“พบเป็นการส่วนตัว...บอสหมายถึงพนักงานใหม่ที่เป็นผู้หญิงเอเชียตัวเล็กเมื่อกี๊นี้นะเหรอคะ”
“อืม...ใช่...ฉันดูจากโปรไฟล์ส่วนตัวของเธอก็ไม่เห็นมีอะไรเป็นพิเศษแถมยังเป็นตำแหน่งเล็ก ๆ ถ้าเป็นระดับผู้บริหารก็ว่าไปอย่าง ที่สำคัญท่านประธานก็พึ่งกลับมาจากการประชุมที่สวีเดนและพึ่งเข้ามาสำนักงานใหญ่วันนี้ ฉันแค่แปลกใจว่าเธอมีอะไรพิเศษถึงได้ทำให้ท่านประธานอยากพบ”
“บอสก็รู้นะคะว่าท่านประธานน่ะเป็นคนที่ทำอะไรค่อนข้างจะเดายากสักหน่อย ท่านอาจอยากเปลี่ยนแปลงนโยบายบางอย่างในที่ทำงานก็ได้นะคะ”
“ฉันจะคิดในแง่บวกเหมือนเธอนะลิลลี่”
ผู้ช่วยสาวยิ้มให้โดโรธีซึ่งยังนั่งจ้องมองเอกสารบนโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิดแม้จะยังรู้สึกตงิด ๆ กับสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในที่ทำงานก็ตาม
“เชิญด้านในเลยนะคะ มิสดารินทรา”
พนักงานสาวสวยของบริษัทหันมาเอ่ยกับมษยาเมื่อพาหญิงสาวชาวไทยซึ่งมีฐานะเป็นพนักงานใหม่มาหยุดที่หน้าบานประตูห้องหนึ่งบนชั้นที่หกสิบของตึกนอร์ธเทิร์นซี งหญิงสาวชาวไทยยิ้มให้อย่างประหม่าก่อนผลักประตูห้องเข้าไปเบา ๆ และก้าวเข้าไปภายในห้องทำงานขนาดใหญ่ที่เธอถึงกับตกตะลึงในความโอ่โถงและอลังการของการตกแต่งสมกับเป็นห้องของท่านประธานเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ราวกับนี่เป็นห้องพักส่วนตัวมากกว่าจะเป็นที่ทำงานด้วยซ้ำ ภายในนั้นไม่มีตู้เอกสาร มีแต่โต๊ะทำงานซึ่งมีแลปท็อปเพียงเครื่องเดียว ด้านหลังมีชั้นวางโมเดลรูปเรือหลากหลายรูปแบบซึ่งทำให้หญิงสาวเผลอมองอยู่นานกระทั่งเธอได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
“อรุณสวัสดิ์...มิสดารินทรา”
มษยาชะงักกึกเมื่อสดับน้ำเสียงที่เธอเหมือนจะคุ้นเคยกับมันมาก่อน น้ำเสียงห้าวลุ่มลึกและเต็มไปด้วยความหนักแน่นที่ดังอยู่ข้างหลัง และเธอก็ไม่เคยลืมเลือนน้ำเสียงนั้นตลอดระยะเวลาเนิ่นนานหลายปีที่ผ่านมา หญิงสาวไม่ได้หันกลับไปหากได้ยินเสียงฝีเท้าสืบเข้ามาใกล้ขณะร่างบอบบางยืนนิ่งและประสานมือไว้เบื้องหน้าด้วยปลายนิ้วกดเกร็ง เธอเกือบจะกลั้นหายใจกับความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายก่อนค่อย ๆ หันกลับไปเบื้องหลัง
“เคน...”
ริมฝีปากอิ่มระริกสั่นเปล่งเสียงลอดผ่านออกมาเบาแสนเบาพร้อมดวงตาที่เบิกกว้างเล็กน้อย บุรุษร่างสูงสง่าในชุดสูทตรงหน้าคือคนคนเดียวกันที่เธอเห็นหน้าลิฟท์ซึ่งก็คือเขาจริง ๆ
เคน คลิฟตัน
“เคน...”
“อรุณสวัสดิ์ครับ มิสดารินทรา”
ชายหนุ่มเอ่ยประโยคเดิมซ้ำอีกครั้ง แม้เขาจะเรียกขานชื่อเธอไม่เหมือนดังเก่าทว่าน้ำเสียงที่เธอเคยได้ยินไม่แปลกเปลี่ยน ใบหน้าคร้ามเข้มภายใต้เรือนผมดกหนาสีบรูเน็ตเข้มขลับที่เธอเคยเห็นเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย นัยน์ตาสีน้ำเงินดุจท้องฟ้าเหนือมหาสมุทรนั้นเปล่งประกายลุ่มลึกบนใบหน้าคมคายโหนกแก้มสูงรับจมูกโด่งยาวและริมฝีปากหยักหนาได้รูป เขาหล่อเหลาและดูภูมิฐานขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แตกต่างไปจากเมื่อก่อนซึ่งเขาเคยเป็นเด็กหนุ่มที่มักมีรอยยิ้มให้เธอเสมอ มษยาเกิดความคิดขึ้นมากมายแต่แล้วเมื่อตั้งสติได้และกำลังจะอ้าปากถามก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยขึ้นเสียก่อนว่า
“ดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้ง...มิสดารินทรา
“เคน...เอ้อ...คุณมาทำอะไรที่นี่คะ”
“ผมอยู่ที่นี่”
เคนกล่าวสั้น ๆ ก่อนจะเดินผ่านหน้าร่างบางตรงไปยังเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงานและหย่อนตัวลงนั่งขณะที่มษยามองเขาและเริ่มลำดับความคิด กระทั่งเขากล่าวขึ้นอีกครั้ง
“ในฐานะ...ประธานบริหารสูงสุดของนอร์ธเทิร์นซี อิงค์ คอร์ปอเรชั่น”
มษยาถึงกับนิ่งอึ้ง เขาเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทนี้...ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน คำตอบนั้นสร้างความประหลาดใจให้หญิงสาวอย่างล้นเหลือ เธอเคยรู้ว่าเคนเป็นลูกชายมหาเศรษฐีลำดับต้นของอเมริกา แต่ไม่เคยรู้ว่าเขาคือผู้บริหารลำดับสูงสุดขององค์กรที่เธอพึ่งเข้ามาทำงานวันนี้เป็นวันแรก มษยาทำสีหน้าแทบไม่ถูก แม้ว่าเธอจะเคยสนิทกับเขาในขั้นที่เรียกว่า คนรัก มาแต่เก่าก่อนแต่ตอนนี้สถานะระหว่างเธอกับเคนช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว หญิงสาวรู้สึกได้ในทันทีว่าเธอควรต้องวางตัวเช่นไร ซึ่งการรักษาระยะห่างระหว่างกันน่าจะเป็นการดีมากกว่าอย่างอื่น
เพราะทุกอย่างไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมอีกแล้ว....
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรถึงตอนนี้เธอก็ยังดีใจที่ได้เห็นความก้าวหน้าในชีวิตของเขาและความรู้สึกหวังดีต่อคนที่ตัวเองรักก็เป็นสิ่งที่เธอคาดหวังมาโดยตลอดแม้ว่าวันเวลาเหล่านั้นจะพ้นผ่านไปจากชีวิตของเธอและเขานานแล้ว หญิงสาวฝืนยิ้ม
“ดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้งเหมือนกันนะคะ ฉันยินดีด้วยนะคะเคน คือ...ฉันก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณเป็นผู้บริหารของที่นี่”
“ผมอาจไม่ค่อยออกงานสังคมกระมังและที่สำคัญนอร์ธเทิร์นซีก็พึ่งก่อตั้งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ งานของผมคือทำยังไงให้บริษัทขยายตัวและได้ผลกำไรมากที่สุด ส่วนคุณ...ผมนึกว่าคุณจะแต่งงานกับใครไปแล้วเสียอีก”
เคนเปลี่ยนท่านั่งไขว่ห้างขณะเอนหลังพิงเก้าอี้และประสานมือทั้งสองไว้บนเข่า ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้ารูปไข่งดงามของหญิงสาวตรงหน้า มษยาดูเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนที่เขาเคยเห็น เขาเคยเห็นเธอเป็นเด็กสาวแรกรุ่นงดงามสะพรั่งเหมือนดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิ เขาเคยคิดว่าเธอเธออ่อนเยาว์และไร้เดียงสาเพราะแม้แต่ จูบ ครั้งแรกเธอยังทำประหนึ่งว่าไม่เคยได้รับมันจากผู้ชายคนไหน แล้วตอนนี้เธอจะเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า ชายหนุ่มไม่ได้นึกถึงด้วยความประหลาดใจ หากแต่มีบางอย่างคุกรุ่นอยู่ภายใต้ใบหน้าคมคร้ามซึ่งดูเสมือนเรียบเฉยนั้น
เขาไม่เคยลืมเลือนว่าเคยมีความสัมพันธ์งดงามกับหญิงสาววัยสิบแปดคนหนึ่งที่ฐานะแตกต่างจากเขาแม้มากเพียงใดหากก็ไม่ใช่อุปสรรคขวางกั้นความตั้งใจจริงที่เขาจะ รัก เธอได้ กระทั่งถึงวันที่เขาต้องเดินทางไปเรียนต่อแดนไกล เคนรู้สึกได้ถึงความห่างเหินระหว่างกันแม้เขาพยายามที่จะสานความสัมพันธ์นั้นไว้ให้ยืนยาวมากที่สุด เรียกได้ว่านั่นเป็นรักครั้งแรกและฝังใจสำหรับเขา เป็นความทรงจำปวดร้าวของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกคนรักหักหลังอย่างเลือดเย็น“คุณไปเรียนต่อเถอะนะคะเคน และคงไม่ต้องติดต่อกลับมาหาลูกสาวของฉันอีกแล้ว”“ทำไมล่ะครับ ผมแค่อยากพบญาญ่าอีกสักครั้ง”“เธอไม่อยากพบคุณอีกแล้วล่ะค่ะ เพราะมันอาจไม่เหมาะสม”“มีอะไรที่ไม่เหมาะสมอย่างนั้นหรือครับ ในเมื่อก่อนหน้านี้เราก็คบกันแล้ว”“ฟังนะคะ คุณเคน คลีฟตัน...ฉันอยากจะบอกคุณว่ายะหยาเขาคบกับคุณไม่ได้ เพราะเขากำลังจะหมั้นกับคนที่จะเลี้ยงดูเขาได้ ผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ใหญ่และมีเงินมากพอจะเลี้ยงดูให้ลูกสาวฉันสบาย”“ผู้ใหญ่เหรอครับ เขาเป็นใคร?”“ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องมารับรู้หรอกนะคะ เพราะอีกไม่กี่วันเขาก็จะมาหมั้นกับลูกสาวฉันแล้ว กลับไปซะเถอะนะคะ ฉันได้ยินว่าคุณกำลังจะไปเรีย
ภายใต้ภาพฝันของชายหนุ่มผู้หล่อเหลา ร่ำรวยและแสนอบอุ่น เขาเคยทุ่มชีวิตให้ผู้หญิงคนหนึ่ง และเมื่อเธอจากไปโดยไม่ทิ้งอะไรไว้ให้ นอกจากบาดแผลที่รอวันเยียวยาด้วยความแค้นและเกลียดชัง และเมื่อเขาพบเธออีกครั้ง เขาทำให้เธอรักเขา และค่อย ๆ เฉือนหัวใจของเธออย่างเลือดเย็นเธอไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากปลดปล่อยคนที่เธอรักให้เขาพบกับอนาคตอันสดใส ครั้งนั้นที่เธอตัดสินใจออกจากเส้นทางเดินของผู้ชายที่เธอรักเขามากกว่าชีวิต และเมื่อได้พบเขาอีกครั้ง เธอปรารถนาที่จะได้แก้ตัวโดยไม่รู้เลยว่า เขา กำลังใช้ความผูกพันที่ยังฝังลึกเป็นเสมือนโซ่สวาทพันธนาการเธอไว้เป็นทาสเสน่หาเพื่อฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็น “เคนคะ...ยะหยาไปหาหมอมาค่ะ...เอ้อ...หมอบอกว่ายะหยาท้องได้เดือนกว่า ๆ แล้วค่ะ”“คุณแน่ใจเหรอว่าเด็กในท้องของคุณ...เป็นลูกของผม ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะญาญ่า ที่ผมจำเป็นต้องบอกว่าคุณไม่สามารถเป็นอะไรได้มากไปกว่า...ผู้หญิงที่ผมแค่อยากนอนด้วยโดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ก็เท่านั้น!”กริ๊ง!!! เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นภายในบ้านหลังเล็กตั้งอยู่ในรั้วไม้เขตชานเมืองลอสแองเจลิสใกล้ย่านที่พักเบล แอร์อันหรูหราทำให้มษยาต้องรีบรั
“เอ้อ...แม่คะ...หนูกำลังจะเก็บไว้แล้วล่ะค่ะ...เอ้อ...” น้ำเสียงหวานปนแหบเมื่อเงยหน้าขึ้น“ถึงป่านนี้แล้วลูกยังไม่ลืมเขาอีกหรือ ยะหยา”คำถามของมารดาทำให้มษยาที่พูดอึกอักชะงักกึก เธอมองสิ่งที่มารดาเอาไปจากมือตัวเองพลางยิ้มจาง ๆ“หนูแค่เอาของที่เขาเคยให้ออกมาดูก็เท่านั้นล่ะค่ะ”“ลืมเขาได้แล้วล่ะ” ทิพย์ธารากล่าวพลางวางของสองสิ่งนั้นลงบนโต๊ะด้านบนลิ้นชักที่ชั้นล่างถูกเปิดค้างไว้ “ป่านนี้เขาคงเป็นเจ้าของกิจการและมีครอบครัวไปแล้ว ผู้ชายรวย ๆ ไม่เคยคอยใคร คนมีเงินเลือกที่จะทำอะไรก็ได้โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง”“หนูทราบค่ะ”เสียงตอบนั้นเบาหวิว มษยาพยายามเก็บกลั้นน้ำริ้นที่เริ่มซึมออกมารอบ ๆ ขอบตาเอาไว้ หลายครั้งที่นึกถึงแล้วเจ็บปวดหากหญิงสาวก็ต้องเก็บมันไว้แต่เพียงผู้เดียว“ยะหยา...”หญิงวัยเกือบห้าสิบขานเรียกบุตรสาวเบา ๆ พลางเกลี่ยผมปอยผมที่เรี่ยลงมาบนใบหน้าสวยหวานของมษยา“แม่อยากให้ลูกเข้าใจว่าตอนนี้เราอยู่ในสถานะอะไร เราเป็นแค่คนธรรมดาในอเมริกาที่ต้องทำงานหาเงินมาประทังชีวิตแค่ได้มีกินและอยู่ภายใต้สวัสดิการของรัฐ เรามีชีวิตได้แค่นี้เท่านั้น แม่เข้าใจว่าลูกจะต้องมีความรักในวันหนึ่ง ลูกจะต้องมีคร
หญิงสาวชาวไทยรับเอกสารเอาไว้ก่อนจะเดินไปอีกด้านเพื่อขึ้นลิฟท์ตามที่พนักงานประชาสัมพันธ์บอก มษยากุมสายสะพายกระเป๋าไว้แน่นและก้มลงมองซองเอกสารที่เธอกดมันไว้แนบอกกับความรู้สึกตื่นเต้นมากเกินบรรยาย แม้ตำแหน่งที่เธอได้เข้าทำงานที่นี่จะไม่ใหญ่โตอะไร เป็นเพียงพนักงานบัญชีเล็ก ๆ แต่การได้รับเลือกให้มาทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ก็ทำให้หญิงสาวทั้งภูมิใจและตื่นเต้นไม่ใช่น้อย หญิงสาวยิ้มกับตัวเองก่อนจะเงยหน้าและต้องหยุดชะงักพร้อมกับริมฝีปากอิ่มที่คลี่ออกเป็นรอยยิ้มคลายลงจนเป็นราบเรียบเมื่อสายตาคู่นั้นเลื่อนไปหยุดที่ด้านหน้าของลิฟท์และเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น มษยาหยุดนิ่งอยู่กับที่และจ้องมองร่างสูงใหญ่กว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรที่แม้ตอนนี้จะอยู่ในชุดสูทสีเทาควันบุหรี่คัตติ้งเนี๊ยบกริบซึ่งแตกต่างจากวันวานที่เธอเคยเห็น เขา หากทว่าแม้เพียงเสี้ยวหน้าอันคมคายหล่อเหลานั้นหญิงสาวก็ยังคงจดจำได้ดี “เคน...” เสียงเบาหวิวลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่มสั่นระริกพร้อมจังหวะหัวใจที่เต้นเร็วรัว และเมื่อเขาหันกลับมาหญิงสาวก็รีบหลบเข้าไปแอบที่ด้านหลังแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ มษยายืนช