หลังจากที่พลังเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้า ความสามารถในการจดจำก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จนแทบจะเรียกได้ว่าผ่านตาเพียงครั้งเดียวก็จำได้ทุกอย่าง เอกสารลับหลายฉบับถูกจดจำไว้ในหัวของเธออย่างแม่นยำ เธอจึงยกยิ้มมุปากเล็กน้อย“ดูอะไรอยู่ล่ะ ทำไมดูจริงจังขนาดนี้”เสียงเรียบชัดเจนเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหันข้างหูของเธอเซี่ยชิงชิงเงยหน้าขึ้นมองและพบว่าเย่ซิวมาอยู่ตรงหน้าเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เธอปิดเอกสารอย่างไม่แสดงพิรุธ ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วตอบด้วยเสียงที่มั่นคง “ว่าไงพี่เขย ฉันกำลังดูข้อมูลของบริษัทอยู่”เย่ซิวก้าวเข้ามาใกล้เธอทีละก้าวแม้ว่าเขาจะไม่ได้ปล่อยพลังที่น่ากลัวใด ๆ ออกมา แต่ก็ทำให้เซี่ยชิงชิงต้องก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวในที่สุดเธอก็ถูกบีบให้ถอยจนชิดกับผนังเย่ซิวใช้มือข้างหนึ่งเท้ากับผนังไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งเชยคางของเซี่ยชิงชิงขึ้นมาพลางใช้สายตามองเธออย่างพินิจพิเคราะห์ “เธอเพิ่งมาที่บริษัท พอจะปรับตัวได้หรือเปล่า?”“ก็…ก็โอเคนะ…”เสียงของเซี่ยชิงชิงมีความตะกุกตะกักเล็กน้อยและเต็มไปด้วยความกังวลใจ เพราะเธอไม่แน่ใจว่าเย่ซิวจะรู้เรื่องอะไรบ้างหรือเปล่า“ถ้างั้นก
เซี่ยชิงชิงเคาะประตูห้องทำงานของเย่ซิวด้วยความกังวลใจทันใดนั้น ประตูก็เปิดออกโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าในห้องทำงานมีเพียงเย่ซิวเพียงคนเดียวโดยไม่มีผู้บริหารระดับสูงอย่างที่เขาว่าไว้ เซี่ยชิงชิงก็รู้สึกขนลุกแทบอยากจะหันหลังกลับออกไปทันทีเย่ซิวเงยหน้าขึ้นมองเธอ “ยืนบื้ออยู่ตรงนั้นทำไม เข้ามาสิ”เซี่ยชิงชิงสูดลมหายใจลึกก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูให้เรียบร้อยเธอพยายามฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย “พี่เขย นายเรียกฉันมามีอะไรหรือเปล่า?”“มานี่” เย่ซิวกวักมือเรียกเธอเซี่ยชิงชิงทำได้แค่เดินเข้าไปหาเขา“เมื่อกี้ฉันตรวจดูโครงกระดูกของเธอแล้วมันยังอ่อนแออยู่ เลยคิดว่าตอนนี้พอมีเวลาจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เธอหน่อย”เซี่ยชิงชิงรู้สึกสงสัย เธอไม่เชื่อว่าเย่ซิวจะมีเจตนาดีเช่นนั้น“ไม่…ไม่เป็นไร”เย่ซิวลุกขึ้นเดินมาหาเธอ ก่อนจะยกมือปิดจุดเสียงของเธอทำให้เธอไม่สามารถพูดได้ ก่อนจะคว้ามือของเธอแล้วบีบอย่างแรง“กร๊อบ!”เสียงกระดูกแตกดังขึ้นดวงตาของเซี่ยชิงชิงเบิกกว้าง ความเจ็บปวดรุนแรงจนทำให้ลมหายใจเธอขาดห้วงแต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นจากนั้น เธอได้ลิ้มรสความทรมานท
ในแววตาของเซี่ยชิงชิงไม่แสดงความแค้นอีกต่อไป หากแต่ซ่อนมันไว้ลึกสุดใจตอนนี้เธอเพิ่งสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองจนต้องตกตะลึง “ความแข็งแรงของกระดูกฉัน… พลังภายในของฉัน…”เธอรู้สึกทึ่งกับวิธีการของเย่ซิวและตามมาด้วยความยินดีอย่างท่วมท้นแค่การเพิ่มพลังในวันเดียวก็ทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นอย่างน่ากลัวหากสามารถรักษาระดับนี้ได้ทุกวัน สักวันหนึ่งเธอก็จะสามารถก้าวสู่การสร้างรากฐานปราณได้เช่นกัน!เมื่อถึงเวลานั้น พลังพิษของเธอก็จะพัฒนาขึ้นอย่างมหาศาลแล้วเธอจะหาทางเข้าใกล้เย่ซิวเพื่อวางยาพิษเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว!แววตาเธอมีประกายความหวังขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อทุกอย่างเป็นเช่นนี้ บทบาทที่เธอจะต้องเล่นต่อไปก็คือการทำตัวเป็นคนที่ไม่สามารถอยู่ห่างจากเย่ซิวได้จนกว่าจะถึงวันที่เธอแข็งแกร่งพอ!……หลังเลิกงาน ชูตงไม่เสียเวลาอยู่ในบริษัทแม้แต่นาทีเดียว เธอรีบสะพายกระเป๋าแล้วออกไปอย่างรวดเร็วมีสองเหตุผลเหตุผลแรกคือไม่อยากพบกับเย่ซิวอีก และเหตุผลที่สองคือต้องไปทำงานพิเศษทุกสัปดาห์งานนั้นคือการสอนพิเศษให้กับเด็กสาวที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปีสุดท้ายหลังออกจากบริษัท ชูตงก็เรียกแท็กซี่
ประเทศหลงเถิง ที่ไหนสักแห่งที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าโบราณทางตอนเหนือ“อาจารย์ ผมกลับมาแล้ว มื้อเย็นวันนี้เป็นเนื้อกระต่ายแหละ”ณ ส่วนลึกของป่าโบราณมีบ้านไม้หลายหลังตั้งอยู่เห็นเพียงเด็กหนุ่มอายุราวสิบหกหรือสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง ในมือหิ้วกระต่ายตัวอวบอ้วนมาด้วยหลายตัว เขากระโดดขึ้นไปบนโขดหินตะปุ่มตะป่ำขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ดีดตัวเพียงไม่กี่ครั้งก็มาถึงหน้าบ้านไม้เขาชื่อเย่ซิว อาศัยอยู่ที่นี่กับอาจารย์ของเขามาตั้งแต่ยังเด็กแล้วติดตามอาจารย์เพื่อฝึกฝนวรยุทธ เก็บสมุนไพร เรียนการแพทย์ และเรียนรู้ด้านการอ่านเขียนเอี๊ยดเย่ซิวผลักประตูแล้วเดินเข้าไป วินาทีต่อมาสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือกระต่ายในมือถูกทิ้งลงกับพื้นเห็นเพียงชายชราคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนฟูก ศีรษะตกลงมา ไม่มีลมหายใจเหลืออยู่แล้ว“อาจารย์ อาจารย์ครับ เป็นยังไงบ้าง?!”เย่ซิวตกใจมากรีบรุดขึ้นไปแล้วตรวจชีพจรของเขาก่อน จึงได้พบว่าไม่มีการเต้นของชีพจรแล้วจากนั้นเขาก็รีบหยิบเข็มเงินออกมาแล้วฝังเข็มลงไปไม่มีประโยชน์!เขาถ่ายทอดพลังปราณอันทรงพลังของตัวเองไปให้ แต่ก็ยังคงไร้ผลใด ๆความโศกเศร้าครั้งใหญ่เข้
“ไปให้พ้น แกไอ้คนเถื่อนตัวเหม็น อย่าเข้ามาในรถของฉันนะ และห้ามแตะต้องคุณปู่ของฉันด้วย!”เซี่ยชิงชิงแยกเขี้ยวยิงฟัน กางกรงเล็บของเธอเหมือนกับลูกแมวขี้โมโหเย่ซิวโกรธแล้ว ‘หญิงคนนี้คงไม่ปกติสินะ?!’เขาคว้าข้อมือของเซี่ยชิงชิง ออกแรงแล้วลากเธอออกมาเซี่ยชิงชิงพยายามดิ้นอย่างหนัก "กรี๊ดดด ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้นักเลงตัวเหม็น!"เพียะ เพียะ!เย่ซิวไม่ตามใจเธออยู่แล้ว จับเอวเธอขึ้นมาโดยตรงแล้วตีแรง ๆ สองทีร่างอ้อนแอ้นของเซี่ยชิงชิงชะงักกึก เธอหันไปมองเย่ซิวด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ "นาย...นายถึงกับ…!"เย่ซิวโยนเซี่ยชิงชิงลงกับพื้น ขู่เธออย่างดุร้ายว่า "หุบปากไปเลย ไม่งั้นฉันจะจัดการเธอตรงนี้แหละ! ในที่รกร้างห่างไกลแบบนี้ เธอหนีไม่รอดหรอก แม้แต่สัตว์ร้ายก็ยังเอาชนะฉันไม่ได้ ลองคิดดูเอาเองก็แล้วกัน!"เซี่ยชิงชิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันทีเย่ซิวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเธออีก เขาหันหลังแล้วกลับเข้าไปในรถเขาตรวจชีพจรของชายชราก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นพยักหน้าเล็กน้อย หยิบเข็มเงินออกมา หลังฆ่าเชื้อแล้ว จึงฝังเข็มลงไปบนจุดชีพจรของชายชราอย่างรวดเร็วแต่เดิมชายชรามีอาการหายใจติดขัดแต่หลังจา
เพียะ!หนึ่งฝ่ามือหนัก ๆ ฟาดไปที่หน้าของเซี่ยชิงชิงใบหน้าที่ขาวผ่องและเนียนละเอียดของเธอบวมขึ้นในทันทีนั้นเสียงตบที่คมชัด ดังก้องอยู่ในหูของทุกคน ทำให้เซี่ยเจี๋ยเบิกตากว้าง บอดี้การ์ดทั้งสองคนเองก็ตกตะลึงเช่นกันเซี่ยชิงชิงยกมือขึ้นกุมหน้า ความรู้สึกเจ็บและร้อนผ่าว รวมถึงความอัปยศอดสูอย่างถึงที่สุดทำเอาเธอแทบบ้าคลั่งเสียงกรีดร้องแหลมดังขึ้นทันที "กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด แกกล้าตบหน้าฉันเหรอ?!"เย่ซิวเพิกเฉยต่อเธอ มองไปที่เซี่ยเจี๋ยแล้วพูด “หลานสาวของคุณกำเริบเสิบสาน ไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโส ผมก็เลยช่วยสั่งสอนเธอแทนให้ มีปัญหาอะไรไหมครับ?"เซี่ยเจี๋ยยิ้มอย่างขมขื่น "ฉันไม่กล้ามีปัญหาหรอก หลานสาวฉันคนนี้ หยิ่งผยองมากเกินไปแล้วจริง ๆ"“คุณปู่ ฆ่าเขา รีบฆ่าเขาเดี๋ยวนี้เลย!” เซี่ยชิงชิงตีโพยตีพาย คนทั้งคนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้วนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกตบหน้า“หุบปาก!”เซี่ยเจี๋ยตะคอก เขาปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้ฝึกยุทธออกมานิดหน่อย “ดูเหมือนว่าปกติปู่จะตามใจหลานจนเสียคนแล้วจริง ๆ รีบขอโทษผู้มีพระคุณเย่เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจนกระทั่งหลานเรียนจบ อย่าคิดว่าจะได้
จ้าวเฉียนเดินเข้ามาพร้อมกับเลขาฯ เมื่อเห็นฉากนี้เขาก็ตะโกนทันที "หยุดเดี๋ยวนี้!"ชายฉกรรจ์หลายสิบคนยั้งมือ“พ่อ?” จ้าวเฟิงตกตะลึง “พ่อมาทำอะไรที่นี่?”จ้าวเฉียนถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"จ้าวเฟิงอธิบายเหตุการณ์ให้จ้าวเฉียนฟังด้วยเสียงทุ้มต่ำดวงตาของจ้าวเฉียนเป็นประกาย ความคิดของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็วเขาเข้าใจสถานการณ์อย่างคร่าว ๆ แล้ว น่าจะเป็นเย่ซิวคนนี้ที่บังเอิญช่วยเซี่ยเจี๋ย แต่ขณะเดียวกันก็ดันไปทำให้เซี่ยชิงชิงขุ่นเคืองใจ จึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นต้องบอกว่าจ้าวเฉียนสมกับที่เป็นจิ้งจอกเฒ่าจริง ๆเขาโบกมือ "อย่างนั้นก็ลงมือเถอะ"แต่ในตอนนี้เอง จู่ ๆ เย่ซิวก็โพล่งขึ้น "คุณคือจ้าวเฉียนงั้นเหรอ?"ที่นี่คืออาคารของบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป และในพินัยกรรมที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้นั้น ยังได้ทิ้งข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับจ้าวเฉียนเอาไว้ด้วยจ้าวเฟิงโกรธมาก "ชื่อของพ่อฉัน แกอยากจะเรียกก็เรียกได้หรือไง? ไอ้คนเถื่อน!"เย่ซิวเพิกเฉยต่อเขา "เป็นคุณจริง ๆ เยี่ยมเลย ผมมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะ"“โอ้?” จ้าวเฉียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "คนเถื่อนที่เพิ่งลงมาจากเขาอย่างนาย มีธุระอะไรกับฉ
ที่หน้าร้าน หญิงวัยกลางคนชี้ไปที่เย่ซิวแล้วตะโกนเสียงดังลั่น "ไสหัวไปให้ไกล ๆ เลย อย่ามาขัดขวางธุรกิจของฉัน!"ในความเห็นของเธอ เย่ซิวซึ่งสวมชุดผ้าขี้ริ้วและสะพายถุงผ้าเก่า ๆ ไม่ต่างอะไรจากขอทานเย่ซิวพูดว่า "ผมไม่ใช่ขอทาน ผมมาซื้อเสื้อผ้า ผมมีเงิน"หญิงวัยกลางคนกอดอกและเยาะเย้ยครั้งแล้วครั้งเล่า "ขอทานอย่างแกจะมีเงินสักเท่าไหร่เชียว สิบหยวนหรือว่ายี่สิบหยวนล่ะ? แกไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าที่นี่ได้หรอกนะ ห้ามเข้ามาในร้านของฉัน อย่าทำให้ร้านของฉันสกปรก"เย่ซิวระงับความโกรธ "ผมบอกคุณไปแล้วนี่ว่าผมมีเงิน ถ้าคุณเปิดร้านทำธุรกิจ ทำไมถึงไม่ให้ผมเข้าไปล่ะ?"หญิงวัยกลางคนโกรธมาก "แกยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? ถ้าไม่ไป ฉันจะไม่ยั้งมือแล้วนะ"หลังจากพูดจบ เธอก็หยิบไม้กวาดข้างประตูขึ้นมาและจ้องเย่ซิวด้วยสีหน้าดุร้าย“พี่ชายคนนี้ อยากจะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ? มาที่ร้านฉันก็ได้นะ”ทันใดนั้นเอง เสียงอ่อนหวานเสียงหนึ่งก็ดังมาจากร้านข้าง ๆ เย่ซิวหันกลับไปมอง เห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุประมาณสิบแปดหรือสิบเก้าปีกำลังพูดกับเขาอย่างเขินอายเธอดูไร้เดียงสามาก สวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดสีขาวผมถูกถักเป็นเปียสอง
ในแววตาของเซี่ยชิงชิงไม่แสดงความแค้นอีกต่อไป หากแต่ซ่อนมันไว้ลึกสุดใจตอนนี้เธอเพิ่งสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองจนต้องตกตะลึง “ความแข็งแรงของกระดูกฉัน… พลังภายในของฉัน…”เธอรู้สึกทึ่งกับวิธีการของเย่ซิวและตามมาด้วยความยินดีอย่างท่วมท้นแค่การเพิ่มพลังในวันเดียวก็ทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นอย่างน่ากลัวหากสามารถรักษาระดับนี้ได้ทุกวัน สักวันหนึ่งเธอก็จะสามารถก้าวสู่การสร้างรากฐานปราณได้เช่นกัน!เมื่อถึงเวลานั้น พลังพิษของเธอก็จะพัฒนาขึ้นอย่างมหาศาลแล้วเธอจะหาทางเข้าใกล้เย่ซิวเพื่อวางยาพิษเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว!แววตาเธอมีประกายความหวังขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อทุกอย่างเป็นเช่นนี้ บทบาทที่เธอจะต้องเล่นต่อไปก็คือการทำตัวเป็นคนที่ไม่สามารถอยู่ห่างจากเย่ซิวได้จนกว่าจะถึงวันที่เธอแข็งแกร่งพอ!……หลังเลิกงาน ชูตงไม่เสียเวลาอยู่ในบริษัทแม้แต่นาทีเดียว เธอรีบสะพายกระเป๋าแล้วออกไปอย่างรวดเร็วมีสองเหตุผลเหตุผลแรกคือไม่อยากพบกับเย่ซิวอีก และเหตุผลที่สองคือต้องไปทำงานพิเศษทุกสัปดาห์งานนั้นคือการสอนพิเศษให้กับเด็กสาวที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปีสุดท้ายหลังออกจากบริษัท ชูตงก็เรียกแท็กซี่
เซี่ยชิงชิงเคาะประตูห้องทำงานของเย่ซิวด้วยความกังวลใจทันใดนั้น ประตูก็เปิดออกโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าในห้องทำงานมีเพียงเย่ซิวเพียงคนเดียวโดยไม่มีผู้บริหารระดับสูงอย่างที่เขาว่าไว้ เซี่ยชิงชิงก็รู้สึกขนลุกแทบอยากจะหันหลังกลับออกไปทันทีเย่ซิวเงยหน้าขึ้นมองเธอ “ยืนบื้ออยู่ตรงนั้นทำไม เข้ามาสิ”เซี่ยชิงชิงสูดลมหายใจลึกก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูให้เรียบร้อยเธอพยายามฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย “พี่เขย นายเรียกฉันมามีอะไรหรือเปล่า?”“มานี่” เย่ซิวกวักมือเรียกเธอเซี่ยชิงชิงทำได้แค่เดินเข้าไปหาเขา“เมื่อกี้ฉันตรวจดูโครงกระดูกของเธอแล้วมันยังอ่อนแออยู่ เลยคิดว่าตอนนี้พอมีเวลาจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เธอหน่อย”เซี่ยชิงชิงรู้สึกสงสัย เธอไม่เชื่อว่าเย่ซิวจะมีเจตนาดีเช่นนั้น“ไม่…ไม่เป็นไร”เย่ซิวลุกขึ้นเดินมาหาเธอ ก่อนจะยกมือปิดจุดเสียงของเธอทำให้เธอไม่สามารถพูดได้ ก่อนจะคว้ามือของเธอแล้วบีบอย่างแรง“กร๊อบ!”เสียงกระดูกแตกดังขึ้นดวงตาของเซี่ยชิงชิงเบิกกว้าง ความเจ็บปวดรุนแรงจนทำให้ลมหายใจเธอขาดห้วงแต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นจากนั้น เธอได้ลิ้มรสความทรมานท
หลังจากที่พลังเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้า ความสามารถในการจดจำก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จนแทบจะเรียกได้ว่าผ่านตาเพียงครั้งเดียวก็จำได้ทุกอย่าง เอกสารลับหลายฉบับถูกจดจำไว้ในหัวของเธออย่างแม่นยำ เธอจึงยกยิ้มมุปากเล็กน้อย“ดูอะไรอยู่ล่ะ ทำไมดูจริงจังขนาดนี้”เสียงเรียบชัดเจนเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหันข้างหูของเธอเซี่ยชิงชิงเงยหน้าขึ้นมองและพบว่าเย่ซิวมาอยู่ตรงหน้าเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เธอปิดเอกสารอย่างไม่แสดงพิรุธ ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วตอบด้วยเสียงที่มั่นคง “ว่าไงพี่เขย ฉันกำลังดูข้อมูลของบริษัทอยู่”เย่ซิวก้าวเข้ามาใกล้เธอทีละก้าวแม้ว่าเขาจะไม่ได้ปล่อยพลังที่น่ากลัวใด ๆ ออกมา แต่ก็ทำให้เซี่ยชิงชิงต้องก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวในที่สุดเธอก็ถูกบีบให้ถอยจนชิดกับผนังเย่ซิวใช้มือข้างหนึ่งเท้ากับผนังไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งเชยคางของเซี่ยชิงชิงขึ้นมาพลางใช้สายตามองเธออย่างพินิจพิเคราะห์ “เธอเพิ่งมาที่บริษัท พอจะปรับตัวได้หรือเปล่า?”“ก็…ก็โอเคนะ…”เสียงของเซี่ยชิงชิงมีความตะกุกตะกักเล็กน้อยและเต็มไปด้วยความกังวลใจ เพราะเธอไม่แน่ใจว่าเย่ซิวจะรู้เรื่องอะไรบ้างหรือเปล่า“ถ้างั้นก
“คุณทำอะไรน่ะ? ปล่อยเดี๋ยวนี้!”ทันใดนั้นเมื่อถูกเย่ซิวคว้ามือไว้ ขนทั้งร่างของชูตงก็ลุกเกรียว เธอโกรธมากพยายามดึงมือออกอย่างสุดความสามารถน่าเสียดายที่ด้วยความแข็งแกร่งของเธอ มันจึงถูกกำหนดให้เป็นไปไม่ได้ชูตงรู้สึกทั้งอายและโกรธ เธอพูดอย่างโกรธจัด "รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งความ!"แม้ว่าเธอจะเคยคบกับหลี่ต้าจ้วง แต่ทั้งสองคนก็ไม่เคยจับมือกันตอนนี้จู่ ๆ ก็ถูกชายคนหนึ่งที่พบเจอเพียงไม่กี่ครั้งจับมือ อย่าถามเลยว่าเธอเดือดดาลแค่ไหนโชคดีที่ระบบกันเสียงในห้องทำงานนี้ดีพอที่จะทำให้เสียงดังแค่ไหนก็ไม่มีทางได้ยินจากข้างนอก ไม่อย่างนั้นทั้งบริษัทคงรู้เรื่องนี้แล้วเย่ซิวใช้แรงดึงเธอให้นั่งลงบนโซฟา จับไหล่ของเธอไว้ป้องกันไม่ให้เธอขยับชูตงตื่นตระหนกมาก คิดว่าเย่ซิวต้องการทำอะไรบางอย่างกับเธอ เธอจึงตะโกนลั่น“ช่วยด้วย ไอ้สารเลว ปล่อยฉันไปนะ ฮือฮือฮือ...”เธอรู้สึกเพียงว่าชีวิตมันช่างมืดมนเมื่อวานเพิ่งถูกแฟนหักหลัง วันนี้ยังต้องมาโดนผู้ชายน่ารังเกียจคนนี้...“หุบปาก!” จู่ ๆ เย่ซิวก็ตะโกนขึ้น “ผู้หญิงโง่นี่ ใครบอกว่าผมจะทำอะไรคุณ!”ชูตงตกใจกับเสียงคำรามของเขามากจึง
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ถอดผ้าปิดตาออก เอียงศีรษะแล้วมองไปที่เย่ซิว "เมื่อคืนนี้คือน้องหลิ่วใช่ไหม?"เย่ซิวรู้สึกขบขันอยู่ในใจ แต่สีหน้ายังคงจริงจัง "คุณเดาดูสิ"ลู่เสวี่ยเอ๋อร์แค่นเสียงฮึ่ม "ต้องเป็นเธอแน่ ๆ ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนเดียวในบ้านนี้ที่ใช้น้ำหอมดอกหอมหมื่นลี้คิดไม่ถึง น้องหลิ่วที่ปกติดูจะเป็นผู้หญิงที่ซื่อตรงขนาดนั้นจะ…”เย่ซิวขอโทษหลิ่วเมิ่งอิ๋นในใจอย่างเงียบ ๆ ที่ให้เธอมาแบกรับความผิดแทนหลิวอวิ้นเมื่อเห็นว่าเย่ซิวเงียบไม่พูด ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็เข้าใจไปเองแล้วว่านั่นคือหลิ่วเมิ่งอิ๋นจริง ๆหลังจากอาบน้ำทำธุระเสร็จ ก็เดินไปที่ห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋น จึงหัวเราะคิกคักและพูดไปว่า "น้องหลิ่ว ฉันดูไม่ออกเลยจริง ๆ นะ"หลิ่วเมิ่งอิ๋น "???"วันนี้เย่ซิวเองก็จะไปที่บริษัทกับพวกเธอด้วยเซี่ยชิงชิงติดตามไปด้วยเช่นกันเธอนั่งอยู่ในรถ กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้บรรยากาศครึกครื้น รอยยิ้มที่ไร้เดียงสาบนใบหน้า ทำให้ใครเห็นใครก็รักถ้าเย่ซิวไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ เขาก็อาจจะถูกทักษะการแสดงของน้องภรรยาคนนี้หลอกเข้าให้จริง ๆเมื่อมาถึงที่บริษัท เซี่ยชิงชิงก็ถูกพี่สาวพาไปลงทะเบีย
หัวใจของเซี่ยชิงชิงกระตุกวูบ ก่อนที่เธอจะทันได้ทันตอบสนอง มือของเย่ซิวก็วางลงบนจุดตันเถียนของเธอแล้วมือใหญ่ที่มั่นคงและทรงพลังนั้นกดลงไปตรง ๆร่างกายอันละเอียดอ่อนของเซี่ยชิงชิงแข็งทื่อ เธอแทบจะหยุดหายใจแล้ว“โอ้? ไม่เลวเลย ถึงกับมีความสามารถในการฆ่าแมลงพิษที่ฉันฝังไว้” เย่ซิวมองเธอด้วยรอยยิ้มแต่เซี่ยชิงชิงรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังตกเป็นเป้าหมายของงูพิษร้าย ร่างกายของเธอเย็นเยียบไปหมดเธอพูดขึ้นอย่างยากลำบาก "ใช่...ใช่แล้วค่ะ ฉันพบโอสถหมื่นพิษเม็ดหนึ่งในสำนักเบญจพิษหลังจากกินมัน พลังของฉันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก และฉันก็สามารถกำจัดแมลงพิษได้ ก่อนหน้านั้นฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเป็นแบบนี้"“โอสถหมื่นพิษ” เย่ซิวเริ่มสนใจแล้วเขาสำรวจเธออย่างรอบคอบเซี่ยชิงชิงกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกถึงความอัปยศอดสูเหมือนที่ได้รับในตอนนั้นอีกครั้งแต่ตอนนี้เธอเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากในดวงตาไม่มีร่องรอยของความแค้นเคืองอะไร มีเพียงความตื่นตระหนกและความเขินอายหลังจากสำรวจเสร็จแล้ว เย่ซิวก็หยุดมือและหัวเราะเบา ๆ "ช่างเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ คิดไม่ถึงว่าเธอจะขึ้นเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้าแล้วงั้นตั้งแต่พร
แต่ในใจกลับค่อนข้างดูถูกดูแคลนที่แท้ผู้หญิงที่อยู่รอบ ๆ ตัวเย่ซิวล้วนโง่เขลาขนาดนี้ เธอเอาชนะใจพวกเธอได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นฉากนี้ น้องสาวของเธอโตขึ้นมากกริ๊งประตูอิเล็กทรอนิกส์ของวิลล่าเปิดออก สาว ๆ ทุกคนหันไปมองเมื่อพวกเธอเห็นเย่ซิวกลับมาจากข้างนอก ผู้หญิงหลายคนก็ปรี่ขึ้นไปต้อนรับเขากลิ่นน้ำหอมและกลิ่นกายทุกชนิดผสมผสานกัน ทำให้ฮอร์โมนของคนพลุ่งพล่านรอยยิ้มจากใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่ซิวนี่ถึงจะเป็นสวรรค์ของเขา ไร้ซึ่งกลอุบาย และไม่มีใครที่คิดจะทำร้ายเขาสุดท้าย สายตาของเขาก็มองไปที่เซี่ยชิงชิงซึ่งยืนอย่างเขินอายห่างออกไปกว่าสิบเมตร เธอก้มศีรษะลงเล็กน้อย ไม่กล้ามองเขาเย่ซิวเดินไปพร้อมกับสายตาที่พินิจพิเคราะห์เซี่ยชิงชิงจับมือทั้งสองข้างแน่น หัวใจเต้นเร็วขึ้นนี่ไม่ใช่การแสดง แต่เป็นความรู้สึกที่แท้จริงของเธอในตอนนี้ผู้ชายคนนี้ น่ากลัวยิ่งกว่าเมื่อก่อนอีก เธอกลัวว่าจะเผยพิรุธออกมาขณะที่เธอหัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เย่ซิวก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "ชิงชิงสวยขึ้นมาก คุ้นเคยกับที่นี่รึยัง?"“อืม ที่นี่ดีมาก ขอบคุณที
หลังจากที่ตื่นเต้นแล้ว หลี่หยวนก็ถูกกลิ่นเหม็นที่มาจากร่างของตัวเองเกือบทำให้หมดสติไปหลังจากทิ้งคำพูดประโยคหนึ่งไว้ เขาก็วิ่งไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำดวงตากลมโตและระยิบระยับของหลี่หลิงเอ๋อร์เบิกกว้าง "ฉันเอาด้วย ฉันเองก็อยากลองบ้างเหมือนกัน"เย่ซิวพยักหน้า และกดนิ้วลงไปที่หว่างคิ้วของเธอเหมือนกันกระแสพลังวิญญาณถูกส่งเข้าไปในร่างของหลี่หลิงเอ๋อร์และไหลไปทั่วร่างสิ่งที่ทำให้เย่ซิวประหลาดใจก็คือ ศักยภาพทางร่างกายของหลี่หลิงเอ๋อร์นั้นแข็งแกร่งกว่าของหลี่หยวนมากในที่สุด พลังวิญญาณของเขาก็ถูกส่งไปเก็บในจุดตันเถียนที่ช่องท้องของหลี่หลิงเอ๋อร์"ว้าว น่าทึ่งมาก"หลี่หลิงเอ๋อร์มองไปที่เย่ซิวด้วยความชื่นชมและนับถือตัวเองนั่งสมาธิและฝึกฝนอย่างหนักที่นี่เป็นเวลาหลายปี ถึงจะประสบความสำเร็จเล็กน้อยแต่ตอนนี้เย่ซิวแค่จิ้มตัวเองเบา ๆ อย่างไม่ใส่ใจ กลับได้รับผลประโยชน์มหาศาลชนิดที่เอาเมื่อก่อนมารวมกันก็ยังเทียบไม่ติดเธอเป็นเหมือนภูตตัวน้อย น่ารักมาก "ทำอีกหลายรอบหน่อยจะได้รึเปล่า?"เย่ซิวรู้สึกตลกและถามไปว่า “คุณอายุเท่าไหร่แล้ว?”“ปีนี้ฉันอายุยี่สิบแล้ว”เย่ซิวตกใจแล้วจริง ๆ เด็กสาวมีใบ
จมูกของเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกแสบร้อน ไม่เจอกันนาน ความเป็นเด็กและความเกลียดชังในตัวของน้องสาวเหมือนจะหายไปแล้ว เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วเซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นไปหาเธอ น้ำเสียงสั่นเครือ "ชิงชิง!"เซี่ยชิงชิงเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วตั้งนานแล้ว ดวงตาของเธอแดงก่ำเล็กน้อย ภายในหัวผุดภาพความทรงจำระหว่างพวกเธอพี่น้องสมัยยังเด็กขึ้นมา“พี่คะ ฉันคิดถึงพี่มาก”เธอโผเข้ามากอดเซี่ยซิ่วซิ่วเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็มีน้ำตาคลอเบ้า "พี่ก็เหมือนกัน กลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปเราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว"เซี่ยชิงชิงตกใจในทันที "พี่ ความแข็งแกร่งของพี่!!!"ด้วยการกอดนี้ เธอก็สัมผัสถึงกำลังภายในในตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วที่ทรงพลังนั้นได้ จึงรู้สึกครั่นคร้ามเป็นอย่างมากเมื่อเซี่ยซิ่วซิ่วได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เป็นเพราะพี่เขยของเธอ เขาฝีมือร้ายกาจมาก สามารถหลอมโอสถหลายชนิดเพื่อให้พี่เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง แล้วยัง..."คำพูดนั้นหยุดไปชั่วขณะ ใบหน้างามขึ้นสีแดงเล็กน้อยยังมีวิธีการบำเพ็ญตนอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ร่องรอยของความคับแค้นฉายลึกอยู่ในดวงตาของเซี่ยชิงชิง แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็ถ