แชร์

บทที่ 344

ผู้เขียน: เฉิงกวงโฮ่วถู่
“ทำไม เจ็บใจแทนคนรักงั้นเหรอ? ฉันจะทำให้เธอเจ็บใจ!”

เขาจับมือของลู่เสวี่ยเอ๋อร์จุ่มลงในชามซุปร้อน ๆ โดยตรง

อุณหภูมิสูงทำให้ผิวขาวของลู่เสวี่ยเอ๋อร์เปลี่ยนไปจนดูน่ากลัวทันที

ความเจ็บปวดนั้นเสมือนมีอะไรบางอย่างกำลังเจาะทะลุเข้าไปในใจ

แต่เธอก็กัดฟันทน ไม่ปริปากร้องออกมาแม้เพียงคำเดียว

เพียงจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแค้น

“ว้าว เข้มแข็งดีนี่!” เย่ขวงเริ่มสนุก

เพียะ!

ตบหน้าลู่เสวี่ยเอ๋อร์ "ขอร้องสิ!"

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กัดริมฝีปาก ไม่หือไม่อือแม้แต่น้อย

หลิวอวิ้นทั้งกังวลทั้งโกรธ "ได้คนเดรัจฉาน ปล่อยลูกสาวฉันนะ!"

เพียะ เพียะ เพียะ!

เย่ขวงตบหน้าเธอทั้งซ้ายและขวา ตบมากกว่าสิบครั้งติดกัน

เลือดไหลออกมาจากมุมปากของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ แต่สายตายังคงดื้อดึง

สิ่งนี้ทำให้เย่ขวงอับอายจนไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ

เขาเดินไปหาหลิวอวิ้น แล้วคว้าคอของเธอ "บอกสิว่าเธอยอมแล้ว ไม่งั้นฉันจะข่มขืนเธอก่อน แล้วจากนั้นก็จะฆ่าเธอซะ!"

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กังวล "ไอ้คนโรคจิต มีอะไรก็มาลงที่ฉัน อย่าทำร้ายแม่ฉันนะ!"

เย่ขวงหัวเราะเสียงดัง สมาชิกในตระกูลเย่ทุกคนก็หัวเราะขึ้นมา

“นายน้อย แย่แล้ว!”

ในขณะนี้ คนรับใช้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 345

    เมืองหลวง ในห้องขังแห่งหนึ่งเพียะ! เพียะ! เพียะ!ผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดผู้คุม ใบหน้าโหดเหี้ยมและถือแส้ในมือ กำลังใช้แส้เฆี่ยนไป๋อวี้เจี๋ยไม่หยุดไป๋อวี้เจี๋ยถูกมัดอยู่ที่นั่น ไม่สามารถขยับตัวได้ตามเนื้อตัวมีรอยแผลเป็นมากมาย ผิวหนังปริแตก สามารถมองเห็นกระดูกได้ สภาพดูแล้วช่างน่ากลัว“ยังไม่สารภาพอีกเหรอ?”เสียงของผู้คุมหญิงดังก้อง น้ำเสียงนั้นเย็นชาและน่าตกใจในเวลานี้ไป๋อวี้เจี๋ยอ่อนแอมาก แต่ดวงตาดอกท้อคู่นั้นยังคงจับนิ่งที่ใบหน้าของเธอ "เธอกล้าดียังไงถึงใช้อำนาจเกินขอบเขต!"ผู้คุมหญิงหัวเราะเยาะ "จัดการกับคนอย่างเธอ ก็ต้องใช้วิธีดั้งเดิมที่สุด ถ้ายังไม่ยอมรับผิดอีก ยังมีการลงโทษที่โหดร้ายยิ่งกว่านี้รอเธออยู่!"เธอรูปร่างล่ำสัน ซึ่งดูเหมือนผู้ชายยิ่งกว่าผู้ชายด้วยซ้ำดังนั้นเมื่อเห็นผู้หญิงหน้าตาสวยและหุ่นร้อนแรงอย่างไป๋อวี้เจี๋ย จึงเป็นเรื่องปกติที่จะอิจฉาริษยา“ฝันไปเถอะ!” ดวงตาของไป่อวี้เจี๋ยเต็มไปด้วยความดื้อรั้น "เรื่องที่ไม่ได้ทำ ถึงตีให้ตายฉันก็ไม่ยอมรับผิดเด็ดขาด"“งั้นเหรอ?”ผู้คุมหญิงวางแส้ลง แล้วหยิบแท่งไม้หนา ๆ ออกมาจากโต๊ะด้านข้างมีชามใส่น้ำผสมพริกอยู่ด้วย

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 346

    เหล่าผู้มีอำนาจที่มักจะมองว่าตนสูงส่ง เคยชี้เป็นชี้ตายชีวิตผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนได้อย่างง่ายดาย เวลานี้เริ่มมีความกลัวอย่างมากเย่ซิวรีบพุ่งเข้าหาพวกเขาอย่างรวดเร็วตอนนี้เขาไม่มีเวลาหรืออารมณ์ที่จะชะลอความเคลื่อนไหวหูของเขานั้นไวเกินคนธรรมดา เขาได้ยินเสียงสบถสาปแช่งและเสียงกรีดร้องของลู่เสวี่ยเอ๋อร์กับหลิวอวิ้นที่อยู่ชั้นบนชายคนหนึ่งยืนขวางหน้าเย่ซิวไว้ซึ่งก็คือปรมาจารย์คนที่จับตัวลู่เสวี่ยเอ๋อร์สองครั้งเขามองไปที่เย่ซิวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างยิ่ง "ยังมีคนที่มีพรสวรรค์เหนือกว่าเย่ขวงอีก เก็บไว้ไม่ได้!"เขารวบรวมกำลังภายในทั้งหมดไว้บนฝ่ามือทั้งสองข้าง ปล่อยเปลวไฟลุกโชน“วิชา… ฝ่ามือเพลิง!”เมื่อเห็นชายคนนี้ลงมือ ชนชั้นสูงของตระกูลเย่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของแต่ละคนอีกครั้ง“ฮึ่ม เกือบลืมไปว่าเรามีปรมาจารย์อยู่ด้วย!”“ถึงเด็กคนนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็คงเพิ่งก้าวเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์ ไม่มีอะไรต้องกลัว”“อีกเดี๋ยวฉันจะให้คนมาผ่าร่างเขาออก ดูสิว่าโครงสร้างร่างกายเขาเป็นยังไง!”……คนเหล่านี้นั่งลงอีกครั้ง หยิบแก้วไวน์แดงขึ้นมา เขย่าเบา ๆ แล้วค่อย ๆ เพล

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 347

    เมื่อเห็นเย่ซิวบุกเข้ามา เย่ขวงก็หัวเราะอย่างเหิมเกริมอย่างยิ่ง “ฮ่า ๆ แกมาได้เวลาพอดีคอยดูฉันจะหักมือกับเท้าของแก ข่มขืนผู้หญิงของแกต่อหน้าแก!”ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่ตื่นเต้นและกระปรี้กระเปร่ามากโดยไม่รู้ตัวเลยว่าเย่ซิวสามารถเข้ามาได้อย่างไรขนาดถูกรายล้อมไปด้วยพวกระดับสูงมากมายจากด้านนอก“คุกเข่าซะ!”จากนั้นเย่ขวงงอนิ้วทั้งห้าขึ้นเป็นกรงเล็บ ภายใต้แสงไฟสะท้อนเงาวาววับขณะที่เขาโจมตีเย่ซิวท่ากรงเล็บเพชรอันทรงพลังของเขาได้รับการฝึกฝนจนถึงขั้นสูงสุดแล้วแม้จะสู้กับเสือที่โตเต็มวัย ก็ยังสามารถฆ่ามันได้เขามั่นใจว่าภายใต้กรงเล็บของเขา ถ้าศัตรูไม่ตายก็ต้องพิการแต่ครู่ต่อมา เย่ขวงก็โกรธจนตาแทบถลน รู้สึกถึงความน่ากลัวอย่างสุดซึ้งตอนแรกเขาปะทะกับเย่ซิวกำลังภายในอันหนักแน่นและไม่อาจต้านทานได้พุ่งเข้ามาจากหมัดของเย่ซิวกำลังภายในอันทรงพลังที่เขาภาคภูมิใจหนักหนา เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่ซิวนั้นช่างเปราะบาง และสลายไปอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกัน รัศมีที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเย่ซิวความน่าเกรงขามของจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับเก้า ทำลายความภาคภูมิใจของเย่ขวงที่มีทั้งหม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 348

    เขาพยักหน้าหงึกหงัก "ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้"เขาปีนขึ้นไปที่คอมพิวเตอร์ พลางเปิดเครื่อง พลางโทรหาผู้บริหารระดับสูงพร้อมกัน คำรามเหมือนฟ้าร้อง "มาที่วิลล่าของฉันพร้อมสัญญาทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ในนามของฉัน ถ้ามาไม่ถึงได้ภายในสิบนาทีนี้ ฉันจะฆ่าทั้งครอบครัวของพวกนาย!”หลังจากวางสายแล้ว เขาก็เริ่มทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ด้านนอกวิลล่า มีผู้หญิงคนหนึ่งสวมแจ็กเกตหนังและกางเกงหนังสีดำเดินเข้ามาคะเนจากอายุแล้ว ดูเหมือนว่าจะอายุสามสิบปีโดยประมาณรูปร่างมีส่วนเว้าส่วนโค้ง เรือนผมยาวสีแดงสะดุดตา รวบผมด้วยยางรัดผมแบบง่าย ๆ ทำให้ดูคล่องตัวและเรียบร้อยชื่อของเธอคือหงซิ่ว เป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับห้าเธอคอยคุ้มกันเสวี่ยเหมยมาตั้งแต่เด็กจนโตครั้งนี้ได้รับคำสั่งจากเสวี่ยเหมย ให้มา 'เก็บศพ' ของเย่ซิวหงซิ่วกอดอก ทำให้ทรวงอกของเธอเผยให้เห็นส่วนโค้งที่น่าทึ่งริมฝีปากของเธอสีแดงมาก พอมองดูแวบแรกก็ทำให้คุณนึกถึงคำว่า ‘ริมฝีปากสีแดงเพลิง’ในตอนนี้เธอขมวดคิ้วน้อย ๆ มองเข้าไปในวิลล่า "ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย ตายแล้วเหรอ? มีความกล้าหาญน่ายกย่องทีเดียว กล้าบุกเข้าไปในบ้านตระกูลเย่เพียงลำพัง"ท่อ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 349

    ชายหัวโล้นสะพายกระเป๋า พลางวิ่งล้มลุกคลุกคลานเข้าไปในห้องแต่เมื่อเขามาถึงห้อง สิ่งที่เห็นตรงหน้ากลับทำให้เขาตกใจแทบตายหงซิ่วตามหลังมาติด ๆ และเห็นฉากนี้เช่นกันในหัวของเธอเต็มไปด้วยเสียงที่ดังวิ้งวิ้งริมฝีปากสีแดงอันแสนเย้ายวนอ้ากว้าง จนดูราวกับสามารถกลืนกำปั้นเข้าไปได้ทั้งสองคนเห็นอะไรน่ะเหรอ?เห็นคนที่มีอำนาจมากมาย สามารถควบคุมสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และมีท่าทีที่หยิ่งผยองสูงส่งอย่างเช่นเย่ขวง กำลังนั่งคุกเข่าต่อหน้าชายรูปหล่อคนหนึ่งชายหัวโล้นกับหงซิ่วต่างขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว สงสัยว่าตัวเองเห็นภาพหลอนไปเองหรือเปล่าอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าทั้งสองจะขยี้ตามากแค่ไหน ทว่าความจริงก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าแล้วเมื่อเย่ขวงเห็นชายหัวโล้น เขาก็ตะโกนทันที "มัวยืนบื้ออะไรอยู่ เอาสัญญามาให้ฉัน!"ชายหัวโล้นสะดุ้ง รีบวิ่งไปคุกเข่าต่อหน้าเย่ขวง โดยไม่กล้ามองเย่ซิว และหยิบสัญญาหลายร้อยฉบับออกมาจากกระเป๋าหุ้นที่เย่ขวงครอบครองอยู่คิดเป็นส่วนหนึ่งในสิบของทั้งหมดในตระกูลเย่!แต่ในเมื่อเย่ซิวทำถึงขนาดนี้แล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะต้องการเพียงส่วนนี้ของเย่ขวง เขาต้องการทรัพย์สินทั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 350

    “หืม? ปรมาจารย์สองท่าน?” เย่ซิวรู้สึกงุนงงหงซิ่วกล่าวว่า "แน่นอนว่าเป็นปรมาจารย์ที่ที่ช่วยคุณสังหารยอดฝีมือตระกูลเย่ทั้งหมดที่ด้านนอกนั่น หรือไม่ใช่สองท่าน แต่เป็นสามท่านงั้นเหรอ?!"ไม่ว่าอย่างไรเธอก็คิดไม่ถึง ว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายนอกนั้น จะเป็นฝีมือของเย่ซิวเพียงผู้เดียวเมื่อถูกหงซิ่วเข้าใจผิดแล้ว เย่ซิวก็ไม่คิดที่จะอธิบาย แค่พูดว่า "ถึงเวลาคุณก็จะรู้เอง"ถึงแม้หงซิ่วจะอยากสอดรู้สอดเห็นมากแค่ไหนแต่เย่ซิวไม่บอกเธอก็ไม่กล้าเซ้าซี้ เธอจึงเลือกที่จะจากไปหลังจากที่หงซิ่วออกจากวิลล่าตระกูลเย่ เดินมาไกลพอสมควร จู่ ๆ เธอก็สะดุ้งตกใจ ตบหัวตัวเอง "เกือบลืมรายงานแหนะ"จึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วโทรหาเสวี่ยเหมยมีเสียงรอสายดังขึ้นไม่กี่วินาที จากนั้นเสียงเศร้าเล็กน้อยของเสวี่ยเหมยก็ดังขึ้น "เอาศพของเขาออกมาแล้วเหรอ? หาที่ฝังดี ๆ ให้เขาเถอะ”“แล้วก็ฝากจุดธูปสามดอกให้เขาแทนฉันด้วย”หงซิ่วทำหน้าประหลาดใจ "คุณหนู นายน้อยเย่...ยังไม่ตาย"“โอ้ ยังไม่ตายสินะ งั้น...หืม? เธอว่าอะไรนะ!” ทันใดนั้นเสียงของเสวี่ยเหมยก็ดังขึ้น “เขายังไม่ตายได้ยังไง? หรือว่าเขาไม่ได้ไปตระกูลเย่?”หงซิ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 351

    หลิวอวิ้นมองไปที่โรงแรมเรืองแสงสีชมพูตรงหน้า ใบหน้าแดงก่ำ พูดอย่างเขินอายว่า "พวกเรามาสถานที่แบบนี้คงไม่ค่อยเหมาะสมรึเปล่า?"ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็รู้สึกประดักประเดิดเช่นกัน "ใช่ ถ้าเรามากันสองคนก็ไม่เป็นหรอก แต่แม่ของฉันก็อยู่ด้วย..."“ยัยตัวแสบ” หลิวอวิ้นหยิกเอวของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ แสร้งทำเป็นโกรธ "ทำไม เห็นแม่เป็นก้างขวางคอหรือไง?"ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยิ้มเขิน ๆ "ใช่ค่ะ"หลิวอวิ้นชูกำปั้นเล็ก ๆ ทำท่าเหมือนจะตี "น่าตีจริง ๆ เลย"เย่ซิวหัวเราะพลางส่ายหัว "แถวนี้มีแค่โรงแรมนี้ พวกเราอดทนไปก่อนเถอะ"ทั้งสามมาที่ล็อบบี้ เย่ซิวขอสองห้องแคชเชียร์เป็นผู้หญิงอวบอ้วนในวัยสามสิบเศษหลังจากมองไปที่เย่ซิวทั้งสามคนแล้ว แสดงรอยยิ้มกรุ้มกริ่มทันที "ขอโทษด้วยนะคะ โรงแรมของเราเหลือห้องเดียวเท่านั้น"สถานการณ์ประเภทนี้เธอเคยเจอมาหลายครั้งเหตุผลที่ธุรกิจของโรงแรมนี้ดีมาก ก็เพราะว่ามีพนักงานที่มีความละเอียดรอบคอบมากลู่เสวี่ยเอ๋อร์ได้ยินแบบนี้ก็ก้มศีรษะลงเงียบ ๆขณะที่กำลังรู้สึกประดักประเดิด อีกใจหนึ่งก็รู้สึกแปลก ๆ ไปด้วยเย่ซิวไม่สนใจ ห้องเดียวก็ห้องเดียวหลังจากจองห้องพักแล้ว ก็ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 352

    จูบอันเร่าร้อนกินเวลานานหลายนาที หลิวอวิ้นที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกอายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี หลังจากจบลง ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ถึงจำได้ว่าหลิวอวิ้นยังอยู่ข้าง ๆ ทันใดนั้นใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ก้มหน้างุดทันทีเย่ซิวกล่าวว่า “ตามเนื้อตัวพวกคุณสองคนมีแผลถลอกอยู่ไม่น้อย สามารถทาครีมนี้ได้”“ที่นี่มีเพียงพอให้พวกคุณใช้ไปได้หลายวัน ถ้าใช้หมดแล้วผมจะทำให้ใหม่”“นี่ก็ดึกแล้ว พวกคุณรีบเข้านอนเถอะ”หลังจากพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นยืนลู่เสวี่ยเอ๋อร์จับมือของเขาไว้ "นายจะไปไหนอีก?"“แน่นอนว่าต้องไปช่วยไป๋อวี้เจี๋ย ตอนนี้เธอยังอยู่ในคุกอยู่เลย”เย่ซิวยังไม่ลืมเธอเพียงแค่จัดลำดับความสำคัญของผู้หญิงทั้งสองในใจตนเท่านั้นลู่เสวี่ยเอ๋อร์ปล่อยเย่ซิว และพูดกำชับว่า "นายเองก็ต้องระวังตัวเองด้วยล่ะ"เย่ซิวยิ้มพูดว่า "ไม่ต้องห่วง"ทันทีที่เดินลงมาถึงหน้าโรงแรม เย่ขวงก็ลงจากรถ ค้อมตัวโค้งคำนับอย่างนอบน้อมยิ่ง "สิ่งที่คุณสั่งการ ผมได้ทำเรียบร้อยแล้ว โปรดให้ยาแก้พิษแก่ผมด้วย"เย่ซิวก้มดูเวลา เห็นว่ายังไม่ถึงสองชั่วโมง "ไปเถอะ ไปช่วยไป๋อวี้เจี๋ยออกมาก่อน"จู่ ๆ เย่ขวงก็ตัวสั่นทันทีก่อนหน้านี้เขาได้กำชับกั

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 874

    อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 873

    “บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?!”ผู้รับผิดชอบฐานลับถอยออกมาจากวงต่อสู้ยืนมองเย่ซิวกับพรีเอลล์ที่กำลังถล่มศัตรูอย่างดุเดือด ทำให้ใจเขารู้สึกสั่นสะท้านแต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมทันที “ยังไงซะ พวกแกก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้เลย”สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ปุ่มอีกอันหนึ่งที่พกติดตัวอยู่ปุ่มนี้คือสวิตช์สำหรับทำลายล้างตัวเองของฐานลับนี้!ใต้ดินมีการฝังระเบิดจำนวนมากไว้ เมื่อกดปุ่มจะเกิดการระเบิดที่รุนแรงจนสามารถเขย่าฟ้าสะเทือนดินได้เขาประเมินสถานการณ์ในใจด้วยพลังการต่อสู้ที่สองคนนี้แสดงออกมา แม้ระเบิดทั้งหมดจะถูกจุดชนวนก็อาจจะยังไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้แต่ถึงตายก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เก็บเกี่ยวเลยอย่างน้อยแค่เก็บตัวอย่างเลือดหรือชิ้นส่วนเนื้อเยื่อมาเพื่อการวิจัยก็เพียงพอแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็หันหลังวิ่งออกไปทันทีก่อนจะขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เขาเร่งเครื่องจนสุด ขี่ออกไปด้วยความเร็วสูงจนเสียงเครื่องยนต์คำรามก้อง เมื่ออยู่ห่างออกมาราวยี่สิบกิโลเมตรแล้ว เขาก็หยิบสวิตช์ระเบิดขึ้นมากดอย่างแรงตูม! ตูม! ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 872

    พรีเอลล์เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้คิดจะแย่งสร้อยไปจากเธอจึงแอบถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากใต้หน้ากากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตูม!ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งเรือก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาคมป้องกันด้านนอกถูกทำลายลงแล้วและก็เป็นจังหวะที่พวกเขาหาของมีค่าทั้งหมดในห้องเสร็จพอดีเย่ซิวโยนหอกยาวเล่มหนึ่งให้พรีเอลล์ ส่วนตัวเองก็คว้าหอกอีกเล่มเอาไว้ก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกันพวกเขาเจอกับกลุ่มทหารชุดแรกที่เพิ่งบุกเข้ามาทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ทันทีโดยไม่มีคำพูดใด ๆ “พวกแกเป็น…”“อ๊าก!!”ทั้งสองพุ่งเข้าใส่โดยไม่รอให้ใครพูดจบเสียงไซเรนดังสนั่นไปทั่วด้านนอกทหารฝีมือดีจำนวนมากรีบวิ่งเข้ามาพร้อมใช้อาวุธในมือยิงโจมตีไม่ยั้งชายชราในกลุ่มผู้บังคับบัญชาผู้มีผมสีขาวแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์มองพวกเขาด้วยสายตาตื่นตะลึง “เป็นไปได้ยังไง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมในเรือถึงยังมีคนรอดชีวิตได้?”ผู้รับผิดชอบฐานลับร้องตะโกนพลางถอยหลัง พร้อมกับหยิบอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนภัยออกมากดอย่างแรง“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ แม้ต้องสละชีวิตก็ต้องหยุดพวกมันไว้ พวกมันอาจมีความลับเกี่ยวกับการมีชีวิตอมตะก็เป็นได้”พวกเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 871

    เย่ซิวใช้เวลาสองสามนาทีในการถอดรหัสอักขระบนประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องเป็นคนแรกทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางห้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดสั้นแทงเข้าไปในท้องของอีกคน ส่วนอีกคนก็เสียบมือทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอพรีเอลล์รีบวิ่งไปดูใกล้ ๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียดผู้หญิงทั้งสองคนดูสวยมาก และจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเจ้าหญิงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงแผ่รัศมีความสง่างามตามธรรมชาติออกมา“นี่มันอะไรกัน?”พรีเอลล์หยิบของที่คล้ายเข็มทิศออกมาจากมือของผู้หญิงคนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยอักขระที่ซับซ้อนเย่ซิวเหลือบมองแค่ครั้งเดียวก็เอ่ยขึ้น “นี่น่าจะเป็นศูนย์ควบคุมของทั้งเรือลำนี้คาดว่าตอนที่เจ้าของเรือลำนี้ถูกเล่นงาน และตอนที่กำลังจะตาย เขาน่าจะเปิดใช้งานอาคมของเรือ ทำให้เรือล่มทั้งลำไปพร้อมกัน”พรีเอลล์มองเขาด้วยสายตาชื่นชม ดวงตาเป็นประกาย “ว้าว นายนี่เก่งจริง ๆ สุดยอด ฉันชอบนายมากเลย”เย่ซิวยังคงสีหน้าราบเรียบ “ประจบไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงของที่ได้มาก็ต้องแบ่งตามที่ตกลงกันไว้”เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ถึงแ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 870

    ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก“โชคดีมากที่เจอวัสดุแบบนี้”หลังจากเปิดห้องติดต่อกันสิบกว่าห้องโดยไม่มีอะไรเลย ในที่สุดเย่ซิวก็พบของในห้องหนึ่งที่ดูหรูหรากว่าห้องอื่น ๆเจ้าของห้องนี้น่าจะมีสถานะค่อนข้างสูงดูได้จากขนาดห้องและการตกแต่งภายในเจ้าของห้องเป็นชายวัยกลางคน บนนิ้วมีแหวนผนึกของสวมอยู่แต่แหวนนี้มีขนาดเล็กกว่าแหวนของเย่ซิว มีพื้นที่เพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่านั้นในแหวนผนึกของมีอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่หลายชิ้นและยังมีวัสดุอีกจำนวนไม่น้อย โดยของที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือแร่สีเหลืองดินขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งแร่ชนิดนี้เป็นวัสดุสำคัญมากชนิดหนึ่งในการหลอมสร้างร่างแยกธาตุดินพรีเอลล์มองแหวนผนึกของด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยด้วยสายตาปิ๊ง ๆ “ให้ฉันได้ไหม”“ไว้ค่อยคุยกันตอนออกไปข้างนอก” เย่ซิวตอบแบบขอไปที ของล้ำค่าแบบนี้จะให้เธอได้ยังไงล่ะ?หากมีแหวนผนึกของแบบนี้มากขึ้น ในอนาคตเวลามีการต่อสู้ เขาจะสามารถแอบส่งอุปกรณ์พวกนี้ไปที่สนามรบได้โดยไม่มีใครรู้และปล่อยออกมาในครั้งเดียวโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว รับรองได้เลยว่าจะทำให้ศัตรูประหลาดใจอย่างแน่นอน“ไม่เอาน่า เอามาให้ฉันเถอะนะ” พรีเอลล์เอ่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 869

    ภายในเรือลำใหญ่ไม่ได้มืดมิดอย่างที่คิดไว้ แต่กลับสว่างไสวอย่างมากบนเพดานเรือประดับด้วยไข่มุกราตรีขนาดใหญ่ที่เปล่งแสงสว่างนิรันดร์ไม่เคยดับพวกเขาเห็นนักรบที่สวมเกราะหรูหรา ถือหอกยาว ยืนอยู่ตามตำแหน่งเฉพาะแม้พวกเขาจะเสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว แต่ยังคงแผ่รังสีแห่งพลังอันแข็งแกร่ง ทำให้ผู้คนรู้สึกเกรงกลัวเพียงแค่ได้มองเมื่อพรีเอลล์เห็นภาพเบื้องหน้า เธอก็กรีดร้องด้วยความตื่นเต้นก่อนจะพุ่งเข้าไปทันที และเอื้อมมือไปสัมผัสชุดเกราะเบา ๆ “นี่คือเกราะเวทมนตร์ที่ทำจากมิธริล[footnoteRef:0]ซึ่งเป็นวัสดุหายากล้ำค่า [0: เป็นโลหะในจินตนาการจากนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง] ฉันเคยเห็นเกราะเวทมนตร์ที่ไม่สมบูรณ์ชิ้นหนึ่งในงานประมูลและมันถูกประมูลไปในราคาหลายหมื่นล้านแต่ที่นี่มีเกราะที่สมบูรณ์กว่าร้อยชุด ถ้านำไปขายจะได้เงินเท่าไหร่กันนะ”แม้ว่าครอบครัวของเธอจะร่ำรวย แต่เธอก็ไม่อาจมองข้ามทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลนี้ได้ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นเพียงส่วนที่อยู่ด้านนอกเท่านั้น หากเดินเข้าไปข้างในอาจมีของล้ำค่าอีกมากมาย ไม่แปลกเลยที่เธอจะแสดงอาการตื่นเต้นจนเกินตัวเย่ซิวเดินไปที่ร่างของนักรบคนหนึ่งก่อนจะใช้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 868

    พวกเขามีขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่ยิงได้ไกลสุดหนึ่งหมื่นเก้าพันกิโลเมตรและนี่คือข้อมูลที่เปิดเผยออกมา ใครจะรู้ว่าพวกเขาอาจมีอาวุธที่ทรงพลังยิ่งกว่านี้ซ่อนอยู่ในเงามืดก็เป็นได้ด้วยพลังของเย่ซิวในตอนนี้ เขาสามารถเดินทางได้ถึงวันละสามพันกิโลเมตรจนกระทั่งเช้าวันต่อมา ทั้งสองก็มาถึงป่าทึบแห่งหนึ่งทันทีที่ถึงพื้น เย่ซิวก็จับตัวพรีเอลล์ไว้แน่นก่อนหน้านี้บนกระบี่หงส์โบยบิน เธอเอาแต่พูดจายั่วโมโหไม่หยุดจนทำให้เขาเสียสมาธิเย่ซิวจึงอดทนไว้ตลอดทางเพื่อจะเดินทางได้ต่อ แต่ตอนนี้ถึงเวลาหยุดพักแล้ว และก็ถึงเวลาที่เขาจะสั่งสอนเธอให้รู้จักบทเรียนที่ลืมไม่ลงจากนั้นพื้นที่โดยรอบก็สั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหวสองชั่วโมงผ่านไป เย่ซิวก็ฟื้นฟูพลังกลับมาเต็มที่ส่วนพรีเอลล์ตอนนี้สภาพกลายเป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วไร้เรี่ยวแรงเย่ซิวอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินทางต่อไปอีกหนึ่งวันครึ่งต่อมา พวกเขาก็มาถึงประเทศจ้านอิงตี้พรีเอลล์ที่ดูเหมือนจะกลับมามีเรี่ยวแรงแล้ว แต่ท่าทางของเธอดูเรียบร้อยกว่าตอนก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัดผู้หญิงคนนี้สมควรโดนปราบให้เข็ดจริง ๆ หลังจากโดนเย่ซิวสั่งสอนอย่างหนักหน่วง เธอก็

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 867

    พูทเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน้อยใจระหว่างเดินปากก็พึมพำไม่หยุดว่าพอน้องสาวโตแล้วก็อยู่ด้วยไม่ได้ พอมีแฟนก็ไม่สนใจพี่ชายตัวเองเลยพรีเอลล์โมโหจนกัดฟันแล้วเตะเขาไปหนึ่งทีหลังจากก้างขวางคอชิ้นใหญ่จากไป พรีเอลล์ก็มองเย่ซิวด้วยสายตาท้าทาย “เมื่อกี้ไม่นับ มาสู้กันใหม่อีกรอบ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะชนะนายไม่ได้”จากท่าทางของเธอก็พอมองออกว่าพรีเอลล์เป็นคนที่มีจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันสูงมากและอยากเป็นที่หนึ่งในทุกเรื่องเย่ซิวดูเวลา “ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้เป้าหมายหลักของเราคือไปดูสถานการณ์ของเรือลำนั้นก่อน”“ไม่ได้ ต้องรู้ผลแพ้ชนะก่อน ไม่งั้นฉันจะหงุดหงิด ”เย่ซิวจึงต้องยอมทำตามที่เธอต้องการอย่างจนปัญญาเพื่อไม่ให้เสียเวลา เย่ซิวจึงใช้พลังเต็มที่ตั้งแต่เริ่ม ทำให้พรีเอลล์โดนจัดการจนแทบไม่เหลือแรงจะสู้เพียงแค่สิบนาทีเธอก็ยอมแพ้“ฉันไม่เอาแล้ว”“ทำไมนายถึงเก่งขนาดนี้?”“พี่ชายฉันผิดไปแล้ว ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันเถอะ”……ถ้าพูทมาเห็นฉากนี้ เขาคงจะอ้าปากค้างด้วยความตกใจน้องสาวคนนี้เป็นคนที่มุ่งมั่นตั้งแต่เด็ก ไม่เคยเห็นเธอยอมใครง่าย ๆ มาก่อนเลยแต่ตอนนี้กลับถูกเย่ซิวจัดการจ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 866

    มีลักษณะคล้ายกับแผนภาพแปดทิศแต่ดูซับซ้อนกว่ามากจากนั้นจึงเขียนเนื้อหาของสัญญาไว้ด้านข้าง เย่ซิวมองสองพี่น้องที่ดูประหลาดใจพลางอธิบายว่า “แค่พวกคุณหยดเลือดลงไปบนนี้ สัญญาก็จะเสร็จสมบูรณ์ ถ้าเกิดละเมิดสัญญาขึ้นมา เบาหน่อยก็จะกลายเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต ถ้าหนักหน่อยก็ตายคาที่”“มันมีพลังถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?” พรีเอลล์เอ่ยถาม“แน่นอน”พี่น้องสองคนยังคงลังเลแต่ก็ยอมหยดเลือดลงบนสัญญา จากนั้นเย่ซิวก็ทำตามเช่นกันสัญญาส่งแสงแปลกประหลาดออกมาโดยแยกเป็นสามส่วน ก่อนจะซึมเข้าสู่ร่างกายของทั้งสามคนในใจพวกเขาก็เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งขึ้นมาโดยทันที หากละเมิดขึ้นมาจะต้องจ่ายค่าตอบแทนมหาศาลสองพี่น้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขอแค่สร้างความเชื่อใจกันได้ก็เพียงพอแล้วพรีเอลล์มองไปยังพี่ชายของเธอ “พี่ว่าเราบอกเรื่องนั้นเขาไปดีไหม อาจจะได้อะไรกลับมาก็ได้”พูทดวงตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยกับเย่ซิว “มีโอกาสครั้งใหญ่รออยู่ ขึ้นอยู่กับว่านายจะมีความสามารถพอที่จะคว้ามันไว้ได้หรือเปล่าเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดของประเทศจ้านอิงตี้เลยนะ ถ้าตระกูลเราไม่มีพื้นฐานดีก็คงไม่มีทางรู้ได้”เย่ซิวเผยสีหน้าสนใจในทั

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status