เอื้อยฟ้า อรลออ ฉายานางฟ้าลูกทุ่ง ในวัยห้าสิบเอ็ด หล่อนขึ้นเป็นผู้บริหารคู่กับวิลลี่ ดำรงไท ในบริษัทเบต้าคีย์ หล่อนไม่ได้ทำเพลงใหม่อีกแล้ว แต่สนับสนุนนักร้องใหม่ๆ ในสังกัด...รับนักร้องทั้งหญิงและชายมาทำงาน...แต่ความจริงคือทุกคนแค่ “พอขายได้” แต่ไม่มีใครดังสักคน
ไม่สามารถปั้น นางฟ้าลูกทุ่งเพิ่มได้อีก
และตอนนี้เริ่มจะเบนเข็มไปปั้นนักร้องชายเพื่อจะให้เป็นเทวดาลูกทุ่ง...สักคน
เอื้อยฟ้ามองเห็นใครคนหนึ่งที่น่าสนใจ ในมือหล่อนถือเรื่องราวของ “ต้าร์ แทมโป้” เอาไว้...พอดีกับสามีเดินเข้ามาในห้อง
“ดูอะไร” เขาเอ่ยถาม วิลลี่หนุ่มลูกครึ่งรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดี และเขาทำเพลง...แถมยังทำเพลงลูกทุ่ง...นักร้องคู่บุญเบต้าคีย์คือเอื้อยฟ้า ซูยองฮวา ลูกครึ่งเกาหลีไทย เป็นตัวทำเพลงทำเงิน...
วันนี้แม้ชื่อเสียง การทำเงินของหล่อนจะ “เบา” ลงไปจากเดิม แต่ยังเรียกว่าได้อยู่ มีรายได้เข้ามาหลายทาง...เอื้อยฟ้าวาง “จุดยืน” ตัวเองเอาไว้สูงมาก หล่อนเป็นนักร้องชั้นบน...มีเพลงฮิตติดลมเป็นสิบเพลง...หล่อนเริ่มรับเชิญไปตามรายการต่างๆ ในฐานะกรรมการตัดสินการประปวด....
วิลลี่ก็ผลักหล่อนไปกับรายการพวกนั้นอยู่สามรายการด้วยกัน
หล่อนเจอกับนักร้องหน้าใหม่....ได้เห็นแววของคนใหม่ๆ ที่ร
แต่หลายรายยังผลักไปไม่ได้สุด
แต่คนในมือ...ดูน่าสนใจ
“ต้าร์ แทมโป้”
หล่อนวางภาพเขาลงบนโต๊ะตรงหน้า
วิลลี่โอบบ่าหล่อนอยู่ ชะโงกดู
“เขาเคยประกวดรายการที่บ้านเติมฝัน....แต่ไม่ได้ชนะ ได้ตำแหน่งรอง”
ก่อนหล่อนจะวางภาพอีกคนลงไป
“ใคร...คนนี้”
“เดชชนะ คูนแคน”
วิลลี่ชะงักกึก
“ไม่เคยมาเข้าบ้านเติมฝัน”
เสียงเอื้อยฟ้าเอ่ยต่อ
“แล้ว...”
“เขาร้องเพลงด้วยกัน บนเวทีที่มีชื่อบนแบล็กดอร์ปข้างหลังว่าคูนแคน...”
“ก็...เป็น...”
“มีคูนแคนหนุ่มสองคน...” เสียงเอื้อยฟ้าเอ่ย “คนนี้เป็นพี่...อีกคนเป็นน้อง”
“คนไหน...น้อง”
“ต้าร์ แทมโป้”
แล้วหล่อนก็ถอนใจ
“หากเขามีเลือดฉัน...ดีเอ็นเอ เลือดฉันในนั้น...เราต้องเอาตัวเขามา”
“ยังไงหรือ ที่รัก” เขายังตามความคิดขอวหล่อนไม่ทัน
“ฉกตัวมาจากคูนแคน มาปั้นที่เรา...หวังแค่ว่ามันคงเห็นแก่แม่ของมันบ้างเท่านั้น”
วิลลี่คลายมือจากไหล่นั้น เขาคิดหนักทีเดียว
เอื้อยฟ้าตบหลังมือเขาเบาๆ แล้วหอมแก้มเขาอีกด้วย
“ฉันรักคุณนะ วิลลี่” หล่อนยังยืนยัน “ฉันตามคุณมา...มาเริ่มต้นใหม่...แต่วันนี้เราจำเป็นต้องปั้นนักร้องใหม่ให้ติดลมบน...คนไทยมีภาษิตว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น พ่อแต่งเพลง แม่เป็นนักร้องระดับตัวแม่...”
หล่อนมองไปที่ต้าร์ แทมโป้...
“อยู่ที่ว่าเราจะเอาตัวเขามาได้ยังไงเท่านั้น”
ความจริงคือหล่อนยังกลัวที่จะกลับไปที่นั่นอีกครั้ง
กลัว
ไม่ได้ละอายใจ
ดำรงคงไม่ยอมรับหล่อน
ไหนจะนายดุ่ย ไหนจะยายดวง
สองคนหลังนี่ชังหล่อน...ยายดวงเคยโทร.มาด่าหล่อนสาดเสียเทเสียเมื่อตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ แรงกว่าพ่อผัวหล่อนเสียอีก
และเอื้อยฟ้าคิดเสมอว่าลูกก็เป็นลูก
หล่อนเคยดูแต่ละครไทยๆ เวลาแม่ลูกแท้ๆ เจอกัน...จะมีแต่ความปลื้มปิติยินดี
ต้าร์ แทมโป้จะต้องยอมรับหล่อนได้
โดยหล่อนลืมคิดถึง เดชชนะ คูนแคน
ลืมไปว่าเขาพกอะไรในใจไว้บ้างกับการถูกทิ้งและเขารู้ความจริงตลอดมา
“วิลลี่คะ หาวิธีเอาตัวเขามา ต้าร์ แทมโป้...หรือ
ตฤณ คูนแคน”เขายิ้มรับ พยักหน้า ก่อนที่จะสะดุ้งกันทั้งสองคน...เมื่อประตูห้องนี้เปิดเข้ามา โดยไม่มีการเคาะประตู
เอื้อยฟ้าเอ่ยเบาๆ เสียงเครียดไม่พอใจ
“หลานสาวตัวดีของคุณไม่มีมารยาทอีกแล้ว”
ผู้หญิงที่ก้าวเข้ามา ปิดประตูตามหลังคือ
เอกนรี ดำรงไท
หลานสาวแท้ๆ หลานลุงบองวิลลี่ หลานสาวคนเดียว คนโปรดเพราะดูแลกันมาตั้งแต่เธออายุสิบปี...ดูแลเต็มตัวเพราะพ่อแม่ของเอกนรีเสียชีวิตกันทั้งสองคน พ่อของเธอเป็นน้องชายของเขา...มีชื่อสกุลเป็นไทย...และแม่ของเอกนรีเป็นสาวสวย...มีดีกรีนางงาม
พ่อแม่ของเธออายุสั้นด้วยกันทั้งคู่ กับอุบัติเหตุทางเครื่องบิน
“มีอะไร หน้าตาเครียดมากเชียว นรี”เธอถอยไปยืนพิงประตูห้อง ยกมือกอดอกเอาไว้“นรีบอกลุงแล้วว่าไม่สนับสนุนการทำพีอาร์ให้กับแม่คนนั้น”แม่คนนั้น คอแข็ง เมื่อเอกนรีพยักพเยิดมาหา“ไยจะไปล้อบบี้เด็กๆ ของนรีอีก นรีเห็นโปรไฟล์ที่ทำมาแล้ว ต่อให้จ่ายเป็นล้านๆ ก็ไม่รับ เข้าใจไหมคะ...แล้วอย่าล้ำเส้นกันอีก ไปจ้างคนอื่นทำ”“นรี...แค่ไลฟ์สด..และพูดถึง...”“ไม่...จะไม่ทำ ไม่ออกชื่อ ไม่ให้พื้นที่...อย่าว่าแต่ไลฟ์สด ในบล็อก ในเพจ ในติ๊กต๊อก ใน REALS ในทุกพื้นที่ของนรี...ไม่...ไม่...และไม่”เธอออกเสียงรัวๆ เกรี้ยวกราด ดวงตาส่งประกายชิงชังออกมา“ตกอับ อยากชุบตัวใหม่ไปทำที่อื่น”ตกอับ...เอื้อยฟ้าจี๊ดทันที...“จะมากไปแล้วนะ เอกนรี”เรียกชัด ลุกยืน...ทำท่าพร้อมลุยใส่ทันทีเอกนรีก็ไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย เธอพร้อมจะปะทะด้วยเต็มที่“ฉันไม่ได้เป็นคนต้นคิด”เอกนรีเบะปาก แม้จะหน้าตาสะสวย แต่การทำหน้าตาเกเรเช่นนี้ทำให้เธอดูเหมือนนางร้าย...ไม่เหมือนกับที่ประกาศว่าเธอเป็นนางเอก“อ้างลุงอีกละ ว่าไงคะ ลุง...เมียรักของลุงเค้าโยนมาให้ลุงเป็นคนจัดการ ยอมรับกันหน่อยดีไหม”วิลลี่ทำหน้าตาเหมือนอธิบายยาก“ช่วยกันหน่อย”“
“นายก็ร้องเพลงฉันได้ทุกเพลง..ขึ้นเวทีแทนฉันได้ทุกเวลา แฟนฉันหันไปหานายก็เยอะ” เสียงหงุดหงิดไม่น้อย “ทำไมวะ เดช ทำไมนายไม่ทำออกหน้าไปเลย มาดันฉันทำไม”เดชชนะยื่นหน้ามาใกล้ ดวงตาดำใหญ่มองมาตรงๆ ประกายตานิ่ง ไม่มีการตำหนิ ไม่มีการเบื่อหน่าย“เพราะฉันทำได้ไม่ดีเท่านาย” เสียงหนักแน่น จริงใจ “ฉันรู้ว่าฉันไม่มีความสามารถเท่านาย แก้วเสียงฉันไม่ได้เท่านาย และฉันไม่มีเสน่ห์ เวลาร้องเพลงเท่านาย”“เฮ้ย อย่ามาถล่ม”“ฉันพูดจริง”แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นทั้งหมด เพราะความจริงมีอยู่ว่าเสียงของเดชชนะมีเสน่ห์ แก้วเสียงชัด ใส และมีความคม...แต่ฟังเผินๆ จะเหมือนร้องแทนกันได้ ส่วนหน้าตาน่ะหรือ...เพราะมีแม่เป็นสาวลูกครึ่งเกาหลี...หน้าตาสะสวย แม้เอื้อยฟ้าจะไปทำศัลยกรรมเพิ่มเติมให้ความงามของหล่อนคมชัดเจนมากกว่าเดิม แต่ความจริงคือหล่อนสวย คิ้ว ตา จมูก ปาก ถูกจัดวางบนโครงหน้าที่ได้รูป และผิวนั้นอีก...ผิวสาวเกาหลีแม้จะผสมเลือดไทย แต่ผิวของหล่อนสวยนัก ขาวเนียนละเอียด ผิวนั้นตกทอดมาถีงเดชชนะด้วยขณะที่เอ๋ อัจฉราผิวสีเข้ม ไม่ถึงกับดำ สีผิวนั้นไปทางต้าร์ และต้าร์ก็เคยสงสัยว่าทำไมผิวของเดชนะผิดพ่อผิดแม่ดำรงก็
“เราจะเสียเวลากับการที่นายเหลวไหลไม่ได้ เราจะต้องทำเพื่อพ่อ เข้าใจไหม”และเมื่อเดชชนะเดินออกมา เขาเจอกับอัจฉราที่มารออยู่“เรียบร้อยครับ แม่...เขาดูท่าจะเชื่อฟังดี...”“เดช อย่าลืมก๊อกสองเผื่อนะ” นั่นเพราะรู้นิสัยกันดีเดชชนะอมยิ้ม“ผมพูดจริงนะเรื่องส่งตัวไปบ้านชีวิตใหม่”เขาย้ำ “แพงแค่ไหนก็จะส่งไปลิ้มลองรสชาติ...การบำบัดจริงจัง...เราใจดีกับเขามามาก ต้องใจร้ายบ้างแล้ว”อัจฉราทำหน้าตกใจบ้างเหมือนกัน แต่แล้วก็รีบระงับโดยเร็ว พยักหน้าเหมือนเห็นด้วย“ขอบใจที่เดชดูแลต้าร์ตลอด”เขาจับสองมือของอัจฉรามากุมแน่น“แม่เอ๋...เขาเป็นพี่ชายผม แม้เขาจะคิดว่าเขาเป็นน้อง พี่น้องกันต้องดูแลกัน รักกัน เราโตมาด้วยกัน...จะมีให้ผมเสียใจเรื่องเดียวเท่านั้น”“เรื่องอะไร”“ผมน่าจะเป็นพี่เขาจริงๆ เกิดก่อนเขาสักสองปีก็พอ...ผมจะดึงเขาไว้จากสิ่งที่เขาเป็นทุกวันนี้”อัจฉราร้องไห้ “แม่ผิดเองที่อบรมเขาไม่ดีพอ”“แม่สอนเขาเท่าสอนผม แม่เอ๋ แต่ต้าร์อ่อนแอไปเอง ความอ่อนแอทำให้เขาเลือกจะใช้ยา ใช้ผู้หญิงเพื่อทำให้ตัวเองเหมือนหลบจากโลกความจริงไปเสพความเมา ไปเสพเซกส์ ทำให้ลืมบางอย่าง ต้าร์เกิดมาพร้อมกับปัญหา”นี่คือเดชชน
มยุรี...เพื่อนเก่าเดินเข้ามานำเสนอ เพื่อนเก่า ชู้รักคนเก่าตั้งแต่กลับมาจากจีนก็ได้มา “หยุมหัว” กันมากเกินหนึ่งครั้ง ต้าร์ ตฤณ เหมาะที่จะเป็นอาหารจานว่างให้หล่อนลิ้มลองและสะสมแต้มหล่อนผู้เชื่อว่าเรื่องผู้ชายคือความบันเทิงคือสีสันชีวิตคนหนึ่งก็รสหนึ่ง ต้าร์ก็เป็นอีกรสที่หล่อนไม่ชอบคือเขาร้องเพลงลูกทุ่ง...หากร้องเพลงอื่นน่าจะดีกว่าที่จริงหล่อนอยากให้อีกคนมาด้วย ขึ้นเวทีด้วยเดชชนะ คูนแคนพี่ชายของต้าร์ เมญานีสนใจเขามาก เขาดูหล่อใสกว่าต้าร์และที่แน่ๆ หล่อนยังยื่นมือแตะตัวเขาไม่ได้ไม่เคยได้การโอบกอดไม่เคยได้จูบดูเป็นของยากแต่ท้าทายนี่หล่อนเตรียมตัว...วันนี้หล่อนมีนัดกับต้าร์ก่อนเขามาเปิดการแสดง และเมื่อเจอกัน หล่อนก็ได้รับของฝากที่เขาเอ่ยชวน...ดื่ม...เมา...เซกส์ บันเทิงกันสุดขีดและหล่อนเอ่ยถามเมื่อกำลังไต่ขอบสวรรค์ชั้นเจ็ด“สนใจอยากสามคนกันไหม ต้าร์”ตฤณชะงัก “ถามอะไร”“แค่ชวนเดชมาอีกคน...”“เฮ้ย บ้า ไม่เอาด้วย เมญ่า ให้เดชมันมากระทืบเรากันหรือ มันไม่มาสามคนผัวเมียกับเราหรอกนะ กับเธอด้วย เมญ่า มันเคยมองเธอที่ไหนกันเล่า”////////////////////////////////////////“ฉันแวะมา
มยุรีพยักหน้ารับ“โอย...นอกจากจะเป็นแม่นางฟ้านรก ยังเป็นแม่ใจร้ายด้วย นายต้าร์นั่นรู้ไหม...”มยุรีส่ายหน้าไปมา“ไม่มีใครบอกเขาหรือ”“ทุกอย่างเป็นความลับ น้าดำรงมียัยเอ๋ อัจฉรา ที่อุ้มท้องมาให้น้าดำรงรับเป็นพ่อ แล้วมารับนายต้าร์นี่เป็นลูกตอบแทน...ปิดบังฐานะแม่แท้จริงไว้”เอกนรีตาลอยๆ ลำดับเรื่องราว ก่อนจะออกปากว่า“ทั้งลุงฉัน และยัยป้านั่นเป็นคนที่ใช้ไม่ได้เลยนะ คนนึงก็ไม่เอาลูกตัวเอง อีกคนก็ยังทำให้ยัยป้าใจดำไม่รับลูกมาดูแล...คนอะไร..กี่ปีแล้ว พูดก็พูดนะ ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องลูกของยัยเอื้อยฟ้าเลย...นางทำเหมือนไม่เคยเป็นแม่คน หรือเพราะนางเป็นแม่ใครไม่ได้”เป็นคำสบประมาท หมิ่นแคลนรุนแรงนัก“ฉันจะเจอนายต้าร์นั่นได้อย่างไร”“เขาจะมาร้องเพลงเปิดตัวห้องอาหารที่นี่ คืนนี้แหละที่โรงแรมนี้...ห้องอาหารอิสานเปิดใหม่...ได้ยินมาว่าอาหารอร่อยล้ำนัก...หากชอบส้มตำ...ลาบก้อย...อะไรพวกนี้นะ”และเป็นการพบกันโดยที่เอกนรีบอกว่า “ไม่ต้องแนะนำฉันนะ ขอดูอยู่ห่างๆ”เธอบอกเช่นนั้น มยุรีทำตาม...ถึงเวลา ที่ห้องอาหารที่เปิดใหม่ เอกนรีได้โต๊ะด้านข้างเวทีแต่อยู่ด้านหน้าจะมองบนเวทีได้ชัด แถมยังมีมุมเล็กๆ ที่จะหล
“แปลว่าต้าร์ยังไม่ได้ร้อง”“ยัง...ไม่มีเวลาให้เลยไงล่ะ...คืนนี้คงไม่ทัน เอาเพลงเก่าไปก่อน...”เขามองไปที่เอกนรีอีกหน ก่อนจะบอกกับมยุรีว่า“แนะนำให้เรารู้จักเพื่อนเธอได้ไหม ยุ”“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้...ไปตอนนี้เลย...” หล่อนคว้าข้อมือเขา “สักสองนาที...นรีเป็นคนเก่งนะ เก่งมากด้วย”“เก่งด้านไหน...สายเดียวกับเธอไหม”“ก็สายเดียวกัน แต่นรีไปทำบริษัทเล็กๆ แล้วก็เป็น ยูทูปเปอร์ เป็นที่ปรึกษาด้านความงาม...ด้านการทำคอนเท้น”“อือ หลายอย่างนะ”“ก็บอกแล้วไงว่ามีความสามารถ มากกว่านักการตลาดพื้นๆ แบบฉัน...” มยุรีปลื้มเพื่อน เดชชนะบอกตัวเอง ดูแสดงออกอย่างจริงใจยิ่ง“คนนี้ล่ะที่เราอยากเอามาช่วยทำวงคูนแคน”“หือ...ได้หรือ”เมื่อมาถึงโต๊ะ มยุรีก็เอ่ยแนะนำ“นรี...รู้จักญาติฉันหน่อย...เขาชื่อเดชชนะ ส่วนนี่เพื่อนเรานะ เดช ชื่อเอกนรี...”อายุน่าจะรุ่นเดียวกัน เธอมองแล้วยื่นมือมาจับ...เขาจับมือหล่อน มีอะไรบางอย่างวิ่งผ่านมือมาเธอนึกในใจว่า...ลูกไม่มีพ่อมีพลังที่ถ่ายทอดความอบอุ่นได้ด้วยวุ้ย...เพราะเธอรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เธอมีครูที่สอนเรื่องพลังจากมือให้...เป็นความรู้ติดตัวเกี่ยวกับด้านโหราศาสตร์ลายมือด้วย ล
เหตุการณ์สงบลงได้เพราะทีมกฏหมายที่เป็นพ่อของมยุรีเข้ามาช่วยเคลียร์ให้...แน่นอนว่าทุกอย่างมีราคา...มยุรีหัวเสียมากกับเรื่องนี้ราวกับเกิดกับตัวเอง เอกนรีกำลังเก็บเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับเข้ากรุงเทพฯ และเพื่อนมาหาเธอในห้องตอนสายวันต่อมา“ฉันว่ายัยเอื้อยฟ้าทำเกินไปละ เพลงของตัวที่ไหน”“ยัยนั่นทำได้ทุกอย่าง แต่เพิ่งมาจับหรือเปล่า...”“นั่นละ ที่ฉันกับพ่อสงสัย ก่อนหน้านี้ไม่เคยมาสนใจอะไร”“คงจะต้องมีแผนแน่ๆ...และคนที่มาออกหน้าจัดการก็อีตาลุงของฉันผ่านตัวแทน”เมื่อตอนบุกเข้าจับ เธอยังจำได้ ต้าร์เอะอะโวยวายจะไม่ยอม...แต่เดชชนะพาต้าร์ไปจากเวทีเสียก่อน ดูท่าทางเขาคุมสติได้ดีทีเดียว…“ถ้านายต้าร์เป็นลูกชายเอื้อยฟ้า ทำแบบนี้หมายความว่าไง รังแกลูกตัวเองไหม พวกเขาต้องการอะไร” มยุรีเอ่ยปากถาม“ฉันพอจะรู้อะไรบางอย่าง อยากรู้ไหม”“บอกมา”“พวกเขากำลังหาตัวนักร้องคนใหม่ไปเข้าสังกัด”“หานักร้อง แล้วเกี่ยวอะไรด้วย”“จะมาเอาตัวลูกคืนล่ะมั้ง”มยุรีนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยเสียงรัวๆ “ความจริงจะเปิดเผยหรือไร”“รอดู แต่คนอย่างลุงฉันจับมือกับยัยเอื้อยฟ้า มีแต่นรกเปิด...ผู้คนจะเดือดร้อน พวกเขาทำในสิ่งที่ตัวเองต้อง
ใช่ ค่ำนี้เธอมีนัดกินข้าวกับอาทร...หลังจากเธอกับเขาไม่ได้กินข้าวหรือเจอกันมาเกือบสองเดือนอาทรมีงานแน่นมาก และเขามีเดินสายไปทั้งต่างประเทศและต่างจังหวัด ในงานของเขาเขาบ้างาน...เอกนรีเคยคิดว่าที่จะเป็นมารความรักของเธอกับเขาคือเรื่องนี้นี่เอง...และเธอก็ตกปากรับคำจะไปนั่งจิบกาแฟที่มาแลร์นาดูสักหน...และเมื่อมาถีงร้าน...วันนี้เธอเจอกับเจ้าของร้านด้วยตัวเองร้านน่าร้ก...เขาตอบแกมหัวเราะว่า“มาแลร์นา...มาแลนา ภาษาไทยเลยครับ มาดูนา...เห็นไหมครับนั่น”เขาชี้ให้ดู ท้องนาสีเขียว ข้าวกำลังเติบโต...“นี่...เดช ยัยนรีอาจจะเก่งทุกอย่าง แต่ฉันเชื่อว่าบางทีเค้าแยกหญ้ากับข้าวไม่ได้”ได้หัวเราะพร้อมกันทั้งสองคน เอกนรีมองค้อนเพื่อนและเอ่ยราวกับจะแก้ตัวว่า “ฉันแยกเป็นย่ะ...มีอยู่สองอย่างที่ฉันแยกไม่เคยได้ ยาสูบกับคะน้า...เผือกกับบอน”เดชชนะมองหน้าเธอ เขาเห็นสาวสวยคนหนึ่ง ที่แบกความเชื่อมั่นในตัวเองไว้เต็มที่...ท่าทางมั่นใจ...เมื่ออยู่ใกล้กับญาติของเขาที่เขาคุ้นชิน...มยุรีก็เป็นสาวมั่นคนหนึ่งแต่เขาคิดว่ามยุรีมีน้อยกว่าเอกนรีแน่นอนทั้งสวยทั้งมั่นใจ และยอมรับความจริง“ไม่แค่นั้นหรอก นรี” มยุรีค้าน “
ใช่ ค่ำนี้เธอมีนัดกินข้าวกับอาทร...หลังจากเธอกับเขาไม่ได้กินข้าวหรือเจอกันมาเกือบสองเดือนอาทรมีงานแน่นมาก และเขามีเดินสายไปทั้งต่างประเทศและต่างจังหวัด ในงานของเขาเขาบ้างาน...เอกนรีเคยคิดว่าที่จะเป็นมารความรักของเธอกับเขาคือเรื่องนี้นี่เอง...และเธอก็ตกปากรับคำจะไปนั่งจิบกาแฟที่มาแลร์นาดูสักหน...และเมื่อมาถีงร้าน...วันนี้เธอเจอกับเจ้าของร้านด้วยตัวเองร้านน่าร้ก...เขาตอบแกมหัวเราะว่า“มาแลร์นา...มาแลนา ภาษาไทยเลยครับ มาดูนา...เห็นไหมครับนั่น”เขาชี้ให้ดู ท้องนาสีเขียว ข้าวกำลังเติบโต...“นี่...เดช ยัยนรีอาจจะเก่งทุกอย่าง แต่ฉันเชื่อว่าบางทีเค้าแยกหญ้ากับข้าวไม่ได้”ได้หัวเราะพร้อมกันทั้งสองคน เอกนรีมองค้อนเพื่อนและเอ่ยราวกับจะแก้ตัวว่า “ฉันแยกเป็นย่ะ...มีอยู่สองอย่างที่ฉันแยกไม่เคยได้ ยาสูบกับคะน้า...เผือกกับบอน”เดชชนะมองหน้าเธอ เขาเห็นสาวสวยคนหนึ่ง ที่แบกความเชื่อมั่นในตัวเองไว้เต็มที่...ท่าทางมั่นใจ...เมื่ออยู่ใกล้กับญาติของเขาที่เขาคุ้นชิน...มยุรีก็เป็นสาวมั่นคนหนึ่งแต่เขาคิดว่ามยุรีมีน้อยกว่าเอกนรีแน่นอนทั้งสวยทั้งมั่นใจ และยอมรับความจริง“ไม่แค่นั้นหรอก นรี” มยุรีค้าน “
เหตุการณ์สงบลงได้เพราะทีมกฏหมายที่เป็นพ่อของมยุรีเข้ามาช่วยเคลียร์ให้...แน่นอนว่าทุกอย่างมีราคา...มยุรีหัวเสียมากกับเรื่องนี้ราวกับเกิดกับตัวเอง เอกนรีกำลังเก็บเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับเข้ากรุงเทพฯ และเพื่อนมาหาเธอในห้องตอนสายวันต่อมา“ฉันว่ายัยเอื้อยฟ้าทำเกินไปละ เพลงของตัวที่ไหน”“ยัยนั่นทำได้ทุกอย่าง แต่เพิ่งมาจับหรือเปล่า...”“นั่นละ ที่ฉันกับพ่อสงสัย ก่อนหน้านี้ไม่เคยมาสนใจอะไร”“คงจะต้องมีแผนแน่ๆ...และคนที่มาออกหน้าจัดการก็อีตาลุงของฉันผ่านตัวแทน”เมื่อตอนบุกเข้าจับ เธอยังจำได้ ต้าร์เอะอะโวยวายจะไม่ยอม...แต่เดชชนะพาต้าร์ไปจากเวทีเสียก่อน ดูท่าทางเขาคุมสติได้ดีทีเดียว…“ถ้านายต้าร์เป็นลูกชายเอื้อยฟ้า ทำแบบนี้หมายความว่าไง รังแกลูกตัวเองไหม พวกเขาต้องการอะไร” มยุรีเอ่ยปากถาม“ฉันพอจะรู้อะไรบางอย่าง อยากรู้ไหม”“บอกมา”“พวกเขากำลังหาตัวนักร้องคนใหม่ไปเข้าสังกัด”“หานักร้อง แล้วเกี่ยวอะไรด้วย”“จะมาเอาตัวลูกคืนล่ะมั้ง”มยุรีนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยเสียงรัวๆ “ความจริงจะเปิดเผยหรือไร”“รอดู แต่คนอย่างลุงฉันจับมือกับยัยเอื้อยฟ้า มีแต่นรกเปิด...ผู้คนจะเดือดร้อน พวกเขาทำในสิ่งที่ตัวเองต้อง
“แปลว่าต้าร์ยังไม่ได้ร้อง”“ยัง...ไม่มีเวลาให้เลยไงล่ะ...คืนนี้คงไม่ทัน เอาเพลงเก่าไปก่อน...”เขามองไปที่เอกนรีอีกหน ก่อนจะบอกกับมยุรีว่า“แนะนำให้เรารู้จักเพื่อนเธอได้ไหม ยุ”“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้...ไปตอนนี้เลย...” หล่อนคว้าข้อมือเขา “สักสองนาที...นรีเป็นคนเก่งนะ เก่งมากด้วย”“เก่งด้านไหน...สายเดียวกับเธอไหม”“ก็สายเดียวกัน แต่นรีไปทำบริษัทเล็กๆ แล้วก็เป็น ยูทูปเปอร์ เป็นที่ปรึกษาด้านความงาม...ด้านการทำคอนเท้น”“อือ หลายอย่างนะ”“ก็บอกแล้วไงว่ามีความสามารถ มากกว่านักการตลาดพื้นๆ แบบฉัน...” มยุรีปลื้มเพื่อน เดชชนะบอกตัวเอง ดูแสดงออกอย่างจริงใจยิ่ง“คนนี้ล่ะที่เราอยากเอามาช่วยทำวงคูนแคน”“หือ...ได้หรือ”เมื่อมาถึงโต๊ะ มยุรีก็เอ่ยแนะนำ“นรี...รู้จักญาติฉันหน่อย...เขาชื่อเดชชนะ ส่วนนี่เพื่อนเรานะ เดช ชื่อเอกนรี...”อายุน่าจะรุ่นเดียวกัน เธอมองแล้วยื่นมือมาจับ...เขาจับมือหล่อน มีอะไรบางอย่างวิ่งผ่านมือมาเธอนึกในใจว่า...ลูกไม่มีพ่อมีพลังที่ถ่ายทอดความอบอุ่นได้ด้วยวุ้ย...เพราะเธอรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เธอมีครูที่สอนเรื่องพลังจากมือให้...เป็นความรู้ติดตัวเกี่ยวกับด้านโหราศาสตร์ลายมือด้วย ล
มยุรีพยักหน้ารับ“โอย...นอกจากจะเป็นแม่นางฟ้านรก ยังเป็นแม่ใจร้ายด้วย นายต้าร์นั่นรู้ไหม...”มยุรีส่ายหน้าไปมา“ไม่มีใครบอกเขาหรือ”“ทุกอย่างเป็นความลับ น้าดำรงมียัยเอ๋ อัจฉรา ที่อุ้มท้องมาให้น้าดำรงรับเป็นพ่อ แล้วมารับนายต้าร์นี่เป็นลูกตอบแทน...ปิดบังฐานะแม่แท้จริงไว้”เอกนรีตาลอยๆ ลำดับเรื่องราว ก่อนจะออกปากว่า“ทั้งลุงฉัน และยัยป้านั่นเป็นคนที่ใช้ไม่ได้เลยนะ คนนึงก็ไม่เอาลูกตัวเอง อีกคนก็ยังทำให้ยัยป้าใจดำไม่รับลูกมาดูแล...คนอะไร..กี่ปีแล้ว พูดก็พูดนะ ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องลูกของยัยเอื้อยฟ้าเลย...นางทำเหมือนไม่เคยเป็นแม่คน หรือเพราะนางเป็นแม่ใครไม่ได้”เป็นคำสบประมาท หมิ่นแคลนรุนแรงนัก“ฉันจะเจอนายต้าร์นั่นได้อย่างไร”“เขาจะมาร้องเพลงเปิดตัวห้องอาหารที่นี่ คืนนี้แหละที่โรงแรมนี้...ห้องอาหารอิสานเปิดใหม่...ได้ยินมาว่าอาหารอร่อยล้ำนัก...หากชอบส้มตำ...ลาบก้อย...อะไรพวกนี้นะ”และเป็นการพบกันโดยที่เอกนรีบอกว่า “ไม่ต้องแนะนำฉันนะ ขอดูอยู่ห่างๆ”เธอบอกเช่นนั้น มยุรีทำตาม...ถึงเวลา ที่ห้องอาหารที่เปิดใหม่ เอกนรีได้โต๊ะด้านข้างเวทีแต่อยู่ด้านหน้าจะมองบนเวทีได้ชัด แถมยังมีมุมเล็กๆ ที่จะหล
มยุรี...เพื่อนเก่าเดินเข้ามานำเสนอ เพื่อนเก่า ชู้รักคนเก่าตั้งแต่กลับมาจากจีนก็ได้มา “หยุมหัว” กันมากเกินหนึ่งครั้ง ต้าร์ ตฤณ เหมาะที่จะเป็นอาหารจานว่างให้หล่อนลิ้มลองและสะสมแต้มหล่อนผู้เชื่อว่าเรื่องผู้ชายคือความบันเทิงคือสีสันชีวิตคนหนึ่งก็รสหนึ่ง ต้าร์ก็เป็นอีกรสที่หล่อนไม่ชอบคือเขาร้องเพลงลูกทุ่ง...หากร้องเพลงอื่นน่าจะดีกว่าที่จริงหล่อนอยากให้อีกคนมาด้วย ขึ้นเวทีด้วยเดชชนะ คูนแคนพี่ชายของต้าร์ เมญานีสนใจเขามาก เขาดูหล่อใสกว่าต้าร์และที่แน่ๆ หล่อนยังยื่นมือแตะตัวเขาไม่ได้ไม่เคยได้การโอบกอดไม่เคยได้จูบดูเป็นของยากแต่ท้าทายนี่หล่อนเตรียมตัว...วันนี้หล่อนมีนัดกับต้าร์ก่อนเขามาเปิดการแสดง และเมื่อเจอกัน หล่อนก็ได้รับของฝากที่เขาเอ่ยชวน...ดื่ม...เมา...เซกส์ บันเทิงกันสุดขีดและหล่อนเอ่ยถามเมื่อกำลังไต่ขอบสวรรค์ชั้นเจ็ด“สนใจอยากสามคนกันไหม ต้าร์”ตฤณชะงัก “ถามอะไร”“แค่ชวนเดชมาอีกคน...”“เฮ้ย บ้า ไม่เอาด้วย เมญ่า ให้เดชมันมากระทืบเรากันหรือ มันไม่มาสามคนผัวเมียกับเราหรอกนะ กับเธอด้วย เมญ่า มันเคยมองเธอที่ไหนกันเล่า”////////////////////////////////////////“ฉันแวะมา
“เราจะเสียเวลากับการที่นายเหลวไหลไม่ได้ เราจะต้องทำเพื่อพ่อ เข้าใจไหม”และเมื่อเดชชนะเดินออกมา เขาเจอกับอัจฉราที่มารออยู่“เรียบร้อยครับ แม่...เขาดูท่าจะเชื่อฟังดี...”“เดช อย่าลืมก๊อกสองเผื่อนะ” นั่นเพราะรู้นิสัยกันดีเดชชนะอมยิ้ม“ผมพูดจริงนะเรื่องส่งตัวไปบ้านชีวิตใหม่”เขาย้ำ “แพงแค่ไหนก็จะส่งไปลิ้มลองรสชาติ...การบำบัดจริงจัง...เราใจดีกับเขามามาก ต้องใจร้ายบ้างแล้ว”อัจฉราทำหน้าตกใจบ้างเหมือนกัน แต่แล้วก็รีบระงับโดยเร็ว พยักหน้าเหมือนเห็นด้วย“ขอบใจที่เดชดูแลต้าร์ตลอด”เขาจับสองมือของอัจฉรามากุมแน่น“แม่เอ๋...เขาเป็นพี่ชายผม แม้เขาจะคิดว่าเขาเป็นน้อง พี่น้องกันต้องดูแลกัน รักกัน เราโตมาด้วยกัน...จะมีให้ผมเสียใจเรื่องเดียวเท่านั้น”“เรื่องอะไร”“ผมน่าจะเป็นพี่เขาจริงๆ เกิดก่อนเขาสักสองปีก็พอ...ผมจะดึงเขาไว้จากสิ่งที่เขาเป็นทุกวันนี้”อัจฉราร้องไห้ “แม่ผิดเองที่อบรมเขาไม่ดีพอ”“แม่สอนเขาเท่าสอนผม แม่เอ๋ แต่ต้าร์อ่อนแอไปเอง ความอ่อนแอทำให้เขาเลือกจะใช้ยา ใช้ผู้หญิงเพื่อทำให้ตัวเองเหมือนหลบจากโลกความจริงไปเสพความเมา ไปเสพเซกส์ ทำให้ลืมบางอย่าง ต้าร์เกิดมาพร้อมกับปัญหา”นี่คือเดชชน
“นายก็ร้องเพลงฉันได้ทุกเพลง..ขึ้นเวทีแทนฉันได้ทุกเวลา แฟนฉันหันไปหานายก็เยอะ” เสียงหงุดหงิดไม่น้อย “ทำไมวะ เดช ทำไมนายไม่ทำออกหน้าไปเลย มาดันฉันทำไม”เดชชนะยื่นหน้ามาใกล้ ดวงตาดำใหญ่มองมาตรงๆ ประกายตานิ่ง ไม่มีการตำหนิ ไม่มีการเบื่อหน่าย“เพราะฉันทำได้ไม่ดีเท่านาย” เสียงหนักแน่น จริงใจ “ฉันรู้ว่าฉันไม่มีความสามารถเท่านาย แก้วเสียงฉันไม่ได้เท่านาย และฉันไม่มีเสน่ห์ เวลาร้องเพลงเท่านาย”“เฮ้ย อย่ามาถล่ม”“ฉันพูดจริง”แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นทั้งหมด เพราะความจริงมีอยู่ว่าเสียงของเดชชนะมีเสน่ห์ แก้วเสียงชัด ใส และมีความคม...แต่ฟังเผินๆ จะเหมือนร้องแทนกันได้ ส่วนหน้าตาน่ะหรือ...เพราะมีแม่เป็นสาวลูกครึ่งเกาหลี...หน้าตาสะสวย แม้เอื้อยฟ้าจะไปทำศัลยกรรมเพิ่มเติมให้ความงามของหล่อนคมชัดเจนมากกว่าเดิม แต่ความจริงคือหล่อนสวย คิ้ว ตา จมูก ปาก ถูกจัดวางบนโครงหน้าที่ได้รูป และผิวนั้นอีก...ผิวสาวเกาหลีแม้จะผสมเลือดไทย แต่ผิวของหล่อนสวยนัก ขาวเนียนละเอียด ผิวนั้นตกทอดมาถีงเดชชนะด้วยขณะที่เอ๋ อัจฉราผิวสีเข้ม ไม่ถึงกับดำ สีผิวนั้นไปทางต้าร์ และต้าร์ก็เคยสงสัยว่าทำไมผิวของเดชนะผิดพ่อผิดแม่ดำรงก็
“มีอะไร หน้าตาเครียดมากเชียว นรี”เธอถอยไปยืนพิงประตูห้อง ยกมือกอดอกเอาไว้“นรีบอกลุงแล้วว่าไม่สนับสนุนการทำพีอาร์ให้กับแม่คนนั้น”แม่คนนั้น คอแข็ง เมื่อเอกนรีพยักพเยิดมาหา“ไยจะไปล้อบบี้เด็กๆ ของนรีอีก นรีเห็นโปรไฟล์ที่ทำมาแล้ว ต่อให้จ่ายเป็นล้านๆ ก็ไม่รับ เข้าใจไหมคะ...แล้วอย่าล้ำเส้นกันอีก ไปจ้างคนอื่นทำ”“นรี...แค่ไลฟ์สด..และพูดถึง...”“ไม่...จะไม่ทำ ไม่ออกชื่อ ไม่ให้พื้นที่...อย่าว่าแต่ไลฟ์สด ในบล็อก ในเพจ ในติ๊กต๊อก ใน REALS ในทุกพื้นที่ของนรี...ไม่...ไม่...และไม่”เธอออกเสียงรัวๆ เกรี้ยวกราด ดวงตาส่งประกายชิงชังออกมา“ตกอับ อยากชุบตัวใหม่ไปทำที่อื่น”ตกอับ...เอื้อยฟ้าจี๊ดทันที...“จะมากไปแล้วนะ เอกนรี”เรียกชัด ลุกยืน...ทำท่าพร้อมลุยใส่ทันทีเอกนรีก็ไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย เธอพร้อมจะปะทะด้วยเต็มที่“ฉันไม่ได้เป็นคนต้นคิด”เอกนรีเบะปาก แม้จะหน้าตาสะสวย แต่การทำหน้าตาเกเรเช่นนี้ทำให้เธอดูเหมือนนางร้าย...ไม่เหมือนกับที่ประกาศว่าเธอเป็นนางเอก“อ้างลุงอีกละ ว่าไงคะ ลุง...เมียรักของลุงเค้าโยนมาให้ลุงเป็นคนจัดการ ยอมรับกันหน่อยดีไหม”วิลลี่ทำหน้าตาเหมือนอธิบายยาก“ช่วยกันหน่อย”“
เอื้อยฟ้า อรลออ ฉายานางฟ้าลูกทุ่ง ในวัยห้าสิบเอ็ด หล่อนขึ้นเป็นผู้บริหารคู่กับวิลลี่ ดำรงไท ในบริษัทเบต้าคีย์ หล่อนไม่ได้ทำเพลงใหม่อีกแล้ว แต่สนับสนุนนักร้องใหม่ๆ ในสังกัด...รับนักร้องทั้งหญิงและชายมาทำงาน...แต่ความจริงคือทุกคนแค่ “พอขายได้” แต่ไม่มีใครดังสักคนไม่สามารถปั้น นางฟ้าลูกทุ่งเพิ่มได้อีกและตอนนี้เริ่มจะเบนเข็มไปปั้นนักร้องชายเพื่อจะให้เป็นเทวดาลูกทุ่ง...สักคนเอื้อยฟ้ามองเห็นใครคนหนึ่งที่น่าสนใจ ในมือหล่อนถือเรื่องราวของ “ต้าร์ แทมโป้” เอาไว้...พอดีกับสามีเดินเข้ามาในห้อง“ดูอะไร” เขาเอ่ยถาม วิลลี่หนุ่มลูกครึ่งรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดี และเขาทำเพลง...แถมยังทำเพลงลูกทุ่ง...นักร้องคู่บุญเบต้าคีย์คือเอื้อยฟ้า ซูยองฮวา ลูกครึ่งเกาหลีไทย เป็นตัวทำเพลงทำเงิน...วันนี้แม้ชื่อเสียง การทำเงินของหล่อนจะ “เบา” ลงไปจากเดิม แต่ยังเรียกว่าได้อยู่ มีรายได้เข้ามาหลายทาง...เอื้อยฟ้าวาง “จุดยืน” ตัวเองเอาไว้สูงมาก หล่อนเป็นนักร้องชั้นบน...มีเพลงฮิตติดลมเป็นสิบเพลง...หล่อนเริ่มรับเชิญไปตามรายการต่างๆ ในฐานะกรรมการตัดสินการประปวด....วิลลี่ก็ผลักหล่อนไปกับรายการพวกนั้นอยู่สามรายการด้วยกันห