โรงพยาบาลเรารักหัวใจพิพัฒน์กุลหน้าห้องตรวจโรคหัวใจพิมพ์ ในวัย24ปีที่มองยังไงก็เหมือนเด็กมัธยมเพราะรูปร่างหน้าตาของเธอนั้น ใบหน้ารูปไข่สวยสะดุดตาจมูกโด่งเป็นสันปากอิ่มแดงออกชมพูฉ่ำดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหวานซึ้งและยังมีรูปร่างผิวพรรณที่ขาวเหมือนแป้งเด็กตัวเล็กและผมยาวสีน้ำตาลอ่อนถึงกลางหลัง พิมพ์ มองไปรอบห้องตรวจด้วยความตื่นเต้นและกังวลเพราะพยาบาลบอกวันนี้จะได้เจอกับคุณหมอประจำตัวคนใหม่ที่มาแทนคุณหมอคนเก่าและพยาบาลยังบอกอีกว่าคุณหมอคนใหม่คนนี้ใจดีมาก ฉันดีใจมาก กไก่ล้านตัวเลย เพราะคุณหมอคนเก่าของฉันนั้น ดุมาก ฉันแค่ลืมนำยาเก่ามาด้วย หมอคนนี้ว่าฉันฉ่ำเลยแหละ“โอ๊ย ทำไมตื่นเต้นจังฉัน”พิมพ์ หันไปมองหน้าห้องตรวจ7 อ่านป้ายชื่อคุณหมอที่อยู่หน้าห้องตรวจนั้น “นายแพทย์ ชานนท์ พิพัฒน์กุล ““นามสกุลเหมือนโรงพยาบาลเลย”พยาบาลหน้าห้องตรวจ7เรียกคนไข้คนต่อไป คุณพิมประภา สุขสวัสดิ์ ค่ะ“ค่ะ ฉันค่ะ”พยาบาล…เชิญเข้าห้องตรวจได้เลยค่ะ“ค่ะ พยาบาล”พิมพ์ เดินเข้าไปในห้องตรวจ และต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็น หมอชานนท์ พิพัฒน์กุล ที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน เขาดูหล่อเหลามากในชุดกาวน์หมอ ผมสีดำ เรียบ
เพื่อนบ้านคนใหม่การย้ายเข้ามาใหม่ เสียงเครื่องยนต์รถบรรทุกดังกึกก้องสะท้อนไปทั่วบริเวณหมู่บ้านอัจฉรา รถยนต์หรูหลาคันโตทยอยจอดเรียงรายไว้หน้าบ้านหลังใหญ่ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่เอี่ยมตัดกับบ้านในหมู่บ้านที่ดูเรียบง่ายกว่ามากบ้านหลังใหม่นี้เป็นบ้านของใครอื่นไม่ใช่ใครที่ไหนนั่นคือหมอชานนท์นั่นเองตรงข้ามกับบ้านหลังใหญ่ของหมอชานนท์เป็นร้านหนังสือเล็กๆน่ารักชื่อ หนังสือเล่มโปรด ของพิมพ์ เจ้าของร้านสาวสวยคนเดิมที่แอบหลงรักหมอชานนท์ พิมพ์ยืนอยู่ในร้านกำลังจัดเรียงหนังสือใหม่ๆ จู่ๆ ก็มีรถบรรทุกคันใหญ่มาจอดขวางหน้าร้านหนังสือของพิมพ์ทำให้ลูกค้าเข้าออกไม่ได้พิมพ์รีบวิ่งออกมาดูและพบว่ามีรถสปอร์ตสีดำจอดอยู่ด้านหลังรถบรรทุกอีกคัน “นี่มันอะไรกันเนี่ย! มาจอดขวางหน้าร้านแบบนี้ได้ยังไง”พิมพ์โวยวายเสียงดังทันใดนั้น ประตูรถสปอร์ต ก็เปิดออกและคนที่ก้าวออกมาคือหมอชานนท์พิมพ์ถึงกับอ้าปากค้าง ตาโตเพราะไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชายที่เธอแอบรัก หมอชานนท์มองมาที่พิมพ์เล็กน้อยก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องให้จัดการเรื่องรถบรรทุก และหันกลับมาขอโทษพิมพ์“ ขอโทษนะครับพอดีผมเพิ่งจะย้ายมาครับ” หมอชานนท์ พูดด้วยสีหน้าเย็น
รุ้งเช้าด้วยหัวใจว้าวุ่น พิมพ์ยืนอยู่หน้าร้านหนังสือมองไปบ้านหลังใหญ่ของหมอชานนท์ด้วยแววตาเป็นประกายเธอมีความสุขทุกครั้งที่ได้มองเห็นบ้านหลังนั้น รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบสดใสขึ้นมาทันทีจู่จู่อาการเจ็บหน้าอกกำเริบขึ้นมาทำให้พิมพ์รู้สึกหมดแรง มึนหัวจนเป็นลมล้มพับไปอย่างแรงอยู่ที่หน้าร้านแม่ดาวแม่ของพิมพ์ได้ยินเสียงดังขึ้นจึงรีบเดินมาดูหน้าร้านกับพบเห็นว่าลูกสาวตัวเองนอนลงไปอยู่กับพื้นแล้วจึงรีบวิ่งมาหาพิมพ์ “ พิมพ์ พิมพ์ ลูก พิมพ์ ใครก็ได้ช่วยด้วย พิมพ์พิมพ์ลูกพิมพ์ ’’แม่ดาวร้องให้เขย่าตัวลูกสาวของเธอที่ยังหลับสนิทอยู่เธอตะโกนขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ในขณะที่แบงค์กำลังจะขับรถออกไปโรงพยาบาล ก็ได้หันมามองบ้านของพิมพ์ถึงกับต้องหยุดรถกระทัน เพราะหันไปเห็นแม่ของพิมพ์ที่กำลังพยายามกดโทรศัพท์โทรหาใครอยู่นั้นโดยท่าทาง รีบร้อนดูกังวลและร้องไห้สายตาของแบงค์ก็เหลือบไปเห็นคนที่นอนอยู่ข้างหลังแบงค์ถึงรีบลงจากรถเพราะนั่นคือเพื่อนของเขา พิมพ์ “ พิมพ์ พิมพ์” แบงค์รีบวิ่งมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นเพื่อนของเขาหมดสตินอนนิ่งอยู่ “ แบงค์ แบงค์ ช่วยพิมพ์ด้วยลูก แม่ดาวที่น้ำตาไหลออกมาไม่หยุดได้กล่
แสงอรุณยามเช้า ใจเต้นระรัว ห้องพักพิเศษผู้ป่วยโรคหัวใจ พิมพ์ที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้รู้สึกตื่นขึ้นมาเมื่อเธอได้ยินเสียงคนคุยกันทำให้เธอถึงกลับตกใจเมื่อเห็นหมอชานนท์พร้อมกับนักศึกษาแพทย์และพยาบาลยืนอยู่รอบเตียงเธอ หมอชานนท์กำลังอธิบายบางอย่างกับนักศึกษาแพทย์ฟังเกี่ยวกับอาการของพิมพ์ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่แววตาเขามองมาที่พิมพ์อยู่ตลอดเวลา ทำให้พิมพ์รู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก หมอแมน หนึ่งในหมอรักษาโรคหัวใจ กล่าวทักทายพิมพ์ด้วยความเป็นกันเอง “ สวัสดีครับคุณพิมประภา ผมชื่อหมอแมนครับหมอรักษาโรคหัวใจเด็กครับ’’ “ พิมพ์พยักหน้ารับอย่างเขินอายสวัสดีค่ะ’’ ทันใดนั้น หมอลิซ่าหมอรักษาโรคหัวใจเด็กเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วยเธอแต่งตัวสวยสง่าราวกับนางแบบ นักศึกษาแพทย์กล่าวสวัสดีหมอลิซ่า เธอไม่มองนักศึกษาแพทย์เลยสักนิดเธอมองแต่คู่หมั้นของเธอนั้นคือหมอชานนท์ พิพัฒน์กุลนั้นเอง หมอแมนหันไปมองพิมพ์อีกครั้ง แล้วพูดขึ้นมาว่า “ คนไข้รู้ไหมครับว่าคนไข้ทำให้ผมใจสั่นเลยนะครับเนี่ย” คำพูดของหมอแมนทำให้หมอชานนท์ขมวคคิ้วเล็กน้อยและส่งสายตาดุไปให้ หมอลิซ่าได้ยินถึงกับเบะปากมองบน สวยตรงไหนเธอ
ชีวิตหลังกลับจากโรงพยาบาล พิมพ์กลับมาบ้านด้วยความรู้สึกโล่งใจที่ได้กลับมาพักผ่อนในบ้านของตัวเอง เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพักผ่อนและอ่านหนังสือที่หน้าต่างห้องนอน โดยแอบมองไปยังบ้านของหมอชานนท์เป็นระยะๆเธอสังเกตเห็นหมอชานนท์ออกมาเดินเล่นในสวนต้นไม้ข้างบ้านกับสุนัขของเขา “เป็นคนรักหมาหรอเนี่ยน่ารักจัง” พิมพ์นั่งยิ้มให้กลับความน่ารักของหมอชานนท์ที่กำลังเล่นกับสุนัขของเขาอยู่ “พิมพ์ลูกลงมากินข้าวได้แล้วลูก” เสียงแม่ดาวเรียกพิมพ์ให้ลงไปกินข้าวเย็น “ไปแล้วจ๊ะแม่” พิมพ์หันไปมองหมอชานนท์อีกสักแป๊บก่อนจะหันไปเปิดประตูห้อง “ว้าวหอมมาแต่ไกลเลยแม่” พิมพ์ลงบันไดยังไม่ทันถึงห้องครัวเธอก็ตะโกนบอกแม่เธอ ด้วยกลิ่นอาหารที่หอมทั้งบ้าน แม่ดาวออกมาจากห้องครัวถือจานกับข้าว ที่มีกลิ่นหอมมากมาที่พิมพ์ “เอานี่ ปูผัดผงกะหรี่ ไปให้บ้านหมอก่อน” แม่ดาวยื่นให้พิมพ์ “บ้านหมอหรอแม่” “ก็ใช่นะสิเอาไปให้คุณหมอก่อนไปเดี๋ยวหายร้อนพอดี” “จ๊ะแม่” พิมพ์ดีใจมากบวกกับตื่นเต้นเป็นอย่างมาก พิมพ์เดินถือจานกับข้าวมาที่หน้าบ้านหมอชานนท์เธอยืนสักพักไม่กล้ากดกริ่ง “มืออย่าสั่นได้ไหมพิมพ์” มือของพิม
ร้านหนังสือเล่มโปรด แสงแดดอ่อนๆส่องผ่านหมอกบางๆในยามเช้า เสียงทำกับข้าวในครัวดังหยุดลงแม่ดาวเดินออกมาจัดกับข้าวบางอย่างใส่ถุงและตักข้าวสวยหอมมะลิใส่ขันพร้อมที่จะไปนั่งรอใส่บาตรในตอนเช้า แม่ดาวจัดของเสร็จเรียบร้อยเดินไปหยิบดอกกล้วยไม้และออกมานั่งรอที่โต๊ะหน้าร้านหนังสือเล่มโปรด เสียงประตูรั้วหน้าบ้านตรงข้ามเปิดออกมีรถสปอร์ตBMWสีดำขับออกมาจอดที่หน้าบ้านของเค้าก่อนที่คนในรถจะเปิดประตูออกมาและเดินมายังหน้าร้านหนังสือเล่มโปรดในมือของเค้าถือจานและกล่องผลไม้องุ่นไซมัสคัสเดินเข้าไปหาแม่ดาว “สวัสดีครับคุณป้า” ชานนท์ยกมือไหว้ คนที่ตรงหน้าของเค้าก่อนจะยื่นจานและกล่องผลไม้ให้แม่ดาว “สวัสดีจ๊ะคุณหมอออกมาแต่เช้าเลย” แม่ดาวยืนขึ้นก่อนจะรับจานและส่งยิ้มให้กับหมอชานนท์ “นี่องุ่นครับคุณป้า ขอบคุณสำหรับอาหารครับ” ชานนท์ส่งกล่องผลไม้ให้แม่ดาวอีกครั้ง “ไม่เป็นไรจ๊ะคุณหมอ”แม่ดาวปฏิเสธที่จะรับกล่องผมไม้เธอรู้สึกเกรงใจ “รับไว้เถอะนะครับคุณป้า” ชานนท์ส่งยิ้มให้แม่ดาวและส่งกล่องผลไม้อีกครั้ง “ ขอบใจนะจ๊ะคุณหมอ ”แม่ดาวยิ้มให้ก่อนจะรับกล่องผลไม้และวางไว้ข้างโต๊ะ “นั้นผมไปก่อนนะครับสวัสดีคร
บรรยากาศฝนตกท้องฟ้ามืดมิดกลางวันแสกๆเหมือนกลางคืน เนื่องจากเมฆฝนหนาทึบจู่ๆ ฝนพรำละอองบางๆตกลงมาไม่ขาดสาย พิมพ์และแบงค์ที่ยังอยู่ในร้านคาเฟ่เล็กๆในหมู่บ้านถึงกับทำหน้างงจู่ๆฝนก็ตกลงมาทั้งที่เมื่อเช้าอากาศยังดีอยู่เลย“จะกลับบ้านกันยังไงดีล่ะที่นี้” พิมพ์พูดแล้วตักเค้กมะพร้าวอ่อนเข้าปากก่อนจะหันไปมองแบงค์และต้องหัวเราะออกมา“หัวเราะอะไรของเธอ”แบงค์ถามด้วยความสงสัยอยู่ดีๆก็หัวเราะออกมาจนเห็นลิ้นไก่แล้ว“นายอายุเท่าไรแล้วกินเป็นเด็กไปได้” พิมพ์ถามแบงค์ก่อนจะชี้นิ้วไปที่แก้มข้างขวาของแบงค์และหยิบกระดาษเช็ดชูเช็ดเศษเค้กให้แบงค์“อย่าว่าแต่ฉันเลยเธอก็มีพิมพ์สองข้างเลยด้วยยิ่งกว่าเด็กอีกเธออ่ะ”แบงค์พูดเสร็จก็ชี้นิ้วไปที่แก้มของพิมพ์ทั้งสองข้างทั้งคู่มองหน้ากันและก็หัวเราะกันอย่างมีความสุข“รอตรงนี้ก่อนนะฉันไปซื้อร่มก่อน” แบงค์บอกพิมพ์ที่ยืนหลบฝนอยู่หน้าร้านเคเฟ่“ไม่ต้องหรอกกลับบ้านเถอะแป๊บเดี๋ยวเอง”พิมพ์บอกแบงค์ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถจักรยานยนต์เวสป้า แบงค์จึงถอดเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตออกเหลือไว้แต่เสื้อยืดสีขาวแขนสั้นและยื่นเสื้อเชิ้ตให้พิมพ์ “เอาไปคลุมหัวไว้” แบงค์ยื่นเสื้อให้พิ
คนไข้กับหมอประจำตัว หยดน้ำค้างบนดอกกุหลาบสีแดงส่องประกายในแสงแดดยามเช้า พิมพ์ลุกจากที่นอนแล้วเดินไปเข้าห้องอาบน้ำแต่งตัววันนี้มีนัดกับหมอชานนท์ที่โรงพยาบาลเธอใส่ชุดเดรสลายดดอกไม้พลิ้วไหวในสายลมทำให้เธอดูเหมือนนางฟ้าในสวนดอกไม้ปล่อยผมยาวถึงกลางหลังแต่งหน้าบางๆอ่อนๆพิมพ์แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วลงมาชั้นล่าง “แม่หนูไปก่อนนะ” พิมพ์บอกกลับแม่ดาวที่ยังทำขนมอยู่ในครัว แม่ดาวได้ยินเสียงพิมพ์จึงเดินออกมาดู ก่อนที่จะต้องยิ้มให้กับความน่ารักของพิมพ์ “วันนี้แต่งตัวสวยจังเลย” แม่ดาวพูดไปยิ้มไปก่อนจะเดินไปหยิบกล่องแซนด์วิชมาให้พิมพ์ให้กินก่อนไปหาหมอตามนัด “หนูก็สวยทุกวันอยู่แล้วนี่ค่ะ” พิมพ์ยิ้มเขิน ก่อนจะหันไปมองกระจกบานใหญ่ที่อยู่ข้างประตู “สวยแบบไหนยังไม่มีแฟนสักที” แม่ดาวพูดแล้วสายหัวไปมาแล้วเดินเข้าห้องครัวไปทำขนมต่อ พิมพ์ได้แต่ยืนอึ้งกับคำพูดของแม่ ก่อนจะหันไปหยิบกล่องแซนด์วิชขึ้นมาแล้วเดินออกไปหน้าบ้านเพื่อนั่งรอรถมารับจู่ๆก็มีรถเก๋งสีขาวขับเข้ามาจอดหน้าบ้านเธอ พิมพ์เห็นจึงลุกเดินไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ “แบงค์ทำไมหน้าแดงจัง” พิมพ์ถามแบงค์ด้วยความสงสัยก่อนจะจับแก้มแบงค์ “ตัวร้
หกโมงเช้า พิมพ์ไปออกกำลังกายตอนเช้าที่สวนสาธารณะ แบงค์ที่เข้าเวรตอนเย็นรู้ว่าวันนี้พิมพ์ต้องไปออกกำลังกาย เขาจึงไปหาพิมพ์ที่สวนสาธารณะ"พิมพ์!" แบงค์ตะโกนเรียก"อ้าวแบงค์" พิมพ์ทักทาย"พิมพ์ เมื่อคืนฉันขอโทษนะ" แบงค์กล่าวด้วยความรู้สึกผิด"ไม่เป็นไรแบงค์ ฉันแค่รู้สึกไม่สบายนิดหน่อย" พิมพ์ตอบ"พิมพ์ ฉันขอโทษแทนไอ้ดำด้วยนะ" "ฉันบอกแล้วว่าไม่เป็นไร" พิมพ์ยืนยัน"ฉันรู้สึกผิดจริงๆ นะพิมพ์" แบงค์ยังคงรู้สึกผิด"ได้ๆ พรุ่งนี้พาฉันไปเที่ยวทะเลได้ไหม" พิมพ์ยื่นข้อเสนอ"ได้สิๆ" แบงค์ยิ้มดีใจพิมพ์กับแบงค์เดินออกกำลังกายด้วยกัน พวกเขาหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานในขณะนั้น ชานนท์จูงชาไทยมาออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ เขาเห็นพิมพ์กับแบงค์อยู่ด้วยกัน"สวัสดีค่ะคุณหมอ" พิมพ์ทักทายชาไทยเห็นพิมพ์ก็วิ่งเข้าไปหาอย่างดีใจ"สวัสดีครับอาจารย์" แบงค์กล่าวทักทายชานนท์พยักหน้าพิมพ์ก้มลงเล่นกับชาไทยอย่างเอ็นดูทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ของหมอชานนท์ก็ดังขึ้น"ฮัลโหลครับ" ชานนท์รับสาย"อาจารย์นนท์ค่ะ มีคนไข้ต้องผ่าตัดด่วนค่ะ" พยาบาลแจ้ง"ครับ ส่งข้อมูลคนไข้ให้ผมด้วย" ชานนท์สั่ง"ค่ะอาจารย์" พยาบาลร
รถยนต์สีดำสนิทเคลื่อนตัวผ่านความมืดมิดของถนนยามค่ำคืน ไฟหน้ารถส่องสว่างนำทางไปข้างหน้าอย่างเงียบเชียบ ภายในรถบรรยากาศอึดอัดและเย็นชา พิมพ์นั่งตัวตรงแข็งทื่ออยู่ข้างคนขับ เธอไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองหน้าหมอชานนท์ ความเงียบทำให้เธอได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองชัดเจน"คุณหมอคะ..." ในที่สุดพิมพ์ก็เอ่ยทำลายความเงียบ เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยหมอชานนท์เหลือบมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ครับ""คือว่า..." พิมพ์เริ่มต้นประโยคด้วยความยากลำบาก เธอไม่รู้จะเรียบเรียงคำพูดยังไงให้มันไม่ดูเหมือนเป็นการแก้ตัว "เรื่องที่พี่ดำพูด...""ผมไม่ได้สนใจครับ" หมอชานนท์พูดแทรกขึ้นมา น้ำเสียงของเขาเย็นชาพิมพ์หน้าเสียลงเล็กน้อย เธอรู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดของเขา "อ่อค่ะ""คนเป็นโรคหัวใจควรพักผ่อนให้เพียงพอนะครับ" หมอชานนท์พูดต่อ"ค่ะคุณหมอ" พิมพ์ตอบรับหมอชานนท์ขับรถมาจอดหน้าบ้านของพิมพ์ "ถึงบ้านแล้วครับ""ขอบคุณนะคะ" พิมพ์พูดเสียงแผ่วเบาหมอชานนท์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะขับรถออกไป กลับไปยังงานวันเกิดของหมอแมนพิมพ์มองรถหมอชานนท์ขับออกไป เธอพึมพำกับตัวเอง "เขาไม่เข้าบ้านเหรอ... เขาคงกลับไปงาน"@บ้านแมน-
มันเหมือนงานแต่งเลยรุ่งเช้าอันสดใสรุ่งเช้าด้วยอากาศแจ่มใส ลมหนาวพัดมาเบาๆ เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว อากาศวันนี้กำลังดี ไม่หนาวมากจนเกินไป พิมพ์ตื่นสายเล็กน้อยเพราะอากาศเย็นสบาย แต่ก็ไม่ลืมที่จะลุกขึ้นมาเปิดผ้าม่าน รับแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาในห้องสายตาของพิมพ์มองไปยังบ้านของหมอชานนท์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ "เวลาผ่านไปเร็วจัง นี่ก็ผ่านมาสี่เดือนแล้วที่พี่หมอย้ายมาอยู่ที่นี่"พิมพ์เดินเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เธอเลือกใส่กางเกงวอร์มขายาวสบายๆ เหมาะกับอากาศเย็นๆหลังจากแต่งตัวเสร็จ พิมพ์ก็ออกมาเปิดร้านหนังสือ แม่ดาวกลับมาจากตลาดพอดี พร้อมกับข้าวของพะรุงพะรัง"โฮ้ ซื้อของอะไรมาเยอะแยะเลยแม่" พิมพ์ทัก"พรุ่งนี้มีออเดอร์เค้กเยอะน่ะลูก" "อ่อ" พิมพ์พยักหน้า"แม่ทำเผื่อชาไทยด้วยนะแม่" "ต้องทำอยู่แล้ว" แม่ดาวตอบพิมพ์ จัดหนังสือ นิยายเรื่องใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามาวางบนชั้น จากนั้นก็เดินไปตัดดอกกุหลาบสีชมพูที่เธอปลูกเองมาใส่แจกันในร้านหนังสือ ขณะที่พิมพ์กำลังจัดดอกไม้ เธอก็เหลือบไปเห็นรถตู้หรูสีขาวขับเข้ามาจอดหน้าบ้านของหมอชานนท์ ประตูรั้วเปิดออกรถตู้ขับเข้าไปในบ้านหม
บรรยากาศยามเช้าแสงแดดอ่อนๆ สาดส่องทั่วบริเวณบ้าน พิมพ์ยืนอยู่หน้าบ้านพร้อมกับแม่ดาว รอใส่บาตรพระด้วยใบหน้าที่ดูไม่สดใสเท่าไรนัก เธอนึกถึงชาไทยตลอดทั้งคืน ไม่สามารถหลับได้เพราะกังวลชาไทยจะดีขึ้นหรือยัง“แม่ เฝ้าร้านให้หนูก่อนนะ หนูขอไปดูชาไทยหน่อย” พิมพ์พูดด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย“ลูกเอาเค้กที่ทำไว้ไปให้ชาไทยด้วยพิมพ์” แม่ดาวตอบรับพลางส่งเค้กที่อบใหม่ให้พิมพ์พิมพ์รับเค้กมาแล้วรีบเดินไปที่บ้านของหมอชานนท์ ทันทีที่พิมพ์ออกมาหน้าบ้านก็เห็นรถตู้ของโรงพยาบาลสัตว์จอดอยู่หน้าบ้านหมอชานนท์ทำให้ใจของเธอเต้นรัวขึ้นมาทันที“หรือว่าชาไทยจะยังไม่ดีขึ้น” พิมพ์พึมพำกับตัวเองบรรยากาศที่บ้านหมอชานนท์ พิมพ์กดกริ่งที่ประตูรั้ว สองทีประตูก็เปิดเองโดยอัตโนมัติ พิมพ์เดินเข้าบ้านหมอชานนท์ ด้วยความกังวน ในมือถือเค้ก ช็อกโกแลตที่เจ้าชาไทยชอบกิน พิมพ์ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน ไม่กล้าเปิดเข้าไปจนมีคนเดินมาเปิดประตูเป็นหมอรักษาสัตว์พร้อมผู้ช่วยเดินออกมา ก่อนจะยิ้มให้พิมพ์ แล้วเดินออกไปพิมพ์ ค่อยๆเดินเข้าไปในบ้านของหมอชานนท์ เห็นหมอชานนท์นั่งอยู่ที่โซฟา เล่นกับเจ้าชาไทยอยู่ พิมพ์ โล่งใจที่เห็นชาไทยวิ่งเ
ณ คลินิกรักษาสัตว์พิมพ์และแม่ดาวนั่งรออยู่หน้าห้องตรวจ ด้วยความใจจดใจจ่อ มือไม้เย็นเฉียบ ความรู้สึกผิดที่ทำให้เจ้าชาไทยต้องมาเจ็บป่วยทำให้เธอรู้สึกแย่มาก“แม่ชาไทยจะเป็นอะไรไหม” พิมพ์กังวลใจมาก“ถึงมือหมอแล้วลูกใจเย็นๆนะลูก”แม่ดาวจับมือพิมพ์พิมพ์กับแม่ดาวรออยู่สักพักก็มีหมอเปิดประตูออกมา“น้องชาไทยครับ”หมอเรียกเจ้าของสุนัข“ค่ะฉันค่ะ” พิมพ์รีบลุกเดินไปหาหมอ“น้องชาไทย แพ้อาหารขั้นรุนแรงครับ” คุณหมอกล่าว“แพ้อาหารหรอคะ”พิมพ์อุทานด้วยความตกใจ“ครับ ตอนนี้น้องมีถ่ายเหลวด้วยครับ ต้องนอนให้น้ำเกลือก่อน ตอนนี้กำลังเจาะเลือดไปตรวจว่าแพ้อะไรครับ” หมอบอกกับพิมพ์ก่อนจะได้กลับเข้าห้องตรวจ ”โทรหาหมอชานนท์ไหมลูก” แม่ดาวพูดแล้วพาพิมพ์กับมานั่งที่เก้าอี้หน้าห้องตรวจ“ไม่ได้นะแม่ พี่หมอเข้าเวรอยู่ ”พิมพ์หันไปพูดกับแม่ดาวก่อนที่จะร้องไห้ออกมา สักพักก็มีพยาบาลเปิดประตู เดินมาทางพิมพ์ “เดี๋ยวน้องให้น้ำเกลือที่นี่ก่อนนะค่ะพวกคุณค่อยมาพรุ่งนี้ฟังผลค่ะตอนนี้ อาการน้องน่าเป็นห่วงค่ะ”“ค่ะพยาบาลขอบคุณค่ะ” น้ำเสียงของแม่ดาวสั่นๆเธอเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ต้องทำตัวให้เข้มแข็งต่อห
ณ ร้านหนังสือเล่มโปรด ในช่วงเวลาเที่ยงวันแสงแดดส่องสว่างเข้ามาภายในร้านพิมพ์อยู่ในร้านกำลังนั่งเขียนนิยายของเธออยู่ หลังจากที่แขกหมอชานนท์กลับไป เธอกำลังจะอุ้มเจ้าชาไทยไปส่งคือหมอชานนท์ พอพิมพ์เปิดประตูร้าน ก็เห็นรถเก๋งBM ขับออกไปแล้วพิมพ์ที่ยืนงงอยู่หน้าร้านกับเจ้าชาไทย “ชาไทยเจ้านายแกไปแล้ว” พิมพ์ที่ยืนมองตามรถหมอชานนท์ขับออกจากหมู่บ้านไป“อยู่กับฉันก่อนนะ” พิมพ์เปิดประตูเข้าไปในร้านวางเจ้าชาไทยลงเดิน “พี่แน่ใจนะ ว่ามันไม่กัด” ลูกค้าที่อยู่ในร้านหนังสือ กล่าว“ไม่กัดนะคะ น้องแค่หน้าโหดน่ะ” พิมพ์บอกกับลูกค้า เธอยิ้มบางๆ “แต่มันมองมาทางพวกหนู เหมือนมันจะกินพวกหนูเลยค่ะ” ลูกค้าทำสีหน้ากังวล“ไม่ต้องกลัวนะคะ เดี๋ยวพี่อุ้มไปที่เคาน์เตอร์แล้ว”พิมพ์อุ้มเจ้าชายไทยไปที่เคาน์เตอร์ก่อนจะหาอะไรปิดช่องทางออกไม่ให้มันออกไปข้างนอกรบกวนลูกค้าเพราะลูกค้าในร้านกลัวกันแทบทุกคน“นี่ชาไทยอยู่เฉยๆ นะเดี๋ยวฉันจะเอาเค้กมาให้กิน” พิมพ์เดินไปหยิบเค้กในตู้เย็นก่อนจะกลับมานั่งเล่นกับเจ้าชาไทย @ โรงพยาบาลเรารักหัวใจ พิพัฒน์กุลหมอชานนท์ เดินเข้า ไปในตึกผ่าตัดโรคหัวใจและหลอดเลือด “สวัสดีค่ะอาจ
ผมก็ไม่ได้ถือนะครับรุ้งเช้าอากาศแจ่มใส เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นพิมพ์ลุกจากที่นอนบิดขี้เกียจไปมาก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำแต่งตัวด้วยชุดออกกำลังกายสีดำเสื้อแขนยาวกางเกงขาสั้น พิมพ์เดินไปใส่นาฬิกาสมาร์ตวอทที่ข้อมือแล้วเดินออกจากบ้านมุ้งหน้าไปสวนสาธารณะในหมู่บ้าน พิมพ์เดินออกกำลังกายรอบบ่อน้ำพุในหมู่บ้านจนเธอต้องหยุดพัก การเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะต้องมีนาฬิกาข้อมือคอยบอกอัตราการเต้นของหัวใจของพิมพ์เวลาที่พิมพ์ออกกำลังกาย พิมพ์มองนาฬิกาข้อมือก่อนจะเดินไปนั่งที่ม้านั่งข้างต้นไม้ใหญ่ที่มีดอกไม้หลากหลายชนิดรายล้อม ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆลอยมาตามสายลม“ฉันพึ่งเดินสองรอบเองทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้นะ”พิมพ์พูดเบาๆก่อนจะหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่มและหยิบกระปุกยาดมสีเขียวขึ้นมาดมก่อนจะเงยหน้ามองบนฟ้าและหลับตา เพื่อผ่อนคลายความเหนื่อย“หายใจเข้าหายใจออกยาวๆครับ” ชานนท์บอกกับพิมพ์พิมพ์ตกใจจนสะดุ้งเธอลืมตาขึ้นมาก็เห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือหมอชานนท์“คุณหมอชานนท์” พิมพ์พูดออกมา“ครับ นั่งตัวตรง หายใจเข้าออกช้าๆครับจะทำให้หัวใจกลับมาเต้นปกติ” ชานนท์พูดแล้วเดินมานั่งข้างๆพิมพ์พิมพ์ทำตามที่หมอชานนท์บอกไปสักพักอัตราก
เค้กมะพร้าวอ่อนหัวใจดวงอาทิตย์ลอยขึ้นช้าๆ จากขอบฟ้าสาดแสงสีทองไปทั่ว หมดฤดูฝนแล้วเข้าฤดูหนาว พิมพ์กับแม่ดาวลุกแต่เช้าเพื่อทำกับข้าวใส่บาตร สองคนแม่ลูกเดินออกมาหน้าบ้านรอพระมาบิณฑบาตตอนหกโมงเช้า“แผลที่หัวเข่าหายดีแล้วหรือยังลูก” แม่ดาวถามพิมพ์“หายดีแล้วจ๊ะแม่ เหลือแต่แผลเป็นนิดหน่อย” พิมพ์ตอบแม่“เออแม่หนูลืมเลยวันนี้มีออเดอร์เค้กวันเกิดห้าก้อนนะ” พิมพ์นึกขึ้นได้“แล้วพิมพ์อยากกินเค้กมะพร้าวอ่อนไหมลูก” แม่ดาวถามพิมพ์“หนูขอทำเค้กมะพร้าวอ่อนเองได้ไหมแม่” พิมพ์ถาม เธออยากทำเค้กไปฝากหมอชานนท์ด้วยตัวเอง“ได้สิลูก”แม่ดาวยิ้มให้พิมพ์หมอชานนท์ขับรถออกมาจากบ้านเห็นสองแม่ลูกกำลังใส่บาตรอยู่เขาขับรถเก๋งสีขาวช้าๆ ผ่านสองคนแม่ลูก พิมพ์ที่เห็นรถหมอชานนท์เธอยิ้มแล้วยกมือขึ้นบ๊ายบายให้หมอชานนท์ “เธอกำลังยิ้มให้ฉันหรอ” ชานนท์พูดเบาๆในรถแล้วหันกลับไปโฟกัสทางข้างหน้า “ทำอะไรของลูกนะพิมพ์” แม่ดาวสังเกตเห็นพิมพ์ที่ยืนยิ้มอย่างนั้นไม่เข้าบ้าน“เปล่าจ๊ะแม่ ไปแล้วจ๊ะ” พิมพ์วิ่งเข้าบ้านวันนี้พิมพ์เปิดร้านหนังสือสายเพราะช่วยแม่ทำเค้กวันเกิดให้ลูกค้า พิมพ์ถือเค้กมะพร้าวอ่อนสีขาวขนาดสองปอนด์ต
จูบแรกของฉันแสงแดดยามเช้าสาดส่อง ฝนหยุดตกแล้วหมอชานนท์ลุกจากที่นอนเปิดประตูลงมาเดินไปเข้าห้องครัวทำกับข้าว พิมพ์ที่นอนอยู่ในห้องรับแขกกับเจ้าชาไทย สุนัขหมอชานนท์ยังคงไม่ตื่น จนหมอชานนท์ทำกับข้าวเสร็จแล้วเขาเดินไปหยิบโทรศัพท์โทรหาการไฟฟ้าให้มาที่บ้านของพิมพ์ เขาเดินไปนั่งที่โซฟาวางแก้วกาแฟลงก่อนจะหันมองไปทางห้องรับแขกที่พิมพ์นอนอยู่ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงกริ่งดังที่หน้าบ้าน เขาจึงเดินไปกดเปิดประตูอัตโนมัติและมีรถเก๋งสีขาวขับเข้ามาจอด หมอแมนและลูกหมาของเขาเจ้ายูยู ลงมาจากรถ หมอแมนถือเอกสารบางอย่างในมือ“มอนิ่ง” แมนทักทายชานนท์“อืม” ชานนท์ตอบรับ“ดีจังวันนี้ได้หยุดกันทั้งสองคนเลย” แมนพูดก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาชานนท์หันมองไปทางห้องรับแขก ด้วยสีหน้ากังวล เขากลัวว่าพิมพ์จะเปิดประตูออกมา“ชาไทยไปไหน” แมนถาม ก่อนจะเรียกหาชาไทย“ ไม่ต้องเรียก มันเข้าไปในห้องฉันจะไปเอามันออกมาให้”ชานนท์รีบเดินไปที่ห้องรับแขก เขาเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าพิมพ์ยืนอยู่ตรงหน้าประตูแล้ว“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณ…..”พิมพ์โดนปิดปากทั้งที่เธอยังพูดไม่จบชานนท์รีบดันตัวพิมพ์เข้าไปข้างในก่อนที่พิมพ์กับชานนท์จะสะดุดข