ภายใต้ภาพฝันของชายหนุ่มผู้หล่อเหลา ร่ำรวยและแสนอบอุ่น เขาเคยทุ่มชีวิตให้ผู้หญิงคนหนึ่ง และเมื่อเธอจากไปโดยไม่ทิ้งอะไรไว้ให้ นอกจากบาดแผลที่รอวันเยียวยาด้วยความแค้นและเกลียดชัง และเมื่อเขาพบเธออีกครั้ง เขาทำให้เธอรักเขา และค่อย ๆ เฉือนหัวใจของเธออย่างเลือดเย็น
เธอไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากปลดปล่อยคนที่เธอรักให้เขาพบกับอนาคตอันสดใส ครั้งนั้นที่เธอตัดสินใจออกจากเส้นทางเดินของผู้ชายที่เธอรักเขามากกว่าชีวิต และเมื่อได้พบเขาอีกครั้ง เธอปรารถนาที่จะได้แก้ตัวโดยไม่รู้เลยว่า เขา กำลังใช้ความผูกพันที่ยังฝังลึกเป็นเสมือนโซ่สวาทพันธนาการเธอไว้เป็นทาสเสน่หาเพื่อฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็น
“เคนคะ...ยะหยาไปหาหมอมาค่ะ...เอ้อ...หมอบอกว่ายะหยาท้องได้เดือนกว่า ๆ แล้วค่ะ”
“คุณแน่ใจเหรอว่าเด็กในท้องของคุณ...เป็นลูกของผม ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะญาญ่า ที่ผมจำเป็นต้องบอกว่าคุณไม่สามารถเป็นอะไรได้มากไปกว่า...ผู้หญิงที่ผมแค่อยากนอนด้วยโดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ก็เท่านั้น!”
กริ๊ง!!!
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นภายในบ้านหลังเล็กตั้งอยู่ในรั้วไม้เขตชานเมืองลอสแองเจลิสใกล้ย่านที่พักเบล แอร์อันหรูหราทำให้มษยาต้องรีบรับสายด้วยความกระตือรือร้น
“สวัสดีค่ะ...เอรินเหรอ?”
หญิงสาวชาวไทยร่างบอบบางด้วยส่วนสูงหนึ่งร้อยหกสิบเซ็นติเมตรและใบหน้ารูปไข่กอรปด้วยเครื่องหน้าจิ้มลิ้มทั้งดวงตาเป็นประกายใสดุจแก้วเจียระนัย จมูกโด่งเล็กรั้นและเรียวปากอิ่มฉ่ำด้วย
ลิปกลอสสีชมพูแวววาวใต้กรอบเรือนผมยาวสีน้ำตาลมะฮอกกะนีกล่าวทักทายและได้ยินเสียงอีกฝั่งดังมาว่า
“ยะหยา...ที่บอกเอวันก่อนว่ากำลังหางานอยู่น่ะ ตอนนี้ได้งานทำที่ไหนหรือยัง?”
“อ้อ...ได้แล้วจ้ะ”
“ว้าว! เร็วจัง นี่เอนึกว่ายะหยายังไม่ได้งานเลยนะ”
“เขาพึ่งตอบรับมาเมื่อวานนี้เอง นี่ไง...วันนี้ยะหยาเตรียมเอกสารจะไปรายงานตัวที่บริษัทนะ”
“บริษัทอะไรน่ะยะหยา บอกเอได้มั้ย”
“ถ้าเอรู้แล้วต้องเซอร์ไพรซ์แน่ เพราะยะหยาก็ไม่คิดเลยว่าจะได้งานที่นี่ เป็นบริษัทใหญ่ที่ยะหยาไปทิ้งใบสมัครไว้เมื่อเดือนที่แล้ว”
“บริษัทอะไรน๊าที่เอต้องเซอร์ไพรซ์”
“นอร์ธเทิร์นซี อิงค์”
เสียงอีกฝั่งเงียบไปครู่ใหญ่ นานจนมษยาต้องถามกลับไปว่า
“แล้วเอล่ะ ตอนนี้เอได้รับงานตกแต่งภายในที่ไหนจ๊ะมัณฑนากรสาวคนเก่ง”
“ไม่อยากจะบอกเลยว่า เอก็...ได้งานตกแต่งภายในส่วนต่อเติมของนอร์ธเทิร์นซีเหมือนกัน”
“ว้าว!...เยี่ยมเลย ถ้าอย่างนั้นเราก็ได้ทำงานอยู่ใกล้กันสินะ”
“แล้วยะหยาสมัครตำแหน่งอะไรเหรอจ๊ะ”
“ก็...เป็นพนักงานบัญชี...เงินเดือนก็พออยู่ได้ จะได้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ เป็นค่าอาหาร ค่าประกันสุขภาพ แล้วก็...จะได้ให้แม่”
รอยยิ้มจาง ๆ จุดขึ้นบนริมฝีปากเคลือบกลอสสีชมพูวาววามยามพูดถึงบุพการีซึ่งเธอมีเหลือเพียงแค่คนเดียวและเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงตอนนี้ที่เธอเรียนจบมากว่าปีก่อนจะได้รับหนังสือเรียกไปทำงานในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง สักครู่จึงมีเสียงดังมาว่า
“วันนี้ยะหยา...จะไปรายงานตัว...อย่างนั้นเหรอ?”
“จ้ะ...นี่ยังตื่นเต้นไม่หายเลยนะ...อืม...แล้วเอรู้จักกับเจ้าของบริษัทหรือเปล่า เคยเจอเขาบ้างมั้ย เขาจะเป็นคนยังไงก็ไม่รู้”
“เอ้อ...เอก็...ยังไม่ได้เจอประธานบริษัทนี้เลยนะ ยังไม่ได้คุยอะไรเป็นงานเป็นการเลย”
“เหรอ...ไม่เป็นไรหรอก ถ้ายังไงจะโทรไปบอกเอนะว่าที่ทำงานเป็นยังไงบ้าง แต่ยะหยาคิดว่าคงไม่ได้เจอเจ้าของบริษัทหรอกเพราะตำแห่งที่ไปทำก็แค่พนักงานเล็ก ๆ เท่านั้นเอง แค่นี้ก่อนนะ แล้วเจอกันจ้ะ..บาย”
มษยาวางหูโทรศัพท์ก่อนจะระบายลมหายใจด้วยความตื่นเต้นกับงานใหม่ซึ่งเธอพึ่งได้รับคำตอบรับเข้าทำงานในบริษัทผลิตเครื่องยนต์และอู่ต่อเรือยักษ์ใหญ่อย่างนอร์ธเทิร์นซี อิงค์เมื่อวานนี้ และความตื่นเต้นนั้นก็ทำให้หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะกลับเข้าไปในห้องของเธอขณะที่บ้านทั้งหลังยังเงียบเชียบ ร่างบอบบางก้าวไปหยุดที่โต๊ะอ่านหนังสือไม้เก่า ๆ ภายในห้องนั้นและไขกุญแจเปิดลิ้นชักชั้นล่างสุดเพื่อที่จะหยิบอะไรบางอย่างออกมา มันเป็นตุ๊กตาบลายธ์แสนน่ารักพร้อมด้วยภาพเก่าของใครคนหนึ่งซึ่งใช่แต่ภาพใบหน้าคร้ามคมแม้อายุเจ้าของภาพยังไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำที่มษยาจับจ้องแต่มันยังประทับลงในความทรงจำของหญิงสาวมานานตลอดระยะเวลาหลายปี เธอยังมองเห็น เขา คนนั้น ใบหน้าของหนุ่มอเมริกันเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มขลับ นัยน์ตาสีฟ้าชวนฝัน จมูกโด่งยาวและริมฝีปากหยักหนาที่เสมือนมีรอยยิ้มเล็ก ๆ นั่น เธอยังคิดถึงไม่เคยเลือนลืม
เคน คลีฟตัน...
ภาพของชายหนุ่มผู้นั้นที่ฉายวาบขึ้นในความคิดของหญิงสาวราวกับเปลวเทียนส่องแสงรังรองไม่รู้จักดับ ทุกเสียงของเขา อิริยาบถเหล่านั้น รอยยิ้มที่ตราตรึงซึ่งทุกเหตุการณ์ผ่านไปนานหลายปีทว่าเธอก็ยังคงเก็บทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามอบมันไว้อย่างดีที่สุด ถึงตอนนี้เขาอาจมีชีวิตที่รุ่งโรจน์สมกับการเป็นลูกมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจอู่ต่อเรือมูลค่าหลายหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เขาอาจสืบทอดกิจการของบิดามารดาเป็นนักธุรกิจเลื่องชื่อแม้ว่าเธอจะพยายามมองหาตัวตนของเคนจากสื่อโซเชียลหากก็น่าประหลาดใจที่กลับไม่พบเขาจากที่ใด ๆ ในโครงข่ายที่โยงใยทั่วโลก เธอยังคิดถึงเขาเสมอแม้นั่นจะเป็นเพียงภาพฝันลางเรือนซึ่งเธอเคยสัมผัสความเป็นจริงมาแล้วครั้งหนึ่งและมันจะประทับในหัวใจของเธอไปชั่วชีวิต
“ยะหยา”
เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้มษยาสะดุ้งตื่นจากภวังค์และเผลอทำของหลุดจากมือ หญิงสาวหันกลับไปก็พบว่าใครคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาหา เธอรีบก้มลงเก็บของที่ร่วงหล่นลงพื้นแต่ก็ไม่ทันเก็บมันกลับเข้าไปในลิ้นชักก็ต้องชะงักเมื่อคนที่เข้ามาขัดจังหวะความคิดก้าวมาหยุดตรงหน้า
“แม่...”
“ไหนว่าจะเริ่มทำงานวันนี้ไง ทำไมยังไม่แต่งตัวอีกล่ะ...แล้วนี่...”
ทิพย์ธารา หญิงวัยสี่สิบแปดเจ้าของใบหน้ารูปไข่ฉาบเมคอัพบางเบาใต้กรอบเรือนผมสีน้ำตาลซีดหมองเหลือบมองสิ่งที่อยู่ในมือของมษยา ใบหน้านั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนดึงตุ๊กตาตัวเล็กและรูปถ่ายจากมือของบุตรสาวเพียงคนเดียวไปเพ่งพิจารณา
“เอ้อ...แม่คะ...หนูกำลังจะเก็บไว้แล้วล่ะค่ะ...เอ้อ...” น้ำเสียงหวานปนแหบเมื่อเงยหน้าขึ้น“ถึงป่านนี้แล้วลูกยังไม่ลืมเขาอีกหรือ ยะหยา”คำถามของมารดาทำให้มษยาที่พูดอึกอักชะงักกึก เธอมองสิ่งที่มารดาเอาไปจากมือตัวเองพลางยิ้มจาง ๆ“หนูแค่เอาของที่เขาเคยให้ออกมาดูก็เท่านั้นล่ะค่ะ”“ลืมเขาได้แล้วล่ะ” ทิพย์ธารากล่าวพลางวางของสองสิ่งนั้นลงบนโต๊ะด้านบนลิ้นชักที่ชั้นล่างถูกเปิดค้างไว้ “ป่านนี้เขาคงเป็นเจ้าของกิจการและมีครอบครัวไปแล้ว ผู้ชายรวย ๆ ไม่เคยคอยใคร คนมีเงินเลือกที่จะทำอะไรก็ได้โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง”“หนูทราบค่ะ”เสียงตอบนั้นเบาหวิว มษยาพยายามเก็บกลั้นน้ำริ้นที่เริ่มซึมออกมารอบ ๆ ขอบตาเอาไว้ หลายครั้งที่นึกถึงแล้วเจ็บปวดหากหญิงสาวก็ต้องเก็บมันไว้แต่เพียงผู้เดียว“ยะหยา...”หญิงวัยเกือบห้าสิบขานเรียกบุตรสาวเบา ๆ พลางเกลี่ยผมปอยผมที่เรี่ยลงมาบนใบหน้าสวยหวานของมษยา“แม่อยากให้ลูกเข้าใจว่าตอนนี้เราอยู่ในสถานะอะไร เราเป็นแค่คนธรรมดาในอเมริกาที่ต้องทำงานหาเงินมาประทังชีวิตแค่ได้มีกินและอยู่ภายใต้สวัสดิการของรัฐ เรามีชีวิตได้แค่นี้เท่านั้น แม่เข้าใจว่าลูกจะต้องมีความรักในวันหนึ่ง ลูกจะต้องมีคร
หญิงสาวชาวไทยรับเอกสารเอาไว้ก่อนจะเดินไปอีกด้านเพื่อขึ้นลิฟท์ตามที่พนักงานประชาสัมพันธ์บอก มษยากุมสายสะพายกระเป๋าไว้แน่นและก้มลงมองซองเอกสารที่เธอกดมันไว้แนบอกกับความรู้สึกตื่นเต้นมากเกินบรรยาย แม้ตำแหน่งที่เธอได้เข้าทำงานที่นี่จะไม่ใหญ่โตอะไร เป็นเพียงพนักงานบัญชีเล็ก ๆ แต่การได้รับเลือกให้มาทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ก็ทำให้หญิงสาวทั้งภูมิใจและตื่นเต้นไม่ใช่น้อย หญิงสาวยิ้มกับตัวเองก่อนจะเงยหน้าและต้องหยุดชะงักพร้อมกับริมฝีปากอิ่มที่คลี่ออกเป็นรอยยิ้มคลายลงจนเป็นราบเรียบเมื่อสายตาคู่นั้นเลื่อนไปหยุดที่ด้านหน้าของลิฟท์และเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น มษยาหยุดนิ่งอยู่กับที่และจ้องมองร่างสูงใหญ่กว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรที่แม้ตอนนี้จะอยู่ในชุดสูทสีเทาควันบุหรี่คัตติ้งเนี๊ยบกริบซึ่งแตกต่างจากวันวานที่เธอเคยเห็น เขา หากทว่าแม้เพียงเสี้ยวหน้าอันคมคายหล่อเหลานั้นหญิงสาวก็ยังคงจดจำได้ดี “เคน...” เสียงเบาหวิวลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่มสั่นระริกพร้อมจังหวะหัวใจที่เต้นเร็วรัว และเมื่อเขาหันกลับมาหญิงสาวก็รีบหลบเข้าไปแอบที่ด้านหลังแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ มษยายืนช
“พบเป็นการส่วนตัว...บอสหมายถึงพนักงานใหม่ที่เป็นผู้หญิงเอเชียตัวเล็กเมื่อกี๊นี้นะเหรอคะ”“อืม...ใช่...ฉันดูจากโปรไฟล์ส่วนตัวของเธอก็ไม่เห็นมีอะไรเป็นพิเศษแถมยังเป็นตำแหน่งเล็ก ๆ ถ้าเป็นระดับผู้บริหารก็ว่าไปอย่าง ที่สำคัญท่านประธานก็พึ่งกลับมาจากการประชุมที่สวีเดนและพึ่งเข้ามาสำนักงานใหญ่วันนี้ ฉันแค่แปลกใจว่าเธอมีอะไรพิเศษถึงได้ทำให้ท่านประธานอยากพบ”“บอสก็รู้นะคะว่าท่านประธานน่ะเป็นคนที่ทำอะไรค่อนข้างจะเดายากสักหน่อย ท่านอาจอยากเปลี่ยนแปลงนโยบายบางอย่างในที่ทำงานก็ได้นะคะ”“ฉันจะคิดในแง่บวกเหมือนเธอนะลิลลี่”ผู้ช่วยสาวยิ้มให้โดโรธีซึ่งยังนั่งจ้องมองเอกสารบนโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิดแม้จะยังรู้สึกตงิด ๆ กับสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในที่ทำงานก็ตาม“เชิญด้านในเลยนะคะ มิสดารินทรา”พนักงานสาวสวยของบริษัทหันมาเอ่ยกับมษยาเมื่อพาหญิงสาวชาวไทยซึ่งมีฐานะเป็นพนักงานใหม่มาหยุดที่หน้าบานประตูห้องหนึ่งบนชั้นที่หกสิบของตึกนอร์ธเทิร์นซี งหญิงสาวชาวไทยยิ้มให้อย่างประหม่าก่อนผลักประตูห้องเข้าไปเบา ๆ และก้าวเข้าไปภายในห้องทำงานขนาดใหญ่ที่เธอถึงกับตกตะลึงในความโอ่โถงและอลังการของการตกแต่งสมกับเป็นห้องของท่านป
เขาไม่เคยลืมเลือนว่าเคยมีความสัมพันธ์งดงามกับหญิงสาววัยสิบแปดคนหนึ่งที่ฐานะแตกต่างจากเขาแม้มากเพียงใดหากก็ไม่ใช่อุปสรรคขวางกั้นความตั้งใจจริงที่เขาจะ รัก เธอได้ กระทั่งถึงวันที่เขาต้องเดินทางไปเรียนต่อแดนไกล เคนรู้สึกได้ถึงความห่างเหินระหว่างกันแม้เขาพยายามที่จะสานความสัมพันธ์นั้นไว้ให้ยืนยาวมากที่สุด เรียกได้ว่านั่นเป็นรักครั้งแรกและฝังใจสำหรับเขา เป็นความทรงจำปวดร้าวของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกคนรักหักหลังอย่างเลือดเย็น“คุณไปเรียนต่อเถอะนะคะเคน และคงไม่ต้องติดต่อกลับมาหาลูกสาวของฉันอีกแล้ว”“ทำไมล่ะครับ ผมแค่อยากพบญาญ่าอีกสักครั้ง”“เธอไม่อยากพบคุณอีกแล้วล่ะค่ะ เพราะมันอาจไม่เหมาะสม”“มีอะไรที่ไม่เหมาะสมอย่างนั้นหรือครับ ในเมื่อก่อนหน้านี้เราก็คบกันแล้ว”“ฟังนะคะ คุณเคน คลีฟตัน...ฉันอยากจะบอกคุณว่ายะหยาเขาคบกับคุณไม่ได้ เพราะเขากำลังจะหมั้นกับคนที่จะเลี้ยงดูเขาได้ ผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ใหญ่และมีเงินมากพอจะเลี้ยงดูให้ลูกสาวฉันสบาย”“ผู้ใหญ่เหรอครับ เขาเป็นใคร?”“ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องมารับรู้หรอกนะคะ เพราะอีกไม่กี่วันเขาก็จะมาหมั้นกับลูกสาวฉันแล้ว กลับไปซะเถอะนะคะ ฉันได้ยินว่าคุณกำลังจะไปเรีย