บุคคลที่ที่ปรึกษาให้ไปจัดการวางทุ่นระเบิดนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของหนานหวังมานานแล้วในห้องส่วนตัว ที่ปรึกษายืนขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ"เวินหว่านเอ๋อร์กำลังจะพยักหน้า แต่จู่ ๆ ความรู้สึกถึงวิกฤตอันรุนแรงก็แล่นเข้ามาในหัวใจของเธอนี่คือความสามารถที่เธอได้มาในฐานะจอมยุทธระดับเจ็ดร่างกายของเธอเริ่มหมุนเวียนกำลังภายในอันทรงพลัง และกระจายไปทั่วร่างกายโดยสัญชาตญาณเมื่อการหมุนเวียนพลังใกล้จะเสร็จสิ้น เปลวเพลิงก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าในขอบเขตการมองเห็นของเธอ และเสียงระเบิดในหูเกือบจะทำให้แก้วหูของเธอแตกตู้ม ตู้ม ตู้ม!ลานบ้านไร่ทั้งหมดถูกระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ!ตาวหวังและหนานหวังจ้องมองอย่างตั้งใจไปที่เปลวเพลิงที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นก็เห็นเงาดำพุ่งออกมาจากด้านในตาวหวังตะโกน "ตามไป!"“อย่าปล่อยให้นางนั่นหนีไปได้!”ทั้งสองคนรีบออกไปก่อน ตามมาด้วยยอดฝีมือกลุ่มใหญ่ที่อยู่ข้างหลังพวกเขา"อัก!"ในขณะที่เวินหว่านเอ๋อร์ที่กำลังวิ่งอยู่นั้น เธอก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก และการมองเห็นของเธอก็มืดลงเสื้อผ้าของเธอขาดรุ่งริ่ง และผิวหนังที่เผยออกมาก็ไหม้เกรียมเป
ไม่นานหลังจากนั้นเย่ซิวก็ได้เมล็ดพันธุ์สมุนไพรมาหลายชนิดแน่นอนว่านี่ยังไม่เพียงพอ ระหว่างที่สาว ๆ ช้อปปิ้ง เขาเองก็ซื้อของระหว่างทางบ้างนิดหน่อยเช่นกัน “หืม? นี่มัน!”ตอนที่เย่ซิวกำลังจะเดินออกไป สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นร้านค้าแห่งหนึ่งที่แผงขายด้านนอกมีสมุนไพรที่ค่อนข้างเหี่ยวและมีสีเหลืองรูปร่างของใบไม้นั้นคล้ายงู วางอยู่ตรงนั้นอย่างระเกะระกะเย่ซิวเหลือบมองอีกสองสามครั้งและรู้สึกดีใจมากเขาจำที่มาของสมุนไพรนี้ได้ มันเรียกว่า 'ว่านทีฆชาติ'[footnoteRef:0] [0: ทีฆชาติ' หมายถึง งู] นี่เป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในการปรับแต่งโอสถฟื้นฟู ซึ่งเขาเคยเห็นในหนังสือเท่านั้นโอสถฟื้นฟูขนาดเล็กสามารถเพิ่มพลังของจอมยุทธได้เป็นเวลาสิบปีคนหนึ่งสามารถกินได้ถึงห้าเม็ดแม้ว่าฤทธิ์จะลดลงตามจำนวนครั้งที่กินเข้าไป แต่หลังจากกินไปห้าเม็ดแล้ว ก็ยังสามารถเพิ่มพลังได้อีกยี่สิบห้าปีหากเย่ซิวสามารถกลั่นโอสถฟื้นฟูขนาดเล็กจำนวนมากได้และกระจายข่าวออกไป เหล่าจอมยุทธ์ในยุทธภพนับไม่ถ้วนจะมาขอเข้าร่วมกับเขาเขาเดินเข้าไปถามเจ้าของร้านโดยไม่พูดเรื่องอื่นไร้สาระ "เครื่องยาสมุนไพรนี่ขายยังไงครับ?"เจ
“นี่ นี่มัน นี่มัน...”เมื่อเห็นว่าอาการที่เรื้อรังมานานบนขาขวาของตนมลายหายไปแล้ว เจ้าของร้านก็กระทืบเท้าอย่างแรง รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากเขาคุกเข่าลงต่อหน้าเย่ซิวด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า และก้มหัวลงกับพื้นพูดว่า "ขอบคุณผู้มีพระคุณสำหรับความเมตตานี้!"เย่ซิวยืนขึ้นและรับคำขอบคุณอย่างสุขุม"ครับ ลุกขึ้นเถอะ"เจ้าของร้านค่อย ๆ ลุกขึ้น และทัศนคติของเขาที่มีต่อเย่ซิวนั้นก็เปลี่ยนไปอย่างกับหน้ามือเป็นหลังมือ เขามีความเคารพอย่างมาก "ผู้มีพระคุณ ไม่ว่าคุณจะต้องการเครื่องยาสมุนไพรอะไรเท่าไหร่ ฉันจะจัดหาให้คุณ ส่วนสมุนไพรในร้านนี้ทั้งหมดฉันขอยกให้คุณเลยแล้วกัน”หลังจากถามแล้วเขาจึงรู้ว่าเบื้องหลังเจ้าของร้านคนนี้มีทีมรวบรวมสมุนไพรมากกว่าห้าสิบคน พวกเขามีประสบการณ์มากมายและมักจะขุดแต่ของดี ๆเย่ซิวขอหมายเลขโทรศัพท์ของเขาและซื้อทุกอย่างที่เขาชอบในร้าน รวมถึงว่านทีฆชาติด้วยว่านทีฆชาตินี้ดูภายนอกนั้นเหมือนจะเหี่ยวตายอยู่แล้ว แต่เขามีทักษะลับเฉพาะที่สามารถคืนชีพให้ว่านนี้ได้หลังจากเดินซื้อของรอบ ๆ ก็มีถุงใบใหญ่ทั้งหมดหกใบ โดยที่สาว ๆ ทั้งสามคนถือถุงกันคนละสองใบ ในขณะที่เย่ซิวนั้นไม่ได้ถืออะไรเ
พวกเขาอยากจะออกจากความมืดไปสู่แสงสว่างมานานแล้ว แต่คำว่าไม่มีโอกาสขัดขวางพวกเขาไว้ ตอนนี้ ในที่สุดพวกเขาก็สมหวังตามความปรารถนาแล้วรากฐานของตระกูลสวีนั้นลึกซึ้งกว่าของตระกูลเย่ที่ตกต่ำเป็นอย่างมาก!ราชาทั้งสองพูดพร้อมกัน "พวกเราจะทุ่มสุดตัวเพื่อตระกูลสวีครับ!"สวีอิงยิ้ม "ต่อไปงานหลักจองพวกคุณคือจับตาดูเย่ซิวและรายงานทุกการเคลื่อนไหวของเขาทุกฝีก้าวส่วนเงินทุนสำหรับแผนนี้ ผมจะโอนให้พวกคุณก่อนสองพันล้าน”ราชาทั้งสองยอมรับข้อเสนอสวีอิงจิบชาพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยม "เย่ซิว แกจะเอาอะไรมาสู้กับฉัน? อยู่รอดให้ถึงเดือนก่อนเถอะ"……“เฮ้อ ในที่สุดก็ช่วยชีวิตเธอไว้ได้”ภายในวิลล่า เย่ซิวปาดเหงื่อ และมองไปที่เวินหว่านเอ๋อร์ที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าซีด แล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอกในห้องเปิดแอร์ไว้ที่ยี่สิบเจ็ดองศา ไม่เช่นนั้นเวินหว่านเอ๋อร์ที่เหลือเสื้อผ้าเพียงน้อยนิดและร่างกายอ่อนแอเช่นนี้คงทนไม่ไหวแน่หลังจากพยายามช่วยเหลือนานกว่าสองชั่วโมง เธอก็ถูกดึงขึ้นมาจากเหวแห่งความตายจากนั้นเขาก็ใช้ครีมผิวหยกที่เพิ่งผสมไว้ก่อนหน้านี้ทาลงแผลไฟไหม้ทั่วร่างกายของ
เวินหว่านเอ๋อร์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและมองไปที่เพดาน รู้สึกสับสนอยู่พักหนึ่งความเจ็บปวดสาหัสที่พุ่งออกมาจากร่างกายของเธอทันทีทำให้ความทรงจำของเธอหลั่งไหลกลับมาราวกับกระแสน้ำ“ฉัน… ยังไม่ตาย”“คุณโชคดีแล้วที่ได้เจอกัน”เย่ซิวนั่งอยู่บนขอบเตียง เขาจับมือที่เย็นเฉียบของเธอพลางส่งกำลังภายในเข้าไปหล่อเลี้ยง 'สภาพ' ไร้ชีวิตของเธอ และถามว่า "เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"เวินหว่านเอ๋อร์หันไปมองเย่ซิวและฝืนเหยียดยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้ "ฉันถูกหักหลัง..."เธอบอกเย่ซิวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเดิมที่เธอคิดว่าเย่ซิวจะตำหนิเธอ แต่หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวแล้วเขาก็ยังคงสงบ "ไม่จำเป็นต้องกังวล แค่ดูแลตัวเองให้หายดีก็พอ"เวินหว่านเอ๋อร์ตกตะลึง "คุณไม่โทษฉันเหรอ? ถ้าฉันระมัดระวังมากกว่านี้ เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น"เย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ตราบใดที่คุณหายดี ถ้าคุณหายดีเมื่อไหร่ผมจะพาคุณไปทวงของของคุณคืน"บางทีอาจเป็นเพราะอาการบาดเจ็บและความอ่อนแอของเธอ เวินหว่านเอ๋อร์รู้สึกอ่อนไหวและซาบซึ้งได้ง่าย ๆ ในตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ซิว เธอก็รู้สึกสะเทือนใจ ดวงตาของเธอเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา และส่งเสียงส
“พี่สาว?”ไป๋อวี้เจี๋ยรู้สึกประหลาดใจและดีใจ เธอตอบกลับอย่างรวดเร็วเย่ซิวไม่ได้พูดว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครั้งที่แล้วตอนที่เธอหมดสติที่โรงแรมสำหรับไป๋อวี้เตี๋ย ในช่วงนี้เธอประพฤติตัวค่อนข้างดี ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ แต่วันนี้จู่ ๆ ก็ติดต่อเธอมาไป๋อวี้เจี๋ยมีเรื่องมากมายที่จะพูดกับพี่สาวคนนี้ ซึ่งเธอไม่ได้เจอมาหลายปีแล้วดังนั้นเมื่อไป๋อวี้เตี๋ยชวนเธอไปพบ เธอจึงไม่ลังเลและไปทันทีเธอเปลี่ยนชุดแล้วออกไปในความมืด มียอดฝีมือหญิงหลายคนแอบติดตามเธออยู่เฉิงเฟิงนำยอดฝีมือมามากมาย เขาจัดให้มีผู้คุ้มกันสำหรับผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเย่ซิวได้คนละสามคนไป๋อวี้เจี๋ยมาที่ร้านกาแฟสุดหรูและได้พบกับพี่สาวของเธอ ซึ่งค่อนข้างจะคล้ายกับเธอ แต่มีรูปร่างที่ดีกว่าและดูอ่อนกว่าวัย“พี่สาว ฉันคิดถึงพี่มากเลย”ไป๋อวี้เจี๋ยรีบวิ่งเข้าไปกอดเธอไป๋อวี้เตี๋ยตบหลังเธอเบา ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "นั่งสิ"สองสาวนั่งลง และไป๋อวี้เจี๋ยก็พูดคุยกันโดยถามว่าไป๋อวี้เตี๋ยอยู่ที่ไหนและทำอะไรตลอดหลายปีที่ผ่านมาอันที่จริงเธอไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับพี่สาวของเธอเลยไป๋อวี้เตี๋ยจิบกาแฟพลางตอบคำถามน้องสาวของเธอกลับมา
เซี่ยซิ่วซิ่วได้คำนวณทรัพย์สินที่ได้รับจากตระกูลเย่แล้วทรัพย์สินด้านอสังหาริมทรัพย์มีเกินกว่าหนึ่งล้านสองแสนล้านบาท ในขณะที่บัญชีรวมของบริษัทเงินสดมีมากกว่าห้าล้านหกแสนล้านบาทก่อนอื่น ให้เซี่ยซิ่วซิ่วจัดสรรเงินสามแสนล้านบาทเพื่อชำระคืนเงินที่เหลือสำหรับการซื้อที่ดินบัญชีบริษัทสตาร์รี่สกายและเงินสดในมือของเขารวมกันมีมูลค่ารวมกว่าล้านล้านบาทนอกจากนี้ยังมีอีกมากกว่าล้านล้านบาทที่เฉิงเฟิงนำมาด้วยการลงทุนในระยะเริ่มแรกของการสร้างสวนเครื่องยาสมุนไพรน่าจะเพียงพอแล้วสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับการซื้ออุปกรณ์และการจ้างผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ เขาจะพูดเรื่องนี้ทีหลังขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้นเย่ซิวหรี่ตาลงมองไปที่หมายเลขผู้โทรเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดโดยปกติแล้วหากมีบอดี้การ์ดโทรหาเขา แสดงว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นเขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และเสียงบอดี้การ์ดที่อยู่ปลายสายก็ดังขึ้น “เจ้านาย แย่แล้วค่ะ มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูคล้ายกับคุณไป๋ พาเธอออกไปแล้ว”เสียงของเย่ซิวแผ่วเบา "เข้าใจแล้ว ดูแลตัวเองด้วย"หลังจากวางสายแล้ว เย่ซิวก็ออกไปตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งล่
เบื้องหน้ามีชายหนุ่มคนหนึ่งลงมาจากรถเมื่อเห็นเขา ไป๋อวี้เตี๋ยก็นึกถึงความอัปยศอดสูในตอนนั้นทันที และเส้นเลือดแดงก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอเธอไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะจัดการกับผู้ชายที่ทำลายวิทยายุทธในอนาคตของเธอ ไม่คิดเลยว่าเขาจะมาหาเธอถึงที่เธอลดกระจกรถลงแล้วพูดกับบอดี้การ์ดที่ออกมาจากรถหลายคันที่อยู่ข้างหลังเธอว่า "หักแขนหักขาแล้วโยนเขาลงน้ำไปซะ"บอดี้การ์ดที่ทรงพลังหลายสิบคนออกมาจากรถ กลิ่นอายสังหารของพวกเขากระจายไปทุกทิศทางไป๋อวี้เจี๋ยลืมตาขึ้น เมื่อได้เห็นเย่ซิว ดวงตาของเธอก็เป็นประกายสว่างไป๋อวี้เตี๋ยถอนหายใจอย่างเหยียดหยาม"อย่าฝากความหวังไว้กับเขาเลย เขาจะไม่มีวันรอดไปได้แน่ เพราะพี่สาวของเธอคนนี้... เป็นปรมาจารย์ได้แล้ว!"ทันทีที่สิ้นสุดเสียง กลิ่นอายของความเป็นปรมาจารย์ก็ปะทุขึ้นหัวใจของไป๋อวี้เจี๋ยสั่นไหว แต่เธอยังคงมองเย่ซิวด้วยดวงตาที่เร่าร้อนเธอเชื่อว่าผู้ชายที่เธอชอบสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอนเย่ซิวลงจากรถพร้อมกับมือที่ล้วงกระเป๋ากางเกงยอดฝีมือหลายสิบคนเดินมาเผชิญหน้ากับเขา ขมับของพวกเขานูนสูง และเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งอย่างไรก็ตาม ต่อหน้าเย่ซิว พ
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ
“บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?!”ผู้รับผิดชอบฐานลับถอยออกมาจากวงต่อสู้ยืนมองเย่ซิวกับพรีเอลล์ที่กำลังถล่มศัตรูอย่างดุเดือด ทำให้ใจเขารู้สึกสั่นสะท้านแต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมทันที “ยังไงซะ พวกแกก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้เลย”สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ปุ่มอีกอันหนึ่งที่พกติดตัวอยู่ปุ่มนี้คือสวิตช์สำหรับทำลายล้างตัวเองของฐานลับนี้!ใต้ดินมีการฝังระเบิดจำนวนมากไว้ เมื่อกดปุ่มจะเกิดการระเบิดที่รุนแรงจนสามารถเขย่าฟ้าสะเทือนดินได้เขาประเมินสถานการณ์ในใจด้วยพลังการต่อสู้ที่สองคนนี้แสดงออกมา แม้ระเบิดทั้งหมดจะถูกจุดชนวนก็อาจจะยังไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้แต่ถึงตายก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เก็บเกี่ยวเลยอย่างน้อยแค่เก็บตัวอย่างเลือดหรือชิ้นส่วนเนื้อเยื่อมาเพื่อการวิจัยก็เพียงพอแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็หันหลังวิ่งออกไปทันทีก่อนจะขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เขาเร่งเครื่องจนสุด ขี่ออกไปด้วยความเร็วสูงจนเสียงเครื่องยนต์คำรามก้อง เมื่ออยู่ห่างออกมาราวยี่สิบกิโลเมตรแล้ว เขาก็หยิบสวิตช์ระเบิดขึ้นมากดอย่างแรงตูม! ตูม! ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบ
พรีเอลล์เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้คิดจะแย่งสร้อยไปจากเธอจึงแอบถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากใต้หน้ากากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตูม!ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งเรือก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาคมป้องกันด้านนอกถูกทำลายลงแล้วและก็เป็นจังหวะที่พวกเขาหาของมีค่าทั้งหมดในห้องเสร็จพอดีเย่ซิวโยนหอกยาวเล่มหนึ่งให้พรีเอลล์ ส่วนตัวเองก็คว้าหอกอีกเล่มเอาไว้ก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกันพวกเขาเจอกับกลุ่มทหารชุดแรกที่เพิ่งบุกเข้ามาทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ทันทีโดยไม่มีคำพูดใด ๆ “พวกแกเป็น…”“อ๊าก!!”ทั้งสองพุ่งเข้าใส่โดยไม่รอให้ใครพูดจบเสียงไซเรนดังสนั่นไปทั่วด้านนอกทหารฝีมือดีจำนวนมากรีบวิ่งเข้ามาพร้อมใช้อาวุธในมือยิงโจมตีไม่ยั้งชายชราในกลุ่มผู้บังคับบัญชาผู้มีผมสีขาวแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์มองพวกเขาด้วยสายตาตื่นตะลึง “เป็นไปได้ยังไง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมในเรือถึงยังมีคนรอดชีวิตได้?”ผู้รับผิดชอบฐานลับร้องตะโกนพลางถอยหลัง พร้อมกับหยิบอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนภัยออกมากดอย่างแรง“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ แม้ต้องสละชีวิตก็ต้องหยุดพวกมันไว้ พวกมันอาจมีความลับเกี่ยวกับการมีชีวิตอมตะก็เป็นได้”พวกเ
เย่ซิวใช้เวลาสองสามนาทีในการถอดรหัสอักขระบนประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องเป็นคนแรกทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางห้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดสั้นแทงเข้าไปในท้องของอีกคน ส่วนอีกคนก็เสียบมือทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอพรีเอลล์รีบวิ่งไปดูใกล้ ๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียดผู้หญิงทั้งสองคนดูสวยมาก และจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเจ้าหญิงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงแผ่รัศมีความสง่างามตามธรรมชาติออกมา“นี่มันอะไรกัน?”พรีเอลล์หยิบของที่คล้ายเข็มทิศออกมาจากมือของผู้หญิงคนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยอักขระที่ซับซ้อนเย่ซิวเหลือบมองแค่ครั้งเดียวก็เอ่ยขึ้น “นี่น่าจะเป็นศูนย์ควบคุมของทั้งเรือลำนี้คาดว่าตอนที่เจ้าของเรือลำนี้ถูกเล่นงาน และตอนที่กำลังจะตาย เขาน่าจะเปิดใช้งานอาคมของเรือ ทำให้เรือล่มทั้งลำไปพร้อมกัน”พรีเอลล์มองเขาด้วยสายตาชื่นชม ดวงตาเป็นประกาย “ว้าว นายนี่เก่งจริง ๆ สุดยอด ฉันชอบนายมากเลย”เย่ซิวยังคงสีหน้าราบเรียบ “ประจบไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงของที่ได้มาก็ต้องแบ่งตามที่ตกลงกันไว้”เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ถึงแ
ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก“โชคดีมากที่เจอวัสดุแบบนี้”หลังจากเปิดห้องติดต่อกันสิบกว่าห้องโดยไม่มีอะไรเลย ในที่สุดเย่ซิวก็พบของในห้องหนึ่งที่ดูหรูหรากว่าห้องอื่น ๆเจ้าของห้องนี้น่าจะมีสถานะค่อนข้างสูงดูได้จากขนาดห้องและการตกแต่งภายในเจ้าของห้องเป็นชายวัยกลางคน บนนิ้วมีแหวนผนึกของสวมอยู่แต่แหวนนี้มีขนาดเล็กกว่าแหวนของเย่ซิว มีพื้นที่เพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่านั้นในแหวนผนึกของมีอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่หลายชิ้นและยังมีวัสดุอีกจำนวนไม่น้อย โดยของที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือแร่สีเหลืองดินขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งแร่ชนิดนี้เป็นวัสดุสำคัญมากชนิดหนึ่งในการหลอมสร้างร่างแยกธาตุดินพรีเอลล์มองแหวนผนึกของด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยด้วยสายตาปิ๊ง ๆ “ให้ฉันได้ไหม”“ไว้ค่อยคุยกันตอนออกไปข้างนอก” เย่ซิวตอบแบบขอไปที ของล้ำค่าแบบนี้จะให้เธอได้ยังไงล่ะ?หากมีแหวนผนึกของแบบนี้มากขึ้น ในอนาคตเวลามีการต่อสู้ เขาจะสามารถแอบส่งอุปกรณ์พวกนี้ไปที่สนามรบได้โดยไม่มีใครรู้และปล่อยออกมาในครั้งเดียวโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว รับรองได้เลยว่าจะทำให้ศัตรูประหลาดใจอย่างแน่นอน“ไม่เอาน่า เอามาให้ฉันเถอะนะ” พรีเอลล์เอ่