เย่ซิวจับหัวของจางจื้อเซิงและทุ่มลงบนสังเวียนวินาทีต่อมา อีกฝ่ายถึงกับน็อคและหมดสติไปทันทีสถานการณ์ในตอนนี้เงียบสงัดสายตาที่ยากจะเหลือเชื่อทุกคู่จับจ้องไปที่เย่ซิว“เก่งมาก เยี่ยมสุด ๆ ไปเลยค่ะ…” หยางเชี่ยนปรบมือ เธอเป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบในเวลานี้ เธอนับถือเย่ซิวด้วยใจจริงถ้าหากข้างบนนั้นเป็นเธอ เธอเองก็คงจะสู้เขาไม่ได้เช่นกันผู้คนที่เคยหัวเราะเยาะเย่ซิวต่างก็มีสีหน้าไม่สู้ดีจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีผู้คนจำนวนมากมองไปทางเย่ซิวด้วยสายตาชื่นชมและน่าเกรงขามเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้จะแพร่กระจายและได้รับความสนใจจากแวดวงศิลปะการต่อสู้อย่างแน่นอนและเย่ซิวก็จะมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนเย่ซิวเดินลงมาจากสังเวียน จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาต่งอู่ในตอนนี้ต่งอู่ไม่สามารถระงับอารมณ์ให้เย็นลงได้อีกต่อไปเขากำมือแน่นและมีสีหน้าที่บูดบึ้งหากสังเกตดี ๆ จะพบว่าร่างกายของเขาสั่นเทาเล็กน้อยเดิมทีเขาคิดว่าเย่ซิวเป็นปลาซิวปลาสร้อยแต่ใครจะรู้ว่าเขาจะมีพละกำลังมากมายขนาดนี้แม้แต่คนที่มีพละกำลังมหาศาลที่สุดในครอบครัวก็ยังโดนเขาโค่นล้ม แล้วตนจะเอาอะไรไปสู้เย่ซิวได้?เมื่อเห
ต่งอู่ระงับความโศกเศร้าของเขา แล้วโอนเงินให้กับเย่ซิวเป็นจำนวนเงินแสนล้าน เมื่อได้รับเงินแล้ว เย่ซิวก็เตะไปที่ต่งเฟยสองสามครั้งเพื่อทำให้กำลังภายในที่เหลืออยู่ในร่างกายของเขาแตกสลายแน่นอนว่าเขาได้วางกับดักต่งเฟยอีกด้วย แต่ถ้าหากว่าต่งเฟยไม่ปล่อยตัวมากจนเกินไปก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นถ้าเขามีเพศสัมพันธ์มากกว่าหกครั้งต่อเดือน เลือดจะออกจากทวารของเขาและเขาจะเสียชีวิตในกะทันหันทันที“เรียบร้อย” เย่ซิวเอ่ยต่งอู่ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ “แค่เตะสองครั้งก็บอกว่าเป็นการรักษาให้หายแล้ว นี่นายล้อฉันเล่นใช่ไหม?”แต่ต่งเฟยกลับรู้สึกเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมาก “ดีขึ้น มันดีขึ้นแล้วจริง ๆ ผมมีความรู้สึกขึ้นแล้ว!”ต่งอู่รู้สึกตกใจ “นี่แกดีขึ้นแล้วจริง ๆ เหรอ?”“จริง ๆ ครับ ผมดีขึ้นแล้ว เอาอย่างนี้นะครับคุณพ่อ ผมจะไปหาผู้หญิงมาลองดูเลย!”ความรู้สึกที่ได้คืนบางสิ่งที่สูญเสียไปทำให้ต่งเฟยรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่มีเรื่องอะไรสำคัญไปกว่านี้อีกแล้วต่งอู่รีบออกไปทันทีเขาไม่กล้าอยู่กับเย่ซิวอีกต่อไปหลังจากที่รอพวกเขาจากไปแล้ว หยางเชี่ยนก็เดินเข้ามาใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “สวัสดีค่ะ ฉันหวางเชี่ยน
“ฉันก็มาเซอร์ไพรส์เธอไง ดีใจไหม? อะนี่ฉันให้เธอ”เย่ซิวหยิบตุ๊กตาผ้าตัวหนึ่งออกมา ระหว่างทางกลับมาเขาได้แวะซื้อมันที่ร้านตุ๊กตาแห่งหนึ่งเมื่อหลิ่วเมิ่งอิ๋นได้เห็นตุ๊กตาผ้า เธอก็ยิ้มแล้วรีบรับมันมาด้วยความดีใจ “ฉันชอบมันมาก ๆ เลย! ขอบคุณนะพี่เย่”เธอเป็นเด็กสาวไร้เดียงสาคนหนึ่ง แค่ตุ๊กตาผ้าที่ราคาไม่กี่บาทก็สามารถทำให้เธอมีความสุขขนาดนี้ได้แน่นอน ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนให้ด้วยหากเป็นชายอื่น แม้จะมอบตึกทั้งหลังให้เธอก็ไม่ดีใจอยู่ดี“พี่เย่ อย่ามัวยืนอยู่ข้างนอกเลย รีบเข้ามาก่อนดีกว่า”เย่ซิวพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปข้างใน เขาหันกลับมามองไปทางห้องรับแขกมีแม่ชีลัทธิเต๋าแต่งกายเรียบง่ายนั่งอยู่ที่นั่น ดูเหมือนว่าเธอจะให้ความสนใจกับเขาแม่ชีลัทธิเต๋าจ้องมองไปยังเย่ซิว เธอพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไรหลิ่วเมิ่งอิ๋นแนะนำให้เขาได้รู้จัก “พี่เย่ ท่านนี้คือนักบวชลัทธิเต๋าโส่วจิ้ง ท่านบอกฉันว่า ฉันมีคุณวุฒิสูงมากและอยากให้ฉันไปวัดลัทธิเต๋าเพื่อฝึกฝน”ดวงตาของเย่ซิวเป็นประกาย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเขาไปที่ห้องนอนของพ่อของหลิ่วเมิ่งอิ๋นเพื่อเยี่ยมเขาจากนั้นตรวจร่างกายให้กับเขาเล็ก
หลิ่วเมิ่งอิ๋นยกอาหารออกมาจนเต็มโต๊ะมีทั้งเนื้อและผัก ถึงแม้จะไม่ใช่ปลาหรือเนื้อตัวใหญ่แต่ก็ดูน่ารับประทานมากทั้งสี่คนรับประทานอาหารกันที่โต๊ะอาหารหลิ่วเมิ่งอิ๋นตักอาหารให้เย่ซิวอย่างต่อเนื่อง สายตาความรักที่มีต่อเขา แม้แต่คนโง่ก็ยังดูออกพ่อของเธอหัวเราะให้กับภาพนี้คนอย่างเย่ซิวเป็นทั้งคนดีมีความสามารถ หากใช้ชีวิตร่วมกันกับลูกสาวของเขา ก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่านั้นอีกแล้ว แต่ท่าทีของนักบวชลัทธิเต๋าโส่วจิ้งไม่ได้รู้สึกดีกับภาพที่เห็นหลังจากทานข้าวเสร็จ แม่ชีก็ขอตัวลาเมื่อเห็นเธอจากไป เย่ซิวก็ยืนขึ้นและเตรียมที่จะออกไปหลิ่วเมิ่งอิ๋นรู้สึกอาลัยอาวรณ์ “พี่เพิ่งจะมาเอง จะรีบกลับไปไหน อยู่ให้นานกว่านี้หน่อยสิ”“ฉันยังมีธุระที่ต้องทำน่ะ เดี๋ยวตอนเย็นฉันจะมารับเธอไปมหาลัยนะ”พรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ เธอต้องไปเรียนอารมณ์ของหลิ่วเมิ่งอิ๋นดีขึ้นทันที “ก็ได้ ฉันเข้าใจแล้ว”เย่ซิวเดินจากไปพร้อมกับแม่ชีเมื่อเดินมาจนถึงข้างล่างแม่ชีก็เปิดบทสนทนาก่อน “นี่พ่อหนุ่ม ฉันจะพูดกับคุณอีกครั้งนะ รีบเลิกกับเธอซะ ทำแบบนี้มีแต่จะเป็นอันตรายต่อคุณกับเธอ”“แล้วอีกอย่าง ฉันจะให้เงินคุณเพิ่มจากห้าล
นั่นดูเป็นเหตุเป็นผลที่สุดแล้วเย่ซิวไม่มีคำอธิบายสำหรับเรื่องนี้ เธออยากจะคิดอย่างไรก็ปล่อยให้เธอคิดไป “ตอนนี้คุณแพ้แล้ว เชิญคุณออกไปได้แล้ว ผมขออนุญาตไม่ส่งคุณออกไป”ในเวลานี้เขาตระหนักได้ว่า ก่อนหน้านี้ที่หลิ่วเมิ่งอิ๋นเจออันตราย หลางอีและคนอื่น ๆ ได้รับบาดเจ็บ แต่หลิ่วเมิ่งอิ๋นกลับไม่ได้รับบาดเจ็บ นั่นคงเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ได้ช่วยเธอเอาไว้เพราะฉะนั้น แม้เธอจะปฏิเสธที่จะยอมแพ้แต่เย่ซิวก็จะไม่ทำร้ายเธอสีหน้าของนักบวชลัทธิเตาเปลี่ยนไปตอนนี้เธอสูญเสียแขนไปข้างหนึ่งและกำลังภายในของเธอก็หมดลง เธออยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไป“คุณไปเถอะ!” เย่ซิวเอามือไขว้หลัง รังสีอำมหิตเล็ดลอดออกมาจากภายในสู่ภายนอก“หลิ่วเมิ่งอิ๋นไม่ใช่คนที่คุณสามารถเข้าไปเกี่ยวข้องได้ คุณควรล้มเลิกความคิดนั้นซะ ถ้ายังมีครั้งต่อไป ผมจะไปทำลายสำนักของคุณด้วยตัวเอง”จิตใจของนักบวชลัทธิเต๋าโส่วจิ้งสั่นเทา เธอได้ยินคำพูดบาดใจของเย่ซิวเธอมองไปที่เย่ซิวอย่างลึกซึ้งก่อนจะหันหลังกลับและจากไปโดยไม่พูดอะไรแต่เธอจะไม่ยอมปล่อยหลิ่วเมิ่งอิ๋นไปแน่นอน ‘ดูเหมือนว่าหลังจากท่านอาจารย์กลับมาแล้ว ฉันจะต้องบอกเรื่องนี้กับท่าน หล
เย่ซิวยัดเงินใส่ในมือให้กับแม่เล้าอย่างไม่ใส่ใจ “รีบไปพาสาว ๆ มาให้ฉัน ทุกคนจะได้ทิปไม่อั้น”แม่เล้าพลันยิ้มกว้างและรีบพาเย่ซิวขึ้นไปห้องส่วนตัวสุดหรูหราที่ชั้นสาม “รอสักครู่นะคะคุณผู้ชาย เดี๋ยวดิฉันจะไปพาสาว ๆ มาตอนนี้เลยค่ะ”แม่เล้าเดินออกไปอย่างแช่มชื่นหลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาทีก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลังจากเปิดแล้วเธอก็เดินเข้าไปพร้อมกับสาว ๆ หลายสิบคนพวกเธอสวมกระโปรงสั้นจู๋ เผยให้เห็นเรียวขายาว รูปร่างหน้าตาของพวกเธอนั้นค่อนข้างดีทีเดียว“เป็นยังไงบ้างคะคุณผู้ชาย?”เย่ซิวตรวจสอบและพูดว่า “ไม่เลว เรียกมาทั้งกลุ่มนั่นแหละ เร็ว ๆ แล้วรีบไปจัดการห้องซ้าย ขวา หน้า หลังให้หมด ฉันจะจ่ายเองฉันไม่ชอบให้มีคนอื่นมาอยู่ใกล้ ๆ ในเวลาที่ฉันกำลังสนุก เข้าใจใช่ไหม!”“ได้ค่ะคุณผู้ชาย ดิฉันจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ”แม้เล้าฉายยิ้มแฉ่ง คืนนี้จะทำเงินได้เท่าไหร่กันนะ?มีผู้หญิงราว ๆ ยี่สิบถึงสามสิบกำลังคนรายล้อมเย่ซิว กลิ่นของน้ำหอมต่าง ๆ คละคลุ้งโชยเข้าจมูกของเขาเย่ซิวสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาหลายสิบขวดแล้วพูดกับสาว ๆ ว่า “ดื่มให้หมด หมดขวด แล้วฉันจะให้ขวดละหมื่น”ทันทีที่พูด
ชายที่มีใบหน้าอ้วนกลมขมวดคิ้วเล็กน้อย ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปและพูดว่า “นี่มันไม่ใช่แล้ว เรียกเด็ก ๆ พวกนั้นออกมา แล้วเธอไปดูกับฉันว่ามันเกิดอะไรขึ้น!”แม่เล้าถึงกับผงะ “เป็นอะไรไป? จะให้เรียกเด็ก ๆ ออกมาทำไม ทุกอย่างเรียบร้อยดีอยู่แล้ว”“นี่เธอโง่เหรอ? คนธรรมดาที่ไหนทำแบบนั้นกันบ้าง? เขาคนเดียวจะเล่นจ้ำจี้กับทุกคนได้ยังไง?ยิ่งกว่านั้น เขายังสั่งไม่ให้ใครอยู่รอบ ๆ อีก มันชัดแล้วว่าเขามาที่นี่เพื่อรวบรวมหลักฐานยังไงเล่า!”เมื่อเขาพูดอย่างนั้น สีหน้าของแม่เล้าก็เปลี่ยนไป พลันพูดด้วยน้ำเสียงดุเดือด “รีบไปดูเร็วเข้า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ฉันจะฆ่าเขาแน่นอน!”ในไม่ช้า พวกลูกน้องราว ๆ ห้าสิบคนก็มารวมตัวกันและตรงไปยังห้องส่วนตัวที่เย่ซิวอยู่ทันทีเพื่อความรอบคอบ แม่เล้าจึงเดินเข้าไปก่อนเธอมองจากตรงประตูเข้าไปข้างในและสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติเธอจึงหันไปพูดกับชายหน้าอ้วนกลมว่า “เร็ว! รีบเข้าไปดู ดูเหมือนจะมีปัญหาแล้ว!”ปัง!ประตูถูกเปิดออกทันใด เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ชายคนนั้นก็โกรธมาก “ไอ้หนู แกมาจากแก๊งไหน? แกอยากตายใช่ไหม!”ชายหลายคนรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับอาวุธในมือ
พี่หู่ระงับความโกรธพลางฝืนยิ้ม “พี่ใหญ่ล้อกันเล่นแล้วครับ ฉันเป็นพลเมืองดีปฏิบัติตามกฎหมาย รอบตัวฉันไม่มีเพื่อนทำชั่วแบบนั้นเลยครับ”แต่ประโยคหลังจากนั้นทำให้เขากลัวราวกับวิญญาณลอยหลุดจากร่างไปแล้ว“เมื่อกี้ผมได้ส่งบันทึกเสียงไปที่สํานักงาน ป.ป.ช ภาคหนึ่ง(1) โอกาสเดียวของคุณจะเอาชีวิตรอดไปได้คือตอนนี้คุณต้องเปิดเผยไอ้พวกทุจริตปรสิตสังคมนั่นมาซะ”“ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถชดใช้ความผิดด้วยการทำความดีได้ ไม่อย่างนั้น คุณก็ไม่มีทางออกอื่นนอกจากความตาย”“อะไรนะ? สํานักงาน ป.ป.ช ภาคหนึ่ง?!” ใบหน้าของพี่หู่เปลี่ยนไปอย่างกลับหน้าเป็นหลัง ขาทั้งสองข้างพลันอ่อนยวบและทรุดตัวลงกับพื้นนั่นคือองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในหลงเถิงใครก็ตามที่เข้าสู่ขอบเขตของสํานักงาน ป.ป.ช และเมื่อข้อกล่าวหาได้รับการยืนยันแล้วจะต้องเผชิญกับผลลัพธ์อันน่าสังเวชสลดใจเหลือทนเย่ซิวยังโรยเกลือบนบาดแผลเข้าไปอีก “ไม่ใช่แค่นั้นหรอก ผมยังรวบรวมหลักฐานอาชญากรรมอื่น ๆ ของคุณตลอดหลายปีที่ผ่านมา และส่งให้พวกเขาไปแล้ว”“อย่างสิบแปดครัวเรือนที่ถูกบังคับให้รื้อถอนเมื่อหกปีก่อน และการติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนเมื่อสี่ปีที่แล้ว…”เย่
จากนั้นเย่ซิวก็ปล่อยปราณกระบี่ออกมาหลายสาย ผนึกพื้นที่รอบตัวเด็กหญิงไว้ เด็กหญิงมองเย่ซิวด้วยสายตาที่น่าสงสาร เธอรู้ดีว่าตัวเองเป็นดาวหายนะ พ่อแม่และครอบครัวของเธอทั้งหมดล้วนต้องตายไปเพราะเธอ หลังจากนั้นเธอก็ถูกขังไว้ในกรงพิเศษ ไม่เคยเห็นแสงเดือนแสงตะวันเลย จนกระทั่งถูกปล่อยตัวออกมาในตอนนี้ เย่ซิวมองแววตาของเธอ ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอเป็นเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ร่างกายที่เป็นอยู่เกิดจากชะตาฟ้าลิขิต เธอเองไม่อาจควบคุมได้ และไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อย เย่ซิวเองก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้อย่างบุ่มบ่ามพลังหายนะของเธอนั้นน่ากลัวเกินไป หากพลาดพลั้งแม้เพียงเล้กน้อย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่เกินจะจินตนาการได้ หลังจากครุ่นคิด เขาก็ร่ายอาคม สร้างเหยี่ยวตัวหนึ่งให้ก่อตัวขึ้น แล้วให้มันบินไปเกี่ยวตัวเด็กหญิงขึ้นมา เตรียมจะพาขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่ยังไม่ทันจะบินขึ้น เหยี่ยวกลับสลายตัวไปในพริบตาเย่ซิวลองหาวิธีอื่นอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ ไม่สามารถพาตัวเธอออกไปจากที่นี่ได้เลยเย่ซิวรู้สึกปวดหัวไปหมด เขาจึงตัดสินใจปลอบเด็กหญิงก่อน แล้วโยนอาหารไปให้เธอจากระยะไกลไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธ
เย่ซิวเดินออกจากห้องลับ แล้วพบว่าโลกทั้งใบที่อยู่ตรงหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างดูชัดเจนขึ้น และเต็มไปด้วยสีสันมากขึ้น เฉินหลานเพิ่งกลับมาจากข้างนอก พอเห็นเย่ซิวก็ยิ้มหวานออกมา "สวัสดีค่ะ นายท่าน" เย่ซิวโบกมือไปมา "ต่อไปไม่ต้องเรียกนายท่านแล้ว เรียกว่าท่านเจ้าสำนักเถอะ" เฉินหลานมองเขาด้วยดวงตาชุ่มฉ่ำ ก่อนจะพยักหน้าขานรับอืมเบา ๆเรียกว่าเจ้าสำนักดูจะเป็นกันเองกว่าการเรียกว่านายท่าน "สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?" เย่ซิวถาม "ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะ หลังจากจบศึกครั้งนี้ คนในสำนักโอสถก็ยิ่งให้ความไว้วางใจกับพวกเรามากขึ้น งานในด้านอื่น ๆ ก็ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น" "แล้วในระดับนานาชาติล่ะ?" "บรรดาทูตจากนานาชาติมาถึงประเทศหลงเถิงตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ เดิมทีพวกเขาต้องการเริ่มการเจรจาทันที แต่รัฐบาลหลงเถิงกลับจัดเตรียมอาหารเลิศรส และการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจให้พวกเขา โดยให้เหตุผลว่าประเทศของตนให้ความสำคัญกับมารยาทมากที่สุด เมื่อลูกค้ามาเยือนก็ต้องให้การต้อนรับอย่างดี จากนั้นจึงค่อยพูดคุยเรื่องอื่น บรรดาทูตก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากยอมเพลิดเพลินไปกับกา
หลังจากที่ฝึกฝนความสามารถใหม่ของร่างกายจนคุ้นเคยแล้ว เย่ซิวก็กลับมาทำการหลอมโอสถต่อมีโอสถอีกหลายประเภทที่ต้องหลอมเช่นโอสถยอดเพชร โอสถต้นกำเนิด โอสถร้อยพิษไม่กล้ำกรายและอื่น ๆนอกจากเตรียมโอสถสำหรับสร้างกองกำลังสุดยอดแล้ว ยังมีบางส่วนที่เย่ซิวตั้งใจจะเตรียมไว้ใช้เอง รวมถึงให้คนใกล้ตัวของเขาหลังจากที่ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น ประสิทธิภาพในการหลอมยาก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลอัตราการฟื้นฟูพลังวิญญาณของเขาหลังจากใช้งานก็เร็วขึ้นหลายเท่าตัวสองวันต่อมา ประเทศจ้านส่งสมุนไพรมาเป็นค่าชดเชย ซึ่งถูกใช้ไปแล้วกว่าเก้าหมื่นต้น ผลลัพธ์คือโอสถชนิดต่าง ๆ ถูกหลอมออกมามากกว่าห้าหมื่นเม็ดเมื่อหลอมยาเสร็จ เย่ซิวก็หยุดการหลอม เก็บเตาโอสถกลับไปแล้วหันไปมองผู้หญิงที่อยู่บนเตียงน้ำแข็งทันใดนั้นภาพถ่ายที่พรีเอลล์เคยส่งให้ก็ลอยเข้ามาในความคิดของเขาเธอเคยพูดถึงโซเฟียลูกพี่ลูกน้องของเธอเย่ซิวหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูภาพถ่าย แล้วเดินไปเปรียบเทียบกับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ารูปร่างหน้าตาอาจจะแตกต่างกัน แต่บรรยากาศและพลังบางอย่างที่แผ่ออกมานั้นคล้ายกันมากมันให้ความรู้สึกเหมือนประชาชนของมหาอำนาจประเทศหนึ่ง กับคน
ตอนนี้เย่ซิวกำลังหลอมโอสถยอดเพชรโอสถชนิดนี้สามารถเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้น หากรับประทานในปริมาณที่มากพอ อาจทำให้ร่างกายกลายเป็นกายาวัชระได้ ซึ่งเป็นกายาอันแข็งแกร่งที่ได้รับการยอมรับในหมู่พุทธศาสนา นี่คือโอสถที่เย่ซิวเตรียมไว้สำหรับกองกำลังพิเศษในอนาคตของเขา ในเมื่อเป็นกองกำลังระดับสุดยอด ก็ต้องมีความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นพลังต่อสู้ การป้องกัน การลอบสังหาร ทุกอย่างต้องอยู่ในระดับที่สมบูรณ์แบบ ไม่สามารถมีจุดอ่อนได้ ภายในเตาหลอมโอสถ ตอนนี้มีโอสถยอดเพชรกว่ายี่สิบเม็ด แต่ท่ามกลางโอสถเหล่านั้น มีอยู่เม็ดหนึ่งที่แตกต่างจากเม็ดอื่นโดยสิ้นเชิง มันเป็นสีขาวบริสุทธิ์และมีแสงสีทองระยิบระยับไหลเวียนอยู่ภายใน ดวงตาของเย่ซิวหดแคบลงทันที นี่มันหรือว่าจะเป็นโอสถกลายพันธุ์ในตำนาน? บางครั้งในการหลอมโอสถ นักปรุงยาอาจพบกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้โอสถเกิดการกลายพันธุ์ขึ้นมา โอสถกลายพันธุ์เหล่านี้ บางครั้งอาจไร้ประโยชน์ หรือร้ายแรงถึงขั้นมีพิษรุนแรง แต่ในบางกรณี มันอาจมีสรรพคุณสูงกว่าโอสถทั่วไปหลายสิบเท่า และในบางครั้งโอสถกลายพันธุ์เหล่านี
นอกจากนี้เย่ซิวยังมีฐานปลูกสมุนไพรอีกแห่งหนึ่งที่ประเทศหลงเถิง เมื่อรวมกันแล้ว ฐานทั้งสองแห่งสามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับการหลอมยาได้เป็นจำนวนมหาศาล ต่อไปเมื่อเขาสามารถหลอมยาได้มากพอ ก็จะสามารถใช้โอสถเหล่านั้นสร้างกองกำลังสุดแกร่งขึ้นมาได้ เป็นกองกำลังที่สามารถทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง เย่ซิวมีแนวคิดเกี่ยวกับกองกำลังนี้มานานแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มดำเนินการ สำหรับแกนหลักของกองกำลัง เย่ซิววางแผนให้สมาชิกของหน่วยกองกำลังหมาป่าราตรีเป็นผู้รับผิดชอบ พวกเขามีทั้งพลังและประสบการณ์มากพอที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายกันไป เย่ซิวมอบหมายให้หวังซวงเป็นผู้จัดการเรื่องรถถังและทองคำ โดยทองคำบางส่วนจะถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเสบียงและทรัพยากร ก่อนจะส่งไปให้ถังอวิ้น การพัฒนาของประเทศสุ่ยจือยังคงต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องกังวลมากนักก็คือ ประเทศสุ่ยจือมีภูเขาล้อมรอบทั้งสามด้าน แนวภูเขาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ทำให้เป็นปราการธรรมชาติที่แข็งแกร่ง โอกาสที่ประเทศนี้จะถูกโจมตีนั้นค่อนข้างต่ำ อีกทั้งตอนนี้สภาพของที
เย่ซิวเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ดังนั้นการบำเพ็ญที่กินเวลาสองชั่วโมงกว่าจึงเริ่มขึ้น เขายังช่วยหนานกงอวี่แก้ไขข้อบกพร่องบางอย่างอีกด้วย… หลังจากนั้น หนานกงเสวี่ยก็เสร็จสิ้นงานของวันและกลับมาที่วิลล่า เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมาก็รู้สึกดีใจมาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองน้องสาวของตัวเองอย่างตำหนิเล็กน้อย ในใจคิดว่า ‘ยายตัวแสบ แอบกินเงียบ ๆ ไม่แบ่งพี่เลยนะ’จากนั้นเธอก็เข้าร่วมการบำเพ็ญตนด้วย พลังของเย่ซิวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็กำลังก้าวเข้าสู่จินตานขั้นสมบูรณ์อย่างมั่นคง เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์ เพราะตามที่บันทึกโบราณได้กล่าวไว้ เมื่อไปถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ที่มีพรสวรรค์สูงบางคนจะสามารถเข้าใจวิถีแห่งสวรรค์และโลกได้พวกเขาสามารถรวบรวมร่างพลังขนาดใหญ่ได้หลายร้อยหรือแม้แต่พันเมตร ดึงพลังของสวรรค์และโลกมาใช้ ซึ่งมีพลังทำลายล้างมหาศาล ถึงขั้นที่เมืองทั้งเมืองอาจไม่สามารถต้านทานได้ ในมือของเขายังมีโอสถเม็ดหนึ่ง ซึ่งได้มาตอนที่ได้รับเตาเพลิงปฐพีมา แต่เขาก็อดกลั้นไว้ ไม่ได้ใช้มัน นี่คือโอสถที่เขาตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ตอนที่ทะล
พรีเอลล์ถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย เย่ซิวไม่ได้ปฏิเสธเด็ดขาดในทันที นั่นหมายความว่ายังพอมีช่องทางให้เจรจาต่อรองได้ หลังจากพูดคุยกันอีกสักพัก เขาก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานนัก เย่ซิวก็ได้รับรูปภาพหนึ่งทางโทรศัพท์ของเขา เมื่อเปิดดู ดวงตาของเขาหดเล็กลงเล็กน้อย ในภาพเป็นใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงสาวที่สวยจนยากจะบรรยายเป็นคำพูด เธอมีผมสีทองส่องประกายราวกับเปล่งแสงได้ ดวงตาสีฟ้าลึกเหมือนอัญมณีไพลินใบหน้าสวยบริสุทธิ์แต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ยั่วยวนเล็กน้อย สันจมูกโด่ง ริมฝีปากเล็กสีชมพูชวนหลงใหล สิ่งที่ทำให้เย่ซิวรู้สึกสะดุดตาคือออร่าของหญิงสาวในภาพช่างคล้ายกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็ง ทั้งสองมีบรรยากาศที่ดูสูงส่ง ดั่งกำเนิดมาเพื่อเป็นผู้ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง มองลงมายังสรรพสิ่งเบื้องล่าง เย่ซิวอดไม่ได้ที่จะคิดไปว่า หรือว่าหญิงสาวทั้งสองคนนี้จะมีความเกี่ยวข้องกัน?เดิมทีเย่ซิวไม่ได้สนใจอะไรมากเกี่ยวกับลูกพี่ลูกน้องที่พรีเอลล์พูดถึง แต่ตอนนี้เขากลับต้องคิดทบทวนใหม่ คงต้องหาโอกาสไปดูให้เห็นกับตา ใต้ภาพ พรีเอลล์ยังทิ้งข้อความไว้ด้วย : “เป็นไงล่ะ? สวยส
"มีอะไรหรือเปล่า?" เย่ซิวกดรับสาย คนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่น เป็นพรีเอลล์ครั้งก่อนเขาเผลอมองข้ามเธอไป ผู้หญิงคนนี้คงโกรธมากแน่ ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ในมุมหนึ่งของสถานที่แห่งหนึ่ง พรีเอลล์มีสีหน้าดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่เสียงที่เธอพูดกลับอ่อนหวานเหลือจะกล่าว จนทำให้ผู้ฟังขนลุกชัน "พี่ชายที่รัก ตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอ คิดถึงมากเลยนะ" เย่ซิวแสยะยิ้มเย็น ถ้าเขาไม่เคยติดต่อกับเธอมาก่อน คงเผลอเชื่อคำพูดของเธอไปแล้ว "พูดมาเถอะ มีธุระอะไร ระหว่างเราไม่ต้องมาเสียเวลาพูดจาอ้อมค้อม" "จะมีอะไรได้ยังไงล่ะ หรือฉันคิดถึงคุณไม่ได้เหรอ? เราสองคนก็เคยทำแบบนั้นแล้วนี่นา แต่ทำไมคุณถึงยังสงสัยว่าฉันมีแผนอะไรอีกล่ะ เสียใจจังเลย" เย่ซิวแค่นเสียงเยาะที่มุมปาก "งั้นเหรอ ถ้าไม่มีธุระอะไร งั้นผมวางสายแล้วนะ" "เดี๋ยว ๆ ๆ!" เสียงของพรีเอลล์เปลี่ยนเป็นปกติขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดอย่างหงุดหงิด"ไอ้คนไร้รสนิยม! คุณนี่ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมถึงมีผู้หญิงชอบเยอะขนาดนี้แต่ก็เอาเถอะ นี่โทรมานี่ก็เพราะมีเรื่องจะถาม ว่าคุณจะขายหุ่นยนต์ให้ฉันสักสองสามตัวได้ไหม ราคาคุณตั้งมาได้เลย"
เย่ซิวกำหนดเงื่อนไขให้พวกเขาส่งคนมาได้เพียงแค่หนึ่งร้อยคน และอีกฝ่ายก็ตอบตกลง หลังจากจบการสนทนา เย่ซิวกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม พลางจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ความบาดหมางระหว่างเขากับประเทศจ้านคงไม่จบลงง่าย ๆ แน่นอน เขารู้ดีว่าประเทศนี้เป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น เขาตบหน้าพวกนั้นอย่างรุนแรงขนาดนี้ อีกฝ่ายจะต้องหาทางเอาคืนแน่นอน ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งให้สายการผลิตเร่งสร้างจักรกลมังกรดำอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากสายการผลิตเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ขอแค่เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ส่วนที่เหลือก็ให้ระบบจัดการได้เลยด้วยประสิทธิภาพการผลิตในปัจจุบัน สามารถสร้างจักรกลมังกรดำได้วันละสองตัว ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ ต้องเสริมแนวป้องกันบริเวณพรมแดนทุกจุด และต้องรับสมัครผู้ควบคุมหุ่นยนต์เพิ่มอีก ยังต้องเตรียมรับมือกับมาตรการทางทหารจากอำนาจอื่น ๆ รอบตัว แต่โชคดีที่ตอนนี้เขามีคนเก่งอยู่ในทีมเยอะขึ้นแล้ว ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพียงแค่ออกคำสั่งก็พอ หลังจากนั้นเขาก็ออกจากที่นี่และตรงไปหาหยางถิงถิงที่กำลังทำงานสร้างถนน สาวน้อยคนนี้ดูอารมณ์เสีย หงุดหงิดไม่น้อย