แชร์

บทที่ 297

ผู้เขียน: สั่งไม่หยุด
รอเฉินเยี่ยนซูเลือกเสร็จแล้ว เซิ่งเฟิงก็ไปสวมเสื้อขนจิ้งจอกให้เจ้านายบ้านตน ยิ่งเห็นความสูงศักดิ์คั้นคนได้ชัด สูงส่งจนยากจะเอื้อม

เซิ่งเฟิงเองก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “ท่านเสนาบดี ท่านว่าเรื่องที่อวี้ม่านหวาแท้ง จะเป็นฝีมือของคุณหนูใหญ่สกุลหรงจริง ๆ หรือไม่?”

เฉินเยี่ยนซูตอบกลับด้วยน้ำเสียงชืด ๆ “ไม่ใช่นาง”

เซิ่งเฟิงเอ่ยต่อเสียงแปร๋น “เหตุใดท่านถึงมั่นใจเช่นนี้? หากเป็นนางจริง ๆ ล่ะขอรับ?”

เฉินเยี่ยนซู “เช่นนั้นก็คงมีเหตุผลของนาง”

เซิ่งเฟิง “...”

ความรักทำให้คนตาบอดจริง ๆ ด้วย

...

รถม้าของเฉินเยี่ยนซูมาถึงจวนสกุลหรง

มหาราชครูหรงไปรับที่หน้าประตูด้วยตนเอง หลังทั้งสองคนพบหน้ากัน ก็มุ่งไปยังห้องหนังสือทันที

หรงเจียวเจียวตื่นขึ้นมาพร้อมความตื่นเต้นนานแล้ว นางหาที่ดี ๆ แอบมองที่หนึ่ง เห็นชายหนุ่มรูปงามไร้เทียมทานข้างกายบิดาผู้นั้น ค่อย ๆ ก้าวเข้ามาท่ามกลางหิมะขาว

ร่างสูงดุจหยก อาภรณ์ขาวดุจหิมะผมดำเช่นน้ำหมึก ทำเอาหัวใจคนโหยหาอย่างไร้ขีดจำกัด

นางรู้สึกเพียงว่า ทุกย่างก้าวของอีกฝ่าย เหยียบย่ำอยู่บนหัวใจของตน

ทุกคราที่เห็นอีกฝ่าย นางก็จะใจเต้นนับครั้งไม่ถ้วน

เมื่อเฉินเยี่ยนซูผ่านระเบีย
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 298

    เฉินเยี่ยนซูหน้าร้อนผ่าวโดยไม่ทันรู้ตัว “จริงหรือขอรับ?”หรงจือจือ...ก็ดีใจมากเช่นกันหรือ?มหาราชครูหรงจงใจเอ่ยว่า “แต่ไม่รู้ว่าท่านเสนาบดีจะยินดีหรือไม่!”เฉินเยี่ยนซูรีบลุกขึ้น ค้อมตัวคารวะก่อนจะกล่าวว่า “หากได้แต่งงานกับลูกสาวของท่านมหาราชครู นับเป็นเกียรติของข้าในชาตินี้จริง ๆ!”ในชีวิตนี้ของเขา ครั้งก่อนที่รู้สึกตื่นเต้นเช่นนี้ ก็ยังเป็นตอนที่ได้เป็นสมุหราชเลขาธิการผู้สำเร็จราชการแทนมหาราชครูหรงลุกขึ้นด้วยความดีอกดีใจ “เยี่ยม ๆ ๆ!”เขาตบไหล่ของเฉินเยี่ยนซู “เพียงแต่ท่านแม่เพิ่งสิ้นใจไม่นาน ลูกสาวของข้า ต้องไว้ทุกข์หนึ่งปีถึงจะพูดเรื่องแต่งงานได้ ถึงเวลานั้นสองสกุลค่อยแลกเปลี่ยนใบเทียบดวงชะตากัน ไม่รู้ว่าท่านเสนาบดีคิดเห็นเช่นไร?”เฉินเยี่ยนซู “สมควรแล้ว เฉินเยี่ยนซูจะรอขอรับ”มหาราชครูหรงรู้สึกเพียงว่า ในวันที่จิตใจว้าวุ่น ก็นับว่ายังเกิดเรื่องดี ๆ ขึ้นได้และในจังหวะนี้เอง คนเฝ้าประตูก็เข้ามา “นายท่านขอรับ คนจากในวังมาขอรับ ฝ่าบาทมีเรื่องต้องการหารือกับท่านเสนาบดีขอรับ”เฉินเยี่ยนซู “ท่านมหาราชครู เช่นนั้นข้าขอตัวลาก่อนนะขอรับ”มหาราชครูหรงพยักหน้า “เรื่องชาติบ้านเมือ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 299

    นางอายุปูนนี้แล้ว ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงมานาน ย่อมค่อนข้างรู้ข่าวสารของชายหนุ่มคุณชายของแต่ละสกุลเป็นอย่างดีรายชื่อที่ฮูหยินให้ เห็นได้ชัดว่ากำลังดูหมิ่นคุณหนูนางหวัง “เจ้าก็เลือกเองดี ๆ ล่ะ เลือกได้แล้วก็บอกข้า!”พูดจบ นางก็พาหรงเจียวเจียวออกไปสองแม่ลูกออกไปจากเรือนอี่เหมยหรงเจียวเจียวยังพูดกับนางหวังด้วยความตื่นเต้นว่า “ท่านแม่ ถึงเวลานั้นก็จัดงานแต่งงานของข้ากับพี่หญิงพร้อมกันเลยเถอะ”“ไม่ว่านางจะเลือกผู้ใด ก็ไม่มีทางมีหน้ามีตาเท่าข้าที่เป็นฮูหยินสมุหราชเลขาธิการอยู่แล้ว”“ในงานแต่งงาน ข้าอยากเทียบชั้นอย่างดุเดือดกับนาง ดูสิว่าต่อไปนางยังจะทำตัวสูงส่งอะไรต่อหน้าข้าอีก!”นางหวังหัวเราะอย่างพะเน้าพะนอ พลางตบมือของนาง “ดี ๆ ๆ เอาอย่างเจ้าว่า เอาอย่างเจ้าว่าเลย!”ภายในเรือนอี่เหมยเจาซีเดือดดาลจนใกล้ใบหน้าจะกลายเป็นปลาปักเป้าไปแล้ว ต่อให้ฝันนางก็คิดไม่ถึงว่า ดวงตาหงส์แสนดูดีคู่นั้นของท่านเสนาบดี กลับบอกว่าบอดก็บอด!อวี้หมัวมัวยิ่งเดือดดาลยิ่งกว่านาง เปิดภาพเหมือนพลางกล่าวว่า “คุณหนู บุตรชายคนโตสกุลเฉินผู้นี้เคยสูญเสียภรรยาไป ทำภรรยาตายไปสองคนแล้ว อายุอานามก็ปาไปสี่สิบกว่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 300

    อวี้หมัวมัวอดไม่ได้ที่จะเบ้าตาแดงก่ำ “คุณหนู แม้ตอนนี้คุณหนูจะผ่านการหย่ามาแล้ว แต่ก็ยังเป็นท่านหญิงขั้นสองแสนสง่าผ่าเผย เป็นบุตรสาวสายตรงคนโตของมหาราชครู คนพวกนี้คู่ควรกับคุณหนูเสียที่ไหน?”“หากฮูหยินผู้เฒ่ายังมีชีวิตอยู่ก็ดีสิ หากท่านผู้เฒ่ายังมีชีวิตอยู่ ไหนเลยคุณหนูจะต้องมารับความลำบากนี้?”ตอนนี้ดูเหมือนว่า เมื่อเทียบกับคนเหล่านี้แล้ว ฉีจื่อฟู่กลับนับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างนั้นในจังหวะนี้เองคนเฝ้าประตูก็เข้ามา “คุณหนูขอรับ ชายาผู้เฒ่าอ๋องเฉียนเชิญให้คุณหนูไปพบที่จวนขอรับ”เมื่อหรงจือจือได้ยินดังนั้น ก็ลุกขึ้นโดยไม่ลังเลใด ๆ “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”เรื่องนั้นที่ตกลงกับจงเจิ้งอวี๋ไปก่อนหน้านี้อีกอย่างชายาผู้เฒ่าอ๋องเฉียนให้ความสำคัญกับนางเช่นนี้ นางเองก็ควรปฏิเสธเรื่องนี้กับอีกฝ่ายอย่างเป็นทางการต่อหน้าอวี้หมัวมัวเอ่ยถามขึ้นว่า “เช่นนั้นคุณหนู เรื่องที่ฮูหยินเลือกลูกเขยให้คุณหนู รอคุณหนูกลับมาแล้วค่อยว่ากันหรือเจ้าคะ?”หรงจือจือตอบกลับชืด ๆ “เขียนปัญหาของคนพวกนี้ เรียงไว้ตรงขอบภาพเหมือนให้หมด แล้วส่งไปให้ท่านพ่อเลยก็พอ”นางหวังไม่อยากให้นางมีชีวิตดี ๆ ถึงหาพวกคนเช่นนี้มาใ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 301

    “เมื่อก่อนข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างไร ต่อไปภายหน้าก็ยังคงเป็นเช่นเดิม”“เจ้าไม่เต็มใจแต่งกับอู๋เหิง นั่นเป็นเพราะเขาไร้วาสนา หาใช่ความผิดของเจ้าไม่ เจ้าวางใจเถิด”หรงจือจือพลันรู้สึกขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุฮูหยินผู้เฒ่าที่ทั้งเมตตาปรานีและมีเหตุมีผลถึงเพียงนี้ ช่างเหมือนกับท่านย่าของนางยิ่งนัก แม้นางไม่เคยรู้สึกอะไรกับจีอู๋เหิงเลยสักนิด แต่การจะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับฮูหยินผู้เฒ่าที่ประเสริฐเช่นนี้ ก็นับเป็นเรื่องน่าเสียดายอยู่บ้าง เพียงแต่นางรีบสะกดความคิดนั้นลงอย่างรวดเร็ว เพียงเพราะคิดถึงท่านย่าของตน แล้วจะบังอาจไปใฝ่ฝันถึงท่านย่าที่ดีพร้อมของผู้อื่นได้อย่างไรกัน?“ขอบคุณพระชายาที่เข้าใจเจ้าค่ะ!”พระชายาอ๋องเฉียนสนทนากับหรงจือจือต่ออีกสองสามประโยค จากนั้นจึงเรียกนางเซี่ยเข้ามาพลางสั่งว่า “ข้ารู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย เจ้าช่วยไปส่งจือจือแทนข้าเถอะ” นางเซี่ยรับคำ “เจ้าค่ะ”หลังจากพวกนางจากไปแล้วพระชายาอ๋องเฉียนเหลือบมองไปยังฉากกั้นห้องคราหนึ่ง ก่อนเอ่ยขึ้นว่า “ออกมาเถิด เจ้าก็ได้ยินเองทั้งหมดแล้วนี่”จีอู๋เหิงก้าวออกมาจากด้านหลังฉากกั้น ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาซีด

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 302

    เป็นดังคาด เมื่อนางเซี่ยได้ฟัง แววตาของนางก็เป็นประกายขึ้นมาทันที “เรื่องนี้ข้าจะพิจารณาให้ถี่ถ้วน ขอบคุณเจ้ามากที่ใส่ใจ”กล่าวจบ นางก็ตบมือหรงจือจือเบาๆ “ตระกูลเดิมของข้ายังมีหลานชายอีกหลายคน ที่ยังไม่ได้แต่งงาน แต่ละคนก็เป็นจวี่เหริน ทั้งยังไม่มีนิสัยเสียอะไร หากเจ้าถูกใจใคร ก็บอกข้าได้เลย ข้าจะเป็นแม่สื่อให้เจ้าเอง!”ในสายตาของนางเซี่ย หรงจือจือไม่คู่ควรกับบุตรชายคนโตของนาง แต่ตระกูลเซี่ยมีทายาทมากมาย จะจับคู่ให้สักคนก็ไม่เป็นไรหากบุตรชายคนเล็กของนางได้แต่งงานกับจงเจิ้งอวี๋ หรงจือจือก็ถือว่าทำคุณงามความดีให้นางอย่างใหญ่หลวง อีกทั้งวันนี้หรงจือจือก็แสดงออกได้ดีมาก นางก็เป็นคนที่มีน้ำใจตอบแทนผู้อื่นเช่นกันหรงจือจือยิ้ม “พระชายาซื่อจื่อเกรงใจเกินไปแล้ว”นางเซี่ย “ข้าพูดจริงนะ! เจ้าลองคิดดูให้ดี”นางเซี่ยก็มีเจตนาส่วนตัวเช่นกัน หากหรงจือจือแต่งงานออกเรือนไปเป็นครั้งที่สองแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เลือกจีอู๋เหิง บางทีบุตรชายของนางอาจจะไม่คิดถึงนางอีกหรงจือจือ “ข้าจะจดจำไว้ ขอบคุณพระชายาซื่อจื่อ ข้าขอตัวกลับก่อน”ฟังดูน่าขันยิ่งนัก แม้แต่นางเซี่ยที่ดูถูกนางเช่นนี้ มองว่านางไม่คู่ควรกั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 303

    หยางหมัวมัวมองสีหน้าของนายหญิงของตน ก็เข้าใจทุกอย่างในทันทีในใจนางถอนหายใจ นางรู้ว่าวันนี้ต้องมาถึงในที่สุดนางเซี่ยก็กัดฟัน นางเชื่อว่าบุตรชายของนางจะผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ ตราบใดที่ผ่านพ้นไปได้ ก็ถือว่าผ่านพ้นเคราะห์กรรมรักนี้ไปได้แม้นางจะเสียใจ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองทำผิด!ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น......เมื่อหรงจือจือเพิ่งกลับมาถึงหน้าประตูจวนหรง นางก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น “จือจือ”นางขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ หันไปมองกลับกลายเป็นฉีจื่อฟู่เขากลับมาด้วยความมุ่งมั่น แม้จะลุกจากเตียงไม่ได้ ก็ยังนั่งรถเข็นมาถึงหน้าประตูจวนตระกูลหรงฉีจื่อฟู่สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าว “จือจือ ข้าขอคุยกับเจ้าตามลำพังได้หรือไม่”หรงจือจือรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น นางกำลังจะเบนสายตาหนีฉีจื่อฟู่ก็กล่าว “เป็นเรื่องของม่านหวา! ข้าอยากจะคุยกับเจ้าเรื่องของม่านหวา”หรงจือจือลังเลไปชั่วขณะ คิดในใจ หรือว่าฉีจื่อฟู่จะรู้เรื่องราวเบื้องลึกอะไรบางอย่าง นางจึงกล่าวเสียงเรียบ “คุยกันตามลำพังไม่จำเป็นหรอก ท่านมีอะไรก็พูดตรงนี้เถอะ”ฉีจื่อฟู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วมอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 304

    “ตอนนี้ข้าไม่ใช่สะใภ้ตระกูลฉี ไม่มีอำนาจจัดการเด็กในท้องของอวี้ม่านหวา หากข้าทำจริง ย่อมต้องถูกลงโทษ”ฉีจื่อฟู่รีบกล่าวว่า “ข้าก็กลัวเจ้าจะถูกลงโทษ อยากจะช่วยเจ้า ถึงได้มานี่! ถ้าไม่ไหวจริงๆ เจ้าก็บอกว่า ข้าเป็นคนสั่งให้เจ้าไปทำแท้ง นั่นลูกของข้า ข้ามีสิทธิ์ที่จะไม่เอา อย่างนี้เจ้าก็จะพ้นผิดไปได้!”หรงจือจือหมดแรงจะต่อว่าเขาจริงๆ “ต่อไปนี้ท่านอย่าคิดจะช่วยข้าเลย การที่ท่านไม่ปรากฏตัวต่อหน้าข้า ก็คือการช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับข้าแล้ว”“จำไว้ ข้าหรงจือจือไม่คิดจะลดตัวไปจัดการกับเด็กที่ยังไม่เกิด ท่านเอาแต่พูดว่ารักข้า แต่ท่านไม่เคยเข้าใจข้าอย่างแท้จริงเลย”เมื่อกล่าวจบแล้ว นางไม่มองฉีจื่อฟู่อีกแม้แต่แวบเดียว ก้าวเร็วๆ เข้าจวนตระกูลหรงไปฉีจื่อฟู่ “จือจือ…”แต่ก็ไม่ได้รับแม้แต่การเหลียวหลังกลับมามอง ประตูใหญ่ของจวนตระกูลหรงปิดลงต่อหน้าเขาชิวยี่กระซิบเสียงเบาอย่างกระอักกระอ่วน “คุณชาย บ่าวก็บอกแล้วว่า ท่านควรจะถามก่อนว่าใช่ท่านหญิงทำหรือไม่…”นี่พอมาถึงก็ตัดสินว่าท่านหญิงผิดเลย ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ ท่านหญิงโกรธแล้วฉีจื่อฟู่ขมวดคิ้วกล่าว “มีอะไรต้องถามอีก? เรื่องนี้มันไม่ชั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 305

    เมื่อหรงจือจือเพิ่งกลับถึงเรือนของตน นางหวังก็ปรี่เข้ามาราวกับคนเสียสติ เงื้อฝ่ามือหมายจะทำร้าย ทว่านางกำนัลเฉินคว้าข้อมือนางไว้ได้ทัน ยังบิดมันอย่างแรงในที่สุดนางหวังก็กรีดร้องออกมา “อ๊าก...”นางกำนัลเฉินก้าวถอยหลังด้วยสีหน้าเฉยเมย “ฮูหยิน บ่าวเคยเรียนท่านแล้วว่าบ่าวพอมีวิชาป้องกันตัวอยู่บ้าง หากใครบังอาจไม่เคารพท่านหญิง บ่าวจะไม่ไว้หน้าเป็นอันขาด” สีหน้าของนางหวังบิดเบี้ยว นางกุมแขนที่เจ็บปวดแทบขาดใจ มองหน้านางกำนัลเฉิน “เจ้ากล้าทำร้ายข้าจริงๆ หรือ?”นางนึกว่าอีกฝ่ายคงแค่มาทำทีขู่ให้กลัว แต่บัดนี้นางเพิ่งรู้ว่าตนเองคิดผิดมหันต์ กระดูกข้อมือแทบจะแหลกละเอียด!นางกำนัลเฉินเตือนว่า “ท่านหญิงเจ้าคะ บ่าวเป็นทูตของฮ่องเต้!”นางหวังตวัดสายตาอย่างดุดัน “แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าลูกสาวข้าเจียวเจียว กำลังจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี หากเจ้ากล้าหือกับข้า เจ้าจะไม่มีวันได้ตายดี!”นางกำนัลเฉินกล่าวด้วยท่าทีสงบนิ่งไม่สะทกสะท้าน “เช่นนั้นบ่าวก็ขอให้ฮูหยินทำให้บ่าวตายสมใจปรารถนาเถิดเจ้าค่ะ”นางหวัง “เจ้า...”นางเบนสายตาจากนางกำนัลเฉินอย่างเคียดแค้น พยายามสงบสติอารมณ์ นางกำนัลเฉินเป็นแม่นมของฮ่องเ

บทล่าสุด

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status