“โอ๊ย!”ภายในโรงพยาบาลเมืองหนานเฉิงแห่งหนึ่ง หลี่หรูเฟิงส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธแค้นแขนทั้งสองข้างของเขาอยู่ในเฝือกปูนปลาสเตอร์ แล้วไหนจะคำพูดของหมอที่พูดกับเขาเมื่อกี้ทำให้เขาเหมือนตกนรกทั้งเป็นกระดูกแขนทั้งสองข้างของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆแม้จะได้รับการรักษาอย่างดี แต่ต่อไปเขาก็ไม่สามารถยกอะไรเบา ๆ ได้อยู่ดีนี่เป็นอาการบาดเจ็บที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้พูดง่าย ๆ ก็คือ เขาได้เป็นคนพิการไปแล้วเรียบร้อยทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะไอบ้านั่นคนเดียว“ฉันจะฆ่ามัน ฉันจะฆ่ามันให้ตาย!”หลี่หรูเฟิงดูดุร้ายเป็นอย่างมาก เขาหายใจอย่างหนักคนในห้องมีจำนวนไม่น้อย พวกเขาล้วนเป็นทายาทโดยตรงของตระกูลหลี่แต่นอกจากแม่ของเขาแล้ว ก็ไม่มีใครมีท่าทีเสียใจอะไรเลยหลี่มี่พูดอย่างไร้อารมณ์ “ถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นต้าวจือจริง อย่างนั้นเรื่องนี้แกก็เก็บไว้กับตัวแก อย่าให้ใครได้รู้เป็นอันขาด!”ปรมาจารย์ไม่สามารถรุกรานได้ในตอนนี้!“พ่อครับ!” หลี่หรูเฟิงกัดฟันแน่น “ผมรู้ครับ แต่ว่าผมจะไม่ยอมมันแน่!”แม่ของหลี่หรูเฟิงกอดเขาไว้และร้องไห้ไม่หยุด“โถลูกชายแม่ ลูกรออีกนิดนะ ตาของลูกเป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงสุ
หน้าท้องที่บางเรียบ ผิวขาวราวหิมะ ไม่มีชั้นไขมันเลยสักนิด ประดุจดั่งเงือกสาวเธอว่ายน้ำมาตรงข้าง ๆ หูเม่ยเอ๋อร์ เธอหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “พี่คะ คิดไม่ถึงว่าบนโลกใบนี้จะมีผู้ชายที่อดทนกับเสน่ห์ของพี่ได้ ช่างน่าทึ่งจริง ๆ”หูเม่ยเอ๋อร์ถอนหายใจและเอ่ยขึ้น “ที่จริงฉันก็แค่อยากจะลองใจหมอนั่นดูว่าจะจริงใจหรือว่าเสแสร้งกันแน่ แต่คิดไม่ถึงว่าตอนที่ฉันบอกเขาว่าเราว่ายน้ำกันอยู่ เขาจะแสดงออกชัดเจนว่าเขาจะไม่มาขนาดนี้”หรูฮว่าส่ายหน้าพร้อมหัวเราะ “แต่ถ้าเขาตอบตกลงว่ามา เขาคงไม่ได้เห็นพี่ใส่เสื้อผ้าแบบตอนนี้แน่นอน”นิ้วเรียวหูเม่ยเอ๋อร์เหยียดออก แล้วดีดไปที่หน้าผากเล็ก ๆ เบา ๆ “ยายเด็กน้อย เธอนี่ฉลาดจริง ๆ เลยนะ”……เย่ซิวกับเซี่ยซิ่วซิ่วได้มาถึงตระกูลหลิ่วแล้วหลิ่วอวี้ฝูถึงกับมายืนรอที่หน้าประตูด้วยตัวเอง เมื่อเห็นพวกเขามา รอยยิ้มอันแสนหวานก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ เธอก้าวไปข้างหน้าเพื่อต้อนรับพวกเขา ถ้าตระกูลอื่นในเมืองหนานเฉิงเห็นภาพนี้เข้าคงจะตกใจแน่ ๆเพราะหลิ่วอวี้ฝูมีฉายาว่าเป็นเจ้าหญิงเย็นชา แทบจะไม่มีใครเคยเห็นเธอยิ้มมาก่อนถ้าใครทำให้เธอยิ้มออกมาได้ มันคงจะน่ากลัวอย่างแน่นอน“พี
เมื่อหลิ่วอวี้ฝูได้รับโทรศัพท์สีหน้าก็เปลี่ยนทันที มีไอเย็นยะเยือกเล็ดลอดออกมาจากร่างกายหลิ่วซูหยุดชั่วคราวขณะที่เขาจะยกถ้วยชาขึ้นมาที่ริมฝีปาก “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”หลิ่วอวี้ฝูส่ายหน้า เธอลุกขึ้นมาและบอกกับเย่ซิวว่า “ฉันมีธุระที่ต้องไปจัดการ พวกพี่พักผ่อนอยู่ที่นี่สักพักนะ”พูดจบก็ยืนขึ้นแล้วจากไปเย่ซิวมองแผ่นหลังของเธอ ทำท่าทางเหมือนคิดอะไรอยู่หลิ่วอวี้ฝูกลับไปยังห้องหนังสือของเธอ เปิดคอมพิวเตอร์และออกคำสั่งบางอย่างออกไปข้อความบนโทรศัพท์มือถือของเธอถูกส่งไปรัว ๆ เธอตอบอย่างสงบและรวดเร็วมันกินเวลานานกว่าสองชั่วโมงกว่าจะหยุดเธอถูขมับด้วยความเหนื่อยล้าบนใบหน้าอย่างไม่อาจปกปิดได้ตอนนี้เสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้นมาอีกครั้งหลังจากรับสาย ก็มีเสียงร้องไห้จากอีกฝ่าย“ท่านประธานครับ ช่วยผมด้วยครับ ผมไม่อยากตาย!”หลิ่วอวี้ฝูเกิดความเครียดแต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือพูดไปว่า “หลิวเหนิง คุณเป็นอะไร?”“มีคนกลุ่มหนึ่งจับผมมา ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมอยู่ที่ไหนแถวนี้มืดมาก แถมตอนนี้พวกมันยังเอางูพิษมาวางไว้รอบ ๆ ตัวผมอีกท่านประธานรีบมาช่วยผมด้วยนะครับ ที่บ้านผมยังมีคนแก่และเด็ก ผมจะตายไม่ไ
สายตาที่มองเย่ซิ่วเหมือนกับการมองเทพพระเจ้าจอมยุทธระดับห้าที่มีอายุเพียงเท่านี้ ถ้าพูดออกไป ไม่รู้ว่ามันจะทำให้เกิดความตกใจยิ่งใหญ่ขนาดไหนบอดีการ์ดสาวไม่ต่อสาวความยาวอีกต่อไป เธอลงมาจากรถทันที เย่ซิวเปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งที่ฝั่งคนขับก่อนสตาร์ทรถพร้อมพูดกับหลิ่วอวี้ฝูว่า “ผมไม่ค่อยคุ้นทางที่นี่ คุณบอกทางผมด้วยนะ”หลิ่วอวี้ฝูพยักหน้าอย่างว่าง่าย ดวงตาของเธอส่องแสงเมื่อมองไปยังเย่ซิว “นี่พี่เย่ พี่บอกฉันได้ไหมว่าพี่เป็นสาวกจากสำนักไหน?”“มันเป็นความลับน่ะ”ปากน้อย ๆ ของหลิ่วอวี้ฝูพึมพัม “ฉันล่ะเกลียดพี่จริง ๆ ”รูปลักษณ์และการกระทำดูมีเสน่ห์และน่าหลงไหลเย่ซิวเหลือบมองจากหางตาของเขา และการเต้นของหัวใจของเขาก็ช้าลงครึ่งหนึ่งไม่นานเขากลับมามีสติอีกครั้งไม่กี่ปีที่หลังจากสาวน้อยโตขึ้น เธอจะต้องเป็นคนที่ทำให้สรรพสัตว์สับสนและดึงดูดผู้คนนับไม่ถ้วนให้มองดูเธอในทุก ๆ ที่ที่เธอไปโชคดีที่เธอมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งและเธอเองก็มีความสามารถไม่น้อย ไม่อย่างนั้นเธอคงจะถูกบางคนที่มีเจตนาไม่ดีทำร้ายไปแล้วก็ได้ในระหว่างนั้น หลิ่วอวี้ฝูก็บอกทิศทางกับเย่ซิวต่อไปใช้เวลาเพียงแค่สามสิบนาท
เย่ซิวหันกลับมาเขาเห็นชายคนหนึ่งที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้ากำลังสตาร์ทรถด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย เย่ซิวเหยียดนิ้วหัวแม่มือออกช้า ๆรถยนต์เกิดเสียงดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะปลดเบรกมือและพุ่งเข้ามา เย่ซิวก็สะบัดนิ้วมือด้วยสีหน้าเย็นชาพลังงานระเบิดพุ่งทะลุกระจกรถทันที บนหน้าผากของชายคนนั้นเป็นรูจนมีเลือดไหลออกมา วินาทีต่อมาเขาก็สิ้นลมทันทีเย่ซิวเปิดประตูแล้วลากเขาลงจากรถเขากวาดสายตาอย่างรวดเร็วไม่นานสายตาเขาก็หยุดที่สถานที่หนึ่ง“ไม่เลวเลยนี่”คนกลุ่มหนึ่งจำนวนสิบกว่าคนเดินเข้ามา แต่ละคนมีรังสีที่ดุร้ายมองแค่แวบแรก เขาดูเหมือนคนที่มีประสบการณ์การต่อสู้หลายร้อยครั้งและมีวิญญาณที่ตายแล้วนับไม่ถ้วนอยู่ในมือของพวกเขาเย่ซิวเดินมายืนอยู่หน้าหลิ่วอวี้ฝูและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ไหนตัวประกันล่ะ?!”ชายคนหนึ่งชี้ไปที่รถที่อยู่ด้านหลังของเย่ซิว “ฉันจะดูก่อนว่าพวกแกเอาเงินมาครบไหม”เย่ซิวเดินจูงมือหลิ่วอวี้ฝูไปที่ท้ายรถแล้วเปิดท้ายรถข้างในเต็มไปด้วยเงินสด ดวงตาของคนเหล่านี้ระเบิดออกมาด้วยแสงแห่งความโลภที่รุนแรง และการหายใจของพวกเขาก็เร็วขึ้น“ดี พวกแกขึ้นรถแล้วตามฉันมา!”
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนที่อยู่ภายในห้องมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที จากนั้นพวกเขาก็รีบหลบหนีออกไปข้างนอกพร้อม ๆ กันมีหนึ่งในนั้นตะโกนขึ้นมา “รีบลงมือฆ่าพวกมันเร็ว!”โดยทั่วไปพละกำลังของพวกเขาจะอยู่ระหว่างจอมยุทธระดับสองหรือไม่ก็ระดับสามมีเพียงผู้ชายที่เป็นหัวหน้าเท่านั้นที่อยู่ในระดับสี่ชั้นกลางพวกเขาเคยเห็นเย่ซิวปล่อยพลังภายในของเขามาก่อน แต่พวกเขาก็ไม่ได้กลัวมากนักเป็นเพราะว่าครั้งนี้พวกเขาเตรียมตัวมาดี จึงไม่เกรงกลัวใครจะรู้ว่าแผนนี้จะถูกค้นพบสิ้นเสียง ผู้คนที่ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ต่างเปลี่ยนใจ!เสียงแตกกลางอากาศ!ลูกศรนับร้อยด้วยแสงเย็นเยือกในคืนที่มืดมิดพุ่งไปที่ร่างของเย่ซิวจากทุกทิศทุกทางคนสองสามคนที่นอนอยู่บนพื้นยิ้มอย่างภาคภูมิใจเมื่อเห็นภาพนี้“ฮ่าฮ่า มันต้องตายแน่นอน!”“ไม่มีใครรอดเงื้อมมือจากการโจมตีนี้ไปได้แน่ ๆ!”วินาทีต่อมา สีหน้าของพวกเขาก็ดูราวกับว่าเห็นผีจากนั้น พวกเขาก็เห็นเย่ซิวยืนอยู่ตรงหน้าหลิวอวี้ฝูเขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตูอย่างมั่นคงเขางอขาเล็กน้อยแล้ววาดวงกลมด้วยมือข้างหน้าศิลปะการต่อสู้ ปรมาจารย์ไทเก็ก!ขณะที่เย่ซิวขยับมือของเขาไม่ห
ด้านหน้ายังมีคนอยู่เป็นจำนวนมากที่กำลังขนเงินสดออกมาอย่างต่อเนื่องคนเหล่านี้ไม่มีกลิ่นฉุนของเลือด พวกเขาเป็นเพียงกลุ่มอันธพาลและเย่ซิวก็ไม่ได้จะฆ่าพวกเขา แค่ทำให้ได้รับความเจ็บปวดบ้างก็เท่านั้น“พี่ใหญ่ ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะนะ พวกเราเป็นเพียงกลุ่มอันธพาลกลุ่มหนึ่งเท่านั้น”“ผมจะไม่ทำอีกแล้ว ต่อไปผมจะทำแต่ทำความดีให้มาก ๆ ”“ขอร้องล่ะพี่ใหญ่ ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ”พวกเหล่าอันธพาลทั้งหมดคุกเข่าลงต่อหน้าเย่ซิวพร้อมก้มหัวให้เขาไม่หยุดเย่ซิวสั่งให้พวกเขาขนเงินสดทั้งหมดกลับขึ้นรถ อีกทางด้านหนึ่ง หลิ่วอวี้ฝูได้ช่วยหลิวเหนิงออกมาพร้อมสั่งเขาว่า “เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ห้ามคุณพูดอะไรออกไปเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ช่วยคุณ”เธอเข้าใจดี ถ้าหากเรื่องพละกำลังของเย่ซิวแพร่งพรายออกไป มันคงจะสร้างความโกลาหลมากอาจมีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้มากมายอยากมาประลองกับเขาและอาจจะถึงขั้นอยากเอาชีวิตเขา เพราะว่าทั่วโลกนี้มีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้จำนวนมาก และส่วนใหญ่พวกเขาก็แบ่งวิชาการฝึกตนอยู่แล้วถ้าพวกเขารู้ว่ามีอีกคน คงมาแย่งวิชาจากเขาไปอีกแน่เขายังดูหนุ่มขนาดนี้ ต่อไปผู้คนมากมายอาจจ
เย่ซิวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ้มและไม่ได้พูดอะไรหลิ่วอวี้ฝูสั่งผู้ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บนำตัวผู้บาดเจ็บในวิลล่าไปรับการรักษาและจัดระบบรักษาความปลอดภัยใหม่……อีกด้านหนึ่งที่ตระกูลหลี่เพล้ง!“ไอ้พวกขยะ!”หลี่หรูปิงคำรามออกมาเสียงดังขณะปาข้าวของลูกน้องที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ต่างก้มหน้าลงและไม่กล้าพูดอะไรออกมา“พวกแกมีกองกำลังตั้งเยอะแต่กลับฆ่าพวกมันไม่ได้ พวกแกจะยังมีประโยชน์อะไรอีก!”หลี่หรูปิงโกรธจนถึงขีดสุด ครั้งนี้เรียกได้ว่าสูญเสียเป็นอย่างมากเขาขาดทุนมากมายมหาศาลเพราะจอมยุทธเหล่านั้นที่ถูกเย่ซิ่วฆ่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว พวกเขามีพี่ชาย น้องสาวหรือญาติของตัวเองแต่พวกเขาตายเพื่อหลี่หรูปิงมีความสมเหตุสมผลที่จะจัดให้มีเงินบำนาญ เนื่องจากครั้งนี้สูญเสียจอมยุทธไปเป็นจำนวนมาก อย่างน้อยก็ต้องจ่ายเงินถึงพันล้านหลังจากระบายความโกรธแล้ว เขาก็ถามอย่างเย็นชา “สืบได้หรือยังว่าคนที่ติดตามหลิ่วอวี้ฝูมามันเป็นใคร?!”ชายคนหนึ่งตอบขึ้นว่า “เป็นผู้ชายที่ชื่อว่าเย่ซิวครับ ในเมืองเจียงเฉิงมีบริษัทที่เรียกว่าบริษัทสตาร์รี่สกาย ว่ากันว่าเขาเป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับสามดูเหมือนว่าเขาจะเชี่ยวชาญวิ
ชายคนนั้นมีท่าทีไม่เชื่ออย่างแรง “อย่ามาหลอกฉัน ถ้าเจ้าอาวาสไม่ออกมา ฉันก็ไม่ไป และวัดนี้ก็อย่าหวังว่าจะมีใครมากราบไหว้อีก!”นักพรตหนุ่มรู้สึกทั้งโกรธและหมดหนทาง เมื่อเจอกับคนที่มีพลังแข็งแกร่งและเล่นไม่ซื่อแบบนี้ เขาเองก็ไม่รู้จะรับมือยังไง“เฮ้ พวกเธอสองคน ไสหัวไปซะ!”ชายคนนั้นมองเย่ซิวกับน่าหลันเยียนหรานด้วยสายตาดุดันดั่งสิงโตที่กำลังคำราม ดูน่ากลัวเป็นอย่างมากนี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้ผู้คนที่มาไหว้พระพากันหนีไปหมดเย่ซิวเอ่ยเรียบ ๆ “นี่เป็นที่สาธารณะ ทำไมผมต้องไปด้วย?”ชายคนนั้นแสยะยิ้ม “ไอ้หนู คิดจะโชว์แมนต่อหน้าแฟนหรือไง? อยากโดนฉันสั่งสอนใช่ไหม!”พูดจบ พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ออกมาจากร่างของเขามีเพียงผู้ที่ผ่านสมรภูมิความเป็นความตายอันโหดร้ายมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นที่จะสามารถแผ่กลิ่นอายอันน่ากลัวเช่นนี้ออกมาน่าหลันเยียนหรานตัวสั่นเทิ้ม ขนลุกไปทั้งร่างชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้วแต่ในวินาทีนั้นเย่ซิวก็ยื่นมือใหญ่ที่อบอุ่นและแข็งแรงมาจับมือเล็ก ๆ ของเธอไว้ เธอรู้สึกสงบลง ก่อนจะมองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาขอบคุณนักพรตหนุ่มรีบวิ่งลงมาหาเย่ซิวพร้อมเตือนด้วยความกังวล “โย
คนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่เกลียดชังคนรวยเหมือนกับตอนนี้ที่แม้น่าหลันเยียนหรานเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเห็นได้ชัดแต่เพียงเพราะเธอขับรถหรูและใส่เสื้อผ้าราคาแพง คนรอบข้างจึงคิดว่าเป็นความผิดของเธอเหตุการณ์แบบนี้ที่แสดงถึงความเกลียดชังคนรวยมีให้เห็นทั่วไปขณะที่น่าหลันเยียนหรานไม่รู้จะทำอย่างไรดี เย่ซิวก็ปรากฏตัวขึ้นมายืนขวางหน้าเธอไว้น่าหลันเยียนหรานยิ้มด้วยความดีใจ “คุณเย่มาที่นี่ได้ยังไงคะ”“ผ่านมาแถวนี้พอดี” เย่ซิวมองหญิงชราที่นอนขวางรถของน่าหลันเยียนหราน แล้วเอ่ยเรียบ ๆ “ลุกขึ้น แล้วไสหัวไปซะ!”หญิงชรายิ้มเยาะ “อะไร พวกเธอสองคนรวมหัวกันจะรังแกคนแก่เหรอ หน้าไม่อาย ถ้าฉันไม่ลุกพวกเธอจะทำอะไรฉันได้!”คนที่ไม่รู้จักอายมักจะได้เปรียบเสมอเย่ซิวจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่เปล่งประกายแล้วตวาดใส่หญิงชราคนนั้น “มองฉัน!”หญิงชราหันมามองตาของเย่ซิวโดยไม่ทันรู้ตัวตึง!สมองของเธอว่างเปล่าไปชั่วขณะ ราวกับสติหายไปชั่วคราวเย่ซิวมองเธอ “บอกมาว่าทำไมถึงคิดจะหลอกคนอื่น”หญิงชราเผยความในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว“ฉันเล่นไพ่นกกระจอกจนเสียเงินค่าใช้จ่ายสำหรับทั้งปีไป กลัวสามีจะด่าก็เลยคิดจะหลอกเอาเงินจากค
“พี่เป็นคนดีจริง ๆ ฉันรักพี่ที่สุดเลย”จวงเสี่ยงหยิงดีใจจนกระโดดโลดเต้นอยู่ตรงหน้าเย่ซิว“พอแล้ว” เย่ซิวกดไหล่เธอลง “ผู้หญิงไม่ควรกระโดดโลดเต้นต่อหน้าผู้ชายแบบนี้ จะเสียเปรียบเอานะ”จวงเสี่ยงหยิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง ใบหน้าเธอแดงก่ำ ก่อนจะเอ่ยด้วยความเขินอาย “พี่นี่ลามกจริง ๆ เลย คราวหน้าฉันจะกระโดดแค่ต่อหน้าพี่แค่คนเดียวดีไหมคะ?”จวงเสี่ยงหยิงเปรียบเสมือนดอกไม้ที่ยังตูมรอวันผลิบาน แผ่กลิ่นอายแห่งความสดใสและเยาว์วัยออกมาทุกอณูการได้อยู่กับสาวน้อยแบบนี้ทำให้จิตใจพลอยสดชื่นไปด้วยถ้าไม่ติดว่ายังมีเรื่องรอให้ทำอีกมากมาย เย่ซิวคงจะอยู่กับเธอนานกว่านี้หน่อยหลังจากออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว เย่ซิวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาอารามเต๋าภายในประเทศตอนนี้เขาอยู่ในขั้นสูงของการสร้างรากฐานปราณ อีกไม่นานก็จะถึงขั้นสมบูรณ์ เขาต้องเริ่มเตรียมตัวสำหรับการบ่มเพาะจินตานแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำคือหาวิธีการบ่มเพาะจินตานปัจจุบัน อารามเต๋าในประเทศที่มีอายุมากกว่าร้อยปีนั้นมีอยู่ไม่กี่แห่งเย่ซิวค้นเจออารามเต๋าห้าแห่ง หนึ่งในนั้นมีอยู่ที่เมืองหลวงและระยะทางก็ไม่ไกลมากเมื่อค้นเจอต
เย่ซิวชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะหันกลับมา “ว่าไงครับ?”หยางชิงเสวี่ยเม้มปากเล็กน้อย ดวงตางดงามจับจ้องไปยังเย่ซิวที่ยืนอย่างองอาจ “คุณต้องเร่งบำเพ็ญตนให้มากขึ้น แล้วรีบทะลวงให้ถึงระดับจินตานให้เร็วที่สุด ถึงตอนนั้น…”ประโยคหลังจากนั้นเธอไม่ได้พูดออกมา แต่แค่ขยับริมฝีปากเท่านั้นเย่ซิวเข้าใจอย่างชัดเจน จึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากหยางชิงเสวี่ยมีร่างกายที่พิเศษ และต้องรอให้เย่ซิวทะลวงระดับจินตานเสียก่อนจึงจะสามารถมีสัมพันธ์กับเธอได้นี่เป็นกฎที่อาจารย์ของเขากำหนดไว้เมื่อถึงเวลาที่เขาสมหวังกับหยางชิงเสวี่ย เขาจะได้รับพลังพิเศษที่แข็งแกร่งมากเย่ซิวกลับไปที่ศาลา ก่อนจะหยิบจี้หยกสองชิ้นออกมา แล้วสวมให้เธอด้วยมือของเขาเองทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจนกลิ่นอายความแข็งแกร่งของเขาแผ่ซ่านเข้ามาจนสัมผัสได้หยางชิงเสวี่ยรู้สึกเหมือนร่างกายถูกจุดไฟ รู้สึกอ่อนแรงและใบหน้าก็แดงระเรื่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจากนั้นเย่ซิวก็คว้ามือเล็กอ่อนนุ่มของเธอไว้ ก่อนจะสวมแหวนลงบนนิ้วของเธอสองวง แล้วบอกวิธีใช้ให้เธอฟัง“ของพวกนี้ล้ำค่าเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก”หยางชิงเสวี่ยส่ายหน้า พยายามจะถอดออก“ไม่เป็นไร ของพว
ชีวิตของเธอในตอนนี้เรียบง่ายมากบางครั้งก็เรียน บางครั้งก็ไปฝึกงานที่บริษัท ชีวิตดูเต็มไปด้วยคุณค่าและมีความหมายมากเย่ซิวลูบหัวเธอเบา ๆ “มาดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”สายตาของเขามองไปที่ศาลาตรงนั้นมีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้ากำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจมองจากมุมนี้ ใบหน้าด้านข้างของเธอสวยไร้ที่ติ ทำให้คนใจเต้นแรงแม้เพียงพบเห็น แต่ก็ไม่กล้าคิดลามกกับเธอเธอคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างน่าอัศจรรย์คนหนึ่งเลยทีเดียวดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกถึงสายตาของเย่ซิว เธอจึงหันมองมาแล้วพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยกมุมปากยิ้มบางเย่ซิวยิ้มตอบจวงเสี่ยวหยิงยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหึงหวง “ที่แท้ก็ไม่ได้มองแค่ฉันนี่นา”เย่ซิวหัวเราะ “เด็กน้อย ยังจะหึงอีกนะ ไปซื้อน้ำให้ฉันหน่อยสิ”“ค่ะ…”จวงเสี่ยวหยิงยู่ปากแต่ก็เดินออกไปอย่างว่าง่ายเย่ซิวเดินเข้าไปในศาลา นั่งลงตรงหน้าชิงเสวี่ยแล้วถามอย่างตรงไปตรงมา “คุณรู้จักที่มาที่ไปของคุณลี่หรือเปล่า?”ชิงเสวี่ยวางหนังสือลง มองเย่ซิวด้วยดวงตากลมโต พลางส่ายหัวเบา ๆ “ไม่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ”เย่ซิวจ้องมองเธอด้วยสายตาตรงไปตรงมา จิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหว ทำให้รู้ว่าเธอไม
ต่อจากนี้จะเป็นการบรรยายยาวกว่าหนึ่งแสนคำครั้งที่แล้วเย่ซิวเป็นฝ่ายเริ่มบำเพ็ญตนกับหลินโหรวก่อนแต่ครั้งนี้หลินโหรวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน สรุปง่าย ๆ เลยสามคำ เธอเก่งมากคงเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอยู่กับสาวผมเหลืองก่อนหน้านี้“ผมต้องไปแล้ว” เย่ซิวจิบเครื่องดื่มพลางเอ่ยกับหลินโหรวหลินโหรวปาดเหงื่อหอมบนหน้าผาก พลางมองเย่ซิวด้วยสายตาอ่อนหวาน “ฉัน…พอจะเป็นแฟนคุณได้ไหม?”เย่ซิวใช้นิ้วเชยคางขาวเนียนของเธอขึ้น แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณคิดว่าตัวเองคู่ควรหรือเปล่าล่ะ?”สายตาของหลินโหรวหม่นลงในทันที ใช่แล้ว ตอนนี้เธอไม่คู่ควรกับเขาจริง ๆแต่เธอก็รีบกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง “ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะทำตัวเหลวไหลไปหน่อย แต่จากนี้ไป ฉันจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น”“อืม ความสามารถของเธอก็ไม่เลวนะ” เย่ซิวพยักหน้า “ตอนนี้คุณยังไม่มีงานทำใช่ไหม”“ยังค่ะ”เย่ซิวเกิดความคิดหนึ่งขึ้น เขาเอ่ยกับเธอว่า “ผมจะลงทุนให้คุณห้าพันล้าน ไปตั้งบริษัทการจัดการระหว่างประเทศสักแห่ง แล้วดึงคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมทีมเยอะ ๆ”หลินโหรวทำหน้าจริงจัง “ค่ะ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ห้าพันล้านนี้จะทำกำไรให้คุณสิบเท่า ยี่สิ
ยาที่อยู่ในมือเธอหล่นลงบนพื้นทันที “นายเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง!”เย่ซิวเดินตรงเข้าไปหาเธอด้วยสีหน้าเย็นชา “พูดมาว่าใครเป็นคนสั่งให้เธอมาเล่นงานฉัน”“เล่นงานนาย? หมายความว่าไง?”สีหน้าของสาวผมทองดูไม่เหมือนคนโกหก นั่นหมายความว่าเธอเพียงแค่ถูกใครบางคนใช้เงินจ้างมาเท่านั้นเย่ซิวจึงเปลี่ยนวิธีถาม “ใครเป็นคนให้ยานี้กับเธอ หน้าตาเป็นยังไง?”“ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงอะไร” สาวผมทองพยายามปฏิเสธสุดกำลังเย่ซิวคว้าคอเธอไว้แล้วค่อย ๆ ยกขึ้นสาวผมทองดิ้นรนสุดชีวิต ดวงตาเบิกโพลง ลิ้นยื่นออกมายาวความรู้สึกหวาดกลัวอย่างรุนแรงพุ่งขึ้นมาจับใจเธอ ผู้ชายที่ดูหล่อเหลาจนน่าตะลึงคนนี้กล้าฆ่าเธอจริง!“ฉัน…ยอมบอกแล้ว…”ปึก!เย่ซิวโยนเธอลงกับพื้นแล้วนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะถือโอกาสหยิบยาขึ้นมาสาวผมทองไออย่างหนัก เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย สายตาที่มองเย่ซิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ฉันก็ไม่รู้จักเขาหรอก อยู่ ๆ เขาก็มาหาฉัน ให้เงินมาก้อนหนึ่ง แล้วบอกให้ฉันเอายาให้หลินโหรว…แค่นั้นแหละ”“หน้าตาเขาเป็นยังไง?”“ฉันมองเห็นไม่ค่อยชัด เขาใส่เสื้อโค้ตสีดำ สวมหน้ากาก ยานี้เขาให้มาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว”เย่ซิ
“เสี่ยวโหรว อย่าไปเลยนะ ได้ไหม?”“ปล่อยฉันนะ ตอนนั้นเธอเป็นคนบอกเลิกฉันเอง แล้วตอนนี้กลับมาวุ่นวายอะไรกับฉันอีก!”“ตอนนั้นฉันเองที่เสียสติ แต่หลังจากนั้นฉันก็รู้ว่าขาดเธอไม่ได้จริง ๆ”“หึหึ ตอนนั้นฉันพยายามมากแค่ไหนเพื่อรั้งเธอไว้ แต่เธอก็ใจแข็งใส่ฉัน ตอนนี้ต่อให้พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”“เสี่ยวโหรว ฉันรู้นะว่าเธอยังรักฉันอยู่”“เพ้อเจ้อ! ตอนนี้ฉันหันมาชอบผู้ชายแบบปกติแล้ว และเธอก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉันอีก!”……มีสาวสวยสองคนกำลังทะเลาะกันบนถนนคนหนึ่งย้อมผมสีเหลือง ใส่เสื้อเอวลอย ทรวดทรงเย้ายวนอีกคนสวมเดรสยาวสีขาวกับรองเท้าผ้าใบ ดูสะอาดบริสุทธิ์ฝูงชนที่มุงดูพลอยเข้าใจเรื่องราวจากบทสนทนาของทั้งคู่ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายที่แท้สองคนนี้ก็เป็นหญิงรักหญิง ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาจึงลุกโชนขึ้นมาทันทีเย่ซิวเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอพวกเธอที่นี่อีกครั้งอดีตแฟนสาวหรือแฟนหนุ่มของหลินโหรวยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่หลินโหรวนั้นเปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียวไม่มีความหยิ่งยโสและอวดดีเหมือนแต่ก่อน กลับดูอ่อนโยนขึ้นมากดูเหมือนว่า ‘การปรับเปลี่ยน’ ของเขาในตอนนั้นจะได้
เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำแล้วจะดูโปร่งแสงเล็กน้อย ดังนั้นถังเขอเข่อในตอนนี้จึงดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูกถังเขอเข่อกอดอกตัวเองไว้ด้วยความอับอายและหงุดหงิด “อย่ามองสิ หันหลังไปเลยนะ ฉันไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ก็เลยต้องใส่ชุดเดิมนี่แหละ”เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “มานี่ เดี๋ยวผมช่วยทำให้เสื้อผ้าคุณแห้งเอง”“ไม่เอา…”เธอกลับถอยหลังไปอีกสองสามก้าว เธอรู้ดีว่าสภาพของตัวเองตอนนี้ จะส่งผลต่อผู้ชายมากแค่ไหนเธอกลัวว่าเย่ซิวจะควบคุมตัวเองไม่ไหว แล้วก็…เย่ซิวชูมือขึ้นแล้วส่งพลังดูดมหาศาลออกมาใส่ถังเขอเข่อ“กรี๊ด!” ถังเขอเข่อร้องเสียงหลง ร่างกายของเธอลอยลิ่วเข้ามาหาเย่ซิวอย่างไม่ตั้งใจ เธอดิ้นไปมาพลางกรีดร้องไม่หยุด “ปล่อยนะ ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำตามใจหรอก ฉันยังไม่เคยมีแฟนเลย ไม่ได้นะ…เอ๊ะ ทำไมอุ่นจัง”ในขณะที่กำลังดิ้นพล่าน ถังเขอเข่อก็หยุดทันที ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความสงสัย สถานการณ์ดูไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลยสักนิด เย่ซิวเพียงแค่ปล่อยพลังไฟออกมาเบา ๆ เพื่อช่วยให้เสื้อผ้าของเธอแห้งเท่านั้นเอง“นี่มันอะไรน่ะ?!” ถังเขอเข่อตกใจจนพูดไม่ออก “มายากลเหรอ?”