Share

บทที่ 18

Author: สั่งไม่หยุด
เมื่อนางถานนึกถึงความเย็นชาเหล่านั้นที่ตนได้รับวันนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ก็โมโหขึ้นมา แทบอยากจะกลืนหรงจือจือทั้งเป็น เมื่อเห็นบุตรชายถูกตนโน้มน้าวได้สำเร็จ

นางถานจึงพยายามต่อไป กล่าวขึ้นอีกว่า “ดังนั้นไม่เพียงเรื่องสินเดิม เจ้าห้ามปกป้องนาง เจ้าต้องคิดหาหนทาง เพื่อตั้งกฎให้นาง”

“ทำให้นางรู้ว่า ตั้งแต่ไหนแต่ไรเจ้าไม่ใช่ว่าอะไรก็นึกถึงแต่นาง คนที่เจ้ารักที่สุดในใจก็ไม่ใช่นางเช่นกัน องค์หญิงม่านหวากับลูกในท้องของนาง เจ้าต้องวางไว้เป็นอันดับหนึ่ง”

“ทำเช่นนี้หรงจือจือถึงจะรู้สึกถึงความลนลาน ถึงจะระมัดระวังตัว พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อเอาชนะใจเจ้า”

ฉีจื่อฟู่แค่นหัวเราะ “เรื่องแค่นี้ลูกเข้าใจ! ก่อนหน้านี้ให้นางเป็นอนุ นางก็อยากจะหย่าร้าง เห็นได้ชัดว่าหัวแข็งเกินไป เมื่อก่อนลูกดีกับนางเกินไปหน่อย”

“หากนางรักข้าจริง ก็ต้องยินดีที่เป็นอนุ จะไม่ยอมร่วมหลับนอนได้อย่างไร? ท่านแม่วางใจ ลูกจะสั่งสอนนางให้ดี ทำแบบนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น!”

หรงจือจือดีงามเกินไปแล้ว ตอนนั้นตอนที่เขายังนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง ทุกคนมาเยี่ยมเขา มักจะพูดถึงหรงจือจือ กล่าวว่าตนเองมีวาสนา

ราวกับว่าผู้ชายอกสามศอกอ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 19

    ก่อนหน้านี้เป็นเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง นางถานจึงได้มอบหน้าที่หุงหาอาหารในบ้านให้หรงจือจือทำมานานแล้ว วันนี้อยากจะต้อนรับขับสู้ด้วยตนเอง เพื่อแสดงให้เห็นว่าให้ความสำคัญกับนางเซี่ยหรงจือจือเพิ่งได้รับอิสระ แต่นางก็ไม่ได้ทำตัวว่าง ส่งคนไปสืบข่าวคราวที่เรือนด้านหน้า แล้วก็กำลังจัดการใบรายการสินเดิมของตนเองเพียงแต่ถึงแม้นางถานจะสติเลอะเลือน แต่กลับปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรอบคอบยิ่ง ให้คนรับใช้คนสนิทของตนเฝ้าเรือนอย่างเข้มงวด สาวใช้ของหรงจือจือจึงไม่สามารถสืบรายละเอียดที่คุยกันได้หลังจากได้ยินรายงานของเจาซี “คุณหนู หลังจากที่พระชายาซื่อจื่อแห่งจวนอ๋องกลับไปแล้ว ฮูหยินก็โมโหมาก ขว้างปาข้าวของในห้องหลายอย่างเลยเจ้าค่ะ!”หรงจือจือเลิกคิ้ว “อย่างนั้นหรือ?”หรือที่ไม่อยากให้ตนไปพูดอะไรกับจวนอ๋องเฉียน เป็นเพราะการแต่งงานได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว?ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอย่างละเอียดสาวใช้เฉินคนสนิทของนางถาน ก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่พอใจ จ้องหรงจือจือกล่าว “ฮูหยินซื่อจื่อ ฮูหยินใช้ให้บ่าวรับใช้มาตามท่านให้ไปพบเจ้าค่ะ!”หรงจือจือก็อยากจะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเช่นกัน จึงไม่รอช้า รีบลุกขึ้นทันทีเจา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 20

    เมื่อเจาซีฟังจบก็สีหน้าไม่พอใจทันที กำหมัดแน่น รู้สึกไม่พอใจแทนคุณหนูของตนมาก อยากจะด่าแม่สามีที่ไม่มีเหตุผลอย่างนางถานสักยกจริง ๆ แต่ถึงอย่างไรก็ด่าไม่ได้ จึงทำได้เพียงอดทนหรงจือจือดูสงบยิ่งกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด “ท่านแม่อยากจะตำหนิข้าอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นอย่างน้อยลูกก็ควรได้รู้ว่า ตนทำผิดอะไรใช่หรือไม่? ท่านแม่โปรดบอกด้วย”นางถานกำลังจับมือสาวใช้เฉิน มองหรงจือจือด้วยสีหน้าขึงขัง “เจ้าทำอะไรผิดอย่างนั้นหรือ? ดี ข้าจะให้เจ้าได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง! ป้าเฉิน เจ้าบอกนางไปซิ”สาวใช้เฉินก้าวออกมา พูดเหตุผลออกมาแทนเจ้านายของตนเอง “เมื่อครู่นี้นางเซี่ยพระชายาซื่อจื่อแห่งจวนอ๋องเฉียนมาที่นี่เพื่อหารือเรื่องสินสอด ไม่คิดว่าจะสะเพร่าถึงขนาดนี้ ให้สินสอดเพียงสามสิบลัง นี่ไม่ใช่เรื่องที่จวนอ๋องจะทำอย่างแน่นอน”“นางเซี่ยกล่าวว่า เป็นเพราะเรื่องที่ซื่อจื่อจะให้ซื่อจื่อฮูหยินเป็นอนุ ตอนนี้ด้านนอกลือกันอย่างหนาหู ในครอบครัวต่างกำลังพูดกันว่าครอบครัวของเราไม่ดี นางไม่ยกเลิกการแต่งงานครั้งนี้ ก็นับว่าไว้หน้าจวนโหวแล้ว”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงไม่ยินยอมที่จะให้สินสอดไปมากกว่านี้แล้ว ให้เพียงแค่สาม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 21

    สิ่งนี้ทำให้นางถานไม่พอใจเป็นอย่างมากทว่าในจังหวะนี้เองฉีจื่อฟู่ก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก “จือจือ ท่านแม่ถูกเจ้ายั่วโมโหจนร้องไห้ แต่เจ้ากลับไม่สำนึกผิดเลยสักนิด คุณธรรมกับความกตัญญูของเจ้าล่ะ?”ครั้นหรงจือจือได้ยินคำพูดกลับขาวเป็นดำของคนในตระกูลเขา ก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก แต่ไม่คิดว่าในใจของนางจะสงบลงแล้วนางเพียงทอดตามองเขาชืด ๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเตือนว่า “ท่านพี่กล่าวเรื่องตลกแล้ว ผู้ที่ถูกสามีลดขั้นให้เป็นอนุเช่นข้าจะมีคุณธรรมอะไรกัน?”“แทนที่ท่านพี่จะมาถามหาความกตัญญูจากข้า ไม่สู้ถามตัวท่านเองเถิด? หากไม่ใช่เพราะท่านคบชู้ร่วมประเวณีโดยมิชอบ และประกาศว่าจะลดตำแหน่งภรรยาเอกเป็นอนุในงานเลี้ยงละก็ เรื่องการแต่งงานของอวี่เยียนจะพลอยถูกท่านทำให้ติดร่างแหไปด้วยหรือ?”“ท่านแม่เอาแต่โทษข้า แต่ผู้ที่มีปัญญาก็รู้กันทั้งนั้นว่า อันที่จริงแล้วเรื่องมันเกิดมาจากท่านทั้งนั้น ฉะนั้นผู้ที่ทำให้ท่านแม่ต้องเดือดดาลจนเป็นเช่นนี้ไม่ใช่ข้า แต่เป็นผู้ที่เริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดอย่างท่านต่างหาก!”ฉีจื่อฟู่จ้องมองนางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง “จือจือ เจ้าดูสภาพของเจ้าตอนนี้สิ ข้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 22

    หรงจือจือได้ยินดังนั้นก็แทบจะหลุดขำออกมา นางถานทำดีกับนาง?เห็น ๆ กันอยู่ว่าเป็นยายเฒ่าเจ้าเล่ห์ปากหวานก้นเปรี้ยว อยู่ข้างนอกแสร้งทำเป็นชอบพอในตัวนาง ทว่าเมื่อกลับถึงจวนกลับเปลี่ยนลูกไม้ใช้ให้ตนไปปรนนิบัติ ตั้งกฎเกณฑ์ให้นาง ราวกับหากได้บดขยี้นางแล้ว ยายเฒ่าเจ้าเล่ห์ก็จะได้อยู่สูงกว่าผู้อื่นเนื่องจากแม่แท้ ๆ ของหรงจือจือเองก็ไม่เคยทำดีกับนาง ฉะนั้นนางจึงไม่เคยเรียกร้องอะไรมากมายกับนางถานเช่นกัน คิดเพียงแค่ว่าใช้ชีวิตผ่านไปได้ก็พอแล้วไม่รู้เลยว่า ฉีจื่อฟู่พูดเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร?นางเองก็คร้านจะพูดมาก จึงได้แต่มองฉีจื่อฟู่แล้วเอ่ยว่า “ท่านพี่ไม่ต้องมาชี้หน้าข้าพูดเรื่องกฎเกณฑ์ด้วยโทสะหรอก ข้าอยู่เรือนไม่รู้จักกฎเกณฑ์เป็นเรื่องเล็ก แต่ท่านพี่อยู่ในราชสำนักไม่รู้จักกฎมณเฑียรบาลเป็นเรื่องใหญ่”“เดี๋ยวข้าจะให้คนเอากฎมณเทียณบาลของราชสำนักเรามาให้ท่านพี่เช่นกัน ท่านพี่ก็ศึกษาอยู่ในห้องหนังสือดี ๆ ล่ะ”“หวังว่าหลังจากนี้ท่านพี่จะไม่ไปโวยวายพูดเรื่องกบฏฝ่าฝืนกฎมณเฑียรบาล ลดภรรยาเอกเป็นอนุต่อหน้าธารกำนัล จนถูกผู้ตรวจการจางชี้หน้า บอกว่าควรสั่งเฆี่ยนท่านพี่เท่าไรอีก”“หากมีอีกครา อย่าว่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 23

    “ไม่แน่ว่าเมื่อรับม่านหวากลับมาแล้ว ทั้งจวนจะได้รอลูกคนแรกของข้าคลอดออกมาด้วยกัน!”“พูดไปพูดมา ทั้งหมดก็เป็นเพราะเจ้าเอะอะก่อเรื่อง ไม่เข้าใจกระทั่งหลักหลังออกเรือนเชื่อฟังสามี ไม่รู้เลยว่าชื่อเสียงดี ๆ ของเจ้าได้มาได้อย่างไร”หรงจือจือคิดว่าตนเองคงชินกับความไร้ยางอายของครอบครัวเขาไปแล้ว อารมณ์จึงสงบไม่ไหวติงใด ๆทว่าในตอนนี้ กลับทำให้ฉีจื่อฟู่กลับเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟสุด ๆฉีอวี่เยียนที่หน้าคล้ำดำเขียวเงียบไปอยู่นานสองนาน ก็พูดแทรกขึ้นมาในตอนนี้ “ใช่ พี่สะใภ้ ก็แค่เพิ่มอีกสามสิบหาบเท่านั้น!”“ตอนที่ท่านแต่งงานเข้ามา สินเดิมมีตั้งหนึ่งร้อยยี่สิบหกหาบไม่ใช่หรือ? แบ่งให้ข้าสักหน่อยจะเป็นอะไรไป? หากของแค่นี้ท่านยังตัดใจไม่ได้ คนในบ้านใครจะเข้าข้างท่าน?”หรงจือจือกล่าวอยู่ในใจว่าต่อให้ตนผ่าหัวใจให้คนในครอบครัวนี้ พวกเขาก็ไม่มีวันเข้าข้างตนหรอกเมื่อเห็นพวกเขาเป็นเช่นนี้ นางก็ฉีกยิ้มชืด ๆ ออกมา “เพิ่มให้อีกสามสิบหาบอย่างนั้นหรือ? เพิ่งจะเท่าไรกันเชียว? รวมกับยี่สิบหาบก่อนหน้านี้ ข้าเพิ่มให้อีกหกสิบแปดหาบเลย รวมเพิ่มให้อวี่เยียนทั้งหมดหกสิบแปดหาบ คิดว่าเช่นนี้ท่านแม่กับท่านพี่คงจะพอใจ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 24

    นางถานได้ยินดังนั้นก็เดือดจนควันออกหู นางอยากให้หรงจือจือใจกว้างยกสินเดิมให้ตระกูลพวกเขา ทว่าก็ไม่ได้ให้ใช้วิธีที่ใจกว้างเช่นนี้เสียหน่อยนางรีบส่งสายตาไม่ให้หรงจือจือปริปากอีกทันที จากนั้นก็เอ่ยกับฉีอวี่เยียนว่า “พี่สะใภ้ของเจ้าเอาใจเจ้าเช่นนี้ ถึงขั้นยอมยกสินเดิมให้เจ้ามากมายขนาดนั้น เจ้าเองก็ควรนึกถึงพี่สะใภ้บ้างสิถึงจะถูก”“เจ้าจะเห็นแก่ตัวเช่นนี้ได้อย่างไร เอาของดีมากมายขนาดนั้นไปคนเดียว ไม่คิดถึงอนาคตของพี่ชายกับพี่สะใภ้เจ้าบ้างหรือ?”หรงจือจือได้ยินดังนั้นก็นึกอยากขำ เยี่ยมไปเลย ตอนนี้เริ่มกล่าวโทษว่าฉีอวี่เยียนเห็นแก่ตัวแล้ว หากทำไม่ถูกใจนางถาน ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็เห็นแก่ตัวทั้งนั้นฉีอวี่เยียนถลึงตาโต “ท่านแม่ ท่านพี่กับพี่สะใภ้มีอะไรให้ข้าต้องคิดเผื่อเล่า? วันหน้าจวนโหวนี่ท่านพี่ก็ได้เป็นผู้สืบทอด”นางถานเอ่ยถามด้วยสีหน้าปั้นยาก “ใช่ว่าเจ้าไม่รู้เสียหน่อยว่า ตอนนี้สถานการณ์ของจวนโหวเป็นเช่นไร...”ฉีอวี่เยียน “ข้ารู้ว่าจวนโหวไม่ได้มีเงินมากมาย แต่ก่อนหน้านี้ท่านแม่บอกว่ารวมยี่สิบหาบนั่นของพี่สะใภ้แล้ว จะให้สินเดิมข้าทั้งหมดหกสิบหกหาบ ท่านแม่ออกเองสี่สิบหกหาบ”“แต่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 25

    ฉีอวี่เยียนที่เดิมทีคิดจะทำตามการจัดเตรียมของมารดา เมื่อได้ยินประโยคนี้ ก็ถูกฉากแสนงดงามที่หรงจือจือพรรณนาทำให้หวั่นไหวเป็นอย่างมากผู้ที่มีสินเดิมสองร้อยหาบตอนออกเรือน มีเพียงท่านหญิงอันเหอลูกพี่ลูกน้องของฝ่าบาทเท่านั้น ! หากนางมีเยอะขนาดนั้นได้เช่นกัน ไม่ว่าอย่างไรนางเซี่ยแม่สามีในอนาคต ก็จะต้องมองตนด้วยความชื่นชม!นางรีบคว้าแขนของนางถาง “ท่านแม่! ท่านแม่ดูสิพี่สะใภ้เอ่ยเช่นนี้แล้ว ไม่สู้จัดการตามที่พี่สะใภ้ว่าเถิด หรือว่าท่านแม่ผู้เป็นแม่จะรักข้าน้อยกว่าพี่สะใภ้?”หรงจือจือเอ่ยขึ้นด้วยคำพูดที่ฟังดูอบอุ่น “อวี่เยียนไม่ต้องกังวลไปนะ ท่านแม่รักเจ้าราวกับแก้วตาดวงใจมาตลอด คำของ่าย ๆ เช่นนี้ ท่านแม่ย่อมต้องยินยอมอยู่แล้ว! พี่สะใภ้อย่างข้ายังตัดใจให้หนึ่งร้อยหาบได้ หรือว่าท่านแม่ผู้เป็นแม่จะไม่ยอมเชียวหรือ?”นางถางถูกฉีอวี่เยียนอ้อนวอน มิหนำซ้ำยังถูกหรงจือจือยกยอปอปั้นขึ้นมาอีก ในฉับพลันก็ลำบากใจเป็นอย่างมากนางจ้องหรงจือจือ พลางตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าจะจัดเตรียมสินเดิมให้อวี่เยียนอย่างไร ต้องให้เจ้ามาสอดปากตั้งแต่เมื่อไร?”สีหน้าของหรงจือจือแข็งทื่อ นางตอกกลับด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 26

    หรงจือจือลอบคิดในใจ นับว่านางถานไม่โง่ทีเดียว ไม่คิดว่าจะมองออกแล้วเพียงแต่ปากนางจะยอมรับได้อย่างไร?นางมองนางถานราวกับยากจะเชื่อทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นพลางขมวดคิ้วว่า “ท่านแม่ ท่านพูดเช่นนี้ใส่ความข้าชัด ๆ! เสี้ยมเซิ้มอะไรกัน?”“ข้าแค่คิดว่าตอนนี้ท่านพี่ก็สร้างคุณูปการให้แก่ราชวงศ์แล้ว ต่อไปต้องมีอนาคตที่สดใสอย่างยิ่งแน่ เดี๋ยวก็ต้องทำเงินกลับมาได้ไม่น้อย อีกอย่างน้องชายสามีเองก็กราบอาจารย์ที่สำนักขงจื๊อแล้ว คิดว่าไม่ช้าก็เร็วคงจะสอบผ่านเข้ารอบ”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็มอบสินเดิมให้อวี่เยียนเพิ่มอีกหน่อย ให้แล้วก็ให้ไปเถิด เหล่าบุรุษในบ้านเก่งกาจค้ำจุนเรือนนี้ได้ จะให้อวี่เยียนที่อายุเพียงสิบกว่าปีต้องไปตกระกำลำบากอยู่ข้างนอกได้อย่างไร?”เมื่อพี่น้องตระกูลฉีได้ยินดังนั้น ในใจก็หวั่นไหวขึ้นมาโดยเฉพาะฉีจื่อฟู่ จ้องมองหรงจือจือด้วยดวงตาเปล่งประกาย ที่แท้นางก็มองตนเช่นนี้เองหรอกหรือ คิดว่าไม่นานตนก็จะมีอนาคตที่ดีเช่นนั้นหรือ?ใช่แล้ว เขาต้องมีแน่! ต้องมีสักวัน เขาจะทำให้ทุกคนในใต้หล้าเมื่อนึกถึงหรงจือจือ ก็จะคิดว่านางคือเครื่องประดับของตนแต่ไม่ใช่อย่างในงานเลี้ยงวันนั้น ทั้ง ๆ ที่

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 100  

    แต่เขาคิดจนหัวแตก ก็ไม่เกิดประโยชน์แม้แต่น้อย คนยังคงไม่สามารถขึ้นไปอยู่บนเตียงหลังเดียวกับหรงจือจือ รู้สึกเพียงว่า ในใจของตนกระวนกระวายอย่างที่สุด ปากคอยิ่งแห้งผากกว่าเดิม อวี้ม่านหวารับรู้ได้ว่า ใจของเขาไม่อยู่ที่นี่ จึงกล่าวด้วยหยาดน้ำตาที่ขังคลอในเบ้าตาว่า “ท่านพี่ หรือว่าท่านไม่ปรารถนาจะมาหาข้า? ถ้าเป็นแบบนั้น ท่านก็ไปหาพี่หญิง…ไม่สิ ท่านก็ไปหาฮูหยินซื่อจื่อเถอะ” พูดจบ ก็เริ่มซับน้ำตา ในอดีต ฉีจื่อฟู่มีความอดทนให้การปลอบนางอย่างมาก ทว่าวันนี้ ความคาดหวังอันเต็มอกที่จะได้ร่วมหอกับหรงจือจือถูกดับลงสิ้น จากที่เดิมที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว หนนี้ จึงขมวดคิ้วเหลือบตามองนางคราหนึ่ง แล้วถามอย่างประหลาดใจว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้าแสร้งเป็นปวดท้อง เพื่อเรียกให้ข้ามาหรือ?” อวี้ม่านหวาถูกทำให้พูดไม่ออก ฉีจื่อฟู่รู้สึกว่านางช่างประหลาดนัก ปวดท้องอะไรกัน? เขาไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเรื่องเท็จ กระทั่งลูกไม้เพื่อแย่งชิงความโปรดปรานเล็กๆ พวกนี้ของนาง เขาก็มองไม่ออกอย่างนั้นหรือ? แล้วบัดนี้ ยังจะมาเล่นตัวเพื่อการใดอีก? อวี้ม่านหวาเริ่มหลั่งน้ำตา “ท่านพี่ฟู่ เหตุใดท่านจึงกล่าวกับข้าเช่นนี้? ข้าเป

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 99

    ตงจื้อกล่าวอย่างคิดว่าตนมีเหตุผลว่า “แต่ข้าคิดว่า ซื่อจื่อ ท่านจึงจะเป็นดั่งฟ้าของฮูหยินซื่อจื่อมิใช่หรือขอรับ? ต่อให้ฮูหยินผู้เฒ่าหรงจะสำคัญเช่นไร ก็ไม่มีทางสำคัญเท่าการทำให้ท่านเบิกบานใช่ไหมขอรับ?”เมื่อฉีจื่อฟู่ได้ยินเช่นนั้น สีหน้ามืดมนลงแล้ว “ที่เจ้าพูดมาก็ถูก !”ตนเป็นสามีของจือจือ นางควรจะให้ความสำคัญกับตนเป็นอันดับแรกในทุกเรื่องชัดๆในเวลานั้นเอง ก็มีข้ารับใช้อีกคนเข้ามารายงานว่า “ซื่อจื่อ อนุอวี้บอกว่าท้องของนางรู้สึกไม่สบายอยู่บ้าง บอกให้ท่านไปอยู่เป็นเพื่อนนางขอรับ!”ฉีจื่อฟู่ “รู้แล้ว ข้าจะไปเดี๋ยวนี้! ในเมื่อหรงจือจือไม่รู้จักรับน้ำใจของผู้อื่น เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางเดียวดายไปเถอะ มีคนมากมายที่รักข้า ข้าก็มิใช่ว่าต้องเป็นนางเพียงผู้เดียวเสียหน่อย!“ชิวอี้ เจ้าจงส่งความไปบอกเรือนหลัน ให้ฮูหยินซื่อจื่อสำนึกตนให้ดี คิดดูว่าจะขอโทษข้าเช่นไร ไม่เช่นนั้น ถึงเวลาคลอดบุตรภรรยาเอกออกมาไม่ได้ ก็จงอย่าได้มาขอร้องข้าแล้วกัน!”ชิวอี้สั่นสะท้านขึ้นมา เหลือบมองตงจื้อคราหนึ่ง แล้วคุกเข่ากล่าวว่า “ซื่อจื่อ ไม่เช่นนั้นเปลี่ยนเป็นเด็กรับใช้รับหน้าที่ช่วยจัดการธุระต่างๆ ไปส่งข่าวดีไหมขอร

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 98

    หรงจือจือมองไปที่ตงจื้อ ถามอย่างราบเรียบที่แฝงไปด้วยความเย็นชาและเย้ยหยันว่า “คำพูดที่บอกไม่ได้ข้าสวมชุดไว้ทุกข์ เป็นเจ้าหรือซื่อจื่อที่พูด?”ตงจื้อตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็กล่าวต่อว่า “เป็นข้าพูดเองขอรับ ฮูหยินซื่อจื่อ ข้าก็พูดไปเพื่อประโยชน์ของท่าน ข้า…”หรงจือจือกล่าวด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบว่า “ข้ารับใช้ในจวนนี้ ล้วนต่างก็ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาแล้ว แต่ละคนต่างกล้ามาสั่งสอนข้า ว่าควรจัดการเรื่องราวอย่างไร คิดว่าครั้งก่อนที่โบยบ่าวรับใช้แซ่เฉินนั่นไป คงยังไม่พอจะเชือดไก่ให้ลิงดูกระมัง”ตงจื้องงแล้ว นี่ฮูหยินซื่อจื่อหมายความว่าอย่างไรกัน?หรงจือจือ “เด็กๆ! ลากออกไปโบยซะ! ครั้งก่อนสั่งสอนบ่าวแซ่เฉินนั่นเช่นไร วันนี้ก็จงสั่งสอนเขาเช่นนั้น!”ตงจื้อรีบกล่าวว่า “ฮูหยินซื่อจื่อ นี่ท่านกำลังทำสิ่งใดกัน? ข้าหวังดีต่อท่านจริงๆ นะขอรับ หรือท่านไม่อยากปรนนิบัติซื่อจื่อพักผ่อนแล้วหรือ? หากโบยข้า ซื่อจื่อจะต้องไม่พอใจแน่!”หรงจือจือคิดในใจว่า อย่างนั้นย่อมดีที่สุด ทางที่ดีให้ฉีจื่อฟู่ไร้ความสุขทุกคืน ไม่พอใจตนทุกวัน จะได้ไม่คิดถึงเรื่องร่วมเตียงกันที่น่าขยะแขยงแบบนี้อีกนางไม่แม้จะเงยหน้า ไม่ม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 97

    หรงจือจือ “ถูกแล้ว คำพูดพวกนั้น จะไม่ทำให้เจ้าพลอยเดือดร้อน และยังจะช่วยเจ้าให้พ้นผิดด้วย แต่หากเจ้าไม่วางใจ ไม่ยินดีช่วยก็ไม่เป็นไร ข้าจะไม่บังคับ”ทว่า ชุนเซิงกลับโขกศีรษะให้หรงจือจือครั้งหนึ่ง “ในตอนนั้น ชีวิตนี้ของข้าก็เป็นฮูหยินซื่อจื่อท่านที่ช่วยกลับมา ข้าจดจำพระคุณของท่านได้ ข้าเชื่อว่าท่านไม่มีทางทำร้ายข้า เรื่องนี้ข้าจะช่วยท่านขอรับ”หรงจือจือกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “เช่นนี้ก็ดีนัก ลำบากเจ้าแล้ว”เจาซีก้าวเข้าไปเพื่อยัดตั๋วเงินให้ชุนเซิงแต่ชุนเซิงกับยืนกรานไม่ยอมรับ “ฮูหยินซื่อจื่อ เดิมบุญคุณที่ช่วยชีวิต ก็ควรตอบแทนอยู่แล้ว! และตอนนั้น ยังเป็นข้าที่บอกว่าตนเองก็อยากร่ำเรียนหนังสือ ท่านถึงได้จัดให้ข้าไปเป็นเด็กรับใช้เรื่องเรียนของคุณชายสี่”“เวลานี้ ข้าพอรู้อักษรอยู่บ้าง จึงเข้าใจหลักการและเหตุผลจำนวนหนึ่ง บุญคุณที่ท่านมีต่อข้า ดุจดั่งการให้กำเนิดใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้ หากมอบเงินให้ข้า กลับจะเป็นการดูหมิ่นข้านะขอรับ”คำพูดของชุนเซิง มิได้อยู่เหนือความคาดหมายของหรงจือจือเลยเพราะหลายปีมานี้ แม้สัญญาขายตัวของเขาจะอยู่กับนางถาน ทว่า เรื่องของฉีจื่อเสียนนั้น ชุนเซิงก็มักมารายงา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 96

    เพียงแต่ตอนนั้น เมื่อท่านอัครมหาเสนาบดีถูกกัด หลังคุณหนูตื่นขึ้นมาเพราะเสียงร้องด้วยความตกใจของนาง ก็รีบดูบาดแผลให้เขา ทว่า ทันทีที่ท่านอัครมหาเสนาบดีเฉินเอ่ยปากกลับพูดว่า ในป่ารกร้างเช่นนี้ถึงกับมีงูมากัดเขา แต่ไม่เอ่ยว่าเป็นเพราะช่วยคุณหนูเลยสักคำตอนนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าก็กำลังงีบหลับอย่างสะลึมสะลือ จึงไม่ทราบเรื่องนี้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และสังเกตเห็นเรื่องนี้ จึงมีเพียงเจาซีเท่านั้นในใจของเจาซีนั้น รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก แต่ก็มิได้เปิดโปงอย่างหุนหัน เพียงสอบถามเขาเป็นการส่วนตัวประโยคหนึ่งในภายหลัง ตอนส่งท่านอัครมหาเสนาบดีเฉินจากไปว่า “ไม่ทราบว่าคุณชายมีเจตนาใดกันแน่?”ท่านอัครมหาเสนาบดีเฉินมิได้ตอบ เพียงกล่าวว่า “ขอแม่นางโปรดเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ อย่าได้บอกให้คุณหนูของเจ้ารู้”เจาซีคิดว่า น่าจะเป็นเพราะไม่ต้องการให้คุณหนูของนางเกิดภาระทางใจ จึงรับปากไปต่อมาท่านอัครมหาเสนาบดีเฉินจึงได้จากไปพร้อมกับลูกน้องที่มารับเขาหรงจือจือมองเจาซีอย่างแปลกใจทีหนึ่ง “เหตุใจเจ้าจึงมั่นใจเพียงนี้?”เจาซีจึงได้สติกลับมา “นี่…”นางคิดว่า ในเมื่อตอนนั้นรับปากท่านอัครมหาเสนาบดีเฉินไปแล

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 95

    กล่าวจบ หรงจือจือก็สาวเท้าจากไปฉีอวี่เยียนดีใจจนแทบกระโดดขึ้นมา “ท่านแม่ นี่ดีเหลือเกิน ข้ายังกังวลว่าข้าจะได้แต่งงานไม่ดีแล้ว คิดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้จะยังวางแผนให้ข้า”นางถาน “ล้วนเป็นเพราะลูกเสียนของข้าศึกษาตำรามา จึงไปเกลี้ยกล่อมนางได้สำเร็จ เจ้าต้องขอบคุณน้องเจ้าให้ดี!”ฉีจื่อเสียนได้หน้าก็ยิ่งยินดี แต่ในใจก็รู้สึกแปลกอยู่บ้าง เพราะวันนี้หรงจือจือไม่ไว้หน้าเขาเลยชัดๆ หรือว่ามาคิดได้เอาภายหลังกัน?ใช่แน่แล้ว คำพูดของตนมีเหตุผลจะตาย การที่หรงจือจือเชื่อฟังก็เป็นเรื่องสมควรแล้วฉีอวี่เยียนรีบกล่าวว่า “ต้องขอบคุณน้องชายแล้ว!”ซิ่นหยางโหวส่งขันทีอาวุโสหยางจากไป เมื่อกลับมาก็เห็นพวกเขากำลังเริงร่า เมื่อสอบถามจนรู้สาเหตุ ก็ถอนใจออกมาอย่างโล่งอกทีหนึ่งจากนั้นก็มองฉีจื่อฟู่ทีหนึ่งแล้วพูดว่า “จือจือกลับมาคิดเพื่อครอบครัวนี้อีกครั้ง คิดว่าในใจคงยังมีเจ้าอยู่ ในอนาคต เจ้าจงอย่างทำเรื่องโง่ๆ อีก คืนนี้ก็ไปอยู่เป็นเพื่อนจือจือให้ดีๆ ซะ!”ฉีจื่อฟู่ “ขอรับ!”เขาจะไม่อยากนอนกับจือจือได้อย่างไร?อวี้ม่านหวากำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น แต่กลับไม่เอ่ยสิ่งใดแม้แต่คำเดียว……เมื่อกลับมาถึงเรือนหลัน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 94

    ในเมื่อเฉินเยี่ยนซูลงมือแล้ว หรงจือจือก็ไม่ใช่พวกไม่รู้ถึงความปรารถนาดีของผู้อื่นจึงหยิบยืมคำพูดของเฉินเยี่ยนซู มาทำให้อวี้ม่านหวาสงบเสงี่ยมลงหน่อยอวี้ม่านหวาก็หวาดกลัวจนหดร่างด้วยความสั่นสะท้านไปครู่หนึ่งจริงๆนางถานกล่าวด้วยความโมโหว่า “หรงจือจือ ในท้องของม่านหวา…”หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินคำพูดของนางถาน มองไปที่ฉีอวี่เยียนนิ่งๆ “น้องสามี ข้าวางแผนว่าผ่านไปอีกช่วงหนึ่ง จะจัดงานชมดอกไม้ในนามของท่านแม่ เจ้าคิดว่าอย่างไร? ส่วนเรื่องเทียบเชิญ ก็จะให้คนในเรือนของข้าไปส่งเอง”ตามกฎหมายของแคว้นต้าฉี หากบิดามารดาเสียชีวิต บุตรธิดาต้องไว้ทุกข์สามปี หากผู้เป็นปู่ย่าวายชนม์ ชนรุ่นหลานต้องไว้ทุกข์เป็นเวลาหนึ่งปีไม่ว่าจะเป็นบุตรสาวที่แต่งงานออกไปแล้วหรือไม่ ล้วนเป็นเช่นเดียวกับยามนี้ฮูหยินผู้เฒ่าหรงถึงแก่กรรม หรงจือจือจึงไม่สะดวกที่จะใช้ชื่อตนไปจัดงานเลี้ยงทุกประเภทเมื่อฉีอวี่เยียนได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาก็สว่างไสวขึ้นทันที “พี่สะใภ้ จริงหรือ?”ในแคว้นต้าฉี การจัดงานประชุมบทกวี เป็นการพบปะสังสรรค์ของเหล่าบัณฑิต ส่วนการจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ ส่วนมากล้วนเป็นงานดูตัวที่เหล่าฮูหยินผู้สูงศักดิ์

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 93

    หรงจือจือกำลังปวดหัวว่าไม่มีเหตุผลจะใช้อยู่ต่อ คาดไม่ถึงว่าจะมีคนส่งหมอนมาให้ตอนง่วงพอดีคำพูดเสแสร้งที่เต็มไปด้วยความปรารถนาดีของอวี้ม่านหวานี้ กลับเป็นการช่วยตนอีกแรง “อนุอวี้กล่าวได้ถูกต้องอย่างยิ่ง ในเมื่อยามนี้เจ้าก็เป็นอนุแล้ว ข้ายังจะจากไปทำไมอีก? เรื่องการหย่าร้าง ก็ให้ถือเสียว่าไม่เคยพูดถึงเถอะ”อวี้ม่านหวา “?”ไม่ใช่นะ นี่ เหตุใดจึงไม่เหมือนที่ข้าคิดไว้เล่า?ฉีจื่อฟู่ถอนใจอย่างโล่งอกทันที แม้ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของเขา ที่จะให้หรงจือจือเป็นอนุ แต่อย่างน้อย นางก็ไม่พูดถึงเรื่องการหย่าร้างแล้วหรงจือจือจับตามองสีหน้าที่เปลี่ยนไปด้วยความตระหนกของอวี้ม่านหวา “ที่สีหน้าของอนุอวี้ไม่น่ามองถึงเพียงนี้ หรือการที่ข้าอยู่ต่อ ทำให้เจ้าไม่พอใจแล้ว?”อวี้ม่านหวาฝืนยิ้มว่า “ไม่…ไม่ใช่! ในใจของท่านพี่ฟู่มีพี่หญิงอยู่ หากพี่หญิงจากไป ท่านพี่ฟู่จะต้องเสียใจแน่ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น น้องจะหวังให้พี่หญิงจากไปได้อย่างไร?”เมื่อฉีจื่อฟู่ฟังจบ ก็เหลือบมองอวี้ม่านหวาอย่างตื้นตัน “ม่านหวา…”เมื่อเห็นพฤติกรรมอันน่าทุเรศของเขา เจาซีก็โมโหจนหน้าเขียวใจของหรงจือจือกลับสงบนิ่ง ไร้ระลอกคลื่น เพร

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 92

    อวี้ม่านหวาจะคาดได้อย่างไรว่า ขันทีอาวุโสหยางผู้นี้ไม่เพียงมาประกาศราชโองการที่ทำจิตใจของตนหนักอึ้งหดหู่เท่านั้น แถมยังพูดถึงเรื่องความเป็นตายขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัวอีกเมื่อฟังคำพูดนี้ของอีกฝ่ายจบ นางก็หวาดกลัวจนท้องเริ่มปวดแปลบขึ้นมาแล้ว!นางถานรีบประคองนาง “องค์หญิง…”เมื่อขันทีอาวุโสหยางได้ยินเช่นนั้นก็เหลือบมองนางถานอย่างไม่พอใจทีหนึ่ง “ฮูหยิน แคว้นเจาล่มสลายไปแล้ว ที่นี่ก็ไม่มีองค์หญิงอันใดแล้ว หรือว่า จวนโหวของพวกท่านมีความคิดเป็นอื่น?”นางถานตกใจจนสะดุ้ง รีบกล่าวว่า “มิกล้า! ข้าแค่พูดผิดไปชั่วขณะเท่านั้น ขอหยางกงกงโปรดอย่าได้ถือสาเลย!”ขันทีอาวุโสหยางแค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง สะบัดแส้ในมือทีหนึ่ง “เช่นนั้น ข้าก็ขอตัวก่อนแล้ว!”ซิ่นหยางโหว “ข้าจะไปส่งกงกง!”ขันทีอาวุโสหยางก็ไม่ได้บ่ายเบี่ยง เขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่า ซิ่นหยางโหวต้องการประจบตน บัดนี้ฉีจื่อฟู่ทำลายอนาคตตัวเอง หนทางเบื้องหน้าของจวนโหวจึงน่าเป็นห่วงรอจนพวกเขาออกไปแล้วฉีจื่อฟู่มองไปทางหรงจือจือ ขมวดคิ้วถามว่า “จือจือ เจ้ารู้จักท่านอัครมหาเสนาบดีหรือ?”หรงจือจือสงบความคิดลง นางก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่า เฉินเยี่ยน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status