مشاركة

บทที่ 11 ไม่ยอมแพ้

مؤلف: Luffy.g
last update آخر تحديث: 2024-11-28 13:32:18

บทที่ 11 ไม่ยอมแพ้

          จางหมินเย่วถูกขังอยู่ในศาลบรรพชนเป็นเวลากว่าห้าวันแล้ว แต่ทว่านางยังคงมีท่าทีแข็งขืนและไม่ยอมแพ้ เล่อจิ้นยกสำรับอาหารเข้ามาภายในห้อง นางมองนายหญิงของตนด้วยความเป็นห่วง นับตั้งแต่จางหมินเย่วถูกลงโทษนางก็แตะต้องอาหาร เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ร่างกายบอบบางซีดผอมลงอย่างเห็นได้ชัด จนเล่อจิ้นอดนึกเป็นห่วงเสียมิได้ “คุณหนู...ท่านทานอาหารให้มากเสียหน่อยเถิดเจ้าค่ะ หากท่านยังฝืนร่างกายเช่นนี้ ท่านจะล้มป่วยเอาได้นะเจ้าคะ”

จางหมินเย่วหัวเราะหึๆ ออกมา “ป่วยงั้นรึ...ข้าป่วยได้ก็ดีสิ” เล่อจิ้นได้แต่ถอนหายใจในความดื้อรั้นของนาง

จนกระทั่งช่วงบ่ายของวันเล่อจิ้นเข้ามาภายในห้องเพื่อจัดเก็บสำรับ นางกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น “พ่อบ้าน...พ่อบ้านตามนายท่านและฮูหยินเร็ว...คุณหนูรองเป็นลมหมดสติไปแล้ว” เล่อจิ้นร้องพลางรีบวิ่งเข้ามาประคองร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขน จางหมินเย่วนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นห้องอย่างไม่รู้สึกตัว

 จวนสกุลจางโกลาหลขึ้นอีกครั้ง จางเหวิ่นชิงรีบให้คนไปตามหมอมาที่จวนเป็นการด่วน ในขณะที่จางหมินเย่วถูกพาตัวกลับมายังเรือนนอน นางยังคงนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างสงบนิ่ง จางเหวิ่นชิงรู้สึกปวดใจยิ่งนักเมื่อมองใบหน้าของบุตรสาว ใบหน้าที่เคยอิ่มเอิบบัดนี้กับซีดเซียวราวกับไร้ชีวิต ร่างกายซูบผอมลงไปจนน่าตกใจ

เซี่ยเหมยเห็นจางหมินเย่วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ครั้นพอหมอก้าวเข้ามาในห้อง นางก็รีบเชิญเขาเข้าตรวจอาการในทันที

“เรียนใต้เท้า...คุณหนูรองมีอาการอ่อนเพลียอย่างมาก ประกอบกับจิตใจที่ไม่มั่นคงยิ่งทำให้ร่างกายทรุกหนัก ข้าจะจัดเทียบยาให้ทานวันละสามหน ต่อไปขอใต้เท้าหมั่นดูแลอย่าให้มีเรื่องกระทบจิตใจอีก ไม่ช้าร่างกายของคุณหนูก็จะฟื้นตัวขอรับ”

เสร็จสิ้นคำรายงานจางเหวิ่นชิงก็ให้พ่อบ้านมอบเงินให้เขาจำนวนหนึ่ง ก่อนจะหย่อนกายนั่งลงด้านข้างเตียงพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวจางหมินเย่วอย่างแผ่วเบา “เย่วเอ๋อร์...เจ้าช่างดื้อรั้นเหมือนม่านเอ๋อร์ไม่มีผิด...หากมิใช่เพราะความดื้อรั้นนี้ ข้าคงไม่มีวาสนาได้ตบแต่งกับแม่ของเจ้าเป็นแน่” จางเหวิ่นชิงพึมพำออกมาพลางนึกถึงฟางม่านเอ๋อร์ ภรรยาสุดที่รักของเขา

ในตอนนั้นจางเหวิ่นชิงยังคงเป็นแค่ขุนนางระดับล่าง เขาได้พานพบกับคุณหนูใหญ่สกุลฟาง บุตรสาวคนโตของบัณฑิตฟางเจี้ยหลิน อาจารย์ใหญ่ประจำสำนักข้าหลวงที่อบรมถ่ายทอดความรู้ให้เหล่าบัณฑิตรวมถึงบุตรชายขุนนาง ไม่เว้นแม้แต่เหล่าองค์ชายและเชื้อพระวงศ์ ทำให้ฟางเจี้ยหลินได้รับความเคารพยำเกรงและนับหน้าถือตาเป็นอย่างมาก 

จางเหวิ่นชิงนั้นตกหลุมรักฟางม่านเอ๋อร์ตั้งแต่แรกพบ แต่ด้วยฐานะและตำแหน่งของเขาในเวลานั้นก็มิต่างจากยาจกที่หมายปองหญิงสูงศักดิ์ก็ไม่ปาน ฟางม่านเอ๋อร์นั้นได้ชื่อว่าเป็นหญิงงามคนหนึ่งประกอบกับความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดจากบิดาทำให้เหล่าคุณชายทั้งหลายหรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ก็ต่างต้องการเกี่ยวดองนางเข้าเป็นสะใภ้ของตระกูลแทบทั้งสิ้น

จนกระทั่งวันหนึ่งจางเหวิ่นชิงได้มีโอกาสช่วยเหลือรถม้าของฟางม่านเอ๋อร์ที่ติดหล่มอยู่ข้างทาง ทำให้ทั้งสองได้มีโอกาสพูดคุยและพัฒนาความสัมพันธ์กัน ในคราแรกฟางเจี้ยหลินไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ครั้งนี้แต่เพราะความดื้อดึงของฟางม่านเอ๋อร์ทำให้สุดท้ายเขาก็ได้แต่จนใจและยอมให้นางแต่งเข้าสกุลจาง จางเหวิ่นชิงจดจำวันสู่ขอฟางม่านเอ๋อร์ได้เป็นอย่างดี เขารับปากกับฟางเจี้ยหลินว่าจะรักและดูแลฟางม่านเอ๋อร์มิให้เจ็บช้ำน้ำใจแม้แต่น้อย แต่นั่นก็เป็นสัญญาที่เขาปฏิบัติตามมาโดยตลอด คำสัญญานี้จึงถ่ายทอดลงมาสู่จางหมินเย่ว บุตรสาวที่เขารักและโปรดปรานเป็นที่สุด

เดิมทีจางเหวิ่นชิงไม่เคยคิดจะรับอนุคนใดเข้าจวนเพราะสายตาและหัวใจของเขาผูกติดกับฟางม่านเอ๋อร์จนหมดสิ้น แต่เมื่อฟางม่านเอ๋อร์รบเร้าพร้อมกับข่มขู่เขาด้วยเหตุผลที่ว่าหากจางเหวิ่นชิงแต่งงานกับนางแล้วทำให้สกุลจางต้องหมดสิ้นทายาท ตราบาปนี้คงตกกับนางไปชั่วชีวิต และเมื่อเห็นฟางม่านเอ๋อร์เอาแต่อมทุกข์อยู่ทุกวี่ทุกวัน สุดท้ายจางเหวิ่นชิงจึงยอมใจอ่อนรับอนุเข้ามาในเรือนตามการจัดแจงของฟางม่านเอ๋อร์ทั้งหมด

“ม่านเอ๋อร์...หากเจ้ายังอยู่...ข้าคงรู้ว่าข้าควรทำเช่นใดดี” จางเหวิ่นชิงยังคงพร่ำเพ้อถึงฟางม่านเอ๋อร์ในขณะที่สายตาจับจ้องใบหน้าของจางหมินเย่วอย่างไม่วางตา

          เซี่ยเหมยจ้องมองจางเหวิ่นชิงตรงหน้า สองมือกำหมัดแน่นด้วยความรู้สึกที่อัดล้นขึ้นมา นางเม้มปากเพื่อข่มกลั้นความรู้สึกเอาไว้ ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติอีกครั้ง นางเดินตรงไปยังจางเหวิ่นชิงพร้อมตบบ่าของเขาอย่างเบามือ “ท่านพี่ออกมาคุยกับข้าด้านนอกหน่อยเถิด”

          จางเหวิ่นชิงกะพริบตาไล่หยดน้ำที่เอ่อคลอในดวงตา ก่อนจะพยักหน้ารับพร้อมลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป

          เซี่ยเหมยจ้องมองดูจางหมินเย่วด้วยสายตาที่ว่างเปล่าและเลื่อนลอย “เจ้าอย่าได้โทษข้าเลย” เซี่ยเหมยรำพันออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยือกก่อนจะหันกายเดินตามจางเหวิ่นชิงออกไปภายนอกเช่นกัน

         “ท่านพี่...เย่วเอ๋อร์เป็นเช่นนี้ หากปล่อยเวลาต่อไปนางต้องทนไม่ไหวเป็นแน่” เซี่ยเหมยพูดออกมาทันทีที่อยู่ตามลำพังกับสามี

          จางเหวิ่นชิงจ้องมองเซี่ยเหมยด้วยแววตาครุ่นคิดอย่างหนัก เซี่ยเหมยเห็นว่าเขายังคงยืนเงียบจึงได้กล่าวต่อ “ในเมื่อเย่วเอ๋อร์รักปักใจกับใต้เท้าซ่งมากเช่นนี้ ต่อให้นางตบแต่งเข้าไปเป็นอนุแล้วเป็นเช่นใดกัน ด้วยบารมีของสกุลจางหากพวกเราช่วยส่งเสริมซ่งฟู่หลงให้ก้าวหน้า สกุลซ่งจะไม่เกรงใจพวกเราหรอกหรือ วันหน้าเย่วเอ๋อร์ต้องมีโอกาสได้เป็นฮูหยินของจวนสกุลซ่งเป็นแน่”

          คำหว่านล้อมของเซี่ยเหมยทำให้เขาลังเลใจอยู่พอสมควร เขายังคงยืนนิ่งพร้อมเงยหน้าเหม่อมองขึ้นไปบนฟ้าราวกับต้องการได้ยินเสียงหวานนุ่มหูของฟางม่านเอ๋อร์อีกสักครั้ง เซี่ยเหมยเม้มปากแน่นอย่างนึกขัดเคือง นางยังคงกล่าวต่อไปอีกครั้ง “ข้ารับใช้คุณหนูฟางมาแต่เด็ก...ความหัวรั้นของนางข้าย่อมรู้ดีกว่าใคร...เย่วเอ๋อร์เองก็มิต่างกันหากท่านยังคงแข็งขืนแล้วคิดว่าเย๋วเอ๋อร์จะยอมแพ้...ข้าว่าท่านพี่คงต้องเตรียมผ้าขาวเอาไว้แทนแล้วกัน”

          จางเหวิ่นชิงถึงกับสะดุ้งกับคำพูดสุดท้ายของเซี่ยเหมย เขาตวัดสายตาคมกริบหันมาจ้องมองเซี่ยเหมยอย่างดุดัน เซี่ยเหมยถึงกับชะงักคำไปในทันทีเมื่อรู้ตัวว่าได้ล้ำเส้นของสามีไปแล้ว

เซี่ยเหมยก้มหน้าพร้อมสีหน้าสลดลงไป น้ำตาของนางหยดลงอาบแก้ม สองมือยกขึ้นปาดน้ำตาจนดูน่าสงสาร “ท่านพี่จะโกรธข้าก็ได้...แต่ข้าแค่เป็นห่วงเย่วเอ๋อร์...หากนางเป็นอะไรไป...ข้าคงต้องโคกศีรษะนับร้อยครั้งเพื่อไถ่โทษแก่ฮูหยินฟาง”

จางเหวิ่นชิงคลายโทสะลงเมื่อได้ยินชื่อของฟางม่านเอ๋อร์ “ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง”

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

الفصول ذات الصلة

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 12 ทวงสัญญา

    บทที่ 12 ทวงสัญญา จางเหวิ่นชิงสั่งให้พ่อบ้านเตรียมรถม้าในทันทีหลังจากที่ตัดสินใจได้แล้ว เขาเร่งเดินทางไปยังจวนสกุลซ่งพร้อมขบคิดคำพูดและหนทางมากมายในหัว เมื่อมาถึงหน้าจวนสกุลซ่ง จางเหวิ่นชิงนั่งอยู่ภายในรถม้าเป็นเวลานานกว่าที่เขาจะสงบใจและทำใจได้ จากนั้นจางเหวิ่นชิงจึงสั่งให้คนไปรายงานแก้ซ่งฟู่หลงว่าเขาต้องการพบซ่งฟู่หลงกำลังฝึกกระบี่อยู่ที่ลานกลางสวน เขาต้องหยุดชะงักลงเมื่อพ่อบ้าน เดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับรายงาน “เรียนนายท่าน...ใต้เท้าจาง จางเหวิ่นชิงมาขอพบขอรับ”ซ่งฟู่หลงขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ เขาไม่คิดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะวุ่นวายกับตัวเขาไม่น้อยเช่นนี้ พ่อบ้านมีท่าทางอึดอัด “นายท่านจะให้ใต้เท้าจางเข้าพบหรือไม่ขอรับ”ซ่งฟู่หลงถอนหายใจก่อนจะพยักหน้ารับ “บอกใต้เท้าจางให้รอข้าสักครู่ก่อน ข้าจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่นาน”จางเหวิ่นชิงนั่งรออยู่ที่โต๊ะใหญ่กลางห้องภายในห้องโถงของเรือนสกุลซ่งด้วยท่าทางที่ใจเย็น เขาลอบสำรวจสภาพแวดล้อมภายในจวนรวมถึงเรือนรับรองแห่งนี้อย่างละเอียด บรรยากาศภายในจวนค่อนข้างเรียบง่ายและสงบร่มรื่น การตกแต่งแม้จะดูมิได้โอ่อ่าใหญ

    آخر تحديث : 2024-11-28
  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 13 ตบแต่ง

    บทที่ 13 ตบแต่งจางเหวิ่นชิงเดินทางเข้าเฝ้าหนิงเว่ยเจี้ยนในทันที เขาคุกเข่าลงตรงหน้าฮ่องเต้ด้วยท่าทางที่ร้อนรน“ถวายบังคมฝ่าบาท...หม่อมฉันมีเรื่องทูลขอ...ขอฝ่าบาทให้ความเป็นธรรมแก่หม่อมฉันด้วย หม่อมฉันวอนขอราชโองการตบแต่งใต้เท้าซ่งฟู่หลงกับจางหมินเย่วบุตรสาวคนรองของหม่อมฉันตามที่ใต้เท้าซ่งเคยสัญญาเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ” จางเหวิ่นชิงที่ร้อนใจ เขารีบทูลขอความต้องการดังกล่าวแก่หนิงเว่ยเจี้ยนในทันทีหนิงเว่ยเจี้ยนจ้องมองจางเหวิ่นชิงอย่างสนใจ เขารับรู้มาว่าจางเหวิ่นชิงนั้นรักจางหมินเย่วบุตรสาวคนรองที่เกิดจากฮูหยินคนก่อนอย่างมาก เรียกได้ว่านางเป็นแก้วตาดวงใจของเขาเลยด้วยซ้ำ แล้วเหตุใดเขาจึงยอมตบแต่งบุตรสาวสุดที่รักให้เป็นเพียงอนุแก่ขุนนางขั้นเจ็ดที่ไร้อำนาจอย่างซ่งฟู่หลงกัน และหลังจากขันทีนำข้อมูลของจางหมินเย่วมารายงานแก่เขา นางก็ถือได้ว่าเป็นหญิงสาวที่โดดเด่นมากในบรรดาคุณหนูทั้งหลายในเมืองหลวงเลยทีเดียว ตัวเขาเองก็นึกชมชอบอยู่พอสมควรหากซ่งฟู่หลงจะตบแต่งจางหมินเย่วเข้ามาในจวนสกุลซ่ง“เจ้ารีบไปตามใต้เท้าซ่งมาเข้าเฝ้าข้าเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงราบเรียบแต่เฉียบขาดของหนิงเว่ยเจี้ยนกล่าวออกมา ขันทีโค้งกายพร

    آخر تحديث : 2024-11-28
  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย    บทที่ 14 งานแต่ง

    บทที่ 14 งานแต่งงานแต่งของจางหมินเย่วถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีขันทีประจำตัวฮ่องเต้ เป็นผู้จัดงานฝั่งฝ่ายชาย สามหนังสือหกพิธีการถูกตระเตรียมอย่างครบครันสร้างความประหลาดใจให้กับคนในจวนสกุลจางเป็นอย่างมาก และแม้กระทั่งผู้คนภายในเมืองหลวงก็ต่างฉงนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะงานแต่งครั้งนี้เป็นเพียงการแต่งอนุเข้าจวน แต่เหตุอันใดพิธีการจึงไม่แตกต่างจากงานแต่งฮูหยินเอาเสียเลย อีกทั้งงานดังกล่าวยังเป็นเพียงงานแต่งรับอนุของขุนนางขั้นเจ็ดอีกด้วย ทำให้ข่าวลือเรื่องความโปรดปราน ในตัวซ่งฟู่หลงโหมกระพือมากขึ้นไปอีกจางเหวิ่นชิงเองก็พลอยได้หน้าเสียยกใหญ่ เหล่าขุนนางต่างพากันมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง“เป็นบุญของใต้เท้าจางยิ่งนัก ข้าได้ยินมาว่าฝ่าบาทเป็นผู้กำชับและสั่งการเรื่องงานแต่งนี้ด้วยพระองค์เองเลยนะขอรับ”“ใต้เท้าซ่งผู้นี้มิอาจดูแคลนได้เสียแล้ว ทั้งความโปรดปรานของฝ่าบาท ทั้งเป็นเขยของใต้เท้าจาง ต่อไปใต้เท้าซ่งต้องอนาคตไกลเป็นแน่”คำกล่าวเยินยอมากมายทำเอาจางเหวิ่นชิงถึงกับยิ้มไม่หุบ ยิ่งเมื่อขบวนรับเจ้าสาวมาถึงที่จวนสกุลจางหีบสินสอดรวมกว่ายี่สิบหีบ เรียงรายอยู่ด้านหน้าจวนสร้างความตื่นเ

    آخر تحديث : 2024-11-28
  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 15 อากาศธาตุ

    บทที่ 15 อากาศธาตุผ่านไปเพียงไม่นานเล่อจิ้นเดินกลับเข้ามาภายในห้องด้วยท่าทางผิดหวัง ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มดีใจก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมอง นางมองนายหญิงของตนอย่างนึกสงสารจับใจ“เล่อจิ้น...เจ้ากลับมาแล้วหรือ” จางหมินเย่วถามออกไปเมื่อผ้าคลุมหน้ายังปกคลุมใบหน้าของนางทำให้ไม่เห็นสิ่งใดเล่อจิ้นปิดประตูแน่นก่อนจะเดินมานั่งคุกเข่าตรงหน้าจางหมินเย่ว นางยกมือทั้งสองขึ้นกอบกุมมือของจางหมินเย่วเอาไว้แน่น “คุณหนูเจ้าขา ใต้เท้าซ่งกลับเรือนนอนของใต้เท้าแล้วเจ้าค่ะ คืนนี้ใต้เท้าซ่งคงไม่ได้มาที่นี่แล้ว” เล่อจิ้นรายงานด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก นางยังคงบีบมือจางหมินเย่วเอาไว้ ด้วยกังวลว่านายหญิงของตน จะเศร้าโศกมากเกินไปจางหมินเย่วได้ฟังก็นิ่งอึ้งไปในทันที “ใต้เท้าคงมีเหตุผลที่ทำเช่นนี้เป็นแน่ เจ้าอย่าได้คิดมากนัก...เล่อจิ้น...เจ้าช่วยข้าเสื้อผ้าพวกนี้เสียเถอะ ข้ารู้สึกเหนื่อยแล้ว อยากจะพักผ่อนเต็มที” จางหมินเย่วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาเอ่อคลอเต็มสอง ตา แต่นางก็ยังคงพยายามสะกดกั้นเอาไว้ มิให้น้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม วันนี้เป็นวันแต่งของนาง นางจะโศกเศร้าไม่ได้ จางหมินเย่วได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายาม

    آخر تحديث : 2024-11-28
  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 16 หลบเลี่ยง

    บทที่ 16 หลบเลี่ยงหลังจากจางหมินเย่วหันหลังเดินออกจากห้องไป ซ่งฟู่หลงก็เงยหน้าขึ้นมองร่างบางที่ลับสายตาอย่างรู้สึกหนักใจ “เจ้าช่างดื้อรั้นยิ่งนัก” ซ่งฟู่หลงพึมพำออกมา พลันอดนึกถึงยามที่สายตาของนางจับจ้องเขาอย่างไม่วางตาทำเอาหัวใจของเขากระตุกวูบไปในทันที ดวงตานั้นเปล่งประกายจ้องมองเขาราวกับเป็นบุรุษเพียงคนเดียวในโลกใบนี้ที่นางมองเห็น ท่าทางตื่นเต้นดีใจราวกับโลกทั้งใบของนางมีเพียงเขา และยามที่เขาเมินเฉย ดวงตาที่หม่นแสงลงพร้อมท่าทางที่เหี่ยวเฉาราวกับโลกนี้กำลังแตกสลาย นั่นยิ่งทำให้ซ่งฟู่หลงอดรู้สึกปวดใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ซ่งฟู่หลงวางพู่กันลงพร้อมเอนกายพิงพนักอย่างรู้สึกเหนื่อยใจ เขาเบือนหน้า มองถ้วยซุปที่ยังคงมีควันจางๆ พวยพุ่งส่งกลิ่นหอมละมุนออกมา ซ่งฟู่หลงถึงกับยกยิ้มขึ้นมาอย่างลืมตัว เขายกมือเอื้อมหยิบซุปเห็ดหูขาวขึ้นมา พร้อมตักเข้าปากจนกระทั่งหมดถ้วย รสชาตินั้นช่างดีเยี่ยมถูกปากเขายิ่งนักซ่งฟู่หลงยิ้มออกมาอีกครั้ง ใบหน้าของเขาดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด เขานึกถึงท่าทางตื่นเต้นและประหม่าเขินอายในคราแรกที่พวกเขาทั้งสองได้พบกัน ก็อดนึกเอ็นดูขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามใจซ่งฟู่หลงชะงักมือ

    آخر تحديث : 2024-11-28
  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 17 กลับจวนสกุลจาง

    บทที่ 17 กลับจวนสกุลจางครบกำหนดวันที่จางหมินเย่วจะต้องเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้าน เล่อจิ้นนั้นดีอกดีใจเสียยกใหญ่ ในขณะที่จางหมินเย่วได้แต่กังวลใจเนื่องด้วยไม่รู้ว่าซ่งฟู่หลงจะยอมกลับสกุลจางกับนางหรือไม่พ่อบ้านเดินมาที่เรือนฮวาหลงก่อนจะเคาะประตูเรียก เล่อจิ้นรีบเดินมาเปิดประตูให้พ่อบ้านในทันที“เรียนฮูหยิน...เอ่อ...นายท่านติดภารกิจสำคัญไม่อาจไปจวนสกุลจางได้ แต่ข้าน้อยได้จัดเตรียมรถม้าไว้ให้ฮูหยินอย่างเรียบร้อยแล้วขอรับ”จางหมินเย่วได้ฟังเช่นนั้นก็ไม่ได้แปลกใจอันใด นางเตรียมทำใจไว้แต่แรกอยู่แล้ว จางหมินเย่วจึงเพียงพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มบาง “ขอบคุณพ่อบ้านมาก”จางหมินเย่วก้าวเท้าเดินออกจากจวนโดยมีเล่อจิ้นประคองอยู่ไม่ห่าง ทันทีที่ขึ้นรถม้าเล่อจิ้นก็บ่นกระปอดกระแปดอีกครั้ง “คุณหนู...ใต้เท้าทำเช่นนี้ช่างใจดำยิ่งนัก ข้ากลับสกุลจางจะต้องฟ้องนายท่านให้จัดการให้ท่านเป็นแน่”“เล่อจิ้น...อย่าได้พูดสิ่งใดทั้งนั้น...ข้าเคยบอกเจ้าแล้ว ข้าอดทนรอได้...ใต้เท้าซ่งจะต้องรักข้าในสักวัน” จางหมินเย่วยังคงพูดอย่างให้กำลังใจตนเอง ในเมื่อนางเลือกจะรักซ่งฟู่หลงแล้วนางจะไม่ยอมถอยเป็นอันขาดเล่อจิ้นได้แต่หน้างุ้มอย

    آخر تحديث : 2024-11-28
  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 18 ยาหอมรัญจวน

    บทที่ 18 ยาหอมรัญจวนจางหมินเย่วพักอยู่ที่จวนสกุลจางเป็นเวลากว่าสองวัน ก่อนที่นางจะร่ำลาจางเหวิ่นชิงและเซี่ยเหมยกลับจวนสกุลซ่ง “หากเจ้ามีเรื่องร้อนใจก็ให้เล่อจิ้นนำข่าวมาแจ้งข้า” จางเหวิ่นชิงกำชับบุตรสาวด้วยความเป็นห่วงเป็นใย“เย่วเอ๋อร์...เจ้าลองไตร่ตรองให้ดี ข้าหวังว่าเจ้าจะสมปรารถนาให้เร็ววัน” เซี่ยเหมยกระซิบกล่าวก่อนจะประคองร่างจากจางหมินเย่วขึ้นบนรถม้ารถม้าแล่นไปตามทางอย่างเชื่องช้า จางหมินเย่วกอบกุมขวดยาในมือไว้แน่น ในใจพลางขบคิดอย่างหนัก ด้วยใจหนึ่งนางก็มิเห็นด้วย ด้วยกลัวซ่งฟู่หลงจะโกรธเอาในภายหลัง แต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกคล้อยตามมารดาของตนหลังจากรถมาจอดเทียบที่หน้าสกุลซ่ง เล่อจิ้นก็ประคองร่างจางหมินเย่วลงจากรถ นางก้าวเดินเข้าไปภายในจวนด้วยความคิดอันเหม่อลอยระหว่างทางเดินจางหมินเย่วได้บังเอิญพบกับซ่งฟู่หลงที่กำลังเดินผ่านมาตรงด้านหน้า นางชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเผยรอยยิ้มกว้างด้วยความรู้สึกดีใจยิ่งนัก จางหมินเย่วมิได้เจอหน้าซ่งฟู่หลงเป็นเวลาหลายวันทำให้นางอดคิดถึงเขาเป็นอย่างมาก“คำนับใต้เท้า” จางหมินเย่วย่อกายลงพร้อมเงยหน้าขึ้นมองซ่งฟู่หลงด้วยแววตาหลงใหลซ่งฟู่หลงจ้องมองจางหมิ

    آخر تحديث : 2024-11-28
  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 19 ฤทธิ์ยา

    บทที่ 19 ฤทธิ์ยาซ่งฟู่หลงพยายามผลักไสจางหมินเย่วออกห่างจากตัว ฤทธิ์ยาทำให้ร่างกายของเขาร้อนผ่าวขึ้นมาจนยากจะควบคุม เขาพยายามข่มกลั้นอารมณ์ที่พวยพุ่งเอาไว้อย่างไม่ต้องการข่มเหงรังแกหญิงสาวตรงหน้าให้บอบช้ำจางหมินเย่วเองก็ได้แต่ยืนตกตะลึงอย่างทำอะไรไม่ถูก นางไม่ประสากับเรื่องอย่างว่ามาก่อนทำให้นางไม่รู้จะทำตัวเช่นใดกันดี แต่เมื่อเห็นซ่งฟู่หลงที่มีท่าทางโงนเงน นางก็รีบปรี่เข้าไปประคองร่างของเขาเอาไว้แน่นซ่งฟู่หลงที่บัดนี้ร้อนรุ่มไปทั่วร่างเมื่อได้กลิ่นหอมจากร่างบางที่โชยพัดเข้าจมูกกับสัมผัสอ่อนนุ่มที่แนบชิดร่างกายของเขา ทำเอาซ่งฟู่หลงมิอาจข่มกลั้นความอดทนได้อีกต่อไปซ่งฟู่หลงดึงร่างของจางหมินเย่วเข้ามาประชิดกับแผงอกของเขา สายตาจ้องมองจางหมินเย่วด้วยความรู้สึกเสน่หา ดวงตาที่ฉ่ำเยิ้มฉายความต้องการที่มิอาจปิดบัง ยิ่งเมื่อได้สบสายตากับดวงตาคู่งามที่มองจ้องเขาด้วยท่าทางหวาดหวั่นราวกับกวางน้อยที่เริ่มหวาดกลัวราชสีห์เช่นเขา ซ่งฟู่หลงยกมือขึ้นประคองใบหน้าหวานเอาไว้แน่น ใบหน้าคมเข้มโน้มต่ำลงก่อนจะจรดริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากบาง ลิ้นร้อนเลียไล้ขบเม้มริมฝีปากบนล่างอย่างหิวกระหาย ก่อนจะกดแทรกเข้าไปใ

    آخر تحديث : 2024-11-28

أحدث فصل

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 68 ฟ้าหลังฝน

    บทที่ 68 ฟ้าหลังฝน“โยวเอ๋อร์....โยวเอ๋อร์...ข้าขอโทษ...ข้าขอโทษ” เสียงร้องตะโกนเรียกบุตรสาวของเซี่ยเหมยดังก้องไปทั่วห้องขัง นางทรุดตัวลงกับพื้นด้วยน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มพร้อมหันหลังให้กับจางหมินเย่วอย่างหมดอาลัยตายอยาก นางอ่อนล้าและอ่อนแรงจนไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวอันใดกับจางหมินเย่วให้ตนเองต้องเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว“ท่านแม่...ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าได้แต่นึกขอบคุณท่านที่รักและเอาใจใส่ข้ามาโดยตลอดแม้ว่าท่านจะเกลียดชังข้ามากเพียงใด...แต่ว่า...ท่านแม่...จะมีสักครั้งหรือไม่ที่ท่านจริงใจต่อข้าแม้เสียงสักเสี้ยวนาที”เซี่ยเหมยกัดฟันแน่นข่มความอาดูรเอาไว้ในใจ ภาพแต่หนหลังผุดขึ้นมาในความนึกคิดของนางอีกครั้ง แม้นางจะนึกเกลียดชังสองแม่ลูกมากสักเพียงใดแต่ความผูกพันที่มีมาเนิ่นนานก็เป็นสิ่งที่นางมิอาจปฏิเสธได้ “นับแต่นี้ต่อไป...เจ้าอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าเจ้าอีก” เซี่ยเหมยกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่สงบและจริงจัง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปนั่งหันหลังที่มุมห้องขังอย่างไม่ต้องการเสวนากับจางหมินเย่วอีกต่อไปจางหมินเย่วสะอื้นไห้ในลำคอ ก่อนจะยกยิ้มบางขึ้นมาอีกหน “ขอท่านแม่โปรดรักษาตัวด้วย” นางคุกเข่าลงพร้อมโขกศีรษะกับพื้นเ

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 67 ท่านยอมรับความจริงเถิด

    บทที่ 67 ท่านยอมรับความจริงเถิดข่าวคราวเรื่องของหนิงอันอวี้ที่มีสภาพไม่ต่างจากตุ๊กตามีชีวิตแพร่สะพัดไปทั่วแคว้น “ไม่จริง...อันอวี้ต้องไม่เป็นอันใด...ไม่จริง...” หยางกุยฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับคลุ้มคลั่งอาละวาด ก่อนจะเป็นลมจนสิ้นสติไปในทันทีในขณะที่ซ่งฟู่หลงและจางหมินเย่วได้ยินเรื่องดังกล่าวก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างนึกสังเวชใจ “เวรกรรมจริงๆ”จางหมินเย่วหันไปมองซ่งฟู่หลงก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความประหม่า “ใต้เท้า...ข้ามีเรื่องอยากขอร้อง”ซ่งฟู่หลงหรี่ตามองจางหมินเย่ว “เจ้าว่ามาสิ”“ข้าอยากไปเยี่ยมท่านแม่สักครั้ง...ท่านให้ข้าไปได้หรือไม่” จางหมินเย่วกล่าวออกมาในที่สุดแววตาที่อ้อนวอนทอดมองมาที่ซ่งฟู่หลง เขาได้แต่พยักหน้ารับพร้อมกำชับให้องครักษ์คอยคุ้มกันนางเอาไว้อย่างใกล้ชิดจางหมินเย่วพร้อมเล่อจิ้นและองครักษ์อีกสองนายขึ้นรถม้าพร้อมมุ่งหน้าตรงไปยังคุกอาญาในทันทีเซี่ยเหมยถูกกักขังอยู่ในห้องขังตามลำพัง ใบหน้าเหม่อลอย ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงอย่างทอดอาลัยตายอยาก นางรู้สึกอับจนและสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่งในทันทีที่เซี่ยเหมยเห็นจางหมินเย่วตรงหน้า นางก็ปรี่เข้ามาพร้อมยื่นแขน ออกมาด้านนอกกรงขังหวั

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 66 ข้ามิอาจให้ท่านทำร้ายได้อีก

    บทที่ 66 ข้ามิอาจให้ท่านทำร้ายได้อีกจางเซี่ยโยวประคองหนิงอันอวี้เข้ามาภายในห้องนอนด้วยท่าทางที่เป็นปกติ แม้ว่าภายในใจนั้นกลับตื่นเต้นระคนหวาดหวั่นไปพร้อมกัน สุราและอาหารถูกจัดเรียงไว้อย่างพร้อมสรรพหนิงอันอวี้เข้ามาภายในห้องนอน เขามิได้ใส่ใจกับสิ่งใดตรงหน้า หนิงอันอวี้กระชากร่างของจางเซี่ยโยวเข้าหาตัวพร้อมบดขย้ำนางด้วยความอัดอั้นในอารมณ์ ริมฝีปากหนาบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างดุนดันและตะกละตะกลามจางเซี่ยโยวร้องอู้อี้ออกมา นางพยายามดิ้นรนขัดขืนก่อนจะสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมได้ในที่สุด การกระทำดังกล่าวส่งผลให้หนิงอันอวี้มีท่าทางฉุนเฉียวและหงุดหงิดใจขึ้นมาในทันทีจางเซี่ยโยวรีบปรับอารมณ์ให้เป็นปกติอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มกว้างอย่างหวานเยิ้มออกมาพร้อมเดินเข้าไปคล้องลำแขนของเขาอย่างประจบเอาใจ “องค์ชาย...ข้าตระเตรียมสุราชั้นดีเอาไว้สำหรับดื่มด่ำในค่ำคืนนี้ หากท่านใจร้อนเช่นนี้จะมิทำให้เสียบรรยากาศหรอกหรือเจ้าคะ”จางเซี่ยโยวกล่าวพลางดึงรั้งหนิงอันอวี้ลงนั่งที่โต๊ะ ก่อนจะหย่อนกายลงนั่งบนตักเขา มือข้างหนึ่งวาดแขนโอบรอบลำคอ ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็ยกสุรารินลงในจอกด้วยท่าทางที่เชื่องช้าแต่เย้ายวนในที จางเซี

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 65 น้อยเนื้อต่ำใจ

    บทที่ 65 น้อยเนื้อต่ำใจจางเซี่ยโยวโขกศีรษะขอบคุณหนิงเว่ยเจี้ยนอีกครั้ง เมื่อนางได้รับอนุญาตตามที่หนิงเว่ยเจี้ยนได้ให้คำมั่นไว้ นางก็ขอตัวลากลับไปในทันที นางหันหลังเดินออกไปโดยมิได้มองจางหมินเย่วที่อยู่ด้านข้างเลยแม้แต่น้อย“เช่นนั้นลูกก็ขอตัวเช่นกัน” ซ่งฟู่หลงโค้งตัวลาหนิงเว่ยเจี้ยนในทันที พร้อมกระชับร่างของจางหมินเย่วที่ยังคงยืนนิ่งราวกับกำลังอยู่ในความฝัน เหตุการณ์ตรงหน้าซับซ้อนเกินกว่าที่จางหมินเย่วจะสามารถคาดเดาอันใดได้“ฟู่หลง...ต่อไปเจ้าก็ดูแลเย่วเอ๋อร์ให้ดีเล่า” หนิงเว่ยเจี้ยนกล่าวกำชับซ่งฟู่หลงอีกครั้งอย่างนึกเป็นห่วงและเอ็นดู“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ...ชายาของข้านั้นดื้อรั้นและโง่เขลา...ต่อไปข้าคงมิอาจให้นางคลาดสายตาไปได้อีก” ซ่งฟู่หลงกล่าวตอบพร้อมปรายตามองจางหมินเย่วอย่างหยอกเย้าจางหมินเย่วได้แต่ยิ้มเจื่อนออกมา พร้อมใบหน้าที่สลดลงไป นางมิได้กล่าวสิ่งใดออกมาอีก นางได้แต่นึกเสียใจในความโง่เขลาของตนเองขณะที่อยู่ลำพังภายในเรือนนอน จางหมินเย่วได้แต่นั่งคอตกหวนคิดถึงความผิดพลาดที่ตนเองได้ก่อขึ้น นางได้แต่รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก ทั้งความผิดหวัง ความท้อแท้ ความรันทดใจซ่งฟู่หลงเข้ามานั่ง

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 64 ทวงสัญญา

    บทที่ 64 ทวงสัญญาหลังจากที่ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง หยางกุยฮวาถึงคุมตัวไปยังตำหนักเย็น ในขณะที่เซี่ยเหมยถูกจับกุมไปยังเรือนจำของศาลอาญาเพื่อรอคำตัดสิน จางเซี่ยโยวก็ได้คุกเข่าลงตรงหน้าหนิงเว่ยเจี้ยน “ทูลฝ่าบาท...ขอพระองค์ทรงทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ”จางเซี่ยโยวหวนนึกถึงในวันที่เซี่ยเหมยได้เดินทางมาหาตนที่จวนก่อนหน้านี้“โยวเอ๋อร์...แม่มีเรื่องสำคัญจะบอกกับเจ้า” เซี่ยเหมยกล่าวออกมา ในขณะที่มีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง“ท่านแม่มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ เหตุใดท่านจึงดูร้อนรนเช่นนี้”เซี่ยเหมยหยิบขวดยาจากแผงเสื้อออกมา ก่อนจะนำมาวางตรงหน้าจางเซี่ยโยว“นี่คือ....”เซี่ยเหมยตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่หยางกุยฮวาได้นัดหมายกับตนให้จางเซี่ยโยวได้ฟังจนสิ้น “โยวเอ๋อร์...หากการนี้ทำสำเร็จ...อนาคตของเจ้าและองค์ชายสามย่อมสว่างสดใส และต่อไปจะมิมีผู้ใดขัดขวางตำแหน่งว่าที่ฮองเฮาของเจ้าไปได้อีกแล้ว” เซี่ยเหมยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง“ท่านแม่...” จางเซี่ยโยวพ้อออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนใจกับความคิดอันเลวร้ายของมารดาของตน “ท่านแม่ องค์ชายสามนั้นมีตำแหน่งรัชทายาทอยู่ก่อนแล้ว ห

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 63 จนมุม

    บทที่ 63 จนมุมนางกำนัลคนสนิทของหยางกุยฮวาถูกโยนลงมาตรงด้านข้างของเซี่ยเหมยด้วยสภาพบอบช้ำและอิดโรย“เจ้าจงสารภาพออกมาเดี๋ยวนี้” เสียงตวาดของหนิงเว่ยเจี้ยนดังขึ้นอีกครั้งนางกำนัลหันไปมองหยางกุยฮวาอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะโขกศีรษะลงกับพื้นหลายต่อหลายครั้ง “ทูลฝ่าบาท...หม่อมฉันผิดไปแล้ว ขอฝ่าบาทเมตตาด้วย หม่อมฉัน...เอ่อ...เรื่องราวทั้งหมดฮองเฮาเป็นผู้บงการเพคะ”สิ้นเสียงของนางกำนัล หยางกุยฮวาก็ปรี่เข้ามาตบหน้านางอย่างแรง “นางทาสชั้นต่ำ เจ้ากล้าใส่ความข้าอย่างนั้นหรือ” หยางกุยฮวาตวาดออกมาด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา โทสะคุกรุ่นด้วยความเจ็บแค้นที่คนสนิทของตนคิดคดทรยศนาง“หยุดเดี๋ยวนี้...” หนิงเว่ยเจี้ยนตะคอกออกมาทำเอาหยางกุยฮวาถึงกับชะงักงันไป นางจ้องมองนางกำนัลด้วยแววตาเดือดดาลและอาฆาตแค้น“เจ้าจงบอกความจริงออกมาให้หมด ข้าจะให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าเอง”“ทูลฝ่าบาท...ฮองเฮาวางแผนต้องการใส่ความองค์ชายหกจึงได้มอบยาพิษให้ฮูหยินจางเพื่อใส่ร้ายพระชายา หากแผนการสำเร็จก็จะสามารถกำจัดองค์ชายหกได้สำเร็จเพคะ” นางกำนัลกล่าวออกมาด้วยท่าทางลนลาน แม้นางจะซื่อสัตย์ต่อหยางกุยฮวามากเพียงใด แต่เมื่อนางถูกต่อรองด้วยชีวิ

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 62 ผิดแผน

    บทที่ 62 ผิดแผนเสียงเย็นยะเยือกที่ดังก้องกังวานของหนิงเว่ยเจี้ยนทำเอาเซี่ยเหมยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับทรุดฮวบลงไปกับพื้นนี้ แผ่นหลังเย็นวาบจนนางแทบลืมหายใจ “ฝ่าบาท หม่อมฉันมิรู้เรื่องอันใดเพคะ ขอฝ่าบาททรงพิจารณาด้วย” เซี่ยเหมยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก มือไม้สั่นเทาด้วยความกลัวที่แล่นเข้าจับหัวใจจางเหวิ่นชิงที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างถึงกับหันหน้ามองฮูหยินของตนอย่างไม่คาดคิด ท่าทางของนางเช่นนี้ทำให้เขารับรู้ถึงสิ่งผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้น“ฮูหยินจาง...เจ้ายังคิดจะแก้ตัวอยู่อีกหรือ” หนิงเว่ยเจี้ยนตวาดออกมาอย่างสุดจะทนเซี่ยเหมยถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาอย่างมิรู้จะทำเช่นใดต่อไป นางพยายามปรายตาขึ้นมองหยางกุยฮวาอย่างต้องการความช่วยเหลือหยางกุยฮวานึกเจ็บแค้นยิ่งนัก นางแทบอยากจะปรี่ตรงเข้าไปตบหน้าเซี่ยเหมยที่ทำตัวมิรู้ความเช่นนี้ แต่นางก็ได้แต่ทำเพียงกัดฟันแน่นพร้อมเบือนหน้าหนีออกไปเซี่ยเหมยรับรู้ได้ถึงการถูกตัดหางปล่อยวัด นางรู้สึกสิ้นหวังลงไปในทันที เซี่ยเหมยที่ยังคงน้ำตานองอาบสองแก้มถึงกับโขกศีรษะลงกับพื้นหลายต่อหลายที “หม่อมฉันผิดไปแล้ว...หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ”“เจ้าบอกว่าเจ

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 61 เป็นไปไม่ได้

    บทที่ 61 เป็นไปไม่ได้สิ้นเสียงของขันทีประกาศก้อง หนิงเว่ยเจี้ยนก็ก้าวเดินเข้ามาภายในท้องโถงใหญ่ด้วยท่วงท่าที่ราบเรียบแต่มั่นคง ใบหน้าเรียบเฉยแต่กลับดุดันไม่ต่างจากราชสีห์ที่น่าเกรงขามยิ่งนักหยางกุยฮวาถึงกับผงะถอยหลังด้วยความตกตะลึง “เป็นไปไม่ได้” หยางกุยฮวาเพ้อออกมาอย่างหวาดหวั่น ฝ่าบาทที่นอนแน่นิ่งมิต่างจากหุ่นที่มีชีวิต บัดนี้กลับก้าวเดินมาตรงหน้าของนางราวกับมิมีเหตุการณ์ร้ายใดเกิดขึ้นหนิงอันอวี้หันหน้าไปหาหยางกุยฮวางอย่างรู้สึกตื่นตระหนก หยางกุยฮวารีบยกมือขึ้นแตะฝ่ามือของหนิงอันอวี้เพื่อให้เขาสงบอารมณ์ลง จากนั้นนางจึงปรับสีหน้าและท่าทางให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้งหยางกุยฮวาและหนิงอันอวี้ก้าวเดินลงมาด้านล่างก่อนจะย่อกายคำนับหนิงเว่ยเจี้ยนอย่างสุขุม “ถวายพระพรฝ่าบาท ฝ่าบาททรงหายประชวรแล้วหรือเพคะ มิมีใดมาแจ้งข่าวดีเช่นนี้ให้ข้าทราบเลย” หยางกุยฮวากล่าวออกมาพร้อมเดินไปด้านข้าง เพื่อประคองแขนของหนิงเว่ยเจี้ยนหนิงเว่ยเจี้ยนสะบัดมือจากการเกาะกุมของหยางกุยฮวาในทันทีอย่างนึกรังเกียจ หยางกุยฮวาที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถึงกับล้มลงกับพื้นด้วยความตกใจ หนิงอันอวี้รีบเข้ามาประคองร่างของหยางกุยฮวาด้

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 60 ทวงคืน

    บทที่ 60 ทวงคืนจางหมินเย่วที่เดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องนอน ฉับพลันประตูก็ถูกเปิดออก ซ่งฟู่หลงก้าวเท้าเข้ามาด้านในด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“ใต้เท้า...” จางหมินเย่วรีบปรี่เข้าไปสวมกอดร่างแกร่งอย่างต้องการที่พึ่ง บัดนี้นางได้แต่นึกสับสนและไม่อาจเชื่อสายตาตนเองได้ว่าเซี่ยเหมยจะวางแผนให้ร้ายนางเช่นนี้ จางหมินเย่วยังคงคาดเดาว่าอาจเป็นไปได้ที่นางจะถูกผู้อื่นใส่ร้ายแทน“เย่วเอ๋อร์...เจ้าบอกความจริงข้าได้หรือยัง” ซ่งฟู่หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังและคาดคั้นออกมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนพุ่งเป้ามาที่จางหมินเย่ว ดังนั้นศัตรูย่อมหมายเอาชีวิตของเขาเป็นหลักอย่างแน่นอน“ข้า...ใต้เท้า...ข้าไม่ทราบเรื่องจริงๆ” จางหมินเย่วยังคงมืดแปดด้าน นางมิกล้ากล่าวหามารดาของตนไปได้ซ่งฟู่หลงถอนหายใจออกมาพร้อมมองหน้าจางหมินเย่วอย่างนึกน้อยใจ “เรื่องราวเช่นนี้ เจ้ายังคิดจะปิดบังข้าอยู่หรือ” น้ำเสียงตัดพ้อทำเอาจางหมินเย่วถึงกับเม้มปากและก้มหน้าสลดลงไป“ใต้เท้า...ขนมที่ข้าทำ...ข้าเพียงใส่ยาบำรุงที่ท่านแม่มอบให้” จางหมินเย่วพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “แต่ว่าท่านแม่ไม่มีทางให้ร้ายข้าเป็นแน่...ใต้เท้าต้องมีผู้ไม่หวังดีใส่ร้ายข้า

استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status