แชร์

บทที่ 116

ผู้เขียน: สั่งไม่หยุด
ทว่านางถานผิดหวังแล้ว

หรงจือจือมองนางพลางยิ้มเยาะน้อย ๆ “นั่นก็ไม่รบกวนให้ท่านเป็นกังวลแล้ว! นางถาน ท่านต้องอายุยืนยาวนะ หากตายไปง่าย ๆ เช่นนี้ ข้าจะรู้สึกว่าท่านอ่อนหัดนัก!”

พูดจบนางก็พาเจาซีเดินออกไปข้างนอก

นางถานโกรธจนไอออกมาเป็นเลือด เคียดแค้นนาง ก่อนจะตะเบ็งเสียงก่นด่า “หรงจือจือ เจ้ามันนางแพศยา เจ้าหยุดนะ! เจ้าถึงกลับกล้าพูดเช่นนี้กับข้า...ใครก็ได้ ขวางนางเอาไว้! วันนี้ข้าต้องตีนางให้ตายให้ได้”

ครั้นนางตะเบ็งเสียงเช่นนี้ ก็มีบ่าวไพร่หลายคนเข้ามา

หรงจือจือพูดราบเรียบอย่างไม่คิดเช่นนั้น “นางถาน ท่านแน่ใจแล้วหรือ? ตอนนี้ท่านกำลังถูกกักบริเวณอยู่นะ ข้าเป็นคนตัดสินใจงานในเรือนทั้งหมด!”

“ด้วยฐานะฮูหยินซื่อจื่อ ฐานะบุตรสาวในภรรยาเอกของสกุลหรงของข้า บ่าวไพร่คนใดจะกล้าลงมือกับข้า? หลี่หมัวมัว เจ้าหรือ? หรือว่าเจ้าฮวาหมัวมัว?

สายตาเย็นเยียบของนางกวาดมองมา หมัวมัวทั้งสองไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับหรงจือจือ

หากเป็นเฉินหมัวมัวและเฉียนหมัวมัว ด้วยที่นางถานให้ความสำคัญต่อพวกนางในอดีต หรงจือจือกลับเชื่อว่าพวกนางจะปกป้องนาย ทว่าสองคนนั้นไม่ได้ปรนนิบัติอยู่ข้างตัวนางถานแล้วนี่?

หลี่หมัวมัวรีบ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
WLFJ
นางถานนี่ก็เลวจริงๆ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 117

    ……หรงจือจือพาเจาซีกลับถึงเรือนหลันแล้วเจาซีตื่นเต้นจนใบหน้าน้อย ๆ แดงก่ำ “คุณหนู วันนี้สะใจยิ่งนัก บ่าวเพิ่งจะเคยเห็นนางถานโมโหโทโสจนเป็นเช่นนั้นครั้งแรกเลยเจ้าค่ะ! ไม่นึกว่าท่านโหวผู้นี้ยังมีช่วงเวลาที่มีเหตุผลอยู่เหมือนกัน”หรงจือจือหัวเราะ “มีเหตุผล? เขาแค่รู้สึกว่าข้ามีประโยชน์ก็เท่านั้น ถ้ามีเหตุผลจริง ด้วยการกระทำในวันนี้ของฉีจื่อเสียน เขาต้องให้ฉีจื่อเสียนขอขมาข้าแล้วมิใช่หรือ?”“เจ้าไม่ได้สังเกต วันนี้ข้าดูเหมือนจะชนะ แต่ความจริงข้าถูกคนสกุลฉีหยามเกียรติแล้ว ทำให้รังเกียจแล้ว ซิ่นหยางโหวยังรู้สึกเป็นเรื่องที่สมควรอยู่เลย คิดว่าข้าควรวางอนาคตให้ลูก ๆ ของเขาต่อ”ฉีจื่อเสียนว่านางว่าแสดงเก่งกว่าผู้หญิงโรงงิ้ว ซิ่นหยางโหวยังไม่ให้เขายกน้ำชาขอขมานาง นี่คือการกระทำของบิดาสามีที่รู้แจ้งในเหตุผลหรือ?เจาซีใจเย็นลงทันที “คุณหนู ท่านพูดถูกเจ้าค่ะ! มิน่าตอนนั้นบ่าวถึงรู้สึกสะใจ แต่ก็รู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ค่อยถูกอยู่ บอกไม่ถูกว่าปัญหาอยู่ตรงไหน”อวี้หมัวมัวยกรังนกพุทราเข้ามายื่นให้หรงจือจือ “คุณหนูรีบดื่มตอนร้อนๆ เจ้าค่ะ! บ่าวได้ยินว่าหลังจากนั้นซื่อจื่อไประบายอารมณ์กับชุนเซิงแล้ว”

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 118

    อวี้ม่านหวา “นี่...นี่จะไม่เหมาะสมหรือเปล่าเจ้าคะ? ข้าเกรงว่าฮูหยินซื่อจื่อจะไม่พอใจ”ฉีจื่อฟู่ขมวดคิ้วพูด “นางมีอันใดให้ไม่พอใจ? นี่ไม่เพียงแต่เพื่อเจ้า ยังเพื่อเด็กในท้องของเจ้าด้วย อย่าว่าแต่เตาอุ่นมือใบเดียวเลย ถ้าเจ้าอยากอยู่เรือนหลัน นางก็ควรย้ายออกมาให้เจ้า!”อวี้ม่านหวารีบพูด “ข้าไม่กล้า ท่านพี่อย่าได้พูดคำนี้ออกไปเชียวนะเจ้าคะ ข้าเป็นแค่อนุคนหนึ่ง ไหนเลยจะคู่ควรพักเรือนของฮูหยินซื่อจื่อ?”ฉีจื่อฟู่ได้ยินอวี้ม่านหวากล่าวเช่นนี้แล้วกลับตาโตหากเขาให้จือจือย้ายออกจากเรือนหลัน นางต้องรู้ตัวแน่ว่าใครกันที่เป็นใหญ่ในจวนแห่งนี้ วันหน้าจะกล้าทำให้เขาเสียหน้าบ่อย ๆ หรือ?เอาไว้อีกสองวันเขาหยุดราชการจะไปพูดเรื่องนี้กับจือจือวันนี้เขายังโกรธอยู่ ปล่อยนางไปก่อนสักสองสามวัน นางทำเช่นนี้ ไหนเลยจะมีสิทธิ์ได้พบเขาผู้เป็นสามี?เขาคิดแล้วจึงกุมมือของอวี้ม่านหวา “อย่าคิดมากไปเลย เจ้าคือองค์หญิง ก็แค่เรือนเรือนหนึ่ง มีอันใดไม่เหมาะสม? ข้าบอกว่าเจ้าคู่ควร เจ้าก็คู่ควรสิ”อวี้ม่านหวายิ้มกริ่ม “ท่านพี่ฟู่ ท่านดีกับข้าจริง ๆ!”ฉีจื่อฟู่เห็นนางเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งอารมณ์ดี ม่านหวาพอใจง่ายเช่นนี้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 119

    ในที่สุดจางหมัวมัวก็เริ่มไม่สบอารมณ์ “เช่นนั้นก็ขอให้ฮูหยินซื่อจื่อมีอนาคตที่สดใสก็แล้วกันเจ้าค่ะ”หลังจากกล่าวทิ้งท้ายแล้วก็ตะบึงตะบอนออกไปเจาซีมองจางหมัวมัวออกไปแล้วก็ตาแดงระเรื่อ “คุณหนูที่น่าสงสารของข้า นี่คือการแต่งงานที่ดีกว่าชัด ๆ...”ในตอนที่คุณหนูปฏิเสธครั้งแรก จางหมัวมัวถึงขั้นบอกว่าอีกสองสามวันจะมาถามใหม่ พอให้เห็นว่าให้ความสำคัญแต่ต้องโทษที่นางเซี่ยยอมรับคุณหนูไม่ได้อวี้หมัวมัวรีบโบกมือ “อย่าร้องไห้นะ ก็เพราะวัน ๆ เอาแต่ร้องไห้ เสนียดจัญไรจึงมาเกาะ! พวกเจ้ายังเด็ก ไม่เข้าใจ หากเรื่องดีตรงหน้าไม่ราบรื่น เช่นนั้นก็เพราะยังดีไม่พอ ต้องมีที่ดีกว่าอยู่ข้างหลังแน่”หรงจือจือกลับเห็นต่างเรื่องแต่งงานอันใด เรื่องดีหรือไม่ นางไม่สน เวลานี้ไม่มีเรื่องใดสำคัญไปกว่าความแค้นของท่านย่าอีกแล้วจางหมัวมัวไปได้ไม่นานฉีอวี่เยียนก็มา “พี่สะใภ้ ข้าเข้าไปแล้วนะ...”หรงจือจือพยักหน้ากับบ่าวไพร่ ไม่ได้ให้คนขวางนางไว้ฉีอวี่เยียนมาถึงตรงหน้าหรงจือจือด้วยความประหลาดใจ ทั้งยังมีถานผิงถิงที่รุ่นราวคราวเดียวกับฉีอวี่เยียนมาด้วยอีกคนถานผิงถิงคือบุตรสาวพี่ชายบ้านมารดานางถาน แต่พี่ชายขอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 120

    หรงจือจือเห็นฉีอวี่เยียนรีบร้อนจากไปจึงทำเป็นตะโกนอย่างร้อนรน “น้องเยียน เจ้าอย่าก่อเรื่องเป็นอันขาดนะ กลับมาเร็ว!”ทว่าตัวกลับไม่แยกออกจากเก้าอี้ ไม่มีท่าทางเหมือนจะไปรั้งคนด้วยตัวเองสักนิดส่วนฉีอวี่เยียนหลังจากได้ยินเสียงของหรงจือจือแล้วก็เร่งความเร็วเพิ่มขึ้นอีก ราวกับกลัวจะถูกถ่วงอนาคตอันสวยงามของตัวเองหรงจือจือถอนหายใจทีหนึ่ง “เฮ้อ นี่จะทำอย่างไรดี...”การแสดงออกเช่นนี้ของนางกลับทำให้ถานผิงถิงตาค้างไปวันนี้หรงจือจือเป็นอันใดไป? เหตุใดจึงไม่คิดขัดขวางอย่างจริงจัง ไม่ให้ฉีอวี่เยียนออกไปจากบ้าน?ถึงตอนนั้นนางจะได้แอบเป่าหูฉีอวี่เยียนอีกที เช่นนั้นฉีอวี่เยียนจะมิเคียดแค้นหรงจือจือ ไม่พอใจพี่สะใภ้คนนี้มากขึ้นหรือ? ระหว่างที่นางนิ่งไป หรงจือจือยังปรายตามองนาง “น้องถิง เจ้าไม่ไปกับอวี่เยียนหรือ? ยังไม่รีบไปเป็นเพื่อนนางอีก?”หลังจากได้ยินการไล่แขกนี้แล้ว ถานผิงถิงก็จุกอกนางก็กลัวเหมือนกันว่าฉีอวี่เยียนจะไปก่อเรื่องจริง ๆ ถึงตอนนั้นหากอาหญิงรู้ว่านางยุแยงตะแคงรั่ว จะตำหนินางได้ จึงรีบหมุนตัวตามไปห้ามฉีอวี่เยียนทว่านางห้ามฉีอวี่เยียนในเวลานี้ได้ที่ไหน?หลังจากพวกนางพี่น้อง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 121

    นางเซี่ย “ไม่ได้เข้าใจอะไรผิดทั้งนั้น ตราบใดที่เจ้ายังเป็นลูกสาวของนางถาน เจ้าก็ไม่มีทางได้แต่งงานกับลูกชายข้า! ข้าเกลียดแม่ของเจ้าเข้าไส้ ดูถูกไปทุกสิ่ง”นางยังจำได้ว่าตนรับปากอะไรกับหรงจือจือเอาไว้ ยังปัดความรับผิดชอบไปให้นางถานดังเดิมเมื่อนางเซี่ยกล่าวจบ ก็สาวเท้ามุ่งหน้าไปยังจวนอ๋องผู้ใดจะไปรู้ได้ว่าฉีอวี่เยียนจะตัดสินใจโหดเหี้ยม หยิบผ้าเช็ดหน้าของตนออกมา แล้วกัดนิ้วจนเลือดออกเสียตรงนั้นเลย “พระชายาซื่อจื่อ ข้าจะเขียนหนังสือเลือดตัดขาดกับท่านแม่ของข้าเสีย!”นางเซี่ยมีชีวิตอยู่มาจนอายุปูนนี้ เคยเห็นอะไรมามากมาย ทว่าไม่เคยเห็นผู้ใดทำอย่างฉีอวี่เยียนถานผิงถิงเองก็ตกตะลึง แม้นางจะคอยเสี้ยมมาโดยตลอด ทว่าคนที่นางชิงชังจริง ๆ มีเพียงหรงจือจือเท่านั้น นางยังคิดทำตัวเป็นคนดีต่อหน้าอาหญิงและฉีอวี่เยียน เช่นนี้ถึงจะพอมีหวังได้แต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของตนหากฉีอวี่เยียนก่อเรื่องจนถึงขั้นนั้น กลับไปหากอาหญิงรู้ว่าตนกล่าวสิ่งใดออกไป ไม่ก่นด่าตนจนหูแตกสิถึงจะแปลกนางรีบเอ่ยปากขึ้นทันที “อวี่เยียน อย่าบุ่มบ่าม! อาหญิงคือแม่แท้ ๆ ของเจ้านะ...”ฉีอวี่เยียนกล่าวอย่างแน่วแน่ “ข้าไม่มีท่านแม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 122

    ฉีอวี่เยียนหวาดกลัวจนหน้าซีดเผือด พยายามอยากจะฟัง ทว่าสัมผัสได้เพียงความเจ็บปวดที่หูซ้ายพร้อมกับเสียงอื้ออึง จากนั้นก็ค่อย ๆ ไม่ได้ยินกระทั่งเสียงอื้ออึงแล้ว ราวกับถูกฝ้ายอุดเอาไว้ก็มิปาน และยังปวดหัวอย่างรุนแรงตามมาด้วยส่วนซิ่นหยางโหวยังเดือดดาลขึ้นศีรษะครั้นเห็นชาวบ้านที่หัวเราะเยาะพูดคุยกันเป็นเรื่องตลกโดยรอบเหล่านั้น เพลิงโทสะชั่วร้ายก็ยิ่งพุ่งขึ้นยอดหัวกะโหลก เขาหวดแส้ไปที่ฉีอวี่เยียนทีหนึ่งจนต้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวด!หลังจากนั้นก็กล่าวอย่างเดือดดาลว่า “ลากนางลูกไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวนี่กลับไปที่จวนโหวเสีย!”บรรดาบ่าวรับใช้ “ขอรับ”เจาซีมารายงานข่าวพวกนี้กับหรงจือจือ ในใจผุดความปลื้มปีติที่พูดออกมาไม่ได้ “ท่านโหวลากนางไปที่สวนฉางโซ่ว พร้อมด่านางถานไปด้วย บอกว่าเป็นเพราะลูกสาวตัวดีที่นางสั่งสอนมา!”“นางถานยังไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกท่านโหวฟาดฝ่ามือลงบนหน้าอีก ใบหน้าที่กว่าจะยุบอย่างยากเย็นแสนเข็ญในก่อนหน้านี้ กลับต้องบวมอีกครั้ง”“หลังจากนั้นเมื่อนางถานรู้ว่า ฉีอวี่เยียนไปสาบานร้ายแรง เขียนหนังสือเลือดตัดขาดกับนาง สีหน้าก็คล้ำดำเขียวครึ่งซีดเผือดครึ่ง แล้วก็ไม่แยแ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 123

    นางถาน “เจ้า...”ครั้นนางเห็นบุตรสาวดื้อด้านเช่นนี้ ก็เกิดมีน้ำโหเช่นกันเมื่อนางเบือนศีรษะก็เห็นถานผิงถิง จึงถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง “ผิงถิง ท่านโหวบอกว่าเจ้าก็ไปด้วย เหตุใดเจ้าถึงไม่ห้ามน้องของเจ้าล่ะ?”เมื่อนางกล่าวถึงถานผิงถิงสายตาเหี้ยมโหดของฉีอวี่เยียนก็ตกไปที่ถานผิงถิง “ทั้งหมดเป็นเพราะท่าน! หรงจือจือก็บอกแล้ว ที่จางหมัวมัวมาที่จวนไม่ได้มาพูดเรื่องหมั้นหมายใหม่อีกครั้ง!”“ท่านก็เอาแต่ยุแยงตะแคงรั่วอยู่ข้าง ๆ อยู่นั่น บอกว่าหรงจือจือดูถูกข้า จงใจปิดบังข้า เพราะไม่อยากให้ข้าแต่งงานเข้าจวนอ๋อง”“เพราะข้าฟังคำพูดซี้ซั้วของท่าน ถึงได้ไปโวยวาย! หากท่านไม่พูดเรื่องพวกนั้น ข้าจะเลอะเลือนเช่นนี้ได้อย่างไร?”คนอย่างฉีอวี่เยียน เห็นแก่ตัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทว่าหากมีอะไรต้องรับผิดชอบ เช่นนั้นก็เป็นคนข้างกายในวินาทีนี้ไหนเลยที่นางจะนึกคำพูดในตอนนั้นของถานผิงถิงไม่ออก?ครั้นเห็นสายตาเย็นเยียบของนางถานทอดมองมา ถานผิงถิงก็รีบเอ่ยขึ้นว่า “น้องอวี่เยียน ตอนนั้นก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับเจ้านะ! ข้าเพียงกลัวว่าสกุลหรงจะมีเจตนาไม่ดี ถึงได้คาดเดา...”ฉีอวี่เยียนกล่าวขึ้นอย่างโกรธแค้น “ท่านก็ไม่ไ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 124

    คิ้วตาของอวี้หมัวมัวขยับเล็กน้อย ทว่าอย่างไรนางก็สุขุมกว่าเจาซีหน่อย ในฐานะบ่าวรับใช้ แม้จะไม่พอใจ ก็ไม่มีทางโวยวายกับเจ้านายง่าย ๆ หากยั่วจนฉีจื่อฟู่สั่งสอนตน จะเป็นการสร้างความลำบากให้คุณหนูโดยไม่มีสาเหตุเปล่า ๆจึงไม่ได้พูดอะไรมากความ นางเอ่ยเพียง “ท่านซื่อจื่อ เตาอุ่นมือนี้ ปกติฮูหยินซื่อจื่อโปรดปรานเป็นอย่างมาก”ฉีจื่อฟู่ “นั่นแล้วอย่างไร? หรือว่าความชอบเล็กน้อยนั่นของนาง มันสำคัญกว่าเด็กในท้องของม่านหวา?”พูดจบก็ไม่สนใจอวี้หมัวมัวอีก จากนั้นก็สาวเท้าก้าวยาวเดินออกไปอวี้หมัวมัวชะงักไป ก่อนจะมองเจาอู้ทีหนึ่ง “คิดว่าคุณหนูคงออกมาจากห้องท่านโหวแล้ว เจ้าไปบอกเรื่องนี้กับคุณหนูซะ”กะอีแค่เตาอุ่นมืออันเดียว อวี้หมัวมัวรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ที่จริงคุณหนูก็ไม่ได้ขาดแคลนเลยทว่าการกระทำของฉีจื่อฟู่ กลับทำคนสะอิดสะเอียนอย่างไร้สาเหตุเจาอู้ “เจ้าค่ะ!”…ในวินาทีนี้หรงจือจือออกมาจากห้องหนังสือของซิ่นหยางโหวพร้อมกับเจาซีแล้วจริง ๆครั้นเห็นว่ารอบข้างปลอดคน เจาซีก็กดเสียงต่ำเอ่ยขึ้นว่า “ภาพเหมือนที่คุณหนูให้พวกเรารวบรวมในก่อนหน้านี้พวกนั้น บ่าวยังรู้สึกข้องใจไม่หายเลยเจ้าค

บทล่าสุด

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status