แชร์

บทที่ 311

ผู้แต่ง: เฉิงกวงโฮ่วถู่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ในร้านอาหารมีเพียงเธออยู่แค่คนเดียว

เธอไม่ชอบให้ใครมองตอนเธอกินข้าว

เธอจัดการกับสิ่งต่าง ๆ อย่างมีสมาธิ

จึงไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามเธอ

เสวี่ยเหมยกินขนมปังในมือหมดแล้ว ก็เอื้อมมือไปหยิบอีกก้อนในจาน

สายตาของเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่คอมพิวเตอร์

ทว่าก็หยิบได้เพียงความว่างเปล่า

คิ้วสวยขมวดเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้น และทันใดนั้นขนทั้งร่างของเธอก็ลุกชัน เกือบจะกระโดดขึ้นมาจากที่ที่นั่งอยู่

ฝั่งตรงข้ามของเธอ เย่ซิวกำลังเคี้ยวขนมปังและมองเธอด้วยรอยยิ้ม

"อรุณสวัสดิ์"

หัวใจของเสวี่ยเหมยเต้นตึกตัก และสีหน้าของเธอก็ซีดลงไปครู่หนึ่ง

อ้าปากอยากที่จะตะโกนบางคำออกไป

แต่เธอก็ไม่กล้า

เพราะออร่าของเย่ซิวได้ตรึงเธอเอาไว้แล้ว

ถ้าเธอมีความผิดปกติแม้เพียงเสี้ยวกระเบียดนิ้ว จะต้องถูกจู่โจมราวกับสายฟ้าอย่างแน่นอน

ใบหน้าฉีกยิ้มซึ่งน่าเกลียดยิ่งว่าร้องไห้ออกไป "อรุณสวัสดิ์ค่ะ"

เย่ซิ่วกินขนมปังจนเสร็จ รอยยิ้มไม่มีเปลี่ยนแปลง "โอนเงินเถอะครับ เรื่องเมื่อคืนนี้คุณยังไม่ลืมใช่ไหม?"

เสวี่ยเหมยรู้สึกอึดอัดมาก

รู้สึกอึดอัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ในอดีตมีเพียงเธอที่วางแผนเล่นงานและเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 312

    อารมณ์ในตอนนี้รุนแรงเสียยิ่งกว่าเมื่อคืนนี้หลายเท่า“เป็นม้าป่าที่พยศมากจริง ๆ!”เย่ซิวแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา เขาลงมือรวดเร็วราวกับสายฟ้า ตีลงไปที่เดิมอีกถึงห้าหรือหกครั้งติดต่อกัน"คุณหนู!"ตอนนี้เองเหล่าบอดี้การ์ดข้างนอกที่ได้ยินเสียงทะเลาะก็รีบปรี่เข้ามาและเมื่อพวกเขาเห็นฉากนี้ แต่ละคนก็ชะงักอยู่กับที่สติหลุดไปแล้วในหัวใจของพวกเขา เสวี่ยเหมยนั้นบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นอย่างยิ่ง ไม่เคยให้ชายใดมาสัมผัสเนื้อตัวแม้เพียงปลายก้อย แต่วินาทีนี้เธอกลับกำลังถูกผู้ชายคนหนึ่งจับกดลงกับโต๊ะอย่างป่าเถื่อน"รีบปล่อยคุณหนูเดี๋ยวนี้!""แกกำลังรนหาที่ตาย!"......บอดี้การ์ดแต่ละคนต่างก็ลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ และรีบวิ่งไปข้างหน้าพร้อมกับคำรามลั่น"ไสหัวไป!"เย่ซิวอ้าปากและตะโกนดัง ๆ โดยใช้ทักษะราชสีห์คำรามของวัดพุทธคลื่นเสียงที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าพุ่งโจมตีออกไปทุกทิศทางบอดี้การ์ดเหล่านี้ฉับพลันเกิดอาการเวียนหัวและล้มลงไปกับพื้นก่อนที่จะขยับเข้ามาใกล้ แต่ละคนต่างน้ำลายฟูมปากเย่ซิวยังคงโจมตีต่อไปเสียงที่กระจ่างชัดและไพเราะดังก้องไปทั่วห้องความอัปยศ!ความโกรธแค้น!ความจนปัญญา!แ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 313

    “เมื่อคืนนี้ หมอนั่นแข็งแกร่งมากจริง ๆ!”ไป๋อวี้เจี๋ยเพิ่งได้ยินเรื่องของเย่ซิวหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาในตอนเช้าถัดจากเธอ เลขานุการสาวสวยซึ่งกำลังยืนรายงานเธอพูดว่า "นั่นสิคะ กล้าที่จะงัดข้อกับจางรั่วหลิง แถมยังฆ่าลูกน้องมือดีที่สุดของเขาไปอีก ตอนนี้คิดว่าน่าจะกำลังถูกทั้งเมืองตามฆ่าอยู่แน่”ไป๋อวี้เจี๋ยยกมือขึ้นจับแก้มของเธอ ภายในหัวพลันก็ปรากฏภาพของเย่ซิวที่หล่อเหลา สีหน้าของเธอดูซีดลง“จบสิ้นแล้ว ถ้าเขาตายแล้วฉันจะทำยังไง?”“ผมไม่ตายหรอก ไม่ต้องห่วง”จู่ ๆ ก็มีเสียงดังก้องขึ้นในห้อง ทำเอาผู้หญิงทั้งสองคนตกใจสะดุ้งโหยงเย่ซิวปรากฏตัวออกมาราวกับผีดวงตาของหญิงสาวทั้งสองคนเบิกกว้างไป๋อวี้เจี๋ยทำหน้าอย่างกับเห็นผีกลางวันแสก ๆ อย่างไรอย่างนั้น "คุณยังมีชีวิตอยู่?!"เย่ซิวยิ้ม "มันแปลกมากเหรอ?"ไป๋อวี้เจี๋ยสูดลมหายใจเข้าลึกหลายครั้ง ก่อนที่จะสงบสติอารมณ์ลงได้แล้วพูดไปว่า “น่าทึ่งมาก คุณหลบหนีมาจากเงื้อมมือของตระกูลจางได้จริง ๆ ด้วย"เย่ซิวดึงหน้ากากบนใบหน้าของเขาออก ขยำมันแล้วโยนมันทิ้งไปในถังขยะ เขายืนขึ้นแล้วพูดว่า "ไปกันเถอะ ผมจะฝังเข็มให้คุณ"ไป๋อวี้เจี๋ยก็ยืนขึ้นและพูดก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 314

    เมื่อเดินผ่านห้องของไป๋อวี้เจี๋ย ประตูก็เปิดออกเห็นว่าเป็นเลขานุการคนนั้นที่เดินออกมา ข้างหลังเธอคือไป๋อวี้เจี๋ยเจ้าตัวสิ่งที่แปลกพิลึกเล็กน้อยคือใบหน้าของทั้งสองนั้นแดงมากเย่ซิวถามออกไป "พวกคุณเป็นอะไรไป?"ไป๋อวี้เจี๋ยเหมือนหัวขโมยตัวน้อยที่ถูกจับได้ว่าขโมยของบางอย่าง ในดวงตาของเธอฉายแววลุกลี้ลุกลนเลขาค่อนข้างสงบกว่ามาก เธอกระแอมหนึ่งทีแล้วตอบไปว่า "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เรื่องของสาว ๆ คุณก็อย่าถามให้มันมากเกินไปนัก"เย่ซิวไม่ได้เก็บมาใส่ใจ และพูดกับไป๋อวี้เจี๋ยว่า "ผมจะออกไปข้างนอกสักเดี๋ยว"หลังจากนั้นเขาก็สวมหน้ากากอันใหม่คราวนี้รูปลักษณ์ของเขาก็คือชายวัยกลางคนคนหนึ่งเขายังเตรียมหน้ากากอีกอันไว้เผื่อหลิวอวิ้นด้วย“ไป ๆ ๆ จะไปไหนก็รีบไป”ไป๋อวี้เจี๋ยโบกมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากเพิ่งทำบางเรื่องที่ไม่อาจเอื้อนเอ่ยได้ จู่ ๆ ก็พบเข้ากับเย่ซิว ทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนกมากเย่ซิวพูดว่า "ผมขอพาแม่ของเสวี่ยเอ๋อร์มาพักอยู่ที่นี่ด้วยจะได้ไหม?"“ไม่มีปัญหา”ก่อนออกเดินทาง เย่ซิวยังหันกลับไปมองเธอด้วยสายตาแปลก ๆหลังจากที่เย่ซิวจากไปแล้ว ไป๋อวี้เจี๋ยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 315

    เมื่อชายฉกรรจ์คนนั้นเห็นเย่ซิว พิจารณาจากรูปร่างของอีกฝ่ายที่ผอมบาง หน้าตาก็ธรรมดา แต่กลับกล้าเข้ามาแส่หาเรื่อง ทันใดนั้นเขาก็โกรธจัด “ไอ้แก่ ตรงนี้แกมีสิทธิ์พูดอะไรด้วยเหรอ!"เย่ซิวยังคงตีสีหน้าเย็นชา "ฉันจะพูดอีกครั้ง ไสหัวไปซะ!"จากนั้นชายฉกรรจ์ก็เหวี่ยงหมัดขนาดเท่าหม้อตุ๋นแล้วโจมตีไปที่หน้าของเย่ซิวอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง“ไอ้แก่ ฉันจะทำให้แกพิการเดี๋ยวนี้!”“อ้า ไม่นะ!”เด็กสาวที่อยู่ข้างหลังเย่ซิวกรีดร้องออกมาคนบนรถเองก็เบี่ยงสายตาไปทางอื่น ไม่อาจทนมองต่อไปได้ในความคิดของพวกเขา เป็นไปไม่ได้เลยที่เย่ซิวซึ่งค่อนข้างผอมกว่า จะสามารถเอาชนะชายร่างใหญ่บึกบึนคนนั้น“อ้าก!!”เสียงกรีดร้องดังก้องรถ แต่เสียงนั้นไม่ได้มาจากเย่ซิว ทว่ามาจากชายฉกรรจ์คนนั้นแทนทุกคนนิ่งอึ้งไปแล้วเมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้น ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา ก็ทำให้ทุกคนต้องเบิกตากว้างเห็นเพียงชายฉกรรจ์ที่เมื่อสักครู่นี้ยังอวดดี บัดนี้ถูกเย่ซิวเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า กรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดเสียงพูดอุทานในรถดังสนั่น ดวงตาของเด็กสาวเองก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นเย่ซิวมองไปที่ชายฉกรรจ์ "แกทำให้ผู้ชายอย่า

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 316

    ณ หอพักหอพักนักศึกษาแห่งหนึ่งในเมืองหลวงซูเสี่ยวเสี่ยวเปิดประตู รูมเมททุกคนไปกินข้าวกันหมดแล้ว จึงไม่มีใครอยู่สักคนเธอวางข้าวของไว้บนเตียงของตัวเอง จากนั้นเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์มือสองที่ซื้อมาในราคาห้าร้อยหยวนล็อกอินเข้าสู่ซอฟต์แวร์ซื้อขายหุ้นอย่างเชี่ยวชาญมีหุ้นสีเขียวอยู่บนนั้นสองสามตัวเธอติดตามหุ้นเหล่านี้มาหลายปีแล้ว แต่ไม่มีเงินพอที่จะซื้อมันได้ซูเสี่ยวเสี่ยวคลิกที่หุ้นซึ่งอยู่ด้านบนสุด จากนั้นนิ้วทั้งสิบก็รัวลงบนแป้นพิมพ์ เริ่มดำเนินการอย่างรวดเร็วมากสำหรับคนนอก ภาพลักษณ์เธอในสายตาของพวกเขาก็คือเซ่อ ๆ แต่ตอนนี้ดวงตาของเธอเป็นประกายวาววับ ซึ่งแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงถ้าเธอเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอจะเป็นนักธุรกิจหญิงที่ปราดเปรียวมากคนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยเลยหลังจากดำเนินการไปได้สักพัก เธอก็หยุดและกระซิบกับตัวเอง "ตอนนี้หุ้นนี้อยู่ในจุดต่ำสุด ถ้าซื้อในตอนนี้ มันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสิบเท่าภายในหนึ่งสัปดาห์!"เธอไม่ลังเลเลยที่จะลงทุนไปทั้งหมดสองหมื่นหยวน ซึ่งเท่ากับจำนวนเงินที่เย่ซิวโอนให้เธอ!!……เย่ซิวผลักประตูเข้าไป จากนั้นลงกลอนจากด้านในพนักงานก็ไม่แป

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 317

    หนึ่งเดือนต่อจากนี้ เขาจะทำให้กิจการของตระกูลเย่ทั้งหมดต้องพังพินาศ!ไม่มีอะไรที่จะทำให้ขึ้นสู่จุดสูงสุดได้เร็วเท่ากับการเหยียบซากศพของตระกูลผู้มีอำนาจอีกแล้วหลังจากปลอบใจเธอไปสองสามคำ และบอกให้เธอระวังตัวให้มาก เย่ซิวก็วางสายโทรศัพท์หลังจากผ่านไปยี่สิบนาที รถก็ไปถึงจุดหมายเย่ซิวลงจากรถพร้อมถุงหลายใบในมือทั้งสองคนดูธรรมดามากจนไม่มีใครสังเกตเห็นเลยเดินเท้าต่อไปอีกไม่กี่กิโลเมตร ดวงตาของเย่ซิวก็ต้องหรี่ลงเขาเห็น 'คนที่คุ้นเคย' ยืนอยู่ข้างหน้านั่น!ผู้หญิงทั้งสี่คนแต่งตัวเหมือนกันหมด!พวกเธอมีรูปร่างสูงโปร่ง ยิ่งเมื่อสวมชุดออกกำลังกาย ก็ยิ่งยากที่จะปกปิดเรือนร่างอันร้อนแรงเหล่านั้นนี่คือแฝดสี่ ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นบอดี้การ์ดของหลี่หรูเฟิง!ในตอนแรกเย่ซิวสนใจพวกเธอมาก และอยากที่จะพิชิตใจพวกเธอให้ได้ต่อมาเพราะมีเรื่องให้จัดการมากเกินไป เขาจึงลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเห็นแฝดสี่มาปรากฏตัวในเมืองหลวงแบบนี้ เย่ซิวก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหรือว่าหลี่หรูเฟิงเองก็มาที่นี่แล้ว?จำได้ว่าตอนนั้นเขาได้ทำให้อีกฝ่ายพิการไปแล้ว หรือจะมาที่เมืองหลวงเพื่อทำการรักษา…ซึ่งความจริงก็เป็นเช

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 318

    รูปถ่ายที่ไป๋อวี้เจี๋ยส่งมาให้มีทั้งหมดแปดถึงเก้ารูปทุกรูปช่างเซ็กซี่และร้อนแรงและทุกรูปก็สามารถกระตุ้นความปรารถนาในตัวของผู้ชายออกมาได้ในทันทีแน่นอนว่ารูปถ่ายเหล่านี้ไม่ใช่รูปของเธอ แต่เป็นรูปของเลขาเธอ!ในช่วงสุดท้าย ยังทิ้งข้อความไว้ประโยคหนึ่งด้วยว่า‘เป็นไงบ้าง เลขาฯ ของฉันคนนี้หุ่นดีมากเลยใช่ไหม?’เย่ซิวพูดไม่ออกอยู่นานมาก หลังจากอ่านข้อความจบ เขาก็ส่ายหัวแล้วลบรูปภาพทั้งหมดทิ้งภายในห้อง สองแม่ลูกร้องไห้กันอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เริ่มคุยกันเบา ๆหลิวอวิ้นถามว่า "ลูกกับเขาไปถึงขั้นไหนแล้ว ได้มี..."ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ส่ายหัวอย่างหน้าแดง “ไม่มีค่ะ เรายังมีความสัมพันธ์แบบชายหญิงที่บริสุทธิ์มาก"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไม่รู้ทำไมหลิวอวิ้นถึงได้ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกจากนั้นเธอก็พูดต่อว่า "ลูกเล่าให้แม่ฟังหน่อยสิว่าเขาเป็นใครมาจากไหน เบื้องหลังมีขุมอำนาจใดอยู่บ้าง ทรงพลังมากไหม เขาช่วยลูกออกมาจากเงื้อมมือของเย่ขวงได้จริง ๆ หรือ?”ตอนนี้เธออยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเย่ซิวเป็นอย่างมากลู่เสวี่ยเอ๋อร์เม้มริมฝีปากบาง แล้วเล่าทุกอย่างที่เธอรู้และพูดได้ให้กับหลิวอวิ้นฟังแม้ว่าเธอจะพู

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 319

    “ตอนนี้พวกเธอก็เป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับสามแล้ว งั้นฉันจะช่วยให้พวกเธอทะลวงระดับขึ้นไปกว่านี้”เมื่อแฝดสี่ได้ยินประโยคนี้ ขณะที่ดีใจ ในใจก็บังเกิดความกังขาขึ้นมาการจะยกระดับพลังยุทธ์ของจอมยุทธ์ แต่ไหนแต่ไรมาล้วนต้องพึ่งพาตัวเอง เขาจะทำได้จริง ๆ หรือ?ทว่าไม่นานพวกเธอก็รับรู้แฝดสี่แซ่เหมย ชื่อเรียงลำดับจากอายุมากไปน้อยได้แก่ ชุน เซี่ย ชิว และตงเย่ซิวเรียกให้เหมยชุนขึ้นมาก่อนสั่งให้เธอนั่งขัดสมาธิ โดยหันหลังให้เขาเย่ซิววางมือลงบนแผ่นหลังของเธอ จากนั้นปลดปล่อยกำลังภายในออกมาอย่างช้า ๆร่างกายอันบอบบางของเหมยชุนก็สั่นไหว เธอสัมผัสได้ว่าที่หลังมีความร้อนสองสายกำลังแทรกตัวเข้ามา จากนั้นไหลไปทั่วทั้งร่างกายของเธอเส้นลมปราณส่วนน้อยที่ยังถูกปิดกั้นอยู่ในร่างกายเธอถูกเปิดออกใช้เวลาเพียงสิบนาที เธอก็ทะลวงขั้นได้สำเร็จในความเป็นจริง เธอไปถึงคอขวดของระดับพลังแล้วแต่ถ้าไม่มีคนนอกช่วยเหลือ อย่างน้อยพวกเธอก็ต้องใช้เวลาอีกนานมากกว่าที่จะประสบความสำเร็จและในโลกใบนี้ ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีกำลังภายในแข็งแกร่งพอที่จะช่วยให้พวกเธอทะลวงระดับไปได้อย่างเย่ซิว“ทะลวงระดับแล้วจร

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 586

    นี่คือคำสัญญาที่เย่ซิวให้ไว้ต่อเธอลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาของเธอลงอย่างมีความสุขวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรมากนัก ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เลยบำเพ็ญตนกับเย่ซิวตลอดลากยาวไปจนถึงห้าโมงเย็นถึงได้หยุดห้าโมงเย็น ก็เลิกงานแล้วเย่ซิวขอให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับไปก่อน เนื่องจากเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำเมื่อมาถึงลานจอดรถ หลางต้าก็รออยู่ข้าง ๆ รถของเย่ซิวแล้วมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่ที่เท้าของเขา“นายน้อย!” หลางต้าโค้งตัวลงแล้วพูด “ทุกสิ่งที่คุณต้องการเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ”เย่ซิวพยักหน้า "ได้ นายกลับไปเถอะ"เขาใส่กระเป๋าเดินทางไว้ท้ายรถ จากนั้นขับรถออกไปจุดหมายคือบ้านเช่านอกชานเมืองที่ชูตงอาศัยอยู่เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงานถึงที่นี่ ทุกวันคือราวสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมงเย่ซิวดูเงินเดือนของชูตงซึ่งมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทหลังจากหักภาษีในทุกเดือนแล้วราคาบ้านใกล้บริษัทอยู่ที่ประมาณสองหมื่นห้าพันบาท ซึ่งอิงตามหลักการแล้วเธอน่าจะแบกรับไหวถึงจะถูกเมื่อเขามาถึงบ้านเช่าของชูตง เขาก็จอดรถ ยกกระเป๋าเดินทางออกมา แล้วเดินไปที่เขตชุมชนด้านหน้าเขตชุมชนแห่งหนึ่ง ในห้องสามศูนย์แปด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 585

    "ตอนนี้คุณมีแฟนหรือยัง?"เมื่อได้ยินแบบนี้ ชูตงก็รู้สึกรังเกียจเธอแอบคิดว่าเย่ซิวประธานใหญ่คนนี้ ดูเหมือนจะซื่อตรงและมีเกียรติ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆหลายคนเคยถามคำถามนี้กับเธอเธอรู้ตัวดีว่าเธอมีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชายมากจริง ๆแม้ในใจจะดูแคลน แต่สีหน้ากลับไม่แสดงออกเลยแม้แต่น้อย “เรียนท่านประธานคะ มีแล้วค่ะ เป็นคนที่บ้านแนะนำมา ในอีกไม่กี่เดือนก็จะกลับไปหมั้นกันแล้ว”เย่ซิวขานรับอืมหนึ่งที "อืม ออกไปทำงานเถอะ"ชูตงตกตะลึงไปครู่หนึ่งเธอนึกว่าเย่ซิวจะขอให้เธอเป็นคนรักลับ ๆ ของเขาแต่เป็นแบบนี้ก็ดี ตัวเองเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ยังไม่อยากลาออก อยู่ที่นี่เธอทำงานอย่างมีความสุขมากเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์บริหารงานเข้มงวด จึงไม่มีความน่ารังเกียจทุกประเภทที่พบในที่ทำงานภายนอกปรากฏขึ้นที่นี่หลังจากที่เธอออกไป เย่ซิวก็นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของเซี่ยซิ่วซิ่ว เปิดรายชื่อพนักงาน และพบข้อมูลของชูตงเธอมาจากชนบทและเพิ่งจะเรียนจบ แต่กลับเปลี่ยนงานมามากกว่าสิบตำแหน่งแล้วในเรซูเม่ระบุว่างานเหล่านั้นทำเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ประธานหรือหัวหน้างาน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 584

    ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างด่าบริษัทเครื่องสำอางเหล่านั้นอย่างสาดเสียเทเสียว่าใช้ไม้อ่อนไม่ได้ก็เลยใช้ไม้แข็ง ไร้ศีลธรรมมากเกินไปแล้วเมื่อสักครู่นี้เพิ่งมีข่าวส่งมา ว่ามีผู้คนหลายหมื่นคนของประเทศอวี้ไปซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา"เย่ซิวเตือนไปหนึ่งประโยค "ผลกำไรของเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ต้นทุนที่เพิ่มมาก็ปล่อยให้พวกเขาไปแบกรับแทนอย่างไรเสียพวกเราคือ 'เหยื่อ' และหากมีคำด่าทออะไรก็ให้บริษัทของแต่ละประเทศไปแบกรับกันเอาเอง"เซี่ยซิ่วซิ่วยิ้มอย่างมีความสุขมาก "อืม ฉันรู้แล้วเว้นเสียแต่ประเทศต่าง ๆ จะห้ามไม่ให้ผู้คนเดินทางไปยังประเทศอวี้ ธุรกิจของเราก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก"แต่มันไม่สมจริงเลยที่จะห้ามไม่ให้ผู้คนไปที่ประเทศอวี้ประเทศอวี้เป็นประเทศที่เป็นกลางอย่างยิ่ง ได้รับการคุ้มครองจากหลายร้อยประเทศ แถมยังเป็นเขตปลอดภาษีอีกด้วยใครก็ตามที่แบนมัน จะต้องเผชิญการประท้วงอย่างรุนแรงแน่นอน“จริงสิ ชิงชิงจะมาถึงบ่ายวันนี้ ฉันจะไปรับเธอ นายจะไปไหม?”เกี่ยวกับเซี่ยชิงชิง เซี่ยซิ่วซิ่วบอกเขาเมื่อวานนี้ตอนนี้ตัวหมากนี้มีผลต่อเย่ซิวไม่มากแล้วบวกกับหลังจากที่เซี่ยซิ่วซิ่วติดตามเขาเธอก็ทำง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 583

    “นาย...นายท่าน...”ภายใต้การล่อลวงอย่างต่อเนื่องของเย่ซิว น่าหลันเยียนหรานมีเพียง 'ยอมแพ้' ในที่สุดนอกจากความเขินอายที่มีอยู่ น่าหลันเยียนหรานยังรู้สึกถึงความรู้สึกที่พิเศษมาก ซึ่งมาจากก้นบึ้งของหัวใจ นั่นคือความรู้สึกถูกครอบงำที่แสนประหลาด!หลังจากบำเพ็ญตนจนถึงเที่ยงคืน น่าหลันเยียนหรานก็หลับสนิทไประหว่างที่หลับ ร่างกายของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วมากถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผู้หญิงทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาก็จะขึ้นเป็นปรมาจารย์ทั้งหมดแม้ว่าในอนาคตเขาจะไม่ออกหน้า แต่ผู้หญิงข้างกายเขาเหล่านี้ก็สามารถครองยุทธภพเย่ซิวไม่ได้พักผ่อน แต่นั่งขัดสมาธิอยู่ข้าง ๆ น่าหลันเยียนหราน หยิบสุราวิญญาณออกมาดื่มอึกใหญ่ แล้วใช้วิชายุทธเริ่มปรับแต่งมันอย่างเงียบ ๆตอนนี้เป้าหมายของเขาคือการเข้าสู่ขั้นอมตะให้เร็วที่สุด แบบนี้ถึงจะสามารถรู้ความหมายของคำพูดที่หยางชิงเสวี่ยพูดไว้ว่าถ้าเขาได้เธอ ก็จะได้ครอบครองพลังที่ทรงพลังมากเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อน่าหลันเยียนหรานตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกว่ามีพลังไหลไปทั่วทั้งร่างกาย หูและสายตาของเธอเฉียบคมขึ้น สภาพดีชนิดที่ว่าเมื่อก่อนเทียบไม่ติด“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเย่”

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 582

    น่าหลันเยียนหรานหัวเราะคิกคัก "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดื่มเก่งมาก มา ดื่มกันต่อ..."โดยปกติแล้วคนที่ชอบพูดว่าตัวเองดื่มเก่ง ในความเป็นจริงล้วนไม่ค่อยจะเท่าไหร่ยกตัวอย่างเช่นน่าหลันเยียนหราน อวดว่าตัวเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ดื่มไปสามแก้วติดกัน ก็นอนฟุบหมดสติไปกับโต๊ะแล้วเย่ซิวส่ายหัวอย่างหมดคำพูด เดินขึ้นไปแล้วอุ้มเธอกลับไปที่ห้องน่าหลันเยียนหรานดูตัวสูงเพรียว แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ตัวหนัก น่าจะสักประมาณสี่สิบห้ากิโลกรัม สำหรับเย่ซิวแล้วจึงไม่ต่างอะไรกับการอุ้มก้อนสำลีมากนักเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของน่าหลันเยียนหราน กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกมะลิก็ลอยมาปะทะจมูก ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเบิกบานเมื่อได้กลิ่นห้องพักสะอาดมาก ไม่มีอะไรที่ทำให้คนเห็นแล้วต้องหน้าแดงเขาวางเธอลงเบา ๆ ไม่ทันรอให้เย่ซิวดึงมือกลับไป เธอก็ลืมตาที่แดงก่ำขึ้นแล้วพูดอย่างคลุมเครือฟังไม่ค่อยชัดแต่เย่ซิวได้ยินมันอย่างชัดเจนมาก เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "คุณแน่ใจเหรอ? ผมไม่สามารถให้สถานะแก่คุณได้"น่าหลันเยียนหรานค่อย ๆ หลับตาลง ท่าทางเหมือนยอมให้ท่านกระทำได้ทุกอย่างนี่เป็นการตัดสินใจเลือกของเธอเอง เย่ซิวไม่ได้บังค

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 581

    “วิชาจินตานเบญจมหาธาตุวิถี!”เย่ซิวมองไปที่วิธีบ่มเพาะจินตานที่บันทึกไว้ในหนังสือในมือของเขาด้วยความดีใจเป็นอย่างยิ่งสิ่งที่เรียกว่าการสร้างแก่นจินตาน สามารถมองได้ว่ามนุษย์กับธรรมชาติเป็นหนึ่งเดียวกันโดยใช้กายมนุษย์เป็นเตาหลอม พละกำลัง ลมปราณ และพลังวิญญาณเป็นวัตถุดิบยา หลอมกลั่นมันออกมาตลอดทุกยุคสมัยล้วนมีบันทึกไว้แบบนี้ เมื่อจินตานหนึ่งเม็ดอยู่ในท้องข้า ก็ตระหนักได้แล้วว่าชะตากรรมข้ามิได้ถูกกำหนดโดยฟ้าดินอีกต่อไปและวิธีการสร้างตานในมือของเย่ซิว ก็คือหนึ่งในวิธีที่ยากที่สุดในบรรดาวิธีการต่าง ๆจำเป็นต้องรวบรวมสมบัติแห่งฟ้าดินทั้งห้าธาตุ แล้วกลั่นเป็นตานแห่งเบญจมหาธาตุวิถี!จินตานประเภทนี้จะมีพลังวิญญาณแฝงอยู่เป็นสิบเท่าของจินตานทั่วไป และความเร็วในการฟื้นตัวเองก็มากกว่าหลายเท่า ยิ่งไปกว่านั้น ในระดับขั้นเดียวกัน ผู้บำเพ็ญตนที่มีตานแห่งวิถีห้าธาตุ จะสามารถเอาชนะขั้นอมตะทั่วไปได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีความสามารถในการต่อสู้แบบข้ามขั้นที่น่ากลัวด้วยแน่นอนว่า ศักยภาพเองก็แข็งแกร่งเช่นกัน สามารถไปต่อได้ไกลเย่ซิวจดทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้น จากนั้นนำหนังสือกลับไปคืนที่เดิม ทิ้ง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 580

    ในตอนนั้นเอง กระบี่พยัคฆ์ก็รู้สึกได้ว่าจิตสังหารที่รายล้อมรอบตัวเขาได้จางหายไปแล้วเย่ซิวเอ่ยเรียบ ๆ “ผมกำลังขาดสุนัขที่รู้จักเห่าและกัดเจ็บอยู่ สนใจจะเป็นไหม?”เขามองออกว่ากระบี่พยัคฆ์เป็นคนที่หยิ่งทะนงและไม่ยอมใคร การใช้คำพูดที่สุภาพกับคนแบบนี้คงไม่มีประโยชน์ ต้องใช้พลังที่เหนือกว่าและความเด็ดขาดเท่านั้นถึงจะควบคุมได้และเป็นดังที่คาดไว้ กระบี่พยัคฆ์ที่เพิ่งโดนพลังของเย่ซิวข่มขวัญก็ยอมจำนนในทันที แทนที่จะรู้สึกไม่พอใจ เขากลับยิ้มอย่างยินดี “ผมยินดีรับใช้ ขอบคุณที่คุณรับผมไว้ครับ!”ภาพนี้ทำเอานักพรตทั้งสองคนตกตะลึงจนพูดไม่ออกเย่ซิวเดินเข้าไปหานักพรตสาวที่หน้าตางดงามราวกับงานศิลปะ พลางเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน “พอจะอนุญาตให้ผมเข้าไปดูหนังสือในห้องสมุดของพวกคุณได้ไหม?”นักพรตสาวกลับมาตั้งสติ ก่อนจะมองหน้านักพรตอีกคนนักพรตคนนั้นรีบวิ่งเข้ามาพร้อมท่าทีที่นอบน้อมอย่างมาก “ดะ…ได้เลย…เชิญโยมตามอาตมาเข้ามาได้เลย”ตอนนี้เขารู้สึกเกรงกลัวเย่ซิวเป็นอย่างยิ่งชายที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ หากเขาโกรธขึ้นมา เกรงว่าทั้งอารามเต๋าอาจถูกทำลายจนไม่เหลือเย่ซิวหันไปมองกระบี่พยัคฆ์ “คุกเข่ารอฉันตรงนี

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 579

    กระบี่พยัคฆ์มีท่าทีที่ดุดันและแข็งกร้าว แต่ก็สมกับพลังที่เขามีจริง ๆกระบี่ที่เขาฟาดออกไปมีกลิ่นอายอันยิ่งใหญ่และทรงพลังดั่งมหาสมุทร ราวกับจะผ่าทั้งสวรรค์และปฐพีออกเป็นสองส่วนเด็กสาวที่วิ่งออกมาจากในอารามที่ดูงดงามราวกับตุ๊กตาได้แต่มองกระบี่นี้ด้วยความตกตะลึงเธออยากจะเข้าไปช่วย แต่ด้วยพลังที่มีไม่พอจึงได้แต่เบือนหน้าหนี ไม่อยากเห็นภาพที่เย่ซิวจะถูกแยกออกเป็นสองท่อนนักพรตหนุ่มถึงกับหน้าซีด คิดจินตนาการถึงภาพที่เย่ซิวต้องเลือดสาดเต็มพื้น“ไม่เลวเลย จอมยุทธ์ระดับแปดขั้นต้นที่สามารถปลดปล่อยพลังได้ถึงขั้นสูงถือว่าหายากทีเดียว”ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ มีเพียงเย่ซิวเท่านั้นที่ยังมีอารมณ์มาวิจารณ์การโจมตีนี้ด้วยท่าทีสงบ กระบี่พยัคฆ์ได้ยินดังนั้นก็แสยะยิ้มเย้ยหยัน “ตายคาที่แล้วยังจะทำเป็นอวดเก่งอีก!”แต่เพียงชั่วพริบตา รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ แทนที่ด้วยสีหน้าตกตะลึงราวกับเห็นผีเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือ เย่ซิวใช้เพียงสองนิ้วคีบหยุดคลื่นกระบี่อันน่าสะพรึงนั้นได้อย่างง่ายดายท่ามกลางสายตาตกตะลึงของกระบี่พยัคฆ์และนักพรตทั้งสอง เย่ซิวคีบคลื่นกระบี่ไว้ได้ราวกับไม่มีอ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 578

    ชายคนนั้นมีท่าทีไม่เชื่ออย่างแรง “อย่ามาหลอกฉัน ถ้าเจ้าอาวาสไม่ออกมา ฉันก็ไม่ไป และวัดนี้ก็อย่าหวังว่าจะมีใครมากราบไหว้อีก!”นักพรตหนุ่มรู้สึกทั้งโกรธและหมดหนทาง เมื่อเจอกับคนที่มีพลังแข็งแกร่งและเล่นไม่ซื่อแบบนี้ เขาเองก็ไม่รู้จะรับมือยังไง“เฮ้ พวกเธอสองคน ไสหัวไปซะ!”ชายคนนั้นมองเย่ซิวกับน่าหลันเยียนหรานด้วยสายตาดุดันดั่งสิงโตที่กำลังคำราม ดูน่ากลัวเป็นอย่างมากนี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้ผู้คนที่มาไหว้พระพากันหนีไปหมดเย่ซิวเอ่ยเรียบ ๆ “นี่เป็นที่สาธารณะ ทำไมผมต้องไปด้วย?”ชายคนนั้นแสยะยิ้ม “ไอ้หนู คิดจะโชว์แมนต่อหน้าแฟนหรือไง? อยากโดนฉันสั่งสอนใช่ไหม!”พูดจบ พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ออกมาจากร่างของเขามีเพียงผู้ที่ผ่านสมรภูมิความเป็นความตายอันโหดร้ายมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นที่จะสามารถแผ่กลิ่นอายอันน่ากลัวเช่นนี้ออกมาน่าหลันเยียนหรานตัวสั่นเทิ้ม ขนลุกไปทั้งร่างชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้วแต่ในวินาทีนั้นเย่ซิวก็ยื่นมือใหญ่ที่อบอุ่นและแข็งแรงมาจับมือเล็ก ๆ ของเธอไว้ เธอรู้สึกสงบลง ก่อนจะมองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาขอบคุณนักพรตหนุ่มรีบวิ่งลงมาหาเย่ซิวพร้อมเตือนด้วยความกังวล “โย

DMCA.com Protection Status