แชร์

บทที่ 997

ผู้เขียน: เฉิงกวงโฮ่วถู่
ประเทศหลงเถิง ณ สถานที่เล็ก ๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก

ที่นี่มีบ้านไม้เรียงรายเป็นแถว

ทุ่งดอกคาโนล่าบานสะพรั่งไปทั่วภูเขา และมีเหล่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่กำลังหาอาหารอย่างสบายใจ บรรยากาศดูเหมือนแดนสวรรค์ที่ถูกซ่อนเร้นจากโลกภายนอก

“แอ๊ดดด!”

ประตูของหนึ่งในบ้านไม้ถูกเปิดออก หญิงสาวผู้มีความงดงามเกินคำบรรยายก้าวออกมา

เธอสวมชุดกระโปรงยาวสีแดงสด ประดับลวดลายของหงษ์เพลิงที่กำลังกระพือปีก เตรียมทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

ใบหน้าของเธอไร้เครื่องสำอาง แต่กลับงามสะกดสายตาจนผู้คนต้องตกตะลึง

ในขณะที่เธอปรากฏตัว เหล่าสัตว์เล็กและทุ่งดอกคาโนล่าทั่วทั้งภูเขาราวกับกำลังยิ้มรับการมาของเธอ

หญิงสาวคนนี้ แน่นอนว่าเธอคือหยางชิงเสวี่ย

นับตั้งแต่ที่เธอจากเย่ซิวมาครั้งล่าสุด เธอก็มาอยู่ที่สถานที่เล็ก ๆ ที่ไร้ผู้คนแห่งนี้

พลังของเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดด

ตู้ม!

เสาแสงพลังงานสีเลือดพุ่งทะลุจากกลางกระหม่อมของเธอ

พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ปั่นป่วนเมฆหมอกจนเกิดเป็นคลื่นพายุขนาดใหญ่

ภายในเสาแสงนั้น มีทารกตัวเล็กขนาดเท่าฝ่ามือลอยขึ้นลง

ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา หรือสีหน้าของทารกคนนี้ ล้วนเหมือนหยางชิงเสวี่ยทุกประการ

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 998

    หยางชิงเสวี่ยไม่มีแววอารมณ์ใด ๆ ในนัยน์ตา เธอหมุนตัวเดินไปทางด้านหลังของบ้าน ชายหนุ่มบินไปด้วยความเร็วสูง ด้วยโทสะที่พลุ่งพล่าน เส้นเลือดบนใบหน้าของเขาปูดขึ้น ทำให้ดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก "นางสารเลว! ฉันยังไม่รังเกียจที่เธอเคยผ่านมือผู้ชายคนอื่นมาก่อนเลย แต่เธอกล้าปฏิเสธฉันงั้นเหรอ!? รอให้ฉันแข็งแกร่งกว่านี้ก่อนเถอะ ฉันจะทำให้เธอทรมานจนอยากตายแต่ก็ตายไม่ได้เลยคอยดูส่วนไอ้เย่ซิว ฉันจะเอาร่างของแกมาเป็นหุ่นเชิด และจองจำวิญญาณของแกไว้ชั่วนิรันดร์เผาแกด้วยไฟโลกันตร์ตลอดทั้งวันทั้งคืน จนกว่าความแค้นในใจฉันจะมอดลง!" ...…เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วภายในช่วงเวลานี้ สำนักโอสถเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ก่อนอื่นพื้นที่ของสำนักขยายใหญ่ขึ้นกว่าสิบเท่า ประเทศโดยรอบทั้งหมดถูกผนวกเข้าเป็นดินแดนของสำนักโอสถ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะไม่มีประเทศปิงจือหรือประเทศสุ่ยจืออีกต่อไป จะมีเพียงสำนักโอสถเท่านั้น นอกจากนี้ การพัฒนาภายในสำนักก็รวดเร็วราวกับติดจรวด ตึกสูงระฟ้าผุดขึ้นอย่างต่อเนื่องถนนสายกว้างขวางทอดยาวไปทั่วทุกแห่ง ราวกับมังกรยักษ์แผ่ขยายทั่วทั้งดินแดนของสำนักโอสถ โ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 999

    เย่ซิวเห็นแสงหนึ่งพุ่งตรงมาด้วยความเร็วสูงภายในแสงนั้นคือชายหนุ่มที่มีบุคลิกโดดเด่น แต่ในตอนนี้ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยจิตสังหารเย่ซิวขยับตัวเพียงครั้งเดียว ก็พุ่งขึ้นไปกลางอากาศ ขวางทางชายหนุ่มคนนั้นไว้ พร้อมกล่าวอย่างเรียบเฉย "นายเป็นใคร?""เย่ซิว!" ชายหนุ่มจ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ราวกับว่าเย่ซิวเคยทำเรื่องเลวร้ายกับเขามาก่อน "ตายซะเถอะ!"เขาไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย รีบลงมือทันทีนิ้วชี้และนิ้วกลางของมือขวาแนบชิดกัน แล้ววาดอักขระลงบนอากาศอย่างรวดเร็ว "อักขระสะกดพลัง จงปราบ!"ทันใดนั้นอักขระที่เปล่งแสงก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศก่อนจะกลายเป็นภูเขาลูกใหญ่ พุ่งลงมากดทับเย่ซิวอย่างรุนแรงตู้ม!เย่ซิวซัดหมัดเดียวก็ทำลายภูเขาลูกนั้นจนแหลกเป็นเสี่ยง ๆ เขารู้สึกเจ็บแปลบที่หมัดเล็กน้อย ทำให้ต้องหันไปมองชายหนุ่มคนนั้นด้วยความแปลกใจอีกฝ่ายมีพลังเพียงแค่จินตานขั้นต้นเท่านั้น แต่กลับสามารถทำให้เขารู้สึกเจ็บได้ นับว่าน่าประทับใจไม่น้อยสถานที่นี้ไม่เหมาะกับการต่อสู้ เย่ซิวจึงหันหลังแล้วพูดขึ้น "ถ้ามีเรื่องอะไรค้างคาใจ เราไปสะสางกันที่ที่ไม่มีคนดีกว่า"ชายหนุ่มรีบไล่ตา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1000

    ร่างแยกของชายหนุ่มกลายเป็นช้างยักษ์ ภูเขาไฟ และมังกรทอง พุ่งเข้าใส่เย่ซิวอย่างดุดันพลังทำลายล้างรุนแรง เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้างราวกับแผ่นดินแยก ภูเขาถล่มเย่ซิวเริ่มจริงจังขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นประกบเป็นวิชามือตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!อสนีบาตสีม่วงสามสายปรากฏขึ้นกลางอากาศ และฟาดลงมาอย่างรุนแรงสัตว์อสูรทั้งสามที่ชายหนุ่มปล่อยออกมา ถูกทำลายลงทันทีชายหนุ่มมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “วิชาอสนีบาตเก้าชั้นฟ้า! นายได้มันมาจากที่ไหน!?”เย่ซิวยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวอย่างใจเย็น “นายควรห่วงความปลอดภัยของตัวเองก่อนจะดีกว่า”หลังจากพูดจบ สายฟ้านับไม่ถ้วนก็พุ่งลงมาโจมตีชายหนุ่มชายหนุ่มหน้าซีดเผือด รีบใช้ทุกวิชาที่มีเพื่อหลบหนีแต่วิชาอสนีบาตเก้าชั้นฟ้าทรงพลังเพียงใดกันเมื่อมันถูกใช้ออกมาโดยยอดฝีมืออย่างเย่ซิว พลังที่ระเบิดออกมานั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่สุดมิได้ชายหนุ่มสามารถหลบการโจมตีได้เพียงไม่กี่สาย ก่อนจะถูกสายฟ้าฟาดเข้าเต็ม ๆแต่โชคดีที่เขาพกสมบัติเวทมนตร์บางอย่างติดตัวมาในช่วงเวลาวิกฤติ มันกางม่านพลังโปร่งแสงออกมาป้องกันพลังทำลายทั้งหมดถึงแม้จะรอดจากการบาดเจ็บ แต่หั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1001

    “ไอ้บ้านนอกเอ๊ย คิดว่าโลกนี้เข้าสู่ยุคที่พลังเวทหมดสิ้นแล้วหรือไง?”“ไม่ใช่เหรอ?” เย่ซิวถามกลับ“แน่นอนว่าไม่ใช่ มีแต่พวกบ้านนอกอย่างนายนั่นแหละที่คิดแบบนั้น” ชายหนุ่มแค่นเสียงหึเขาคิดว่าเย่ซิวใกล้ตายเต็มทีแล้วและคู่ต่อสู้แบบนี้ก็ควรจะถูกทรมานให้หนักก่อนตายอีกทั้งการได้เห็นสีหน้าตกตะลึงของเย่ซิวก็ทำให้เขารู้สึกสะใจไม่น้อยเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็วาดยันต์สายฟ้าลงบนตัวเย่ซิวจากนั้นก็มีสายฟ้าสายแล้วสายเล่าพุ่งลงมาจากฟ้ากระแทกเข้าใส่เย่ซิวอย่างแม่นยำแต่สายฟ้าเหล่านั้นเป็นเพียงสายฟ้าธรรมดา ไม่ได้แฝงพลังแห่งฟ้าดินเอาไว้ และมันก็แทบจะไม่สร้างความเสียหายอะไรให้เย่ซิวเลยแถมยังช่วยขัดเกลาร่างกายของเขาอีกต่างหากแต่เพื่อสนองความสะใจของเจ้าหนุ่มโรคจิตตรงหน้า เย่ซิวจึงแสร้งร้องอย่างเจ็บปวดออกมาชายหนุ่มหัวเราะลั่นก่อนจะเอ่ยต่อ“โลกที่นายเห็นจริง ๆ แล้วมันเป็นแค่เศษเสี้ยวของโลกที่แท้จริงต่างหากเหมือนหยดน้ำกลางมหาสมุทรหรือเม็ดทรายในทะเลทรายเท่านั้น”หัวใจของเย่ซิวสะท้านครั้งนี้เขาไม่ได้นายล้งทำเป็นตกใจ แต่รู้สึกตื่นตะลึงจริง ๆ “นายหมายความว่าไง? ฉันไม่เข้าใจ!”ชายหนุ่มแค่นเสีย

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1002

    “ก็ใช่ ร่างกายฉันขยับไม่ได้ก็จริง แต่…”ยังไม่ทันพูดจบ หน้าผากของเย่ซิวก็เปล่งแสงขึ้นมาทันใดนั้น แสงสีดำสายหนึ่งก็พุ่งออกมาจากหน้าผากของเขาฟันลงมาทางศีรษะของชายหนุ่มตรงหน้ากระบี่หายนะ!กระบี่เล่มนี้สามารถทะลวงการป้องกันทุกประเภทและโจมตีเข้าไปที่ตัวตนโดยตรงความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ร่างกายเท่านั้น แต่เข้าไปถึงแก่นพลังของอีกฝ่ายการโจมตีครั้งนี้ทำให้ระดับพลังของชายหนุ่มลดฮวบจากจินตานขั้นต้นเหลือเพียงระดับรากฐานปราณขั้นสมบูรณ์เย่ซิวควบคุมกระบี่ให้ฟันลงไปที่ชายหนุ่มอีกสามครั้งติดกันพลังของชายหนุ่มดิ่งลงเหวในพริบตา เหลือเพียงรากฐานปราณขั้นต้นเท่านั้นพลังที่ลดลงอย่างรุนแรงทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตราประทับเทียนฝูได้อีกต่อไปเย่ซิวกลับมาขยับตัวได้อีกครั้ง ก่อนจะคว้าคอของชายหนุ่มไว้แน่นเขารู้สึกได้เลยว่าตัวเองได้รับพลังของอีกฝ่ายมาไม่น้อยเมื่อเขาลองคำนวณดู อย่างน้อยก็สี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ของพลังทั้งหมดล่ะนะสัดส่วนขนาดนี้เรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัวมากชายหนุ่มที่เมื่อครู่ยังยืนอยู่บนเมฆ ตอนนี้กลับตกลงมาจากสวรรค์สู่ขุมนรกเสียได้ เขาจ้องเย่ซิวด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “ทำไม? เป็น

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1003

    จากนั้นเย่ซิวก็ได้เห็นชายชราหนวดเคราขาวโพลนคนหนึ่งรอบตัวเขาแผ่กระจายพลังงานลึกล้ำราวกับอยู่เหนือกาลเวลาชายชรามองเย่ซิวก่อนจะเผยรอยยิ้มใจดีออกมาเขากวักมือเรียก “เด็กน้อย การพบกันครั้งนี้คือโชคชะตา เข้ามาสิ”เย่ซิวลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็ก้าวเข้าไปหา“ที่นี่คือศูนย์กลางของศาสตร์แห่งวิถีอักขระ การที่เจ้ามาถึงที่นี่ได้แปลว่าพรสวรรค์ของเจ้าไร้เทียมทาน มาเถิด ข้าจะถ่ายทอดสุดยอดวิถีอักขระให้เจ้า”เย่ซิวค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ชายชรายื่นมือขวาออกมาแล้วกดลงบนหน้าผากของเย่ซิวแต่ในเสี้ยววินาทีต่อมา รอยยิ้มอ่อนโยนของเขาก็หายไปและถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“ร่างกายชั้นเลิศ ในที่สุดข้าก็จะได้ออกไปจากที่นี่และสามารถบำเพ็ญได้เหมือนมนุษย์ทั่วไปเสียที!”ร่างของชายชรากลายเป็นลำแสงพุ่งออกจากตำราลับเทียนฝูแล้วพุ่งเข้าสู่สมองของเย่ซิวโดยตรงนี่คืออาวุธวิญญาณเนื่องจากดำรงอยู่มาอย่างยาวนานมากจึงมีความรู้สึกนึกคิดเหมือนมนุษย์แต่เพราะกฎบางอย่างทำให้มันไม่สามารถออกจากพื้นที่นี้เองได้มันต้องรอให้คนนอกเข้ามาแล้วฉวยโอกาสยึดร่างของคนผู้นั้นชายหนุ่มคนก่อนแม้จะมีพรสวรรค์สูง แต่ยังไม่ถึง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1004

    ส่วนพวกนายกรัฐมนตรีก็ไม่มีใครพูดอะไรเพิ่มเติมไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรมาก เย่ซิวเพียงแค่เหินกระบี่ออกไปเท่านั้นด้วยพลังของเขาตอนนี้ เวลาที่ใช้ในการเดินทางจากที่นี่ไปยังประเทศหลงเถิงจึงลดลงไปมากออกเดินทางตอนเที่ยง ถึงเมืองหลวงตอนหกโมงเย็นเมื่อกลับมาถึงประเทศหลงเถิงอีกครั้ง เย่ซิวก็รู้สึกเหมือนตัวเองห่างหายไปนานแสนนานทั้งที่ความจริงแล้วเขาเพิ่งจากไปได้ไม่นานเท่านั้นเมื่อเทียบกับสำนักโอสถแล้ว เย่ซิวยังคงชอบบรรยากาศของประเทศหลงเถิงมากกว่าบรรยากาศของชีวิตประจำวันแบบนี้ทำให้เย่ซิวรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากเขารู้ดีว่านี่คือแหละรากฐานอย่างหนึ่งเป็นสิ่งที่สำนักโอสถยังไม่มี และอาจต้องใช้เวลาอีกหลายร้อยปีหรืออาจเป็นพันปีกว่าที่จะซึมซับเข้าไปในทุกมุมของดินแดนตอนนี้น่าจะเป็นเวลาเลิกงานของเซี่ยซิ่วซิ่วกับคนอื่น ๆ แล้วเย่ซิวจึงตรงกลับไปที่วิลล่าทันทีระหว่างทางเขาก็แวะซื้อของกินเล่น อาหารว่าง และกับแกล้มเย็น ๆ ติดมือไปด้วยพอถึงหน้าประตูวิลล่า เย่ซิวก็เผยตัวตนออกมาพอบอดี้การ์ดที่เฝ้าหน้าประตูเห็นเขาก็ถึงกับตื่นเต้นดีใจอย่างสุดขีดเย่ซิวทำมือเป็นสัญลักษณ์ให้เงียบ ไม่ให้พวกเขา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1005

    หลังจากบำเพ็ญและทดสอบฝีมือกันเสร็จ หลิวอวิ้นก็มองเย่ซิวด้วยสายตาคาดหวัง “เป็นไงบ้าง? ฉันพัฒนาไปเยอะเลยใช่ไหม?”เย่ซิวพยักหน้า “พัฒนาไปมากเลยล่ะเมื่อก่อนถ้าผมทุ่มสุดตัวคุณจะทนได้แค่ห้านาที แต่ตอนนี้ก็อยู่ได้ตั้งสองนาทีแล้ว”เขาไม่ได้พูดประชดแต่อย่างใดด้วยพลังของเขาที่เพิ่มขึ้นมากขนาดนี้แต่หลิวอวิ้นยังสามารถรักษาระดับนี้ได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วหลิวอวิ้นย่นจมูก “งั้นลองบอกหน่อยว่าในบรรดาผู้หญิงของนาย ฉันอยู่ลำดับที่เท่าไหร่”เย่ซิวคิดอยู่ครู่หนึ่ง “คุณอยู่อันดับสี่”พอได้ยินอันดับ หลิวอวิ้นก็ไม่พอใจนัก “ทำไมฉันถึงได้แค่อันดับสี่ล่ะ? สามคนแรกคือใคร? ฉันสู้พวกเธอไม่ได้ตรงไหน?”เย่ซิวหัวเราะเบา ๆ นี่เป็นการแข่งขันแปลก ๆ ระหว่างผู้หญิงหรือเปล่านะ?อันดับหนึ่งในใจของเขาแน่นอนว่าคือพรีเอลล์ผู้หญิงคนนั้นทานทนเกินขอบเขตไปไกลอันดับสองคือหยางชิงเสวี่ยเธอไม่ได้อยู่ที่อันดับนี้เพราะฝีมือดีเป็นพิเศษ แต่เพราะเธอมีพละกำลังมหาศาลในการฝึกซ้อมเธอสู้กับเย่ซิวได้อย่างสูสีอันดับสามคือชูตงเธอได้อันดับนี้มาเพราะพรสวรรค์โดยแท้ส่วนอันดับสี่หลิวอวิ้น เธออาศัยข้อได้เปรียบด้านอายุและความขยั

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1034

    ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งที่เคยดูทรงพลังและน่าเกรงขาม ตอนนี้กลับดูซูบเซียวและอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัดมันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ดันไปหาเรื่องกับเย่ซิวซึ่งเป็นตัวอันตรายเข้าหากรู้แต่แรกว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้ มันคงเลือกที่จะเงียบและทำตัวเป็นม้าโปร่งแสงไปเสียตั้งแต่ต้นวิชาแปรมังกรขั้นที่สามต้องบำเพ็ญให้เกิดกรงเล็บมังกร หางมังกร และเขามังกรขึ้นมาเย่ซิวไม่มีทางหยุดแน่นอน โอกาสแบบนี้ถ้าพลาดไปก็คงไม่มีวันหาได้อีกหนึ่งวันผ่านไป เขาก็ฝึกขั้นที่สามสำเร็จตอนนี้เขากลายเป็นมังกรทองในร่างมนุษย์ไปแล้วกรงเล็บมังกรสีทองแหลมคมราวกับสุดยอดศาสตราวุธ สามารถฉีกกระชากทุกสิ่งได้อย่างง่ายดายเขามังกรทั้งสองเส้นชี้ขึ้นฟ้า และมันไม่ได้มีไว้แค่ประดับเท่านั้นแต่มันช่วยเพิ่มการรับรู้และเร่งการดูดซับพลังจากฟ้าดินอีกด้วยส่วนหางมังกรก็มีประโยชน์ไม่น้อยมันเปรียบเสมือนแขนที่สามของเขา สามารถใช้เป็นอาวุธลับในสถานการณ์สำคัญได้และพอจะก้าวไปสู่ขั้นที่สี่ เขาก็ต้องใช้พลังงานมากกว่าขั้นที่สามถึงสิบเท่าเย่ซิวก้มลงมองม้าศึกเพลิงน้ำแข็งและพบว่าตอนนี้มันผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก คงใกล้จะหมดสภาพเต็มทีแ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1033

    เย่ซิวค้นพบว่าภายในเสาทั้งสิบสามต้นนี้ฝังอะไรบางอย่างที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ อาจเป็นค่ายกลหรืออย่างอื่นที่ซับซ้อนกว่านั้นพวกมันเชื่อมโยงกับสิ่งที่อยู่ใต้ดินและคอยดูดซับพลังจากร่างของมันจากนั้นก็ใช้พลังเหล่านั้นกดมันเอาไว้มันคล้ายกับเครื่องสูบน้ำที่ดูดน้ำจากบ่อขึ้นมาแล้วเทกลับลงไป วนเวียนเป็นวงจรซ้ำไปซ้ำมาจากนั้นเย่ซิวก็เกิดความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถแอบขโมยพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งได้หรือเปล่าหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจลองดูเจ้าแก่นี่เกือบทำให้เขาตกอยู่ใต้อำนาจมัน ถ้าไม่เอาคืนบ้างก็คงรู้สึกขัดใจไม่น้อยคิดได้ดังนั้น เย่ซิวก็วางมือลงบนเสาต้นหนึ่งก่อนจะเร่งพลังวิชาแปรมังกรทันทีศาสตร์นี้สามารถกลั่นพลังงานทุกประเภทในโลกให้เป็นของตนเองได้ทันทีที่เริ่มใช้งาน ฝ่ามือของเขาก็เกิดแรงดูดอันทรงพลังและดูดซับพลังวิญญาณบริสุทธิ์จำนวนมากจากเสาศิลาวิญญาณเสาเองก็ตอบสนองโดยการเร่งดูดพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งมากขึ้นดวงตาของเย่ซิวเปล่งประกายขึ้น พร้อมกับที่เขาพยายามรักษาสมดุลเอาไว้ในขณะที่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งถึงกับสบถออกมา พลังที่มันปลดปล่อยออกมานั้นเต

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1032

    แค่เสาทั้งสิบสามต้นนี้ก็มีมูลค่ามหาศาลแล้วเทียบได้กับทรัพย์สินทั้งหมดของเย่ซิวก่อนที่เขาจะเริ่มบำเพ็ญวิชาเก้าวัจนะลึกลับเลยทีเดียว“นั่นคืออะไรน่ะ? ฉันรู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าในร่างกายเลย” พรีเอลล์จ้องมองเสาศิลาวิญญาณเหล่านั้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสับสนจากนั้นเธอก็ก้าวเดินไปข้างหน้าแต่ถูกเย่ซิวขวางเอาไว้สีหน้าของสองพี่น้องดูแปลกไปเหมือนถูกอะไรบางอย่างครอบงำในขณะที่โซเฟียกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ทั้งสิ้น“จงตื่น!”เสียงของเย่ซิวดังขึ้นเบา ๆ สองพี่น้องได้สติทันที พร้อมกับเหงื่อเย็นที่ผุดขึ้นเต็มตัว“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”“เมื่อกี้เหมือนฉันถูกควบคุมเลย”เย่ซิวใช้พลังเนตร มองทะลุผ่านพื้นลงไปสายตาของเขาค่อย ๆ เจาะลึกลงไปนับพันเมตร จนกระทั่งพบว่าที่ใต้ดินลึกลงไปมีค่ายกลขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ภายในค่ายกลนั้นขังบางสิ่งเอาไว้มันคือม้าศึกตัวหนึ่งที่สูงเกือบสองเมตร ทั้งร่างขาวโพลนราวหิมะบนหัวมีเขาเกลียวชี้ขึ้นด้านบนกีบเท้าทั้งสี่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีขาวดวงตาของมันลึกลับดุจห้วงเหวลึกทันใดนั้นเอง ม้าศึกตัวนั้นก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเย่ซิวเข้าเต็ม ๆโครม!เย่ซิวรู้สึกเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1031

    “ข้างในมีของสำคัญสำหรับฉันมาก ฉันเข้าไปด้วยได้ไหม?”เสียงของโซเฟียไพเราะจับใจเหมือนกับเสียงน้ำพุใสกระทบหิน มีความลึกซึ้งและก้องกังวานแค่เสียงของเธอก็ทำให้ผู้ชายมากมายหัวใจเต้นแรงได้แล้วเย่ซิวมองหญิงสาวที่สวยจนดูราวกับภาพลวงตาตรงหน้า “ถ้าปล่อยให้เธอเข้าไปแล้วฉันจะได้อะไร?”“บนตัวนายมีป้ายอันหนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยร้าว เอามาให้ฉัน แล้วฉันจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิม”เย่ซิวมีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากแหวนผนึกของมันเป็นของที่ตกมาจากเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นตอนที่เขาช่วยเธอเอาไว้ตอนนั้นเขาไม่ได้สังเกตว่ามันมีค่าอะไรเลยเก็บมันไว้ก่อนจากนั้นเขาก็ยื่นมันให้โซเฟียเธอวางมันลงบนฝ่ามือ ก่อนจะกดมือทั้งสองข้างเข้าหากันแสงสีขาวสว่างออกมาจากรอยต่อของมือและคงอยู่เช่นนั้นต่อเนื่องเป็นสิบกว่าวินาทีพอเธอคลายมือออกก็มีแผ่นหยกเรืองแสงอ่อน ๆ ปรากฏอยู่ในฝ่ามือเย่ซิวรับแผ่นหยกนั้นมาแนบไว้ที่หว่างคิ้วจากนั้นก็มีข้อมูลมากมายก็ไหลทะลักเข้าสู่สมองของเขาก่อนจะปรากฏเป็นเคล็ดวิชาหนึ่งขึ้นมาในหัวเขาทันทีวิชาแปรมังกร!เป็นศาสตร์ฝึกฝนที่ลึกล้ำเป็นอย่างยิ่งตามเนื้อหาที่บันทึกไว

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1030

    แค่กระบี่นี้ หากเล็งไปที่เมืองสักแห่ง เมืองนั้นคงถูกทำลายจนสิ้นในพริบตาหากฟันกระบี่นี้ออกไปอีกไม่กี่ครั้ง ประเทศจ้านฉงตี้คงได้รับความเสียหายอย่างหนักจนยากจะฟื้นตัวหรือไม่แน่ อาจถูกประเทศจ้านอิงตี้ฉวยโอกาสเข้ายึดครองไปเลยก็ได้อย่าดูแค่ภายนอกว่าทั้งสองประเทศเหมือนพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงจุดอ่อนขึ้นมา อีกฝ่ายจะต้องฉวยโอกาสกลืนกินอย่างแน่นอนเย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อยซากโบราณสถานแห่งนี้ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาจริง ๆเขาใช้วิชาอัดปราณกระบี่ไปถึงเก้าครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายมันได้เย่ซิวเก็บกระบี่หงส์โบยบิน โดยไม่สนใจคนรอบข้างที่กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเขาประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกัน แสงสีทองสว่างไสวเหมือนเปลวเพลิง ก่อนที่ร่างขนาดมหึมาจะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นด้านหลังเขาตู้ม!ตู้ม!ตู้ม!เมื่อร่างที่ทรงพลังและครอบงำทุกสิ่งจนแทบไร้เทียมทานปรากฏขึ้นท้องฟ้าอันแจ่มใสพันลี้พลันถูกปกคลุมด้วยเมฆดำมืดในทันทีไม่ต้องพูดถึงคนรอบข้างที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้เลยแม้แต่จักรพรรดิหมีเหล็ก ที่อยู่ห่างออกไปกว่าหลายมันไมล์ และกำลังชมวิดีโออยู่ ยังสัมผัสได้ถึงพลังอันหนักอึ้งและกดดันมหาศ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1029

    ร่างกายของโซเฟียเย็นเล็กน้อยสัมผัสคล้ายกับการบีบเยลลี่เมื่อเผชิญกับสายตาแข็งกร้าวของเย่ซิว เธอกลับแสดงออกอย่างสงบนิ่ง“คุณเป็นคนของโลกนี้หรือเปล่า”โซเฟียไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงแค่มองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกเคย์ฟี่ที่เห็นฉากนี้ เกิดความอิจฉาขึ้นมาเป็นครั้งแรกทำไมตัวเธอพยายามสารพัด แต่เย่ซิวกลับไม่ยอมมองเธอแม้แต่แวบเดียวขณะที่โซเฟียเพียงแค่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แต่กลับได้รับความสนใจจากทุกคน“ไม่พูดสินะ?” เย่ซิวเพิ่มแรงบีบที่ปลายคางของเธอเล็กน้อยผิวของเธอบอบบางเกินไป เพียงบีบเบา ๆ ก็เกิดรอยช้ำขึ้นมาแล้ว“ถ้าไม่พูดก็ถือว่ายอมรับ ผมจะฆ่าคุณ”เย่ซิวไม่ได้ขู่เธอในขณะนั้น ความกระหายสังหารพลันปะทุขึ้นในใจของเขาแต่ทันทีที่ความคิดฆ่าฟันเกิดขึ้น เขากลับสัมผัสได้ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากตัวหญิงสาวภายในร่างกายของเธอ มีบางสิ่งที่น่ากลัวซ่อนอยู่หากเธอเผชิญกับอันตรายจริง ๆ สิ่งนั้นจะถูกกระตุ้นออกมาเองเย่ซิวยิ้มเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือจากเธอ ความตั้งใจจะฆ่าที่แผ่ออกมาก่อนหน้านี้ก็ค่อย ๆ หายไปเขาไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเธอ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องฆ่าเธอทันทีที่เจอหน้าเย่ซิวเดินผ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1028

    ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวสุดขีด พลังของอ็อคก็พุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งแรงกดดันจากร่างกายของเขารุนแรงจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้สนับสนุนอ็อคหลายคนเผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ เมื่อเห็นว่าเขาสามารถทะลวงขีดจำกัดได้อีกครั้งภายใต้ความโกรธในตอนนี้ พลังที่แผ่ออกมาจากอ็อคเทียบเท่ากับระดับจินตานขั้นสมบูรณ์ ตัวเขาเองก็เต็มไปด้วยความดีใจสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง อ็อคเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกลับมาอยู่เหนือทุกสิ่งอีกครั้งสองข้าวิ่งทะยาน ความเร็วพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนทะลุกำแพงเสียงในพริบตาร่างของเขาพุ่งเข้าหาเย่ซิวราวกับอุกกาบาตที่ลุกไหม้เต็มไปด้วยพลังแห่งความบ้าคลั่งและไร้เทียมทานแต่แม้จะต้องเผชิญกับการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวนี้ เย่ซิวก็ยังคงยืนนิ่ง ไม่แม้แต่จะขยับจนกระทั่งอ็อคใกล้เข้ามา เขาถึงได้เอ่ยออกมาเพียงคำเดียว“หยุด!”วาจาศักดิ์สิทธิ์!อ็อคที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดก็พลันหยุดนิ่ง ถูกพลังบางอย่างตรึงร่างไว้โดยสมบูรณ์ เขาหยุดอยู่ห่างจากเย่ซิวเพียงครึ่งเมตรเท่านั้นในดวงตาของอ็อคเต็มไปด้วยความมึนงงและไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเย่ซิวยื่นมื

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1027

    พลังแห่งปฐพี!พลังแห่งปฐพีในรัศมีร้อยลี้ถูกอ็อคควบคุมและรวบรวมเข้าสู่ร่างกายของเขาทำให้หมัดที่ปล่อยออกมาทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุดผู้คนรอบข้างพากันยกมือขึ้นปิดหูโดยสัญชาตญาณบางคนที่พลังอ่อนแอกว่าถึงกับเลือดไหลออกจากเจ็ดทวาร ร่างกายสั่นสะท้านจนควบคุมตัวเองไม่ได้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!ให้ความรู้สึกราวกับมีระเบิดเอชระเบิดขึ้นข้าง ๆดวงตาของอ็อคเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นและความกระหายในเลือดเขาเชื่อมั่นว่าหมัดนี้ ต่อให้เย่ซิวแข็งแกร่งแค่ไหนก็คงรับไว้ไม่ได้ และต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอนเขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเย่ซิว หวังจะเห็นความหวาดกลัวแต่เขากลับต้องผิดหวังดวงตาของเย่ซิวลึกดั่งบ่อน้ำเย็นยะเยือกที่ไม่มีจุดสิ้นสุดไม่ว่าโลกภายนอกจะโหมกระหน่ำเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เกิดระลอกคลื่นใด ๆ ได้เย่ซิวขยับแล้วมือขวากำหมัดแน่นเผชิญหน้ากับหมัดที่สามารถทำลายท้องฟ้าของอ็อค เขาใช้พลังเพียงหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้นตู้ม!สองหมัดปะทะกัน ก่อให้เกิดเสียงดังกึกก้องสะเทือนฟ้าดินจากนั้นก็เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยแต่อ็อคกลับเริ่มแตกสลายจากหมัดของตัวเอง และรอยแตกนั้นลามขึ้นไปทั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1026

    เมื่ออ็อคเข้าใกล้ แรงกดดันอันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้พูท พรีเอลล์ และเคย์ฟี่ถึงกับสะดุ้ง หายใจติดขัดราวกับต้องเผชิญหน้ากับศัตรูร้าย!"เย่ซิว! นายมาที่นี่ทำไม? ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายควรมา!"เสียงของอ็อคดังกึกก้อง ราวกับฟ้าร้อง"หลีกไป อย่ามาขวางทางฉัน"เย่ซิวพูดอย่างไม่ไว้หน้า ขณะที่ยังคงจับจ้องไปที่โซเฟียเขากำลังคาดเดาว่าเธออาจจะมาจากโลกภายนอกนี่เป็นความเป็นไปได้ที่เขาคิดว่าน่าเชื่อถือที่สุด"อวดดีนัก! อยากตายรึไง!""เย่ซิว! ที่นี่ไม่ใช่สำนักโอสถ และไม่ใช่ประเทศหลงเถิงด้วย! นายมาคนเดียว อย่าทำตัวอวดดีให้มากนัก!""ใช่! ไม่งั้นนายอาจจะไม่ได้กลับออกไปจากที่นี่!"……เหล่าผู้ติดตามของอ็อคต่างพากันล้อมเย่ซิว สีหน้าของแต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตรและความเย็นชาถ้าเป็นเมื่อสัปดาห์ก่อน พวกเขาคงไม่กล้าพูดจาแบบนี้กับเย่ซิวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วการปรากฏตัวของอ็อคทำให้พวกเขามั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้นเพราะพวกเขาเคยเห็นฝีมือของอ็อคมาก่อน จึงรู้ว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหนพวกเขามั่นใจ แม้แต่เย่ซิวมาเอง อย่างมากก็คงทำได้เพียงเสมอกันยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status