเข้าประจำตำแหน่ง ขณะที่พราวฟ้าก้าวออกไปยังกลางเวที เธอหมุนตัวอย่างงดงามแบบนางงามสองรอบเต็ม ก่อนหยุดโพสด้วยท่วงท่าสง่างาม มือหนึ่งแตะแผ่วเบาที่สร้อยคอ อีกมือแตะสะโพกอย่างมีชั้นเชิง

รอยผ่าของกระโปรงชุดราตรีแหวกออกเล็กน้อยตามการขยับ ทำให้เรียวขาอันงดงามเผยออกมาอย่างมีศิลปะ ไม่โจ่งแจ้ง แต่สะกิดความสนใจได้อย่างแยบยล

คีรณัฐที่ยืนสังเกตจากระยะห่างก้าวเข้ามาใกล้ ดวงตาของเขาอ่านรายละเอียดทุกจังหวะสายตาอย่างเงียบงัน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทว่าชัดเจนพอให้ได้ยิน

"ถ้าขยับกระโปรงสูงขึ้นกว่านี้อีกนิดเดียว...ผมกลัวว่าแสงสปอร์ตไลต์จะส่องไปผิดจุดครับ"

พราวฟ้าหันมาหัวเราะเบา ๆ ดวงตาเป็นประกาย "คุณนี่...หมายถึงจุดไหนคะ?"

เขายิ้มบางแต่ไม่ตอบ หันไปสื่อสารกับทีมไฟด้านหลังให้ลดความสว่างบริเวณขอบเวทีลง ไม่ให้ส่องสว่างไปตรงส่วนล่างของชุดมากนัก

นาราก้าวเข้ามาในจังหวะพอดี มองสลับสองคนตรงหน้าแล้วหัวเราะอย่างอดไม่ได้ "สองคนนี้ ถ้าได้ทำงานร่วมกันบ่อย ๆ ฉันคงไม่ต้องจ้างทีมโปรดักชันแล้วล่ะ ประหยัดงบไปได้เยอะเลย"

คีรณัฐที่คุมงานด้านศิลป์อยู่ไม่ห่าง เดินเข้ามาแนะนำจังหวะการหมุนตัว พร้อมพูดกับพราวฟ้าด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "ถ้าพลิกตัวช้ากว่านี้อีกสักนิด วางเท้าต่ำลงมาหน่อย ผมว่ามันจะสวยมาก สวยจนคนทั้งงานแทบจะหยุดหายใจพร้อมกันได้เลยนะครับ"

พราวฟ้าเบิกตากว้างก่อนจะหัวเราะลั่น "คุณนี่...จัดท่าซะปิดความเซ็กซี่ของฉันมิดเลยนะ!"

นาราขยับไปข้างพราวฟ้า พลางกระซิบเบา ๆ กับเธอ "ฉันชักไม่แน่ใจ ว่าที่ช่วยจัดท่าเพราะอยากให้ดูดี หรือเพราะหวงขาเรียว ๆ ของแกกันแน่"

"บ้าน่ะแก คิดไปเรื่อยแล้ว" พราวฟ้าพูดพร้อมกับตีไปที่นาราเบา ๆ

แม้จะพูดอย่างนั้น ทว่ากลับมีความเขินอายปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างปิดบังไม่มิด

หลังการซ้อมเสร็จสิ้น พราวฟ้าชวนนาราไปฉลองเล็ก ๆ ในค่ำคืนก่อนวันงาน

แม้ว่านาราอยากจะปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็ทนต่อลูกตื๊อของเพื่อนสาวไม่ได้

"แค่ดื่มนิดเดียว ฉันสัญญา! ถือว่าให้กำลังใจตัวเองก่อนขึ้นเวทีพรุ่งนี้นะ”

ค่ำนั้น สองสาวนั่งอยู่ในร้านอาหารหรูใจกลางเมือง ดนตรีเบา ๆ คลอไปกับบรรยากาศเย็นสบาย นาราเผลอหัวเราะกับเรื่องเล่าของพราวฟ้าอยู่หลายครั้ง หัวใจที่เคยตึงเครียดค่อย ๆ คลายลง

ดื่มกันมาได้สักพัก นาราก็รู้สึกว่าเธอคล้ายจะเริ่มมึนหัวเล็กน้อย เธอจึงขอตัวไปห้องน้ำ

ขณะเดินกลับออกมา ประตูกระจกจากห้องทานอาหารวีไอพีบานหนึ่ง เปิดออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ร่างของนาราเซถอยหลังเล็กน้อย ก่อนจะชนเข้ากับใครบางคนที่เดินตามมาข้างหลัง

“โอ๊ะ ขอโทษค่ะ…” เธอหันกลับไปกล่าวขอโทษเขาอย่างรวดเร็ว

ทว่าด้วยความมึนเล็กน้อยผสมกับความตกใจ เธอจึงทรงตัวได้ไม่ดีนัก

มือที่แตะต้นแขนของเธอเบาและมั่นคง ชายหนุ่มตรงหน้าในชุดสูทเรียบหรู ยืนรับเธอไว้พอดี

เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย แต่สัมผัสนั้น...กลับคุ้นอย่างประหลาด

“คุณโอเคไหมครับ” เสียงทุ้มต่ำชัดเจนเอ่ยถามด้วยแววตาสุภาพแต่ลึกซึ้ง

“ค่ะ ขอโทษนะคะ ฉันรีบไปหน่อย” นาราตอบพลางยิ้มจาง ๆ

เขามองเธอครู่หนึ่งก่อนจะพูดอีก “คุณดูไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่นะครับ เมาเหรอ?”

“นิดหน่อยค่ะ เพื่อนลากมาดื่มผ่อนคลาย” เธอหัวเราะเบา ๆ ก่อนพยักหน้าเป็นเชิงลา “ขอบคุณนะคะ…สำหรับเมื่อกี้”

เมื่อเธอเดินจากไป ชายคนนั้นยังยืนอยู่ที่เดิม สายตาติดตามแผ่นหลังนั้นเงียบ ๆ แววตานิ่งงันแต่แฝงความอ่อนโยนเอาไว้ภายใต้ท่าทีสงบเสงี่ยม

ไม่กี่อึดใจถัดมา ผู้ชายร่างสูงในสูทสีเข้มเดินเข้ามาใกล้ เขาโค้งศีรษะเล็กน้อยก่อนกระซิบเบา ๆ

"ข้อมูลที่คุณธีภพให้ตรวจสอบเรื่องการรั่วไหลจากบริษัทวรเมธินทร์...ผมได้เบาะแสบางส่วนแล้วครับ ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นใคร แต่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติบางอย่างที่ผมเพิ่งตรวจสอบได้...."

ธีภพรับฟังโดยไม่เอ่ยคำ ดวงตาเขายังคงจับจ้องไปยังทิศทางที่นาราเดินจากไป พลางเอ่ยช้า ๆ

"เก็บรายละเอียดให้มากที่สุด และอย่าให้เธอรู้ว่าเรากำลังมองอยู่"

ผู้ช่วยพยักหน้ารับ ก่อนจะถอยกลับอย่างเงียบงัน

ในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยไฟระยิบ ธีภพยังคงยืนอยู่อย่างนั้น...ราวกับป้อมปราการเงียบงันที่เฝ้ารอเวลาของมัน

................

ขณะเดียวกัน ภายในห้องนิรภัยเก็บรักษาเครื่องประดับ

อรดาก้มหน้าอ่านเอกสารปลอมที่มีตราประทับปลอมแปลงอย่างแนบเนียน ใบหน้าเรียบสนิทไร้ความรู้สึก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ถูกเธอว่าจ้างไว้แล้วลอบเดินเข้ามาตามแผน ท่ามกลางความเงียบที่เคลือบคลุมไปทั่วโถงด้านหลัง

เครื่องประดับชุดสำคัญ เพชรเม็ดหลักที่เป็นหัวใจของงานประมูล ถูกบรรจุอย่างพิถีพิถันอยู่ในกล่องพิเศษ ห่อด้วยผ้าเนื้อดีเพื่อกันกระแทก

มือของอรดายื่นกล่องให้ชายคนนั้น ก่อนจะนำกล่องอีกใบหน้าตาเหมือนกันทุกประการเข้าแทนที่ตำแหน่งเดิม

เธอขยับกล่องอย่างระมัดระวัง ตรวจมุม วัดองศาแม้กระทั่งรอยพับของผ้า ไม่มีสิ่งใดถูกปล่อยให้ผิดตำแหน่งแม้แต่นิดเดียว

เจ้าหน้าที่คนนั้นพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะเก็บกล่องของจริงใส่กระเป๋าสีดำ และเดินออกไปทางประตูด้านหลังอย่างแนบเนียน

ไม่ถึงสิบห้านาทีหลังจากนั้น ขณะที่อรดาเดินผ่านบานกระจกด้านข้าง แสงไฟสะท้อนแววตาของเธอวาววับ มือถือในกระเป๋าเธอสั่นเบา ๆ

เธอหยิบขึ้นมาอ่านข้อความที่เพิ่งปรากฏบนหน้าจอ

> “ของจริงถูกจัดเก็บไว้ในที่ที่เราคุยกันแล้ว”

เธอกดลบข้อความนั้นทันที ปลายนิ้วยังแตะอยู่ที่หน้าจออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ ละออก

ริมฝีปากที่เคยเรียบนิ่งคลี่รอยยิ้มบางออกมา...ช้า ๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 12 หลุมพรางแห่งการหักหลัง

    ค่ำคืนนี้ คืนแห่งงานประมูลสุดยิ่งใหญ่ที่ทุกสายตาจับจ้อง ห้องโถงนิทรรศการของวรเมธินทร์กรุ๊ป กลายเป็นฉากแห่งความฝันที่ถูกบรรจงสรรค์สร้างขึ้นเพื่อการเฉลิมฉลองความงามอย่างแท้จริงแสงไฟสีทองนวลละมุนไล้ไปตามแนวเพดานโค้งสูง สะท้อนกระทบคริสตัลที่เรียงรายราวหยาดน้ำแข็งจากสรวงสวรรค์ กระจกใสเจียระไนถูกจัดวางอย่างมีจังหวะ ทุกแผ่นสะท้อนเงาผู้คนเป็นพันเสี้ยว ดั่งเพชรที่มีหลากเหลี่ยมมุมทั่วบริเวณประดับประติมากรรมแก้วใสที่ถูกหล่อขึ้นเป็นรูปทรงเรขาคณิต แสดงถึงการควบรวมของศิลปะและวิทยาศาสตร์ เบื้องใต้แสงจันทร์จำลองที่สาดทาบผ่านเพดานโปร่งใส ผืนพรมสีหมอกเงินทอดยาวจากทางเข้าจนถึงเวทีกลางโถง ราวกับพาผู้คนก้าวเข้าสู่โลกซึ่งกาลเวลาและความจริงถูกระบายไว้ด้วยประกายอัญมณีแขกผู้มีเกียรติทยอยเดินเข้าสู่บริเวณงานอย่างต่อเนื่อง ราวกับขบวนแห่งรัตติกาลที่เปล่งประกายไม่หยุดยั้งชุดสูทตัดเย็บจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก สวมทับร่างของนักธุรกิจชายผู้ทรงอิทธิพล ชุดราตรีกวาดพื้นของสตรีผู้สูงศักดิ์ระยิบระยับด้วยคริสตัลจากปารีส ทุกฝีก้าวที่เหยียบย่างบนพรมเงินคือการแสดงออกถึงอำนาจ ฐานะ และศิลปะแห่งการเลือกสรรเสียงกดชัตเตอร์จากก

    Last Updated : 2025-04-14
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 13 หมากแรกที่เดินออกมาจากเงา

    เสียงพิธีกรกังวานขึ้นจากเวทีหลักกลางโถงงาน เสียงนั้นลึก หนักแน่น และเต็มไปด้วยพลังสะกดฝูงชนให้เงียบสงบในพริบตา"ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี... ค่ำคืนนี้คือค่ำคืนแห่งประกายและเรื่องราว ค่ำคืนที่ความงามไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่มองเห็น แต่เป็นสิ่งที่สัมผัสได้จากหัวใจ"เสียงปรบมือดังขึ้นเบา ๆ ก่อนจะเงียบลงอีกครั้งเมื่อพิธีกรยกมือขึ้นอย่างนุ่มนวล"วรเมธินทร์กรุ๊ป มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในการนำเสนอแฟชั่นโชว์เครื่องประดับแห่งปี ภายใต้แนวคิด 'ศรัทธาแห่งการฟื้นคืน' ซึ่งเชื่อมโยงเรื่องราวของความทรงจำอันมีค่า เข้ากับแสงสะท้อนของอัญมณี"เสียงดนตรีคลาสสิกเริ่มบรรเลงเบา ๆ เคล้ากับเสียงซุบซิบอันเงียบงันของผู้ชม"และเพื่อเปิดม่านสู่ค่ำคืนแห่งแรงบันดาลใจนี้ ขอเชิญทุกท่านพบกับการเดินแบบสุดพิเศษที่จะเปิดตัวด้วย 'เครื่องเพชรแห่งแรงบันดาลใจ' หนึ่งเดียวในค่ำคืนนี้!"แสงไฟทุกดวงดับวูบลงในเสี้ยววินาที ความเงียบปกคลุมห้องจนได้ยินเสียงลมหายใจเบา ๆ จากใครบางคนทันใดนั้น แสงสปอตไลต์สว่างวาบขึ้นบนเวที พร้อมกับเสียงดนตรีที่พุ่งทะยานดั่งสายลมยามค่ำคืนที่โอบล้อมผู้ชมไว้เวทีเปลี่ยนสีเป็นม่วงอมน้ำเงินระยิบ ทอดเงาบนพื้นพ

    Last Updated : 2025-04-14
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 14 กลับมาสู่ที่ของมัน

    เสียงภายในห้องโถงเงียบลงฉับพลัน ราวกับถูกกลืนหายไปพร้อมคำกล่าวหาของอรดา ดวงตานับร้อยหันมาจับจ้องที่นารา หญิงสาวในชุดราตรีสีทองดำผู้เป็นหัวใจของงานในค่ำคืนนี้แต่ในจังหวะที่ใครหลายคนเริ่มตั้งคำถาม เธอกลับยืนนิ่งสงบ ดุจผิวน้ำที่ไม่แม้แต่จะกระเพื่อมอรดาก้าวออกมาจากกลุ่มผู้ร่วมงาน เสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นห้องดังชัดเจนในความเงียบ ริมฝีปากแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มที่เหมือนจะนุ่มนวล แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความคั่งแค้นที่อัดแน่นจนแทบปริแตก“ฉันเสียใจจริง ๆ ที่ต้องเป็นคนพูดเรื่องนี้ออกมา” อรดาเอ่ยเสียงเรียบ “แต่ในฐานะผู้ช่วยที่อยู่เบื้องหลังงานนี้ ฉันมีหน้าที่ต้องปกป้องชื่อเสียงของแขกทุกท่านและชื่อของแบรนด์ที่เคยภาคภูมิใจ”เธอค่อย ๆ หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งจากกระเป๋าคลัตช์สีน้ำเงินเข้ม ยกขึ้นให้แสงไฟจับต้องชัด“นี่คือใบรับรองของเพชรฟินาเล่ที่ใช้เปิดงานค่ำคืนนี้ค่ะ”เธอหมุนเอกสารให้กล้องสื่อมวลชนและแขกในงานเห็นอย่างทั่วถึง ก่อนใช้นิ้วชี้แตะลงที่มุมล่างขวา “ตรงนี้...ไม่มีโลโก้ของสถาบันรับรอง ซึ่งในทุกใบรับรองจะต้องมีตามมาตรฐาน”เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นอีกรอบ หนักแน่นและแผ่กระจายเหมือนไฟลามบนผืนหญ้าแห้ง“ฉ

    Last Updated : 2025-04-14
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 15 ผู้ประมูลปริศนา

    หลังจากที่ผู้คนเริ่มสลายตัวจากความวุ่นวาย เสียงซุบซิบแผ่วเบาค่อย ๆ จางลงไปตามจังหวะของเวลาที่คลี่คลายแสงไฟในห้องโถงสลัวลง เหลือเพียงประกายจากโคมไฟระย้าซึ่งทอดแสงอุ่นนุ่ม เหนือพื้นที่ที่ยังอบอวลไปด้วยแรงสะเทือนจากเหตุการณ์เมื่อครู่นารายืนอยู่เงียบ ๆ คนเดียวตรงข้างเวที สายตาเธอมองไปยังกล่องเพชรที่วางอยู่บนโต๊ะ ราวกับยังคงจับต้องความจริงได้ไม่หมด เธอสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วผ่อนออกเบา ๆเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง“คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”น้ำเสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นใกล้พอให้หัวใจสะดุ้งเบา ๆเธอหันกลับไป เห็นธีภพยืนอยู่ตรงนั้นในแสงสลัว ใบหน้าของเขานิ่งสงบ แต่แววตายังมีเงาของความห่วงใยไม่ปิดบัง“ไม่ค่ะ…ฉันไม่เป็นไร” เธอตอบเรียบ ๆ พลางเบนสายตากลับไปยังเพชรตรงหน้า “แต่ก็ยังไม่แน่ใจ ว่าหัวใจของฉันยังแข็งแรงพอจะจัดงานต่อไปได้หรือเปล่า”“หัวใจของคุณแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิด” เขาตอบช้า ๆ “คุณยืนอยู่ตรงนี้ได้ทั้งที่ถูกหักหลัง ถูกใส่ร้าย ถูกประณาม…แต่คุณไม่เคยถอยแม้แต่ก้าวเดียว”นาราเงียบ ราวกับคำพูดนั้นกลั่นซึมเข้าสู่รอยร้าวบางอย่างในใจธีภพเดินเข้ามาใกล้อีกก้าวหนึ่ง“ผมเฝ้ามองคุณมาตลอด…น

    Last Updated : 2025-04-14
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 16 ก็แค่หมากไม่ใช่คนคุมเกม

    พราวฟ้าลูบต้นแขนตัวเองเบา ๆ เหมือนเพิ่งรู้สึกเย็นวูบวาบขึ้นมาอีกครั้ง “แล้วเธอรู้ไหม ตอนที่ฉันรู้ว่าเพชรที่ฉันใส่ตอนเดินโชว์เป็นของปลอม ฉันแทบเป็นลม!” เธอทำตาโตประกอบคำพูดนาราหัวเราะเบา ๆ “โชคดีแล้วล่ะที่ไม่มีอะไรผิดพลาด ยังไงฉันก็ต้องขอโทษสำหรับเรื่องนี้ด้วยนะ ที่ทำให้แกต้องมาเดือดร้อนไปด้วย”"เดือดร้อนอะไรล่ะแก" พราวฟ้ายืดอกแล้วยิ้มอย่างมีชั้นเชิง "เรื่องนี้ทำให้ฉันได้แสงต่างหากล่ะ อยู่ดี ๆ ก็มีกระแสจากเรื่องเพชรปลอมที่ฉันเองก็ตกเป็นเหยื่อ แม้จะไม่โดยตรงเหมือนแกก็เถอะ แต่ก็ได้คะแนนความสงสารท่วมท้นเลยล่ะ""งั้นคุณฟ้าดาราชื่อดังต้องจ่ายค่าสร้างกระแสให้ฉันด้วยสินะ" นาราเอ่ยเย้าหยอกเพื่อนรักด้วยเสียงจริงจัง "สักยี่สิบเปอร์เซ็นของงานโฆษณาตัวหน้าคิดว่าไง"สองสาวพากันหัวเราะออกมาอย่างคนที่รู้ทันกันพราวฟ้าพยักหน้ารัวแล้วพูดถึงเรื่องในวันงานต่อ “แล้วยัยอรดานั่น...ตอนได้ยินที่เธอพูดบนเวที ฉันแทบลุกขึ้นไปปาส้นสูงใส่หน้าเลย เธอหน้าด้านมากนะ! แกล้งทำเป็นห่วงบริษัท ทั้งที่ตัวเองเป็นคนเอาของปลอมมาเปลี่ยนให้ฉันใส่เอง!”เธอส่ายหน้าแล้วถอนหายใจยาว “สมน้ำหน้านางจริง ๆ ที่จบลงในคุก! คิดจะแทงข้างหลังเ

    Last Updated : 2025-04-14
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 17 แทรกแซงการถือหุ้น

    เวลาผ่านไปราวสองสัปดาห์หลังงานประมูล นาราเดินหน้าปรับโฉมโรงแรมในเครือวรเมธินทร์อย่างเต็มกำลัง การประชุมภายในบริษัทถูกจัดขึ้นในห้องประชุมใหญ่ ท่ามกลางทีมบริหารระดับสูงและฝ่ายพัฒนาโครงการ“โครงการที่จะพลิกโรงแรมของเราให้เป็นมากกว่าที่พัก คือสิ่งที่ฉันอยากเห็นจริง ๆ” นารากล่าวเปิดประชุมด้วยน้ำเสียงมั่นคงคีรณัฐก้าวขึ้นไปหน้าห้อง นำเสนอแนวคิดใหม่ผ่านสไลด์ที่เรียบหรู“เราขอเสนอการติดตั้งระบบผู้ช่วยอัจฉริยะภายในห้องพัก โดยเชื่อมโยงกับระบบ AI Concierge (ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการให้บริการลูกค้า หรือ ดูแลอำนวยความสะดวก) ที่สามารถควบคุมทุกอย่างในห้องผ่านเสียง ตั้งแต่อุณหภูมิ แสงไฟ เพลง ไปจนถึงแนะนำที่เที่ยวและบริการของโรงแรม”จากนั้น คีรณัฐคลิกภาพถัดไปที่เผยให้เห็นภาพจำลองของ AI Concierge เสมือนจริงในชื่อ “VARA” บนจอ“VARA หรือวารา ย่อจาก Virtual Assistant for Remarkable Arrival ที่หมายถึงผู้ช่วยเสมือนเพื่อการมาถึงอย่างน่าประทับใจ จะเป็นภาพเสมือนในห้องพักของแขกทุกคน เธอจะปรากฏตัวบนหน้าจอหลัก พร้อมเสียงพูดที่นุ่มนวล ช่วยต้อนรับและแนะนำบริการต่าง ๆ อย่างมีเสน่ห์ เป็นมิตร และมืออาชีพ

    Last Updated : 2025-04-14
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 18 ทำลายความแข็งแกร่งให้พังทลาย

    หลังจากที่เสียงประชุมเงียบลง และผู้ถือหุ้นทยอยกันออกจากห้อง นารากลับมานั่งที่โต๊ะทำงานส่วนตัวของเธอด้วยความเหนื่อยล้า ความตึงเครียดที่สะสมมาทั้งเช้าเริ่มคลายตัวลง เธอหยิบจดหมายเตือนฉบับนั้นขึ้มมาพินิจดูอย่างครุ่นคิดอีกครั้งไม่มีชื่อผู้ส่ง ไม่มีตราประทับบริษัท ไม่มีแม้แต่สัญลักษณ์ใด ๆ ที่บอกว่าเป็นจดหมายทางธุรกิจ ปลายนิ้วลูบผ่านผิวกระดาษที่หยาบเล็กน้อย ราวกับมันถูกจงใจเลือกให้ดูเรียบง่ายจนเกือบไร้พิรุธ“พี่ศิตาคะ เข้ามาหาฉันหน่อยค่ะ” นารากดออดเรียกพี่ศิตาเลขาคู่ใจเดินเข้ามาแทบจะทันที“คะ คุณนารา?”“จดหมายฉบับนี้…มากับแฟ้มเอกสารพวกนี้เหรอคะ?”พี่ศิตาขมวดคิ้วมอง ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “ใช่ค่ะ พี่เห็นมันสอดอยู่ในแฟ้มที่ฝ่ายบัญชีส่งขึ้นมา พี่ก็ไม่ทราบว่าเป็นจดหมายอะไร นึกว่าเป็นของคุณนาราเอง เลยนำมาวางไว้ให้ที่โต๊ะ”นาราพยักหน้าเบา ๆ แม้ใบหน้ายังเรียบนิ่ง แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยคำถาม ใครเป็นคนส่งจดหมายปริศนานี้มา?..................................ท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิด เสียงดนตรีจากด้านนอกยังคงดังแผ่ว ๆ เข้ามาเป็นจังหวะคงที่ ขับกล่อมบรรยากาศในห้องส่วนตัวของไนต์คลับหรูให้คลายความตึงเครียดล

    Last Updated : 2025-04-14
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 19 รวมถึงเธอคนนั้นด้วยหรือเปล่า

    เช้าวันใหม่ในบริษัทวรเมธินทร์กรุ๊ป เสียงรองเท้าส้นสูงเบา ๆ ดังแผ่วมาตามทางเดิน ก่อนที่ประตูห้องทำงานของประธานหญิงจะเปิดออก พร้อมกับเสียงสดใสที่คุ้นหู“ฉันเอาของกินมาฝากค่ะ ท่านประธานคนสวย!”พราวฟ้ายิ้มกว้างในชุดเดรสลำลองเรียบหรู ถือถุงขนมและของว่างแน่นมือ ทั้งเบเกอรีโฮมเมด ชานมไข่มุกจากร้านดัง และของว่างจากแบรนด์พรีเมียมที่หิ้วมาจากห้างหรูนาราเงยหน้าจากกองเอกสาร ยิ้มบาง ๆ อย่างเหนื่อยแต่ต้อนรับ “นี่ยังเช้าอยู่นะ แล้วนี่…ซื้อทั้งร้านมาเหรอ?”“เกือบทั้งร้านแหละ!” พราวฟ้าหัวเราะแล้ววางถุงขนมเรียงไว้เต็มโต๊ะรับแขก “ได้ยินมาว่าคีรณัฐทำงานอยู่กับเธอใช่มั้ย? ของกินเยอะแบบนี้…ฉันว่าแบ่งไปให้เขาด้วยดีกว่า”นารายิ้มมุมปาก “มาหาฉันหรือมาหาผู้ชายกันแน่?”พราวฟ้าชะงักไปนิด ก่อนจะหัวเราะกลบเกลื่อน “หึ อย่าแซวสิ ก็แค่เพื่อนของเพื่อนจะเอาขนมไปฝากมันผิดตรงไหน”ทั้งสองหัวเราะกันเบา ๆ บรรยากาศผ่อนคลายลงจากความตึงเครียดของงานช่วงที่ผ่านมาทันใดนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้น พี่ศิตาเข้ามาด้วยท่าทางสุภาพ“คุณนาราคะ มีบัตรเชิญจากงานเลี้ยงแวดวงนักธุรกิจที่กำลังจะจัดขึ้นอาทิตย์หน้าค่ะ แขกเชิญในงานเป็นระดับผู้นำบ

    Last Updated : 2025-04-14

Latest chapter

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 20 เธอติดกับแล้ว

    ค่ำคืนของวันงาน โรงแรมหรูใจกลางเมืองแสงไฟสีทองอุ่นที่ประดับประดาเต็มห้องบอลรูมหรูหราทำให้บรรยากาศภายในดูราวกับฉากในความฝัน บันไดวนที่ทอดลงจากชั้นลอยถูกปูพรมสีแดงตัดกับผนังหินอ่อนอย่างสง่างาม แขกผู้มีเกียรติทยอยเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อหญิงสาวในชุดเดรสยาวสีงาช้างประดับคริสตัลปรากฏตัวขึ้น สายตาหลายคู่ก็หันมาพร้อมกันนารา วรเมธินทร์ ก้าวลงจากบันไดอย่างสง่าผ่าเผย ริมฝีปากแต่งแต้มสีแดงไวน์ แววตาสงบนิ่งแต่ทรงอำนาจ เครื่องประดับเพชรจากแบรนด์หรูในเครือของเธอเองประดับอย่างสมบูรณ์แบบข้างเธอคือ พราวฟ้า ในชุดเกาะอกสีไพลิน ผมถักเป็นเปียหลวมพาดบ่า มองดูราวกับเจ้าหญิงโมเดิร์นที่มีเสน่ห์แบบขี้เล่น“คืนนี้เธอดูเหมือนจะเป็นดาวเด่นของงานเลยนะ” พราวฟ้ากระซิบพร้อมอมยิ้ม “คืนนี้เธอจะกลายเป็นข่าวแน่ ๆ”“หวังว่าข่าวดีนะ” นาราตอบเบา ๆ พลางมองไปรอบงานในเงามุมหนึ่งของห้อง ชายหนุ่มในชุดทักซิโดสีดำยืนสงบนิ่ง ท่ามกลางแสงไฟระยิบที่สะท้อนบนแก้วแชมเปญและเครื่องเพชรของเหล่าผู้คนรอบข้างธีภพ จ้องมองไปยังร่างของหญิงสาวในชุดเดรสสีงาช้างที่เพิ่งปรากฏตัวนารา งดงามเกินกว่าคำบรรยาย ท่วงท่าการก้าวเดินของเธอสะกดสายตา

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 19 รวมถึงเธอคนนั้นด้วยหรือเปล่า

    เช้าวันใหม่ในบริษัทวรเมธินทร์กรุ๊ป เสียงรองเท้าส้นสูงเบา ๆ ดังแผ่วมาตามทางเดิน ก่อนที่ประตูห้องทำงานของประธานหญิงจะเปิดออก พร้อมกับเสียงสดใสที่คุ้นหู“ฉันเอาของกินมาฝากค่ะ ท่านประธานคนสวย!”พราวฟ้ายิ้มกว้างในชุดเดรสลำลองเรียบหรู ถือถุงขนมและของว่างแน่นมือ ทั้งเบเกอรีโฮมเมด ชานมไข่มุกจากร้านดัง และของว่างจากแบรนด์พรีเมียมที่หิ้วมาจากห้างหรูนาราเงยหน้าจากกองเอกสาร ยิ้มบาง ๆ อย่างเหนื่อยแต่ต้อนรับ “นี่ยังเช้าอยู่นะ แล้วนี่…ซื้อทั้งร้านมาเหรอ?”“เกือบทั้งร้านแหละ!” พราวฟ้าหัวเราะแล้ววางถุงขนมเรียงไว้เต็มโต๊ะรับแขก “ได้ยินมาว่าคีรณัฐทำงานอยู่กับเธอใช่มั้ย? ของกินเยอะแบบนี้…ฉันว่าแบ่งไปให้เขาด้วยดีกว่า”นารายิ้มมุมปาก “มาหาฉันหรือมาหาผู้ชายกันแน่?”พราวฟ้าชะงักไปนิด ก่อนจะหัวเราะกลบเกลื่อน “หึ อย่าแซวสิ ก็แค่เพื่อนของเพื่อนจะเอาขนมไปฝากมันผิดตรงไหน”ทั้งสองหัวเราะกันเบา ๆ บรรยากาศผ่อนคลายลงจากความตึงเครียดของงานช่วงที่ผ่านมาทันใดนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้น พี่ศิตาเข้ามาด้วยท่าทางสุภาพ“คุณนาราคะ มีบัตรเชิญจากงานเลี้ยงแวดวงนักธุรกิจที่กำลังจะจัดขึ้นอาทิตย์หน้าค่ะ แขกเชิญในงานเป็นระดับผู้นำบ

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 18 ทำลายความแข็งแกร่งให้พังทลาย

    หลังจากที่เสียงประชุมเงียบลง และผู้ถือหุ้นทยอยกันออกจากห้อง นารากลับมานั่งที่โต๊ะทำงานส่วนตัวของเธอด้วยความเหนื่อยล้า ความตึงเครียดที่สะสมมาทั้งเช้าเริ่มคลายตัวลง เธอหยิบจดหมายเตือนฉบับนั้นขึ้มมาพินิจดูอย่างครุ่นคิดอีกครั้งไม่มีชื่อผู้ส่ง ไม่มีตราประทับบริษัท ไม่มีแม้แต่สัญลักษณ์ใด ๆ ที่บอกว่าเป็นจดหมายทางธุรกิจ ปลายนิ้วลูบผ่านผิวกระดาษที่หยาบเล็กน้อย ราวกับมันถูกจงใจเลือกให้ดูเรียบง่ายจนเกือบไร้พิรุธ“พี่ศิตาคะ เข้ามาหาฉันหน่อยค่ะ” นารากดออดเรียกพี่ศิตาเลขาคู่ใจเดินเข้ามาแทบจะทันที“คะ คุณนารา?”“จดหมายฉบับนี้…มากับแฟ้มเอกสารพวกนี้เหรอคะ?”พี่ศิตาขมวดคิ้วมอง ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “ใช่ค่ะ พี่เห็นมันสอดอยู่ในแฟ้มที่ฝ่ายบัญชีส่งขึ้นมา พี่ก็ไม่ทราบว่าเป็นจดหมายอะไร นึกว่าเป็นของคุณนาราเอง เลยนำมาวางไว้ให้ที่โต๊ะ”นาราพยักหน้าเบา ๆ แม้ใบหน้ายังเรียบนิ่ง แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยคำถาม ใครเป็นคนส่งจดหมายปริศนานี้มา?..................................ท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิด เสียงดนตรีจากด้านนอกยังคงดังแผ่ว ๆ เข้ามาเป็นจังหวะคงที่ ขับกล่อมบรรยากาศในห้องส่วนตัวของไนต์คลับหรูให้คลายความตึงเครียดล

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 17 แทรกแซงการถือหุ้น

    เวลาผ่านไปราวสองสัปดาห์หลังงานประมูล นาราเดินหน้าปรับโฉมโรงแรมในเครือวรเมธินทร์อย่างเต็มกำลัง การประชุมภายในบริษัทถูกจัดขึ้นในห้องประชุมใหญ่ ท่ามกลางทีมบริหารระดับสูงและฝ่ายพัฒนาโครงการ“โครงการที่จะพลิกโรงแรมของเราให้เป็นมากกว่าที่พัก คือสิ่งที่ฉันอยากเห็นจริง ๆ” นารากล่าวเปิดประชุมด้วยน้ำเสียงมั่นคงคีรณัฐก้าวขึ้นไปหน้าห้อง นำเสนอแนวคิดใหม่ผ่านสไลด์ที่เรียบหรู“เราขอเสนอการติดตั้งระบบผู้ช่วยอัจฉริยะภายในห้องพัก โดยเชื่อมโยงกับระบบ AI Concierge (ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการให้บริการลูกค้า หรือ ดูแลอำนวยความสะดวก) ที่สามารถควบคุมทุกอย่างในห้องผ่านเสียง ตั้งแต่อุณหภูมิ แสงไฟ เพลง ไปจนถึงแนะนำที่เที่ยวและบริการของโรงแรม”จากนั้น คีรณัฐคลิกภาพถัดไปที่เผยให้เห็นภาพจำลองของ AI Concierge เสมือนจริงในชื่อ “VARA” บนจอ“VARA หรือวารา ย่อจาก Virtual Assistant for Remarkable Arrival ที่หมายถึงผู้ช่วยเสมือนเพื่อการมาถึงอย่างน่าประทับใจ จะเป็นภาพเสมือนในห้องพักของแขกทุกคน เธอจะปรากฏตัวบนหน้าจอหลัก พร้อมเสียงพูดที่นุ่มนวล ช่วยต้อนรับและแนะนำบริการต่าง ๆ อย่างมีเสน่ห์ เป็นมิตร และมืออาชีพ

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 16 ก็แค่หมากไม่ใช่คนคุมเกม

    พราวฟ้าลูบต้นแขนตัวเองเบา ๆ เหมือนเพิ่งรู้สึกเย็นวูบวาบขึ้นมาอีกครั้ง “แล้วเธอรู้ไหม ตอนที่ฉันรู้ว่าเพชรที่ฉันใส่ตอนเดินโชว์เป็นของปลอม ฉันแทบเป็นลม!” เธอทำตาโตประกอบคำพูดนาราหัวเราะเบา ๆ “โชคดีแล้วล่ะที่ไม่มีอะไรผิดพลาด ยังไงฉันก็ต้องขอโทษสำหรับเรื่องนี้ด้วยนะ ที่ทำให้แกต้องมาเดือดร้อนไปด้วย”"เดือดร้อนอะไรล่ะแก" พราวฟ้ายืดอกแล้วยิ้มอย่างมีชั้นเชิง "เรื่องนี้ทำให้ฉันได้แสงต่างหากล่ะ อยู่ดี ๆ ก็มีกระแสจากเรื่องเพชรปลอมที่ฉันเองก็ตกเป็นเหยื่อ แม้จะไม่โดยตรงเหมือนแกก็เถอะ แต่ก็ได้คะแนนความสงสารท่วมท้นเลยล่ะ""งั้นคุณฟ้าดาราชื่อดังต้องจ่ายค่าสร้างกระแสให้ฉันด้วยสินะ" นาราเอ่ยเย้าหยอกเพื่อนรักด้วยเสียงจริงจัง "สักยี่สิบเปอร์เซ็นของงานโฆษณาตัวหน้าคิดว่าไง"สองสาวพากันหัวเราะออกมาอย่างคนที่รู้ทันกันพราวฟ้าพยักหน้ารัวแล้วพูดถึงเรื่องในวันงานต่อ “แล้วยัยอรดานั่น...ตอนได้ยินที่เธอพูดบนเวที ฉันแทบลุกขึ้นไปปาส้นสูงใส่หน้าเลย เธอหน้าด้านมากนะ! แกล้งทำเป็นห่วงบริษัท ทั้งที่ตัวเองเป็นคนเอาของปลอมมาเปลี่ยนให้ฉันใส่เอง!”เธอส่ายหน้าแล้วถอนหายใจยาว “สมน้ำหน้านางจริง ๆ ที่จบลงในคุก! คิดจะแทงข้างหลังเ

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 15 ผู้ประมูลปริศนา

    หลังจากที่ผู้คนเริ่มสลายตัวจากความวุ่นวาย เสียงซุบซิบแผ่วเบาค่อย ๆ จางลงไปตามจังหวะของเวลาที่คลี่คลายแสงไฟในห้องโถงสลัวลง เหลือเพียงประกายจากโคมไฟระย้าซึ่งทอดแสงอุ่นนุ่ม เหนือพื้นที่ที่ยังอบอวลไปด้วยแรงสะเทือนจากเหตุการณ์เมื่อครู่นารายืนอยู่เงียบ ๆ คนเดียวตรงข้างเวที สายตาเธอมองไปยังกล่องเพชรที่วางอยู่บนโต๊ะ ราวกับยังคงจับต้องความจริงได้ไม่หมด เธอสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วผ่อนออกเบา ๆเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง“คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”น้ำเสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นใกล้พอให้หัวใจสะดุ้งเบา ๆเธอหันกลับไป เห็นธีภพยืนอยู่ตรงนั้นในแสงสลัว ใบหน้าของเขานิ่งสงบ แต่แววตายังมีเงาของความห่วงใยไม่ปิดบัง“ไม่ค่ะ…ฉันไม่เป็นไร” เธอตอบเรียบ ๆ พลางเบนสายตากลับไปยังเพชรตรงหน้า “แต่ก็ยังไม่แน่ใจ ว่าหัวใจของฉันยังแข็งแรงพอจะจัดงานต่อไปได้หรือเปล่า”“หัวใจของคุณแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิด” เขาตอบช้า ๆ “คุณยืนอยู่ตรงนี้ได้ทั้งที่ถูกหักหลัง ถูกใส่ร้าย ถูกประณาม…แต่คุณไม่เคยถอยแม้แต่ก้าวเดียว”นาราเงียบ ราวกับคำพูดนั้นกลั่นซึมเข้าสู่รอยร้าวบางอย่างในใจธีภพเดินเข้ามาใกล้อีกก้าวหนึ่ง“ผมเฝ้ามองคุณมาตลอด…น

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 14 กลับมาสู่ที่ของมัน

    เสียงภายในห้องโถงเงียบลงฉับพลัน ราวกับถูกกลืนหายไปพร้อมคำกล่าวหาของอรดา ดวงตานับร้อยหันมาจับจ้องที่นารา หญิงสาวในชุดราตรีสีทองดำผู้เป็นหัวใจของงานในค่ำคืนนี้แต่ในจังหวะที่ใครหลายคนเริ่มตั้งคำถาม เธอกลับยืนนิ่งสงบ ดุจผิวน้ำที่ไม่แม้แต่จะกระเพื่อมอรดาก้าวออกมาจากกลุ่มผู้ร่วมงาน เสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นห้องดังชัดเจนในความเงียบ ริมฝีปากแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มที่เหมือนจะนุ่มนวล แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความคั่งแค้นที่อัดแน่นจนแทบปริแตก“ฉันเสียใจจริง ๆ ที่ต้องเป็นคนพูดเรื่องนี้ออกมา” อรดาเอ่ยเสียงเรียบ “แต่ในฐานะผู้ช่วยที่อยู่เบื้องหลังงานนี้ ฉันมีหน้าที่ต้องปกป้องชื่อเสียงของแขกทุกท่านและชื่อของแบรนด์ที่เคยภาคภูมิใจ”เธอค่อย ๆ หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งจากกระเป๋าคลัตช์สีน้ำเงินเข้ม ยกขึ้นให้แสงไฟจับต้องชัด“นี่คือใบรับรองของเพชรฟินาเล่ที่ใช้เปิดงานค่ำคืนนี้ค่ะ”เธอหมุนเอกสารให้กล้องสื่อมวลชนและแขกในงานเห็นอย่างทั่วถึง ก่อนใช้นิ้วชี้แตะลงที่มุมล่างขวา “ตรงนี้...ไม่มีโลโก้ของสถาบันรับรอง ซึ่งในทุกใบรับรองจะต้องมีตามมาตรฐาน”เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นอีกรอบ หนักแน่นและแผ่กระจายเหมือนไฟลามบนผืนหญ้าแห้ง“ฉ

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 13 หมากแรกที่เดินออกมาจากเงา

    เสียงพิธีกรกังวานขึ้นจากเวทีหลักกลางโถงงาน เสียงนั้นลึก หนักแน่น และเต็มไปด้วยพลังสะกดฝูงชนให้เงียบสงบในพริบตา"ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี... ค่ำคืนนี้คือค่ำคืนแห่งประกายและเรื่องราว ค่ำคืนที่ความงามไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่มองเห็น แต่เป็นสิ่งที่สัมผัสได้จากหัวใจ"เสียงปรบมือดังขึ้นเบา ๆ ก่อนจะเงียบลงอีกครั้งเมื่อพิธีกรยกมือขึ้นอย่างนุ่มนวล"วรเมธินทร์กรุ๊ป มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในการนำเสนอแฟชั่นโชว์เครื่องประดับแห่งปี ภายใต้แนวคิด 'ศรัทธาแห่งการฟื้นคืน' ซึ่งเชื่อมโยงเรื่องราวของความทรงจำอันมีค่า เข้ากับแสงสะท้อนของอัญมณี"เสียงดนตรีคลาสสิกเริ่มบรรเลงเบา ๆ เคล้ากับเสียงซุบซิบอันเงียบงันของผู้ชม"และเพื่อเปิดม่านสู่ค่ำคืนแห่งแรงบันดาลใจนี้ ขอเชิญทุกท่านพบกับการเดินแบบสุดพิเศษที่จะเปิดตัวด้วย 'เครื่องเพชรแห่งแรงบันดาลใจ' หนึ่งเดียวในค่ำคืนนี้!"แสงไฟทุกดวงดับวูบลงในเสี้ยววินาที ความเงียบปกคลุมห้องจนได้ยินเสียงลมหายใจเบา ๆ จากใครบางคนทันใดนั้น แสงสปอตไลต์สว่างวาบขึ้นบนเวที พร้อมกับเสียงดนตรีที่พุ่งทะยานดั่งสายลมยามค่ำคืนที่โอบล้อมผู้ชมไว้เวทีเปลี่ยนสีเป็นม่วงอมน้ำเงินระยิบ ทอดเงาบนพื้นพ

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 12 หลุมพรางแห่งการหักหลัง

    ค่ำคืนนี้ คืนแห่งงานประมูลสุดยิ่งใหญ่ที่ทุกสายตาจับจ้อง ห้องโถงนิทรรศการของวรเมธินทร์กรุ๊ป กลายเป็นฉากแห่งความฝันที่ถูกบรรจงสรรค์สร้างขึ้นเพื่อการเฉลิมฉลองความงามอย่างแท้จริงแสงไฟสีทองนวลละมุนไล้ไปตามแนวเพดานโค้งสูง สะท้อนกระทบคริสตัลที่เรียงรายราวหยาดน้ำแข็งจากสรวงสวรรค์ กระจกใสเจียระไนถูกจัดวางอย่างมีจังหวะ ทุกแผ่นสะท้อนเงาผู้คนเป็นพันเสี้ยว ดั่งเพชรที่มีหลากเหลี่ยมมุมทั่วบริเวณประดับประติมากรรมแก้วใสที่ถูกหล่อขึ้นเป็นรูปทรงเรขาคณิต แสดงถึงการควบรวมของศิลปะและวิทยาศาสตร์ เบื้องใต้แสงจันทร์จำลองที่สาดทาบผ่านเพดานโปร่งใส ผืนพรมสีหมอกเงินทอดยาวจากทางเข้าจนถึงเวทีกลางโถง ราวกับพาผู้คนก้าวเข้าสู่โลกซึ่งกาลเวลาและความจริงถูกระบายไว้ด้วยประกายอัญมณีแขกผู้มีเกียรติทยอยเดินเข้าสู่บริเวณงานอย่างต่อเนื่อง ราวกับขบวนแห่งรัตติกาลที่เปล่งประกายไม่หยุดยั้งชุดสูทตัดเย็บจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก สวมทับร่างของนักธุรกิจชายผู้ทรงอิทธิพล ชุดราตรีกวาดพื้นของสตรีผู้สูงศักดิ์ระยิบระยับด้วยคริสตัลจากปารีส ทุกฝีก้าวที่เหยียบย่างบนพรมเงินคือการแสดงออกถึงอำนาจ ฐานะ และศิลปะแห่งการเลือกสรรเสียงกดชัตเตอร์จากก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status