พวกเขาอยากจะออกจากความมืดไปสู่แสงสว่างมานานแล้ว แต่คำว่าไม่มีโอกาสขัดขวางพวกเขาไว้ ตอนนี้ ในที่สุดพวกเขาก็สมหวังตามความปรารถนาแล้วรากฐานของตระกูลสวีนั้นลึกซึ้งกว่าของตระกูลเย่ที่ตกต่ำเป็นอย่างมาก!ราชาทั้งสองพูดพร้อมกัน "พวกเราจะทุ่มสุดตัวเพื่อตระกูลสวีครับ!"สวีอิงยิ้ม "ต่อไปงานหลักจองพวกคุณคือจับตาดูเย่ซิวและรายงานทุกการเคลื่อนไหวของเขาทุกฝีก้าวส่วนเงินทุนสำหรับแผนนี้ ผมจะโอนให้พวกคุณก่อนสองพันล้าน”ราชาทั้งสองยอมรับข้อเสนอสวีอิงจิบชาพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยม "เย่ซิว แกจะเอาอะไรมาสู้กับฉัน? อยู่รอดให้ถึงเดือนก่อนเถอะ"……“เฮ้อ ในที่สุดก็ช่วยชีวิตเธอไว้ได้”ภายในวิลล่า เย่ซิวปาดเหงื่อ และมองไปที่เวินหว่านเอ๋อร์ที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าซีด แล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอกในห้องเปิดแอร์ไว้ที่ยี่สิบเจ็ดองศา ไม่เช่นนั้นเวินหว่านเอ๋อร์ที่เหลือเสื้อผ้าเพียงน้อยนิดและร่างกายอ่อนแอเช่นนี้คงทนไม่ไหวแน่หลังจากพยายามช่วยเหลือนานกว่าสองชั่วโมง เธอก็ถูกดึงขึ้นมาจากเหวแห่งความตายจากนั้นเขาก็ใช้ครีมผิวหยกที่เพิ่งผสมไว้ก่อนหน้านี้ทาลงแผลไฟไหม้ทั่วร่างกายของ
เวินหว่านเอ๋อร์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและมองไปที่เพดาน รู้สึกสับสนอยู่พักหนึ่งความเจ็บปวดสาหัสที่พุ่งออกมาจากร่างกายของเธอทันทีทำให้ความทรงจำของเธอหลั่งไหลกลับมาราวกับกระแสน้ำ“ฉัน… ยังไม่ตาย”“คุณโชคดีแล้วที่ได้เจอกัน”เย่ซิวนั่งอยู่บนขอบเตียง เขาจับมือที่เย็นเฉียบของเธอพลางส่งกำลังภายในเข้าไปหล่อเลี้ยง 'สภาพ' ไร้ชีวิตของเธอ และถามว่า "เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"เวินหว่านเอ๋อร์หันไปมองเย่ซิวและฝืนเหยียดยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้ "ฉันถูกหักหลัง..."เธอบอกเย่ซิวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเดิมที่เธอคิดว่าเย่ซิวจะตำหนิเธอ แต่หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวแล้วเขาก็ยังคงสงบ "ไม่จำเป็นต้องกังวล แค่ดูแลตัวเองให้หายดีก็พอ"เวินหว่านเอ๋อร์ตกตะลึง "คุณไม่โทษฉันเหรอ? ถ้าฉันระมัดระวังมากกว่านี้ เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น"เย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ตราบใดที่คุณหายดี ถ้าคุณหายดีเมื่อไหร่ผมจะพาคุณไปทวงของของคุณคืน"บางทีอาจเป็นเพราะอาการบาดเจ็บและความอ่อนแอของเธอ เวินหว่านเอ๋อร์รู้สึกอ่อนไหวและซาบซึ้งได้ง่าย ๆ ในตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ซิว เธอก็รู้สึกสะเทือนใจ ดวงตาของเธอเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา และส่งเสียงส
“พี่สาว?”ไป๋อวี้เจี๋ยรู้สึกประหลาดใจและดีใจ เธอตอบกลับอย่างรวดเร็วเย่ซิวไม่ได้พูดว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครั้งที่แล้วตอนที่เธอหมดสติที่โรงแรมสำหรับไป๋อวี้เตี๋ย ในช่วงนี้เธอประพฤติตัวค่อนข้างดี ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ แต่วันนี้จู่ ๆ ก็ติดต่อเธอมาไป๋อวี้เจี๋ยมีเรื่องมากมายที่จะพูดกับพี่สาวคนนี้ ซึ่งเธอไม่ได้เจอมาหลายปีแล้วดังนั้นเมื่อไป๋อวี้เตี๋ยชวนเธอไปพบ เธอจึงไม่ลังเลและไปทันทีเธอเปลี่ยนชุดแล้วออกไปในความมืด มียอดฝีมือหญิงหลายคนแอบติดตามเธออยู่เฉิงเฟิงนำยอดฝีมือมามากมาย เขาจัดให้มีผู้คุ้มกันสำหรับผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเย่ซิวได้คนละสามคนไป๋อวี้เจี๋ยมาที่ร้านกาแฟสุดหรูและได้พบกับพี่สาวของเธอ ซึ่งค่อนข้างจะคล้ายกับเธอ แต่มีรูปร่างที่ดีกว่าและดูอ่อนกว่าวัย“พี่สาว ฉันคิดถึงพี่มากเลย”ไป๋อวี้เจี๋ยรีบวิ่งเข้าไปกอดเธอไป๋อวี้เตี๋ยตบหลังเธอเบา ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "นั่งสิ"สองสาวนั่งลง และไป๋อวี้เจี๋ยก็พูดคุยกันโดยถามว่าไป๋อวี้เตี๋ยอยู่ที่ไหนและทำอะไรตลอดหลายปีที่ผ่านมาอันที่จริงเธอไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับพี่สาวของเธอเลยไป๋อวี้เตี๋ยจิบกาแฟพลางตอบคำถามน้องสาวของเธอกลับมา
เซี่ยซิ่วซิ่วได้คำนวณทรัพย์สินที่ได้รับจากตระกูลเย่แล้วทรัพย์สินด้านอสังหาริมทรัพย์มีเกินกว่าหนึ่งล้านสองแสนล้านบาท ในขณะที่บัญชีรวมของบริษัทเงินสดมีมากกว่าห้าล้านหกแสนล้านบาทก่อนอื่น ให้เซี่ยซิ่วซิ่วจัดสรรเงินสามแสนล้านบาทเพื่อชำระคืนเงินที่เหลือสำหรับการซื้อที่ดินบัญชีบริษัทสตาร์รี่สกายและเงินสดในมือของเขารวมกันมีมูลค่ารวมกว่าล้านล้านบาทนอกจากนี้ยังมีอีกมากกว่าล้านล้านบาทที่เฉิงเฟิงนำมาด้วยการลงทุนในระยะเริ่มแรกของการสร้างสวนเครื่องยาสมุนไพรน่าจะเพียงพอแล้วสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับการซื้ออุปกรณ์และการจ้างผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ เขาจะพูดเรื่องนี้ทีหลังขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้นเย่ซิวหรี่ตาลงมองไปที่หมายเลขผู้โทรเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดโดยปกติแล้วหากมีบอดี้การ์ดโทรหาเขา แสดงว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นเขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และเสียงบอดี้การ์ดที่อยู่ปลายสายก็ดังขึ้น “เจ้านาย แย่แล้วค่ะ มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูคล้ายกับคุณไป๋ พาเธอออกไปแล้ว”เสียงของเย่ซิวแผ่วเบา "เข้าใจแล้ว ดูแลตัวเองด้วย"หลังจากวางสายแล้ว เย่ซิวก็ออกไปตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งล่
เบื้องหน้ามีชายหนุ่มคนหนึ่งลงมาจากรถเมื่อเห็นเขา ไป๋อวี้เตี๋ยก็นึกถึงความอัปยศอดสูในตอนนั้นทันที และเส้นเลือดแดงก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอเธอไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะจัดการกับผู้ชายที่ทำลายวิทยายุทธในอนาคตของเธอ ไม่คิดเลยว่าเขาจะมาหาเธอถึงที่เธอลดกระจกรถลงแล้วพูดกับบอดี้การ์ดที่ออกมาจากรถหลายคันที่อยู่ข้างหลังเธอว่า "หักแขนหักขาแล้วโยนเขาลงน้ำไปซะ"บอดี้การ์ดที่ทรงพลังหลายสิบคนออกมาจากรถ กลิ่นอายสังหารของพวกเขากระจายไปทุกทิศทางไป๋อวี้เจี๋ยลืมตาขึ้น เมื่อได้เห็นเย่ซิว ดวงตาของเธอก็เป็นประกายสว่างไป๋อวี้เตี๋ยถอนหายใจอย่างเหยียดหยาม"อย่าฝากความหวังไว้กับเขาเลย เขาจะไม่มีวันรอดไปได้แน่ เพราะพี่สาวของเธอคนนี้... เป็นปรมาจารย์ได้แล้ว!"ทันทีที่สิ้นสุดเสียง กลิ่นอายของความเป็นปรมาจารย์ก็ปะทุขึ้นหัวใจของไป๋อวี้เจี๋ยสั่นไหว แต่เธอยังคงมองเย่ซิวด้วยดวงตาที่เร่าร้อนเธอเชื่อว่าผู้ชายที่เธอชอบสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอนเย่ซิวลงจากรถพร้อมกับมือที่ล้วงกระเป๋ากางเกงยอดฝีมือหลายสิบคนเดินมาเผชิญหน้ากับเขา ขมับของพวกเขานูนสูง และเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งอย่างไรก็ตาม ต่อหน้าเย่ซิว พ
“เธอเป็นผู้หญิงของฉัน ใครกล้าทำร้ายเธอ ฉันจะทำให้มันคนนั้นนึกเสียใจที่เกิดมาในโลกนี้!”เย่ซิวเป็นคนค่อนข้างหัวโบราณเนื่องจากทั้งสองคนได้ทำสิ่งที่ใกล้ชิดกันอย่างที่สุดไปแล้ว เธอจึงกลายเป็นผู้หญิงของเขาโดยธรรมชาติเมื่อไป๋อวี้เจี๋ยได้ยินคำพูดเผด็จการของเย่ซิวหัวใจของเธอก็สั่นไหว ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่สนใจสิ่งใด และเข้าสวมกอดเย่ซิวจากด้านหลังไป๋อวี้เตี๋ยเหยียดยิ้มขมขื่น ไม่แน่ใจว่าทำไมภาพนี้ถึงทำให้เธออิจฉาเธอหลับตาแล้วพูดว่า "ผู้ชนะคือราชา ผู้แพ้คือโจรก็แค่นั้น ถ้าอยากจะฆ่าก็ฆ่าเสียเลยสิ"เย่ซิวยกฝ่ามือขึ้นเตรียมจะจัดการเธอ"อย่านะ..."ไป๋อวี้เจี๋ยปล่อยเขา จับแขนเย่ซิวแล้วพูดทั้งน้ำตา "ยังไงแล้วเธอเป็นพี่สาวของฉัน คุณช่วยปล่อยเธอไปได้ไหม?"เย่ซิวชะงักเล็กน้อย เขามองดูไป๋อวี้เจี๋ยผู้น่าสงสาร และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก "นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย"ไป๋อวี้เจี๋ยเปลี่ยนจากน้ำตาเป็นเสียงหัวเราะ "ขอบคุณค่ะ นายท่านของฉัน"คำนี้ "นายท่าน" นี้ทรงพลังมากจนเกือบทำให้เย่ซิวเสียสติและอาจตายได้ทันทีเขาโอบไหล่เธอแล้วพูดว่า "กลับบ้านกันเถอะ"ไป๋อวี้เจี๋ยเหลือบมองพี่ส
ในเวลานี้ ผู้หญิงที่ดูเป็นผู้นำแสนเผด็จการมีท่าทีไม่พอใจหลังจากที่เห็นเย่ซิว“เรียกคนให้มาจากที่ไกล ๆ แถมไม่มารับฉันด้วย ที่แท้ก็เดตอยู่กับสาวสวยนี่เอง”เย่ซิวประหลาดใจและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "บังเอิญจังเลยนะครับ ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอคุณที่นี่"ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลินซวงนั่นเองเย่ซิวชี้ไปที่ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดว่า "ไป๋อวี้เจี๋ย นี่หลินซวง"ไป๋อวี้เจี๋ยปล่อยแขนเย่ซิว ก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดด้วยท่าทางสง่ามั่นใจ "สวัสดีค่ะ คุณหลิน ฉันชื่นชมชื่อเสียงของคุณมานานแล้ว ราชินีแห่งอสังหาริมทรัพย์คนใหม่"หลินซวงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ไป๋อวี้เจี๋ยรู้จักเธอ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยื่นมือออกมาไปและพูดว่า "สวัสดีค่ะ คุณไป๋"“ไหน ๆ เราก็ได้เจอกันแล้ว เดินไปคุยไปกันดีกว่าค่ะ”หลินซวงหยิบเอกสารกองหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเขาและมอบให้เย่ซิว "เอกสารนี้ คนหลายร้อยคนในบริษัทฉันทำขึ้นมาในชั่วข้ามคืนก่อนที่ฉันจะมาที่นี่ คุณลองดูก่อนสิ"เย่ซิวรับมาและอ่านดูอย่างตั้งใจนี่เป็นแผนที่ละเอียดมากและยังมีการออกแบบสวนเครื่องยาสมุนไพรสามแบบให้เย่ซิวได้เลือกใช้อย่างไรแล้วก็เป็นต้นทุนกา
เมื่อหลินซวงมาถึงบ้านของเย่ซิว เธอก็ตกใจอีกครั้งนอกจากไป๋อวี้เจี๋ยแล้ว ยังมีสาวงามที่มีเสน่ห์อีกสี่คนอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยหลิ่วเมิ่งอิ๋นมีบุคลิกภาพที่เรียบง่าย แต่คุณสมบัติของเธอนั้นน่าทึ่งมากหลิวอวิ้นมีเสน่ห์เหลือล้น ชนิดที่ทำให้คนอยากอยู่ด้วยจนไม่อยากจากไปลู่เสวี่ยเอ๋อร์มีความงามที่น่าทึ่ง มีบุคลิกสง่างาม เหมือนกับเจ้าหญิงเซี่ยซิ่วซิ่วเป็นหญิงสาวสูงศักดิ์แสนสง่างาม ทั้งสวยและมีความสามารถนอกจากไป๋อวี้เจี๋ยแล้ว ห้าสาวงามนี้ยังสามารถเหล่าคุณชายจากตระกูลมั่งคั่งแห่กันเข้าหาพวกเธอราวกับฝูงเป็ดแต่ตอนนี้พวกเธอทั้งหมดอาศัยอยู่ในบ้านของเย่ซิวถ้าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปเกรงว่าจะทำให้อิจฉาจนคลั่งเลยน่ะสิหลินซวงเข้าใจความแข็งแกร่งของเย่ซิวดีสำหรับผู้หญิงคนอื่น ๆ ในห้อง การมาถึงของหลินซวงทำให้พวกเธอต้องแอบระวังเย่ซิวเป็นเพียงคนเดียว และถ้าเธอยากจะอยู่นานกว่านี้ เธอจะต้องเอาชนะผู้หญิงที่เหลือดังนั้นหลินซวงที่เพิ่งมาถึงจึงรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่แผ่นหลังของเธอโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าวันรุ่งขึ้นหลินซวงเริ่มงานก่อสร้างเธอยังมีอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในเมืองหลวงด้วย โครงก
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ
“บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?!”ผู้รับผิดชอบฐานลับถอยออกมาจากวงต่อสู้ยืนมองเย่ซิวกับพรีเอลล์ที่กำลังถล่มศัตรูอย่างดุเดือด ทำให้ใจเขารู้สึกสั่นสะท้านแต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมทันที “ยังไงซะ พวกแกก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้เลย”สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ปุ่มอีกอันหนึ่งที่พกติดตัวอยู่ปุ่มนี้คือสวิตช์สำหรับทำลายล้างตัวเองของฐานลับนี้!ใต้ดินมีการฝังระเบิดจำนวนมากไว้ เมื่อกดปุ่มจะเกิดการระเบิดที่รุนแรงจนสามารถเขย่าฟ้าสะเทือนดินได้เขาประเมินสถานการณ์ในใจด้วยพลังการต่อสู้ที่สองคนนี้แสดงออกมา แม้ระเบิดทั้งหมดจะถูกจุดชนวนก็อาจจะยังไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้แต่ถึงตายก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เก็บเกี่ยวเลยอย่างน้อยแค่เก็บตัวอย่างเลือดหรือชิ้นส่วนเนื้อเยื่อมาเพื่อการวิจัยก็เพียงพอแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็หันหลังวิ่งออกไปทันทีก่อนจะขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เขาเร่งเครื่องจนสุด ขี่ออกไปด้วยความเร็วสูงจนเสียงเครื่องยนต์คำรามก้อง เมื่ออยู่ห่างออกมาราวยี่สิบกิโลเมตรแล้ว เขาก็หยิบสวิตช์ระเบิดขึ้นมากดอย่างแรงตูม! ตูม! ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบ
พรีเอลล์เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้คิดจะแย่งสร้อยไปจากเธอจึงแอบถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากใต้หน้ากากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตูม!ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งเรือก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาคมป้องกันด้านนอกถูกทำลายลงแล้วและก็เป็นจังหวะที่พวกเขาหาของมีค่าทั้งหมดในห้องเสร็จพอดีเย่ซิวโยนหอกยาวเล่มหนึ่งให้พรีเอลล์ ส่วนตัวเองก็คว้าหอกอีกเล่มเอาไว้ก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกันพวกเขาเจอกับกลุ่มทหารชุดแรกที่เพิ่งบุกเข้ามาทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ทันทีโดยไม่มีคำพูดใด ๆ “พวกแกเป็น…”“อ๊าก!!”ทั้งสองพุ่งเข้าใส่โดยไม่รอให้ใครพูดจบเสียงไซเรนดังสนั่นไปทั่วด้านนอกทหารฝีมือดีจำนวนมากรีบวิ่งเข้ามาพร้อมใช้อาวุธในมือยิงโจมตีไม่ยั้งชายชราในกลุ่มผู้บังคับบัญชาผู้มีผมสีขาวแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์มองพวกเขาด้วยสายตาตื่นตะลึง “เป็นไปได้ยังไง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมในเรือถึงยังมีคนรอดชีวิตได้?”ผู้รับผิดชอบฐานลับร้องตะโกนพลางถอยหลัง พร้อมกับหยิบอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนภัยออกมากดอย่างแรง“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ แม้ต้องสละชีวิตก็ต้องหยุดพวกมันไว้ พวกมันอาจมีความลับเกี่ยวกับการมีชีวิตอมตะก็เป็นได้”พวกเ
เย่ซิวใช้เวลาสองสามนาทีในการถอดรหัสอักขระบนประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องเป็นคนแรกทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางห้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดสั้นแทงเข้าไปในท้องของอีกคน ส่วนอีกคนก็เสียบมือทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอพรีเอลล์รีบวิ่งไปดูใกล้ ๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียดผู้หญิงทั้งสองคนดูสวยมาก และจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเจ้าหญิงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงแผ่รัศมีความสง่างามตามธรรมชาติออกมา“นี่มันอะไรกัน?”พรีเอลล์หยิบของที่คล้ายเข็มทิศออกมาจากมือของผู้หญิงคนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยอักขระที่ซับซ้อนเย่ซิวเหลือบมองแค่ครั้งเดียวก็เอ่ยขึ้น “นี่น่าจะเป็นศูนย์ควบคุมของทั้งเรือลำนี้คาดว่าตอนที่เจ้าของเรือลำนี้ถูกเล่นงาน และตอนที่กำลังจะตาย เขาน่าจะเปิดใช้งานอาคมของเรือ ทำให้เรือล่มทั้งลำไปพร้อมกัน”พรีเอลล์มองเขาด้วยสายตาชื่นชม ดวงตาเป็นประกาย “ว้าว นายนี่เก่งจริง ๆ สุดยอด ฉันชอบนายมากเลย”เย่ซิวยังคงสีหน้าราบเรียบ “ประจบไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงของที่ได้มาก็ต้องแบ่งตามที่ตกลงกันไว้”เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ถึงแ
ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก“โชคดีมากที่เจอวัสดุแบบนี้”หลังจากเปิดห้องติดต่อกันสิบกว่าห้องโดยไม่มีอะไรเลย ในที่สุดเย่ซิวก็พบของในห้องหนึ่งที่ดูหรูหรากว่าห้องอื่น ๆเจ้าของห้องนี้น่าจะมีสถานะค่อนข้างสูงดูได้จากขนาดห้องและการตกแต่งภายในเจ้าของห้องเป็นชายวัยกลางคน บนนิ้วมีแหวนผนึกของสวมอยู่แต่แหวนนี้มีขนาดเล็กกว่าแหวนของเย่ซิว มีพื้นที่เพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่านั้นในแหวนผนึกของมีอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่หลายชิ้นและยังมีวัสดุอีกจำนวนไม่น้อย โดยของที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือแร่สีเหลืองดินขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งแร่ชนิดนี้เป็นวัสดุสำคัญมากชนิดหนึ่งในการหลอมสร้างร่างแยกธาตุดินพรีเอลล์มองแหวนผนึกของด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยด้วยสายตาปิ๊ง ๆ “ให้ฉันได้ไหม”“ไว้ค่อยคุยกันตอนออกไปข้างนอก” เย่ซิวตอบแบบขอไปที ของล้ำค่าแบบนี้จะให้เธอได้ยังไงล่ะ?หากมีแหวนผนึกของแบบนี้มากขึ้น ในอนาคตเวลามีการต่อสู้ เขาจะสามารถแอบส่งอุปกรณ์พวกนี้ไปที่สนามรบได้โดยไม่มีใครรู้และปล่อยออกมาในครั้งเดียวโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว รับรองได้เลยว่าจะทำให้ศัตรูประหลาดใจอย่างแน่นอน“ไม่เอาน่า เอามาให้ฉันเถอะนะ” พรีเอลล์เอ่