หลังจากที่หยวนชิงหลิงออกไป ได้พูดคุยกับพระสนมหลู่เฟยสองสามคำ “ตอนนี้อาการของท่านอ๋องดีขึ้นมากแล้ว ้เพียงแต่ท่านต้องระวังเรื่องอาหารการกินของเขา อย่าให้ใครลงมือทําเด็ดขาด" “เจ้ายังคิดว่ายังมีคนคิดลงมือกับเขาอีกหรือ?” พระสนมหลู่เฟยถามหยวนชิงหลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ยากที่จะพูด ระวังให้มากหน่อยก็ดีแล้วเพคะ” วันนี้นางได้ยินว่าพระสนมหลู่เฟยบอกว่าเมื่อวานนี้พระชายาจี้ป่วย ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย อ๋องจี้และภรรยาเป็นคู่สามีภรรยาที่มีแผนชั่วร้าย ถึงจะไม่แสดงออกมาแต่ทุกคนก็รู้ได้ ตอนนี้อวี่เหวินห่าวได้ตำแหน่งบัลลังก์ของกษัตริย์จวนจิงจ้าว เขาทั้งคู่จะดูผลงานการรักษาอ๋องหวยให้หายดีได้อย่างไร ดังนั้นพวกเขาจะต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะจัดการกับอ๋องหวย ทางที่ดีที่สุดอ๋องหวยเสียชีวิตจากการถูกวางยาพิษ ชี้ว่ายาของนางมีพิษ ถ้าอย่างนั้นหมอรักษาหลักคนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นแล้วพระสนมหลู่เฟยเชื่อในตัวหยวนชิงหลิงเป็นอย่างมาก หลังจากฟังคำแนะนำของนางแล้ว ก็สั่งให้คนจับตาดูอาหารการกินของอ๋องหวยอย่างไรก็ตาม ตอนเที่ยงอ๋องหวยมีอาการปวดท้อง อาเจียน และเวียนศีรษะโดยไ
อันที่จริงความคิดของอ๋องจี้ ฝ่าบาทน่าจะมองออกได้ชัดเจนที่สุด แล้วเหตุใดฮ่องเต้ถึงไม่เคยออกหน้ามายับยั้งไว้เลยเล่า? หากฮ่องเต้เข้ามาแทรกแซง เขาอาจไม่กล้าโอหังเช่นนี้หรือว่าฮ่องเต้จะทรงมีพระประสงค์ของพระองค์จริงๆ?แต่เป็นแบบนี้องค์ชายคนอื่น ๆ จะอยู่รอดได้อย่างไร? หยวนชิงหลิงอดกังวลไม่ได้ดวงใจอันศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจคาดเดาได้หยวนชิงหลิงถาม “พี่รอง ที่จริงเสด็จพ่อน่าจะเข้าใจดีกระมัง?” อ๋องซุนบางครั้งมีความคิดเห็นที่คาดไม่ถึง ดังนั้นจึงไม่เสียหายที่จะรับฟังความคิดเห็นเหล่านั้น อ๋องซุนส่ายหัว “ใครเล่าจะคาดเดาความคิดของเสด็จพ่อได้? อย่างไรก็ตามสําหรับข้าแล้ว ตราบใดที่ไม่โดนเสด็จพ่อดุก็ถือว่าขอบคุณสวรรค์แล้ว” นี่กลับเป็นกษัตริย์ที่รับหน้าที่สามารถกินจนอ้วนได้ อ๋องซุนไม่มีอนาคตจริง ๆ อ๋องซุนจ้องไปที่ขาหมูตุ๋นชิ้นนั้น เป็นชิ้นสุดท้าย หยวนชิงหลิงกินไปนิดเดียว ที่เหลือเขาจัดการหมดเลย“กินสิ ข้าไม่กินแล้ว” หยวนชิงหลิงพูดเมื่อรู้ว่าเขาอยากกิน อ๋องซุนเล็งตรงไป แล้วค่อย ๆ วางตะเกียบลง “ไม่กินแล้ว ลดน้ำหนัก”“ไม่กินจริง ๆ เหรอ?” หยวนชิงหลิงถามด้วยรอยยิ้ม อ๋องซุนมองดูอยู่ครู่หนึ่ง
รถม้าหยุดกะทันหัน อ๋องซุนเปิดม่านออกมาดู ซูยี่พูดอย่างเคร่งขรึม “โปรดอย่าเสด็จออกมา ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ” อ๋องซุนที่เพิ่งจะชะโงกหัวออกไปดูเหตุการณ์ รีบหดหัวกลับเข้าทันทีมีบางอย่างพุ่งผ่านอากาศอย่างรวดเร็ว เสียงลมตัดผ่านอากาศวูบผ่านข้างหูของซูยี่ไปถ้าซูยี่ไม่ได้หันหลบไปด้านข้าง ลูกศรคงพุ่งตรงทะลุหัวของเขาแล้ว “มีนักฆ่า!” ซูยี่โกรธจัดและให้สารถีรีบขับรถหนีไป เขาเหวี่ยงดาบปัดป้องลูกธนูยาวที่พุ่งเข้า หยวนชิงหลิงที่ได้ยินว่ามีนักฆ่า ในหัวของนางก็ตื่นตัวขึ้นทันที คนร้ายต้องการให้อ๋องหวยตาย ไม่ได้มีแค่การวางยาพิษวิธีเดียวเท่านั้นถ้าหากนางตายไปล่ะก็จะไม่มีใครรักษาอ๋องหวยอีก อ๋องหวยยังไงก็ตายอยู่ดี วันนี้นางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น จุดประสงค์ที่แท้จริงของศัตรูไม่ใช่แค่อ๋องหวยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนางด้วยมีนักฆ่าไม่มาก อีกทั้งยังไม่เข้าปะทะตรง ๆ ต่อหน้า แต่แค่ยิงธนูเข้าใส่ ธนูยิงตัดผ่านอากาศมาเร็วมาก ไม่ใช่ธนูหลายดอก ซูยี่เดาว่ามีนักฆ่าอยู่ประมาณสามคนได้ตราบใดที่ม้าไม่ได้ถูกยิงและขับรถม้าหนีออกไป ศัตรูก็จะตามไม่ทันและจะพอมีทางรอดได้ อย่างไรก็ตาม เห็น
“ข้าไม่เป็นไร ท่านอ๋องซุน รีบไปดูเร็วเข้าว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา?” หยวนชิงหลิงพูดด้วยความกังวล นางรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก สายตาที่มองไปยังข้างหน้าก็มืดมิดไปหมด นางก็ค่อย ๆ ล้มลงอย่างช้า ๆสติอันเลือนลางของนางได้ยินเสียงของอวี่เหวินห่าว เขาตบหน้านางเบา ๆเสียงนั้นเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว นางอยากจะลืมตาขึ้นมามาก อยากบอกเขาว่านางไม่เป็นไร ให้เขาไม่ต้องเป็นห่วง แต่นางไม่มีแรงที่จะลืมตาขึ้นความมืดปกคลุมเข้ามาเรื่อย ๆ เหมือนวังน้ำวนขนาดใหญ่ มันช่างน่ากลัวมาก นางหวาดกลัวมาก นางรู้ว่าเขาอุ้มนางขึ้น วิ่งออกไปอย่างเร็ว เขาเรียกชื่อนางตลอด แต่นางเจ็บปวดมาก เจ็บปวดเสียจนไม่อาจสลบลงไปได้ด้วยซ้ำ อวี่เหวินห่าวใกล้จะเสียสติไปแล้วเด็กรับใช้มาหาเขาที่สำนักผู้ตรวจการ บอกว่าพระชายาถูกลอบสังหาร นาทีนั้นเขาก็กระวนกระวายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเขาขับรถม้ามาที่นี่อย่างไม่คิดชีวิต แต่โชคดีที่เจ้าพนักงานฝู่เฉิงใจเย็น สั่งให้คนขับรถม้าไปเขาเห็นหยวนชิงหลิงจมกองเลือดและหัวใจของเขาแทบหยุดเต้น วันนี้ขณะที่เขาออกจากจวนอ๋องหวย นางยิ้มให้เขา รอยยิ้มนั้น วันนี้ก็ตราตรึงอยู่ในใจของเขาตลอด “อย่าหลับนะ พ
ในสมองของนางยังคงมีความคิดที่ชัดเจนมากอยู่อย่าง นั่นก็คืออ๋องซุน อ๋องซุนจะตายหรือไม่?นอกจากนี้พรุ่งนี้อ๋องหวยยังต้องใช้ยา แม้ว่าจะไม่ได้ฉีดยา แต่เขาก็ยังต้องกินยา โชคดีที่เมื่อคืนนี้ทิ้งยาไว้ 2 มื้อ นางต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ ถ้านางตาย อ๋องหวยก็จะขาดยา เขาจะขาดยาตอนนี้ไม่ได้ก็แค่เจ็บเอง ทำไมถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้ นางแค่บาดเจ็บที่ไหล่กับขาเท่านั้น ทำไมถึงเจ็บไปทั้งตัวแบบนี้ นางอยากจะร้องออกมา แต่นางพยายามใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีในร่างแล้ว แต่ก็ไม่สามารถเปล่งเสียงใดออกมาได้เลย นางได้ยินอวี่เหวินห่าวเรียกนาง แต่ไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือเปล่า เพราะเสียงไม่เหมือน เสียงของเขามันสั่นเทาอยู่ตลอดแบบนี้ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว ข้าจะผ่านไปให้ได้“ท่านอ๋อง น้ำร้อนมาแล้ว” นางข้าหลวงฉีกลัวมากเหลือเกิน คาดไม่ถึงว่าตอนที่มีคนพากลับมา สภาพของนางก็เหมือนตายไปแล้วครึ่งนึง“ข้ามาแล้ว!” หยูเหวินห่าวพูดเสียงสั่นตะกุกตะกัก ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยเลือด น่าจะเป็นเลือดของพี่รองที่กระเซ็นมาเปื้อนบนใบหน้าของนาง นางข้าหลวงสี่บอกว่าพี่รองช่วยชีวิตนางไว้ ถ้าไม่ใช่พี่รองช่วยบังธนูไว้ให้ ธนูดอกนั้นคงยิงตรงเ
อวี่เหวินห่าวเฝ้าอยู่ข้างเตียงมองหยวนชิงหลิงที่อาการย่ำแย่ หัวใจของเขามันเจ็บปวดแทบจะไม่ไหวจักรพรรดิหมิงหยวนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสบายใจ ลูกสะใภ้คนนี้เป็นคนที่เขาโปรดปรานมากที่สุด และก็มีความสามารถที่สุดเช่นกัน“กู้ซีอยู่ล่ะ? ข้าไม่ได้บอกให้เขาไปรับส่งนางทั้งเช้าและเย็นหรือ?” หลังจากที่จักรพรรดิหมิงหยวนสงสาร เขาก็เริ่มถามความผิดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมอวี่เหวินห่าวยังไงก็ไม่ยอมดึงกู้ซีเข้ามาเกี่ยวข้อง และกล่าวว่า “เสด็จพ่อ เป็นลูกเองที่บอกให้ เขาไม่ต้องไปรับ และลูกมีหน้าที่รับผิดชอบในการมารับนาง” จักรพรรดิหมิงหยวนกล่าวอย่างโกรธเคือง “นั่นเป็นความไม่รับผิดชอบของเขา เด็กคนนี้นับวันจะเชื่อถือไม่ได้แล้ว”อวี่เหวินห่าวเหลือบมองหยวนชิงหลิงอย่างกังวล เสด็จพ่อก็ูดเสียงดังโหวกเหวกที่นี่ ไม่รู้ว่ารบกวนนางหรือไม่เสด็จพ่อพระองค์รีบร้อนไป พระองค์ไม่ได้ช่วยอะไรมากถูกรบกวนจริง ๆ หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าอยู่ในกระแสน้ำวน ฟ้าร้องมาเป็นระลอก จนแก้วหูสะเทือนเจ็บไปหมดแล้วตอนนี้นางไวต่อความเจ็บปวดมากอย่างไรก็ตาม เสียงนี้ทำให้นางค่อย ๆ ก้าวออกจากวังวนสีดำขนาดใหญ่ได้ ความคิดที่แต่เดิมลอยอยู่เหนือกร
อวี่เหวินห่าวคุกเข่าอยู่หน้าเตียง ยื่นมือออกไปโอบศีรษะของนาง และลูบใบหน้าของนาง คำพูดปลอบโยนสักคำก็พูดไม่ออก เพียงแค่บางครั้งก็ใช้ริมฝีปากของความกังวลจูบไปที่หน้าของนาง ใช้ที่หน้าผากชิดเข้าหากัน หยวนชิงหลิงรู้สึกความวิตกกังวลและปวดใจของเขา นางพยายามอย่างมากที่จะกลั้นมันไว้ เจ็บปวดมากจนนางทนไม่ไหวจึงต้องร้องออกมา นางก็อ้าปากและสูดหายใจเข้าลึก ๆ อย่างนี้ก็จะทนได้หนึ่งชั่วยามเต็ม ๆ หยวนชิงหลิงก็ไม่สามารถทนกับความเจ็บปวดได้ ร่างกายของนางก็เริ่มกระตุกเนื่องจากความเจ็บปวด เหงื่อไหลเต็มตัวไปหมด เหงื่อที่หน้าผากเม็ดใหญ่ ๆ ไหลรวมกับน้ำตาที่ไม่สามารถกลั้นได้ “เจ็บ...” นางเจ็บจนเข้ากระดูก ตรงไหล่เจ็บที่สุด ลูกธนูปักเข้าไปถึงกระดูก ราวกับว่ากระดูกน่าจะแตกหรือร้าวไปแล้ว ความเจ็บปวดนั้นมาเป็นระลอก ๆอวี่เหวินห่าวเช็ดน้ำตาของนาง ได้ยินนางบอกว่าเจ็บ หัวใจของเขาก็เริ่มเจ็บปวดตามไปด้วย เขาหันกลับไปที่หมอหลวงและพูดอย่างเกรี้ยวโกรธ “เจ้ารีบคิดหนทางสิ!“ยาจื่อจิน” หมอหลวงยังไงก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ คุกเข่าลงและพูดว่า “ท่านอ๋องยังมียาจื่อจินอยู่หรือไม่? ยาจื่อจินสามารถช่วยระงับได้ชั่วขณะหนึ่ง”“ข้ามียา
ถังหยางได้ยินการปฏิเสธของสนมหลู่เฟย รู้สึกใจหายขึ้นมาวูบหนึ่ง เขาทำได้แค่ขอกับอ๋องหวย “หามิได้ ไม่ใช่ท่านอ๋อง แต่เป็นพระชายา เมื่อคืนนี้ พระชายาถูกลอบฆ่าระหว่างทางกลับจากจวนอ๋องหวย พระชายากับอ๋องซุนพวกเขาทั้งหมดได้รับบาดเจ็บสาหัส อ๋องซุนมียาจื่อจิน แต่พระชายาไม่มี พระชายากำลังตกอยู่ในอันตราย ข้าขอร้องอ๋องหวย ท่านได้โปรดมอบยาจื่อจินให้ข้าด้วยเถิด ท่านอ๋องของข้าจะจดจำบุญคุณนี้ไม่มีทางลืม”สนมหลู่เฟยและอ๋องหวยตกตะลึงกันทั้งคู่ สนมหลู่เฟยยืนขึ้นและกล่าวอย่างรีบร้อนว่า “พระชายาฉู่ถูกลอบสังหารอย่างนั้นหรือ? ใครเป็นคนทำ?”ถังหยางส่ายหัว “ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายต้องการจะฆ่าพระชายาเพื่อไม่ให้อ๋องหวยมีอาการดีขึ้น เมื่อพระชายาสิ้นพระชนม์ อ๋องหวยก็จะไม่มีชีวิตอยู่รอด”ถังหยางไม่รู้ว่าเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า แต่ตอนนี้เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ทำได้แค่พูดแบบนั้นสนมหลู่เฟยตกใจ หน้าซีดทันที“เสด็จแม่ รีบไปนำยาจื่อจินมา ข้าเก็บอยู่ในกล่องในลิ้นชัก” อ๋องหวยกล่าวอย่างร้อนลงสนมหลู่เฟยลุกขึ้นยืนด้วยความสับสน เดินไปที่ลิ้นชักของตู้ เปิดออกอย่างมึนงง แล้วหยิบกล่องสีทองกล