Share

บทที่ 190

Author: สั่งไม่หยุด
ครั้นสายตาของหรงจือจือตกไปที่ปากประตู ก็เห็นฉีจื่อฟู่ดื่มจนเมาไม่ได้สติ ข้างเท้าเป็นขวดสุราที่ตกแตก ในวินาทีนี้กำลังประคองขอบประตูอยู่ “จือจือ...”

ใบหน้าของบ่าวรับใช้เองก็เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ กล่าวอยู่ตรงปากประตูว่า “คุณหนูขอรับ คุณชายเขาจะบุกเข้ามาให้ได้ เราเองก็ไม่กล้าลงมือ...”

อย่างไรก็เป็นบ่าวรับใช้ทั้งสิ้น ตอนนี้ฉีจื่อฟู่ดื่มเยอะเกินไป ไม่ว่ากันด้วยเหตุผล หากลงไม้ลงมือขึ้นมาจริง ๆ และเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาสักเล็กน้อย บ่าวรับใช้เหล่านี้คงไม่มีผู้ใดรับมือได้

ในแขนเสื้อของหรงจือจือมัดยากล่อมประสาทอย่างอ่อนเอาไว้ห่อหนึ่ง ชนิดที่ว่าออกฤทธิ์ทันที กำลังคิดจะทำให้ฉีจื่อฟู่หมดสติ และเรียกให้คนมาหามเขาออกไป

ทว่าฉีจื่อฟู่มองนางทั้งดวงตาแดงก่ำ “จือจือ ข้ามีอะไรจะพูดกับเจ้า...”

หรงจือจือเงียบไปครู่หนึ่ง

อันที่จริงนางรู้สึกว่าระหว่างตนกับฉีจื่อฟู่ ไม่มีอะไรต้องคุยกันนานแล้ว เพียงแต่ตอนนี้เห็นท่าทีของเขา อย่างไรก็มีความสงสัยอยู่สองสามส่วน คนผู้นี้พอเมา จะพูดแตกต่างออกไปหรือไม่?

อย่างไรในมือนางก็มียา ฉีจื่อฟู่เองก็ทำร้ายนางไม่ได้ นางมองบรรดาบ่าวรับใช้ “พวกเจ้าออกไปก่อน”

บรรดาบ่าวรับใช้ถอน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 191

    ผิดที่นางยืนด้วยลำแข้งของตัวเองอย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด ผิดที่นางแต่งงานมาเป็นภรรยา วางตัวเองเป็นนายหญิง รักและเคารพในตัวเอง ไม่รู้จักใช้มารยาสาไถยกับบุรุษแบบที่อนุทำกันฉีจื่อฟู่หลุบตาลง “ไม่ใช่ ไม่ใช่…ข้าเองก็ผิด…”หรงจือจือเลิกคิ้วขึ้น คิดในใจว่านี่ช่างเป็นคำพูดที่หาได้ยากยิ่งในช่วงที่ผ่านมา เคยมีผู้ใดในสกุลฉี ที่ไม่วางตัวว่าตนเป็นฝ่ายถูกต้องกับนางด้วยหรือ? แม้ว่าช่วงแรกฉีจื่อฟู่จะยอมรับว่าทำผิดต่อนาง แต่ไม่นานก็กลับมายืดหลังตรง ใช้ถ้อยคำไร้ยางอายกับนางเหมือนเดิมท่าทีเสียใจของเขาในวันนี้จึงนับเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงฉีจื่อฟู่กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “ข้าผิดไปแล้ว! ข้าผิดไปแล้วจริงๆ! แม้ว่ายามนั้นเจ้าจะทำดีต่อข้า แต่ข้าก็เอาแต่รู้สึกว่าเจ้าสมบูรณ์แบบจนเหมือนไม่ใช่คน เจ้าคล้ายจะรักข้า แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รักข้าขนาดนั้น”“นอกจากนี้ ทุกคนก็เอาแต่ชื่นชมเจ้า บอกว่าเจ้าดีอย่างโน้นอย่างนี้ บอกว่าเจ้าเก่งกาจมากความสามารถ เป็นหญิงสาวที่สมบูรณ์แบบที่สุดในใต้หล้า เสมือนว่าการที่ข้าแต่งงานกับเจ้ าเป็นอะไรที่เกินเอื้อมไปจากตัวข้าอย่างไรอย่างนั้น”“เสมือนว่าข้าไม่คู่ควรกับเจ้าแม้แต่น้อย”

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 192

    หรงจือจือมองฉีจื่อฟู่ด้วยความดูแคลนปนรังเกียจ ให้โอกาสเขาอีกครั้งอย่างนั้นหรือ?เช่นนั้นผู้ใดให้โอกาสท่านย่าของนางบ้าง?ฉีจื่อฟู่เห็นว่าไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการก็ลุกขึ้นเดินโซเซไปหาหรงจือจือ “จือจือ เดิมทีวันนี้ข้าควรอยู่กับผิงถิง แต่ภายในใจข้ามีแต่เจ้า…”หรงจือจือไม่สนใจที่จะฟังเขาพูดอีกนางโบกมือโปรยผงสีขาว นางกินโอสถต้านพิษตั้งแต่ตอนที่ตัดสินใจพูดคุยกับฉีจื่อฟู่ตามลำพังแล้วฉีจื่อฟู่รู้สึกหมดแรงและวิงเวียนศีรษะโดยพลัน ประกอบกับเมาเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้จึงล้มหมดสติลงกับพื้นทันทีหรงจือจือไม่รู้สึกห่วงว่าเขาจะเป็นหวัดแต่อย่างใด ยิ่งไม่สนใจที่จะประคองเขาขึ้นมาพูดเสียงดังว่า “บอกให้อวี้ม่านหวามารับเขา!”เจาซีรับคำสั่ง “เจ้าค่ะ!”จากนั้นสั่งให้บ่าวรับใช้ซึ่งเป็นสมุนของตนเองไปตามคนมาหลังจากที่หรงจือจือถูกฉีจื่อฟู่ทำร้ายบาดเจ็บเมื่อครั้งก่อน ทั่วทั้งเรือนหลันก็ไม่มีผู้ใดอยากให้เขาอยู่ค้างแรมที่นี่ต่อ ไม่โน้มน้าวให้หรงจือจือรั้งเขาให้อยู่ที่นี่ต่ออีกแต่อวี้หมัวมัวกังวลใจเล็กน้อย “คุณหนู พวกเราส่งตัวฉีจื่อฟู่กลับไปดีหรือไม่? อวี้ม่านหวาเป็นคนเรื่องมาก หากประเดี๋ยวมารับตัวเขา เกรง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 193

    “ยิ่งไปกว่านั้น ทักษะด้านการแพทย์ของข้าก็ไม่ได้แย่ ยามที่ข้าพบท่านพี่ฟู่ นั่นเป็นยามที่กองทัพต้าฉีของพวกท่านกำลังจะบุกยึดเมืองหลวงของแคว้นเจา”“โอสถที่ใช้รักษาท่านพี่ฟู่ ล้วนเป็นของที่ข้าต้องเสี่ยงต่อการถูกเสด็จพี่จับได้ ขโมยมาจากสำนักหมอหลวงทั้งสิ้น อีกทั้งบาดแผลของเขาก็เป็นตัวข้าเองที่ค่อยๆ รักษาด้วยความระมัดระวัง!”หรงจือจือเผยสีหน้าแสดงความเข้าใจ “โอ้? ที่แท้ก็เป็นแบบนั้นนี่เอง!”อวี้ม่านหวาพูดด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องใจ จบแล้วก็แสดงท่าทีเหมือนคร้านจะคุยกับหรงจือจืออีก นางเรียกให้คนมาแบกฉีจื่อฟู่ออกไป หรงจือจือไม่ขัดขวางแม้แต่น้อยหลังจากที่อวี้ม่านหวาออกไปเจาซีก็พูดด้วยความตกใจ “คุณหนู อนุอวี้นาง…เมื่อครู่นี้นางว่ากระไรนะเจ้าคะ? คงมีเพียงผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านการแพทย์แม้แต่น้อยเท่านั้น ที่จะเข้าใจสรรพคุณของเปลือกไม้เหอฮวนผิด?”“แม้แต่เรื่องแค่นี้ก็ยังไม่รู้ ทว่านางกลับบอกว่าตัวเองเป็นผู้รักษาฉีจื่อฟู่อย่างนั้นหรือ?”“ซ้ำยังไปขโมยโอสถจากสำนักหมอหลวงอีก? นางไม่กลัวหรือว่าจะใช้โอสถผิดตัวจนทำให้ฉีจื่อฟู่ตาย?”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “ไม่ใช่แค่นั้น ยากล่อมประสาทอย่างอ่อนที่ข้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 194

    เมื่อก่อนนี้เขาแข็งกร้าวเกินไป แต่บัดนี้เขารู้แล้วว่า ความแข็งกร้าวใช้ไม่ได้ผลกับหรงจือจือบางทีเขาควรจะยอมมีท่าทีอ่อนลงและเอาใจนาง!จู่ๆ อวี้ม่านหวาก็ถูกเขาตะคอกใส่นางปิดหน้าร้องไห้ทันที “ท่านพี่ฟู่ เหตุใดจึงตะคอกข้าเช่นนี้? เมื่อคืนนี้ท่านดื่มหนักมาก เป็นข้าที่ดูแลท่านตลอดทั้งคืน!”ฉีจื่อฟู่นึกได้ว่านางกำลังตั้งครรภ์ ไม่ควรกระทบกระเทือนใจมากเกินไป จึงผ่อนน้ำเสียงลง “พอแล้ว ไม่ต้องร้องแล้ว ข้าไม่ดีเอง แต่หากหลังจากนี้ข้าไปอยู่กับฮูหยินน้อย เจ้าก็อย่าเข้ามายุ่งอีก”อวี้ม่านหวากล่าวสะอึกสะอื้น “ข้าเข้าใจแล้ว ข้ารู้ว่าท่านลืมนางไปจากใจไม่ได้…”ฉีจื่อฟู่ “เจ้ารู้ก็ดีแล้ว”อวี้ม่านหวา “?”ฉีจื่อฟู่พูดต่อโดยไม่สนใจนาง “หากนางยอมยกโทษให้ ข้าก็จะ…ช่างเถอะ ไม่มีอะไร”เดิมทีเขาจะพูดว่าจะส่งอวี้ม่านหวาไปอยู่ชนบท แต่เมื่อคิดว่านางฟังแล้วคงร้องไห้ต่อ ก็ไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเองอีก มันไม่ใช่เพราะเขาไม่ยินดีส่งอวี้ม่านหวาไปอยู่ที่อื่นเพื่อแสดงความจริงใจต่อจือจือแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะกลัวว่าม่านหวาได้รับการกระทบกระเทือนแล้ว จะส่งผลเสียต่อลูกในท้อง เว้นเสียแต่ว่าจือจือจะให้อภัยเขาในทัน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 195

    กระทั่งในยามหลับฝันก็ยังฝันว่าฉีจื่อฟู่รู้ว่านางเป็นไส้ศึกแล้วทั้งสองคนต้องแยกจากกันความรู้สึกเจ็บปวดนั่นช่างสมจริงเหลือเกิน!นางหัวเราะเยาะตัวเองอยู่ตลอด ทั้งที่กำลังแสดงละคร ทว่ากลับเกือบจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในบทบาทแต่ในระหว่างที่เดินทางกลับแคว้นต้าฉีนางก็ได้พบกับความกังวลใจของฉีจื่อฟู่ ได้พบว่าเขามักจะร้องเรียกชื่อของหรงจือจือในยามหลับฝัน โดยเฉพาะหลังจากที่กลับถึงสกุลฉี นางยิ่งสัมผัสได้ว่าภายในใจฉีจื่อฟู่มีเพียงหรงจือจือสำหรับฉีจื่อฟู่แล้ว ตัวนางเป็นเพียงเรื่องน่าขัน เป็นเพียงหินลับมีดที่ใช้ขัดเกลาความรู้สึกระหว่างเขากับหรงจือจือ!ถึงเวลานี้ นางได้เก็บความหวั่นไหวทั้งหมดกลับคืน ไม่เหลือความรักอีกต่อไป เหลือเพียงแผนการฟื้นฟูมาตุภูมิอันยิ่งใหญ่ที่เด่นชัดภายในใจ กับความเคียดแค้นเกลียดชังที่ฉีจื่อฟู่ทำลายชาติบ้านเมืองของนาง!เมื่อเห็นองค์หญิงดวงตาแดงก่ำ ยังจะมีอะไรที่ซี่อวี่ไม่เข้าใจอีก?นางพูดด้วยความปวดใจว่า “องค์หญิง หนทางสู่ความสำเร็จมักยากลำบากเสมอ! เมื่อท่านกลับคืนสู่ตำแหน่งองค์หญิงอีกครั้ง ต่อไปต้องการบุรุษแบบใด ท่านอ๋องรองมีหรือจะกล้าขัดใจท่าน? ต่อไปฉีจื่อฟู่ก็เป็นได

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 196

    หรงจือจือพยักหน้าก่อนจะอธิบายถึงจุดประสงค์ในการมาแบบย่อสุดท้ายพูดว่า “ข้าไม่รู้ว่านอกจากภายในสกุลฉีแล้ว อวี้ม่านหวายังมีผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่นอีกหรือไม่ ไม่กล้าแหวกหญ้าให้งูตื่น ด้วยเหตุนี้จึงขอความช่วยเหลือจากพี่หญิงสกุลเซินเพื่อส่งข่าวนี้ให้ท่าน หวังว่าท่านราชเลขาธิการจะเป็นผู้ตัดสินใจ”เซิ่งเฟิงพูดขึ้นว่า “แม่นางหรงทำถูกแล้ว! พวกข้าจับตาดูซี่อวี่ผู้นั้นตั้งแต่ก่อนที่จะถูกรับเข้าสกุลฉีเสียอีก”“หลังจากฉีจื่อฟู่รับนางกลับไป พวกข้าก็คอยจับตาดูสกุลฉีอย่างลับๆ ดูว่าจะมีคนมาติดต่อกับอวี้ม่านหวาหรือซี่อวี่หรือไม่”“แต่ในช่วงก่อนนี้ พวกข้าไม่อาจมั่นใจได้ว่าอวี้ม่านหวาเป็นสายลับหรือไม่ ต้องขอบคุณที่วันนี้แม่นางช่วยยืนยัน”หรงจือจือมองเขาด้วยความประหลาดใจ นั่นเป็นเพราะในการพบหน้าสองสามครั้งก่อนหน้านี้ ท่าทีที่เซิ่งเฟิงมีต่อนางค่อนข้างนิ่งเฉย ทว่าวันนี้กลับสุภาพมีมารยาทมาก ทำให้นางตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อย เซิ่งเฟิงเห็นหรงจือจือมองมาก็ยิ้มยิงฟันให้นางอย่างประจบประแจง หากไม่ติดที่ตัวเองไม่สะดวกที่จะเข้าไปเอาอกเอาใจ เขาคงเลียนแมวอย่างคุณชายหลีแล้ว ตอนนี้เขามองว่าการเอาใจแม่นางหรงจะเป็นผลด

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 197

    เมื่อเขาพูดเช่นนี้ หรงจือจือย่อมไม่กล้าถามอีก นางย่อเข่าพูดว่า “เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อน หากวันหน้าพบเจอเบาะแสใดๆ เกี่ยวกับแคว้นเจาจะส่งคนไปแจ้งให้ท่านทราบ”เฉินเยี่ยนซู “อืม”หลังจากที่หรงจือจือจากไปแววตาเย็นยะเยียบของเฉินเยี่ยนซูพลันหม่นลง เขาสั่งอย่างราบเรียบว่า “บอกให้ขันทีอาวุโสหยางค้นตำหนักบรรทมของฝ่าบาทให้ทั่ว หากยังมีตำราไร้สาระหลงเหลือก็ทำลายทิ้งให้หมด”เซิ่งเฟิง “…ขอรับ”ฝ่าบาทช่างน่าสงสารยิ่งนัก! หากไม่ใช่เพราะฝ่าบาทบอกให้ใส่อัญมณีลงไป คุณหนูสกุลหรงก็คงไม่พูดว่าสมบัติมีราคาแพงเกินไปจนอยากส่งคืนให้กับเจ้าของเช่นนี้ดูแล้วท่านราชเลขาธิการน่าจะเข้าใจหรงจือจือมากกว่า หากมีเพียงพวงบุปผา นางก็คงไม่พูดเช่นนี้ แต่เพราะฝ่าบาทที่อ่านตำราไร้สาระที่ทำให้นายท่านเสียความมั่นใจและใส่อัญมณีลงไป ครานี้เป็นอย่างไรเล่า? กระทั่งฝ่าบาทก็ยังถูกลงโทษไปด้วยเฉินเยี่ยนซู “ยึดจิ้งหรีดที่ฝ่าบาทเพิ่งได้รับมาด้วย”เซิ่งเฟิงรู้สึกสงสารฮ่องเต้ “ข้าน้อยรับบัญชา!”การเล่นจิ้งหรีดเป็นงานอดิเรกเพียงอย่างเดียวของฮ่องเต้ ท่านราชเลขาธิการมีการดูแลและควบคุมอย่างเข้มงวด ทุกๆ สิบวันจะอนุญาตให้เล่นเพียงแ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 198

    ฉีจื่อฟู่ผิดจากคนอื่นที่ขอเงินจากนางถานได้ยาก หากเขาเป็นคนไปขอเงินจากอีกฝ่าย มันจะเป็นอะไรที่ง่ายมากเขาไม่ได้บอกนางถานว่าจะเอาเงินไปทำอะไร เพียงแต่ให้คำมั่นสัญญาต่อนางถานว่า เมื่อวันหน้าตัวเองได้รับรางวัลหรืออะไรอย่างอื่นจากราชสำนัก เขาจะรีบนำมาคืนท่านแม่โดยเร็วที่สุด นางถานจึงมอบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงให้กับเขาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เพราะในสายตานางถานแล้ว บุตรชายคนโตของนางสมบูรณ์แบบทุกประการ ก่อนหน้านี้สามารถสร้างผลงานครั้งใหญ่ที่แคว้นเจา หากจะสร้างผลงานอีกในอนาคตก็ไม่ใช่เรื่องยาก!ไม่นานนัก ฉีจื่อฟู่ก็มาถึงยังเรือนหลันหรงจือจือรู้ว่าเขานำเงินมาคืนจึงไม่ได้ให้คนขวางไว้และคลายการปิดเรือน อย่างไรเสีย หลังจากเหตุการณ์ปลดตำแหน่งเป็นต้นมา คนสกุลฉีก็ไม่กล้าหาเรื่องนางมั่วซั่วอีกฉีจื่อฟู่นำตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงออกมามอบให้หรงจือจือ “นี่คือเงินสามพันตำลึง ส่วนที่เกินมาขอยกให้เจ้า!”หรงจือจือหัวเราะเยาะแล้วให้อวี้หมัวมัวหาเงินมาทอนให้ฉีจื่อฟู่นางกล่าวอย่างนิ่งเรียบว่า “ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยกินไม่เคยใช้ของๆ จวนโหวแม้แต่น้อยแต่กลับถูกท่านตำหนิ ตอนนี้ข้าคงไม่กล้ารับเงินที่เกินมาสองร้

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status