หลังจากที่พลังเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้า ความสามารถในการจดจำก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จนแทบจะเรียกได้ว่าผ่านตาเพียงครั้งเดียวก็จำได้ทุกอย่าง เอกสารลับหลายฉบับถูกจดจำไว้ในหัวของเธออย่างแม่นยำ เธอจึงยกยิ้มมุปากเล็กน้อย“ดูอะไรอยู่ล่ะ ทำไมดูจริงจังขนาดนี้”เสียงเรียบชัดเจนเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหันข้างหูของเธอเซี่ยชิงชิงเงยหน้าขึ้นมองและพบว่าเย่ซิวมาอยู่ตรงหน้าเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เธอปิดเอกสารอย่างไม่แสดงพิรุธ ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วตอบด้วยเสียงที่มั่นคง “ว่าไงพี่เขย ฉันกำลังดูข้อมูลของบริษัทอยู่”เย่ซิวก้าวเข้ามาใกล้เธอทีละก้าวแม้ว่าเขาจะไม่ได้ปล่อยพลังที่น่ากลัวใด ๆ ออกมา แต่ก็ทำให้เซี่ยชิงชิงต้องก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวในที่สุดเธอก็ถูกบีบให้ถอยจนชิดกับผนังเย่ซิวใช้มือข้างหนึ่งเท้ากับผนังไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งเชยคางของเซี่ยชิงชิงขึ้นมาพลางใช้สายตามองเธออย่างพินิจพิเคราะห์ “เธอเพิ่งมาที่บริษัท พอจะปรับตัวได้หรือเปล่า?”“ก็…ก็โอเคนะ…”เสียงของเซี่ยชิงชิงมีความตะกุกตะกักเล็กน้อยและเต็มไปด้วยความกังวลใจ เพราะเธอไม่แน่ใจว่าเย่ซิวจะรู้เรื่องอะไรบ้างหรือเปล่า“ถ้างั้นก
เซี่ยชิงชิงเคาะประตูห้องทำงานของเย่ซิวด้วยความกังวลใจทันใดนั้น ประตูก็เปิดออกโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าในห้องทำงานมีเพียงเย่ซิวเพียงคนเดียวโดยไม่มีผู้บริหารระดับสูงอย่างที่เขาว่าไว้ เซี่ยชิงชิงก็รู้สึกขนลุกแทบอยากจะหันหลังกลับออกไปทันทีเย่ซิวเงยหน้าขึ้นมองเธอ “ยืนบื้ออยู่ตรงนั้นทำไม เข้ามาสิ”เซี่ยชิงชิงสูดลมหายใจลึกก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูให้เรียบร้อยเธอพยายามฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย “พี่เขย นายเรียกฉันมามีอะไรหรือเปล่า?”“มานี่” เย่ซิวกวักมือเรียกเธอเซี่ยชิงชิงทำได้แค่เดินเข้าไปหาเขา“เมื่อกี้ฉันตรวจดูโครงกระดูกของเธอแล้วมันยังอ่อนแออยู่ เลยคิดว่าตอนนี้พอมีเวลาจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เธอหน่อย”เซี่ยชิงชิงรู้สึกสงสัย เธอไม่เชื่อว่าเย่ซิวจะมีเจตนาดีเช่นนั้น“ไม่…ไม่เป็นไร”เย่ซิวลุกขึ้นเดินมาหาเธอ ก่อนจะยกมือปิดจุดเสียงของเธอทำให้เธอไม่สามารถพูดได้ ก่อนจะคว้ามือของเธอแล้วบีบอย่างแรง“กร๊อบ!”เสียงกระดูกแตกดังขึ้นดวงตาของเซี่ยชิงชิงเบิกกว้าง ความเจ็บปวดรุนแรงจนทำให้ลมหายใจเธอขาดห้วงแต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นจากนั้น เธอได้ลิ้มรสความทรมานท
ในแววตาของเซี่ยชิงชิงไม่แสดงความแค้นอีกต่อไป หากแต่ซ่อนมันไว้ลึกสุดใจตอนนี้เธอเพิ่งสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองจนต้องตกตะลึง “ความแข็งแรงของกระดูกฉัน… พลังภายในของฉัน…”เธอรู้สึกทึ่งกับวิธีการของเย่ซิวและตามมาด้วยความยินดีอย่างท่วมท้นแค่การเพิ่มพลังในวันเดียวก็ทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นอย่างน่ากลัวหากสามารถรักษาระดับนี้ได้ทุกวัน สักวันหนึ่งเธอก็จะสามารถก้าวสู่การสร้างรากฐานปราณได้เช่นกัน!เมื่อถึงเวลานั้น พลังพิษของเธอก็จะพัฒนาขึ้นอย่างมหาศาลแล้วเธอจะหาทางเข้าใกล้เย่ซิวเพื่อวางยาพิษเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว!แววตาเธอมีประกายความหวังขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อทุกอย่างเป็นเช่นนี้ บทบาทที่เธอจะต้องเล่นต่อไปก็คือการทำตัวเป็นคนที่ไม่สามารถอยู่ห่างจากเย่ซิวได้จนกว่าจะถึงวันที่เธอแข็งแกร่งพอ!……หลังเลิกงาน ชูตงไม่เสียเวลาอยู่ในบริษัทแม้แต่นาทีเดียว เธอรีบสะพายกระเป๋าแล้วออกไปอย่างรวดเร็วมีสองเหตุผลเหตุผลแรกคือไม่อยากพบกับเย่ซิวอีก และเหตุผลที่สองคือต้องไปทำงานพิเศษทุกสัปดาห์งานนั้นคือการสอนพิเศษให้กับเด็กสาวที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปีสุดท้ายหลังออกจากบริษัท ชูตงก็เรียกแท็กซี่
ปัง!ชูตงล้มลงนั่งบนโซฟาอีกครั้ง เธอรู้สึกวิงเวียนจนโลกหมุน ในใจเริ่มตื่นตระหนกขึ้นมาพลางมองไปที่คุณเฉินซึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้ “คุณ…ใส่อะไรลงไปในชา!”คุณเฉินหัวเราะเยาะ “กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว รู้สึกว่าเริ่มไม่มีแรง ร่างกายอ่อนเพลีย ง่วงเหงาหาวนอนใช่ไหมล่ะ?”ชูตงพยายามกัดริมฝีปากจนเลือดออกเพื่อดึงสติให้กลับมา เธอได้สติชั่วคราวก่อนจะออกมาอย่างขาด ๆ หาย ๆ “คุณ... นี่มัน... ผิดกฎหมาย... หยุดตอนนี้ยัง... ทัน…”หลังจากพูดจบ ลมหายใจของเธอก็เริ่มขาดห้วง ภาพที่มองเห็นก็เริ่มซ้อนกันเป็นเงาสองชั้นแต่คุณเฉินกลับไม่รีบร้อน เขาใช้จังหวะที่ชูตงคงสติไว้ไม่อยู่ล้อเล่นกับเธออย่างไม่แยแส“ฮ่าฮ่า รู้ไหมว่าฉันติดตั้งกล้องเอาไว้ในห้องนี้ตั้งหลายตัว? ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้จะถูกบันทึกไว้หมด ถ้าเธอคิดจะฟ้องตำรวจ ฉันจะปล่อยวิดีโอนี้ออกไปให้ทั้งโลกได้เห็นเรือนร่างของเธอ”คำพูดนี้ทำให้ชูตงทั้งโกรธและตกใจจนน้ำตาหลั่งริน ความอ่อนแอและสิ้นหวังของเธอยิ่งทำให้ดูน่าสงสารยิ่งขึ้นคุณเฉินกลืนน้ำลายอย่างกระหายอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาพุ่งเข้าหาเธอเหมือนเสือโหยที่เตรียมตะครุบเหยื่อชูตงปิด
คุณเฉินในตอนนี้เจ็บปวดจนพูดไม่ออก ดวงตาเต็มไปด้วยความวิงวอนการลงโทษที่เย่ซิวให้ไปก็มากพอแล้ว ชีวิตที่เหลือของเขาคงต้องใช้บนรถเข็นไปตลอดชีวิตเย่ซิวตั้งใจจะพาชูตงออกไปแต่ในจังหวะนั้นเอง ภรรยาของคุณเฉินกลับเดินเข้ามายืนขวางหน้าเขาด้วยใบหน้าเด็ดเดี่ยว “คุณกล้าทำกับฉันไหม!”เย่ซิวถึงกับตกตะลึง “คุณว่าไงนะ?”เขาคิดว่าตัวเองคงฟังผิด แต่หญิงงามตรงหน้ากลับพูดย้ำอีกครั้ง ดวงตาคู่สวยที่เคยมีเสน่ห์บัดนี้เต็มไปด้วยความแค้น “ฉันทำงานหนักเพื่อครอบครัวนี้มาตลอด ไม่คิดเลยว่าสามีจะทำเรื่องแบบนี้ลับหลังฉัน ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันจะทำให้เขารู้รสชาติของการถูกหักหลังบ้าง!”เย่ซิวมองหญิงสาวด้วยสายตาที่จริงจังเธอน่าจะอายุประมาณสี่สิบกว่าปี แต่ด้วยการดูแลตัวเองอย่างดีทำให้ดูเหมือนเพียงสามสิบกลาง ๆ เท่านั้น ใบหน้าของเธอได้คะแนนถึงแปดในสิบ ส่วนสูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร ผิวพรรณขาวกระจ่างและเรียบเนียน ร่างกายภายนอกและภายในล้วนแสดงเสน่ห์ของหญิงสาวที่มีความสุขุมเป็นอย่างดีผู้หญิงแบบเธอในวัยเช่นนี้มีเสน่ห์อย่างน่าทึ่งเย่ซิวไหวไหล่ “ก็ได้”ยังไงคุณเฉินก็ไม่ใช่คนดี การถูกลงโทษเช่นนี้ก็สมค
เย่ซิวหลบหมอนที่โยนมาทางเขาได้อย่างง่ายดาย พร้อมเอ่ยยิ้ม ๆ ว่า “อะไรกัน นี่วิธีที่คุณตอบแทนคนที่ช่วยชีวิตเหรอ?”“คุณพูดจาเหลวไหลอะไร…” ชูตงกำลังจะด่ากลับไป แต่คำพูดกลับหยุดชะงักกลางคันเธอจำได้ว่าเธอไปทำงานพิเศษเป็นติวเตอร์ แล้วก็ถูกนายจ้างวางยาแต่หลังจากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้อีก“คุณเป็นคนช่วยฉันไว้เหรอ?” ชูตงเอ่ยอย่างไม่แน่ใจ แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว “หรือว่าคุณคือคนที่อยู่เบื้องหลังแผนการของหมอนั่น แล้วค่อยมาช่วยฉันแบบพระเอกขี่ม้าขาว!”ต้องบอกเลยว่าเธอจินตนาการไปไกลมากทีเดียวเย่ซิวหมดคำจะพูด “ลองคิดดี ๆ เถอะว่าคุณทำงานติวเตอร์มานานแค่ไหนแล้ว ผมจะรู้จักหมอนั่นได้ยังไง?”ชูตงเริ่มใจเย็นลง งานติวเตอร์นี้เธอทำมาตั้งแต่ก่อนจะเข้าบริษัทสตาร์รี่สกายเสียอีกพอมาคิดดูดี ๆ ก็ไม่มีทางที่ทั้งสองฝ่ายจะเกี่ยวข้องกันได้แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อความมั่นใจ ชูตงก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปและปิดประตูดังปังเธอสำรวจตัวเองอย่างละเอียดในห้องน้ำจนมั่นใจว่าไม่มีร่องรอยการถูกล่วงละเมิดใด ๆ ถึงได้วางใจเธอสูดลมหายใจลึก ก่อนจะกลับออกมาข้างนอกและโค้งให้เย่ซิวอย่างตั้งใจ “ขอบคุณนะที่ช่วยฉันไว้”เย่ซ
หัวใจของเธอพลันถูกเติมเต็มด้วยความอิจฉาอย่างรุนแรงหากไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น บางทีปีหน้าเธอคงมีลูกน้อยน่ารักสักคนแล้วแต่ทั้งหมดนี้กลับหายวับไปเพราะผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอคนนี้ความโกรธแค้นในใจที่มีต่อเย่ซิวยิ่งเพิ่มพูนขึ้นทันทีกลิ่นหอมของอาหารลอยมา ของที่สั่งเริ่มทยอยนำมาเสิร์ฟเธอหยิบเนื้อแกะเสียบไม้ขึ้นมากัดเข้าไปอย่างดุดันราวกับมันคือเย่ซิวยังไงเสีย มื้อนี้เธอไม่ต้องจ่ายอยู่แล้วไม่นาน ทั้งโต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหารปิ้งย่างและเบียร์ที่วางเรียงกันอยู่ข้างเท้าเย่ซิวกินไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รีบร้อนพลางรับลมเย็นสบายริมแม่น้ำอาหารปิ้งย่างหนึ่งคำตามด้วยเบียร์หนึ่งอึก แถมตรงข้ามยังมีสาวสวยสุดเซ็กซี่นั่งอยู่ชีวิตแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าสุขสบายแค่ไหนแขกโต๊ะอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ต่างมองมาด้วยสายตาอิจฉาริษยาเพียงแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่มย่ามเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น เย่ซิวได้ปล่อยพลังบางส่วนออกมาตั้งแต่เขานั่งลงแม้ชูตงจะไม่รู้สึกถึงมัน แต่คนอื่น ๆ ต่างสัมผัสถึงพลังที่แข็งแกร่งของเย่ซิว จึงไม่มีใครกล้าทำตัวเกินขอบเขตชูตงกัดหอยนางรมย่างไปคำหนึ่ง เธอแทบจะหลับตาลงอย่
“สวัสดีค่ะ ทั้งหมดราคาหนึ่งหมื่นสามพันหนึ่งร้อยค่ะ คุณจ่ายแค่หนึ่งหมื่นสามพันก็พอ”เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ ชูตงก็แทบเป็นลมล้มพับ เธอถามอย่างไม่อยากเชื่อ “แพงขนาดนี้เลยเหรอ? คิดเงินผิดหรือเปล่า!”เจ้าของร้านที่มีหน้าตาใจดี ยิ้มอย่างจริงใจแล้วตอบว่า “ไม่ผิดค่ะ คุณสั่งของไปเยอะมากนะคะ”ในวินาทีนั้น ชูตงรู้สึกอยากตบหน้าตัวเองอย่างแรงสักฉาดทำไมเมื่อกี้ถึงได้ปากพล่อยสั่งอาหารเพิ่มมาอีกเท่าตัวกันนะ?เงินจำนวนนี้แทบจะเท่ากับค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของเธอเลย และมันก็หายวับไปในทันที ทำเอาหัวใจเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออกชูตงมือสั่นเทาจ่ายเงินไปด้วยความยากลำบากระหว่างเดินกลับไปที่โต๊ะ ในหัวเธอเริ่มคิดวางแผนว่าจะต้องประหยัดยังไงถึงจะหาเงินมาโปะค่าอาหารมื้อนี้ได้เมื่อกลับมาถึงโต๊ะและเห็นหน้าเย่ซิว ชูตงก็โมโหขึ้นมา เธอชักสีหน้าก่อนจะเตรียมตัวเดินออกไปเย่ซิวเอ่ยอย่างใจเย็น “คุณลืมอะไรไปหรือเปล่า?”“ค่าข้าวฉันก็จ่ายแล้ว” “คุณยังต้องจูบผมอีกนะ ลืมไปแล้วเหรอ?”สีหน้าของชูตงเปลี่ยนไปทันทีเมื่อกี้เธอมัวแต่คิดเรื่องค่าอาหารจนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทหากต้องเลือกระหว่างเสียเงินกับจูบเย่ซิว เธอยอมเสียเ
ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งที่เคยดูทรงพลังและน่าเกรงขาม ตอนนี้กลับดูซูบเซียวและอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัดมันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ดันไปหาเรื่องกับเย่ซิวซึ่งเป็นตัวอันตรายเข้าหากรู้แต่แรกว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้ มันคงเลือกที่จะเงียบและทำตัวเป็นม้าโปร่งแสงไปเสียตั้งแต่ต้นวิชาแปรมังกรขั้นที่สามต้องบำเพ็ญให้เกิดกรงเล็บมังกร หางมังกร และเขามังกรขึ้นมาเย่ซิวไม่มีทางหยุดแน่นอน โอกาสแบบนี้ถ้าพลาดไปก็คงไม่มีวันหาได้อีกหนึ่งวันผ่านไป เขาก็ฝึกขั้นที่สามสำเร็จตอนนี้เขากลายเป็นมังกรทองในร่างมนุษย์ไปแล้วกรงเล็บมังกรสีทองแหลมคมราวกับสุดยอดศาสตราวุธ สามารถฉีกกระชากทุกสิ่งได้อย่างง่ายดายเขามังกรทั้งสองเส้นชี้ขึ้นฟ้า และมันไม่ได้มีไว้แค่ประดับเท่านั้นแต่มันช่วยเพิ่มการรับรู้และเร่งการดูดซับพลังจากฟ้าดินอีกด้วยส่วนหางมังกรก็มีประโยชน์ไม่น้อยมันเปรียบเสมือนแขนที่สามของเขา สามารถใช้เป็นอาวุธลับในสถานการณ์สำคัญได้และพอจะก้าวไปสู่ขั้นที่สี่ เขาก็ต้องใช้พลังงานมากกว่าขั้นที่สามถึงสิบเท่าเย่ซิวก้มลงมองม้าศึกเพลิงน้ำแข็งและพบว่าตอนนี้มันผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก คงใกล้จะหมดสภาพเต็มทีแ
เย่ซิวค้นพบว่าภายในเสาทั้งสิบสามต้นนี้ฝังอะไรบางอย่างที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ อาจเป็นค่ายกลหรืออย่างอื่นที่ซับซ้อนกว่านั้นพวกมันเชื่อมโยงกับสิ่งที่อยู่ใต้ดินและคอยดูดซับพลังจากร่างของมันจากนั้นก็ใช้พลังเหล่านั้นกดมันเอาไว้มันคล้ายกับเครื่องสูบน้ำที่ดูดน้ำจากบ่อขึ้นมาแล้วเทกลับลงไป วนเวียนเป็นวงจรซ้ำไปซ้ำมาจากนั้นเย่ซิวก็เกิดความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถแอบขโมยพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งได้หรือเปล่าหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจลองดูเจ้าแก่นี่เกือบทำให้เขาตกอยู่ใต้อำนาจมัน ถ้าไม่เอาคืนบ้างก็คงรู้สึกขัดใจไม่น้อยคิดได้ดังนั้น เย่ซิวก็วางมือลงบนเสาต้นหนึ่งก่อนจะเร่งพลังวิชาแปรมังกรทันทีศาสตร์นี้สามารถกลั่นพลังงานทุกประเภทในโลกให้เป็นของตนเองได้ทันทีที่เริ่มใช้งาน ฝ่ามือของเขาก็เกิดแรงดูดอันทรงพลังและดูดซับพลังวิญญาณบริสุทธิ์จำนวนมากจากเสาศิลาวิญญาณเสาเองก็ตอบสนองโดยการเร่งดูดพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งมากขึ้นดวงตาของเย่ซิวเปล่งประกายขึ้น พร้อมกับที่เขาพยายามรักษาสมดุลเอาไว้ในขณะที่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งถึงกับสบถออกมา พลังที่มันปลดปล่อยออกมานั้นเต
แค่เสาทั้งสิบสามต้นนี้ก็มีมูลค่ามหาศาลแล้วเทียบได้กับทรัพย์สินทั้งหมดของเย่ซิวก่อนที่เขาจะเริ่มบำเพ็ญวิชาเก้าวัจนะลึกลับเลยทีเดียว“นั่นคืออะไรน่ะ? ฉันรู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าในร่างกายเลย” พรีเอลล์จ้องมองเสาศิลาวิญญาณเหล่านั้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสับสนจากนั้นเธอก็ก้าวเดินไปข้างหน้าแต่ถูกเย่ซิวขวางเอาไว้สีหน้าของสองพี่น้องดูแปลกไปเหมือนถูกอะไรบางอย่างครอบงำในขณะที่โซเฟียกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ทั้งสิ้น“จงตื่น!”เสียงของเย่ซิวดังขึ้นเบา ๆ สองพี่น้องได้สติทันที พร้อมกับเหงื่อเย็นที่ผุดขึ้นเต็มตัว“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”“เมื่อกี้เหมือนฉันถูกควบคุมเลย”เย่ซิวใช้พลังเนตร มองทะลุผ่านพื้นลงไปสายตาของเขาค่อย ๆ เจาะลึกลงไปนับพันเมตร จนกระทั่งพบว่าที่ใต้ดินลึกลงไปมีค่ายกลขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ภายในค่ายกลนั้นขังบางสิ่งเอาไว้มันคือม้าศึกตัวหนึ่งที่สูงเกือบสองเมตร ทั้งร่างขาวโพลนราวหิมะบนหัวมีเขาเกลียวชี้ขึ้นด้านบนกีบเท้าทั้งสี่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีขาวดวงตาของมันลึกลับดุจห้วงเหวลึกทันใดนั้นเอง ม้าศึกตัวนั้นก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเย่ซิวเข้าเต็ม ๆโครม!เย่ซิวรู้สึกเ
“ข้างในมีของสำคัญสำหรับฉันมาก ฉันเข้าไปด้วยได้ไหม?”เสียงของโซเฟียไพเราะจับใจเหมือนกับเสียงน้ำพุใสกระทบหิน มีความลึกซึ้งและก้องกังวานแค่เสียงของเธอก็ทำให้ผู้ชายมากมายหัวใจเต้นแรงได้แล้วเย่ซิวมองหญิงสาวที่สวยจนดูราวกับภาพลวงตาตรงหน้า “ถ้าปล่อยให้เธอเข้าไปแล้วฉันจะได้อะไร?”“บนตัวนายมีป้ายอันหนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยร้าว เอามาให้ฉัน แล้วฉันจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิม”เย่ซิวมีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากแหวนผนึกของมันเป็นของที่ตกมาจากเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นตอนที่เขาช่วยเธอเอาไว้ตอนนั้นเขาไม่ได้สังเกตว่ามันมีค่าอะไรเลยเก็บมันไว้ก่อนจากนั้นเขาก็ยื่นมันให้โซเฟียเธอวางมันลงบนฝ่ามือ ก่อนจะกดมือทั้งสองข้างเข้าหากันแสงสีขาวสว่างออกมาจากรอยต่อของมือและคงอยู่เช่นนั้นต่อเนื่องเป็นสิบกว่าวินาทีพอเธอคลายมือออกก็มีแผ่นหยกเรืองแสงอ่อน ๆ ปรากฏอยู่ในฝ่ามือเย่ซิวรับแผ่นหยกนั้นมาแนบไว้ที่หว่างคิ้วจากนั้นก็มีข้อมูลมากมายก็ไหลทะลักเข้าสู่สมองของเขาก่อนจะปรากฏเป็นเคล็ดวิชาหนึ่งขึ้นมาในหัวเขาทันทีวิชาแปรมังกร!เป็นศาสตร์ฝึกฝนที่ลึกล้ำเป็นอย่างยิ่งตามเนื้อหาที่บันทึกไว
แค่กระบี่นี้ หากเล็งไปที่เมืองสักแห่ง เมืองนั้นคงถูกทำลายจนสิ้นในพริบตาหากฟันกระบี่นี้ออกไปอีกไม่กี่ครั้ง ประเทศจ้านฉงตี้คงได้รับความเสียหายอย่างหนักจนยากจะฟื้นตัวหรือไม่แน่ อาจถูกประเทศจ้านอิงตี้ฉวยโอกาสเข้ายึดครองไปเลยก็ได้อย่าดูแค่ภายนอกว่าทั้งสองประเทศเหมือนพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงจุดอ่อนขึ้นมา อีกฝ่ายจะต้องฉวยโอกาสกลืนกินอย่างแน่นอนเย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อยซากโบราณสถานแห่งนี้ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาจริง ๆเขาใช้วิชาอัดปราณกระบี่ไปถึงเก้าครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายมันได้เย่ซิวเก็บกระบี่หงส์โบยบิน โดยไม่สนใจคนรอบข้างที่กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเขาประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกัน แสงสีทองสว่างไสวเหมือนเปลวเพลิง ก่อนที่ร่างขนาดมหึมาจะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นด้านหลังเขาตู้ม!ตู้ม!ตู้ม!เมื่อร่างที่ทรงพลังและครอบงำทุกสิ่งจนแทบไร้เทียมทานปรากฏขึ้นท้องฟ้าอันแจ่มใสพันลี้พลันถูกปกคลุมด้วยเมฆดำมืดในทันทีไม่ต้องพูดถึงคนรอบข้างที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้เลยแม้แต่จักรพรรดิหมีเหล็ก ที่อยู่ห่างออกไปกว่าหลายมันไมล์ และกำลังชมวิดีโออยู่ ยังสัมผัสได้ถึงพลังอันหนักอึ้งและกดดันมหาศ
ร่างกายของโซเฟียเย็นเล็กน้อยสัมผัสคล้ายกับการบีบเยลลี่เมื่อเผชิญกับสายตาแข็งกร้าวของเย่ซิว เธอกลับแสดงออกอย่างสงบนิ่ง“คุณเป็นคนของโลกนี้หรือเปล่า”โซเฟียไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงแค่มองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกเคย์ฟี่ที่เห็นฉากนี้ เกิดความอิจฉาขึ้นมาเป็นครั้งแรกทำไมตัวเธอพยายามสารพัด แต่เย่ซิวกลับไม่ยอมมองเธอแม้แต่แวบเดียวขณะที่โซเฟียเพียงแค่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แต่กลับได้รับความสนใจจากทุกคน“ไม่พูดสินะ?” เย่ซิวเพิ่มแรงบีบที่ปลายคางของเธอเล็กน้อยผิวของเธอบอบบางเกินไป เพียงบีบเบา ๆ ก็เกิดรอยช้ำขึ้นมาแล้ว“ถ้าไม่พูดก็ถือว่ายอมรับ ผมจะฆ่าคุณ”เย่ซิวไม่ได้ขู่เธอในขณะนั้น ความกระหายสังหารพลันปะทุขึ้นในใจของเขาแต่ทันทีที่ความคิดฆ่าฟันเกิดขึ้น เขากลับสัมผัสได้ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากตัวหญิงสาวภายในร่างกายของเธอ มีบางสิ่งที่น่ากลัวซ่อนอยู่หากเธอเผชิญกับอันตรายจริง ๆ สิ่งนั้นจะถูกกระตุ้นออกมาเองเย่ซิวยิ้มเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือจากเธอ ความตั้งใจจะฆ่าที่แผ่ออกมาก่อนหน้านี้ก็ค่อย ๆ หายไปเขาไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเธอ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องฆ่าเธอทันทีที่เจอหน้าเย่ซิวเดินผ
ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวสุดขีด พลังของอ็อคก็พุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งแรงกดดันจากร่างกายของเขารุนแรงจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้สนับสนุนอ็อคหลายคนเผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ เมื่อเห็นว่าเขาสามารถทะลวงขีดจำกัดได้อีกครั้งภายใต้ความโกรธในตอนนี้ พลังที่แผ่ออกมาจากอ็อคเทียบเท่ากับระดับจินตานขั้นสมบูรณ์ ตัวเขาเองก็เต็มไปด้วยความดีใจสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง อ็อคเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกลับมาอยู่เหนือทุกสิ่งอีกครั้งสองข้าวิ่งทะยาน ความเร็วพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนทะลุกำแพงเสียงในพริบตาร่างของเขาพุ่งเข้าหาเย่ซิวราวกับอุกกาบาตที่ลุกไหม้เต็มไปด้วยพลังแห่งความบ้าคลั่งและไร้เทียมทานแต่แม้จะต้องเผชิญกับการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวนี้ เย่ซิวก็ยังคงยืนนิ่ง ไม่แม้แต่จะขยับจนกระทั่งอ็อคใกล้เข้ามา เขาถึงได้เอ่ยออกมาเพียงคำเดียว“หยุด!”วาจาศักดิ์สิทธิ์!อ็อคที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดก็พลันหยุดนิ่ง ถูกพลังบางอย่างตรึงร่างไว้โดยสมบูรณ์ เขาหยุดอยู่ห่างจากเย่ซิวเพียงครึ่งเมตรเท่านั้นในดวงตาของอ็อคเต็มไปด้วยความมึนงงและไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเย่ซิวยื่นมื
พลังแห่งปฐพี!พลังแห่งปฐพีในรัศมีร้อยลี้ถูกอ็อคควบคุมและรวบรวมเข้าสู่ร่างกายของเขาทำให้หมัดที่ปล่อยออกมาทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุดผู้คนรอบข้างพากันยกมือขึ้นปิดหูโดยสัญชาตญาณบางคนที่พลังอ่อนแอกว่าถึงกับเลือดไหลออกจากเจ็ดทวาร ร่างกายสั่นสะท้านจนควบคุมตัวเองไม่ได้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!ให้ความรู้สึกราวกับมีระเบิดเอชระเบิดขึ้นข้าง ๆดวงตาของอ็อคเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นและความกระหายในเลือดเขาเชื่อมั่นว่าหมัดนี้ ต่อให้เย่ซิวแข็งแกร่งแค่ไหนก็คงรับไว้ไม่ได้ และต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอนเขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเย่ซิว หวังจะเห็นความหวาดกลัวแต่เขากลับต้องผิดหวังดวงตาของเย่ซิวลึกดั่งบ่อน้ำเย็นยะเยือกที่ไม่มีจุดสิ้นสุดไม่ว่าโลกภายนอกจะโหมกระหน่ำเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เกิดระลอกคลื่นใด ๆ ได้เย่ซิวขยับแล้วมือขวากำหมัดแน่นเผชิญหน้ากับหมัดที่สามารถทำลายท้องฟ้าของอ็อค เขาใช้พลังเพียงหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้นตู้ม!สองหมัดปะทะกัน ก่อให้เกิดเสียงดังกึกก้องสะเทือนฟ้าดินจากนั้นก็เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยแต่อ็อคกลับเริ่มแตกสลายจากหมัดของตัวเอง และรอยแตกนั้นลามขึ้นไปทั
เมื่ออ็อคเข้าใกล้ แรงกดดันอันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้พูท พรีเอลล์ และเคย์ฟี่ถึงกับสะดุ้ง หายใจติดขัดราวกับต้องเผชิญหน้ากับศัตรูร้าย!"เย่ซิว! นายมาที่นี่ทำไม? ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายควรมา!"เสียงของอ็อคดังกึกก้อง ราวกับฟ้าร้อง"หลีกไป อย่ามาขวางทางฉัน"เย่ซิวพูดอย่างไม่ไว้หน้า ขณะที่ยังคงจับจ้องไปที่โซเฟียเขากำลังคาดเดาว่าเธออาจจะมาจากโลกภายนอกนี่เป็นความเป็นไปได้ที่เขาคิดว่าน่าเชื่อถือที่สุด"อวดดีนัก! อยากตายรึไง!""เย่ซิว! ที่นี่ไม่ใช่สำนักโอสถ และไม่ใช่ประเทศหลงเถิงด้วย! นายมาคนเดียว อย่าทำตัวอวดดีให้มากนัก!""ใช่! ไม่งั้นนายอาจจะไม่ได้กลับออกไปจากที่นี่!"……เหล่าผู้ติดตามของอ็อคต่างพากันล้อมเย่ซิว สีหน้าของแต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตรและความเย็นชาถ้าเป็นเมื่อสัปดาห์ก่อน พวกเขาคงไม่กล้าพูดจาแบบนี้กับเย่ซิวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วการปรากฏตัวของอ็อคทำให้พวกเขามั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้นเพราะพวกเขาเคยเห็นฝีมือของอ็อคมาก่อน จึงรู้ว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหนพวกเขามั่นใจ แม้แต่เย่ซิวมาเอง อย่างมากก็คงทำได้เพียงเสมอกันยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่