แชร์

โซ่เสน่หานายหัว
โซ่เสน่หานายหัว
ผู้แต่ง: ชนิตร์นันท์

EP.01 นักข่าวสาว

ผู้เขียน: ชนิตร์นันท์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-03 20:45:45

“เอี๊ยด!!”

            เสียงเบรกห้ามล้อของมอเตอร์ไซค์คันเล็กกะทัดรัดประหยัดน้ำมันที่แล่นมาจอดอยู่หน้าร้านข้าวแกงได้อย่างพอดิบพอดี ก่อนที่เจ้าของรถจะวาดต้นขาเรียวเล็กลงมายืนอยู่ด้านข้างด้วยท่าทางทะมัดทะแมงสุดๆ

            หมวกกันน็อคสีแปร๊ดไม่ต่างจากรถถูกถอดออกก่อนจะสะบัดศีรษะไปมา รวบเส้นผมหยักศกยาวเคลียไหล่ด้วยผ้ารัดผมสีดำที่คล้องอยู่ที่ข้อมืออย่างลวกๆ เผยให้เห็นใบหน้าสวยหวานจิ้มลิ้ม ตาโต ปากนิด จมูกหน่อย ทั้งที่การแต่งกายนั้นช่างไม่เข้ากับใบหน้าสักนิด

ชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนสวมทับด้วยแจ็คเก็ตขนาดพอดีตัวกับรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังแต่คล้ายไม่ได้ซักมาสัก 10 ปี ประกอบกับย่ามหนังใบเก่งสะพายแล่งพร้อมกระเป๋าใส่กล้องคล้องคอ ท่าทางแมนเกินหญิงบ่งบอกถึงอาชีพเสี่ยงๆ ที่เธอภูมิใจนักหนา เมื่อจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่ ฝ่ามือบอบบางก็ลูบไล้เจ้ารถคู่ชีพอย่างขอบอกขอบใจที่เจ้าสองล้อเพื่อนเกลอพาเธอฝ่าดงรถติดมาถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยโดยไม่บุบสลายไปสักตารางนิ้วเดียว

ตึกสูง 9 ชั้น ซึ่งเป็นที่ตั้งออฟฟิศของหนังสือพิมพ์ยักษ์ไม่ใหญ่เท่าไรของเมืองไทยตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าคือจุดหมายที่ต้องการมาถึงให้ไวที่สุดแต่ก็ยังช้าไปจนได้

ดวงตาสวยหวานต่างจากบุคลิกซนๆ มองนาฬิกาที่ข้อมือพร้อมกับขบกัดริมฝีปากล่างของตัวเองอย่างมันเขี้ยว เพราะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางมาทำงานทำให้เธอต้องเข้างานสายจนได้ ทั้งที่มีประชุมกับ บก. ช่วงเช้าเสียด้วย

ร่างงามระหงที่พาตัวเองเดินเร็วรี่เข้าไปด้านในทำให้คนที่กำลังตักข้าวเข้าปากอยู่ในร้านข้าวแกงต้องรีบทิ้งช้อนทิ้งส้อมแล้ววิ่งตามเจ้าของร่างเล็กกะทัดรัดไม่แพ้รถคู่ชีพเข้าไปในออฟฟิศโดยเร็ว

สัญญาณไฟหน้าลิฟต์ที่ค่อยๆ เลื่อนลงมาอย่างอ้อยอิ่ง โดยไม่สนใจเลยว่าผู้รอโดยสารนั้นจะรีบเร่งมากน้อยแค่ไหนทำให้เจ้าของใบหน้าสวยหวานต้องสบถออกมาอย่างหัวเสียสุดๆ 

“โธ่โว้ย! ให้มันได้อย่างนี้สิ นี่มันตั้งใจจะให้สายไปทุกพิกัดเลยหรือไงนะ”

‘มัน’ ที่เอ่ยถึงก็คืออุปสรรคที่ช่างมากมีนักตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และเหมือนว่าวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในลิฟต์จะได้ยิน เพราะแค่เธอบ่น มันก็เหมือนจะเคลื่อนตัวลงด้านล่างอย่างเร็ว

ลิฟต์โดยสารเฉพาะเจ้าหน้าที่ของออฟฟิศเปิดออก ซึ่งแน่นอนว่าผู้โดยสารนั้นมีเธอเพียงคนเดียว ก็นี่มันปาเข้าไปจะ 10 โมงแล้วนี่ ใครล่ะจะบ้ามาทำงานพร้อมกันกับเธอ แต่ก่อนที่ช่วงขาเรียวยาวจะก้าวเข้าไปนั้น

            “เมี่ยง! รอเดี๋ยว! รอเดี๋ยว... เมี่ยงหยุดก่อน หยุ้ดดดด...”

เสียงแปดหลอดที่ดังมาก่อนตัวทำให้ ‘ปณาลี’ หรือ ‘เมี่ยงคำ’ ต้องกลอกตาขึ้นมองเพดานลิฟต์ที่เธอเพิ่งรู้ในวันนี้ว่ามันเป็นอะลูมิเนียมมันวาวและใสเสียจนสะท้อนสีหน้าและแววตาสุดแสนจะรำคาญของเธอออกมาได้ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกทางปากพร้อมรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติโดยเร็ว

            “คะพี่หนูนา มีอะไรหรือเปล่าคะ”

ใบหน้ายิ้มแย้มของปณาลีเอ่ยถาม ‘หนูนา’ หนุ่มแอ๊บแมนสุดแสนเพอร์เฟคที่แต่เดิมเคยชื่อว่า ‘นพ’ แต่สำหรับอาชีพเปิดตัวได้แรงอย่างนักข่าวสายบันเทิง นพก็เลยขอเปิดตัวเป็น ‘หนูนา’ ได้อย่างน่ารักน่าชัง

แต่ถ้าจะให้เธอวิจารณ์เธอก็คิดว่านังเก้งตัวแม่นี่น่าจะชื่อว่า ‘หนูหริ่ง’ มากที่สุด เพราะเธอรู้ดีว่า ‘นังนี่’ มายาสาไถเก่งสุดๆ และไม่รู้ว่าวันนี้จะมาเสี้ยมมาหลอกล่ออะไรให้เธอต้องหน้าแตกอีกบ้าง

เพราะเมื่อหลายวันก่อน หนูนานี่แหละที่เอาข่าวเรื่องการค้าของเถื่อนที่ท่าเรือแห่งใหญ่ในกรุงเทพฯ มาบอกเธอ ทำให้เธอรีบกระหืดกระหอบไปขอ ‘พี่วิทิต’ บก. ประจำหนังสือพิมพ์ ‘ข่าวสารบ้านเรา’ ให้อนุญาตให้เธอไปทำข่าวนี้ เพราะงานลุยๆ แบบนี้แหละที่เธอชอบ

แต่ดันกลายเป็นว่าเธอได้รับคำตำหนิจากพี่วิทิตมาเป็นกระบุง เพราะข่าวนี้พี่วิทิตมอบหมายให้คนอื่นไปทำแล้ว พร้อมกับต่อว่าฝากท้ายมาด้วยว่า เธอควรจะมีจมูกไวให้มากกว่านี้ตามสัญชาตญาณของนักข่าวที่ ‘หูผีจมูกมด’ แปลว่า รู้เรื่องอะไรก็ทันท่วงทีไปหมด

ข่าวสารบ้านเมืองต่างๆ ควรจะเสพไว้บ้าง ไม่ใช่มัวแต่ยืนฝันนั่งฝันกินอุดมการณ์ที่จะมี ‘ผู้ก่อการดี’ สักคนคาบข่าวมาบอก เพราะนักข่าวสมัยนี้ต้องเก่งไอที ต้องรู้จักหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ต้องมีสายข่าวอยู่ทุกที่ อาชีพนักข่าวของเธอจึงจะรุ่ง ไม่อย่างนั้นพี่วิทิตก็ยังเห็นว่าเธอควรจะทำงานคัดกรองข่าวอยู่ในออฟฟิศเท่านั้น ถ้าไม่มีประสบการณ์มากพอ การออกไปทำงานด้านนอกก็จะไปป่วนคนอื่นเสียเปล่าๆ

‘ทำตัวให้มันสวยหวานสมกับหน้าตาหน่อยนะเมี่ยง’

ปณาลีจำได้ดีถึงคำพูดและสายตาเอือมระอาที่พี่วิทิตใช้มองเธอ นั่นมันไม่ใช่การชื่นชม แต่มันเป็นการทำลายทางสายตาอย่างรุนแรงว่าเธอนั้น ‘ไม่ได้เรื่อง’ และ ‘ไม่เหมาะกับอาชีพนักข่าวภาคสนาม’ เลยสักนิด แต่คนทะยานอยากอย่างเธอ อยากได้อะไรต้องได้ อยากทำอะไรก็ต้องได้ทำและต้องสำเร็จด้วย จะไม่ยอมให้คำสบประมาทหรือขวากหนามเล็กๆ มาทำให้เสียงานใหญ่แน่

“เมี่ยง! นี่พี่ถามทำไมไม่ตอบ นี่เรานอนน้อยจนเบลอหรือเปล่า” หนูนาถอนหายใจหลายๆ เฮือก เมื่อนักข่าวสาวคนโปรดของ บก. ดูจะไม่ได้สนใจในคำถามของเธอเลยสักนิด

“ว่าไงนะพี่ เอ่อ... เมี่ยงไม่ได้ฟัง คงเบลอจริงๆ อะ” ปณาลียิ้มแหย เมื่อเผลอคิดเพลินจนลืมไปว่ายังมีเก้งตัวใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้า

“พี่ถามว่าได้ข่าวแล้วหรือยัง” หน้าตากระตือรือร้นอยากบอกสุดขีด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โซ่เสน่หานายหัว   EP.02 ข่าวที่อยากทำ

    “ข่าว... ข่าวอะไรคะพี่ ขอข่าวใหม่ๆ บ้างนะคะ ไม่ใช่สมัยพระเจ้าเหาก็เอามาบอกเมี่ยงอะ เมี่ยงขี้เกียจถูกพี่วิทิตด่าอีก” อดไม่ได้ที่จะเหน็บแต่สีหน้าก็ยังคงยิ้ม เพราะการสร้างศัตรูในที่ทำงานไม่ใช่สิ่งที่ควรภาคภูมิใจสักนิด ยังไงก็ต้องได้พึ่งพากัน“จ้า... ฉันเข้าใจดี คราวที่แล้วมันผิดพลาดไปหน่อย แต่คราวนี้น่ะไม่พลาดแน่”“แล้วข่าวอะไรเหรอคะพี่”สีหน้าและแววตาอยากรู้สุดๆ ของปณาลีทำให้หนูนาต้องยิ้ม ใช่เธอพูดถูก คราวที่แล้วน่ะมันพลาดที่ไม่สามารถทำให้ปณาลีกระเด็นออกไปจากที่นี่ได้ แต่คราวนี้น่ะไม่พลาดแน่ เพราะยัย ‘เมี่ยงคำ’ ตัวแสบคงจะทำให้ บก.วิทิต อยากจะเคี้ยวหล่อนจนแหลก หากรู้ว่านักข่าวสาวคนโปรดไปแหย่เท้าหาผู้มีอิทธิพลเข้า และเธอก็มั่นใจเต็ม 100% ว่าคนอย่างปณาลีจะไม่ทำให้ข่าวนี้เงียบหายเป็นเป่าสากเหมือนที่หลายๆ คนต้องการแน่“กินอุดมการณ์ไปเถอะยัยเมี่ยงเอ้ย! แกได้ตกงานแน่ ช่วยไม่ได้อยากเป็นคนโปรดของพี่วิทิตสุดหล่อเอง แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่อย่ามาแข่งความสวยกับฉัน เพราะหล่อนจะไม่มีวันชนะ อิอิ...”หนูนายืนป้องปากหัวเราะคิกคักอยู่หน้าลิฟต์ เมื่อคนด้านในกำลังเคลื่อนตัวสู่ห้องประชุมชั้นบนสุด พร้อมข่าวร้อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • โซ่เสน่หานายหัว   EP.03 นายหัวไกร

    ปณาลีลักไก่ว่าตัวเองเป็นคนหาข่าวได้ ไม่ใช่ว่าเพิ่งรู้จากหนูนาเมื่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมานี้“เฮ้อ! เมี่ยง...” วิทิตถอนหายใจเฮือกใหญ่ ฝ่ามือตบหน้าผากตัวเอง“เมี่ยง ดูปากพี่นะ เรื่อง มัน จบ ไป แล้ว ไม่ มี หลัก ฐาน โอเค! เข้าใจนะ! ไปๆๆ ไปทำงานได้แล้ว ข่าวที่พี่ให้หาไปถึงไหนแล้ว นี่อย่าบอกนะว่ามัวแต่ยุ่งเรื่องนี้จนลืมข่าวของพี่น่ะ ไอ้ที่ให้ทำก็ไม่ทำ ไอ้ที่ไม่ให้ทำก็จะทำ ฮึ่ม...”วิทิตอารมณ์ขึ้นทำท่าฮึ่มๆ จะกินเลือดกินเนื้อปณาลี ส่งผลให้นักข่าวสาวรู้สึกสยองจนต้องรีบออกมาจากห้อง บก. โดยด่วน และมันคงจะดีกว่านี้ถ้าไม่ออกมาเจอหนูนาอยู่นอกห้อง ปณาลีจึงต้องทำเป็นเชิดหน้ายิ้มราวกับได้รับชัยชนะอันใหญ่หลวง“ว่าไงเมี่ยง พี่วิทิตให้เมี่ยงทำไหม” หนูนายิ้มกว้างถลาเข้ามาถามทันที“หึ” ปณาลีสั่นหน้ายิ้มแหย“อ้าว! ทำไมล่ะ ข่าวออกจะดัง ถ้าเราเปิดโปงพวกนั้นได้นะ หนังสือพิมพ์เราต้องได้ขึ้นแท่นยักษ์ใหญ่แน่ ไม่ต้องเป็นยักษ์ตัวน้อยตัวนิดอยู่แบบนี้”หนูนาพูดด้วยสีหน้าจริงจังดูหวังดีสุดๆ แต่สายตานั้นจับจ้องมองแต่เพียงใบหน้าสวย หวังจะเห็นกิริยาตรงกันข้ามกับคำสั่ง และสายตามุ่งมั่นของปณาลีก็ทำให้หนูนาต้องยิ้มกว้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • โซ่เสน่หานายหัว   EP.04 บุญโชคช่วย

    ดวงตาคมเข้มมอง ‘เรืออวนดำ’ ที่จอดเรียงรายอยู่เกือบ 20 ลำ และ ‘เรือลากกู้’ ที่รอเทียบท่าอีกนับ 10 ลำ ด้วยกัน หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันครุ่นคิด เพราะเอาแน่เอานอนกับทะเลไม่ได้เลย เดิมปกติแพปลาแห่งนี้จะสลับหมุนเวียนให้เรือประมงเข้ามาจอดเทียบ เพื่อขนถ่ายปลาหลากชนิด หมึก กุ้ง ปู และสัตว์น้ำชนิดอื่นตามแต่จะหาได้ จัดสรรเป็นช่วงเวลาเช่น เรืออวนดำจะเทียบท่าประมาณ 6 โมงเช้า ถึงบ่าย 3 โมง ส่วนเรือลากกู้ก็เทียบท่าต่อในเวลา 4 โมงเย็น จนถึงประมาณ 3 ทุ่มก็จะลงปลาเสร็จ หลังจากนั้นก็จะถึงเวลาที่แพจะทำความสะอาด เพื่อเตรียมสำหรับการซื้อขายสัตว์ทะเลต่อในช่วงเช้า แต่หากหน้ามรสุมอย่างนี้ เรือทั้งหมดก็จะเข้ามาออกันอยู่บริเวณท่าทำให้แลดูแออัด และเรือประมงต่างๆ ก็จะไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควรด้วย“พี่ใหญ่เดี๋ยวเคลียร์งานตรงนี้เสร็จแล้วไปหาฉันที่ห้องหน่อยนะ ฉันจะคุยเรื่องเปิดแพใหม่เพิ่ม”“ครับนายหัว”..ไกรเดินตรงไปยังออฟฟิศที่อยู่ด้านในของแพปลาแต่เป็นจุดที่สามารถมองเห็นเรือเข้ามาเทียบท่า และเมื่อมองออกไปด้านนอกอีกข้างก็จะเห็นบริเวณที่รถห้องเย็นมาจอดเรียงรายกันอยู่ เพื่อรอสำหรับขนส่งอาหารทะเลแช่แข็งจาก ‘แพปลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • โซ่เสน่หานายหัว   EP.05 ถูกซัดทอดเป็นแพะ

    “ถ้าอย่างนั้นผมก็เห็นด้วยครับ ตอนแรกคิดว่านายหัวจะต่อแพเพิ่มเพราะกลัวว่าพวกเรือลากกู้จะลำบากเสียอีก”“นั่นก็ส่วนหนึ่งล่ะพี่ ถึงเรือลากกู้จะเข้าอาทิตย์ละครั้ง ฉันก็อยากให้พวกเขาสะดวกนะ พี่ใหญ่ดูสิ มันแออัดไปหมด อีกอย่างฉันอยากแยกพื้นที่สำหรับรถห้องเย็นของเรือทัวร์โดยเฉพาะด้วย ตอนนี้มันปนกันไปหมด เวลารถจะเข้าจะออก ต้องมาคอยทั้งระวังคนทั้งระวังรถด้วยกันอีก จะขึ้นน้ำแข็ง จะเติมน้ำมัน ลำบากไปหมด”‘เรือทัวร์’ คือ เรือขนาดเล็กที่ทำหน้าที่ไปตักถ่ายหมึกจากเรือลอบหมึกที่จะเข้าท่า 2 เดือนครั้ง หากไม่มีเรือทัวร์ไปตักหมึกถ่ายออกมาเพื่อส่งให้กับรถห้องเย็นที่จะขนส่งหมึกเหล่านี้ไปต่างประเทศ ระยะเวลา 2 เดือนกว่าที่เรือลอบหมึกจะเข้าฝั่ง หมึกก็จะมีสภาพไม่ต่างจากซากศพแช่เย็น ความสดใหม่คงจะไม่มีไปถึงมือลูกค้าอย่างแน่นอน“ถ้านายหัวคิดแบบนั้นผมก็เห็นด้วยครับ แล้วเรื่องคนงานล่ะครับ จะไม่มีปัญหาเหรอ”“ตรงนั้นพี่ใหญ่ไม่ต้องห่วง ฉันจัดการเอง เออ... สรุปคนงานพี่ใหญ่ขาดกี่คนล่ะ”“5 คนครับ ขอผู้หญิง 2 ผู้ชาย 3 ถ้าเป็นไปได้นะครับ แต่ถ้าไม่ได้ผู้หญิงผู้ชายก็ได้ทั้งนั้น แรงงานหายาก ผมเลือกไม่ได้หรอกครับ นายหัวส่งใครม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03

บทล่าสุด

  • โซ่เสน่หานายหัว   EP.05 ถูกซัดทอดเป็นแพะ

    “ถ้าอย่างนั้นผมก็เห็นด้วยครับ ตอนแรกคิดว่านายหัวจะต่อแพเพิ่มเพราะกลัวว่าพวกเรือลากกู้จะลำบากเสียอีก”“นั่นก็ส่วนหนึ่งล่ะพี่ ถึงเรือลากกู้จะเข้าอาทิตย์ละครั้ง ฉันก็อยากให้พวกเขาสะดวกนะ พี่ใหญ่ดูสิ มันแออัดไปหมด อีกอย่างฉันอยากแยกพื้นที่สำหรับรถห้องเย็นของเรือทัวร์โดยเฉพาะด้วย ตอนนี้มันปนกันไปหมด เวลารถจะเข้าจะออก ต้องมาคอยทั้งระวังคนทั้งระวังรถด้วยกันอีก จะขึ้นน้ำแข็ง จะเติมน้ำมัน ลำบากไปหมด”‘เรือทัวร์’ คือ เรือขนาดเล็กที่ทำหน้าที่ไปตักถ่ายหมึกจากเรือลอบหมึกที่จะเข้าท่า 2 เดือนครั้ง หากไม่มีเรือทัวร์ไปตักหมึกถ่ายออกมาเพื่อส่งให้กับรถห้องเย็นที่จะขนส่งหมึกเหล่านี้ไปต่างประเทศ ระยะเวลา 2 เดือนกว่าที่เรือลอบหมึกจะเข้าฝั่ง หมึกก็จะมีสภาพไม่ต่างจากซากศพแช่เย็น ความสดใหม่คงจะไม่มีไปถึงมือลูกค้าอย่างแน่นอน“ถ้านายหัวคิดแบบนั้นผมก็เห็นด้วยครับ แล้วเรื่องคนงานล่ะครับ จะไม่มีปัญหาเหรอ”“ตรงนั้นพี่ใหญ่ไม่ต้องห่วง ฉันจัดการเอง เออ... สรุปคนงานพี่ใหญ่ขาดกี่คนล่ะ”“5 คนครับ ขอผู้หญิง 2 ผู้ชาย 3 ถ้าเป็นไปได้นะครับ แต่ถ้าไม่ได้ผู้หญิงผู้ชายก็ได้ทั้งนั้น แรงงานหายาก ผมเลือกไม่ได้หรอกครับ นายหัวส่งใครม

  • โซ่เสน่หานายหัว   EP.04 บุญโชคช่วย

    ดวงตาคมเข้มมอง ‘เรืออวนดำ’ ที่จอดเรียงรายอยู่เกือบ 20 ลำ และ ‘เรือลากกู้’ ที่รอเทียบท่าอีกนับ 10 ลำ ด้วยกัน หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันครุ่นคิด เพราะเอาแน่เอานอนกับทะเลไม่ได้เลย เดิมปกติแพปลาแห่งนี้จะสลับหมุนเวียนให้เรือประมงเข้ามาจอดเทียบ เพื่อขนถ่ายปลาหลากชนิด หมึก กุ้ง ปู และสัตว์น้ำชนิดอื่นตามแต่จะหาได้ จัดสรรเป็นช่วงเวลาเช่น เรืออวนดำจะเทียบท่าประมาณ 6 โมงเช้า ถึงบ่าย 3 โมง ส่วนเรือลากกู้ก็เทียบท่าต่อในเวลา 4 โมงเย็น จนถึงประมาณ 3 ทุ่มก็จะลงปลาเสร็จ หลังจากนั้นก็จะถึงเวลาที่แพจะทำความสะอาด เพื่อเตรียมสำหรับการซื้อขายสัตว์ทะเลต่อในช่วงเช้า แต่หากหน้ามรสุมอย่างนี้ เรือทั้งหมดก็จะเข้ามาออกันอยู่บริเวณท่าทำให้แลดูแออัด และเรือประมงต่างๆ ก็จะไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควรด้วย“พี่ใหญ่เดี๋ยวเคลียร์งานตรงนี้เสร็จแล้วไปหาฉันที่ห้องหน่อยนะ ฉันจะคุยเรื่องเปิดแพใหม่เพิ่ม”“ครับนายหัว”..ไกรเดินตรงไปยังออฟฟิศที่อยู่ด้านในของแพปลาแต่เป็นจุดที่สามารถมองเห็นเรือเข้ามาเทียบท่า และเมื่อมองออกไปด้านนอกอีกข้างก็จะเห็นบริเวณที่รถห้องเย็นมาจอดเรียงรายกันอยู่ เพื่อรอสำหรับขนส่งอาหารทะเลแช่แข็งจาก ‘แพปลา

  • โซ่เสน่หานายหัว   EP.03 นายหัวไกร

    ปณาลีลักไก่ว่าตัวเองเป็นคนหาข่าวได้ ไม่ใช่ว่าเพิ่งรู้จากหนูนาเมื่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมานี้“เฮ้อ! เมี่ยง...” วิทิตถอนหายใจเฮือกใหญ่ ฝ่ามือตบหน้าผากตัวเอง“เมี่ยง ดูปากพี่นะ เรื่อง มัน จบ ไป แล้ว ไม่ มี หลัก ฐาน โอเค! เข้าใจนะ! ไปๆๆ ไปทำงานได้แล้ว ข่าวที่พี่ให้หาไปถึงไหนแล้ว นี่อย่าบอกนะว่ามัวแต่ยุ่งเรื่องนี้จนลืมข่าวของพี่น่ะ ไอ้ที่ให้ทำก็ไม่ทำ ไอ้ที่ไม่ให้ทำก็จะทำ ฮึ่ม...”วิทิตอารมณ์ขึ้นทำท่าฮึ่มๆ จะกินเลือดกินเนื้อปณาลี ส่งผลให้นักข่าวสาวรู้สึกสยองจนต้องรีบออกมาจากห้อง บก. โดยด่วน และมันคงจะดีกว่านี้ถ้าไม่ออกมาเจอหนูนาอยู่นอกห้อง ปณาลีจึงต้องทำเป็นเชิดหน้ายิ้มราวกับได้รับชัยชนะอันใหญ่หลวง“ว่าไงเมี่ยง พี่วิทิตให้เมี่ยงทำไหม” หนูนายิ้มกว้างถลาเข้ามาถามทันที“หึ” ปณาลีสั่นหน้ายิ้มแหย“อ้าว! ทำไมล่ะ ข่าวออกจะดัง ถ้าเราเปิดโปงพวกนั้นได้นะ หนังสือพิมพ์เราต้องได้ขึ้นแท่นยักษ์ใหญ่แน่ ไม่ต้องเป็นยักษ์ตัวน้อยตัวนิดอยู่แบบนี้”หนูนาพูดด้วยสีหน้าจริงจังดูหวังดีสุดๆ แต่สายตานั้นจับจ้องมองแต่เพียงใบหน้าสวย หวังจะเห็นกิริยาตรงกันข้ามกับคำสั่ง และสายตามุ่งมั่นของปณาลีก็ทำให้หนูนาต้องยิ้มกว้

  • โซ่เสน่หานายหัว   EP.02 ข่าวที่อยากทำ

    “ข่าว... ข่าวอะไรคะพี่ ขอข่าวใหม่ๆ บ้างนะคะ ไม่ใช่สมัยพระเจ้าเหาก็เอามาบอกเมี่ยงอะ เมี่ยงขี้เกียจถูกพี่วิทิตด่าอีก” อดไม่ได้ที่จะเหน็บแต่สีหน้าก็ยังคงยิ้ม เพราะการสร้างศัตรูในที่ทำงานไม่ใช่สิ่งที่ควรภาคภูมิใจสักนิด ยังไงก็ต้องได้พึ่งพากัน“จ้า... ฉันเข้าใจดี คราวที่แล้วมันผิดพลาดไปหน่อย แต่คราวนี้น่ะไม่พลาดแน่”“แล้วข่าวอะไรเหรอคะพี่”สีหน้าและแววตาอยากรู้สุดๆ ของปณาลีทำให้หนูนาต้องยิ้ม ใช่เธอพูดถูก คราวที่แล้วน่ะมันพลาดที่ไม่สามารถทำให้ปณาลีกระเด็นออกไปจากที่นี่ได้ แต่คราวนี้น่ะไม่พลาดแน่ เพราะยัย ‘เมี่ยงคำ’ ตัวแสบคงจะทำให้ บก.วิทิต อยากจะเคี้ยวหล่อนจนแหลก หากรู้ว่านักข่าวสาวคนโปรดไปแหย่เท้าหาผู้มีอิทธิพลเข้า และเธอก็มั่นใจเต็ม 100% ว่าคนอย่างปณาลีจะไม่ทำให้ข่าวนี้เงียบหายเป็นเป่าสากเหมือนที่หลายๆ คนต้องการแน่“กินอุดมการณ์ไปเถอะยัยเมี่ยงเอ้ย! แกได้ตกงานแน่ ช่วยไม่ได้อยากเป็นคนโปรดของพี่วิทิตสุดหล่อเอง แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่อย่ามาแข่งความสวยกับฉัน เพราะหล่อนจะไม่มีวันชนะ อิอิ...”หนูนายืนป้องปากหัวเราะคิกคักอยู่หน้าลิฟต์ เมื่อคนด้านในกำลังเคลื่อนตัวสู่ห้องประชุมชั้นบนสุด พร้อมข่าวร้อน

  • โซ่เสน่หานายหัว   EP.01 นักข่าวสาว

    “เอี๊ยด!!” เสียงเบรกห้ามล้อของมอเตอร์ไซค์คันเล็กกะทัดรัดประหยัดน้ำมันที่แล่นมาจอดอยู่หน้าร้านข้าวแกงได้อย่างพอดิบพอดี ก่อนที่เจ้าของรถจะวาดต้นขาเรียวเล็กลงมายืนอยู่ด้านข้างด้วยท่าทางทะมัดทะแมงสุดๆ หมวกกันน็อคสีแปร๊ดไม่ต่างจากรถถูกถอดออกก่อนจะสะบัดศีรษะไปมา รวบเส้นผมหยักศกยาวเคลียไหล่ด้วยผ้ารัดผมสีดำที่คล้องอยู่ที่ข้อมืออย่างลวกๆ เผยให้เห็นใบหน้าสวยหวานจิ้มลิ้ม ตาโต ปากนิด จมูกหน่อย ทั้งที่การแต่งกายนั้นช่างไม่เข้ากับใบหน้าสักนิดชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนสวมทับด้วยแจ็คเก็ตขนาดพอดีตัวกับรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังแต่คล้ายไม่ได้ซักมาสัก 10 ปี ประกอบกับย่ามหนังใบเก่งสะพายแล่งพร้อมกระเป๋าใส่กล้องคล้องคอ ท่าทางแมนเกินหญิงบ่งบอกถึงอาชีพเสี่ยงๆ ที่เธอภูมิใจนักหนา เมื่อจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่ ฝ่ามือบอบบางก็ลูบไล้เจ้ารถคู่ชีพอย่างขอบอกขอบใจที่เจ้าสองล้อเพื่อนเกลอพาเธอฝ่าดงรถติดมาถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยโดยไม่บุบสลายไปสักตารางนิ้วเดียวตึกสูง 9 ชั้น ซึ่งเป็นที่ตั้งออฟฟิศของหนังสือพิมพ์ยักษ์ไม่ใหญ่เท่าไรของเมืองไทยตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าคือจุดหมายที่ต้องการมาถึงให้ไวที่สุดแ

DMCA.com Protection Status