“แล้วอย่างที่สอง วันนี้ฉันมีสอบ ฉันส่งข้อสอบก่อนเวลาแล้วก็้เพิ่งจะกลับบ้านมา เป็นยังไง? ฉันเก่งไหม? ชมฉันหน่อยสิ”เย่ซิวเอ่ยตอบเสียงเรียบ “แม้ว่าผมจะอ่อนกว่าคุณ แต่ในด้านนิสัยและความคิด คุณยังห่างไกลจากผมมากเลยนะ”หลัวอีอีนั่งข้างเย่ซิว กลิ่นกายของเธอส่งกลิ่นหอมอบอวลดูเหมือนจะเป็นกลิ่นของสบู่เหลวหรืออาจเป็นกลิ่นตัวของเธอเอง ซึ่งเป็นกลิ่นที่หอมมาก“นายว่า ฉันควรเลือกเรียนคณะอะไรดี?” หลัวอีอีกระพริบตาถาม“ก็ต้องดูว่าคุณชอบอะไรสิ”หลัวอีอีเอ่ยขึ้นว่า “ฉันคิดว่านายพูดถูก ฉันควรพยายามเรียนรู้ให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนชั้นล่างมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะฉะนั้น ฉันก็เลยตัดสินใจที่จะเดินตามเส้นทางของคุณพ่อกับคุณปู่!”เธอเอ่ยคำพูดนี้อย่างจริงจัง เย่ซิวมองไปที่ดวงตาบริสุทธิ์ของเธอ เหมือนมีแสงไฟที่ส่องประกายในดวงตาลึก “คุณแน่ใจนะ?”หลัวอีอีพยักหน้าอย่างหนักแน่น“ดี ในเมื่อคุณคิดได้แบบนี้ อย่างนั้น ผมก็จะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับคุณ!พูดจบ เย่ซิวก็วางมือหนึ่งไว้ที่ไหล่ของหลัวอีอีทันใดนั้น ใบหน้าของหลัวอีอีก็เริ่มแดงขึ้น ดวงตาของเธอเปล่งประกายเหมือนสายน้ำไหล เธอเอ่ยเบา ๆ “อย่าทำแบบนี้นะ…ในบ
เมื่อสิ่งสกปรกบนร่างกายของเธอถูกน้ำสะอาดชำระล้างออกไป ก็เผยให้เห็นผิวของหลัวอีอีที่เต็มไปด้วยความยืดหยุ่นและความเงางาม เหมือนกับการเกิดใหม่หลัวอีอีมองดูผิวของตัวเองด้วยความตกใจเมื่อใช้มือสัมผัสก็รู้สึกนุ่มนวลจนไม่อยากปล่อยมือ“พระเจ้า นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?”หลัวอีอีรู้สึกตกใจนี่เหมือนกับการเกิดใหม่อีกครั้งเธอยืนอยู่หน้ากระจก มองตัวเองตอนนี้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล “นี่มันนางฟ้าชัด ๆ ชอบมาก ชอบจริง ๆ”เธอยังคงโพสท่าทางต่าง ๆ ที่หน้ากระจก ยิ่งดูยิ่งชอบ“ฉันนี่สวยมาตั้งแต่เกิดจริง ๆ ถ้าฉันออกไปข้างนอกแบบนี้ มีเหรอพวกหนุ่ม ๆ จะไม่คลั่งไคล้ฉัน…โอ๊ย!!”ทันใดนั้น เธอก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมาเพราะมัวแต่หลงระเริงกับความภูมิใจในตนเอง ดังนั้น จึงทำให้เธอเหยียบพลาดและลื่นล้มลง การล้มครั้งนี้ทำให้หลังทั้งแผ่นช้ำไปหมด หลัวอีอีจึงไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้เป็นเวลานานขณะที่อยู่ข้างนอก เย่ซิวได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว จึงลุกขึ้นทันทีและเดินไปที่ห้องของหลัวอีอี เขายืนอยู่หน้าห้องน้ำแล้วเอ่ยถามว่าเธอว่า “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”เสียงของหลัวอีอีสั่นเครือเหมือนกำลังจะร้องไห้ “ฮือ ๆ
หลัวฮุ่ยหมิ่นรู้สึกโกรธเป็นอย่างมากทันทีที่เข้าไปในบ้าน เธอก็เดินตรงไปที่ห้องของหลัวอีอีแกร็ก!เมื่อประตูห้องเปิดออก หลัวฮุ่ยหมิ่นก็ถึงกับยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเธอเห็นอะไรน่ะหรือ?เธอเห็นว่าเย่ซิวอยู่กำลังทำ…“พวกเธอทำอะไรกันนะ!”หลัวฮุ่ยหมิ่นกรีดร้องออกมาเสียงดัง ทำให้ชายหญิงในห้องหันมองมาพร้อมกัน“กรี๊ด!”หลัวอีอีก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างดัง ตอนนี้สถานการณ์ที่ถูกอาของเธอเห็นเข้าช่างหน้าอายและอึดอัดสุด ๆ มีเพียงเย่ซิวเท่านั้นที่ยังคงใจเย็น เขาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบว่า ”เมื่อกี้เธออาบน้ำแล้วลื่นล้ม ผมก็เลยช่วยพยุงเธอออกมา”หลัวฮุ่ยหมิ่นรีบวิ่งเข้ามา และก็เห็นว่าหลังของหลัวอีอีมีรอยช้ำจริง ๆ เธอจึงแอบถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ จากนั้น ก็ผลักเย่ซิวออกไป “เอาล่ะ ที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง นายรีบออกไปเถอะ ชายหญิงไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวกัน”เย่ซิวเดินออกจากห้องไปหลัวฮุ่ยหมิ่นรีบปิดประตูห้องและเดินไปหาหลัวอีอี พร้อมเอ่ยตำหนิว่า “ทำไมเธอถึงกลับบ้านก่อนเวลา อีกทั้งยังให้ผู้ชายเห็นเรือนร่างของเธอแบบนี้อีก? ถ้าข่าวลือถูกแพร่กระจายออกไป ใครจะกล้ามาขอเธอแต่งงาน?”หลัวอีอีหันไปพูด “เขาไม่
เพียงแค่ตื่นนอนขึ้นมา หวังซงต้องการคนจำนวนมากมาคอยรับใช้มีคนคอยสวมเสื้อผ้าให้ บีบยาสีฟัน หยิบรองเท้าและเตรียมน้ำยาบ้วนปากให้เขาเป็นต้น หลังจากการดำเนินชีวิตที่หรูหรา เขาจึงไปนั่งที่โต๊ะอาหารและเริ่มทานอาหารเช้าราคานับหมื่นบาทข้าง ๆ เขา มีคนรับใช้ยืนอยู่และรายงานสถานการณ์ของแต่ละบริษัทให้เขาฟังตอนนี้ที่หวังซงสนใจมากที่สุดคือบริษัทสตาร์รี่สกายเมื่อได้ยินว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา บริษัทสตาร์รี่สกายดำเนินงานไปได้อย่างราบรื่น สีหน้าของเขาก็พลันมืดมนลง และเขาก็ปล่อยเสียงฮึดฮัดเย็นชาออกมา“หึ! ไอแก่หลัวเฟิง แก่แล้วทำไมไม่ตาย ๆ ไปซะ ทำไมจู่ ๆ ถึงหายดีได้! ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ไอเด็กเย่ซิวนั่น มันคงจบเห่ไปแล้ว!”คนรับใช้ไม่กล้าปริปากพูดอะไรมาก ได้แต่เงียบไว้หวังซงจ้องมองด้วยสายตาเป็นประกาย ทันใดนั้น ความคิดชั่วร้ายก็ผุดขึ้น ริมฝีปากแสยะยิ้มเย็นชา “นายคิดว่า ถ้าฉันสั่งให้คนไปใส่ยาพิษในอาหารของพวกคนงานที่ไซต์ก่อสร้างจะเป็นยังไง!”เขาพบว่า ก่อนหน้านี้ตัวเองมุ่งเป้าไปที่เย่ซิวผิดทางไม่จำเป็นต้องเล่นงานกลุ่มบริษัท การโจมตีคนที่อยู่ต่ำกว่าก็ได้ผลเหมือนกันอีกทั้ง การโจมตีคนที่อยู่ต่ำ
หวังซงตะโกนเสียงดังลั่น จนสูญเสียการควบคุมตัวเองไปหลัวเฟิงโบกมือสั่งการ “จับเขาไป!”ในเมื่อจอมยุทธ์เหล่านั้นไม่กล้าลงมือ หวังซงก็ไม่สามารถขัดขืนได้อีกต่อไป มือของเขาถูกจับและถูกคุมตัวขึ้นรถเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วสื่อมวลชนต่าง ๆ รีบพุ่งเข้ามาเหมือนกับฉลามที่ได้กลิ่นคาวเลือดในขณะเดียวกัน พ่อของหวังซงและหวังเฟิงก็ได้รับข่าวสารนั้นทันทีแม้ว่าเขาจะตกใจ แต่ยังสามารถคงความสงบได้อยู่“มีสองเรื่องที่ฉันจะให้พวกแกไปจัดการ เรื่องแรก ไปซื้อสื่อเพื่อกดกระแสข่าวนี้ให้ลดลงซะ ทำให้แน่ใจว่าราคาหุ้นของบริษัทจะไม่ผันผวนมากเกินไป”“เรื่องที่สอง ไปสืบมาให้ได้ว่าใครเป็นคนทรยศลูกชายฉัน ฉันจะทำให้มันแหลกเป็นผุยผงเลยคอยดู!”แม้ว่าหวังเฟิงจะก้าวลงจากตำแหน่งไปแล้ว แต่เส้นสายและอิทธิพลของเขายังคงอยู่ลูกน้องที่ได้รับคำสั่งก็รีบไปดำเนินการทันทีจากนั้น หวังเฟิงก็เริ่มโทรศัพท์ในแวดวงราชการ เขายังมีเส้นสายอยู่อีกมากมายในตอนนี้ ทั้งกลุ่มบริษัทกำลังเผชิญกับวิกฤตหนักเขาไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ไปได้ จึงต้องใช้เส้นสายที่มีอยู่ทั้งหมดหลังจากโทรศัพท์ไปเป็นสิบ ๆ สาย หว
เขาทำการปรุงยาโอสถชีวาอาสัญด้วยวิธีเดิม และให้พี่เฟิงกินเข้าไปทันใดนั้น ก็มีเสียงดังขึ้นทั่วร่างของเขา ร่างกายของเขาพุ่งสูงขึ้นเกือบถึงสองเมตร!ในการเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญสามประการประการแรก กำลังภายในเมื่อเทียบกับจอมยุทธ์ระดับห้าจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสิบเท่า!ประการที่สอง เส้นพลังลมปราณทั้งแปดในร่างกายทั้งหมดถูกเปิดออก เชื่อมต่อกันเป็นวงจรซึ่งกำลังภายในจะไหลเวียนไม่หยุดและสามารถรองรับการต่อสู้เป็นระยะเวลานานประการที่สาม คือ การถือกำเนิดของพลัง!ซึ่งพลังนั้นมองไม่เห็น จับต้องไม่ได้แต่มีอยู่จริง พลังที่แข็งแกร่งสามารถทำให้คู่ต่อสู้หวาดกลัวก่อนที่จะสู้ กัน และจะบรรลุผลสำเร็จในการชนะโดยที่ไม่ต้องต่อสู้พี่เฟิงได้ทะลวงระดับแล้ว!แม้ว่าเขาจะมีข้อบกพร่องเมื่อเทียบกับปรมาจารย์ที่ฝึกฝนมาอย่างหนักด้วยตนเองแต่ก็ถือว่าเขาเป็นปรมาจารย์อยู่ดี!มันเป็นระดับที่สามารถบดขยี้จอมยุทธ์ระดับห้าได้!เมื่อสัมผัสถึงพลังที่แข็งแกร่งในตัวเอง พี่เฟิงรู้สึกตื่นเต้นจนพูดไม่ออก“ปรมาจารย์... ฮ่าฮ่าฮ่า... ผมกลายเป็นปรมาจารย์แล้ว...ไม่นึกเลยว่าผมจะมีวันนี้ ขอบคุณเจ้านายที่มอบชีวิตใ
เฉิงเฟิงมีรอยยิ้มพอใจปรากฏอยู่บนใบหน้าก่อนหน้านี้เขามักจะถูกหลิวหยางกดขี่อยู่เสมอแต่วันนี้ ในที่สุดเขาก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้เขากดฝ่ามือลงอย่างแรง!แคร่ก! แคร่ก!เสียงกระดูกหักดังต่อเนื่อง ทำให้กระดูกของหลิวหยางถูกบีบแตกเป็นชิ้น ๆ หลิวหยางเจ็บจนเหงื่อเย็นไหลท่วมตัวจากนั้น เฉิงเฟิงก็ปล่อยพลังอันที่น่ากลัวออกมาทันที“ระดับปรมาจารย์!”หลิวหยางตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ “นี่แกเป็นปรมาจารย์จริง ๆ เหรอ!”เขารู้สึกเหมือนหัวของเขามีเสียงดังอื้ออึงนี่เป็นเรื่องราวที่ยากจะเหลื่อเชื่อ เพราะเหตุใดคนที่มีความสามารถต่ำกว่าตน ถึงทะลวงระดับปรมาจารย์ได้ในเวลาอันสั้น?เฉิงเฟิงยกมือขึ้นและรวบรวมกำลังภายในอย่างต่อเนื่อง “เอาล่ะ ตายซะเถอะ!”“เดี๋ยวก่อน” เย่ซิ่วยกมือขึ้นพรางพูด “อย่าเพิ่งฆ่าเขา ถามเขาก่อนว่าเขามีทรัพย์สินทั้งหมดเท่าไหร่”เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามมีความแข็งแกร่งมากกว่าเฉิงเฟิง ดังนั้น คาดว่าทรัพย์สินของเขาน่าจะมากกว่าเฉิงเฟิง“ครับ เจ้านาย!” เฉิงเฟิงหันไปโค้งคำนับเย่ซิว จากนั้นก็ตบไปที่ใบหน้าหลิวหยางหนึ่งครั้ง“บอกมา ถ้ากล้าปกปิดข้อมูลแม้แต่นิดเดียว ฉันฆ่านายแน่!”หากการที่เฉิงเฟิ
ทรัพย์สินของศิษย์น้องหลิวหยางก็มีประมาณแปดถึงเก้าพันล้านไหนจะบวกกับของเฉิงเฟิง เย่ซิวเข้ามาที่เมืองหวู่เพียงไม่กี่วัน ก็สามารถทำกำไรได้มากกว่าสองหมื่นล้านความเร็วในการทำเงินแบบนี้ถือว่าสุดยอดมากส่วนการโอนทรัพย์สินทั้งหมดนั้น มีเฉิงเฟิงเป็นคนช่วยจัดการเย่ซิวติดตามการแถลงข่าวของหลัวเฟิงและหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เซิ่งต้าหลังจากที่หลัวเฟิงเปิดเผยหลักฐานต่าง ๆ ทางด้านบริษัทอสังหาริมทรัพย์เซิ่งต้าก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักบริษัทอื่น ๆ ในตลาดก็ฉวยโอกาสเข้ามากดดันบริษัทอสังหาริมทรัพย์เซิ่งต้าอย่างหนักตอนนี้หวังเฟิงกำลังตกอยู่ในสภาพย่ำแย่เส้นสายที่เขาเคยมีก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้แม้แต่นิดเดียวไม่สิ ควรจะเอ่ยว่าหลัวเฟิงนั้นตัดการติดต่อทุกช่องทาง มีความตั้งใจที่จะสู้จนถึงที่สุดเมื่อเป็นเช่นนี้ ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามจะมีความสามารถมากเพียงใด แต่หากไม่สามารถติดต่อเขาได้ ก็จะไม่มีทางทำอะไรเขาได้“บ้าจริง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!”หวังเฟิงเดินไปเดินมาในห้อง ตะโกนด้วยความโกรธแม้จะเป็นผู้ที่มีทักษะบ่มเพาะกำลังภายใน แต่ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถสงบสติได้เลยลูกชายถูกจับ บริษัทก็ถูกโจมตี
“นายจะทำอะไร…”ตามมาด้วยเสียงน้ำกระจายตัวดังสนั่นหลังจากบทเรียนอันแสนลึกซึ้ง ฉีฉูฉู่ก็สงบลงชั่วคราวถึงแม้สายตาที่มองเย่ซิวจะยังเต็มไปด้วยความโกรธ แต่เธอก็ไม่พูดอะไรที่จะทำให้เขาโมโหอีกหลังจากที่เธอช่วยเย่ซิวสวมเสื้อผ้าเสร็จ ทั้งคู่ก็เดินออกมาข้างนอก พอดีกับที่เฉินหลานกำลังเคาะประตูและรีบวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน “นายท่าน แย่แล้วค่ะ เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว”เย่ซิวนั่งลงบนโซฟานุ่ม ๆ พลางจิบไวน์แดงที่ฉีฉูฉู่ยื่นให้ ก่อนจะเอ่ยอย่างใจเย็น “ค่อย ๆ พูดก็ได้ ไม่ต้องรีบร้อน”“พึ่งได้รับข่าวล่าสุดมาค่ะว่าประเทศจ้านอิงตี้และประเทศจ้างฉงตี้ร่วมมือกับประเทศบริวารออกมาตรการคว่ำบาตรครีมผิวหยกของเราพวกเขาสั่งห้ามไม่ให้เราขายครีมผิวหยกในสำนักโอสถ แถมยังแบนสินค้าเราไปทั่วโลกอีกด้วยถึงขั้นขู่ว่าใครก็ตามที่กล้าซื้อสินค้าของเราจะถูกขึ้นบัญชีดำในการลอบสังหารค่ะ”สีหน้าของเย่ซิวไม่เปลี่ยนไปเลย เพราะเขาคาดการณ์เรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว“ไม่ต้องห่วง ผลิตต่อไปตามปกติ พวกนั้นคว่ำบาตรเราไม่ได้หรอก”เรื่องนี้เขาไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพราะยังไงฝั่งประเทศหลงเถิงจะช่วยจัดการให้อยู่ดีไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ป
เมื่อฉีฉูฉู่เห็นเย่ซิว สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน “นายกลับมาทำไมอีก!”เธอหมุนตัวตั้งใจจะเดินหนีทันทีเพราะไม่อยากเห็นผู้ชายคนนี้แต่ความเร็วของเธอคงไม่เท่ากับความเร็วในการพูดของเย่ซิว“มานี่”ร่างกายของฉีฉูฉู่สะดุ้งหยุดกึก ถึงแม้ในใจจะต่อต้านเพียงใด แต่ร่างกายกลับเดินเข้าไปหาเย่ซิวอย่างไม่อาจควบคุมได้เธอกัดฟันแน่น ก่อนจะมองผู้ชายตรงหน้าด้วยสายตาแค้นเคืองเย่ซิวจับปลายคางเรียบเนียนของเธอเบา ๆ “ไม่ได้เจอกันมาพักหนึ่ง ดูเหมือนพลังของคุณจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลยนะ”ตอนนี้ฉีฉูฉู่เข้าใกล้ขั้นกลางของการสร้างรากฐานปราณเต็มที คงเพราะช่วงนี้เธอหลอมรวมกับยีนนาคราชมากขึ้นฉีฉูฉู่แค่นเสียงหึ ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทางอย่างไม่อยากสบตากับชายคนนี้“ไปเตรียมอาหารกับน้ำร้อนให้ผมหน่อย”ฉีฉูฉู่ก้าวขาเรียวยาวออกไปอย่างไม่เต็มใจนักเมื่อเดินเข้าไปใกล้สำนักงานใหญ่แห่งสำนักโอสถ หวังซวงกับเฉินหลานที่ได้ข่าวก็รีบมาพบทันที“ท่านอาจารย์!”“นายท่าน กลับมาโดยไม่บอกกล่าวแบบนี้เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”“เรื่องมันยาวน่ะ” เย่ซิวเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะชี้ไปที่กระทิงคลั่งด้านข้าง “นี่คือกระทิงคลั่ง ต่อจากนี้เขาจ
เย่ซิวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรศัพท์ของเขามีระบบระบุตำแหน่งที่ทรงพลัง ไม่นานก็รู้ตำแหน่งปัจจุบันของตัวเองทันทีตอนนี้เขาอยู่ไกลจากประเทศหลงเถิงมากแล้ว แต่กลับอยู่ไม่ไกลจากสำนักโอสถหนึ่งวันหลังจากนั้น เย่ซิวก็กลับมาถึงสำนักโอสถอีกครั้งสิ่งแรกที่เขาทำคือโทรหาผู้หญิงรอบตัวและแจ้งให้พวกเธอรู้ว่าเขาปลอดภัยดีเขากำชับให้พวกเธอใช้เวลาให้เต็มที่ในการบำเพ็ญตนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากนั้นเย่ซิวหันไปเอ่ยกับกระทิงคลั่ง “ตอนนี้นายคิดจะทำยังไงต่อ จะไปตามทางของตัวเองหรือ…”“ตุบ!”ยังพูดไม่ทันจบ กระทิงคลั่งก็คุกเข่าลงทันที พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ความแค้นของผมได้รับการชำระแล้ว ต่อจากนี้ผมขอสาบานว่าจะติดตามคุณไปจนตาย”“ดี งั้นก็ตามฉันมา”เย่ซิวพาเขากลับไปยังสำนักงานใหญ่ของสำนักโอสถเขาไม่ได้แจ้งให้หวังซวงและเฉินหลานรู้ว่าเขากลับมาเพราะต้องการแอบตรวจสอบแบบลับ ๆ ว่าสำนักโอสถมีการบริหารอย่างไรในช่วงที่เขาไม่อยู่เย่ซิวกับกระทิงคลั่งเปลี่ยนรูปลักษณ์เพื่อเดินสำรวจพื้นที่ของสำนักโอสถตอนนี้ถนนคอนกรีตและทางด่วนลาดยางถูกสร้างขึ้นแล้วอาคารทันสมัยใหม่เอี่ยมหลา
เย่ซิวไม่เคยประมาทพวกอุปกรณ์ไฮเทคเหล่านี้เลยตัวอย่างเช่นตอนนี้ เมื่อสองประเทศนั้นตั้งใจแน่วแน่ที่จะล้อมปราบเขา การล่องหนของเขาก็ไม่อาจใช้ได้อีกต่อไปเพราะพวกเขาได้ระดมอุปกรณ์ตรวจจับชีพจรชีวิตจำนวนมาก ซึ่งสามารถจับสัญญาณสิ่งมีชีวิตได้ในระยะหลายร้อยไมล์ขณะนี้พลังวิญญาณของเย่ซิวเหลืออยู่น้อยเต็มที ทำให้ไม่สามารถซ่อนตัวเองได้อย่างสมบูรณ์เมื่อเผชิญหน้ากับเรือดำน้ำหลายลำที่กำลังล้อมเข้ามา เขาไม่มีทางถอยหนีอีกต่อไปแล้วในเรือดำน้ำแต่ละลำ บรรดาผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศที่รับผิดชอบการไล่ล่าเย่ซิวต่างมีรอยยิ้มอันโหดร้ายปรากฏบนใบหน้า“ดูเหมือนหมอนี่จะสูญเสียพลังไปมาก”“เขาใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว”“อีกนิดเดียวก็จะฆ่ามันได้ ถึงตอนนั้นพอพวกเรากลับไปก็ได้เลื่อนตำแหน่งกันหมด”“ไอ้เวรนี่แข็งแกร่งเกินไป ทำให้พวกเราสูญเสียอย่างหนัก แถมยังขายหน้าสุด ๆ คราวนี้ต้องระเบิดมันให้แหลกเป็นจุณ!”กระบี่ดาวตกอยู่ในมือเขาพลังวิญญาณเพียงเล็กน้อยที่เหลืออยู่ถูกส่งเข้าไปในกระบี่นั้น ทำให้จุดแสงทั้งเจ็ดบนกระบี่ส่องสว่างขึ้นทีละจุด จากนั้นมันก็เชื่อมต่อกับกลุ่มดาวหมีใหญ่ตูม! ตูม! ตูม!เสาแสงดาวขนาดมหึ
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ขวัญกำลังใจของพวกเขาได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงการทุ่มกำลังคนและอาวุธมากมายขนาดนี้ นอกจากจะไม่สามารถจับตัวเย่ซิวได้ แต่ผู้บัญชาการสูงสุดยังถูกสังหารอีก เรียกได้ว่าเป็นความพ่ายแพ้อย่างยับเยินเรื่องที่เหลือต่อจากนี้ก็จะง่ายขึ้นแล้วผู้อาวุโสมั่นใจว่าพวกเขาจะไม่กล้าทิ้งกำลังทหารไว้ที่ชายแดนอีกต่อไปและต่อให้พวกเขากล้า ผู้อาวุโสเพียงขู่พวกเขาก็เพียงพอแล้วเช่นการพูดว่า ถ้าในบรรดาผู้นำระดับสูงของพวกแกมีคนที่จะต้านทานการลอบสังหารของเย่ซิวได้ก็จงอยู่ต่อไปเถอะเย่ซิวมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดไหน ไม่จำเป็นต้องอธิบาย ทุกคนก็ได้เห็นกับตาแล้วดังนั้น วิกฤตครั้งนี้นอกจากจะถูกคลี่คลาย แต่ยังทำให้แต่ละประเทศเกรงกลัวประเทศหลงเถิงมากยิ่งขึ้นอย่างน้อยที่สุด ก่อนที่จะจัดการกับภัยแฝงที่ชื่อว่าเย่ซิวได้สำเร็จ คงไม่มีใครกล้าลงมือกับประเทศหลงเถิงง่าย ๆ แน่ เพราะผลลัพธ์ที่ตามมาคงจะร้ายแรงมาก“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง” ผู้อาวุโสครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสั่งลูกน้องข้างกายว่า “เอาภาพเหตุการณ์ตอนเย่ซิวต่อสู้เมื่อกี้ไปจัดเรียง แล้วเผยแพร่ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต”ลูกน้องตกใจ “จะไ
“ฮ่า ๆ ๆ สมแล้วที่เป็นตัวทดลองที่ประสบความสำเร็จที่สุดในช่วงหลายปีมานี้ พลังต่อสู้แข็งแกร่งมากจริง ๆ น่าเสียดายที่มันมีชีวิตอยู่ได้แค่สามถึงห้าปีเท่านั้น” โซโลเอ่ยด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นขณะมองเย่ซิวที่ถูกขวางไว้“ไม่เล่นแล้ว จบกันเสียที!”ดวงตาของเย่ซิวเปล่งประกายเย็นเยียบ ก่อนจะฟาดกระบี่ออกไปและใช้วิชาอัดปราณกระบี่หกชั้นในทันทีกระบี่พุ่งทะลุร่างของกระบี่คลั่งอย่างจัง พร้อมทั้งทำลายกุญแจมืออิเล็กทรอนิกส์ที่ข้อมือและข้อเท้าของเขาจนแหลกละเอียดร่างยักษ์ของเขาทรุดตัวลงช้า ๆ ความโกรธเกรี้ยวในดวงตาค่อย ๆ เลือนหายไปและแทนที่ด้วยความสับสนทันใดนั้น ภาพความทรงจำในอดีตพลันผุดขึ้นมาในหัวของเขา ก่อนที่น้ำตาสีเลือดจะไหลออกมาจากดวงตาเขาจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ กับพ่อแม่มีภรรยาที่เขารัก และลูกสาวตัวน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลก ครอบครัวของเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจนกระทั่งวันหนึ่งก็มีกลุ่มคนบุกเข้ามา พวกมันจับตัวเขาไป และสังหารพ่อแม่ ภรรยา และลูกสาวของเขาต่อหน้าต่อตาความเกลียดชังที่ไร้จุดสิ้นสุดพวยพุ่งออกมาจากร่างของกระทิงคลั่ง แม้แต่เย่ซิวก็อดไม่ได้ที่จะหันไปม
เย่ซิวมองดูอาวุธที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น จากนั้นแสงจากแหวนผนึกของก็ส่องสว่างขึ้น เขากวาดเอาอาวุธในบริเวณใกล้เคียงทั้งหมดไม่ว่าจะสภาพดีหรือเสียหายใส่เข้าไปในแหวนยังไงอาวุธพวกนี้ก็พอขายทำเงินได้บ้าง อย่างน้อยก็ช่วยชดเชยความเสียหายจากครั้งนี้ได้บางส่วน“อ๊าวว…”เสี่ยวปิงถอยกลับมา ก่อนที่ร่างกายหดเล็กลงจนเหมือนลูกสุนัขอีกครั้ง ทั่วตัวมันเต็มไปด้วยบาดแผลเลือดไหลไม่หยุดเพราะมันยังไม่เข้าสู่ระดับจินตานจึงไม่สามารถต้านทานการโจมตีของเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้เต็มที่แต่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ก็ช่วยให้เย่ซิวฟื้นพลังวิญญาณกลับมาได้ครึ่งหนึ่งแล้วส่วนเสี่ยวปิงเองก็สามารถสังหารทหารแนวหน้าได้หกถึงเจ็ดร้อยคน ผลลัพธ์นี้ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้วเย่ซิวเก็บมันใส่กระเป๋ากางเกงทันทีพร้อมกับปลุกพลังเปลวไฟลุกท่วมร่าง เขากำลังจะเตรียมพุ่งทะลวงแล้วเมื่อโซโลเห็นสายตาของเย่ซิว เขาก็ทั้งตกใจทั้งโมโหในเวลาเดียวกัน ก่อนจะหันไปมองเงามืดด้านหลัง “กระทิงคลั่ง คราวนี้ถึงตาแกแล้ว ต่อให้ต้องเผาผลาญยีนของแก แกก็ต้องหยุดมันให้ได้!”จากเงามืดนั้นปรากฏชายร่างยักษ์ที่ดูแข็งแกร่งเกินมนุษย์กล้ามเนื้อของเขาแน่นหนาราวกับ
ในเวลาเพียงไม่กี่นาที เย่ซิวก็บุกทะลวงไปได้กว่าสองพันเมตรระหว่างทางเขาได้ทำลายรถถัง ทหารระดับแนวหน้า และอาวุธต่าง ๆ กว่าหลายพันชิ้นเพียงชายหนึ่งคนกับกระบี่หนึ่งเล่ม แต่กลับแสดงพลังการต่อสู้ที่น่าทึ่ง!พร้อมทั้งปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งความมุ่งมั่นที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้ฝูงโดรนจำนวนมากบินมาเป็นระลอกเหนือตัวเขา ก่อนจะระเบิดใส่เย่ซิวจากทุกทิศทาง แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลยเย่ซิวเหวี่ยงกระบี่ดาวตกในมือออกไปแสงกระบี่พุ่งออกไปราวสายรุ้ง ทุกสิ่งที่สัมผัสถูกทะลวงอย่างไร้ความปรานีจากนั้นเขาก็วางมือทั้งสองลงบนพื้น พลางเอ่ยเสียงต่ำ “หอกมังกรดิน!”หนามดินขนาดมหึมาผุดขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะแทงทะลุเหล่าทหารแนวหน้าทันที อาคมปกคลุมไปทั่วพื้นที่กว้างกว่าหมื่นเมตรเย่ซิวจับกระบี่ดาวตกที่บินกลับมาได้อย่างแม่นยำ ก่อนจะทะยานต่อไปอีกสองพันเมตรการโจมตีเริ่มถี่ขึ้นเรื่อง ๆ ฝ่ายศัตรูก็เข้าสู่โหมดโกรธจัด ก่อนจะปล่อยท่าไม้ตายที่รุนแรงทุกชนิดออกมา ทำให้เย่ซิวต้องใช้พลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเขาเรียกกระบี่หงส์โบยบินออกมาและใช้พลังจิตควบคุมกระบี่สองเล่มให้พุ่งทะลวงซ้ายขวาเข้าโจมตีศัตรูดาบ
“นายคิดว่าตัวเองไร้เทียมทานงั้นเหรอ? ดี งั้นฉันจะคอยดูว่าแกจะไปได้สักกี่น้ำ ทุกหน่วยเตรียมพร้อม ล็อกเป้าหมาย เปิดฉากยิงเต็มกำลัง!”ตูม! ตูม! ตูม!ลูกระเบิดจำนวนมหาศาลถูกยิงออกมาเหมือนพายุที่ถาโถมใส่เย่ซิวอย่างบ้าคลั่งการโจมตีรุนแรงจนยากจะหาคำมาบรรยายในภาพจากห้องควบคุมของทั้งสองฝ่าย ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยเปลวไฟที่ปกคลุมไปทั่วผู้อาวุโสแห่งประเทศหลงเถิงทุบหมัดลงบนแผงควบคุมอย่างแรง “น่ารังเกียจนัก ถ้าพวกเราแข็งแกร่งกว่านี้อีกหน่อย พวกมันจะกล้าท้าทายเราขนาดนี้ได้ยังไง!”เขารู้สึกผิดอย่างมาก คิดว่าเป็นเพราะความอ่อนแอของประเทศที่ทำให้เย่ซิวต้องเสียสละตัวเองเขาจ้องมองหน้าจอที่เต็มไปด้วยเปลวไฟ ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “เจ้าเด็กบ้านี่ต้องรอดกลับมาให้ได้นะ นายคือความหวังของพวกเรา”ผู้อาวุโสรู้ความลับบางอย่างที่คนธรรมดาไม่อาจล่วงรู้เดิมทีเขาตั้งใจจะหาโอกาสเล่าเรื่องนี้ให้เย่ซิวฟัง แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก่อนโซโลหัวเราะลั่น “โจมตีไปขนาดนี้ ต่อให้แก…”เขาพูดยังไม่ทันจบก็ต้องหยุดชะงักทันทีเย่ซิวพุ่งออกมาจากจุดศูนย์กลางของการระเบิดพร้อมกับฟาดกระบี่ออกไปคลื่นกระบี่ยาวนับพันเมต