Share

บทที่ 17

Penulis: ซูซี
ซาบริน่าเข้าใจทุกอย่างในทันที

ชัดเจนแล้วว่าเกรซเป็นคนจัดการเรื่องนี้เป็นพิเศษ

เกรซบอกกับเธอเมื่อสองสามวันก่อนว่าเกรซจะทำเซอร์ไพรส์ให้เธอ

ซาบริน่ารู้สึกอบอุ่นในหัวใจขึ้นมาทันที

ไม่ว่าเซบาสเตียนจะปฏิบัติต่อเธออย่างไร เกรซเป็นคนเดียวในโลกนี้ที่ให้ความอบอุ่นแก่ซาบริน่า เกรซมีเวลาอยู่เพียงสองเดือน ดังนั้นเพื่อเห็นแก่เกรซ ซาบริน่าจึงต้องร่วมมือกับเซบาสเตียนและสวมบทบาทอย่างเต็มที่

“ขอบคุณค่ะแม่ หนูชอบเซอร์ไพรส์นี้มาก แม่ดูนี่สิ นี่คือชุดแต่งงานที่เซบาสเตียนเตรียมไว้ให้หนู ดูดีไหมคะ?” ซาบริน่ายกมุมชุดแต่งงานของเธอขึ้นและถาม

เกรซสำรวจชุดสองสามครั้ง และจากนั้นเธอก็เริ่มน้ำตาไหล

“แซบบี้ แม่ไม่คาดคิดเลยว่าหนูจะสวยและแต่งหน้าได้ดีขนาดนี้ หนูกับเซบาสเตียนเป็นคู่ที่สมกันราวกับสวรรค์สร้างจริง ๆ ” เกรซยิ้มกว้าง

สิ่งที่เธอพูดไม่ใช่เรื่องที่ผิด

ไม่ใช่แค่เกรซเท่านั้นที่รู้สึกว่าซาบริน่าและเซบาสเตียนคู่ที่สมกันราวกับสวรรค์สร้าง แต่พนักงานในร้านอาหารรู้สึกว่าทั้งคู่ที่สมบูรณ์แบบเช่นกัน

“แซบบี้ แม่ไม่เคยแต่งงานเลยในชีวิต และไม่ได้สวมชุดแต่งงานด้วยซ้ำ แม่เลยหวังไว้สูงว่าหนูจะได้สวมชุดแต่งงานและแต่งงานที่มีเกียรติเป็นอย่างสูง อย่างไรก็ตาม เซบาสเตียนไม่ต้องการให้เอิกเกริกจนเกินไปเพราะความเจ็บป่วยของแม่ ดังนั้นงานแต่งงานของหนูจึงถูกกำหนดไว้ที่นี่ ไม่มีใครได้รับเชิญ แต่แม่สามารถให้พรกับหนูได้ ไม่เป็นไรใช่ไหม?" เกรซถามซาบริน่าอย่างขอโทษ

ซาบริน่ารู้ดีถึงเหตุผลที่เซบาสเตียนไม่ต้องการอะไรที่เอิกเกริก เป็นเพราะพวกเขาอยู่ในความสัมพันธ์ตามสัญญาเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอเพียงยิ้มและพูดขึ้น “แม่คะ พรของแม่ก็มากพอแล้ว ต่อให้มีคนนอกมาร่วมงานแต่งงานนี้มากกว่านี้ หนูก็ไม่รู้จักพวกเขาหรอกค่ะ หนูจะร่วมชีวิตกับเซบาสเตียนในอนาคตไม่ใช่กับคนอื่น ดังนั้นหนูต้องการคนมากมายไปทำไมคะ?"

เกรซมีความสุขมากยิ่งขึ้นเมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น เธอยกมือขึ้นเพื่อจับมือของซาบริน่า สวมสร้อยข้อมือสีเขียวมรกตบนข้อมือของซาบริน่าอย่างสบาย ๆ และพูดด้วยรอยยิ้ม "ลูกสะใภ้ของฉันเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายและใจดีที่สุด ฉันมีความสุข ฉันก็สบายใจแล้วหากฉันจะข้ามไปสู่โลกหน้า”

ซาบริน่าจับมือเกรซและดุว่า "แม่คะ วันนี้เป็นโอกาสอันดีสำหรับเซบาสเตียนและหนู แม่ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดแบบนี้นะคะ"

"โอเค โอเคจ่ะ เข้าไปกันเถอะ" เกรซหัวเราะ

เซบาสเตียนผู้ซึ่งถูกซาบริน่ากำลังโอบอยู่ ไม่ได้พูดอะไรมากนักตลอดเวลา เขาสับสนมาก ซาบริน่าซึ่งเคยเย็นชาอย่างไม่รู้ลืมต่อหน้าคนอื่น เป็นคนพูดมากตอนที่อยู่กับแม่ของเขาเหรอ? เธอกล่อมจนแม่ของเขามีความสุขเสียจริง

หัวใจของเซบาสเตียนอดไม่ได้ที่จะเต้นเล็กน้อย

ทั้งคู่เดินจูงมือกัน และถัดจากพวกเขาคือเกรซในรถเข็น ทั้งสามคนไปที่ห้องโถงเล็ก ๆ ที่ชั้นบนสุดของร้านอาหาร ทุกอย่างลงตัวแล้ว และบาทหลวงยืนอยู่หน้าห้องโถง

เมื่อเธอเดินเข้าไปในสภาพแวดล้อมเช่นนั้น จู่ ๆ ซาบริน่าก็รู้สึกว่านี่เป็นงานแต่งงานที่แท้จริงของเธอและรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์

แต่กระนั้น เธอรู้สึกถูกขัดจังหวะโดยความรู้สึกเยาะเย้ยของเธอเอง

เธอจะยังมีงานแต่งงานที่แท้จริงกับผู้ชายที่เธอรักในช่วงชีวิตนี้ไหม?

เธอไม่คิดเช่นนั้น

ใครในโลกนี้จะต้องการผู้หญิงออกจากคุก ไม่มีที่อยู่ หางานไม่ได้ และอาจจะมีบุตรนอกสมรสได้อีก?

ก็คงไม่มีอีกแล้ว

เธอควรปฎิบัติให้งานแต่งงานครั้งนี้ราวกับเป็นงานแต่งงานที่แท้จริงของเธอ

ซาบริน่ายืนอยู่ต่อหน้าบาทหลวงและฟังคำเทศน์

เมื่อบาทหลวงถามเธอว่า “คุณยินดีจะแต่งงานกับเซบาสเตียน ฟอร์ด หรือไม่? ไม่ว่าในเวลาที่ดีหรือร้าย ไม่ว่าเขาจะจนหรือรวย ไม่ว่าจะแข็งแรงหรือเจ็บป่วย คุณจะรักเขาอย่างไม่มีเงื่อนไขและซื่อสัตย์ต่อเขาตลอดไปหรือไม่?”

ซาบริน่าพยักหน้าเห็นด้วยและพูดว่า “ฉันยินดีค่ะ!”

เธอรู้สึกเศร้าในหัวใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ แม้จะพูดอย่างนั้น

เธอพูดกับลูกน้อยอย่างเงียบๆ ว่า “ลูกรัก ลูกเป็นพยานในงานแต่งงานของแม่ใช่ไหม? แม่อาจจะไม่ได้แต่งงานอีกเลยในชีวิตนี้ แต่แม่จะคิดเสียว่าเป็นการหาพ่อให้ลูก ได้ไหมจ่ะ?”

เสียงของบาทหลวงดังก้องอยู่ในหูของพวกเขา "เจ้าสาวและเจ้าบ่าวแลกเปลี่ยนแหวนกันได้"

เซบาสเตียนซื้อแหวนมาล่วงหน้า ซาบริน่าไม่รู้ว่าคุณภาพดีหรือไม่ดี เธอเพียงทำตามขั้นตอนและแลกแหวนกับเซบาสเตียน เมื่อเซบาสเตียนยกมือขึ้นเพื่อสวมแหวนให้เธอ ซาบริน่ารู้สึกได้ถึงคืนนั้นอีกครั้ง

มีภาพลวงตาบางอย่างที่เซบาสเตียนเป็นเหมือนชายคนนั้น

“เจ้าบ่าว เชิญคุณจูบเจ้าสาวของคุณได้” น้ำเสียงที่ร่าเริงใจของบาทหลวงดึงซาบริน่าออกจากความคิดของเธออีกครั้ง

จิตใจของซาบริน่ามึนงงไปครู่หนึ่ง

ให้จูบเซบาสเตียนที่นี่?

เธอจะทำได้อย่างไร?

เธอไม่สามารถพาตัวเธอเองไปจุมพิตชายสองคนได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงสองเดือน ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เจอชายที่ตายไปแล้วคนนั้นอีกก็ตาม

เธอรู้สึกผิดในใจและเธอก็จะรังเกียจตัวเอง

ซาบริน่าหันศีรษะไปทางด้านข้างโดยไม่รู้ตัว จากที่ห่างออกไป เกรซซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งคิดว่าซาบริน่าอาย เกรซมองทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

ในทางกลับกัน เซบาสเตียนโน้มตัวลงอย่างขู่บังคับ จับริมฝีปากของเธอให้แม่นยำและจูบเธอ

เธอไม่มีที่หนีและไม่สามารถขัดขืนต่อหน้าเกรซได้ ความรู้สึกที่ถูกเขาควบคุมอยู่ในอ้อมแขนของเขาอีกครั้ง ทำให้เธอนึกถึงชายที่ตายไปแล้วคนนั้น

ทั้งเซบาสเตียนและชายคนนั้นมีพลังอำนาจที่เหนือกว่าเหมือนกัน

หลังจากการจูบครั้งนี้ ใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อราวกับสีเลือด และเซบาสเตียนก็มีความรู้สึกที่ต่างออกไป เขารู้สึกราวกับว่าเขาเคยพบเธอมาก่อน

ความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าคืออะไรทำให้เขาหงุดหงิดในใจเป็นอย่างมาก

แม่ของเขาอยู่ข้างเขาและพูดว่า "ฉันขอให้ลูกสองคนแก่เฒ่าไปด้วยกัน"

งานแต่งงานที่บาทหลวงและแม่เป็นพยายานสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามในมุมหนึ่งนอกร้านอาหาร ยังคงมีคนสามคนซ่อนตัวอยู่

นั่นคือ ลินคอล์น เจด และเซลีนคนทั้งสามในครอบครัว พวกเขาได้รับความอับอายขายหน้าเช่นนี้ แล้วจะพอใจได้อย่างไร?

เซลีนรู้สึกหึงหวงเป็นที่สุดถึงขั้นคลั่ง

ทั้งสามในครอบครัวกำลังไตร่ตรองเบื้องหลังของภาพนั้น ในเมื่อเซบาสเตียนไม่รู้ว่าในวันนั้นซาบริน่าว่าเป็นคนที่ช่วยชีวิตของเขาด้วยร่างกายของเธอ ทำไมเขาถึงต้องการแต่งงานกับซาบริน่าแต่สัญญาว่าจะแต่งงานกับเซลีนในอีกสองเดือนต่อมา?

ต้องมีเหตุผลอื่นสำหรับเรื่องเหล่านี้

บังเอิญว่ามีผู้หญิงที่แต่งตัวเป็นผู้ดูแลคนป่วยเดินผ่านไปในเวลานั้น เจดเข้าไปให้คำชมเชยแก่ผู้ดูแลคนป่วยวัย 50 ปี เธอแกล้งทำเป็นไม่สนใจและถามว่า “ทำไมทั้งคู่ถึงจัดงานแต่งแบบเรียบง่ายนัก? พวกเขาไม่แม้แต่จะชวนเพื่อนและครอบครัวมาด้วยเหรอ?”

“เฮ้อ” ผู้ดูแลคนป่วยถอนหายใจ “มันช่างน่าเศร้านัก ลูกชายของคุณผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ แต่เธอมีเวลาอยู่แค่สองเดือนเท่านั้น ลูกสะใภ้คนนี้เป็นคนที่คุณผู้หญิงผู้ชราต้องการ แต่ลูกชายกลับดูเหมือนจะไม่ชอบเธอ ถึงกระนั้นเขายังคงต้องการเติมเต็มความปรารถนาของคุณผู้หญิงผู้ชรา ดังนั้นพวกเขาจึงจัดงานแต่งงานแบบเรียบง่ายที่นี่”

เจดไม่ตอบ

นั่นแหละ!

เธอบอกข่าวดีแก่ลินคอล์นสามีของเธอ และซีลีนลูกสาวของเธอ

เซลีนยิ่งหึงขึ้นไปอีก “ซาบริน่าได้รับความรักจากแม่ของเซบาสเตียนได้อย่างไร? หนูจะทำให้เธอตายอย่างอนาถ!”

เซลีนหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาแล้วกดหมายเลขชุดหนึ่ง “เฮย์ส นายช่วยฉันจัดการกับผู้หญิงคนหนึ่ง ราคาเท่าไหร่ก็ได้ฉันให้ไม่อั้น!”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 18

    ชายที่อยู่อีกด้านหนึ่งของสาย เฮย์ส เป็นอันธพาลที่ทำงานประเภทนี้ของเซ้าท์ ซิตี้ งานสกปรกทุกอย่างทั้งก่อนและหลังการถูกคุมขังของซาบริน่าก็ถูกดำเนินการโดยเฮย์สครอบครัวลินน์พัวพันกับเฮย์สมากกว่าหนึ่งครั้งเซลีนคิดว่าเธอจะทำให้เต็มที่ในครั้งนี้เช่นกันในตอนแรกครอบครัวลินน์ไม่ต้องการพรากชีวิตไปจากซาบริน่าก่อนงานแต่งงานของเซลีนและเซบาสเตียน พวกเขากลัวว่ามันจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ และงานแต่งงานจะได้รับผลกระทบ แต่ก็มีเหตุผลอื่นเช่นกัน เซลีนต้องการส่งข่าวไปยังซาบริน่าเป็นการส่วนตัวว่าความสุขทั้งหมดที่เธอได้รับนั้นต้องแลกมากับร่างกายของซาบริน่าเซลีนอยากจะทำให้ซาบริน่าโกรธถึงกระนั้น เซลีนก็ไม่อาจจะสนใจอะไรได้อีกต่อไปแล้วเธอต้องการให้ซาบริน่าตาย!เธอต้องการให้ซาบริน่าตายโดยทันทีอีกด้านหนึ่ง เฮย์สขอเงินสิบล้านดอลลาร์ในรวดเดียวเซลีนตกใจ “เฮย์ส! ความโลภของนายมากเกินไปไหม?”อย่างไรก็ตาม เฮย์สก็ได้แต่ปล่อยเสียงหัวเราะชั่วร้ายออกมา “ผมรู้ว่าคนที่คุณอยากให้ผมจัดการคือใคร ผมจะไม่เพียงแต่ช่วยคุณเช็ดล้างเท่านั้น แต่ผมยังจะทำให้เธอพบกับจุดจบที่เลวร้ายอีกด้วย ความเกลียดชังของคุณจะได้จบใช่ไหมล่ะ? หา

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 19

    ทำไมเธอถึงมาอยู่ในห้องนอนฉัน?แสงเย็นเยียบกระหายเลือดส่องประกายในดวงตาของเซบาสเตียนหลังงานแต่งงาน เขาได้รับโทรศัพท์ด่วนจากนายท่านอาวุโสฟอร์ด เฮนรี่ ฟอร์ด ขอให้เขากลับมานายท่านอาวุโสฟอร์ดอายุ 96 ปี และแม้ว่าเขาจะเกษียณจากตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวฟอร์ดมาเกือบ 40 ปีแล้ว แต่นายท่านอาวุโสก็ยังเป็นผู้มีอำนาจในครอบครัวฟอร์ดคล้ายกับพ่อของกษัตริย์เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เมื่อเซบาสเตียนเข้าควบคุมฟอร์ดกรุ๊ปในคราวเดียวและขจัดปัญหาที่ซ่อนอยู่ทั้งหมด ชายชราจึงออกคำสั่งให้เขาว่า“เซบาสเตียน ในเมื่อนายกำจัดสิ่งกีดขวางทั้งหมดแล้ว นายก็ไม่ควรเอาสิ่งที่เหลืออยู่ออกไปด้วย ถ้านายสัญญากับปู่ได้ ปู่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของนายอีกในอนาคต" เฮนรี่กล่าว ส่วนหนึ่งเป็นคำสั่งแต่บางส่วนก็เป็นข้ออ้างด้วยเซบาสเตียนตอบด้วยสีหน้าเย็นชาและกังวล “ได้ครับ!”เซบาสเตียนรับหน้าที่ดูแลฟอร์ดในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา และชายชราคนนี้ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเขาอีกเลยอย่างไรก็ตาม เมื่องานแต่งงานเสร็จสิ้นในวันนี้ และก่อนที่เขาจะมีเวลาส่งแม่กลับไปโรงพยาบาล ชายชราก็ขอให้เขากลับมาหาโดยด่วนเซบาสเตียนคิดว่าชายชราได้

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 20

    "ฟังนะ!" เสียงของชายหนุ่มทุ้มต่ำ และเสียงที่เย็นเยียบพูดอย่างชัดเจนตามมาเพียงไม่กี่คำ “บุกเข้ามาในห้องของฉันโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกครั้ง เธอตายแน่!”ซาบริน่าดูเหมือนกวางที่หลงทาง ขนตางอนยาวของเธอกระพริบอย่างรวดเร็ว และเธอก็พยักหน้าสุดกำลังชายหนุ่มหันกลับมาหยิบสร้อยข้อมือสีเขียวมรกตจากโต๊ะข้างเตียง จากนั้นเขาก็อุ้มซาบริน่า เปิดประตู เข้าไปในห้องของซาบริน่าแล้ววางเธอลง หลังจากนั้นเขาสวมสร้อยข้อมือกลับมาที่ข้อมือเธอแล้วพูดว่า "พรุ่งนี้ใส่ไปเยี่ยมแม่ของฉัน แม่คงจะมีความสุขมากกว่านี้""ฉันเข้าใจแล้ว" เสียงเล็กและแผ่วเบาของเธอติดอยู่ในลำคอ ขณะที่เธอตอบเขาอย่างระมัดระวังชายคนนั้นหันกลับมาและจากไปจากนั้นซาบริน่าก็เคลื่อนที่ไปปิดประตูห้องและพิงน้ำหนักทั้งหมดไว้ที่ประตู ขาของเธอไม่มีแรงพยุงเธออีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงทรุดตัวลงกับพื้นและหายใจแรงเธอรู้สึกเหมือนได้เดินผ่านประตูนรกโชคดีที่มันเป็นแค่การเตือนถึงความผิดพลาดหลังจากที่สงบสติอารมณ์แล้ว เธอถอดชุดแต่งงานและส้นสูงคริสตัลออกและอาบน้ำล้างตัวก่อนเข้านอนวันรุ่งขึ้นจะเป็นการทำงานวันแรกของเธอ ดังนั้นเธอต้องอยู่ในสภาพที่ดีในเช้าวันรุ่ง

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 21

    ซาบริน่าพ่นลมหายใจเยาะเย้ยและกลอกตาใส่เซลีนถ้าหากเธอรู้แล้วเป็นยังไง?ถ้าหากเธอไม่รู้แล้วเป็นยังไง?ซาบริน่ารู้อยู่เสมอว่าครอบครัวลินน์ต้องรู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร และเธอก็รู้เช่นกัน! เขาคือคู่ต่อสู้ที่ครอบครัวลินน์ต้องการให้ตาย แต่พวกเขาไม่สามารถฆ่าชายคนนั้นอย่างเปิดเผยได้ ดังนั้นพวกเขาจึงปล่อยให้เธอไปอยู่กับเขาก่อนที่เขาจะถูกฝังในหลุมศพบุรุษผู้นั้นสิ้นชีวิตเพราะหลงระเริงในราคะมากเกินไป“ฉันไม่ต้องการ” ซาบริน่าพูด“แก…” เซลีนยกมือขึ้นตบหน้าซาบริน่า “ต่อให้แกไม่อยากรู้แต่แกก็ต้องรู้อยู่ดี วันนี้ฉันจะบอกความจริงกับแก ฉันต้องทำให้แกรู้ก่อนตาย แกรู้ไหมว่าทำไมแกถึงมาอยู่ในตระกูลลินน์ของเราตั้งแปดปี แกรู้ไหมว่าทำไมคุณแม่ของฉันกับฉันถึงเกลียดแกนัก? แกคิดว่าเป็นเพราะแกอยู่ในบ้านของเราและเราเลี้ยงดูและให้เสื้อผ้ากับแกเหรอ? ซาบริน่า แกไม่ได้คิดถึงเหตุผลอื่นอีกเลยเหรอ?”ซาบริน่าเงยหน้าขึ้นมองเซลีนเธออยากรู้เสมอว่าทำไมแม่ของเธอถึงส่งเธอมาให้ครอบครัวลินน์ดูแลตอนที่เธออายุเพียง 12 ขวบ นอกจากนี้เหตุใดครอบครัวลินน์จึงเฆี่ยนตีเธอและดูถูกเธอทุกครั้ง ในเมื่อพวกเขาสัญญากับแม่ของเธอว่าจะรับเธอไปเ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 22

    ซาบริน่าซบใบหน้าลงที่อกของเซบาสเตียนด้วยความกลัว ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน เธอรู้ว่าเซบาสเตียนนั้นร้ายกาจเพียงใด แต่เธอไม่เคยเห็นมันด้วยตาของเธอเอง ในวันนี้เธอก็ได้ประสบถึงความร้ายกาจที่เด็ดขาดของชายผู้คนนี้อย่างไรก็ตาม คนเหล่านั้นสมควรได้รับมันไม่มีอะไรที่ต้องสงสารในทางกลับกัน ซาบริน่าเกือบถูกทรมานและฆ่าโดยเซลีนซาบริน่าที่ทิ้งตัวอยู่บนไหล่ของเซบาสเตียนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นและมองดูเซลีนด้วยดวงตาที่ไร้เดียงสาเป็นอย่างมากซาบริน่าถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล และหลังการตรวจร่างกายแพทย์กล่าวว่า "มีเพียงรอยฟกช้ำบริเวณเนื้อเยื่ออ่อนเท่านั้น ไม่มีอะไรร้ายแรงครับ"ซาบริน่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก และความกลัวของเธอที่อยู่ในระดับสูงสุดก็ค่อย ๆ สงบลง เธอถูกลักพาตัวมาโดยตลอดหลายวัน ดังนั้นเธอจึงสงสัยว่าเกรซเป็นอย่างไรบ้างในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา“คุณฟอร์ด ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉัน ป้าเกรซ…โอเคไหมคะ?” ซาบริน่ามองเซบาสเตียนอย่างซาบซึ้งและถามไถ่"ไม่โอเค!"ซาบริน่าพูดว่า "...ป้าเกรซ...มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?"“อยู่ในห้องไอซียู” เซบาสเตียนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซาบริน่ามาเยี่ยมและดูแลเกรซที่

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 23

    “แม่คะ หนูขอโทษ” น้ำตาของซาบริน่าหยดลงบนมุมผ้าห่มของเกรซ เสียงของเธอแหบเล็กน้อยจากการร้องไห้ “หนูเพิ่งเข้าทำงานในบริษัท เพราะแบบนั้น หนูเลยต้องปฏิบัติตามข้อตกลงของเจ้านาย เจ้านายของหนูตัดสินใจในนาทีสุดท้ายที่จะส่งหนูไปทำธุระมาสักสองสามวันค่ะ หนูจึงมาพบแม่ตามเวลา""แม่ไม่ค่อยดีน่ะ สุขภาพของแม่แย่ลงเรื่อย ๆ "ท่อระโยงระยางบนร่างกายของเกรซยังไม่ได้ถูกถอดออก เธอมองดูร่างของเธอแล้วพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ฉันไม่รู้ว่าฉันจะลืมตาได้อีกไหมหลังจากที่มันปิดลง…”“แม่คะ อย่าพูดอย่างนั้นสิ หนูไม่อยากให้แม่ทิ้งหนูไป ถ้าแม่ทิ้งหนู หนูต้องเหงามากแน่ หนูไม่ได้มีครอบครัวหลายคนในโลกนี้” ซาบริน่าซบตัวลงใต้จมูกของเกรซและร้องไห้ออกมาซาบริน่าเพิ่งได้รับการช่วยเหลือ แต่เธอไม่ได้กลับไปที่บ้านของเซบาสเตียน เธอใช้เวลาทั้งวันอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อดูแลเกรซแทน ซาบริน่าช่วยเกรซทำความสะอาดร่างกาย สระผม และตัดเล็บ ในตอนแรกเกรซเกือบจะเสียชีวิตแต่สีหน้าของเธอกลับมาดีขึ้นเป็นอย่างมากอีกครั้งซาบริน่าดูแลเกรซอย่างละเอียดถี่ถ้วนจนลูกชายแท้ ๆ อย่างเซบาสเตียน ดูเหมือนส่วนเกิน ส่วนใหญ่เขายืนอยู่ด้านข้างเงียบ ๆ และมองดูแม่แล

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 24

    "ฝนกำลังตกเหรอ?" เซบาสเตียนออกมาที่ระเบียงและมองออกไป ฝนกำลังตกจริง ๆ จากนั้นเขาก็มองลงไปข้างล่างและเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังคุกเข่าท่ามกลางสายฝน ขณะมองขึ้นไปที่ชั้นที่ของเขาอยู่เซบาสเตียนหยิบร่มและเดินลงไป“นายท่านเซบาสเตียน นายท่านเซบาสเตียน… คุณยอมลงมาพบฉันแล้ว” ริมฝีปากของเซลีนเป็นสีม่วงซีดเซียว เธอคลานเข่าต่อหน้าเซบาสเตียนและกอดขาของเขาไว้ "นายท่านเซบาสเตียน ฟังฉันนะ ถ้าคุณฟังฉันจบ ฉันจะไม่สนใจเลย ถ้าคุณจะทุบตีฉันจนตาย โปรดให้โอกาสฉันปกป้องตัวเองด้วย ”ขณะที่เขามองดูผู้หญิงคนนี้ที่คร่ำครวญและทำตัวต่ำทราม เซบาสเตียนก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจในหัวใจของเขา เมื่อวานนี้เขาเกือบจะเตะเธอตายถึงกระนั้น มันเป็นเพราะเธอใช้ร่างกายของเธอช่วยชีวิตเขาไว้ ซึ่งทำให้เขาสามารถควบคุมฟอร์ดกรุ๊ปได้สำเร็จเท้าของเขาหยุดลงในขณะที่เขากำลังจะเตะเธอความรังเกียจที่เขามีต่อผู้หญิงคนนี้ก็เพิ่มมากขึ้นทุกวันผู้หญิงคนนี้ไม่เชื่อฟังและไร้หนทาง เหมือนคืนนั้นที่เธอช่วยชีวิตเขาไว้ เขาสัญญากับเธอแล้วว่าเขาจะแต่งงานกับเธอในอีกสองเดือนจากนั้น แต่เธอมักจะทำสิ่งที่ทำให้เขาโกรธเมื่อเธอสังเกตเห็นว่าเซบาสเตียนไม่ขยับขาท

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 25

    สายนั้นมาจากเฮนรี่น้ำเสียงของชายชราที่เป็นทั้งผู้บังคับบัญชาและให้คำปรึกษา "เซบาสเตียน เนื่องจากนายบอกว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่นั่นเพื่อปลอบโยนแม่ของนาย คุณย่าของนายและฉันจึงตัดสินใจจัดงานเลี้ยงครอบครัวแบบสบาย ๆ สุดสัปดาห์นี้ เด็กสาวในวัยที่เหมาะสมจากครอบครัวที่มีเกียรติและมีชื่อเสียงของทั้งเมืองเซ้าท์ ซิตี้และเมืองคีดอนจะมาร่วมงานเลี้ยงด้วย…”“ผมไม่ไป!” เซบาสเตียนปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยก่อนที่ชายชราจะพูดจบชายชราที่อยู่อีกด้านหนึ่งของสายไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องทำให้น้ำเสียงของเขานุ่มนวลยิ่งขึ้น “เซบาสเตียน อย่าวางสายเร็วนัก ให้ปู่พูดให้จบก่อนได้ไหม?”เซบาสเตียนไม่ตอบ“เซบาสเตียน?”"ผมฟังอยู่!"“เรื่องธุรกิจตระกูลฟอร์ด ฉันจะไม่เข้าไปยุ่ง แต่ปีนี้ฉันอายุ 96 ปีแล้ว นายคงจะไม่ปล่อยให้ฉันตายก่อนที่จะแต่งงานและมีลูกก่อนใช่ไหม? ถ้านายชอบสาว ๆ สักคนที่จะมางานเลี้ยง เช่นนั้นคงจะดีที่สุดอย่างแน่นอน แต่ถ้านายไม่มีคนที่ชอบ ฉันก็จะไม่บังคับ” ชายชราเกือบจะอ้อนวอนให้เซบาสเตียนในตอนจบของประโยคเซบาสเตียนมองดูเซลีนซึ่งยังคงเปียนปอยอยู่ในสายฝนและตอบอย่างเฉยเมยว่า "ก็ได้ครับ"หลังจากที่วางสาย

Bab terbaru

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 330

    คิงส์ตัน มาร์คัส และ ซาบริน่าต่างตกตะลึงมาร์คัสพยายามปกป้องซาบริน่าที่อยู่ข้างหลังของเขา ขณะที่มองเซบาสเตียนอย่างสยองขวัญ “เซบาสเตียน...ถ้านายมีปัญหาอะไร เข้ามาหาฉัน อย่าแตะต้องซาบริน่า เพราะยังไง เธอก็เป็นแม่ของลูกนายนะ“ถ้า...นายอยากจะฆ่าใครสักคน ให้มันเป็นฉันเถอะนะ”เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่ถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ในชั่วขณะนั้น ร่างที่กำยำของเขาก็สัมผัสกับมาร์คัสจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่? รถค่อนข้างอับชื้น ฉันก็เลยรู้สึกร้อนเฉย ๆ ดังนั้น ฉันจึงแกะกระดุมเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย”มาร์คัสรู้สึกโล่งใจ “อ๋อ...เซบาสเตียน นาย...คอของนาย ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?“อ๋อ ฉันได้รับบาดเจ็บจากแมวป่า” เซบาสเตียนตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งคิงส์ตันและซาบริน่ายังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเธอละสายตาจากทุกคนที่นั่น และมุ่งความสนใจไปที่การลูบผมของไอโนะลิ้นของคิงส์ตันผูกเป็นปมในขณะคิดกับตัวเอง'นายน้อย คุณไม่ใช่คนโกหกเก่งเลย แมวป่าพันธุ์ไหนที่ทิ้งร่องรอยของฟันไว้ได้''แม้ว่าจะเป็นแมวป่า แต่คุณไม่รู้หรือว่าแมวและมนุษย์ม

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 329

    “ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก“ถ้าในอนาคตเธอต้องการเงิน ไม่ว่าจะมากขนาดไหน เธอก็มาหาฉันได้เสมอ“อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์เพียงลำพังซาบริน่ารับนามบัตรโดยกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ นายน้อยชอว์”ความจริงแล้ว เธอไม่อยากรับนามบัตร แล้วเธอจะรับไปเพื่ออะไร? ซาบริน่าและลูกสาวของเธออยู่กับเซบาสเตียนแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกในอนาคต นอกจากนี้ เธอยังได้งานทำแล้ว ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุทิศเวลาของเธอและสร้างเนื้อสร้างตัวเธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นว่ามาร์คัสเคยช่วยเธอมาก่อน เธอไม่ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมาร์คัสด้วยการปฏิเสธนามบัตรไปขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบการ์ดนั้น ก็มีรถจอดอยู่ข้างหลังทั้งคู่ มาร์คัสและซาบริน่าต่างหันความสนใจไปที่รถท่าทีของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหตุใดจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เซบาสเตียนกลับมาถึงบ้านในขณะนั้น?ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาบริน่ากลัวว่าภาพก่อนหน้านี้จะทำให้เซบาสเตียนหึง แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตระหนักว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เซบาสเตียนจะรู้สึกแบบนั้นซาบริน่าคิดมากไปคนแรกที่ลงจากรถคือคิงส์ตัน เมื่อเห็นมาร

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 328

    มาร์คัสถึงกับพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะปลอบเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไร เขาได้แต่แบ่งปันความเจ็บปวดของเธอในใจ ในขณะนั้นเอง ฝนก็เริ่มตกราวกับว่ามีใครให้สัญญาณฝนเริ่มตกหนักขึ้นภายในไม่กี่วินาทีซาบริน่ายกแขนขึ้นเพื่อกันศีรษะจากฝน แต่มาร์คัสดึงเธอเข้าไปในล็อบบี้ของอาคารชั้นหนึ่งทันทีขณะที่ทั้งสองตั้งสติ มาร์คัสหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข “ซินดี้ ช่วยฉันเอาเอกสารไปที”ซาบริน่าไม่พูดอะไรมาร์คัสไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นไปข้างบนเหรอ? ทำไมเขาถึงเรียกใครบางคนมาที่นี่เพื่อรับเอกสารไปแทน?ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยในชุดอย่างมืออาชีพและรองเท้าส้นสูงก็มาถึงล็อบบี้ มาร์คัสจึงส่งเอกสารบางส่วนให้กับผู้หญิงคนนั้นและสั่งว่า “บอกผู้อำนวยการของเธอว่าฉันจะไม่ขึ้นไปชั้นบน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการที่นี่”“ค่ะ ผู้อำนวยการชอว์” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนมาร์คัสหันมาสนใจซาบริน่าอีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เดี๋ยวฉันจะไปส่ง”ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออยากกลับบ้านหลังจากชะงักเล็กน้อยเธอก็เริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ นายน้อยชอว์ ฉันไปเองได้”มาร์คัสยิ้ม “เธอกำลังจ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 327

    ความสัมพันธ์ที่ซาบริน่ามีกับครอบครัวลินน์เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเธอเสมอมา มันเป็นรอยแผลเป็นที่เธอไม่อยากเปิดเผย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดแม้ว่ามาร์คัสจะเชื้อเชิญ แต่ซาบริน่าก็ไม่ได้ไปร้านกาแฟกับเขา ตอนนี้ ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนสายหลักนอกทางเข้าบริษัท ซาบริน่าตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวอย่างง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวลินน์ เพราะเธอต้องการกลับบ้านโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่าไอโนะทำอะไรลงไปที่บ้านตระกูลฟอร์ด“ตอนอายุน้อยกว่าสิบสองปี ฉันอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของฉัน ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองเล็ก ๆ พ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ที่นั่นโดยปลูกผักครัวเรือน ในช่วงที่ซบเซา พ่อของฉันก็จะไปเป็นคนส่งสินค้าให้โกดังด้วย“ตอนที่ฉันอายุได้สิบขวบ ตอนที่พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โกดัง เขาถูกของบางอย่างตกใส่เขา ของทับจนเสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม่ของฉันป่วยและไม่อาจรักษาหายได้ตลอดทั้งปี“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ดีขึ้นเลย และร่างกายของเธอก็อยู่ในสภาพที่เปราะบางอยู่เสมอ“แต่เพราะฉันเรียนเก่ง แม่ของฉันอยากให้ฉันเรียนต่อ สองปีต่อมา เธอพาฉันมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้“นั่นเป็นค

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 326

    มาร์คัส ชอว์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเมื่อหกปีก่อนมาก และมีลักษณะเป็นนักวิชาการ ซาบริน่านึกถึงความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาให้ไว้กับเธอในตอนที่เธอหนีไปจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แม้แต่ตอนเธอออกมาจากบ้านเช่าเพื่อไปห้ามไม่ให้เซบาสเตียนแต่งงาน มาร์คัสก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอเมื่อซาบริน่ามองเข้าไปในดวงตาของมาร์คัส เธอรู้ได้เลยว่าดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนและใจดีเพียงใดเขาเริ่มถามว่า “ซาบริน่า สบายดีไหม? ฉันรู้ว่าเซบาสเตียนเป็นคนจับตัวและพาเธอกลับมาที่นี่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของฉันเริ่มจับตาดูฉันอย่างเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น หากว่าฉันไปหาเธออย่างไม่ระมัดระวัง ก็รังแต่จะยั่วโมโหเซบาสเตียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันจึงไม่พยายามติดต่อเธอมาโดยตลอด บอกฉันทีว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?“เซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอยังไงบ้าง...”"ดีมาก" ซาบริน่าตอบเพียงสองคำเธอเพียงยิ้มให้มาร์คัสโดยไม่ได้อธิบายอะไรแม้ว่าเธอจะรู้สึกอยากขอบคุณใครสักคน แต่ซาบริน่าก็ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของเธอไว้ข้างในเสมอ แทนที่จะใช้คำพูดเพียงผิวเผินเพื่อแสดงความรู้สึกเหล่านั้น มันเหมือนกับความสำนึกบุญคุณที่เธอรู้สึกต่อไนเจลในตอนนั้นที่เธอไ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 325

    เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยกลัวเลยจริง ๆ ในช่วงสองปีที่เธอใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่เขตเมืองเคียร์ราย เธอตีกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนแน่นอน ไอโนะเคยทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาล้อเลียนเธอว่าไม่มีพ่อหรือดูถูกแม่ของเธอไอโนะจะเอาชนะเด็กคนอื่นอย่างกล้าหาญทุกครั้งหลังจากทะเลาะกับเด็กในโรงเรียนอนุบาล ตอนนี้ เธอไปยั่วยุพวกผู้ใหญ่แล้วเหรอ?ซาบริน่าโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบโลกของผู้ใหญ่นั้นซับซ้อนขนาดไหน? มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กห้าขวบอย่างไอโนะจะเข้าใจได้อย่างแน่นอน ลูกของเธอยังเล็กอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะดุร้ายหรือกล้าหาญแค่ไหน เธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะผู้ใหญ่ด้วยสติปัญญาหรือพละกำลังได้ซาบริน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลักเธอดุไปทางโทรศัพท์ “ไอโนะ! บอกเลยถ้าหนูทำร้ายผู้ใหญ่อีก แม่จะตีก้นหนูจนบวมเลย! แม่ไม่อยากเจอหนูอีกแล้ว!”ไอโนะตกใจกับคำพูดรุนแรงของแม่ของเธอจนถึงกับร้องไห้ออกมา เธอเช็ดจมูกขณะสะอื้นไห้ “แม่จ๋า หนูแค่อยากช่วยแม่...”“แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหนู แม่ไม่อยากให้หนูออกสร้างปัญหาข้างนอกนั่น!” ซาบริน่าดุเธออย่างเคร่งครัด เธอมักจะเข้มงวดกั

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 324

    ซาบริน่าไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอย่างไรประโยคนั้นไม่มีเหตุผลเลย!เธอถามว่า “กำไลอะไรคะ? ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ คุณซื้อเสื้อผ้าให้ฉันแต่ไม่ได้ซื้อเครื่องประดับเลยนะ”เขาพยายามที่จะขู่กรรโชกเธอเหรอ?เธอไม่ได้ขโมยกำไลของเขามา!น้ำเสียงเยือกเย็นของเซบาสเตียนไม่เปลี่ยนไป “ฉันถามถึงกำไลเมื่อหกปีที่แล้ว!”สิ่งนี้ทำให้ซาบริน่าพูดไม่ออกก่อนจะออกมาจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้เมื่อหกปีที่แล้ว เธอได้ทิ้งกำไลนั้นไว้พร้อมกับร่างของป้าเกรซ ซาบริน่าอยากให้กำไลเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเธอ ดังนั้น เธอจึงทิ้งมันไว้ที่นั่นเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนป้าเกรซ ในตอนนั้น มันคือสิ่งเดียวที่ซาบริน่าสามารถทำได้เพื่อเกรซหลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ซาบริน่ากล่าวว่า “ฉันคงจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วถ้าคุณไม่ได้พูดขึ้นมา ฉันพยายามคืนให้คุณเมื่อหกปีที่แล้ว แต่ในตอนนั้นคุณไม่ยอมรับมันไว้ คุณบอกว่าฉันควรเป็นคนเก็บมันไว้เพราะแม่ของคุณให้ฉัน แล้วทำไมคุณถึงต้องการมันคืนในตอนนี้ล่ะ?”ในขณะนั้น เซบาสเตียนรู้สึกเหมือนเพิ่งถูกซาบริน่าตำหนิและไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรแต่มันยังทำให้เขาโกรธอีกด้วย!ความเข้าใจผิดต่อเซบาสเตียนดูเหมือนจะเป็นงานอดิเรกของเธ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 323

    ไอโนะถามว่า “... ลุงคิงส์ตันคะ ยิงปืนนัดเดียวได้นักสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?” อย่างไรคำศัพท์ของเด็กหญิงตัวน้อยก็ยังพัฒนาไม่เต็มที่คิงส์ตันตอบว่า “มันหมายความว่า…” ขณะกำลังจะอธิบายเรื่องนี้กับเจ้าหญิงตัวน้อย เขาสังเกตเห็นการแสดงออกที่เย็นชาบนใบหน้าของนายน้อยจากกระจกมองหลัง เขาหุบปากทันทีคิงส์ตันเรียนรู้วิธีอ่านท่าทางของนายท่านเป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงจะไม่ได้มีทักษะนั้น เมื่อเธอเห็นว่าคิงส์ตันไม่ตอบคำถามของเธอ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็หันไปหาพ่อตูดหมึกของเธอ กลอกตาและถามว่า “ถ้าอย่างนั้นหนูขอถามคุณหน่อยเถอะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?”ในตอนนี้ ไอโนะไม่ต้องพึ่งพาอ้อมกอดของพ่อเหมือนที่เธอเคยได้รับที่บ้านเก่าแก่หลังนั้นอีกต่อไป อันที่จริงเธอไม่อยากเรียกเขาว่าพ่อด้วยซ้ำเพราะว่ามีแค่พวกเขาสองคน เธอรู้สึกโกรธเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่าพ่อของเธอจะเป็นคนใจร้าย แต่ก็มีผู้หญิงมากมายที่พยายามจะจับเขาไอโนะเกลียดเรื่องนี้!เมื่อเซบาสเตียนเห็นสีหน้าไม่พอใจของเด็กหญิงตัวน้อย เขาไม่รู้ว่าเธออยากหัวเราะหรือร้องไห้แทนที่จะตอบไอโนะ เขากลับสวนกลับด้วยคำถามอื่น “ทำไมหนูถึ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 322

    ถ้านายท่านอาวุโสชอว์ไม่เอ่ยถึงกำไลนั้น เซบาสเตียนคงลืมมันไปแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่แม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ เธอได้มอบกำไลให้ซาบริน่า ซึ่งเป็นมรดกตกทอดของตระกูลอันประเมินค่ามิได้นายท่านอาวุโสชอว์กล่าวต่อ “เซบาสเตียน ผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นกำลังวางแผนต่อต้านนายอยู่แน่ ๆ ลองคิดดู เธอทำร้ายไนเจล เซย์นนายน้อยแห่งตระกูลสมิธ หรือแม้แต่มาร์คัสมากแค่ไหน“เธอไม่สามารถเทียบได้กับแม่ของนายได้“ผู้หญิงแบบนั้นจะสามารถสอนลูกของนายให้ถูกต้องได้อย่างไร?”เซบาสเตียนฝืนยิ้ม “ตอนนี้ลูกสาวของผมอยู่กับผม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแม่ของเธอ?!“นายท่านอาวุโสชอว์ด่วนสรุปเกินไปแล้วนะครับ!“สำหรับการอบรมลูกสาวของผม ผมไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีการทำเช่นนั้น นายท่านอาวุโสชอว์ คุณควรให้ความสำคัญกับการอบรมหลานสาวของคุณเองอย่างเหมาะสม คุณจะได้หยุดดูหมิ่นตัวเองต่อหน้าตระกูลฟอร์ดสักที!”หลังจากพูดอย่างนั้น เซบาสเตียนก็อุ้มไอโนะไว้ในอ้อมแขนและพยายามจะออกจากห้องโถงไป“เซบาสเตียน!” เฮนรี่ตะโกน “จะไปไหน นายบอกว่าเราจะทานข้าวกับไอโนะไม่ใช่เหรอ? ย่าของนายเตรียมของขวัญมากมายไว้ให้เธอแล้วนะ เซบาสเตียน…”เ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status