Share

บทที่ 82

Author: สั่งไม่หยุด
เจาซีรู้สึกใจแตกสลายจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้นางกับคุณหนูมีความสุขกันขนาดนั้น ปรึกษาหารือด้วยกันยามนอนว่า หลังกลับไปอยู่ข้างกายนายหญิงใหญ่จะใช้ชีวิตเช่นไร

จะมีความสุขเช่นไร

ทว่าเพราะนางถาน ความฝันนี้...จึงต้องสลายไป

หรงจือจือสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สองสามเฮือก นัยน์ตาแดงเถือกไปหมด แววตาเย็นยะเยียบจนราวกับงูที่หลับเป็นตายมานาน

นางมองไปที่เซี่ยอวี่พร้อมเอ่ยว่า “เจ้ากลับไปเถิด วันนี้ข้าจะทำเป็นว่าเจ้าไม่เคยมา เจ้าเองก็ทำเป็นว่าไม่เคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้ข้าฟังแล้วกัน”

เซี่ยอวี่โขกศีรษะ “ขอบคุณที่คุณหนูหรงให้อภัย! บ่าวขอตัวลา!”

นางลุกลี้ลุกลนลุกขึ้นออกไป

เจาซีมองแผ่นหลังของนาง ยังมีน้ำโหอยู่เล็กน้อย “คุณหนูเจ้าคะ ก่อนหน้านี้คุณหนูช่วยนางขนาดนั้น แต่นางดันไม่ยอมเป็นพยานให้...”

หรงจือจือส่ายศีรษะ “อย่างไรนางก็เป็นคนของฉีอวี่เยียน แค่ยอมบอกเรื่องพวกนี้ให้ข้ารู้ ก็นับว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณแล้ว”

เจาซี “เช่นนั้น...เช่นนั้นเรื่องนี้ล่ะเจ้าคะ!”

มุมปากของหรงจือจือยกขึ้น รอยยิ้มเย็นยะเยือกจนน่ากลัว “มีความอยุติธรรมก็ต้องทวงคืนความเป็นธรรม มีแค้นก็ต้องล้างแค้นอยู่แล้ว!”

อวี้หมัวมัวเอ่ยขึ้นด้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 83

    “เพราะบนโลกใบนี้ มีเพียงท่านย่าผู้เดียวที่รักข้า เพราะการยอมรับของท่านย่า สำหรับข้ามันหมายถึงทุกสิ่ง”“แต่ท่านย่าบอกข้าหน่อยได้หรือไม่ เหตุใดท้ายที่สุดแล้ว ข้ากลับไม่เหลืออะไร! ข้ากลับไม่เหลืออะไรเลย! ข้าไม่เคยทำผิดต่อผู้ใด ข้าไม่เคยล่วงเกินผู้ใด แล้วเหตุใดสุดท้ายคนที่ต้องประสบเรื่องทั้งหมดนี้กลับเป็นข้า? ทำไมพวกเขาต้องแย่งไปกระทั่งท่านย่าไปด้วย? เพราะเหตุใดกันแน่?!”น้ำเสียงของนางแหบแห้ง น้ำตาไหลดุจสายฝน พร้อมหัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมาราวกับเป็นบ้าทว่าไหนเลยที่นางจะรู้ ในที่ที่ห่างออกไปไม่ไกลในที่ที่หิมะปกคลุมไปทั่วพื้นดิน ชายหนุ่มรูปงามสูงส่ง ดวงหน้าดุจเกี้ยวหยกผู้หนึ่ง กำลังยืนมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกดวงใจแตกสลายสุดจะพรรณนาอยู่เงียบ ๆหรงจือจือไม่ได้คำตอบจากท่านย่า หากเป็นก่อนหน้านี้ ตอนที่ท่านย่ายังมีชีวิตอยู่ นายหญิงใหญ่จะต้องกล่าวคำพูดปลอบใจนางมากมายเป็นแน่ บอกให้นางใจกว้าง อย่ายึดติดทว่าตอนนี้ไม่มีใครคอยปลอยนางแล้วท้ายที่สุดหรงจือจือก็ใจเย็นลง พลางฉีกยิ้มจาง ๆ ทั้งน้ำตาที่ไหลออกมา “ท่านย่า สกุลฉีรนหาที่เอง คนสกุลฉีเป็นคนปลุกปีศาจร้ายให้ตื่นเอง ท่านย่าคอยม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 84

    เฉินเยี่ยนซูไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก เพียงมองนางเงียบ ๆหรงจือจือไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาไม่ปริปากออกมา นางเองก็ไม่กล้าพูดเนื่องจากนางรู้ดีว่าคนที่อยู่ตรงหน้า ในแคว้นต้าฉีมีความหมายว่าอย่างไร แม้นางจะเคยช่วยชีวิตอีกฝ่าย ทว่านางเองก็ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อยเพียงอีกฝ่ายเอ่ยออกมาคำเดียวก็สามารฆ่าตนได้แล้ว ง่ายราวกับบีบแมลงตัวหนึ่ง กระทั่งฝ่าบาทจะฆ่าคนยังต้องหาเหตุผล ทว่าราชเลขาธิการผู้สำเร็จราชการแทนผู้นี้ไม่ต้องส่วนนางยังไม่ได้แก้แค้นให้ท่านย่า นางยังตายไม่ได้ และล่วงเกินเขาไม่ไหว!หลังจากนั้น หรงจือจือก็นึกขึ้นได้ในฉับพลัน ท่านพ่อราวกับจะลอบตำหนิอัครมหาเสนาบดีเฉินเล็ก ๆ น้อย ๆ เนื่องจากริษยา ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายจะทำให้ตนลำบากด้วยเหตุนี้หรือไม่ เรื่องนี้ยิ่งทำให้ใจของนางกระวนกระวายแน่นอนว่าเฉินเยี่ยนซูย่อมมองความกลัวและความระวังตัวในแววตาของหรงจือจือออกแม้นางจะเคยช่วยชีวิตเขาไว้ นางมองแววตาของตนแล้วก็ระแวงเป็นอย่างยิ่ง สิ่งนี้ทำให้หมัดของเขากำขึ้นโดยไม่รู้ตัว สกุลฉีไม่เพียงข่มเหงนาง เหยียดหยามนาง ทำให้คนที่รักของนางต้องตาย ยังทำลายความเชื่อใจที่นางมีต่อผู้คนอีกด้วยเขาเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 85

    เกล็ดหิมะขาวปลิวว่อน กลับไม่สู้ดวงหน้าดุจหยกแกะสลักของเขาทว่าท่ามกลางพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ แม้แผ่นหลังที่จากไปของหญิงสาวจะดูเปราะบาง แต่ก็ดูเด็ดเดี่ยวและเข้มแข็งทีเดียว เพียงแต่รอยที่เกิดจากการก้าวออกไปนั้น ราวกับไม่ใช่รอยเท้า ทว่าเป็นเพลิงแค้นใช่ว่าหรงจือจือจะไม่รู้ว่าเบื้องหลังของนาง มีคนรับใช้ของจวนเสนาบดีอีกนายหนึ่งเดินเข้ามา และนำของเซ่นไหว้มาวางไว้ ณ ที่แห่งนี้ไม่น้อยครั้นชายหนุ่มรูปงามสูงศักดิ์เห็นว่าหรงจือจือเดินออกไปไกลแล้ว สายตาแสนอ่อนโยนก็มองไปที่ป้ายหลุมศพของนายหญิงผู้เฒ่าหรง พร้อมเอ่ยกระซิบขึ้นว่า “ท่านโปรดวางใจ ภายภาคหน้า ข้าน้อยจะเป็นคนปกป้องนางเอง”ลมเหมันต์ระลอกหนึ่งพัดผ่านไป ราวกับนายหญิงผู้เฒ่าหรงขานรับหลังหรงจือจือออกไปได้ไม่นาน เซินเฮ่อก็เดินกางร่มสาวเท้าอาด ๆ มาตรงหน้าเฉินเยี่ยนซูหลังคารวะ ก็กล่าวถามขึ้นอย่างบังอาจ “ท่านเสนาบดี ท่านมาไหว้ท่านอาจารย์ของท่านอีกแล้วหรือ?”อาจารย์ของท่านเสนาบดีคือมหาราชครูหลี่คนก่อนเนื่องจากนี่เป็นพื้นที่ที่ฮวงจุ้ยดีซึ่งยากจะได้มาอย่างยิ่งผืนหนึ่ง หลุมฝังศพของบรรพบุรุษตระกูลขุนนางสูงศักดิ์และต่ำต้อยหลายตระกูล ล้วนเล

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 86

    เจาซีขบกรามพลางมองไปที่ห้องโถงหลักนั่นทีหนึ่ง “คุณหนู คุณหนูลองฟังดูสิเจ้าคะว่า พวกเขาพูดอะไรกัน!”นางได้รับคำสั่งให้กลับมาบอกนายท่านว่าตอนนี้ไม่จำเป็นต้องไปรับคุณหนูแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันได้พบหน้านายท่าน ก็ได้ยินเรื่องพวกนี้จากข้างนอกเสียก่อนในขณะนี้เอง น้ำเสียงของญาติผู้หนึ่งก็แว่วดังออกมา “หลานชาย ข้ารู้ว่าจือจือเป็นลูกสาวของเจ้า เจ้ารักนาง แต่ว่าสกุลหรงของเราเมื่อมีหญิงหย่าร้าง บรรดาเด็กผู้หญิงคนอื่นจะทำอย่างไรเล่า เจ้าเองก็ต้องคิดถึงพวกเราบ้าง!”หรงจือจือพลันนึกขึ้นมาได้ว่า สามปีก่อน คนพวกนี้ก็บีบท่านย่าแบบนี้เช่นกันตอนนั้นท่านย่าคิดจะถอนหมั้น ทว่าท่านพ่อไม่ยอม หลังจากนั้นคนในตระกูลก็มาหามากมาย เอาเรื่องของสตรีอื่นในสกุลหรงมากดดันท่านย่า บอกว่าหากนางถอนหมั้น จะเป็นการทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลทำให้คนข้างนอกคิดว่า คุณหนูสกุลหรงดีแต่ร่วมเสพสุข ทว่าร่วมทุกข์ไม่ได้น่าโมโหจนอาการป่วยของท่านย่าแทบจะกำเริบขึ้นมา ที่นางต้องก้าวออกไปบอกกับท่านย่าว่าตนจะแต่งงาน ก็เพื่อท่านย่าและเพื่อทุกคน ตอนนี้คนเหล่านี้มาบีบบิดานางอีกแล้วเสียงของอีกคนแว่วดังขึ้นมาอีกครั้ง “จือจือแม่หนูคนน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 87

    คนผู้หนึ่งทนไม่ไหว จึงกล่าวกับหรงจือจือว่า “จือจือ คิดว่าเจ้าคงได้ยินคำพูดของเราเมื่อครู่แล้ว เพื่อบรรดาน้องสาวของเจ้า เจ้าต้องคิดให้ดีนะ!”นัยน์ตาหรงจือจือเย็นยะเยียบ “ลุงรองยังไม่คิดทำเพื่อลูกสาวของลุงรองเอง จือจือจะถือดีอย่างไรไปทำเกินสถานะ? มีเพียงเราแยกออกจากตระกูลอย่างที่ท่านพ่อกล่าว ก็จะไม่ทำให้พลอยถูกร่างแหไปด้วยแล้วไม่ใช่หรือ?”ลุงรองหรง “เจ้า...”เขาเดือดดาลจนเดินสะบัดแขนเสื้อออกไปหรงจือจือไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง หากพวกเขาตัดความสัมพันธ์กับท่านพ่อเพื่อลูกสาวบ้านตนจริง ๆ หรงจือจือยังจะพอมองพวกเขาด้วยความชื่นชมทว่าปล่อยวางความช่วยเหลือที่จวนมหาราชครูมีต่อพวกเขาไม่ได้ และกลัวว่าจะถูกจวนมหาราชครูทำให้ติดร่างแหไป พลอยสังเวยชีวิตของตัวเองไปด้วย บนโลกใบนี้มีเรื่องดี ๆ เช่นนี้ที่ไหนกัน?หลังพวกเขาออกไปหรงจือจือก็เข้ามาในห้องโถงหลักมหาราชครูหรงขมวดคิ้ว พลางเอ่ยถามขึ้นว่า “เหตุใดจึงกลับมาเองแล้วล่ะ?”หรงจือจือมองคนที่อยู่ในห้องโถงทีหนึ่งมหาราชครูหรงเข้าใจความหมายของอีกฝ่าย เขาจึงโบกไม้โบกมือให้ทุกคนออกไป และปิดห้องสนิทมิดชิด “มีเรื่องอะไรรีบเอ่ยมาเถอะ!”หรงจือจือเล่าเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 88

    หรงจือจือที่เดิมทีเตรียมจะดำเนินการเพียงผู้เดียว ครั้นได้ยินคำของบิดา ท้ายที่สุดก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาสองสามส่วน นางหันหลังกลับไปแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ขอบคุณท่านพ่ออย่างยิ่ง หากต้องการให้ท่านพ่อช่วย ลูกจะเอ่ยปากแน่นอนเจ้าค่ะ”มหาราชครูหรงทอดถอนใจเฮือกหนึ่ง ไม่รู้ว่าการเลือกเช่นนี้ท้ายที่สุดแล้วมันถูกต้องหรือไม่ก่อนหรงจือจือจะจากไป นางนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาประโยคหนึ่ง “ท่านพ่อ เรื่องในวันนี้ ต้องขอให้ท่านพ่อเก็บเป็นความลับ ห้ามกล่าวกับผู้ใดเป็นอันขาด”หัวใจของมหาราชครูหรงเต้นตึกตัก “เจ้าสงสัยแม่เจ้าอย่างนั้นหรือ? จือจือ แม่เจ้าต่อให้จะเลอะเลือนอย่างไร ก็ไม่ถึงขั้น...”แม้หนึ่งในพยานบุคคลสำคัญ จะตายด้วยเงื้อมมือของภรรยา ทว่าเป็นสามีภรรยากันมาหลายปี เขายอมรับว่าตนเองรู้จักนางหวังพอสมควรหรงจือจือไม่รอให้บิดาพูดจบก็แทรกขึ้นมาว่า “ข้าไม่ได้สงสัยท่านแม่ เพียงแต่ที่ให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะลูกไม่อยากให้มีปัญหาใหม่เข้ามาแทรกเท่านั้น”มหาราชครูหรง “ก็จริง”หรงจือจือไม่อยู่ต่ออีก นางเยื้องย่างก้าวเดินออกไป เหลือเพียงมหาราชครูหรงที่ภายในใจสับสนเป็นอย่างยิ่งราวกับนี่เป็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 89

    นางตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ท่านย่าป่วย แต่พวกเขาสองคนไม่เคยมาเฝ้าไข้ หลายปีมานี้ก็มาเยี่ยมน้อยครั้ง ที่ท่านย่าไม่รู้สึกว่าพวกเขากตัญญู หรือว่าเรื่องนี้ก็จะโทษข้าด้วย?”“ข้างนอกจะมีคำพูดอะไรที่ไม่ดีต่อชื่อเสียงของพวกเขา ก็เป็นความผิดพลาดของพวกเขาเอง ไม่ใช่ความผิดของคนที่กตัญญูเช่นข้า”“กระทั่งตอนที่ท่านพ่อลงโทษเจียวเจียวด้วยการโบย ยังบอกว่าท่านย่าป่วยครานี้ นางไม่เคยมาเยี่ยมเลยสักครั้ง ทำไม ข้าเป็นคนห้ามไม่ให้นางไปเยี่ยมเช่นนั้นหรือ?”ก่อนหน้านี้ตอนที่หรงจือจือยังไม่แต่งงาน คอยอยู่เป็นเพื่อนข้างกายท่านย่า นายหญิงใหญ่เองก็เคยป่วยหนักหลายครั้ง ทีแรกน้องชายน้องสาวของนางยังมาแสดงความเป็นห่วง ทว่าหลังจากนั้นก็ไม่มาอีกเลยท่านย่าไม่สนใจพวกเขา ชัดเจนว่าเป็นปัญหาของพวกเขาเอง ทว่านางหวังกลับพูดเสียจนราวกับว่าตนจงใจโดดเด่นจนพวกเขาดูไม่กตัญญูอย่างนั้นนางหวังกล่าวทั้งเดือดดาลว่า “นั่นก็เป็นเพราะว่าหลายปีมานี้ท่านย่าเจ้าป่วยอยู่บ่อยครั้ง เจียวเจียวกับซื่อเจ๋อรู้จะรู้ได้อย่างไรว่าครานี้จะไม่รอด?”หรงจือจือแสยะยิ้ม ก่อนหน้านี้ท่านย่าป่วยอยู่สองสามครั้ง ยอมไปเยี่ยม ทว่าพอป่วยบ่อย ๆ เข้าก็ไม่ย

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 90

    ในใจของหรงจือจือครุ่นคิด หากไม่ใช่เพราะเฉินเยี่ยนซูกลับมา ตำแหน่งของฉีจื่อฟู่ก็คงถูกกำหนดอย่างเป็นทางการแล้ว? ฮ่องเต้น้อยยังไม่ได้ปกครองด้วยพระองค์เอง หลายเรื่องราชเลขาธิการเป็นผู้ตัดสินใจนางเพียงคาดการณ์กึ่งหนึ่งครั้นมาถึงข้างนอก นางกับทุกคนในสกุลฉีก็คุกเข่าพร้อมกัน ฟังราชโองการที่ขันทีอาวุโสหยางมาประกาศด้วยตนเอง “ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องแต่จึงมีพระบัญชา ซิ่นหยางโหว ซื่อจื่อฉีจื่อฟู่ ซื่อสัตย์ทุ่มเทเพื่อแว่นแคว้น โดยไม่สนใจตนเอง...”ครั้นคนสกุลฉีได้ยินประโยคนี้ บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มทว่าจู่ ๆ ขันทีอาวุโสหยางก็เปลี่ยนคำพูด “ทว่าก็ยังขาดคุณธรรม ไม่คิดเลยว่าจะกล้ากล่าวคำพูดไร้สาระเช่นลดภรรยาเอกเป็นอนุต่อหน้าผู้ตรวจการ ตอนนี้ขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งราชสำนักต่างพากันเหยียดหยาม”รอยยิ้มของทุกคนในสกุลฉี ล้วนแข็งทื่ออยู่บนหน้า เหตุใดฝ่าบาทชมไปได้เพียงครึ่งหนึ่งก็เริ่มด่าคนแล้วเล่า!ขันทีอาวุโสหยางอ่านราชโองการต่อ “แม้นข้าจะผิดหวัง ทว่าก็นึกเสียดายบุคคลมีความสามารถ จึงประทานตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่แห่งองครักษ์หลงสิงขั้นหก หวังว่าท่านจะไตร่ตรองด้วยและตระหนักในตนเอง อย่าทำให้ข้าผิดหวังอีก จบร

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status