เย่ซิวหลบหมอนที่โยนมาทางเขาได้อย่างง่ายดาย พร้อมเอ่ยยิ้ม ๆ ว่า “อะไรกัน นี่วิธีที่คุณตอบแทนคนที่ช่วยชีวิตเหรอ?”“คุณพูดจาเหลวไหลอะไร…” ชูตงกำลังจะด่ากลับไป แต่คำพูดกลับหยุดชะงักกลางคันเธอจำได้ว่าเธอไปทำงานพิเศษเป็นติวเตอร์ แล้วก็ถูกนายจ้างวางยาแต่หลังจากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้อีก“คุณเป็นคนช่วยฉันไว้เหรอ?” ชูตงเอ่ยอย่างไม่แน่ใจ แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว “หรือว่าคุณคือคนที่อยู่เบื้องหลังแผนการของหมอนั่น แล้วค่อยมาช่วยฉันแบบพระเอกขี่ม้าขาว!”ต้องบอกเลยว่าเธอจินตนาการไปไกลมากทีเดียวเย่ซิวหมดคำจะพูด “ลองคิดดี ๆ เถอะว่าคุณทำงานติวเตอร์มานานแค่ไหนแล้ว ผมจะรู้จักหมอนั่นได้ยังไง?”ชูตงเริ่มใจเย็นลง งานติวเตอร์นี้เธอทำมาตั้งแต่ก่อนจะเข้าบริษัทสตาร์รี่สกายเสียอีกพอมาคิดดูดี ๆ ก็ไม่มีทางที่ทั้งสองฝ่ายจะเกี่ยวข้องกันได้แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อความมั่นใจ ชูตงก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปและปิดประตูดังปังเธอสำรวจตัวเองอย่างละเอียดในห้องน้ำจนมั่นใจว่าไม่มีร่องรอยการถูกล่วงละเมิดใด ๆ ถึงได้วางใจเธอสูดลมหายใจลึก ก่อนจะกลับออกมาข้างนอกและโค้งให้เย่ซิวอย่างตั้งใจ “ขอบคุณนะที่ช่วยฉันไว้”เย่ซ
หัวใจของเธอพลันถูกเติมเต็มด้วยความอิจฉาอย่างรุนแรงหากไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น บางทีปีหน้าเธอคงมีลูกน้อยน่ารักสักคนแล้วแต่ทั้งหมดนี้กลับหายวับไปเพราะผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอคนนี้ความโกรธแค้นในใจที่มีต่อเย่ซิวยิ่งเพิ่มพูนขึ้นทันทีกลิ่นหอมของอาหารลอยมา ของที่สั่งเริ่มทยอยนำมาเสิร์ฟเธอหยิบเนื้อแกะเสียบไม้ขึ้นมากัดเข้าไปอย่างดุดันราวกับมันคือเย่ซิวยังไงเสีย มื้อนี้เธอไม่ต้องจ่ายอยู่แล้วไม่นาน ทั้งโต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหารปิ้งย่างและเบียร์ที่วางเรียงกันอยู่ข้างเท้าเย่ซิวกินไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รีบร้อนพลางรับลมเย็นสบายริมแม่น้ำอาหารปิ้งย่างหนึ่งคำตามด้วยเบียร์หนึ่งอึก แถมตรงข้ามยังมีสาวสวยสุดเซ็กซี่นั่งอยู่ชีวิตแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าสุขสบายแค่ไหนแขกโต๊ะอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ต่างมองมาด้วยสายตาอิจฉาริษยาเพียงแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่มย่ามเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น เย่ซิวได้ปล่อยพลังบางส่วนออกมาตั้งแต่เขานั่งลงแม้ชูตงจะไม่รู้สึกถึงมัน แต่คนอื่น ๆ ต่างสัมผัสถึงพลังที่แข็งแกร่งของเย่ซิว จึงไม่มีใครกล้าทำตัวเกินขอบเขตชูตงกัดหอยนางรมย่างไปคำหนึ่ง เธอแทบจะหลับตาลงอย่
“สวัสดีค่ะ ทั้งหมดราคาหนึ่งหมื่นสามพันหนึ่งร้อยค่ะ คุณจ่ายแค่หนึ่งหมื่นสามพันก็พอ”เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ ชูตงก็แทบเป็นลมล้มพับ เธอถามอย่างไม่อยากเชื่อ “แพงขนาดนี้เลยเหรอ? คิดเงินผิดหรือเปล่า!”เจ้าของร้านที่มีหน้าตาใจดี ยิ้มอย่างจริงใจแล้วตอบว่า “ไม่ผิดค่ะ คุณสั่งของไปเยอะมากนะคะ”ในวินาทีนั้น ชูตงรู้สึกอยากตบหน้าตัวเองอย่างแรงสักฉาดทำไมเมื่อกี้ถึงได้ปากพล่อยสั่งอาหารเพิ่มมาอีกเท่าตัวกันนะ?เงินจำนวนนี้แทบจะเท่ากับค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของเธอเลย และมันก็หายวับไปในทันที ทำเอาหัวใจเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออกชูตงมือสั่นเทาจ่ายเงินไปด้วยความยากลำบากระหว่างเดินกลับไปที่โต๊ะ ในหัวเธอเริ่มคิดวางแผนว่าจะต้องประหยัดยังไงถึงจะหาเงินมาโปะค่าอาหารมื้อนี้ได้เมื่อกลับมาถึงโต๊ะและเห็นหน้าเย่ซิว ชูตงก็โมโหขึ้นมา เธอชักสีหน้าก่อนจะเตรียมตัวเดินออกไปเย่ซิวเอ่ยอย่างใจเย็น “คุณลืมอะไรไปหรือเปล่า?”“ค่าข้าวฉันก็จ่ายแล้ว” “คุณยังต้องจูบผมอีกนะ ลืมไปแล้วเหรอ?”สีหน้าของชูตงเปลี่ยนไปทันทีเมื่อกี้เธอมัวแต่คิดเรื่องค่าอาหารจนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทหากต้องเลือกระหว่างเสียเงินกับจูบเย่ซิว เธอยอมเสียเ
เย่ซิวส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะวิ่งตามชูตงไปเขาแอบใช้พลังวิญญาณเพื่อทำให้เสื้อผ้าที่เปียกน้ำแห้งในทันทีชูตงเป็นเหมือนม้าพยศ แต่เย่ซิวมั่นใจว่าตัวเองสามารถปราบเธอให้อยู่หมัดได้หลังจากเดินไปได้สักพัก เย่ซิวก็ขึ้นรถขับออกไปและทิ้งชูตงยืนอยู่ข้างถนนคนเดียวชูตงโมโหจนต้องกระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิด “ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลยสักนิด เจ้านายบ้าเอ๊ย!”บ้านก็อยู่ไกล จะขึ้นรถเมล์ยังต้องเสียเงินอีกห้าสิบบาทเป็นอีกค่าใช้จ่ายที่เธอคาดไม่ถึงอีกแล้วเย่ซิวขับรถไปพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปากผู้หญิงอย่างชูตงที่ดูเหมือนจะอ่อนหวาน แต่จริง ๆ แล้วหัวแข็งและดื้อรั้น การตามใจเธอคงไม่ได้ผลแน่มีแต่ต้องเล่นเกมสวนทางกับเธอ หรือให้เธอได้ลิ้มรสความหวานเป็นครั้งคราวบ้างถึงจะสามารถควบคุมเธอได้ ทำให้เธอยอมจำนนและทุ่มเททั้งใจเดินตามเขาไปโดยไม่มีข้อแม้……ภายในห้องของเซี่ยชิงชิงในวิลล่าเธอกำลังผสมสมุนไพรกว่าร้อยชนิดเข้าด้วยกันนี่คือสูตรยาพิษร้ายแรงที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ของสำนักเบญจพิษเมื่อผสมสำเร็จแล้ว มันจะไร้สีไร้กลิ่น ดูไม่ต่างจากน้ำเปล่าเลยสักนิดเดียวคนที่ดื่มเข้าไปจะไม่เสียชีวิตทันที แต่พิษจะค่อย
เย่ซิวคว้าผมของเซี่ยชิงชิงไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนที่จะใช้อีกมือฉวยแก้วน้ำจากมือเธอแล้วกรอกมันใส่ปากเธออย่างแรงเซี่ยชิงชิงดิ้นรนสุดชีวิต แต่ก็ไร้ผลยาพิษทั้งหมดถูกกรอกเข้าสู่ร่างกายเธออย่างหมดจดพร้อมกันนั้น เย่ซิวส่งพลังวิญญาณเข้าไปในร่างกายเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัวพลังนี้ผสมกับยาพิษ ก่อให้เกิดความปั่นป่วนในท้องของเซี่ยชิงชิงราวกับพายุในมหาสมุทร“อ๊ากกก!!!”เซี่ยชิงชิงร้องลั่น กลิ้งไปมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวดราวกับตายทั้งเป็นเธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในร่างกายของเธอเย่ซิวยืนมองเธอด้วยสายตาเย็นชา ปล่อยให้เธอทรมานอยู่สิบกว่านาที กว่จะยอมปล่อยเธอไปเซี่ยชิงชิงนอนหอบหนัก ทั่วร่างเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเมื่อเธอเงยหน้ามองเย่ซิว ความหวาดกลัวในดวงตาก็เผยออกมาแล้ว‘เขารู้หรือเปล่านะ?’ เธอคิดในใจแต่เย่ซิวกลับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“เมื่อกี้ช่วยล้างพิษในร่างกายเธอ ตอนนี้รู้สึกแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า?”เซี่ยชิงชิงลองสัมผัสพลังในตัวเอง และพบว่ามันเพิ่มขึ้นจริง ๆแม้ในใจจะเกลียดเย่ซิวจนอยากฆ่าเขา แต่เธอก็ยังต้องแสร้งทำเป็นขอบคุณเขาอย่างซาบซึ้งตอนนี้ เซี่ยชิงชิงอยู่ในสภาพท
ด้วยโอสถฟื้นฟูขนาดเล็กตัวนี้ หลางต้าจะสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ได้อย่างราบรื่น ส่วนคนอื่น ๆ อย่างน้อยก็จะสามารถไปถึงจอมยุทธ์ระดับเก้าได้ส่วนยาที่เหลืออยู่ เย่ซิวได้ให้เวินหว่านเอ๋อร์ส่งไปให้ทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาวันนี้เขาไม่ได้ไปที่ไหนเลย นั่งอยู่ในสวนสมุนไพรตลอด ตั้งหน้าตั้งตากลั่นยาโดยไม่หยุดพักทั้งวัน พร้อมทั้งดูดซับพลังวิญญาณในสวนสมุนไพรด้วยเพียงแค่หนึ่งคืน เขาก็กลั่นโอสถสำเร็จไปอีกกว่าร้อยเม็ดส่วนกระบี่พยัคฆ์เพิ่งส่งข่าวมาบอกว่าพวกเขาเดินทางถึงประเทศคาบูแล้ว และกำลังเตรียมการสอดแนมขณะที่ฝั่งของเย่ซิวก็เร่งกระบวนการกลั่นโอสถที่ช่วยเพิ่มพลังภายในและความแข็งแกร่งทางร่างกายอย่างต่อเนื่องเมื่อสามารถยึดประเทศคาบูได้แล้ว ที่นั่นย่อมต้องการยอดฝีมือไปดูแลเขาตั้งใจจะส่งกองกำลังหมาป่าราตรีไปทั้งหมด พร้อมทั้งให้ตาวหวังและหนานหวังดึงคนอีกหนึ่งร้อยคนจากลูกน้องของพวกเขาส่วนผู้นำทีม เย่ซิวได้เลือกไว้ในใจแล้ว และคนนั้นก็คือเวินหว่านเอ๋อร์เขาเรียกหลางต้ามาอีกครั้ง ก่อนจะแจกจ่ายโอสถชุดที่เพิ่งกลั่นเสร็จในโอสถชุดนี้ เขาได้เพิ่มผงศิลาวิญญาณบดละเอียดลงไปเล็กน้อย ทำให้ฤทธิ์โอสถ
ซุปเปอร์แบตเตอรี่ที่ถังเขอเข่อกำลังพัฒนาและยังไม่ได้เปิดตัวสู่ตลาดแต่เย่ซิวรู้ดีว่าเมื่อมันเปิดตัวเมื่อไร ย่อมต้องพลิกโฉมทั้งวงการอุตสาหกรรมเป็นแน่ดังนั้นเขาจึงสั่งให้คนของเขาไปซื้อกิจการบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายแห่งตั้งแต่เนิ่น ๆแต่เดิมการเจรจาก็เป็นไปได้ด้วยดี ทว่าอยู่ ๆ บริษัทเหล่านั้นกลับเปลี่ยนใจพร้อมกันโดยไม่มีการนัดหมาย และเพิ่มราคาขึ้นแบบกะทันหัน ส่งผลให้กระบวนการเข้าซื้อหยุดชะงักไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหล่าบริษัทเหล่านั้นต้องแอบสมคบกัน และหวังจะฟันกำไรจากเย่ซิวอย่างหนักวันนี้เย่ซิวจึงสั่งให้ลูกน้องเชิญผู้บริหารของบริษัทเหล่านี้มาที่นี่เพื่อเจรจาแบบรวมตัวกันในครั้งเดียวเมื่อทั้งสามคนเดินเข้ามาในห้องประชุม ห้องนั้นก็เต็มไปด้วยผู้คนส่วนใหญ่เป็นผู้ชายที่ดูมีอายุและหัวล้านกันเกือบหมดสายตาของพวกเขาถูกดึงดูดไปยังสองสาวที่งดงามจับตา ซึ่งก็คือเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์ทั้งสองคนสวยจนแทบจะทำให้คนในห้องประชุมลืมเรื่องธุรกิจไปชั่วขณะ พวกเธอเป็นเหมือนหญิงในฝันของใครหลาย ๆ คนในแวดวงนี้หลังจากนั้น ทุกคนก็หันมามองเย่ซิวแววตาพวกเขาแฝงด้วยความหลากหลาย ทั้งชื่นชมและอิจฉาพว
“ถูกต้อง ราคานี้ขายได้แค่ไม่กี่แผนกของเราเท่านั้น!”“ถ้าจะเล่นตุกติกขนาดนี้ งั้นการเจรจาซื้อขายวันนี้ก็จบแค่นี้แหละ!”ผู้บริหารบริษัททั้งห้าคนเอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดราคาที่เย่ซิวเสนอมาเหมือนกับการหั่นมูลค่าของบริษัทพวกเขาเหลือเพียงครึ่งเดียวแม้แต่เซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์เองยังตกใจ เพราะราคานี้ต่ำเกินไปจริง ๆพูดแบบไม่ไว้หน้าก็คือ เหมือนการปล้นกันมากกว่าการซื้อขายเย่ซิวปรบมือเบา ๆ ก่อนที่หลางฉือซานจะเดินเข้ามาในมือของเขาถือกล่องสีดำใบหนึ่ง เขาย่อตัวทำความเคารพเย่ซิวเล็กน้อยแล้ววางกล่องไว้บนโต๊ะ จากนั้นหันหลังเดินออกไปพร้อมปิดประตูให้สนิทเย่ซิวยกถ้วยชาขึ้นดื่มอย่างสบายอารมณ์ ก่อนเอ่ยเรียบ ๆ “เชิญทุกท่านเปิดดูข้างในกล่องได้เลย”ผู้บริหารทั้งห้าคนมองหน้ากันอย่างงุนงง ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเปิดกล่องออก ในกล่องมีวัตถุสีดำสองชิ้น ชิ้นหนึ่งมีขนาดเท่าหัวแม่มือดูบางมาก อีกชิ้นหนึ่งมีขนาดใหญ่กว่าคล้ายก้อนอิฐชิ้นเล็กมีสายสองเส้นเชื่อมต่ออยู่ ปลายอีกด้านหนึ่งมีพอร์ตเชื่อมต่อหลากหลายรูปแบบผู้บริหารเหล่านั้นมองเย่ซิวด้วยสายตาเต็มไปด้วยความสงสัยเย่ซิวเอ่ย “นี่คื
หญิงสาวเกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที “นายคิดจะไปทำธุระส่วนตัวงั้นเหรอ แบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราเป็นสหายร่วมรบกัน นายต้องพาฉันไปด้วยสิ!”“ผมจะไปจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย คุณก็ค่อย ๆ รักษาแผลตัวเองไปแล้วกันนะ ลาก่อน”พูดจบ เย่ซิวก็พังหน้าต่างออกไปพรีเอลล์วิ่งตามไปที่หน้าต่างแต่ก็มองไม่เห็นเงาของเย่ซิวแล้วสีหน้าของเธอขรึมลง จิตสังหารในตัวเธอทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงหลายสิบองศา “คอยดูเถอะไอ้สารเลว ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งฉันจะทำให้แกคายทุกสิ่งที่เคยกินไปออกมา!”เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงบ้านของอลิส เธอก็ตื่นแล้วหลังจากที่อลิสตื่นขึ้นมาและพบว่าเย่ซิวหายไป เธอก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรู้สึกจิตตกทันทีเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…ตึง! ตนเองก็รู้สึกแปลก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเย่ซิวแท้ ๆแต่เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมา เธอก็รีบวิ่งไปหาเขาทันที “นายไปไหนมา? ฉันนึกว่านายจะไปโดยไม่บอกลากันซะแล้ว”เย่ซิวยิ้มและกล่าวว่า “ผมไปทานข้าวมาน่ะ”อลิสไม่สงสัยแม้แต่น้อยพลางทำท่าทางกระอักระอ่วน “เป็นเพราะฉันดูแลไม่ดีเอง นายมีเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้ไหม หรือพวกเราควรไปซื้อตอนนี้เลยดี?”เย่ซ
พรีเอลล์เบิกตากว้าง “ฉันลืมอะไรไปเหรอ? อ้อ หรือว่านายอยากให้ฉันนอนกับนายอีกครั้ง? อย่างนั้นก็ได้ มาสิ”พูดจบเธอก็แสดงท่าทียินยอมพร้อมใจเย่ซิวยิ้มหยัน “ยังจะมาแกล้งโง่ต่อหน้าผมอีกเหรอ? เอาสร้อยคอที่คุณเก็บไว้ออกมาให้ผมตรวจดูมูลค่าของมันเถอะ”สีหน้าของพรีเอลล์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มออกมา “อันนั้น...ฉันคิดว่าการวิเคราะห์ของนายในตอนนี้คงจะสมเหตุสมผล เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน”เย่ซิวไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูเธออย่างเงียบ ๆ และบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆเหงื่อเย็นหยดหนึ่งไหลลงมาจากหน้าผากของพรีเอลล์เธอลอบกลืนน้ำลาย ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเช่นนี้ เสียงกลืนน้ำลายนั้นจึงฟังดูแสบแก้วหูเป็นพิเศษ“ก็ได้”ในที่สุด พรีเอลล์ก็ยอมแพ้และวางของลงตรงหน้าอย่างว่าง่ายเย่ซิวหยิบจี้ขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวังลองใช้พลังจิตแล้ว แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลยจากนั้นเขาได้ส่งผ่านพลังวิญญาณเข้าไป และจี้นั้นก็ปล่อยแสงอันเจิดจ้าออกมาเย่ซิวรู้สึกแสบร้อนที่ฝ่ามือ ราวกับกำลังถือดวงอาทิตย์ขนาดเล็กอยู่ก็ไม่ปานจินตานห้าสีสั่นสะเทือนขึ้นมา เย่ซิวระดมพลังธาตุไฟและส่งผ่านมันเข้าไปตัว
รอจนเย่ซิวได้ลิ้มรสความหวานและติดใจกับพลังที่เพิ่มขึ้นแล้วค่อยบอกวิชาลับอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วให้เย่ซิวถึงเวลานั้น จอมมารโลหิตก็จะสามารถใช้วิธีนี้ควบคุมเย่ซิวไว้ได้อย่างมั่นคงทั้งหมดนี้ฟังดูเหมือนจะใช้เวลานาน แต่ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้นพวกอันธพาลที่เห็นเย่ซิวนิ่งเฉยก็โกรธจัด ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่เขาในมือแต่ละคนมีท่อเหล็กพร้อมแววตาที่ฉายแววอำมหิตเย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะยกมือขวาขึ้นช้า ๆ และใช้วิชาคัมภีร์มารโลหิตทันที!ตูม! ตูม! ตูม!เกิดแรงดูดมหาศาลจากฝ่ามือของเย่ซิว เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของชายหนุ่มสิบกว่าคนที่พุ่งเข้ามาระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ อย่างน่าสยดสยองเลือดสด ๆ ไหลทะลักเข้าสู่ฝ่ามือของเย่ซิวหลังจากผ่านกระบวนการของวิชาคัมภีร์มารโลหิต มันก็แปลงสภาพกลายเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์เย่ซิวเข้าใจแล้วว่าทำไมคนในยุคโบราณจำนวนมากถึงเลือกเดินบนเส้นทางมาร เพราะมันทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี่เองเพียงแค่ไม่กี่วินาที พลังวิญญาณที่เขาได้รับมาก็เทียบเท่ากับการบำเพ็ญอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนหากเขาฆ่าคนในเมืองนี้ทั้งหมด…บางท
“ทำไมถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้? เมื่อกี้ฉันเกือบจะโดนจับได้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ…บ้าจริง”พรีเอลล์ที่อ่อนแรงในอ้อมแขนของเย่ซิวยกสองนิ้วขึ้นมาบิดที่เอวของเขาอย่างแรงถึงแม้เธอจะบาดเจ็บสาหัส แต่แรงบิดของเธอก็ยังเจ็บเอาเรื่องไม่น้อยเย่ซิวยิ้มบาง ๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะอะไร? หรือไปเจอคนใจบุญช่วยไว้ล่ะ”พรีเอลล์เบือนหน้าไปอีกทาง เธอไม่มีทางยอมบอกหรอกว่า ก่อนหน้านี้เธอเกือบถูกจับได้ แต่ในจังหวะคับขันกลับถูกเลสเบี้ยนคนหนึ่งลากเข้าห้องน้ำไปและโดนผู้หญิงคนนั้นลวนลามไปไม่น้อยเลยถ้าพูดออกไปคงถูกเย่ซิวล้อไม่หยุดแน่“ช่างมัน รีบไปกันเถอะ”เย่ซิวพยุงตัวพรีเอลล์ขึ้นและพาเธอเดินออกจากบาร์ต่อไปยังมีเรื่องที่ต้องจัดการคือการแบ่งสมบัติจากการต่อสู้ครั้งนี้อีกในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพรีเอลล์หนีจากหน่วยรบเขี้ยวพิษจำนวนมากได้อย่างไรทั้งที่เธอบาดเจ็บจากระเบิดและพลังที่เหลืออยู่ก็ลดลงเกือบครึ่ง การหนีรอดออกมาน่าจะเป็นเรื่องยากยิ่งไปกว่านั้น จากสภาพของเธอดูเหมือนจะไม่มีใครจับได้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ ทำให้เย่ซิวยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกทั้งสองเดินออกจากบาร์ก่อนจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังมา
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ