Home / โรแมนติก / ใต้เงาบุษบา / 2.นางรำขวัญใจประชาชน (2)

Share

2.นางรำขวัญใจประชาชน (2)

Author: rasita_suin
last update Last Updated: 2025-04-19 18:53:20

แม้จะแปลกใจแต่กิตติกรก็เอ่ยทักหญิงสาวอย่างเป็นธรรมชาติ อีกฝ่ายยิ้มกว้างเดินมายืนตรงหน้าเขาทันที

“ค่ะ พอดีว่าคุณแม่ฝากของมาให้สองน่ะค่ะ ก็เลยแวะเอามาให้ก่อนกลับบ้าน”

กิตติกรมองใบหน้าสวยราวกับสนใจในขณะที่สมองพยายามนึกว่าเขาไม่เห็นรถคนอื่นหน้าโรงเรียนนอกจากรถของผู้ปกครองที่ยืนคุยกับพิมพ์ปรางจึงไม่คิดว่ามีคนอื่นอยู่ที่นี่ด้วย

“เราไปกันเลยไหมคะ หนึ่งหิวแล้ว”

สาวสวยเอ่ยชวนอย่างร่าเริงไม่ได้ขัดเขินที่จะแสดงออกว่าตนเองพอใจชายหนุ่มตรงหน้ามากแค่ไหน จนแม้แต่คนเป็นน้องสาวเองยังแอบส่ายหน้าเบาๆ

“อ้อ ครับ”

ชายหนุ่มยิ้มรับก่อนจะเหลือบมองไปด้านหลังมาลินี

“เชิญเลยครับสาวๆ”

“ค่ะ”

มาธาวีตอบรับแล้วหันไปพยักหน้าให้เพื่อนหลังเคานเตอร์

“ไปเร็วปราง นานๆ ทีจะมีคนเลี้ยงข้าวเราสักที”

คนถูกชวนเดินออกมาจากเคานเตอร์โดยไม่มีท่าทางอิดออดแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการดีใจใดๆ

“คุณกลางไปกับพี่หนึ่งนะคะ เดี๋ยวสองกับปรางจะไปรถอีกคัน”

“ไปด้วยกันก็ได้นี่ครับ”

กิตติกรบอกพร้อมมองหน้ามาธาวีคล้ายตั้งคำถามอีกฝ่ายจึงยิ้มกว้าง แต่น้องสาวยังไม่ทันพูดพี่สาวก็เอ่ยขึ้นมาแทน

“พอดีว่ารถหนึ่งรวนอีกแล้วน่ะค่ะ ที่มานี่ก็ให้เพื่อนมาส่ง กำลังจะโทรให้รถที่บ้านมารับอยู่ คุณกลางมาพอดีแบบนี้ ยังไงหนึ่งรบกวนคุณกลางไปส่งที่บ้านได้ไหมคะ”

ชายหนุ่มคนเดียวมองคนเป็นพี่สาวแล้วเหลือบไปยังคนเป็นน้องสาวซึ่งเธอก็ยิ้มพร้อมกับยักคิ้วให้ จนเป็นเขาที่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจแทน แต่สุดท้าย ตอบตกลง

“ได้สิครับ”

“อุ๊ย หนึ่งยังไม่ได้หยิบกระเป๋าเลย เดี๋ยวมานะคะ”

เมื่อมาลินีผลุนผลันกลับเข้าไปด้านในมาธาวีก็กระซิบเบาๆ

“สองรู้ว่าเดี๋ยวพี่หนึ่งก็ต้องขอให้คุณกลางไปส่งอยู่แล้วค่ะ”

หญิงสาวขยิบตาให้เขาเพราะเข้าใจว่าสองคนนี้กิ๊กกั๊กกันอยู่ ก่อนจะหันไปปิดปากหัวเราะกับพิมพ์ปรางที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ทว่าอีกฝ่ายไม่มีท่าทีใดนอกจากเหลือบมองเขาด้วยแววตาว่างเปล่า และนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มจ้องกลับอย่างหงุดหงิดด้วยสายตาดุดัน

บรรดาช่างฟ้อนแต่งชุดไม่ต่างกันหลายร้อยคนกำลังฟ้อนเทียนบูชาเมืองด้วยท่าทางเดียวกันอาจดูไม่แตกต่างหรือมีใครโดดเด่นไปกว่าใครในสายตาคนทั่วไป ทว่าหากเป็นคนที่รู้จักแล้วผู้คนที่รอชมการแสดงบริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์[1]ยาวไปจนถึงสี่แยกกลางก็สามารถระบุได้ว่าคนที่ตัวเองมาดูเป็นใครอยู่ตรงไหน เช่นเดียวกับกิตติกรและเปรมินทร์แม้สองหนุ่มจะยืนมองอยู่จากมุมไกลและไม่ได้ใกล้ชิดติดขอบก็ตาม เปรมินทร์ยกกล้องขึ้นถ่ายภาพภรรยาสาวของตนอย่างภาคภูมิใจพร้อมสลับกับอัดวิดีโอไปด้วย แต่ก็ถ่ายสองสาวเอาไว้ด้วยเช่นกัน ในขณะที่กิตติกรยืนกอดอกมองนิ่งโดยมีมาลินียืนอยู่ข้างๆ ด้วย

“คนเยอะจัง ทั้งที่อากาศเย็นก็ยังอึดอัดเลยนะคะ”

“คุณหนึ่งไปรอที่คาเฟ่แถวๆ นี้ก็ได้นะครับ”

กิตติกรบอกสั้นๆ ไม่หันมองเธอด้วยซ้ำทำเอาหญิงสาวแทบพูดต่อไม่ถูก

“ไม่เป็นไรค่ะ รอไปพร้อมทุกคนดีกว่า คนเยอะขนาดนี้ แยกกันไปกว่าจะหากันเจอคงลำบาก”

มาลินีบอกปัดแล้วโบกมือพัดลมใส่หน้าตัวเองพร้อมกับมองการแสดงอย่างไม่ใส่ใจนัก ไม่ใช่ว่าไม่ชอบวัฒนธรรมประเพณีของบ้านเกิดแต่หญิงสาวไม่เห็นด้วยกับการเรียนและงานของน้องสาวมาตั้งแต่แรก ที่มายืนเกาะติดเบียดเสียดปะปนผู้คนขนาดนี้ก็เพราะกิตติกร

ไม่นานการแสดงฟ้อนเทียนก็จบลง เปรมินทร์รีบเข้าไปหากัญญานันทันทีเพราะกลัวว่าภรรยาจะมองไม่เห็นตนทำให้กิตติกรกับมาลินีต้องเดินตามไปด้วย

“เหนื่อยไหมครับก้อย”

เขายื่นผ้าเช็ดหน้าไปซับเหงื่อที่หน้าผากสวยอย่างเบามือพร้อมถามขณะที่กัญญานันเขินคนรอบข้างที่ต่างก็มองมาแล้วอมยิ้มจึงจับผ้ามาซับเอง

“ไม่ค่ะ”

“ตอนนี้คนกำลังเดินออกพร้อมๆ กัน เรารออีกสักหน่อยค่อยออกไปจากตรงนี้แล้วกันนะ”

กิตติกรเป็นคนออกความเห็น ซึ่งทั้งหมดต่างก็เห็นด้วย

“พี่หนึ่งสองขอกระเป๋าหน่อยค่ะ”

มาธาวีก้าวไปหาพี่สาว กิตติกรจึงหลบให้แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกับที่มีคนเดินเบียดเข้ามาทางด้านหลังของพิมพ์ปรางอย่างแรงทำให้ร่างบางถลาเข้ามาหาชายหนุ่มและกิตติกรก็ไวพอที่จะอ้าแขนรับอีกฝ่ายได้พอดี

“อุ๊ย”

“สุมาเต๊อะ”

คนชนหันกลับมาขอโทษแล้วรีบเดินจากไป

พิมพ์ปรางเงยหน้าขึ้นมองคนที่รับตัวเองเอาไว้แล้วก็รีบสะดุ้งถอยออกมา ซึ่งอีกฝ่ายก็ปล่อยมือจากเธอโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ แล้วต่างฝ่ายต่างก็หันไปคนละทางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“คุณครูครับ คุณครู”

เสียงเรียกดังมาจากด้านหนึ่งแต่ไม่มีใครสนใจกระทั่งได้ยินชื่อ

“คุณครูปราง”

คนทั้งกลุ่มหันไปมองคนที่เรียกแล้วก็เห็นว่าเป็นหนุ่มใหญ่ชื่อพัลลภกำลังเร่งรีบพาลูกสาวฝ่าผู้คนเข้ามาหาพวกเขา

กิตติกรคิ้วกระตุก หมอนี่มันคนที่ยืนคุยกับพิมพ์ปรางหน้าโรงเรียนอยู่ตั้งนานคนนั้นนี่

 [1] พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ หรือที่มักเรียกกันว่า อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทย 3 พระองค์ ผู้สร้างเวียงเชียงใหม่ คือ พญามังราย พญางำเมือง และพ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ตั้งอยู่กลางเวียงเชียงใหม่ บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ (อดีตศาลารัฐบาลมณฑลพายัพ) ด้านหน้าติดกับถนนพระปกเกล้า ซึ่งบริเวณนี้เอง ถือเป็นศูนย์กลางของตัวเมืองเชียงใหม่ หน้าอนุสาวรีย์มีลานกว้างขนาดใหญ่ เรียกว่า "ข่วงสามกษัตริย์" หรือ "ข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์" ด้านตรงข้ามของอนุสาวรีย์ ยังเป็นที่ตั้งของอาคารศาลแขวงเชียงใหม่เดิม ซึ่งมีสถาปัตยกรรมตะวันตกที่งดงาม

=====

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ใต้เงาบุษบา    3.ขั้วบวก ขั้วลบ (1)

    “อ้าวน้องพลอย คุณพ่อ สวัสดีค่ะ”มาธาวีเป็นคนทักขึ้นก่อน“สวัสดีค่ะคุณครู”น้องพลอยยกมือไหว้ทั้งสามสาว ก่อนจะไหว้ทุกคนที่เหลือด้วยแม้จะไม่รู้จักก็ตาม“เป็นไงคะน้องพลอย เพื่อนๆ คนอื่นล่ะคะ”กัญญานันเอ่ยถามขึ้น“เพื่อนแยกย้ายไปกับพ่อแม่แล้วค่ะ แต่พลอยอยากถ่ายรูปกับคุณครูน่ะค่ะ พลอยให้คุณพ่อถ่ายรูปกับวิดีโอตอนที่ครูรำเอาไว้เยอะเลยนะคะ คุณพ่อบอกว่าคุณครูสวยมากๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะครูปราง”น้องพลอยบอกแล้วเข้ามาเกาะแขนคุณครูคนสวยอย่างอ้อนๆ ในบรรดาสามสาวเด็กน้อยชื่นชอบครูปรางที่สุดเด็กๆ ที่เรียนกับสามสาวไม่ได้พูดภาษาคำเมืองกับพวกเธอเพราะเวลาสอนสามสาวไม่ได้พูดคำเมือง แม้ทั้งกัญญานันและพิมพ์ปรางจะรู้สึกว่าเวลาเด็กๆ พูดคำเมืองแล้วดูน่ารักดีก็ตาม“ขอบใจจ้ะ”พิมพ์ปรางยิ้มให้สาวน้อยอย่างเอ็นดูในขณะที่คนเป็นพ่อยิ้มเก็บอาการที่ลูกสาวทำถูกใจเอาไว้ไม่อยู่ และผู้ใหญ่ทุกคนก็มองออก โดยเฉพาะกิตติกรที่ตาวาววับขึ้นมาทันควันจากนั้นคุณครูทั้งสามก็ถ่ายภาพร่วมกับน้องพลอยจนกระทั่งสาวน้อยพอใจ“แล้วนี่จะไปจุดผางปะตี๊ดหรือแขวนโคมกันไหมครับ”อยู่ๆ พัลลภก็ถามขึ้นมา พิมพ์ปรางไม่คิดอะไรมากจึงตอบไปตามตรง“ก็คิดว่าจะไปอยู่เ

    Last Updated : 2025-04-20
  • ใต้เงาบุษบา    3.ขั้วบวก ขั้วลบ (2)

    โต๊ะอาหารในร้านพื้นเมืองแทบทุกร้านค่อนข้างแน่น แต่พวกเขาก็สามารถหาร้านว่างได้โดยเดินออกมาไม่ไกลมากนักเพราะตกลงกันว่าจะทานร้านที่ไม่ไกลจากบริเวณงานยี่เป็งมากนักภายในโต๊ะมาธาวีมองลำดับการนั่งอย่างขัดเคือง เพราะกลายเป็นว่าพิมพ์ปรางต้องนั่งตรงกลางระหว่างสองพ่อลูก นั่นเป็นเพราะน้องพลอยดันมาขอนั่งแทนที่เธอแล้วพ่อของสาวน้อยก็เข้ามาเสียบอีกด้านทันที หญิงสาวจำต้องนั่งข้างพี่สาวตัวเองอย่างหงุดหงิดแต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจมาธาวีดูออกว่าคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวหนุ่มใหญ่คนนี้คิดอย่างไรพิมพ์ปราง แรกๆ เธอก็ไม่ได้ติดขัดอะไรเพราะอีกฝ่ายก็มีฐานะหน้าตาทางสังคม เป็นถึงข้าราชการระดับซีสูง ทว่าตั้งแต่วันที่หม่อมหลวงกิตติกรอาสาเลี้ยงข้าวมาธาวีได้เห็นปฏิกิริยาชวนสะดุดใจบางอย่างจากชายหนุ่มเขาดูแลพี่สาวเธอตักอาหารให้ตามมารยาท พูดคุยกับเธอแต่ไม่คุยพิมพ์ปราง เธอจำได้ว่าเคยเห็นทั้งสองคนพูดคุยกันบ้างเล็กน้อยบางครั้ง แต่เมื่ออยู่ในกลุ่มคนทั้งสองจะต่างคนต่างอยู่ราวกับไม่รู้จัก ไม่สนิทสนม ทั้งที่ควรจะสนิทเพราะพิมพ์ปรางเคยอยู่ที่บ้านอรรถพันธ์พงศ์มาก่อนกระทั่งเรียนมัธยมปลาย และทุกครั้งที่มีกิตติกรอยู่ด้วยพิมพ์ปราง

    Last Updated : 2025-04-20
  • ใต้เงาบุษบา    บทนำ

    โอ้ว่าน่าเสียดายตัวนัก เพราะเชื่อลิ้นหลงรักจึงช้ำจิตจะออกชื่อลือชั่วไปทั่วทิศ เมื่อพลั้งคิดผิดแล้วจะโทษใครเสียแรงหวังฝังฝากชีวี พระจะมีเมตตาก็หาไม่หมายบำเหน็จจะรีบเสด็จไป ก็รู้เท่าเข้าใจในทำนองด้วยระเด่นบุษบาโฉมตรู ควรคู่ภิรมย์สมสองไม่ต่ำศักดิ์รูปชั่วเหมือนตัวน้อง ทั้งพวกพ้องสุริยวงศ์พงศ์พันธุ์แต่นี้สืบไปภายหน้า จะอายชาวดาหาเป็นแม่นมั่นเขาจะค่อนนินทาทุกสิ่งอัน นางรำพันว่าพลางทางโศกา[1] ความงดงามอ้อนช้อยที่ร่างแบบบางกำลังกรีดกรายตามคำตัดพ้อต่อว่า โดยมีร่างกำยำอีกร่างร่ายรำปลอบโยนทำให้กิตติกรจ้องมองไม่วางตาด้วยขุ่นขวางอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้สึกซึมซับประทับใจกับความอ่อนช้อยงดงามเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าบทละครนี้เขาเคยมีโอกาสได้ดูมาแล้วเพราะน้องสาวของเขาเรียนวิทยาลัยนาฏศิลป์มีงานให้แสดงเสมอไม่ขาด หลายครั้งก็มักจะเป็นบทละครรำเรื่องอิเหนาอย่างเช่นคราวนี้ และเขาก็แปลกใจเหลือเกินว่าทำไมต้องเป

    Last Updated : 2025-04-19
  • ใต้เงาบุษบา    1.จินตะหรา (1)

    เสียงข้อความเข้าดังขึ้นทำให้คนที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วนั่งรอเพื่อนๆ หยิบมือถือของตนขึ้นมาเปิดดู เห็นเป็นข้อความจากพี่ชาย“น้องก้อยมายังไง ให้พี่ไปส่งไหม”กัญญานันเห็นกิตติกรแล้วตั้งแต่ตอนที่แสดงอยู่บนเวทีจึงไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายจะถาม หญิงสาวจึงโทรกลับไป“ว่าไงครับน้องก้อย”“พวกเรามารถสองกันน่ะค่ะพี่กลาง”“อ๋อ โอเค งั้นพี่กลับก่อนเลยนะครับ”“ค่ะ ว่าแต่พี่กลางมาที่นี่ได้ยังไงคะ”“ว่าจะทำตลาดเครื่องประดับไทยประยุกต์น่ะ ก็เลยมาหาไอเดีย”“แบบนี้นี่เอง ร้านเป็นยังไงบ้างคะ”“ก็ดีนะ เราเป็นแบนด์ที่คนรู้จักอยู่แล้ว เปิดสาขาเพิ่มคนก็สนใจ ถึงไม่ใช่ว่าคนที่เข้ามาทุกคนจะซื้อ แต่พี่ว่าพอไหว แล้วก็อยากเพิ่มสไตล์พื้นเมืองหรือไทยๆ เข้าไปด้วย น่าจะถูกใจคนที่นี่”“ค่ะ คนสมัยนี้เน้นความเป็นไทย ความเป็นพื้นเมือง ถ้าเขารู้สึกว่าซื้อแล้วจะได้ใช้เขาก็จะซื้อ”ระหว่างที่คุยกันพิมพ์ปรางที่เพิ่งเปลี่ยนชุดเสร็จเดินเข้ามาพร้อมกับถามด้วยสายตาว่าใคร กัญญานันจึงตอบแบบไม่มีเสียง“พี่กลาง”พิมพ์ปรางชะงักไปเพียงนิดเดียวเพื่อนสาวจึงไม่ทันสังเกต ก่อนจะเดินไปนั่งอีกมุมหน้ากระจกเช็ดเครื่องสำอาง“วันศุกร์เดี๋ยวพี่ไ

    Last Updated : 2025-04-19
  • ใต้เงาบุษบา    1.จินตะหรา (2)

    หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องของสองคนนั้นอีกเพราะสามสาวไม่ใช่พวกช่างเมาท์และมาธาวีไม่สนใจเรื่องของพี่สาวมากนัก กัญญานันเองก็รู้ดีว่ากิตติกรเป็นคนมีอัชฌาศัยดีกับผู้หญิงสวยๆ อยู่แล้วสามสาวตัดสินใจเลือกร้านที่การตกแต่งดูน่ารักร้านหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลสถานที่จัดงานนักเพื่อสั่งอาหารง่ายๆ มาทาน ระหว่างที่กำลังรอของที่สั่งอยู่นั้นสองหนุ่มสาวคู่เดิมก็เดินเข้ามาในร้าน คนที่เห็นก่อนก็คือพิมพ์ปรางแต่เธอแค่มีสีหน้าคาดไม่ถึง ไม่ได้พูดอะไรนอกจากมองนิ่ง มาธาวีจึงมองตามแล้วก็เห็นว่าพี่สาวของตนกับพี่ชายของเพื่อนก็มาร้านเดียวกัน หญิงสาวรีบหันไปเขย่าแขนกัญญานันให้ดูด้วยกัน แม้จะหันมองทั้งสามคนแต่ไม่มีใครยกมือเรียกพวกเขาเพราะต่างก็คิดว่าสองคนนั้นต้องการความเป็นส่วนตัว แต่คนที่เข้ามาทีหลังกลับมองมาทางพวกเธอเสียก่อน แล้วกิตติกรก็เดินนำมาลินีเข้ามาหา“พี่กลาง”กัญญานันลุกขึ้นตามนิสัยที่เป็นคนมารยาทดี สองสาวจึงลุกตามแล้วยกมือไหว้กิตติกร“สวัสดีค่ะ”มาธาวีเอ่ยขึ้นเพราะเธอเพิ่งเจอชายหนุ่ม แต่พิมพ์ปรางแค่ยกมือไหว้“มาทานข้าวกันเหรอ”ชายหนุ่มกวาดตามองสามสาวแวบหนึ่งพร้อมกับถาม“ค่ะ อยากกลับไปนอนกันเลยน่ะค่ะ”

    Last Updated : 2025-04-19
  • ใต้เงาบุษบา    2.นางรำขวัญใจประชาชน (1)

    หน้าโรงเรียนของสามสาวพิมพ์ปรางเป็นคนพาเด็กนักเรียนที่ตนเองกับมาธาวีสอนลงมาส่งในตอนที่ผู้ปกครองโทรมาแจ้งว่ามารับแล้ว หญิงสาวไหว้อีกฝ่ายและยืนพูดคุยกันอยู่ด้านหน้าตึก ภาพนั้นอยู่ในสายตาของคนที่เพิ่งขับรถมาจอดเลยไปเล็กน้อยเพราะเห็นว่ามีรถขวางอยู่“ได้คุณครูเก่งๆ แบบครูปรางอีกไม่นานลูกพลอยต้องรำเก่งแล้วก็สวยเหมือนคุณครูแน่ๆ ใช่ไหมลูก”หนุ่มใหญ่ที่อยู่ในชุดเรียบร้อยบอกหน้ายิ้มแย้มแล้วหันไปหาลูกสาวอายุประมาณสิบเอ็ดสิบสองขวบที่รีบพยักหน้ารับ“น้องพลอยเก่งอยู่แล้วค่ะ ความจำดี ตัวอ่อน ตั้งวงสวยมากค่ะ”“ใช่ค่ะคุณพ่อ ครูปรางกับครูสองชมตลอดว่าน้องพลอยเก่ง แล้วน้องพลอยก็จะได้ฟ้อนเทียน ต๋ามผาง ปะตี๊ด ส่องฟ้า ฮักษาเมือง ในงานยี่เป็งด้วย คุณพ่อต้องถ่ายวิดีโอเอาไว้นะคะ”“งั้นเหรอลูก เอ...ว่าแต่เมื่อไรจะได้มีโอกาสดูคุณครูแสดงอีกบ้างล่ะครับ ผมยังจำตอนคุณครูเป็นจินตะหราเมื่อเดือนก่อนได้ติดตาอยู่เลย คุณครูสวยมาก”คนเป็นพ่อพูดไปยิ้มหวานไปในขณะที่ลูกสาวเงยหน้ามองอย่างไม่คิดอะไร ส่วนพิมพ์ปรางกระอักกระอ่วน“ครูจะฟ้อนเทียนกับพลอยด้วยค่ะ”“จริงเหรอลูก”การพูดคุยระหว่างคนสามคนนั้น ชายหนุ่มร่างสูงสมาร์ทที่ลงมายืน

    Last Updated : 2025-04-19

Latest chapter

  • ใต้เงาบุษบา    3.ขั้วบวก ขั้วลบ (2)

    โต๊ะอาหารในร้านพื้นเมืองแทบทุกร้านค่อนข้างแน่น แต่พวกเขาก็สามารถหาร้านว่างได้โดยเดินออกมาไม่ไกลมากนักเพราะตกลงกันว่าจะทานร้านที่ไม่ไกลจากบริเวณงานยี่เป็งมากนักภายในโต๊ะมาธาวีมองลำดับการนั่งอย่างขัดเคือง เพราะกลายเป็นว่าพิมพ์ปรางต้องนั่งตรงกลางระหว่างสองพ่อลูก นั่นเป็นเพราะน้องพลอยดันมาขอนั่งแทนที่เธอแล้วพ่อของสาวน้อยก็เข้ามาเสียบอีกด้านทันที หญิงสาวจำต้องนั่งข้างพี่สาวตัวเองอย่างหงุดหงิดแต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจมาธาวีดูออกว่าคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวหนุ่มใหญ่คนนี้คิดอย่างไรพิมพ์ปราง แรกๆ เธอก็ไม่ได้ติดขัดอะไรเพราะอีกฝ่ายก็มีฐานะหน้าตาทางสังคม เป็นถึงข้าราชการระดับซีสูง ทว่าตั้งแต่วันที่หม่อมหลวงกิตติกรอาสาเลี้ยงข้าวมาธาวีได้เห็นปฏิกิริยาชวนสะดุดใจบางอย่างจากชายหนุ่มเขาดูแลพี่สาวเธอตักอาหารให้ตามมารยาท พูดคุยกับเธอแต่ไม่คุยพิมพ์ปราง เธอจำได้ว่าเคยเห็นทั้งสองคนพูดคุยกันบ้างเล็กน้อยบางครั้ง แต่เมื่ออยู่ในกลุ่มคนทั้งสองจะต่างคนต่างอยู่ราวกับไม่รู้จัก ไม่สนิทสนม ทั้งที่ควรจะสนิทเพราะพิมพ์ปรางเคยอยู่ที่บ้านอรรถพันธ์พงศ์มาก่อนกระทั่งเรียนมัธยมปลาย และทุกครั้งที่มีกิตติกรอยู่ด้วยพิมพ์ปราง

  • ใต้เงาบุษบา    3.ขั้วบวก ขั้วลบ (1)

    “อ้าวน้องพลอย คุณพ่อ สวัสดีค่ะ”มาธาวีเป็นคนทักขึ้นก่อน“สวัสดีค่ะคุณครู”น้องพลอยยกมือไหว้ทั้งสามสาว ก่อนจะไหว้ทุกคนที่เหลือด้วยแม้จะไม่รู้จักก็ตาม“เป็นไงคะน้องพลอย เพื่อนๆ คนอื่นล่ะคะ”กัญญานันเอ่ยถามขึ้น“เพื่อนแยกย้ายไปกับพ่อแม่แล้วค่ะ แต่พลอยอยากถ่ายรูปกับคุณครูน่ะค่ะ พลอยให้คุณพ่อถ่ายรูปกับวิดีโอตอนที่ครูรำเอาไว้เยอะเลยนะคะ คุณพ่อบอกว่าคุณครูสวยมากๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะครูปราง”น้องพลอยบอกแล้วเข้ามาเกาะแขนคุณครูคนสวยอย่างอ้อนๆ ในบรรดาสามสาวเด็กน้อยชื่นชอบครูปรางที่สุดเด็กๆ ที่เรียนกับสามสาวไม่ได้พูดภาษาคำเมืองกับพวกเธอเพราะเวลาสอนสามสาวไม่ได้พูดคำเมือง แม้ทั้งกัญญานันและพิมพ์ปรางจะรู้สึกว่าเวลาเด็กๆ พูดคำเมืองแล้วดูน่ารักดีก็ตาม“ขอบใจจ้ะ”พิมพ์ปรางยิ้มให้สาวน้อยอย่างเอ็นดูในขณะที่คนเป็นพ่อยิ้มเก็บอาการที่ลูกสาวทำถูกใจเอาไว้ไม่อยู่ และผู้ใหญ่ทุกคนก็มองออก โดยเฉพาะกิตติกรที่ตาวาววับขึ้นมาทันควันจากนั้นคุณครูทั้งสามก็ถ่ายภาพร่วมกับน้องพลอยจนกระทั่งสาวน้อยพอใจ“แล้วนี่จะไปจุดผางปะตี๊ดหรือแขวนโคมกันไหมครับ”อยู่ๆ พัลลภก็ถามขึ้นมา พิมพ์ปรางไม่คิดอะไรมากจึงตอบไปตามตรง“ก็คิดว่าจะไปอยู่เ

  • ใต้เงาบุษบา    2.นางรำขวัญใจประชาชน (2)

    แม้จะแปลกใจแต่กิตติกรก็เอ่ยทักหญิงสาวอย่างเป็นธรรมชาติ อีกฝ่ายยิ้มกว้างเดินมายืนตรงหน้าเขาทันที“ค่ะ พอดีว่าคุณแม่ฝากของมาให้สองน่ะค่ะ ก็เลยแวะเอามาให้ก่อนกลับบ้าน”กิตติกรมองใบหน้าสวยราวกับสนใจในขณะที่สมองพยายามนึกว่าเขาไม่เห็นรถคนอื่นหน้าโรงเรียนนอกจากรถของผู้ปกครองที่ยืนคุยกับพิมพ์ปรางจึงไม่คิดว่ามีคนอื่นอยู่ที่นี่ด้วย“เราไปกันเลยไหมคะ หนึ่งหิวแล้ว”สาวสวยเอ่ยชวนอย่างร่าเริงไม่ได้ขัดเขินที่จะแสดงออกว่าตนเองพอใจชายหนุ่มตรงหน้ามากแค่ไหน จนแม้แต่คนเป็นน้องสาวเองยังแอบส่ายหน้าเบาๆ“อ้อ ครับ”ชายหนุ่มยิ้มรับก่อนจะเหลือบมองไปด้านหลังมาลินี“เชิญเลยครับสาวๆ”“ค่ะ”มาธาวีตอบรับแล้วหันไปพยักหน้าให้เพื่อนหลังเคานเตอร์“ไปเร็วปราง นานๆ ทีจะมีคนเลี้ยงข้าวเราสักที”คนถูกชวนเดินออกมาจากเคานเตอร์โดยไม่มีท่าทางอิดออดแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการดีใจใดๆ“คุณกลางไปกับพี่หนึ่งนะคะ เดี๋ยวสองกับปรางจะไปรถอีกคัน”“ไปด้วยกันก็ได้นี่ครับ”กิตติกรบอกพร้อมมองหน้ามาธาวีคล้ายตั้งคำถามอีกฝ่ายจึงยิ้มกว้าง แต่น้องสาวยังไม่ทันพูดพี่สาวก็เอ่ยขึ้นมาแทน“พอดีว่ารถหนึ่งรวนอีกแล้วน่ะค่ะ ที่มานี่ก็ให้เพื่อนมาส่ง กำลังจะโทรให้ร

  • ใต้เงาบุษบา    2.นางรำขวัญใจประชาชน (1)

    หน้าโรงเรียนของสามสาวพิมพ์ปรางเป็นคนพาเด็กนักเรียนที่ตนเองกับมาธาวีสอนลงมาส่งในตอนที่ผู้ปกครองโทรมาแจ้งว่ามารับแล้ว หญิงสาวไหว้อีกฝ่ายและยืนพูดคุยกันอยู่ด้านหน้าตึก ภาพนั้นอยู่ในสายตาของคนที่เพิ่งขับรถมาจอดเลยไปเล็กน้อยเพราะเห็นว่ามีรถขวางอยู่“ได้คุณครูเก่งๆ แบบครูปรางอีกไม่นานลูกพลอยต้องรำเก่งแล้วก็สวยเหมือนคุณครูแน่ๆ ใช่ไหมลูก”หนุ่มใหญ่ที่อยู่ในชุดเรียบร้อยบอกหน้ายิ้มแย้มแล้วหันไปหาลูกสาวอายุประมาณสิบเอ็ดสิบสองขวบที่รีบพยักหน้ารับ“น้องพลอยเก่งอยู่แล้วค่ะ ความจำดี ตัวอ่อน ตั้งวงสวยมากค่ะ”“ใช่ค่ะคุณพ่อ ครูปรางกับครูสองชมตลอดว่าน้องพลอยเก่ง แล้วน้องพลอยก็จะได้ฟ้อนเทียน ต๋ามผาง ปะตี๊ด ส่องฟ้า ฮักษาเมือง ในงานยี่เป็งด้วย คุณพ่อต้องถ่ายวิดีโอเอาไว้นะคะ”“งั้นเหรอลูก เอ...ว่าแต่เมื่อไรจะได้มีโอกาสดูคุณครูแสดงอีกบ้างล่ะครับ ผมยังจำตอนคุณครูเป็นจินตะหราเมื่อเดือนก่อนได้ติดตาอยู่เลย คุณครูสวยมาก”คนเป็นพ่อพูดไปยิ้มหวานไปในขณะที่ลูกสาวเงยหน้ามองอย่างไม่คิดอะไร ส่วนพิมพ์ปรางกระอักกระอ่วน“ครูจะฟ้อนเทียนกับพลอยด้วยค่ะ”“จริงเหรอลูก”การพูดคุยระหว่างคนสามคนนั้น ชายหนุ่มร่างสูงสมาร์ทที่ลงมายืน

  • ใต้เงาบุษบา    1.จินตะหรา (2)

    หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องของสองคนนั้นอีกเพราะสามสาวไม่ใช่พวกช่างเมาท์และมาธาวีไม่สนใจเรื่องของพี่สาวมากนัก กัญญานันเองก็รู้ดีว่ากิตติกรเป็นคนมีอัชฌาศัยดีกับผู้หญิงสวยๆ อยู่แล้วสามสาวตัดสินใจเลือกร้านที่การตกแต่งดูน่ารักร้านหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลสถานที่จัดงานนักเพื่อสั่งอาหารง่ายๆ มาทาน ระหว่างที่กำลังรอของที่สั่งอยู่นั้นสองหนุ่มสาวคู่เดิมก็เดินเข้ามาในร้าน คนที่เห็นก่อนก็คือพิมพ์ปรางแต่เธอแค่มีสีหน้าคาดไม่ถึง ไม่ได้พูดอะไรนอกจากมองนิ่ง มาธาวีจึงมองตามแล้วก็เห็นว่าพี่สาวของตนกับพี่ชายของเพื่อนก็มาร้านเดียวกัน หญิงสาวรีบหันไปเขย่าแขนกัญญานันให้ดูด้วยกัน แม้จะหันมองทั้งสามคนแต่ไม่มีใครยกมือเรียกพวกเขาเพราะต่างก็คิดว่าสองคนนั้นต้องการความเป็นส่วนตัว แต่คนที่เข้ามาทีหลังกลับมองมาทางพวกเธอเสียก่อน แล้วกิตติกรก็เดินนำมาลินีเข้ามาหา“พี่กลาง”กัญญานันลุกขึ้นตามนิสัยที่เป็นคนมารยาทดี สองสาวจึงลุกตามแล้วยกมือไหว้กิตติกร“สวัสดีค่ะ”มาธาวีเอ่ยขึ้นเพราะเธอเพิ่งเจอชายหนุ่ม แต่พิมพ์ปรางแค่ยกมือไหว้“มาทานข้าวกันเหรอ”ชายหนุ่มกวาดตามองสามสาวแวบหนึ่งพร้อมกับถาม“ค่ะ อยากกลับไปนอนกันเลยน่ะค่ะ”

  • ใต้เงาบุษบา    1.จินตะหรา (1)

    เสียงข้อความเข้าดังขึ้นทำให้คนที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วนั่งรอเพื่อนๆ หยิบมือถือของตนขึ้นมาเปิดดู เห็นเป็นข้อความจากพี่ชาย“น้องก้อยมายังไง ให้พี่ไปส่งไหม”กัญญานันเห็นกิตติกรแล้วตั้งแต่ตอนที่แสดงอยู่บนเวทีจึงไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายจะถาม หญิงสาวจึงโทรกลับไป“ว่าไงครับน้องก้อย”“พวกเรามารถสองกันน่ะค่ะพี่กลาง”“อ๋อ โอเค งั้นพี่กลับก่อนเลยนะครับ”“ค่ะ ว่าแต่พี่กลางมาที่นี่ได้ยังไงคะ”“ว่าจะทำตลาดเครื่องประดับไทยประยุกต์น่ะ ก็เลยมาหาไอเดีย”“แบบนี้นี่เอง ร้านเป็นยังไงบ้างคะ”“ก็ดีนะ เราเป็นแบนด์ที่คนรู้จักอยู่แล้ว เปิดสาขาเพิ่มคนก็สนใจ ถึงไม่ใช่ว่าคนที่เข้ามาทุกคนจะซื้อ แต่พี่ว่าพอไหว แล้วก็อยากเพิ่มสไตล์พื้นเมืองหรือไทยๆ เข้าไปด้วย น่าจะถูกใจคนที่นี่”“ค่ะ คนสมัยนี้เน้นความเป็นไทย ความเป็นพื้นเมือง ถ้าเขารู้สึกว่าซื้อแล้วจะได้ใช้เขาก็จะซื้อ”ระหว่างที่คุยกันพิมพ์ปรางที่เพิ่งเปลี่ยนชุดเสร็จเดินเข้ามาพร้อมกับถามด้วยสายตาว่าใคร กัญญานันจึงตอบแบบไม่มีเสียง“พี่กลาง”พิมพ์ปรางชะงักไปเพียงนิดเดียวเพื่อนสาวจึงไม่ทันสังเกต ก่อนจะเดินไปนั่งอีกมุมหน้ากระจกเช็ดเครื่องสำอาง“วันศุกร์เดี๋ยวพี่ไ

  • ใต้เงาบุษบา    บทนำ

    โอ้ว่าน่าเสียดายตัวนัก เพราะเชื่อลิ้นหลงรักจึงช้ำจิตจะออกชื่อลือชั่วไปทั่วทิศ เมื่อพลั้งคิดผิดแล้วจะโทษใครเสียแรงหวังฝังฝากชีวี พระจะมีเมตตาก็หาไม่หมายบำเหน็จจะรีบเสด็จไป ก็รู้เท่าเข้าใจในทำนองด้วยระเด่นบุษบาโฉมตรู ควรคู่ภิรมย์สมสองไม่ต่ำศักดิ์รูปชั่วเหมือนตัวน้อง ทั้งพวกพ้องสุริยวงศ์พงศ์พันธุ์แต่นี้สืบไปภายหน้า จะอายชาวดาหาเป็นแม่นมั่นเขาจะค่อนนินทาทุกสิ่งอัน นางรำพันว่าพลางทางโศกา[1] ความงดงามอ้อนช้อยที่ร่างแบบบางกำลังกรีดกรายตามคำตัดพ้อต่อว่า โดยมีร่างกำยำอีกร่างร่ายรำปลอบโยนทำให้กิตติกรจ้องมองไม่วางตาด้วยขุ่นขวางอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้สึกซึมซับประทับใจกับความอ่อนช้อยงดงามเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าบทละครนี้เขาเคยมีโอกาสได้ดูมาแล้วเพราะน้องสาวของเขาเรียนวิทยาลัยนาฏศิลป์มีงานให้แสดงเสมอไม่ขาด หลายครั้งก็มักจะเป็นบทละครรำเรื่องอิเหนาอย่างเช่นคราวนี้ และเขาก็แปลกใจเหลือเกินว่าทำไมต้องเป

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status