“ทำไมต้องรอให้ใครอนุญาตด้วยเหรอคะ ในเมื่อคุณบอกว่าคุณจะมานอนห้องของคุณ นั่นก็เท่ากับว่าเป็นฉันเองที่ไปแย่งห้องนอนของคุณฉันก็เลยเลือกที่จะมานอนกับลูกดีกว่า เพราะบ้านหลังนี้ก็มีเพียงแค่ 2 ห้องนอนเท่านั้น” เธอกล่าวอย่างไร้เดียงสาเหมือนไม่รู้ว่าชายหนุ่มหมายความว่ายังไง“ฉันคิดว่าฉันบอกเธอดีแล้วนะชนิดาภา ว่าหน้าที่ของเธอคืออะไร”“คุณบอกแล้วค่ะ ว่าฉันเป็นเลขาส่วนตัวของคุณ”“นี่เธอ ก็ได้ สรุปแล้วเธอจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แบบนี้ใช่ไหม ได้งั้นเราก็มาเล่นหนังสดให้ลูกชายของเธอดูในห้องนี้ด้วยก็แล้วกัน”“อะไรนะคะ อย่านะคุณ อือ… อื้ม อือ”ร่างสูงไม่สนใจคำพูดเล่นแง่ของร่างเล็กอีกต่อไป เพราะตอนนี้เขาอยากจะสั่งสอนริมฝีปากจิ้มลิ้มที่น่าจูบนี้เหลือเกิน ร่างบางถูกรวบมากอดแน่นร่างสูงดันร่างเล็กติดผนังขอบประตู ก่อนที่ร่างสูงจะก้มจูบลงมาอย่างหิวโหยลงทัณฑ์ดุเดือดนิคที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำถึงกับอึ้งตะลึงตาโตตกใจอีกครั้ง ก่อนที่จะถลามาทุบที่สะโพกหนาของร่างสูงอย่างเอาเป็นเอาตาย“ปล่อยหม่ามี้ของผมเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยหม่ามี๊ นี่แนะ นี่แนะ ถ้าไม่ปล่อยนิคจะทุบให้ตายเลย”“ไอ้เด็กเหลือขอ นี่ครั้งที่สองแล้วนะ ที่เธอกล
“ทำไมต้องหึงด้วยคะ คนแบบคุณฉันไม่เห็นต้องหึงหวงสักนิด ใครอยากได้ก็เชิญ” เธอกล่าวอย่างไม่แยแส“งั้นเหรอ แต่เท่าที่ฉันจำได้ เรื่องน่าอับอายพวกนี้ ทำให้เธอร้องครวญครางเรียกร้องให้ฉันเข้าหาในตัวเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับผู้หญิงร่านสวาท ไม่รู้จักเพียงพอด้วยซ้ำหรือเธอจะเถียงว่าไม่จริง”“นี่คุณ ถ้าคุณจะเรียกฉันมาด่าดูถูกแบบนี้ ฉันขอตัวนะคะ ออ และที่ฉันเป็นแบบนั้นเพราะคุณมันเลว ขอตัว” ดวงหน้าเล็กแดงก่ำด้วยความอายปนโกรธราเชนทร์ เตรียมหันหลังที่จะเดินออกไปจากห้องนี้ “ฉันไม่อนุญาต เธอก็ออกจากห้องนี้ไม่ได้ มานี่ ฉันจะตอกย้ำหน้าที่ของเธอให้เธอเอง” ร่างสูงก้าวพราวดเดียวลงจากเตียงไปกระชากร่างเล็กช้อนอุ้มไปโยนลงที่เตียงอย่างไร้ซึ่งความอ่อนโยน คนตัวโตถาโถมเข้ามากอดจูบดึงทึ้งชุดนอนของเธอจนขาดไม่เหลือสภาพ สร้างรอยบาดตามเนื้อตัวของหญิงสาวเป็นรอยแดง“อย่านะคะนายหัว ฉันไม่ใช่โสเภณี หรือผู้หญิงที่คุณไปเที่ยวหาความสุขแบบนั้น ฮือ ฮือ ฮือ” เสียงสะอึกสะอื้นที่กล่าวอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้สติของนายหัวจะไปอยู่ที่ดอกบัวตูมแสนสวยอวบอึ๋มแทบล้นมือ”“หยุดพูด เพราะฉันจะพูดแต่ภาษากายกับเธอ ฉันไม่อย
ร่างบางถูกจับนอนคว่ำ มือหนารั้งสะโพกมนตั้งขึ้น สอดเข้ากระแทรกรัว ทุกมุมของห้องกลายเป็นสนามศึกพิศวาสที่เดือดดาล จนหญิงสาวแทบหมดแรงไม่รู้เขาไปเอาแรงที่ไหนมามากขนาดนี้ โชคดีที่ห้องนี้ถูกสร้างเป็นห้องเก็บเสียงหญิงสาวถูกร่างสูงปลุกให้ลุกขึ้นแต่เช้า ให้มาทำอาหารให้กับตัวของเขาทาน"ต้มไข่ให้ฉันหลาย ๆ ฟองหน่อย เธอก็รู้นี่ ว่าฉันใช้พลังกับเธอไปตั้งเยอะ""คุณจะพูดขึ้นมาทำไมคะ เพียงแค่นี้ฉันก็จะแย่แล้ว"หญิงสาวมือสั่นเทาดวงหน้าหวานน้อยใจน้ำตาเอ่อคลอ จนแทบอยากจะตายวันละหลายสิบครั้งหากไม่ใช่ว่ายังเหลือนิคบุตรชายเพียงคนเดียวของเธอ ป่านนี้เธอคงตามไปอยู่กับบิดาและแม่ของเธอแล้ว"รีบทำแล้วมานั่งทานด้วยกัน เพราะวันนี้เธอกับฉันเราสองคนต้องออกไปคุยงานในเมืองภูเก็ตด้วย เพราะแบบนี้ฉันถึงต้องปลุกเธอให้ลุกขึ้นแต่เช้า""แต่นี่ฉันเพิ่งได้พักผ่อน แค่สอง ชั่วโมงเองนะคะ""ทำไม แค่นี้เธอต้องเดือดร้อนด้วยงั้นเหรอ เมื่อคืนไม่เห็นเธอประท้วงอะไรเลยนี่ ได้แต่ร้องครวญคราง ไม่ว่าท่าไหน เธอก็โอเคทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ""นี่คุณ หึ นายหัวคะ คุณไม่ควรกล่าวเรื่องแบบนี้ออกมานะคะ เกิดนิคออกมาได้ยินเข้า แกจะรู้สึกยังไงและมองฉันยังไง
ทั้งสามนั่งทานข้าวด้วยกันกว่าที่จะจบลงก็หนึ่งทุ่มแล้ว ชนิดาภานั่งมองนาฬิกาข้อมือนับครั้งไม่ถ้วนด้วยความกระวนกระวายใจเป็นห่วงนิคว่าป่านนี้จะหิวข้าว มากแค่ไหน จะอยู่คนเดียวในบ้านพักได้หรือเปล่าถึงแม้รอบข้างบ้านจะเต็มไปด้วยชาวบ้านเหล่าคนงานที่ไม่น่ากลัวอะไร แต่เธอก็อดห่วงลูกน้อยไม่ได้"ทำไม นั่งมองดูนาฬิกาครั้งที่ร้อยได้แล้วมั้ง เป็นห่วงนิคมากนักเหรอ เธอไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก เพราะฉันสั่งให้ป้าแหววภรรยานายเอกมาอยู่เป็นเพื่อนของนิคแล้ว คืนนี้เราจะพักค้างคืนที่นี่กัน”“อะไรนะคะ”“เธอหูตึงหรือไงฮะ หย่ากันแค่ 6 ปี เธอถึงกับฟังคำพูดของฉันไม่รู้เรื่องขนาดนี้เชียวเหรอชนิดาภา” “แต่ฉันเป็นห่วงนิคนี่คะ”“ก็ฉันบอกแล้วไง ว่าป้าแววจะดูแลนิคเอง ไปเถอะ ฉันอยากหาความสุขกับเธอแล้ว” ราเชนทร์กล่าวออกมาอย่างไม่แยแส กับความกังวลบนใบหน้าสวยหวานเลยสักนิด มือหนาจับข้อแขนบางฉุดกระชากดึงเข้ามาโอบเอวบาง พาเดินไปเข้าลิฟท์อย่างหน้าตาเฉย“อย่าทำหน้าเหมือนเธอไม่เคยมานอนค้างคืนที่นี่กับฉัน เราก็แค่มานึกย้อนเรื่องราวในอดีต เปลี่ยนบรรยากาศบ้างแค่นั้นเอง เผื่อวันข้างหน้า ถ้าเธอต้องไปจากฉันอีก เธอจะได้เก็บเอาไปเป็นที่ระล
สองเดือนกว่าแล้วที่เธอและนิคมาอยู่ที่นี่ เธอต้องจำทนในสถานะ เลขาส่วนตัวในเวลากลางวัน พร้อมกับตำแหน่งนางบำเรอประจำตัวของนายหัวราเชนทร์อย่างลับ ๆ ชายหนุ่มจะดีกับเธอก็เพียงแค่ตอนที่เขาเรียกร้องเอากับเธอเท่านั้นในยามอื่นเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความเกลียดชิงชังในตัวเธอ เป็นอาทิตย์แล้วที่นายหัวราเชนทร์ไม่มายุ่งกับเธอในเรื่องอย่างว่า ราวกับจะทำให้เธอรู้ว่าเขาเบื่อเธอแล้วความน้อยใจนึกไร้ค่าในตัวเองถาโถมใส่หัวใจดวงเล็ก จนเธอแอบร้องไห้แทบทุกคืนเมื่อนิคหลับไป ชนิดาภาเห็นมั้ยเพราะรักมากเธอถึงเจ็บมากแบบนี้ ตัดใจซะทีพี่ราเชนทร์ลืมเธอไปแล้ว เธอร้องไห้กล่าวเตือนตัวเองในใจเขากับคุณณิชาดูเหมือนว่ากำลังดูใจกัน หลายครั้งแล้วที่ชนิดาภาถูกนายหัวเชนทร์บังคับให้เธอต้องทนดูพวกเขาจีบกันอย่างกันหวานชื่น ในขณะที่เธอได้แต่อกตรมร้องไห้ในใจเงียบ ๆ อยู่เพียงคนเดียว เช่นเดียวกับวันนี้“พี่ราเชนทร์คะ ดอกไม้ที่พี่ซื้อให้ณิ สวยมากเลยค่ะ ช่อก็โต๊โต ณิชอบมากเลยนะคะ” เธอกล่าวอย่างเอาใจมีจริตเสียงหวาน “พี่ดีใจนะที่น้องณิชอบ” ดวงตาชายหนุ่มหวานเชื่อมใส่หญิงสาวสวยเซ็กซี่ตรงหน้าอย่างไม่แคร์ชนิดาภา ทั้งคู่นั่งเบียดชิดอิงแอบ แม้
เธอยิ้มกว้างให้บุตรชายตัวน้อยได้เห็น เพื่อปกปิดความกังวลเอาไว้ในใจเงียบ ๆ“ทานข้าวอร่อยกันจังเลยนะ ไม่คิดจะทำเผื่อเจ้าของบ้านบ้างหรือไง” คำกล่าวทักทายในยามเย็นด้วยน้ำเสียงดุไม่ค่อยพอใจ ทำให้สองแม่ลูกถึงกับสะดุ้งนั่งนิ่งยกช้อนค้าง ค่อย ๆ หันมามองบุคคลที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้องครัว“นายหัวราเชนทร์ คือฉันไม่รู้ ว่าคุณอยากจะมาทานข้าวด้วย เพราะตั้งแต่ฉันกับนิคเข้ามาอยู่ที่นี่ คุณก็ไม่ค่อยจะมาทานสักเท่าไหร่” หนุ่มน้อยได้แต่นั่งนิ่งฟังมารดากล่าวกับนายหัวราเชนทร์“หม่ามี๊ฮะ นิคอิ่มแล้ว นิคขอกลับไปที่ห้องก่อนนะฮะ” ดวงหน้าเล็กเคร่งขรึมลงจากเก้าอี้นั่งเดินผ่านร่างสูงทางประตูห้องครัวออกไปอย่างเฉยเมย ตั้งแต่ที่ได้เจอกันครั้งแรกกับนายหัวราเชนทร์ สิ่งที่นายหัวราเชนทร์กระทำกับเขายังจำฝังใจ จนนิคไม่อยากจะเผชิญหน้ากับนายหัวราเชนทร์เลยสักนิด ทั้งที่จานอาหารของนิคเพิ่งถูกทานไปไม่กี่คำเท่านั้นเองร่างสูงเดินไปหยิบช้อนส้อมมานั่งลงข้าง ๆ ของชนิดาภา ตักข้าวจานเดียวกับชนิดาภามากินอย่างหน้าตาเฉย จนหญิงสาวถึงกับทำตัวไม่ถูก หน้าแดงระเรื่อ“เออ ถ้าคุณอยากจะทาน เดี๋ยวฉันทำให้ใหม่แล้วกันนะคะ เพราะนี่เป็นจานที่ฉัน
หญิงสาวรีบเดินไปที่ห้องนอนเก็บข้าวของของตัวเองเข้ากระเป๋าอย่างไม่ต้องรอให้ถึงวันพรุ่งนี้ด้วยหัวใจที่ร้าวรานเจ็บปวดเกินต้านทาน เธอเก็บข้าวของไปพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสารเวทนาตัวเองชายหนุ่มไม่คิดจะแยแสกับอาการท่าทางของเธอเลยสักนิด แต่เขากลับคิดว่าแผนของเขากำลังสำเร็จด้วยซ้ำ เธอต้องเจ็บให้มากกว่านี้ชนิดาภา วันไหนที่เธอออกไปจากที่นี่แล้ว เธอจะได้ไม่ย้อนกลับมาอีก ฉันจะทำให้เธอจำฝังใจ ไปแล้วไปลับ ฉันเกลียดเธอ ชายหนุ่มคิดในขณะที่เธอหายเข้าไปในห้องนอน หนึ่งอาทิตย์ต่อมา ณิชากับเพื่อนสาวของเธอพร้อมกับแฟนหนุ่ม เดินทางมาเที่ยวที่เกาะแก้วมายา เข้าพักในบ้านพักของนายหัวราเชนทร์ ด้านหน้าของบ้านพักถูกจัดเป็นลานงานเลี้ยงส่วนตัวเล็ก ๆ มีเตาปิ้ง บาร์บีคิวอาหารทะเลมากมายพร้อมเครื่องดื่มมึนเมา เสียงกีต้าร์กับกองไฟที่ถูกสร้างขึ้นที่ริมชายหาด เรียกบรรยากาศอันแสนโรแมนติกให้กับชาวบ้านและผู้คนที่เห็น ต่างมองภาพนั้นกันอย่างเพลิดเพลินเช่นเดียวกับเด็กน้อย ที่ยืนอยู่หน้าบ้านของตัวเองมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ซึมเศร้าเหงาหงอย เสียงกีตาร์เสียงร้องเพลงที่ดังมาเบา ๆ คลอเคลียร์กับเสียงหัวเราะอย่างมีคว
"เด็กนั่นจะนอนก็นอนไป เพราะหน้าที่ของเธอยังไม่เสร็จ""แต่ฉันคงทิ้งนิคให้อยู่ที่นี่เพียงลำพังคนเดียวไม่ได้หรอกค่ะ ต่อให้บ้านคนอื่นอยู่ไม่ไกลจากบ้านนี้สักเท่าไหร่ก็ตาม""งั้นเธอ ก็พาเด็กนั่นไปร่วมวงด้วยก็แล้วกัน เพราะพวกเพื่อนของณิชา พวกเขาก็รู้จักเธอดีอยู่แล้วนี่ รีบ ๆ ด้วยล่ะ อย่าให้ฉันต้องรอนาน""ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันกับนิคจะตามไปค่ะ" หญิงสาวรีบไปบอกบุตรชายตัวน้อย ทั้งที่ในใจกำลังนึกหวาดระแวงสองจิตสองใจ ไม่รู้เธอจะโดนกลั่นแกล้งหาเรื่องจากณิชาและเพื่อนหรือเปล่า ถึงแม้เธอจะยังไม่เห็นหน้าเพื่อน ๆ ของคุณณิชาก็ตาม"ว่าไงนะฮะหม่ามี๊ จะให้เราสองคนไปร่วมวงปาร์ตี้ด้วยงั้นเหรอฮะ นิคไม่อยากไปเลยฮะ""หม่ามี้เข้าใจจ้า แต่เราคงจำเป็นต้องไป เพราะนี่เป็นคำสั่งของนายหัว แต่ถ้านิคไม่อยากไป หม่ามี๊ก็ไม่อยากบังคับ แต่ถ้าจะให้หม่ามี๊ปล่อยให้นิคอยู่ในบ้านเพียงลำพังคนเดียว หม่ามี้ก็เป็นห่วง อย่างน้อย ๆ นิคก็ไปนั่งไกล ๆ ห่าง ๆ หน่อย พยายามอย่ายุ่งกับพวกเขา รอให้หม่ามี๊ทำงานของตนเองเรียบร้อยแล้ว เราค่อยกลับมานอนกัน""ทำงาน หมายความว่าไงฮะนี่มันตั้ง 2 ทุ่มแล้วนะฮะ ในหัวจะให้หม่ามี๊ไปเป็นพนักงานเสิร์ฟ ให้กับพวกเข
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า แหม... นายหัวนี่ตลกนะคะ” ป้าแม่บ้านหัวเราะทั้งน้ำตาเช่นเดียวกับคุณกรกนกด้านหน้าโรงพยาบาลสามแม่ลูกพึ่งลงจากรถโดยสารสีหน้าเศร้าสร้อยไร้ซึ่งความสุข ดวงตาของชนิดาภากับนิคยังบวมเบ่งแดงก่ำ“หม่ามี้คุณย่าจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ” นิคเงยหน้าถามในขณะที่กำลังอยู่ในลิฟท์กับมารดา“แน่นอน พวกเราคือกำลังใจของท่าน ต่อไปเราจะไม่กลับไปที่เชียงรายอีก หม่ามี้ตัดสินใจแล้วที่จะขายที่นั่น เราจะอยู่ที่เกาะแก้วมายาเป็นเพื่อนและดูแลคุณย่าของหนู”“เย้ ดีจังเลยครับ ถ้าคุณย่ารู้ต้องดีใจมากแน่”รอยยิ้มดีใจของนิคที่เธอพึ่งได้เห็นเป็นครั้งแรก ตั้งแต่นิคได้รู้ข่าวของบิดา เขาเศร้าตลอด จนเธอนึกเสียใจที่ตนเองมีส่วนทำลายความสุขของลูกด้วย เธอเองก็เสียใจและเจ็บปวดไม่แพ้นิคกับคนอื่นก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังก่อนเปิดเข้ามา ชนิดาภากับนิคยืนนิ่งราวกับช็อค น้ำตาทั้งสองไหลพล่านจนตัวโยน ความฐิติในใจหญิงสาวหายหมดสิ้น ขอเพียงเขายังมีชีวิตอยู่“แด๊ดยังไม่ตาย หม่ามี้แด๊ดยังไม่ตาย ไชโย” นิควิ่งเข้ากอดบิดาแน่นเช่นเดียวกับราเชนทร์ ที่อ้าแขนรอรับ“แด แด กอด นันนี่ ด้วย”เสียงใสที่ยังพูดไม่ชัดเท่าไหร่นัก กับสองแขนท
“เอ่อ... คือ... เท่าที่ผมรู้ นายหัวประสบอุบัติเหตุขากลับจากเชียงรายจนรถไหม้ทั้งคัน เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว หลังจากมาพบคุณ”“หมายความว่า... ฮือ ฮือ เขา... เขา... ““ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีมีงานต้องไปจัดการต่อ หากเป็นไปได้รบกวนคุณแอมนำเอกสารของตัวเองและเด็กไปให้ผมด้วยนะครับ ผมจะได้ติดต่อทำเรื่องตามพินัยกรรมให้เสร็จ”“ขอบคุณค่ะที่คุณทนายอุตส่าห์เสียเวลามาที่นี่ตั้งไกล”“มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ เอ่อ... ไม่ทราบว่าคุณแอมทราบหรือเปล่าครับ ว่าคุณกรกนกตอนนี้ก็กำลังอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะตรอมใจที่เสียคุณราเชนทร์ ตอนนี้กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”“พรุ่งนี้เราทั้งสามจะไปที่นั่นค่ะ ขอบคุณนะคะ พวกเราไม่เคยรู้มาก่อน อาจเป็นเพราะไม่มีใครรู้ว่าจะติดต่อพวกเราที่ไหน”ทนายความกลับไปแล้ว น้ำตาของเธอยังคงหลั่งไหลเช่นเดิม เป็นเพราะคำพูดของเธอ เขาถึงได้จากไปแบบนี้ชนิดาภานึกโทษตัวเอง ความเจ็บปวดในใจกับการสูญเสียจนนึกอยากตายตามเขาไป หากเธอไม่มีลูกให้ต้องดูแล เธอคงเลือกตามคนรักไปแล้ว เธอไม่คิดว่าเขาจะยกเงินในบัญชีมากมายให้กับเธอ นี่เขารักเธอจริงงั้นเหรอ เธอไม่น่าปฏิเสธเขาเลย “ฮือ ฮือ แอมม
“ปล่อยค่ะ ฉันมีคนรักแล้ว เกิดเขามาเห็นเข้าจะเข้าใจผิดได้นะคะ ฉันหมดรักคุณแล้ว ปล่อยเถอะค่ะ เราเป็นแค่พ่อและแม่ของนิคกับฮันนี่เท่านั้น”อ้อมแขนแกร่งหมดเรี่ยวแรงปล่อยเธอเป็นอิสระ ร่างสูงในตอนนี้เสมือนร่างไร้วิญญาณ มองดูเธออย่างรักหมดใจ น้ำตาที่หญิงสาวไม่เคยเห็นหลั่งลงมาอย่างไม่อาย “ขอบคุณที่เคยรักและจริงใจกับพี่เสมอมา พี่ไม่ดีเอง พี่มันเลว ไม่สมควรจะได้ความรักตอบจากแอมมี่หรอก ตอนนี้พี่รู้ตัวเองแล้ว ว่าพี่มันเลว ต่อให้แก้ไขตัวเองให้ดีในตอนนี้คงไม่มีความหมายสำหรับแอมมี่แล้ว ขอให้ผู้ชายคนนั้นรักแอมมี่ให้มาก ๆ และเอ็นดูลูกของเราเสมือนลูกแท้ ๆ ลาก่อน”รถยนต์วิ่งออกไปนานแล้ว แต่ชนิดาภายังคงยืนนิ่งทั้งน้ำตาอยู่ตรงนั้น ทุกคำพูดของชายหนุ่มเจ้าของหัวใจเธอยังดังก้องในหัวเหมือนคำสั่งลาไม่มีผิด จนใจดวงเล็กรู้สึกเป็นห่วงและสังหรณ์แปลก ๆ ตลอดทั้งคืนเธอนอนแทบไม่หลับ อีกทั้งยังฝันร้ายให้ต้องหวาดผวาหนึ่งเดือนต่อมาเกาะแก้วมายาเต็มไปด้วยความเศร้าเมื่อคุณกรกนกตรอมใจล้มป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล ตั้งแต่ราเชนทร์ขับรถกลับจากเชียงรายในครั้งนั้นประสบอุบัติเหตุรถยนต์ไหม้เกรียมทั้งคัน ตำรวจสันนิฐานว่าเขาตายในกองเพลิ
“เราไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามหนูแอมมี่ได้รู้มั้ย เขาหย่ากับเราตั้งนานแล้ว ตอนนี้มีแค่สถานะพ่อและแม่ของนิคกับฮันนี่เท่านั้น แค่หนูแอมมี่ไม่กีดกันการพบเจอกับลูกแกก็ดีเท่าไหร่แล้ว”คำตอบมารดาทำให้ชายหนุ่มใจห่อเหี่ยวแทบหมดแรงกายแรงใจที่จะสู้ต่อ ขากำยำทั้งสองรู้สึกเหมือนแผ่นดินตรงหน้ากำลังจะทรุดตัวลงหายไป“แต่เธอเป็นเมียผม ถึงจะเป็นเมียที่หย่าไปแล้ว แต่ผมเชื่อว่าที่ผ่านมาเธอมีผมคนเดียวแน่ ผมจะไปตามทุกคนกลับมา ผมจะแต่งงานกับแอมมี่ใหม่ ขอตัวนะครับแม่”ราเชนทร์รีบเดินขึ้นไปบนห้องอาบน้ำแต่งตัวใหม่ เก็บเสื้อผ้าเข้ากระเป๋าใบเล็ก“เฮ่อ... แม่ขออวยพรให้แกสมหวังนะราเชนทร์”จ. เชียงราย ราเชนทร์เคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อนตอนที่พัสกรกับแพรลตาจัดงานแต่งงานกัน ชายหนุ่มขับรถมาเพียงคนเดียวด้วยความรีบร้อน แม้ร่างกายยังไม่ได้พักผ่อนเลยสักนิดก็ตาม“อุ้ย พี่ราเชนทร์นั่นเอง แพรนึกว่าใครที่ไหนซะอีกค่ะ เชิญเข้าบ้านก่อนสิคะ”แพรลตายิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าแขกในยามวิกาลใกล้สามทุ่ม“ขอโทษทีนะ ที่พี่มารบกวนในตอนนี้”“รบกวนอะไรกันคะ แพรชวนพี่มาเที่ยวที่นี่ตั้งหลายครั้ง แต่พี่ก็ไม่ยอมมาเลย”“เออ... น้องแพรค
“พี่จะนอนด้วย”“ไม่ค่ะ ออกไปสิคะ”ราเชนทร์ไม่ฟังเดินเลี่ยงร่างบางในชุดนอนน่ารักเหมือนเด็กสาววัยรุ่นลายคิดตี้สีชมพูยาวเหนือหัวเข่า โชว์เรียวขาขาวนวลเนียวสวยจนเขาแอบลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกระหายหิว อยู่ใกล้กันแต่ไม่อาจจับเธอมากลืนกินได้ ทรมานเขาโดยแท้“แด แด มาแย้ว”มือเล็กกลมป้อมยกชูให้บิดาอุ้มปากเล็กยิ้มกว้างทั้งน้ำตาอาบแก้ม เมื่อเห็นพ่อแม่เดินมาหาตน“มาครับเด็กดี แด๊ดดี้มาแล้ว ขอนอนด้วยคนนะครับ”“นอน นอน นี่ แด้ เหม็น”หนูน้อยย่นจมูกโด่งเรียวเล็ก เมื่อได้กลิ่นเหล้าโชยมาแตะปลายจมูก ราเชนทร์กำลังจะก้มลงหอมแก้มลูกสาวโดยลืมไปว่าเขาพรมเหล้าตามเสื้อผ้าและดื่มมาเล็กน้อยตามแผนการที่หารแนะนำ เพื่อแกล้งเมาเข้าหาเมีย แต่ตอนนี้แผนเสียหมดแล้ว“ขอโทษที แด๊ดไปอาบน้ำก่อน”ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องน้ำสักพัก ก่อนออกมาในชุดเสื้อคุมเรียบร้อย ชายหนุ่มมองภาพบนเตียงอึ้งปนอิจฉาลูกสาวตัวน้อย ที่มือเล็กอวบกำลังล้วงจับแตะต้องดอกบัวตูมของมารดาเล่น“แบ่งแด๊ดเล่นด้วยได้หรือเปล่าฮันนี่”ปากกล่าวกับบุตรสาว แต่ดวงตาเร่าร้อนมองสบตาเธอ จนหญิงสาวหน้าร้อนผ่าวเขินอาย ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้เขากล้
เกาะแก้วมายาตลอดทั้งอาทิตย์ที่มาอยู่ที่นี่ ชนิดาภาไม่ยอมคุยและคอยหลบหน้านายหัวราเชนทร์เสมอ ส่วนนิคกับมีความสุขกับเพื่อนเก่าบนเกาะ จนลืมความโกรธเคืองที่มีต่อบิดาและคุณย่าหมดแล้ว เขาชอบที่นี่และอยากอยู่ที่นี่ ยิ่งตอนนี้บิดากับคุณย่าเอาใจเขาทุกอย่าง จนความบาดหมางแทบไม่เหลือตามประสาเด็กโกรธง่ายลืมง่าย“นิคมานี่สิลูก” เสียงอ่อนโยนของคุณย่าเรียกขาน“มีอะไรหรือครับคุณย่า โอ้โห เรื่องเพชรเยอะจังเลยครับ”“หลานชอบชุดไหน ย่าจะยกให้ เอาเก็บไว้วันข้างหน้าเวลาหลานไปสู่ขอสาวไงลูก”“เออ... จะดีหรือครับ ตอนนี้พึ่งแปดขวบเองนะครับ อีกนานกว่าผมจะโต”“ดีสิจ๊ะ ถือว่ารับขวัญหลานชายคนโต ส่วนหลานฮันนี่ต้องชุดนี้ หลานว่าสวยมั้ย”“สวยมากครับ งั้นผมเอาก็ได้ครับ ตอนนี้ผมยังเก็บไม่เป็นให้หม่ามี้เก็บให้ได้หรือเปล่าครับคุณย่า”“ได้สิจ๊ะ ชุดใหญ่นี้ย่าจะให้หม่ามี้ของหลาน จะได้มีไว้สวมใส่ออกงานกับพ่อหนู”“คุณย่าไม่เกลียดหม่ามี้แล้วเหรอครับ” คุณกรกนกชะงักอึ้งเล็กน้อยก่อนจะยิ้มกว้างกับคำถาม“ตอนนั้นย่าผิดไปแล้วลูก ตอนนี้ย่าปรับปรุงตัวเองแล้ว ย่าน่ะรักแม่หนูเหมือนลูกสาวคนหนึ่งแล้วล่ะ ดีมั้ย”“ดีจังเลยครับที่คุณย่ารักหม่
“คุณพี่คะ หนูแอมกับหลานกลับมาแล้วนะคะ คุณพี่มีหลานเป็นทายาทรุ่นต่อไปจากราเชนทร์แล้วนะคะ ลูกเราจะไม่อยู่โดดเดี่ยวในยามแก่ชราแล้วนะคะ นี่คือหลานสาวของเราเธอน่ารักมาก” เธอกล่าวกับสามีด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตาชนิดาภามองภาพนั้นน้ำตาซึม ไม่คิดว่าผ่านไปหลายปี คุณกรกนกจะเปลี่ยนไปมากเช่นเดียวกับนายหัว“แด๊ดครับ เมียผมกลับมาแล้วครับ” ราเชนทร์ตั้งใจพูดให้ร่างเล็กที่นั่งด้านข้างได้ยิน“นี่คุณ ทำไมพูดแบบนี้ล่ะคะ”“ก็เป็นความจริงนี่”“หนูแอมบอกคุณลุงสิลูก ว่าหนูจะกลับมาอยู่ที่เกาะแก้วมายา รู้มั้ยลุงเจสันของหนูรักหนูมากแค่ไหน ป้าเองขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา ราเชนทร์รักหนูมากนะ อาจรู้ตัวช้าไปหน่อย แต่ป้าหวังว่าหนูจะให้อภัยป้าและราเชนทร์ อย่าไปไหนอีกเลยนะหนูแอมมี่”ดวงหน้าวิงวอนขอความเห็นใจจากมารดาชายหนุ่มกล่าวทั้งน้ำตาซึม ทำให้หญิงสาวไม่อาจแข็งใจตอบปฏิเสธได้“เอ่อ คือ หนู คงไม่สะดวกกลับมาอยู่ที่เกาะหรอกค่ะ เพราะหนูซื้อบ้านให้ตัวเองแล้ว”“นี่หนูจะปฏิเสธคำสั่งก่อนเสียคุณลุงงั้นเหรอ หากยังมีชีวิตอยู่เจสันคงเสียใจแย่ ฮือ ฮือ คุณพี่คะ คุณพี่ได้ยินมั้ยคะว่าหนูแอมมี่ขัดคำสั่งของคุณพี่ จะพาหลานหนีไปอีกแล้ว ฮือ
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ ไอ้หาญแกมารับแขกแทนฉันที”“ได้ครับนายหัว อุ้ย คุณแอม คุณแอมจริงด้วย สวัสดีครับคุณแอม คุณแอมไปอยู่ที่ไหนมาครับ รู้มั้ยครับนายหัวตามหาคุณแอมมาโดยตลอด คุณท่านทั้งสองก็รอคุณแอมเสมอ” ชนิดาภาทำหน้าไม่ถูกกับสิ่งที่ได้ยิน“มาสิ พี่จะพาเข้าไปกราบคุณพ่อ” มือหนายื่นโอบเอวบางบังคับออกเดิน“ปล่อยมือคุณออกเถอะค่ะ ฉันเดินไม่สะดวก”“ใช่ครับ นายหัวควรปล่อยมือจากเอวหม่ามี้ได้แล้ว”นิคที่วิ่งตามมาทันกล่าวท้วงติง แต่นิคต้องตกใจนอกจากนายหัวไม่ปล่อย ยังเอื้อมมือหนามาจับกุมมือเล็กของเขาจูงเดินไปด้วยกัน ความอุ่นที่มือทำให้ฐิติในใจนิคแทบเลือนหายผู้คนในงานต่างหันมามองภาพตรงหน้า ภาพทั้งสี่บ่งบอกถึงความเป็นครอบครัว หนูน้อยยิ้มสวยราวกับนางแบบโพสท่าไร้เดียงสาอย่างน่าเอ็นดู ทำให้บรรยากาศเศร้าหมองของงานศพเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงซุบซิบอยากรู้เริ่มดังไปทั่วงาน ไม่เว้นแม้แต่นักข่าวแชะ แชะ แชะแสงเฟลซทำให้ชนิดาภายกมือป้องตาหนูน้อยด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีกองทัพนักข่าวในงานนี้ด้วย ถึงแม้ตระกูลของนายหัวจะมีชื่อเสียงโด่งดังติดอันดับในต่างประเทศ“ใครคะนายหัว ช่วยตอบคำถามหน่อยค่ะ”“ภรรยากับลูกผมเองครับ
วันนี้เป็นงานศพวันสุดท้ายก่อนที่จะเผาในตอนบ่ายสามโมงเย็น คุณเจสันเมื่อก่อนนับถือคริตส์ แต่เมื่อได้แต่งงานกับภรรยาชาวไทย เขาที่ชื่นชอบความเป็นไทยก็เปลี่ยนมานับถือพุทธอย่างถาวรแพรลตากับพัสกรอยู่ช่วยงานศพได้สามวันแล้ว พวกเขาตั้งใจว่าหลังเผาศพเรียบร้อยก็จะกลับเชียงราย เหล่าคนงานทั่วเกาะและในบริษัททุกสาขาล้วนส่งตัวแทนมาช่วยงานอย่างเต็มใจราเชนทร์ที่คอยทำหน้าที่รับแขกทั้งในและนอกสีหน้าเศร้าหมองแทบไร้รอยยิ้มดวงตาคมเหลือบมองรอบงานเสมอด้วยความหวัง ว่าจะเห็นชนิดาภากับลูกบ้าง แต่ความหวังเหล่านั้นคงไม่มีแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเผา โชคดีที่สองหนุ่มน้อยมายืนเป็นเพื่อนคอยชวนคุยสร้างบรรยากาศให้ไม่เศร้าเกินไป“หม่ามี้ฮะ นั่นน้องกายกับน้องสิงห์นี่นา พวกเขารู้จักคุณปู่ด้วยเหรอครับ”นิคทำหน้าสงสัยถามมารดาอย่างตัดสินใจว่าจะเข้าไปเลยดีมั้ย อีกใจก็กลัวจะถูกคุณกรกนกกับนายหัวราเชนทร์ขับไล่ออกมา เขาและแม่กับน้องเหมารถโดยสารจากสนามบินมาที่นี่ และอยู่ในรถมาสักพักแล้วอย่างตัดสินใจไม่ได้“นี่ค่าโดยสารค่ะ ไม่ต้องทอนนะคะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”ทั้งสามลงจากท้ายรถโดยสารมุ่งหน้ามาที่น้องกายกับน้องสิงห์ ที่คอยทำหน้าที่รั