หน้าท้องที่บางเรียบ ผิวขาวราวหิมะ ไม่มีชั้นไขมันเลยสักนิด ประดุจดั่งเงือกสาวเธอว่ายน้ำมาตรงข้าง ๆ หูเม่ยเอ๋อร์ เธอหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “พี่คะ คิดไม่ถึงว่าบนโลกใบนี้จะมีผู้ชายที่อดทนกับเสน่ห์ของพี่ได้ ช่างน่าทึ่งจริง ๆ”หูเม่ยเอ๋อร์ถอนหายใจและเอ่ยขึ้น “ที่จริงฉันก็แค่อยากจะลองใจหมอนั่นดูว่าจะจริงใจหรือว่าเสแสร้งกันแน่ แต่คิดไม่ถึงว่าตอนที่ฉันบอกเขาว่าเราว่ายน้ำกันอยู่ เขาจะแสดงออกชัดเจนว่าเขาจะไม่มาขนาดนี้”หรูฮว่าส่ายหน้าพร้อมหัวเราะ “แต่ถ้าเขาตอบตกลงว่ามา เขาคงไม่ได้เห็นพี่ใส่เสื้อผ้าแบบตอนนี้แน่นอน”นิ้วเรียวหูเม่ยเอ๋อร์เหยียดออก แล้วดีดไปที่หน้าผากเล็ก ๆ เบา ๆ “ยายเด็กน้อย เธอนี่ฉลาดจริง ๆ เลยนะ”……เย่ซิวกับเซี่ยซิ่วซิ่วได้มาถึงตระกูลหลิ่วแล้วหลิ่วอวี้ฝูถึงกับมายืนรอที่หน้าประตูด้วยตัวเอง เมื่อเห็นพวกเขามา รอยยิ้มอันแสนหวานก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ เธอก้าวไปข้างหน้าเพื่อต้อนรับพวกเขา ถ้าตระกูลอื่นในเมืองหนานเฉิงเห็นภาพนี้เข้าคงจะตกใจแน่ ๆเพราะหลิ่วอวี้ฝูมีฉายาว่าเป็นเจ้าหญิงเย็นชา แทบจะไม่มีใครเคยเห็นเธอยิ้มมาก่อนถ้าใครทำให้เธอยิ้มออกมาได้ มันคงจะน่ากลัวอย่างแน่นอน“พี
เมื่อหลิ่วอวี้ฝูได้รับโทรศัพท์สีหน้าก็เปลี่ยนทันที มีไอเย็นยะเยือกเล็ดลอดออกมาจากร่างกายหลิ่วซูหยุดชั่วคราวขณะที่เขาจะยกถ้วยชาขึ้นมาที่ริมฝีปาก “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”หลิ่วอวี้ฝูส่ายหน้า เธอลุกขึ้นมาและบอกกับเย่ซิวว่า “ฉันมีธุระที่ต้องไปจัดการ พวกพี่พักผ่อนอยู่ที่นี่สักพักนะ”พูดจบก็ยืนขึ้นแล้วจากไปเย่ซิวมองแผ่นหลังของเธอ ทำท่าทางเหมือนคิดอะไรอยู่หลิ่วอวี้ฝูกลับไปยังห้องหนังสือของเธอ เปิดคอมพิวเตอร์และออกคำสั่งบางอย่างออกไปข้อความบนโทรศัพท์มือถือของเธอถูกส่งไปรัว ๆ เธอตอบอย่างสงบและรวดเร็วมันกินเวลานานกว่าสองชั่วโมงกว่าจะหยุดเธอถูขมับด้วยความเหนื่อยล้าบนใบหน้าอย่างไม่อาจปกปิดได้ตอนนี้เสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้นมาอีกครั้งหลังจากรับสาย ก็มีเสียงร้องไห้จากอีกฝ่าย“ท่านประธานครับ ช่วยผมด้วยครับ ผมไม่อยากตาย!”หลิ่วอวี้ฝูเกิดความเครียดแต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือพูดไปว่า “หลิวเหนิง คุณเป็นอะไร?”“มีคนกลุ่มหนึ่งจับผมมา ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมอยู่ที่ไหนแถวนี้มืดมาก แถมตอนนี้พวกมันยังเอางูพิษมาวางไว้รอบ ๆ ตัวผมอีกท่านประธานรีบมาช่วยผมด้วยนะครับ ที่บ้านผมยังมีคนแก่และเด็ก ผมจะตายไม่ไ
สายตาที่มองเย่ซิ่วเหมือนกับการมองเทพพระเจ้าจอมยุทธระดับห้าที่มีอายุเพียงเท่านี้ ถ้าพูดออกไป ไม่รู้ว่ามันจะทำให้เกิดความตกใจยิ่งใหญ่ขนาดไหนบอดีการ์ดสาวไม่ต่อสาวความยาวอีกต่อไป เธอลงมาจากรถทันที เย่ซิวเปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งที่ฝั่งคนขับก่อนสตาร์ทรถพร้อมพูดกับหลิ่วอวี้ฝูว่า “ผมไม่ค่อยคุ้นทางที่นี่ คุณบอกทางผมด้วยนะ”หลิ่วอวี้ฝูพยักหน้าอย่างว่าง่าย ดวงตาของเธอส่องแสงเมื่อมองไปยังเย่ซิว “นี่พี่เย่ พี่บอกฉันได้ไหมว่าพี่เป็นสาวกจากสำนักไหน?”“มันเป็นความลับน่ะ”ปากน้อย ๆ ของหลิ่วอวี้ฝูพึมพัม “ฉันล่ะเกลียดพี่จริง ๆ ”รูปลักษณ์และการกระทำดูมีเสน่ห์และน่าหลงไหลเย่ซิวเหลือบมองจากหางตาของเขา และการเต้นของหัวใจของเขาก็ช้าลงครึ่งหนึ่งไม่นานเขากลับมามีสติอีกครั้งไม่กี่ปีที่หลังจากสาวน้อยโตขึ้น เธอจะต้องเป็นคนที่ทำให้สรรพสัตว์สับสนและดึงดูดผู้คนนับไม่ถ้วนให้มองดูเธอในทุก ๆ ที่ที่เธอไปโชคดีที่เธอมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งและเธอเองก็มีความสามารถไม่น้อย ไม่อย่างนั้นเธอคงจะถูกบางคนที่มีเจตนาไม่ดีทำร้ายไปแล้วก็ได้ในระหว่างนั้น หลิ่วอวี้ฝูก็บอกทิศทางกับเย่ซิวต่อไปใช้เวลาเพียงแค่สามสิบนาท
เย่ซิวหันกลับมาเขาเห็นชายคนหนึ่งที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้ากำลังสตาร์ทรถด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย เย่ซิวเหยียดนิ้วหัวแม่มือออกช้า ๆรถยนต์เกิดเสียงดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะปลดเบรกมือและพุ่งเข้ามา เย่ซิวก็สะบัดนิ้วมือด้วยสีหน้าเย็นชาพลังงานระเบิดพุ่งทะลุกระจกรถทันที บนหน้าผากของชายคนนั้นเป็นรูจนมีเลือดไหลออกมา วินาทีต่อมาเขาก็สิ้นลมทันทีเย่ซิวเปิดประตูแล้วลากเขาลงจากรถเขากวาดสายตาอย่างรวดเร็วไม่นานสายตาเขาก็หยุดที่สถานที่หนึ่ง“ไม่เลวเลยนี่”คนกลุ่มหนึ่งจำนวนสิบกว่าคนเดินเข้ามา แต่ละคนมีรังสีที่ดุร้ายมองแค่แวบแรก เขาดูเหมือนคนที่มีประสบการณ์การต่อสู้หลายร้อยครั้งและมีวิญญาณที่ตายแล้วนับไม่ถ้วนอยู่ในมือของพวกเขาเย่ซิวเดินมายืนอยู่หน้าหลิ่วอวี้ฝูและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ไหนตัวประกันล่ะ?!”ชายคนหนึ่งชี้ไปที่รถที่อยู่ด้านหลังของเย่ซิว “ฉันจะดูก่อนว่าพวกแกเอาเงินมาครบไหม”เย่ซิวเดินจูงมือหลิ่วอวี้ฝูไปที่ท้ายรถแล้วเปิดท้ายรถข้างในเต็มไปด้วยเงินสด ดวงตาของคนเหล่านี้ระเบิดออกมาด้วยแสงแห่งความโลภที่รุนแรง และการหายใจของพวกเขาก็เร็วขึ้น“ดี พวกแกขึ้นรถแล้วตามฉันมา!”
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนที่อยู่ภายในห้องมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที จากนั้นพวกเขาก็รีบหลบหนีออกไปข้างนอกพร้อม ๆ กันมีหนึ่งในนั้นตะโกนขึ้นมา “รีบลงมือฆ่าพวกมันเร็ว!”โดยทั่วไปพละกำลังของพวกเขาจะอยู่ระหว่างจอมยุทธระดับสองหรือไม่ก็ระดับสามมีเพียงผู้ชายที่เป็นหัวหน้าเท่านั้นที่อยู่ในระดับสี่ชั้นกลางพวกเขาเคยเห็นเย่ซิวปล่อยพลังภายในของเขามาก่อน แต่พวกเขาก็ไม่ได้กลัวมากนักเป็นเพราะว่าครั้งนี้พวกเขาเตรียมตัวมาดี จึงไม่เกรงกลัวใครจะรู้ว่าแผนนี้จะถูกค้นพบสิ้นเสียง ผู้คนที่ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ต่างเปลี่ยนใจ!เสียงแตกกลางอากาศ!ลูกศรนับร้อยด้วยแสงเย็นเยือกในคืนที่มืดมิดพุ่งไปที่ร่างของเย่ซิวจากทุกทิศทุกทางคนสองสามคนที่นอนอยู่บนพื้นยิ้มอย่างภาคภูมิใจเมื่อเห็นภาพนี้“ฮ่าฮ่า มันต้องตายแน่นอน!”“ไม่มีใครรอดเงื้อมมือจากการโจมตีนี้ไปได้แน่ ๆ!”วินาทีต่อมา สีหน้าของพวกเขาก็ดูราวกับว่าเห็นผีจากนั้น พวกเขาก็เห็นเย่ซิวยืนอยู่ตรงหน้าหลิวอวี้ฝูเขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตูอย่างมั่นคงเขางอขาเล็กน้อยแล้ววาดวงกลมด้วยมือข้างหน้าศิลปะการต่อสู้ ปรมาจารย์ไทเก็ก!ขณะที่เย่ซิวขยับมือของเขาไม่ห
ด้านหน้ายังมีคนอยู่เป็นจำนวนมากที่กำลังขนเงินสดออกมาอย่างต่อเนื่องคนเหล่านี้ไม่มีกลิ่นฉุนของเลือด พวกเขาเป็นเพียงกลุ่มอันธพาลและเย่ซิวก็ไม่ได้จะฆ่าพวกเขา แค่ทำให้ได้รับความเจ็บปวดบ้างก็เท่านั้น“พี่ใหญ่ ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะนะ พวกเราเป็นเพียงกลุ่มอันธพาลกลุ่มหนึ่งเท่านั้น”“ผมจะไม่ทำอีกแล้ว ต่อไปผมจะทำแต่ทำความดีให้มาก ๆ ”“ขอร้องล่ะพี่ใหญ่ ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ”พวกเหล่าอันธพาลทั้งหมดคุกเข่าลงต่อหน้าเย่ซิวพร้อมก้มหัวให้เขาไม่หยุดเย่ซิวสั่งให้พวกเขาขนเงินสดทั้งหมดกลับขึ้นรถ อีกทางด้านหนึ่ง หลิ่วอวี้ฝูได้ช่วยหลิวเหนิงออกมาพร้อมสั่งเขาว่า “เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ห้ามคุณพูดอะไรออกไปเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ช่วยคุณ”เธอเข้าใจดี ถ้าหากเรื่องพละกำลังของเย่ซิวแพร่งพรายออกไป มันคงจะสร้างความโกลาหลมากอาจมีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้มากมายอยากมาประลองกับเขาและอาจจะถึงขั้นอยากเอาชีวิตเขา เพราะว่าทั่วโลกนี้มีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้จำนวนมาก และส่วนใหญ่พวกเขาก็แบ่งวิชาการฝึกตนอยู่แล้วถ้าพวกเขารู้ว่ามีอีกคน คงมาแย่งวิชาจากเขาไปอีกแน่เขายังดูหนุ่มขนาดนี้ ต่อไปผู้คนมากมายอาจจ
เย่ซิวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ้มและไม่ได้พูดอะไรหลิ่วอวี้ฝูสั่งผู้ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บนำตัวผู้บาดเจ็บในวิลล่าไปรับการรักษาและจัดระบบรักษาความปลอดภัยใหม่……อีกด้านหนึ่งที่ตระกูลหลี่เพล้ง!“ไอ้พวกขยะ!”หลี่หรูปิงคำรามออกมาเสียงดังขณะปาข้าวของลูกน้องที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ต่างก้มหน้าลงและไม่กล้าพูดอะไรออกมา“พวกแกมีกองกำลังตั้งเยอะแต่กลับฆ่าพวกมันไม่ได้ พวกแกจะยังมีประโยชน์อะไรอีก!”หลี่หรูปิงโกรธจนถึงขีดสุด ครั้งนี้เรียกได้ว่าสูญเสียเป็นอย่างมากเขาขาดทุนมากมายมหาศาลเพราะจอมยุทธเหล่านั้นที่ถูกเย่ซิ่วฆ่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว พวกเขามีพี่ชาย น้องสาวหรือญาติของตัวเองแต่พวกเขาตายเพื่อหลี่หรูปิงมีความสมเหตุสมผลที่จะจัดให้มีเงินบำนาญ เนื่องจากครั้งนี้สูญเสียจอมยุทธไปเป็นจำนวนมาก อย่างน้อยก็ต้องจ่ายเงินถึงพันล้านหลังจากระบายความโกรธแล้ว เขาก็ถามอย่างเย็นชา “สืบได้หรือยังว่าคนที่ติดตามหลิ่วอวี้ฝูมามันเป็นใคร?!”ชายคนหนึ่งตอบขึ้นว่า “เป็นผู้ชายที่ชื่อว่าเย่ซิวครับ ในเมืองเจียงเฉิงมีบริษัทที่เรียกว่าบริษัทสตาร์รี่สกาย ว่ากันว่าเขาเป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับสามดูเหมือนว่าเขาจะเชี่ยวชาญวิ
“คุณนอนที่โซฟาไม่สะดวกหรอก นอนที่เตียงเถอะ ผมจะไปนอนที่โซฟาเอง”ดวงตาของเซี่ยซิ่วซิ่วสว่างขึ้นทันที “ขอบคุณมากนะเย่ซิว นายนี่เป็นคนดีจริง ๆ ”จากนั้นเธอก็เดินเขย่งเท้าเข้าไป เธอจุ๊บลงบนแก้มของเย่ซิวเบา ๆ แล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วเย่ซิวสัมผัสถึงกลิ่นหอมที่อยู่บนใบหน้าของเขาแล้วยิ้มเขาปิดไฟ แล้วเข้านอนทันทีในขณะที่เซี่ยซิ่วซิ่วกำลังห่มผ้าห่ม หัวใจของเธอยังคงเต้นแรงเธอก้าวเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญ และความคิดต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นในใจของเธอ‘นี่ฉันอยู่ห้องเดียวกับเย่ซิวจริง ๆ เหรอนี่’‘คิดไม่ถึงเลยว่าจะพัฒนาไปเร็วขนาดนี้ ถ้าคืนนี้เขาควบคุมใจไม่ไหว ฉันจะตอบตกลงดีไหม?’ไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไปในความคิดยุ่งเหยิงเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าเธออยู่คนเดียวบนเตียงลูบไล้ร่างกายตัวเอง ก็พบว่าไม่มีอะไรเสียหาย“เห้อ..” เธอถอนหายใจ “หนทางยังอีกยาวไกล สู้ ๆ เข้าไว้นะซิ่วซิ่ว”หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็เดินออกมา เธอเห็นเย่ซิวที่ไม่สวมเสื้อกำลังวอร์มร่างกายอยู่กล้ามเนื้อที่แข็งแรงและใบหน้าที่ใสสะอาดนั้นในเวลานี้ มีแสงตะวันสาดส่องลงมาที่เขาภาพนี้ทำให้เซี่ยซิ่วซิ่วคลั่งไคล้จนหัวใจเต้นแรง เธอไม่อาจละสา
นอกจากนี้เย่ซิวยังมีฐานปลูกสมุนไพรอีกแห่งหนึ่งที่ประเทศหลงเถิง เมื่อรวมกันแล้ว ฐานทั้งสองแห่งสามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับการหลอมยาได้เป็นจำนวนมหาศาล ต่อไปเมื่อเขาสามารถหลอมยาได้มากพอ ก็จะสามารถใช้โอสถเหล่านั้นสร้างกองกำลังสุดแกร่งขึ้นมาได้ เป็นกองกำลังที่สามารถทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง เย่ซิวมีแนวคิดเกี่ยวกับกองกำลังนี้มานานแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มดำเนินการ สำหรับแกนหลักของกองกำลัง เย่ซิววางแผนให้สมาชิกของหน่วยกองกำลังหมาป่าราตรีเป็นผู้รับผิดชอบ พวกเขามีทั้งพลังและประสบการณ์มากพอที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายกันไป เย่ซิวมอบหมายให้หวังซวงเป็นผู้จัดการเรื่องรถถังและทองคำ โดยทองคำบางส่วนจะถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเสบียงและทรัพยากร ก่อนจะส่งไปให้ถังอวิ้น การพัฒนาของประเทศสุ่ยจือยังคงต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องกังวลมากนักก็คือ ประเทศสุ่ยจือมีภูเขาล้อมรอบทั้งสามด้าน แนวภูเขาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ทำให้เป็นปราการธรรมชาติที่แข็งแกร่ง โอกาสที่ประเทศนี้จะถูกโจมตีนั้นค่อนข้างต่ำ อีกทั้งตอนนี้สภาพของที
เย่ซิวเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ดังนั้นการบำเพ็ญที่กินเวลาสองชั่วโมงกว่าจึงเริ่มขึ้น เขายังช่วยหนานกงอวี่แก้ไขข้อบกพร่องบางอย่างอีกด้วย… หลังจากนั้น หนานกงเสวี่ยก็เสร็จสิ้นงานของวันและกลับมาที่วิลล่า เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมาก็รู้สึกดีใจมาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองน้องสาวของตัวเองอย่างตำหนิเล็กน้อย ในใจคิดว่า ‘ยายตัวแสบ แอบกินเงียบ ๆ ไม่แบ่งพี่เลยนะ’จากนั้นเธอก็เข้าร่วมการบำเพ็ญตนด้วย พลังของเย่ซิวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็กำลังก้าวเข้าสู่จินตานขั้นสมบูรณ์อย่างมั่นคง เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์ เพราะตามที่บันทึกโบราณได้กล่าวไว้ เมื่อไปถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ที่มีพรสวรรค์สูงบางคนจะสามารถเข้าใจวิถีแห่งสวรรค์และโลกได้พวกเขาสามารถรวบรวมร่างพลังขนาดใหญ่ได้หลายร้อยหรือแม้แต่พันเมตร ดึงพลังของสวรรค์และโลกมาใช้ ซึ่งมีพลังทำลายล้างมหาศาล ถึงขั้นที่เมืองทั้งเมืองอาจไม่สามารถต้านทานได้ ในมือของเขายังมีโอสถเม็ดหนึ่ง ซึ่งได้มาตอนที่ได้รับเตาเพลิงปฐพีมา แต่เขาก็อดกลั้นไว้ ไม่ได้ใช้มัน นี่คือโอสถที่เขาตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ตอนที่ทะล
พรีเอลล์ถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย เย่ซิวไม่ได้ปฏิเสธเด็ดขาดในทันที นั่นหมายความว่ายังพอมีช่องทางให้เจรจาต่อรองได้ หลังจากพูดคุยกันอีกสักพัก เขาก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานนัก เย่ซิวก็ได้รับรูปภาพหนึ่งทางโทรศัพท์ของเขา เมื่อเปิดดู ดวงตาของเขาหดเล็กลงเล็กน้อย ในภาพเป็นใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงสาวที่สวยจนยากจะบรรยายเป็นคำพูด เธอมีผมสีทองส่องประกายราวกับเปล่งแสงได้ ดวงตาสีฟ้าลึกเหมือนอัญมณีไพลินใบหน้าสวยบริสุทธิ์แต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ยั่วยวนเล็กน้อย สันจมูกโด่ง ริมฝีปากเล็กสีชมพูชวนหลงใหล สิ่งที่ทำให้เย่ซิวรู้สึกสะดุดตาคือออร่าของหญิงสาวในภาพช่างคล้ายกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็ง ทั้งสองมีบรรยากาศที่ดูสูงส่ง ดั่งกำเนิดมาเพื่อเป็นผู้ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง มองลงมายังสรรพสิ่งเบื้องล่าง เย่ซิวอดไม่ได้ที่จะคิดไปว่า หรือว่าหญิงสาวทั้งสองคนนี้จะมีความเกี่ยวข้องกัน?เดิมทีเย่ซิวไม่ได้สนใจอะไรมากเกี่ยวกับลูกพี่ลูกน้องที่พรีเอลล์พูดถึง แต่ตอนนี้เขากลับต้องคิดทบทวนใหม่ คงต้องหาโอกาสไปดูให้เห็นกับตา ใต้ภาพ พรีเอลล์ยังทิ้งข้อความไว้ด้วย : “เป็นไงล่ะ? สวยส
"มีอะไรหรือเปล่า?" เย่ซิวกดรับสาย คนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่น เป็นพรีเอลล์ครั้งก่อนเขาเผลอมองข้ามเธอไป ผู้หญิงคนนี้คงโกรธมากแน่ ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ในมุมหนึ่งของสถานที่แห่งหนึ่ง พรีเอลล์มีสีหน้าดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่เสียงที่เธอพูดกลับอ่อนหวานเหลือจะกล่าว จนทำให้ผู้ฟังขนลุกชัน "พี่ชายที่รัก ตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอ คิดถึงมากเลยนะ" เย่ซิวแสยะยิ้มเย็น ถ้าเขาไม่เคยติดต่อกับเธอมาก่อน คงเผลอเชื่อคำพูดของเธอไปแล้ว "พูดมาเถอะ มีธุระอะไร ระหว่างเราไม่ต้องมาเสียเวลาพูดจาอ้อมค้อม" "จะมีอะไรได้ยังไงล่ะ หรือฉันคิดถึงคุณไม่ได้เหรอ? เราสองคนก็เคยทำแบบนั้นแล้วนี่นา แต่ทำไมคุณถึงยังสงสัยว่าฉันมีแผนอะไรอีกล่ะ เสียใจจังเลย" เย่ซิวแค่นเสียงเยาะที่มุมปาก "งั้นเหรอ ถ้าไม่มีธุระอะไร งั้นผมวางสายแล้วนะ" "เดี๋ยว ๆ ๆ!" เสียงของพรีเอลล์เปลี่ยนเป็นปกติขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดอย่างหงุดหงิด"ไอ้คนไร้รสนิยม! คุณนี่ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมถึงมีผู้หญิงชอบเยอะขนาดนี้แต่ก็เอาเถอะ นี่โทรมานี่ก็เพราะมีเรื่องจะถาม ว่าคุณจะขายหุ่นยนต์ให้ฉันสักสองสามตัวได้ไหม ราคาคุณตั้งมาได้เลย"
เย่ซิวกำหนดเงื่อนไขให้พวกเขาส่งคนมาได้เพียงแค่หนึ่งร้อยคน และอีกฝ่ายก็ตอบตกลง หลังจากจบการสนทนา เย่ซิวกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม พลางจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ความบาดหมางระหว่างเขากับประเทศจ้านคงไม่จบลงง่าย ๆ แน่นอน เขารู้ดีว่าประเทศนี้เป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น เขาตบหน้าพวกนั้นอย่างรุนแรงขนาดนี้ อีกฝ่ายจะต้องหาทางเอาคืนแน่นอน ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งให้สายการผลิตเร่งสร้างจักรกลมังกรดำอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากสายการผลิตเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ขอแค่เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ส่วนที่เหลือก็ให้ระบบจัดการได้เลยด้วยประสิทธิภาพการผลิตในปัจจุบัน สามารถสร้างจักรกลมังกรดำได้วันละสองตัว ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ ต้องเสริมแนวป้องกันบริเวณพรมแดนทุกจุด และต้องรับสมัครผู้ควบคุมหุ่นยนต์เพิ่มอีก ยังต้องเตรียมรับมือกับมาตรการทางทหารจากอำนาจอื่น ๆ รอบตัว แต่โชคดีที่ตอนนี้เขามีคนเก่งอยู่ในทีมเยอะขึ้นแล้ว ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพียงแค่ออกคำสั่งก็พอ หลังจากนั้นเขาก็ออกจากที่นี่และตรงไปหาหยางถิงถิงที่กำลังทำงานสร้างถนน สาวน้อยคนนี้ดูอารมณ์เสีย หงุดหงิดไม่น้อย
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เทคโนโลยีของหุ่นยนต์ก็ไม่ใช่ว่าจะถ่ายโอนไม่ได้""แต่เรื่องแบบนี้ พวกเราควรมานั่งคุยกันให้ละเอียดเสียก่อน""อีกสองวันเป็นวันดี ผมขอเชิญทุกท่านมาหารืออย่างจริงจังดีไหม?"แน่นอนว่าเทคโนโลยีของหุ่นยนต์ไม่มีทางถูกส่งมอบให้พวกเขา นี่เป็นเพียงแค่กลยุทธ์ถ่วงเวลาเท่านั้นตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเย่ซิวหรือประเทศหลงเถิง ต่างก็ต้องการเวลาเย่ซิวต้องการเวลาเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับวิญญาณก่อกำเนิดประเทศหลงเถิงเองก็ต้องการเวลาในการผลิตหุ่นยนต์ในปริมาณมากเช่นกันเมื่อถึงตอนนั้น หากพวกเขาเปิดตัวหุ่นยนต์เป็นพัน ๆ ตัว พวกโจรเหล่านี้ก็จะถอยไปเองผู้นำแต่ละประเทศที่เข้าร่วมประชุมเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น มีไม่น้อยที่ถึงกับแสดงรอยยิ้มออกมาประเทศหลงเถิงเป็นที่รู้กันดีว่ามักจะแข็งกร้าวเมื่อพูดถึงผลประโยชน์หลักของตนเองแต่ตอนนี้พวกเขากลับยอมผ่อนปรน ทุกคนจึงคิดว่ามีโอกาสที่ข้อตกลงนี้จะเป็นไปได้ ดังนั้นพวกเขาจึงตอบตกลงกันทั้งหมดหลังจากนั้น การประชุมทางวิดีโอที่ทั่วโลกจับตามองก็สิ้นสุดลงด้านของเย่ซิว ขณะเดียวกันก็ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศจ้านชายผู้นั้นเป็นชายร่างใหญ่ มีหนวด
คำพูดดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหลักการอันสูงส่ง แต่ความจริงแล้วมันเป็นการปล้นดี ๆ นี่เอง ผู้นำประเทศหลงเถิงตั้งแต่ต้นจนจบยังคงรักษาท่าทีนิ่งสงบไม่มีแม้แต่แววความไม่พอใจบนใบหน้า จนกระทั่งพวกเขาพูดจบ เขาถึงได้พูดขึ้นมาช้า ๆ ว่า "ทุกท่านคิดว่าตอนนี้ประเทศหลงเถิงของเราผลิตหุ่นยนต์ไปแล้วกี่ตัว?" ทันทีที่คำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาทั้งที่ประชุมก็เงียบกริบ ใช่สิ พวกเขามัวแต่รีบร้อนเกินไป ในหัวมีเพียงความคิดเดียวคือต้องรีบช่วงชิงเทคโนโลยีของจักรกลมังกรดำมาให้ได้เร็วที่สุด แต่พวกเขากลับไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้เลย เมื่อถูกเตือนขึ้นมาแบบนี้ หลายคนรู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลังเหงื่อเย็นไหลซึมออกมาไม่หยุด ประเทศหลงเถิงสามารถมอบจักรกลมังกรดำถึงสิบสามตัวให้เย่ซิว นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องมีสต๊อกอีกจำนวนมากเท่าไหร่?พวกเขาต่างก็เห็นพลังของจักรกลมังกรดำกันหมดแล้ว เพียงแค่สิบสามตัวก็สามารถทำลายล้างกองกำลังหลักของมหาอำนาจได้ ถ้าหากประเทศหลงเถิงมีจำนวนมากกว่านี้ ประเทศขนาดกลางและขนาดเล็กบางประเทศอาจถูกกวาดล้างจนหายไปจากแผนที่ได้เลย!เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศเล็กคนหนึ่งปาดเหงื่อที่หน้าผากแล้วถามขึ้น
เย่ซิวรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางของหนานกงเสวี่ยเขาจึงฟาดฝ่ามือลงไปหนัก ๆ หนึ่งที "เวลานี้แล้วยังมาคิดเรื่องพวกนี้อีก แถมเธอยังเป็นกษัตริย์ด้วยระวังภาพลักษณ์ของตัวเองหน่อยสิ" หนานกงเสวี่ยมองเขาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายราวกับน้ำใส "แล้วมันจะเป็นอะไรไปล่ะ? ยังไงทุกคนที่นี่ก็เป็นพวกเดียวกัน อีกอย่างก็ฉันดีใจนี่นา" ตอนนี้เธออยู่ในอารมณ์ที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เธอลอบดีใจที่ตอนนั้นตัดสินใจยอมรับเย่ซิวซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดในชีวิต เธอสามารถมองเห็นอนาคตที่ยิ่งใหญ่ของประเทศปิงจือได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากประชาชนของประเทศปิงจือได้เห็นกษัตริย์ของพวกเขาทำตัวแบบนี้กับเย่ซิว เกรงว่าหลายคนคงรับไม่ได้ เฉินหลานกลับไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะในสายตาของเธอเย่ซิวคือบุคคลในตำนาน เป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง ท้ายที่สุด เย่ซิวก็ไม่ได้ทำตามที่หนานกงเสวี่ยคาดหวัง เขาให้เธอกลับไปประจำการก่อนเพื่อไม่ให้ทางนั้นเกิดปัญหา หนานกงเสวี่ยเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียดาย แต่พอเย่ซิวบอกกับเธอว่า"เดี๋ยวฉันจัดการธุระเสร็จแล้วจะไปหาเธอ" หญิงสาวก็กลับมายิ้มดีใจอีกครั้งหุ่นยนต์ทั้งสิบสามต
เครื่องบินห้าลำพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยตรง การยิงถล่มอย่างรุนแรงทำให้เครื่องบินรบถูกสอยร่วงลงทีละลำ ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!เสียงระเบิดดังกึกก้องต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพลิงไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทั่วแนวชายแดน กองทัพอัคคีแดงซึ่งเคยเป็นที่ขนานนามว่าเป็นกองทัพไร้เทียมทาน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง พากันล่าถอยอย่างอลหม่าน ทว่าระหว่างการล่าถอย พวกเขากลับถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล กระทิงคลั่งคำรามเสียงดัง ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันมหึมายิ่งขยายใหญ่ขึ้น เขาคำรามพลางพุ่งเข้าไปในห้องบัญชาการ สกัดกั้นแม่ทัพพยัคฆ์ขาวที่กำลังคิดจะหลบหนี การปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้น แม้ว่าแม่ทัพพยัคฆ์ขาวจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับกระทิงคลั่งแล้ว ยังถือว่าอ่อนด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพียงไม่กี่นาที เขาก็ถูกกระทิงคลั่งจับตัวได้ อย่างไรก็ตาม กระทิงคลั่งไม่ได้สังหารเขา แต่คว้าตัวแม่ทัพพยัคฆ์ขาวเอาไว้ หลบหลีกการโจมตีจากปืนใหญ่และระเบิด ก่อนจะพากลับไปยังค่ายของฝ่ายตน เพราะหมอนี่ถือเป็นตัวประกันที่มีค่ามาก และจะเป็นหม