แชร์

บทที่ 86

ผู้เขียน: สั่งไม่หยุด
เจาซีขบกรามพลางมองไปที่ห้องโถงหลักนั่นทีหนึ่ง “คุณหนู คุณหนูลองฟังดูสิเจ้าคะว่า พวกเขาพูดอะไรกัน!”

นางได้รับคำสั่งให้กลับมาบอกนายท่านว่าตอนนี้ไม่จำเป็นต้องไปรับคุณหนูแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันได้พบหน้านายท่าน ก็ได้ยินเรื่องพวกนี้จากข้างนอกเสียก่อน

ในขณะนี้เอง น้ำเสียงของญาติผู้หนึ่งก็แว่วดังออกมา “หลานชาย ข้ารู้ว่าจือจือเป็นลูกสาวของเจ้า เจ้ารักนาง แต่ว่าสกุลหรงของเราเมื่อมีหญิงหย่าร้าง บรรดาเด็กผู้หญิงคนอื่นจะทำอย่างไรเล่า เจ้าเองก็ต้องคิดถึงพวกเราบ้าง!”

หรงจือจือพลันนึกขึ้นมาได้ว่า สามปีก่อน คนพวกนี้ก็บีบท่านย่าแบบนี้เช่นกัน

ตอนนั้นท่านย่าคิดจะถอนหมั้น ทว่าท่านพ่อไม่ยอม หลังจากนั้นคนในตระกูลก็มาหามากมาย เอาเรื่องของสตรีอื่นในสกุลหรงมากดดันท่านย่า บอกว่าหากนางถอนหมั้น จะเป็นการทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูล

ทำให้คนข้างนอกคิดว่า คุณหนูสกุลหรงดีแต่ร่วมเสพสุข ทว่าร่วมทุกข์ไม่ได้

น่าโมโหจนอาการป่วยของท่านย่าแทบจะกำเริบขึ้นมา ที่นางต้องก้าวออกไปบอกกับท่านย่าว่าตนจะแต่งงาน ก็เพื่อท่านย่าและเพื่อทุกคน ตอนนี้คนเหล่านี้มาบีบบิดานางอีกแล้ว

เสียงของอีกคนแว่วดังขึ้นมาอีกครั้ง “จือจือแม่หนูคนน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 87

    คนผู้หนึ่งทนไม่ไหว จึงกล่าวกับหรงจือจือว่า “จือจือ คิดว่าเจ้าคงได้ยินคำพูดของเราเมื่อครู่แล้ว เพื่อบรรดาน้องสาวของเจ้า เจ้าต้องคิดให้ดีนะ!”นัยน์ตาหรงจือจือเย็นยะเยียบ “ลุงรองยังไม่คิดทำเพื่อลูกสาวของลุงรองเอง จือจือจะถือดีอย่างไรไปทำเกินสถานะ? มีเพียงเราแยกออกจากตระกูลอย่างที่ท่านพ่อกล่าว ก็จะไม่ทำให้พลอยถูกร่างแหไปด้วยแล้วไม่ใช่หรือ?”ลุงรองหรง “เจ้า...”เขาเดือดดาลจนเดินสะบัดแขนเสื้อออกไปหรงจือจือไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง หากพวกเขาตัดความสัมพันธ์กับท่านพ่อเพื่อลูกสาวบ้านตนจริง ๆ หรงจือจือยังจะพอมองพวกเขาด้วยความชื่นชมทว่าปล่อยวางความช่วยเหลือที่จวนมหาราชครูมีต่อพวกเขาไม่ได้ และกลัวว่าจะถูกจวนมหาราชครูทำให้ติดร่างแหไป พลอยสังเวยชีวิตของตัวเองไปด้วย บนโลกใบนี้มีเรื่องดี ๆ เช่นนี้ที่ไหนกัน?หลังพวกเขาออกไปหรงจือจือก็เข้ามาในห้องโถงหลักมหาราชครูหรงขมวดคิ้ว พลางเอ่ยถามขึ้นว่า “เหตุใดจึงกลับมาเองแล้วล่ะ?”หรงจือจือมองคนที่อยู่ในห้องโถงทีหนึ่งมหาราชครูหรงเข้าใจความหมายของอีกฝ่าย เขาจึงโบกไม้โบกมือให้ทุกคนออกไป และปิดห้องสนิทมิดชิด “มีเรื่องอะไรรีบเอ่ยมาเถอะ!”หรงจือจือเล่าเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 88

    หรงจือจือที่เดิมทีเตรียมจะดำเนินการเพียงผู้เดียว ครั้นได้ยินคำของบิดา ท้ายที่สุดก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาสองสามส่วน นางหันหลังกลับไปแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ขอบคุณท่านพ่ออย่างยิ่ง หากต้องการให้ท่านพ่อช่วย ลูกจะเอ่ยปากแน่นอนเจ้าค่ะ”มหาราชครูหรงทอดถอนใจเฮือกหนึ่ง ไม่รู้ว่าการเลือกเช่นนี้ท้ายที่สุดแล้วมันถูกต้องหรือไม่ก่อนหรงจือจือจะจากไป นางนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาประโยคหนึ่ง “ท่านพ่อ เรื่องในวันนี้ ต้องขอให้ท่านพ่อเก็บเป็นความลับ ห้ามกล่าวกับผู้ใดเป็นอันขาด”หัวใจของมหาราชครูหรงเต้นตึกตัก “เจ้าสงสัยแม่เจ้าอย่างนั้นหรือ? จือจือ แม่เจ้าต่อให้จะเลอะเลือนอย่างไร ก็ไม่ถึงขั้น...”แม้หนึ่งในพยานบุคคลสำคัญ จะตายด้วยเงื้อมมือของภรรยา ทว่าเป็นสามีภรรยากันมาหลายปี เขายอมรับว่าตนเองรู้จักนางหวังพอสมควรหรงจือจือไม่รอให้บิดาพูดจบก็แทรกขึ้นมาว่า “ข้าไม่ได้สงสัยท่านแม่ เพียงแต่ที่ให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะลูกไม่อยากให้มีปัญหาใหม่เข้ามาแทรกเท่านั้น”มหาราชครูหรง “ก็จริง”หรงจือจือไม่อยู่ต่ออีก นางเยื้องย่างก้าวเดินออกไป เหลือเพียงมหาราชครูหรงที่ภายในใจสับสนเป็นอย่างยิ่งราวกับนี่เป็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 89

    นางตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ท่านย่าป่วย แต่พวกเขาสองคนไม่เคยมาเฝ้าไข้ หลายปีมานี้ก็มาเยี่ยมน้อยครั้ง ที่ท่านย่าไม่รู้สึกว่าพวกเขากตัญญู หรือว่าเรื่องนี้ก็จะโทษข้าด้วย?”“ข้างนอกจะมีคำพูดอะไรที่ไม่ดีต่อชื่อเสียงของพวกเขา ก็เป็นความผิดพลาดของพวกเขาเอง ไม่ใช่ความผิดของคนที่กตัญญูเช่นข้า”“กระทั่งตอนที่ท่านพ่อลงโทษเจียวเจียวด้วยการโบย ยังบอกว่าท่านย่าป่วยครานี้ นางไม่เคยมาเยี่ยมเลยสักครั้ง ทำไม ข้าเป็นคนห้ามไม่ให้นางไปเยี่ยมเช่นนั้นหรือ?”ก่อนหน้านี้ตอนที่หรงจือจือยังไม่แต่งงาน คอยอยู่เป็นเพื่อนข้างกายท่านย่า นายหญิงใหญ่เองก็เคยป่วยหนักหลายครั้ง ทีแรกน้องชายน้องสาวของนางยังมาแสดงความเป็นห่วง ทว่าหลังจากนั้นก็ไม่มาอีกเลยท่านย่าไม่สนใจพวกเขา ชัดเจนว่าเป็นปัญหาของพวกเขาเอง ทว่านางหวังกลับพูดเสียจนราวกับว่าตนจงใจโดดเด่นจนพวกเขาดูไม่กตัญญูอย่างนั้นนางหวังกล่าวทั้งเดือดดาลว่า “นั่นก็เป็นเพราะว่าหลายปีมานี้ท่านย่าเจ้าป่วยอยู่บ่อยครั้ง เจียวเจียวกับซื่อเจ๋อรู้จะรู้ได้อย่างไรว่าครานี้จะไม่รอด?”หรงจือจือแสยะยิ้ม ก่อนหน้านี้ท่านย่าป่วยอยู่สองสามครั้ง ยอมไปเยี่ยม ทว่าพอป่วยบ่อย ๆ เข้าก็ไม่ย

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 90

    ในใจของหรงจือจือครุ่นคิด หากไม่ใช่เพราะเฉินเยี่ยนซูกลับมา ตำแหน่งของฉีจื่อฟู่ก็คงถูกกำหนดอย่างเป็นทางการแล้ว? ฮ่องเต้น้อยยังไม่ได้ปกครองด้วยพระองค์เอง หลายเรื่องราชเลขาธิการเป็นผู้ตัดสินใจนางเพียงคาดการณ์กึ่งหนึ่งครั้นมาถึงข้างนอก นางกับทุกคนในสกุลฉีก็คุกเข่าพร้อมกัน ฟังราชโองการที่ขันทีอาวุโสหยางมาประกาศด้วยตนเอง “ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องแต่จึงมีพระบัญชา ซิ่นหยางโหว ซื่อจื่อฉีจื่อฟู่ ซื่อสัตย์ทุ่มเทเพื่อแว่นแคว้น โดยไม่สนใจตนเอง...”ครั้นคนสกุลฉีได้ยินประโยคนี้ บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มทว่าจู่ ๆ ขันทีอาวุโสหยางก็เปลี่ยนคำพูด “ทว่าก็ยังขาดคุณธรรม ไม่คิดเลยว่าจะกล้ากล่าวคำพูดไร้สาระเช่นลดภรรยาเอกเป็นอนุต่อหน้าผู้ตรวจการ ตอนนี้ขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งราชสำนักต่างพากันเหยียดหยาม”รอยยิ้มของทุกคนในสกุลฉี ล้วนแข็งทื่ออยู่บนหน้า เหตุใดฝ่าบาทชมไปได้เพียงครึ่งหนึ่งก็เริ่มด่าคนแล้วเล่า!ขันทีอาวุโสหยางอ่านราชโองการต่อ “แม้นข้าจะผิดหวัง ทว่าก็นึกเสียดายบุคคลมีความสามารถ จึงประทานตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่แห่งองครักษ์หลงสิงขั้นหก หวังว่าท่านจะไตร่ตรองด้วยและตระหนักในตนเอง อย่าทำให้ข้าผิดหวังอีก จบร

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 91

    ความหมายคือหากตนมิใช่องค์หญิงของแคว้นเจา สิ่งที่รอตนอยู่ คือการจับใส่กรงหมู? แล้วยังสั่งให้ตนเป็นอนุอีก?!แม้แต่ฉีจื่อฟู่ก็ตะลึงแล้ว “กงกง นี่…นี่ใช่มีอันใดผิดหรือไม่? เหตุใดจึงมีรับสั่งให้ม่านหวาเป็นอนุเล่า?”แม้แต่เขาก็ไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดฉีจื่อฟู่จึงยืนกรานให้อวี้ม่านหวาเป็นภรรยาเอกเพียงนี้ ถึงระดับที่ทำให้คนไม่อาจเข้าใจ เพราะขนาดฝ่าบาททรงพระราชทานเพียงตำแหน่งขุนนางขั้นหกให้เขา เขาก็ยังไม่สงสัยเลยว่ามีข้อผิดพลาดหรือไม่ขันทีอาวุโสหยางตอบอย่างไม่พอใจว่า “ความหมายของเจ้าคือ ฝ่าบาททรงผิด หรือว่าข้าผิดไปล่ะ?”ฉีจื่อฟู่ “นี่…มิกล้าขอรับ!”เขาเพียงรู้สึกไม่ยินยอมพร้อมใจ! ตนจ่ายด้วยอนาคต ล่วงเกินฝ่าบาท ถูกเหล่าตระกูลใหญ่หัวเราะเยาะ แต่สุดท้ายกลับยังไม่สามารถทำให้จือจือเป็นอนุได้ นี่จะให้เขายอมรับได้อย่างไร?ขันทีอาวุโสหยาง “หากไม่กล้าก็รับราชโองการเถอะ!”คนทั้งหลาย “ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี!”คนสกุลฉีรับราชโองการสองฉบับนี้อย่างไม่เต็มใจถึงอย่างไรซิ่นหยางโหวก็เป็นท่านโหวมาหลายปี กระจ่างแจ้งดีเรื่องในวันนี้ไม่ธรรมดา จึงขยับเข้าไปใกล้ขันทีอาวุโสหยาง แล้วมอบหยกงามชิ้นหนึ่ง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 92

    อวี้ม่านหวาจะคาดได้อย่างไรว่า ขันทีอาวุโสหยางผู้นี้ไม่เพียงมาประกาศราชโองการที่ทำจิตใจของตนหนักอึ้งหดหู่เท่านั้น แถมยังพูดถึงเรื่องความเป็นตายขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัวอีกเมื่อฟังคำพูดนี้ของอีกฝ่ายจบ นางก็หวาดกลัวจนท้องเริ่มปวดแปลบขึ้นมาแล้ว!นางถานรีบประคองนาง “องค์หญิง…”เมื่อขันทีอาวุโสหยางได้ยินเช่นนั้นก็เหลือบมองนางถานอย่างไม่พอใจทีหนึ่ง “ฮูหยิน แคว้นเจาล่มสลายไปแล้ว ที่นี่ก็ไม่มีองค์หญิงอันใดแล้ว หรือว่า จวนโหวของพวกท่านมีความคิดเป็นอื่น?”นางถานตกใจจนสะดุ้ง รีบกล่าวว่า “มิกล้า! ข้าแค่พูดผิดไปชั่วขณะเท่านั้น ขอหยางกงกงโปรดอย่าได้ถือสาเลย!”ขันทีอาวุโสหยางแค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง สะบัดแส้ในมือทีหนึ่ง “เช่นนั้น ข้าก็ขอตัวก่อนแล้ว!”ซิ่นหยางโหว “ข้าจะไปส่งกงกง!”ขันทีอาวุโสหยางก็ไม่ได้บ่ายเบี่ยง เขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่า ซิ่นหยางโหวต้องการประจบตน บัดนี้ฉีจื่อฟู่ทำลายอนาคตตัวเอง หนทางเบื้องหน้าของจวนโหวจึงน่าเป็นห่วงรอจนพวกเขาออกไปแล้วฉีจื่อฟู่มองไปทางหรงจือจือ ขมวดคิ้วถามว่า “จือจือ เจ้ารู้จักท่านอัครมหาเสนาบดีหรือ?”หรงจือจือสงบความคิดลง นางก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่า เฉินเยี่ยน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 93

    หรงจือจือกำลังปวดหัวว่าไม่มีเหตุผลจะใช้อยู่ต่อ คาดไม่ถึงว่าจะมีคนส่งหมอนมาให้ตอนง่วงพอดีคำพูดเสแสร้งที่เต็มไปด้วยความปรารถนาดีของอวี้ม่านหวานี้ กลับเป็นการช่วยตนอีกแรง “อนุอวี้กล่าวได้ถูกต้องอย่างยิ่ง ในเมื่อยามนี้เจ้าก็เป็นอนุแล้ว ข้ายังจะจากไปทำไมอีก? เรื่องการหย่าร้าง ก็ให้ถือเสียว่าไม่เคยพูดถึงเถอะ”อวี้ม่านหวา “?”ไม่ใช่นะ นี่ เหตุใดจึงไม่เหมือนที่ข้าคิดไว้เล่า?ฉีจื่อฟู่ถอนใจอย่างโล่งอกทันที แม้ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของเขา ที่จะให้หรงจือจือเป็นอนุ แต่อย่างน้อย นางก็ไม่พูดถึงเรื่องการหย่าร้างแล้วหรงจือจือจับตามองสีหน้าที่เปลี่ยนไปด้วยความตระหนกของอวี้ม่านหวา “ที่สีหน้าของอนุอวี้ไม่น่ามองถึงเพียงนี้ หรือการที่ข้าอยู่ต่อ ทำให้เจ้าไม่พอใจแล้ว?”อวี้ม่านหวาฝืนยิ้มว่า “ไม่…ไม่ใช่! ในใจของท่านพี่ฟู่มีพี่หญิงอยู่ หากพี่หญิงจากไป ท่านพี่ฟู่จะต้องเสียใจแน่ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น น้องจะหวังให้พี่หญิงจากไปได้อย่างไร?”เมื่อฉีจื่อฟู่ฟังจบ ก็เหลือบมองอวี้ม่านหวาอย่างตื้นตัน “ม่านหวา…”เมื่อเห็นพฤติกรรมอันน่าทุเรศของเขา เจาซีก็โมโหจนหน้าเขียวใจของหรงจือจือกลับสงบนิ่ง ไร้ระลอกคลื่น เพร

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 94

    ในเมื่อเฉินเยี่ยนซูลงมือแล้ว หรงจือจือก็ไม่ใช่พวกไม่รู้ถึงความปรารถนาดีของผู้อื่นจึงหยิบยืมคำพูดของเฉินเยี่ยนซู มาทำให้อวี้ม่านหวาสงบเสงี่ยมลงหน่อยอวี้ม่านหวาก็หวาดกลัวจนหดร่างด้วยความสั่นสะท้านไปครู่หนึ่งจริงๆนางถานกล่าวด้วยความโมโหว่า “หรงจือจือ ในท้องของม่านหวา…”หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินคำพูดของนางถาน มองไปที่ฉีอวี่เยียนนิ่งๆ “น้องสามี ข้าวางแผนว่าผ่านไปอีกช่วงหนึ่ง จะจัดงานชมดอกไม้ในนามของท่านแม่ เจ้าคิดว่าอย่างไร? ส่วนเรื่องเทียบเชิญ ก็จะให้คนในเรือนของข้าไปส่งเอง”ตามกฎหมายของแคว้นต้าฉี หากบิดามารดาเสียชีวิต บุตรธิดาต้องไว้ทุกข์สามปี หากผู้เป็นปู่ย่าวายชนม์ ชนรุ่นหลานต้องไว้ทุกข์เป็นเวลาหนึ่งปีไม่ว่าจะเป็นบุตรสาวที่แต่งงานออกไปแล้วหรือไม่ ล้วนเป็นเช่นเดียวกับยามนี้ฮูหยินผู้เฒ่าหรงถึงแก่กรรม หรงจือจือจึงไม่สะดวกที่จะใช้ชื่อตนไปจัดงานเลี้ยงทุกประเภทเมื่อฉีอวี่เยียนได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาก็สว่างไสวขึ้นทันที “พี่สะใภ้ จริงหรือ?”ในแคว้นต้าฉี การจัดงานประชุมบทกวี เป็นการพบปะสังสรรค์ของเหล่าบัณฑิต ส่วนการจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ ส่วนมากล้วนเป็นงานดูตัวที่เหล่าฮูหยินผู้สูงศักดิ์

บทล่าสุด

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 100  

    แต่เขาคิดจนหัวแตก ก็ไม่เกิดประโยชน์แม้แต่น้อย คนยังคงไม่สามารถขึ้นไปอยู่บนเตียงหลังเดียวกับหรงจือจือ รู้สึกเพียงว่า ในใจของตนกระวนกระวายอย่างที่สุด ปากคอยิ่งแห้งผากกว่าเดิม อวี้ม่านหวารับรู้ได้ว่า ใจของเขาไม่อยู่ที่นี่ จึงกล่าวด้วยหยาดน้ำตาที่ขังคลอในเบ้าตาว่า “ท่านพี่ หรือว่าท่านไม่ปรารถนาจะมาหาข้า? ถ้าเป็นแบบนั้น ท่านก็ไปหาพี่หญิง…ไม่สิ ท่านก็ไปหาฮูหยินซื่อจื่อเถอะ” พูดจบ ก็เริ่มซับน้ำตา ในอดีต ฉีจื่อฟู่มีความอดทนให้การปลอบนางอย่างมาก ทว่าวันนี้ ความคาดหวังอันเต็มอกที่จะได้ร่วมหอกับหรงจือจือถูกดับลงสิ้น จากที่เดิมที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว หนนี้ จึงขมวดคิ้วเหลือบตามองนางคราหนึ่ง แล้วถามอย่างประหลาดใจว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้าแสร้งเป็นปวดท้อง เพื่อเรียกให้ข้ามาหรือ?” อวี้ม่านหวาถูกทำให้พูดไม่ออก ฉีจื่อฟู่รู้สึกว่านางช่างประหลาดนัก ปวดท้องอะไรกัน? เขาไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเรื่องเท็จ กระทั่งลูกไม้เพื่อแย่งชิงความโปรดปรานเล็กๆ พวกนี้ของนาง เขาก็มองไม่ออกอย่างนั้นหรือ? แล้วบัดนี้ ยังจะมาเล่นตัวเพื่อการใดอีก? อวี้ม่านหวาเริ่มหลั่งน้ำตา “ท่านพี่ฟู่ เหตุใดท่านจึงกล่าวกับข้าเช่นนี้? ข้าเป

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 99

    ตงจื้อกล่าวอย่างคิดว่าตนมีเหตุผลว่า “แต่ข้าคิดว่า ซื่อจื่อ ท่านจึงจะเป็นดั่งฟ้าของฮูหยินซื่อจื่อมิใช่หรือขอรับ? ต่อให้ฮูหยินผู้เฒ่าหรงจะสำคัญเช่นไร ก็ไม่มีทางสำคัญเท่าการทำให้ท่านเบิกบานใช่ไหมขอรับ?”เมื่อฉีจื่อฟู่ได้ยินเช่นนั้น สีหน้ามืดมนลงแล้ว “ที่เจ้าพูดมาก็ถูก !”ตนเป็นสามีของจือจือ นางควรจะให้ความสำคัญกับตนเป็นอันดับแรกในทุกเรื่องชัดๆในเวลานั้นเอง ก็มีข้ารับใช้อีกคนเข้ามารายงานว่า “ซื่อจื่อ อนุอวี้บอกว่าท้องของนางรู้สึกไม่สบายอยู่บ้าง บอกให้ท่านไปอยู่เป็นเพื่อนนางขอรับ!”ฉีจื่อฟู่ “รู้แล้ว ข้าจะไปเดี๋ยวนี้! ในเมื่อหรงจือจือไม่รู้จักรับน้ำใจของผู้อื่น เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางเดียวดายไปเถอะ มีคนมากมายที่รักข้า ข้าก็มิใช่ว่าต้องเป็นนางเพียงผู้เดียวเสียหน่อย!“ชิวอี้ เจ้าจงส่งความไปบอกเรือนหลัน ให้ฮูหยินซื่อจื่อสำนึกตนให้ดี คิดดูว่าจะขอโทษข้าเช่นไร ไม่เช่นนั้น ถึงเวลาคลอดบุตรภรรยาเอกออกมาไม่ได้ ก็จงอย่าได้มาขอร้องข้าแล้วกัน!”ชิวอี้สั่นสะท้านขึ้นมา เหลือบมองตงจื้อคราหนึ่ง แล้วคุกเข่ากล่าวว่า “ซื่อจื่อ ไม่เช่นนั้นเปลี่ยนเป็นเด็กรับใช้รับหน้าที่ช่วยจัดการธุระต่างๆ ไปส่งข่าวดีไหมขอร

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 98

    หรงจือจือมองไปที่ตงจื้อ ถามอย่างราบเรียบที่แฝงไปด้วยความเย็นชาและเย้ยหยันว่า “คำพูดที่บอกไม่ได้ข้าสวมชุดไว้ทุกข์ เป็นเจ้าหรือซื่อจื่อที่พูด?”ตงจื้อตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็กล่าวต่อว่า “เป็นข้าพูดเองขอรับ ฮูหยินซื่อจื่อ ข้าก็พูดไปเพื่อประโยชน์ของท่าน ข้า…”หรงจือจือกล่าวด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบว่า “ข้ารับใช้ในจวนนี้ ล้วนต่างก็ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาแล้ว แต่ละคนต่างกล้ามาสั่งสอนข้า ว่าควรจัดการเรื่องราวอย่างไร คิดว่าครั้งก่อนที่โบยบ่าวรับใช้แซ่เฉินนั่นไป คงยังไม่พอจะเชือดไก่ให้ลิงดูกระมัง”ตงจื้องงแล้ว นี่ฮูหยินซื่อจื่อหมายความว่าอย่างไรกัน?หรงจือจือ “เด็กๆ! ลากออกไปโบยซะ! ครั้งก่อนสั่งสอนบ่าวแซ่เฉินนั่นเช่นไร วันนี้ก็จงสั่งสอนเขาเช่นนั้น!”ตงจื้อรีบกล่าวว่า “ฮูหยินซื่อจื่อ นี่ท่านกำลังทำสิ่งใดกัน? ข้าหวังดีต่อท่านจริงๆ นะขอรับ หรือท่านไม่อยากปรนนิบัติซื่อจื่อพักผ่อนแล้วหรือ? หากโบยข้า ซื่อจื่อจะต้องไม่พอใจแน่!”หรงจือจือคิดในใจว่า อย่างนั้นย่อมดีที่สุด ทางที่ดีให้ฉีจื่อฟู่ไร้ความสุขทุกคืน ไม่พอใจตนทุกวัน จะได้ไม่คิดถึงเรื่องร่วมเตียงกันที่น่าขยะแขยงแบบนี้อีกนางไม่แม้จะเงยหน้า ไม่ม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 97

    หรงจือจือ “ถูกแล้ว คำพูดพวกนั้น จะไม่ทำให้เจ้าพลอยเดือดร้อน และยังจะช่วยเจ้าให้พ้นผิดด้วย แต่หากเจ้าไม่วางใจ ไม่ยินดีช่วยก็ไม่เป็นไร ข้าจะไม่บังคับ”ทว่า ชุนเซิงกลับโขกศีรษะให้หรงจือจือครั้งหนึ่ง “ในตอนนั้น ชีวิตนี้ของข้าก็เป็นฮูหยินซื่อจื่อท่านที่ช่วยกลับมา ข้าจดจำพระคุณของท่านได้ ข้าเชื่อว่าท่านไม่มีทางทำร้ายข้า เรื่องนี้ข้าจะช่วยท่านขอรับ”หรงจือจือกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “เช่นนี้ก็ดีนัก ลำบากเจ้าแล้ว”เจาซีก้าวเข้าไปเพื่อยัดตั๋วเงินให้ชุนเซิงแต่ชุนเซิงกับยืนกรานไม่ยอมรับ “ฮูหยินซื่อจื่อ เดิมบุญคุณที่ช่วยชีวิต ก็ควรตอบแทนอยู่แล้ว! และตอนนั้น ยังเป็นข้าที่บอกว่าตนเองก็อยากร่ำเรียนหนังสือ ท่านถึงได้จัดให้ข้าไปเป็นเด็กรับใช้เรื่องเรียนของคุณชายสี่”“เวลานี้ ข้าพอรู้อักษรอยู่บ้าง จึงเข้าใจหลักการและเหตุผลจำนวนหนึ่ง บุญคุณที่ท่านมีต่อข้า ดุจดั่งการให้กำเนิดใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้ หากมอบเงินให้ข้า กลับจะเป็นการดูหมิ่นข้านะขอรับ”คำพูดของชุนเซิง มิได้อยู่เหนือความคาดหมายของหรงจือจือเลยเพราะหลายปีมานี้ แม้สัญญาขายตัวของเขาจะอยู่กับนางถาน ทว่า เรื่องของฉีจื่อเสียนนั้น ชุนเซิงก็มักมารายงา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 96

    เพียงแต่ตอนนั้น เมื่อท่านอัครมหาเสนาบดีถูกกัด หลังคุณหนูตื่นขึ้นมาเพราะเสียงร้องด้วยความตกใจของนาง ก็รีบดูบาดแผลให้เขา ทว่า ทันทีที่ท่านอัครมหาเสนาบดีเฉินเอ่ยปากกลับพูดว่า ในป่ารกร้างเช่นนี้ถึงกับมีงูมากัดเขา แต่ไม่เอ่ยว่าเป็นเพราะช่วยคุณหนูเลยสักคำตอนนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าก็กำลังงีบหลับอย่างสะลึมสะลือ จึงไม่ทราบเรื่องนี้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และสังเกตเห็นเรื่องนี้ จึงมีเพียงเจาซีเท่านั้นในใจของเจาซีนั้น รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก แต่ก็มิได้เปิดโปงอย่างหุนหัน เพียงสอบถามเขาเป็นการส่วนตัวประโยคหนึ่งในภายหลัง ตอนส่งท่านอัครมหาเสนาบดีเฉินจากไปว่า “ไม่ทราบว่าคุณชายมีเจตนาใดกันแน่?”ท่านอัครมหาเสนาบดีเฉินมิได้ตอบ เพียงกล่าวว่า “ขอแม่นางโปรดเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ อย่าได้บอกให้คุณหนูของเจ้ารู้”เจาซีคิดว่า น่าจะเป็นเพราะไม่ต้องการให้คุณหนูของนางเกิดภาระทางใจ จึงรับปากไปต่อมาท่านอัครมหาเสนาบดีเฉินจึงได้จากไปพร้อมกับลูกน้องที่มารับเขาหรงจือจือมองเจาซีอย่างแปลกใจทีหนึ่ง “เหตุใจเจ้าจึงมั่นใจเพียงนี้?”เจาซีจึงได้สติกลับมา “นี่…”นางคิดว่า ในเมื่อตอนนั้นรับปากท่านอัครมหาเสนาบดีเฉินไปแล

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 95

    กล่าวจบ หรงจือจือก็สาวเท้าจากไปฉีอวี่เยียนดีใจจนแทบกระโดดขึ้นมา “ท่านแม่ นี่ดีเหลือเกิน ข้ายังกังวลว่าข้าจะได้แต่งงานไม่ดีแล้ว คิดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้จะยังวางแผนให้ข้า”นางถาน “ล้วนเป็นเพราะลูกเสียนของข้าศึกษาตำรามา จึงไปเกลี้ยกล่อมนางได้สำเร็จ เจ้าต้องขอบคุณน้องเจ้าให้ดี!”ฉีจื่อเสียนได้หน้าก็ยิ่งยินดี แต่ในใจก็รู้สึกแปลกอยู่บ้าง เพราะวันนี้หรงจือจือไม่ไว้หน้าเขาเลยชัดๆ หรือว่ามาคิดได้เอาภายหลังกัน?ใช่แน่แล้ว คำพูดของตนมีเหตุผลจะตาย การที่หรงจือจือเชื่อฟังก็เป็นเรื่องสมควรแล้วฉีอวี่เยียนรีบกล่าวว่า “ต้องขอบคุณน้องชายแล้ว!”ซิ่นหยางโหวส่งขันทีอาวุโสหยางจากไป เมื่อกลับมาก็เห็นพวกเขากำลังเริงร่า เมื่อสอบถามจนรู้สาเหตุ ก็ถอนใจออกมาอย่างโล่งอกทีหนึ่งจากนั้นก็มองฉีจื่อฟู่ทีหนึ่งแล้วพูดว่า “จือจือกลับมาคิดเพื่อครอบครัวนี้อีกครั้ง คิดว่าในใจคงยังมีเจ้าอยู่ ในอนาคต เจ้าจงอย่างทำเรื่องโง่ๆ อีก คืนนี้ก็ไปอยู่เป็นเพื่อนจือจือให้ดีๆ ซะ!”ฉีจื่อฟู่ “ขอรับ!”เขาจะไม่อยากนอนกับจือจือได้อย่างไร?อวี้ม่านหวากำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น แต่กลับไม่เอ่ยสิ่งใดแม้แต่คำเดียว……เมื่อกลับมาถึงเรือนหลัน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 94

    ในเมื่อเฉินเยี่ยนซูลงมือแล้ว หรงจือจือก็ไม่ใช่พวกไม่รู้ถึงความปรารถนาดีของผู้อื่นจึงหยิบยืมคำพูดของเฉินเยี่ยนซู มาทำให้อวี้ม่านหวาสงบเสงี่ยมลงหน่อยอวี้ม่านหวาก็หวาดกลัวจนหดร่างด้วยความสั่นสะท้านไปครู่หนึ่งจริงๆนางถานกล่าวด้วยความโมโหว่า “หรงจือจือ ในท้องของม่านหวา…”หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินคำพูดของนางถาน มองไปที่ฉีอวี่เยียนนิ่งๆ “น้องสามี ข้าวางแผนว่าผ่านไปอีกช่วงหนึ่ง จะจัดงานชมดอกไม้ในนามของท่านแม่ เจ้าคิดว่าอย่างไร? ส่วนเรื่องเทียบเชิญ ก็จะให้คนในเรือนของข้าไปส่งเอง”ตามกฎหมายของแคว้นต้าฉี หากบิดามารดาเสียชีวิต บุตรธิดาต้องไว้ทุกข์สามปี หากผู้เป็นปู่ย่าวายชนม์ ชนรุ่นหลานต้องไว้ทุกข์เป็นเวลาหนึ่งปีไม่ว่าจะเป็นบุตรสาวที่แต่งงานออกไปแล้วหรือไม่ ล้วนเป็นเช่นเดียวกับยามนี้ฮูหยินผู้เฒ่าหรงถึงแก่กรรม หรงจือจือจึงไม่สะดวกที่จะใช้ชื่อตนไปจัดงานเลี้ยงทุกประเภทเมื่อฉีอวี่เยียนได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาก็สว่างไสวขึ้นทันที “พี่สะใภ้ จริงหรือ?”ในแคว้นต้าฉี การจัดงานประชุมบทกวี เป็นการพบปะสังสรรค์ของเหล่าบัณฑิต ส่วนการจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ ส่วนมากล้วนเป็นงานดูตัวที่เหล่าฮูหยินผู้สูงศักดิ์

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 93

    หรงจือจือกำลังปวดหัวว่าไม่มีเหตุผลจะใช้อยู่ต่อ คาดไม่ถึงว่าจะมีคนส่งหมอนมาให้ตอนง่วงพอดีคำพูดเสแสร้งที่เต็มไปด้วยความปรารถนาดีของอวี้ม่านหวานี้ กลับเป็นการช่วยตนอีกแรง “อนุอวี้กล่าวได้ถูกต้องอย่างยิ่ง ในเมื่อยามนี้เจ้าก็เป็นอนุแล้ว ข้ายังจะจากไปทำไมอีก? เรื่องการหย่าร้าง ก็ให้ถือเสียว่าไม่เคยพูดถึงเถอะ”อวี้ม่านหวา “?”ไม่ใช่นะ นี่ เหตุใดจึงไม่เหมือนที่ข้าคิดไว้เล่า?ฉีจื่อฟู่ถอนใจอย่างโล่งอกทันที แม้ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของเขา ที่จะให้หรงจือจือเป็นอนุ แต่อย่างน้อย นางก็ไม่พูดถึงเรื่องการหย่าร้างแล้วหรงจือจือจับตามองสีหน้าที่เปลี่ยนไปด้วยความตระหนกของอวี้ม่านหวา “ที่สีหน้าของอนุอวี้ไม่น่ามองถึงเพียงนี้ หรือการที่ข้าอยู่ต่อ ทำให้เจ้าไม่พอใจแล้ว?”อวี้ม่านหวาฝืนยิ้มว่า “ไม่…ไม่ใช่! ในใจของท่านพี่ฟู่มีพี่หญิงอยู่ หากพี่หญิงจากไป ท่านพี่ฟู่จะต้องเสียใจแน่ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น น้องจะหวังให้พี่หญิงจากไปได้อย่างไร?”เมื่อฉีจื่อฟู่ฟังจบ ก็เหลือบมองอวี้ม่านหวาอย่างตื้นตัน “ม่านหวา…”เมื่อเห็นพฤติกรรมอันน่าทุเรศของเขา เจาซีก็โมโหจนหน้าเขียวใจของหรงจือจือกลับสงบนิ่ง ไร้ระลอกคลื่น เพร

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 92

    อวี้ม่านหวาจะคาดได้อย่างไรว่า ขันทีอาวุโสหยางผู้นี้ไม่เพียงมาประกาศราชโองการที่ทำจิตใจของตนหนักอึ้งหดหู่เท่านั้น แถมยังพูดถึงเรื่องความเป็นตายขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัวอีกเมื่อฟังคำพูดนี้ของอีกฝ่ายจบ นางก็หวาดกลัวจนท้องเริ่มปวดแปลบขึ้นมาแล้ว!นางถานรีบประคองนาง “องค์หญิง…”เมื่อขันทีอาวุโสหยางได้ยินเช่นนั้นก็เหลือบมองนางถานอย่างไม่พอใจทีหนึ่ง “ฮูหยิน แคว้นเจาล่มสลายไปแล้ว ที่นี่ก็ไม่มีองค์หญิงอันใดแล้ว หรือว่า จวนโหวของพวกท่านมีความคิดเป็นอื่น?”นางถานตกใจจนสะดุ้ง รีบกล่าวว่า “มิกล้า! ข้าแค่พูดผิดไปชั่วขณะเท่านั้น ขอหยางกงกงโปรดอย่าได้ถือสาเลย!”ขันทีอาวุโสหยางแค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง สะบัดแส้ในมือทีหนึ่ง “เช่นนั้น ข้าก็ขอตัวก่อนแล้ว!”ซิ่นหยางโหว “ข้าจะไปส่งกงกง!”ขันทีอาวุโสหยางก็ไม่ได้บ่ายเบี่ยง เขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่า ซิ่นหยางโหวต้องการประจบตน บัดนี้ฉีจื่อฟู่ทำลายอนาคตตัวเอง หนทางเบื้องหน้าของจวนโหวจึงน่าเป็นห่วงรอจนพวกเขาออกไปแล้วฉีจื่อฟู่มองไปทางหรงจือจือ ขมวดคิ้วถามว่า “จือจือ เจ้ารู้จักท่านอัครมหาเสนาบดีหรือ?”หรงจือจือสงบความคิดลง นางก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่า เฉินเยี่ยน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status