แชร์

บทที่ 5

ผู้แต่ง: มณีมายา/แอล/รมตี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-04 13:58:27

“ลงมา” คเชนทร์บอกเสียงเรียบ พลางมองไปรอบๆ ตัวว่ามีใครอยู่แถวนี้หรือเปล่า

“ผมบอกให้ลงมา!” เขาตะคอกเมื่อเห็นเธอเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมลงจากรถ กระทั่งเขาเอื้อมมือไปกระชากเธอลงมาเสียเอง

“มาจากงานแต่งงานที่ไหนเนี่ย” เขาถามเพราะคิดว่าน่าจะมาจากงานเดียวกับเขาหรือเปล่า ทว่าเธอเอาแต่ร้องไห้ ไม่กล้าเงยหน้ามองเขา 

“นี่คุณ จะเอาแต่ร้องไห้ไม่ได้นะ คุยกันให้รู้เรื่อง” พอเขาเอ่ยเช่นนี้เธอก็หันซ้ายหันขวา เหมือนไม่กล้าพูด เขาจึงดึงเข้าบ้านเสียเลย แต่พอเปิดไฟในบ้านเห็นหน้ากันชัดๆ สวยชะมัดเลย นี่นางฟ้าตกสวรรค์หรือวะเนี่ย คเชนทร์คิด

“นั่งซิ แล้วบอกมาให้หมด ขึ้นรถผมมาได้ยังไงเนี่ย” 

“คุณเป็นใคร” หญิงสาวถามกลับพร้อมกับสะอื้น 

“อ้าว! แล้วคุณล่ะเป็นใคร ขึ้นมาบนรถผมทำไมเนี่ย ผมก็กลับบ้านสิ”

“ขอโทษค่ะ ฉัน... ฉันเสียสติมาก หมดหนทาง ฉันไม่รู้จะหนีไปทางไหน ฉันกลัวคนเห็น” เธออธิบายไปพลางก็ร้องไห้ไปพลาง

“ตั้งสติแล้วค่อยๆ พูด ผมฟังไม่รู้เรื่อง เอาแต่ร้องไห้” 

“ฮือๆๆๆ” ยิ่งพูดเธอก็ยิ่งร้องไห้ เขาอยากจะบ้า นี่เขาหาเหาใส่หัวหรือเนี่ย 

“โอ๊ย! ไม่เอาน่าคุณ ตั้งสติก่อนสิ” เขาทำท่าหงุดหงิดและแทบจะเอามือกุมขมับเลยทีเดียว 

“ขอโทษที” เธอเอ่ย และเมื่อสิ้นคำก็เอาแต่ร้องไห้อีกเขาจึงถามต่อ

“คุณกำลังจะแต่งงานใช่ไหม อย่าบอกนะว่าหนีงานแต่งงานมา งานที่เหมราชมนตราน่ะ” สิ้นคำเธอก็พยักหน้าร้องไห้อีก

“โอ๊ย! จะบ้าตาย คุณกลับไปเดี๋ยวนี้เลยนะ คิดว่ามันเป็นงานเล่นๆ หรือ อยู่ๆ ก็หนีมาเนี่ย”

“ไม่! ฉันไม่กลับ ฉันจะไม่กลับไปเป็นอันขาด ให้ตายยังไงฉันก็ไม่ไปอย่าเพิ่งบังคับฉันเลยนะ ให้ฉันอยู่ก่อน ขอตั้งหลักก่อน” 

“คุณรู้ได้ยังไง ว่าคนที่คุณกำลังขอความช่วยเหลืออยู่ ไม่น่ากลัว” เขาเอ่ยเสียงเรียบ เท่านั้นแหละเธอได้สติ แล้วเงยหน้ามองเขาทันที เอ่อ หน้าตาของเขาก็น่ากลัวแหละมั้ง เหมือนคนดุชักสีหน้าเคร่งอย่างกับจะฆ่าเธอ ทว่าหล่อแบบไทยๆ หล่อจริงๆ ด้วย 

“ถ้าคุณน่ากลัว คุณจะเป็นห่วงฉันทำไม ที่ฉันหนีมาน่ะ” 

“โอ๊ย! คุณ ใครเขาห่วงคุณ จะทำให้ผมเดือดร้อนน่ะสิไม่ว่า เดี๋ยวเจ้าบ่าวคุณก็จะตามหา ไม่กลับใช่ไหม เดี๋ยวผมให้คนไปส่งก็ได้” ว่าแล้วเขาก็กระชากแขนเธอแรงๆ ให้ลุก 

  “ไม่! ไม่! ไม่! ได้โปรด ขอร้องล่ะ ฉันอยากหายไปจากโลกนี้เลย ไม่อยากกลับไปแล้ว อย่าเพิ่งให้ฉันต้องไปเผชิญอะไรตอนนี้เลย” เธอร้องไห้และห้ามปรามตัวสั่น ฟังดูเหมือนชีวิตเธอพังทลายลง เขาคิด 

“คุณทำแบบนี้ผมก็เดือดร้อน ไหนจะเจ้าบ่าว”

“ฉันจะไม่ให้คุณเดือดร้อนฉันสัญญา ขอแค่ ให้ฉันได้ตั้งสติ อย่าให้ทั้งโลกรู้เลยว่าฉันอยู่ที่นี่ไหน” 

“เฮ้อ มันเจ็บปวดขนาดนั้นเลยเหรอคุณ” เจอคำถามของเขาก็ทำให้เธอร้องไห้ออกมาไม่หยุด สุดท้ายแล้วเขาก็ได้แต่นั่งถอนหายใจ ปล่อยให้เธอร้องไห้เสียให้พอ และคิดว่าคงจะไม่ได้ไปกินข้าวกับพ่อเจ้าประคุณแล้วล่ะ จึงได้รีบโทรศัพท์ไปบอก

กริ้ง! กริ้ง! กริ้ง! 

“อืม” เสียงปลายสายเพียงแต่อืมในลำคอเท่านั้น

“เอ่อ พ่อ... เลี้ยง... ครับ ผม เพลียมากเลย ไม่มีแรงลุก เพิ่งมาถึงบ้านน่ะ” 

“แล้วไงครับ” 

“อาจจะไม่ได้ไปกินข้าวด้วย” 

“ถ้าไม่มา บอกไว้ก่อน พ่อไม่โกรธ แต่น้องวีน่ะ...”

“เอ่อ ไปก็ได้ครับ แต่อยู่ไม่นานนะ ได้หรือเปล่า” พอเอ่ยชื่ออีกคนเท่านั้นแหละคเชนทร์ก็ต้องยอมเลยเชียว

“ให้ไวเลยนะ” สิ้นคำของปลายสาย คเชนทร์ก็วางสายทันที 

“เอาเป็นว่า คุณพักใจให้เย็นลง แล้วเตรียมความจริงเอาไว้บอกผมด้วยก็แล้วกัน อีกหนึ่งชั่วโมงผมกลับมา ไม่ต้องออกไปไหน ล้างหน้าล้างตาซะ ตาแดงบวมหมดแล้ว หน้าเละดูไม่ได้เลย ห้องน้ำก็เดินหาเองก็แล้วกัน” คเชนทร์บอกเสียงเรียบก่อนจะถอนหายใจทิ้งหนักๆ เหมือนกำลังแบกอะไรเอาไว้ก็ไม่รู้

“ขอบคุณนะคะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“ผมขอตัว มีธุระอยู่ที่บ้านอีกหลัง เดี๋ยวมาครับ อย่าออกมาให้ใครเห็นล่ะ” จากนั้นเขาก็รีบออกไปจากบ้านทันที พร้อมกับปิดประตูเอาไว้ให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินดุ่มๆ ตรงไปยังบ้านของพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ พ่อคุณทูนหัวที่เขารักประหนึ่งพ่อผู้มอบชีวิตใหม่ให้

และทันทีที่ไปถึงคเชนทร์ก็ถอดเสื้อสูทออก แล้ววางพาดเอาไว้ที่โซฟารับแขกเสียก่อน จากนั้นจึงเดินตรงไปยังห้องอาหาร ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว เพราะวันนี้เป็นการเลี้ยงอาหารฉลองเมียรักของพ่อเลี้ยงเรียนจบปริญญานั่นเอง 

“ขอโทษที่มาช้าครับ” คเชนทร์บอกเสียงเพลียๆ พยายามอย่างที่สุดจะที่เก็บความพิรุธไม่ให้พ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ได้เห็น

“ถ้าไม่โทรจี้ก็คงจะไม่มาแล้วใช่ไหมเนี่ย” พ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่เอ่ยถามเสียงเรียบ พลางมองหน้าคเชนทร์

“คือวันนี้งานเยอะแล้วก็วุ่นๆ น่ะครับพ่อ” 

“งั้นก็กินเลยค่ะ จะได้หายเหนื่อย” มนัสวีแทรกขึ้นพร้อมกับยิ้มหวาน

“ครับ แล้วสองแฝดล่ะ” 

“พี่เกตุพาเข้านอนแล้วค่ะ” มนัสวีตอบ

“บอกว่าจะรอพ่อเชนทร์ พ่อเชนทร์บอกจะเอาเครื่องบินมาฝาก แกไปรับปากสองแฝดตอนไหน ตะล่อมยังไงก็ไม่ยอมเข้านอน จนพี่เกตุต้องโกหกไปก่อน” 

“เอ่อ ก่อนออกจากมหาลัย ผมลืมน่ะมัวทำแต่งาน” 

“รับปากแล้วทำให้ได้ล่ะ อย่าโกหกเขา”

“ครับ ไม่มีลูกแต่เหมือนมีเลยนะครับเนี่ย” 

“เอ่อ ฝึกเอาไว้เผื่อมีของตัวเอง กินได้แล้ว เสร็จแล้วจะได้ไปพัก” พ่อเลี้ยงหนุ่มบอก พลางสังเกตสีหน้าของคเชนทร์ ซึ่งส่อพิรุธเสียจริง สายตาดู วอกแวกเก็บอาการไม่อยู่ เหมือนทำอะไรผิดมา ทว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรปล่อยให้รับประทานไปก่อน

 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 6

    “งานแต่งใคร ต้องรับผิดชอบเหรอ ไม่ใช่หน้าที่เรา” พ่อเลี้ยงแสนลักษณ์เอ่ยถามขึ้น ทำเอาคเชนทร์ชะงักมือที่กำลังตักอาหารทันที“เอ่อ ลูกค้า ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวครับ เป็นนักธุรกิจน่ะ แต่ทีมออแกไนซ์อยากให้ผมอยู่เป็นเพื่อน เห็นว่าเจ้าบ่าวเรื่องเยอะ” คเชนทร์อธิบายเสียงหม่นพลางตักอาหารใส่ปาก และสังเกตว่าเขาถอนหายใจแบบเครียดๆ “คุณเชนทร์ เป็นอะไรคะ ดูเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ” มนัสวีเอ่ยถามขึ้นเพราะสังเกตเก่ง “สองคนจับพิรุธผู้ต้องหาอยู่เหรอครับเนี่ย” คเชนทร์แซว“แปลว่าน้องวีพูดถูก” พ่อเลี้ยงเอ่ยขึ้นและหรี่ตามองคเชนทร์“คือ เอ่อ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เรื่องงานเท่านั้นเอง” ปิดบังวันนี้แล้วพรุ่งนี้จะปิดบังยังไงวะเนี่ย คเชนทร์คิด“รู้ใช่ไหม ว่าพ่อมึงคนนี้ดูคนเก่ง” “ครับเก่ง เก่งมาก ยอมแพ้ ผมแค่เครียดกับงานน่า” “งั้นก็กินเสร็จไปพักผ่อน พรุ่งนี้คงได้มีอะไรคุยกันก่อนไปทำงานซะหน่อย” “เอ่อ ครับ” คเชนทร์รู้สึกอึดอัดกับสิ่งที่ตัวเองรับมา และประหม่ากับสายตาพ่อที่มองอย่างเอาเรื่อง ใช่พ่อเลี้ยงแสนลักษณ์เป็นคนเก่ง อยู่ด้วยกันมาหลายสิบปีก็ย่อมมองออกเสมอ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคเชนทร์ จะสุข จะทุกข์คเชนทร์แสดงออ

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 7

    คนที่รับความผิดไปเต็มๆ พร้อมกับความรู้สึกที่เจ็บปวด และชิงชังรังเกียจได้เกิดขึ้น ทว่าเมื่อจันทรภาหนีปัญหามาแล้ว กลับไม่รู้ว่ากำลังสร้างปัญหาใหม่ให้กับผู้ที่ไม่รู้เรื่องนี่สิ“เอาล่ะ เหลือเราสองคนแมนๆ คุยกันซิ เกิดอะไรขึ้น” พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยถามเมื่ออยู่กันตามลำพังที่หน้าบ้าน หลังจากที่เสร็จสิ้นดินเนอร์ “ผมก็นึกว่าพ่อเดินออกมาส่งผมเฉยๆ” “มึงก็รู้ไอ้เชนทร์” “ผมปิดพ่อไม่ได้สินะ”“เอ่อ จะปิดวันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ก็รู้อยู่ดี บอกมาดีกว่า ว่าแบกอะไรไว้บนบ่า งาน เงิน หรือว่าสาว” คำสุดท้ายเนี่ยทำเอาคเชนทร์ถึงกับสะอึกแล้วหันกลับมามองหน้าพ่อเลี้ยงเลยทีเดียว“งาน เงิน คงไม่ใช่” พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยอย่างรู้ทัน ก็จะไม่ให้รู้ได้อย่างไร หากเป็นงานคเชนทร์ทำได้ดีอยู่แล้ว เรื่องเงินก็มีให้ใช้จนชาติหน้าได้เลยมั้ง แล้วจะเรื่องอะไรซะอีกล่ะนอกจากสาวๆ “ผมเกลียดพ่อก็ตรงเนี่ย รู้ไปหมด” “ไม่งั้นจะเป็นนายแกได้ยังไงไอ้เชนทร์ นี่อย่าบอกนะว่า มีคนมากวาดหยากไย่ให้แกแล้ว” “โธ่พ่อ อย่าหยามกันแบบนี้สิ” “ก็ดูสีหน้าแกสิ เลิ่กลั่ก วอกแวก มีพิรุธตั้งแต่กินข้าวแล้ว พูดมาได้หรือยังไง ไปอึดอัดอะไรมา”“คือ ถ้ามีผู้หญิง

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 8

    “ก็ด่าอยู่แล้วป่าววะ” “อ้าว! ไม่คุยด้วยแล้ว ผมกลับบ้านดีกว่า” “อย่ายุ่งอะไรกับเค้านะไอ้เชนทร์”“เห็นผมเป็นคนยังไงเนี่ย”“มึงเป็นตัวผู้ ที่ธรรมชาติสร้างให้คู่กับตัวเมีย ต่อให้ใจแข็งไอ้จู๋มึงก็แข็ง ฉะนั้นอย่าใกล้เค้า” “ไม่ได้ชอบจะแข็งได้ไงครับ” “ลองไหมล่ะ” “แหมผู้มีประสบการณ์ ฝันดีครับ” “กูต้องระแวงว่าลูกรักกูจะจู๋แข็งไหมเนี่ย” “โอ๊ยพ่อ! มันก็ไม่ได้แข็งง่ายขนาดนั้น” สิ้นคำคเชนทร์ก็เดินดุ่มๆ กลับบ้านทันที ทิ้งให้พ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ยืนถอนหายใจ แล้วมองตามคเชนทร์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งลับตาไปโน่นแหละ เขาจึงกลับบ้านเข้าเพื่อขึ้นไปพักผ่อนเช่นกัน ส่วนคเชนทร์ก็กลับมายังบ้านไม้สักหลังงามชั้นเดียวทรงรีสอร์ตของตัวเอง ซึ่งอยู่ติดริมลำธารมากที่สุด ได้ยินแต่เพียงเสียงน้ำไหลท่ามกลางความเงียบ คนงานทุกคนกลับเข้าที่พักหมดแล้ว ทว่ายังคงมีไฟเปิดอยู่ และบ้านของเขาก็เช่นกัน ไฟยังเปิด เขาหยุดยืนอยู่หน้าบ้านแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปช้าๆ พลางมองไปโซฟารับแขก ซึ่งยังคงมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั่งอยู่แต่ท่านั่งเปลี่ยนไป คือเธอนั่งชันเข่าแล้วซบหน้าไปกับหัวเข่า ร้องไห้เบาๆ แต่ตัวโยนและสั่น ตั้งแ

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 9

    “เข้มแข็งก่อนนะเจ้าขา” เธอบอกกับตัวเอง แต่น้ำเสียงยังสั่นเครือ และภาพที่เห็นมันทำให้เธอสั่นไม่หายเลย คิดแล้วก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูพร้อมกับกำมันเอาไว้แน่น แต่ไม่กล้าเปิดดูคลิปที่ถ่ายเอาไว้“แกมันโง่” เธอว่าให้ตัวเอง ก่อนจะรวบรวมความเข้มแข็ง แล้วออกจากห้องน้ำ ย่องเบาๆ เมื่อรู้สติแล้ว ว่าอยู่ในบ้านของคนแปลกหน้า แต่ดันเป็นจังหวะที่เขาเปิดประตูห้องออกมาประจันหน้ากับเธอพอดี ทั้งสองมองหน้ากันโดยอัตโนมัติ เขาอึ้งและจังงังไปกับใบหน้าสวยสดงดงาม แบบไร้เครื่องสำอางของเธออีกรอบ ส่วนเธอก็อึ้งเพราะเพิ่งสังเกตหน้าเขาชัดๆ และต้องรีบหลบสายตาจากกันอย่างรวดเร็ว“เอ่อ หิวหรือเปล่า” คเชนทร์เป็นฝ่ายถามก่อน“ไม่เป็นไรค่ะ ฉัน กินอะไรไม่ลง” สิ้นคำ เสียงท้องก็พยศและร้องซะเสียงดังเชียว “อุ้ย! เอ่อ” “ไปนั่งรอนะตรงโต๊ะญี่ปุ่นห้องนั่งเล่นน่ะ เดี๋ยวผมหาอะไรมารองท้องให้” ว่าแล้วเขาก็เดินเข้าครัว แต่ไม่มีข้าวในหม้อ เพราะเพิ่งไปรับประทานกับพ่อเลี้ยงมา จึงมีแต่อาหารแห้งและอาหารสดในตู้เย็น“หน้าตาคุณหนู กินมาม่าได้ไหมเนี่ย” เขาบ่นลอยๆ ก่อนจะหยิบมาม่าออกมาหนึ่งซองต้มน้ำ พร้อมกับนำผักมาหั่น และใส่ไข่ลงไปหนึ่งฟอง จะได้มี

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 10

    “ยังไม่หรอกค่ะ แต่จะพยายาม” “ผมเข้าใจ มันต้องใช้เวลา เอาเป็นว่าคุณอยู่ให้สบายใจก็แล้วกัน และผมอยากให้คุณไปพักผ่อนซะ พรุ่งนี้จะได้พร้อมลุกขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์”“ถึงคุณจะไม่อยากฟัง แต่ฉันก็อยากจะพูด ว่าขอบคุณอีกครั้งค่ะ” “รู้ใช่ไหม ว่าการที่ผมช่วยคุณ ผมต้องเดือดร้อน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” “ฉันจะไม่ให้คุณเดือดร้อน จริงๆ นะ”“โอเค ถ้างั้นคุณไปนอนนะ เดี๋ยวผมปิดบ้านแล้วก็จะเก็บถ้วยเอง” สิ้นคำคเชนทร์ก็ไม่รอให้เธอคัดค้าน รีบหยิบชามมาม่าไว้กับตัว ก่อนจะลุกขึ้นแล้วผายมือ บอกทางให้เธอเข้าห้องนอน ส่วนเขาก็นำถ้วยไปล้างและเก็บ ก่อนจะออกมาสำรวจประตูหน้าต่าง แล้วจึงปิดไฟ แต่ก็อดมองไปที่ประตูห้องนอนของตัวเองไม่ได้ มันรู้สึกสงสารจับใจ ไม่คิดว่าเธอจะเจอเรื่องเหี้ยๆ มา อยากเห็นหน้าหญิงชั่วชายโฉดคู่นั้นจริงๆ เลย เขาคิดพลางถอนใจ แล้วดึงโซฟาออกมาให้เป็นเตียงเพื่อจะได้นอนพักผ่อน ส่วนจันทรภานั้น นั่งอยู่ที่ปลายเตียงนอนของคเชนทร์ มองไปรอบๆ ห้องสูดหายใจเข้าลึกๆ ด้วยความหวั่นใจ นี่มันห้องนอนผู้ชายก็จะดูรกๆ สักหน่อยสินะ เธอคิด แต่ก็นึกขอบคุณที่เขาอุตส่าห์ยกห้องให้เธอนอนไปพลางๆ แล้วตัวเองออกไปนอนที่ห้องนั่งเล

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 11

    “อ๊าย! อีคุณเชนทร์” เขาก็พูดตรงซะจนเธอกรี้ด แล้วเอากำปั้นทุบตามแขนของเขาเสียเลย ใครมองอยู่ก็เดาไปแล้วคเชนทร์ลูกรักพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์มีแฟนเสียแล้ว“หันหลังเลย ฉันจะขึ้นจากน้ำ” “ตอนนี้ล่ะมาทำเป็นอาย” เขาว่าแต่ก็ยอมหันหลังแต่โดยดี จากนั้นจันทรภาก็รีบพาตัวเองขึ้นจากน้ำอย่างรวดเร็ว แล้วก็โน่นแหละวิ่งขึ้นบ้าน เข้าห้องน้ำ ส่วนเขาก็ตามขึ้นไป เล่นเอาเปียกแต่เช้าเชียว“หนาวโว๊ย! เล่นบ้าอะไรแต่เช้า” เขาตะโกนคำว่าหนาวโว้ยออกมา พร้อมกับบ่นๆ งึมงำด้วยความหงุดหงิดกริ้ง! กริ้ง! กริ้ง! เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ขณะที่เขาเพิ่งเข้ามาในบ้าน จึงรีบวิ่งไปหยิบขึ้นมารับสาย“ครับ” “มีอาหารเผื่อสองที่”“แหม อยากรู้จนตัวสั่นล่ะสิ ใช้ลูกบังคับเลย สองที่เชียว” คเชนทร์แซว ขณะที่อีกฝ่ายยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์“ลงไปเล่นน้ำทำไมแต่เช้า” เมื่อปลายสายถามเช่นนี้ เขาก็มองซ้ายมองขวาทันที แต่ก็ไม่แปลกหรอกถ้าพ่อจะรู้จะเห็น “เอ่อ แบบ” “แก้ตัวให้ดีๆ นะไอ้เชนทร์” “มีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยน่ะ ผมเปลี่ยนเสื้อผู้สักครู่เดี๋ยวไปหาครับ” “จะรอครับ” เวลาที่พ่อเลี้ยงพูดครับกับคเชนทร์เนี่ย เสียวสันหลังชอบกล ปกติไม่พูดเพราะกับลูกน้องหรอ

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 12

    “เสื้ออยู่บ้าน ยุ่งอะไรกับเสื้อผมอีกคนแล้ว จะไปทำงานเหรอครับ” “แล้วแกไม่ไปหรือไง” “ผมขอเคลียร์” เขาพูดเพียงเท่านี้ก่อนจะทำตาเลิ่กลั่กไปทางจันทรภา“เอ่อ คุณเจ้าขา ผมขอแนะนำ นี่พ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ครับ เป็นนาย เป็นผู้มีพระคุณ เป็นคนที่ผมเรียกพ่อได้อย่างเต็มปาก ผู้ให้ที่ชีวิตใหม่ผม” เขาแนะนำอย่างเป็นทางการ นั่นแหละเธอจึงรู้ว่าที่เรียกว่า พ่อ น่าจะเป็นคนนี้ “สวัสดีค่ะ” จันทรภารีบยกมือไหว้พลางก้มหน้าลง“สวัสดีครับ” พ่อเลี้ยงหนุ่มตอบกลับเสียงกดต่ำ เหมือนเตรียมดุ พร้อมกับหรี่ตามอง“เอ่อ รู้จักคุณวีแล้วนะ คุณวีเป็นภรรยาของพ่อเลี้ยงน่ะ” คเชนทร์แนะนำอีกครั้ง เท่านั้นแหละ จันทรภาก็เงยหน้ามองทันที หญิงสาวดูเด็กอยู่เลยได้สามีเป็นหนุ่มใหญ่ แม้ว่าจะต่างกันแต่ก็สวยหล่อสมกันเสียจริง“ค่ะ รู้จักแล้ว” จันทรภาตอบแบบประหม่า แทบจะไม่กล้าเงยหน้ามองพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์เลย คือหน้าตึงเชียว “อืม กินอะไรก่อนก็แล้วกัน เสร็จแล้วก็อย่าเพิ่งไปไหน มีเรื่องจะคุยด้วย” พ่อเลี้ยงบอกและมองหน้าทั้งสองสลับกัน ราวกับว่าทั้งคู่ไปทำผิดกันมาอย่างนั้นแหละจากนั้นบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ทำเอาจันทรภาอึดอัดไม่น้อยเพราะเป็นคนแปลกหน้าอย่

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 13

    “ไม่เกินกำลังความสามารถ ของคนเราจะแก้ไขหรอก บางทีการมาของเธอ อาจจะทำให้แกได้ช่วยแก้ไขก็ได้ ทุกอย่างไม่มีอะไรบังเอิญ มันมีเหตุผลเสมอ ขึ้นอยู่จะช้าหรือเร็ว” พ่อเลี้ยงแสนลักษณ์สอนในฐานะที่มีประสบการณ์มากกว่า เป็นผู้ใหญ่กว่า สุขุมกว่า ส่วนคเชนทร์ยังลั้นลาแบบคนหนุ่มทั่วๆ ไปโดยไม่คิดอะไรอยู่เลย ทำตัวเป็นลูกชายคนโตของพ่อเลี้ยงนั่นแหละ“แปลว่าพ่อจะให้เธออยู่ ลี้ภัย” “อยู่บ้านแกน่ะ” “รีสอร์ตหลังอื่นก็มี” “นั่นให้ลูกค้า เขามาขอความช่วยเหลือแกนี่หว่า” “พ่ออ่ะ ผมกลัวอยู่นะ” “กลัวอะไร หืม สวยน่ารักเกินจะอยู่ใกล้เหรอ”“กลัวทุกอย่างนั่นแหละ ลูกคุณหนูหรือเปล่าก็ไม่รู้” “ถ้าเป็นลูกคุณหนู เป็นโอกาสอันดี ที่แกจะได้ทำกับข้าว หุงหาอาหารให้เขาไง” มองในแง่ดีเก่งเหลือเกินนะพ่อเลี้ยงเนี่ย คเชนทร์คิด “อ้าว ทำไมสปอยล่ะ ทำไมไม่สอนล่ะครับ สอนให้ทำดีกว่านะ” “แกก็สอนเอาสิ คนของแกนี่” “ทำไมพ่อพูดแบบเนี่ย ยิ่งปวดหัวอยู่ด้วย สอนยากหรือเปล่าก็ไม่รู้ ลูกคุณหนูเอาแต่ใจหรือเปล่าก็ไม่รู้อีก เอ่อ ฝากคุณวีเป็นเพื่อนได้ไหมครับ” “น่าจะอายุมากกว่าน้องวี แต่ก็น่าจะเป็นเพื่อนกันได้ สาวๆ คุยกันจะได้ไม่เครียด เผื่อน้องวีช

บทล่าสุด

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 37

    “ลูกหน่อลูก ทำไมทำแบบนี้ ทำอะไรไม่ปรึกษาพ่อแม่” ท่านกล่าวตำหนิ แต่น้ำเสียงเป็นห่วงเธอจับใจ“เจ้าขอโทษค่ะ บอกคุณแม่ด้วย เจ้ารู้ว่าตัวเองผิด”“ลูก บอกพ่อซิ เกิดอะไรขึ้น ทำไมหนีไปแบบนี้ บอกกันหน่อยสิลูก”“คุณพ่อ ฟังเจ้านะคะ คือ... คืนนั้นเจ้าไปตามพี่ตุลย์ที่ห้อง แอบเห็นพี่ตุลย์กับยัยอิง...”“อย่า อย่าบอกนะ...” ท่านกำลังคิดแบบนั้นแหละ คิดในแง่ร้าย“คุณพ่อเดาได้ใช่ไหม เขาอยู่ในชุดเจ้าบ่าว ยัยอิงอยู่ในชุดเพื่อนเจ้าสาว เขากำลังมีอะไรกันค่ะคุณพ่อ”“ไม่... ไม่จริงใช่ไหมเนี่ย” ฝ่ายบิดาแทบเสียงสั่น มือกุมหน้าอกเอาไว้ด้วยความตกใจ และช็อกเมื่อได้ยิน“จริง เจ้ามีคลิป มีหลักฐาน เขารู้ตัวพอดี เจ้าเลยรีบหนี พ่อเข้าใจเจ้าไหม”“ทำไมมันชั่วแบบนี้ ทำไมมันทำแบบนี้กับลูกพ่อ มันทำกันมานานแค่ไหนแล้ว”“เจ้าก็ไม่รู้ค่ะ แต่เหมือนจะไม่ใช่

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 36

    “แกก็เห็นอยู่ เรามีเงิน มีอิทธิพล นักการเมืองหรือข้าราชการยังต้องยอม”“ธุรกิจ ทำอสังหาริมทรัพย์ นี่มันยุคที่ผันผวน ถ้าประคองไม่ได้ก็พัง ยิ่งถ้าทำบ้านจัดสรร มีสิทธิ์เป็นหนี้หัวโต ใครจะเสียสละเงินมาซื้ออะไรแพงๆ ในยุคนี้มีแต่จะเซฟ นักการเมืองก็ต้องการนักธุรกิจระดับเจ้าสัวเพื่อหนุนหลัง”“ลูกชายฉันฉลาด” พ่อเลี้ยงเอ่ยปากแซวพลางเหลือบมองคเชนทร์“พ่อสอนมาดี พ่อทำให้เห็น” ต่างฝ่ายต่างชมกันไปมาสิน่า“หึๆ ชมเหรอเนี่ย แต่ก็วิเคราะห์เก่ง แล้วเจ้าเปรมว่ายังไง สืบได้ความไหม”“รู้ได้ยังไงครับว่าให้เจ้าเปรมสืบ”“คนอย่างแก จะเหลือเหรอที่จะไม่สืบ”“ก็ให้เจ้าเปรม บอกนักสืบให้จัดการอีกทีครับ ทั้งสองฝ่าย ผมอยากรู้อะ ขี้เสือกเหมือนกัน”“หึๆ นั่นสิ ทำไมแกถึงต้องสืบนะ รู้ตัวไหมเนี่ย”“เอ่อ คือ ผม... ไม่รู้สิฮะ ทำไมผมต้องสืบวะ”&n

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 35

    “คนรวยชอบแต่งเพื่อธุรกิจก็มี”“เจ้าสาวเป็นคนมีฐานะในระดับที่เรียกว่ามหาเศรษฐีครับ มีมูลค่าทรัพย์สินหมื่นล้าน มากกว่าฝ่ายเจ้าบ่าว”“อันนี้ก็รู้อีกเหรอเนี่ย น่าขึ้นเงินเดือนให้”“แหม ค้นหาชื่อนามสกุลน่ะครับ”“เยี่ยมมาก ไอ้หมอนี่ยังอยู่ในเชียงใหม่หรือเปล่า”“อยู่ครับ ผมให้คนสะกดรอยตาม คิดว่ามันจะยังไม่ไปไหนหรอก รอตามหาเจ้าสาวอยู่”“แล้ว... พ่อแม่ของเจ้าสาวล่ะ”“เฮ้อ เห็นว่าไปเช่าคอนโดฯ อยู่ชั่วคราว เพื่อจะได้หาทางติดต่อลูกสาวให้ได้”“รู้ใช่ไหมว่าที่ไหนบ้าง”“รู้ครับ ว่าแต่... จะมีใครรู้ไหมนะว่าเจ้าสาวอยู่ที่ไหน” เปรมณัฐเอ่ยพลางหรี่ตามองเจ้านาย และยิ้มนิดๆ“ถ้าไม่ปากโป้ง จะรู้ได้ยังไง ปล่อยให้เธออยู่อย่างอิสระไปก่อน”“เชื่อผม ว่าตุลยเทพคนนี้ ไม่น่าจ

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 34

    “บ้า คิดอะไรเกินเลยไอ้เชนทร์ แฟนคนอื่น” เขาเตือนตัวเองก่อนจะดึงผ้าห่มคลุมโปง แล้วก็กล่อมตัวเองให้หลับไปส่วนจันทรภาก็ยึดที่นอนนุ่มๆ ของคเชนทร์ เป็นของตัวเองไป เธอปิดไฟในห้องเรียบร้อยเหลือไว้หัวเตียง น่าแปลกใจตัวเองที่ไม่ได้รู้สึกแปลกที่แปลกทางอีกแล้ว วันนี้เป็นอะไรที่หลายอารมณ์และพิเศษอย่างบอกไม่ถูก ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้เจ็บปวดกับความเสียใจนั้นแล้ว หากแต่เหลือไว้เพียงความเกลียดชังที่อยากจะแก้แค้นเท่านั้นคเชนทร์คนนี้ช่างสุภาพ บางทีก็มีอารมณ์อ่อนโยน ปลอบใจ แต่อีกอารมณ์คือยียวนกวน ตลกขบขัน และสร้างแต่เสียงหัวเราะ จนเธอไว้ใจ และนึกขอบคุณแม้จะเป็นคนแปลกหน้ากันแท้ๆ คิดถึงสีหน้าแววตาของเขาแล้วเธอก็เผลอยิ้ม พอได้สติก็ต้องสลัดอารมณ์หวั่นไหวออกไปจากใจเสียก่อน แล้วจึงข่มตาให้หลับพอเช้าวันต่อมา ภายในห้องนั่งเล่น ตรงโซฟาเบด คเชนทร์ที่นอนหลับอุตุก็ได้กลิ่นหอมๆ ลอยมาเตะจมูกอย่างจัง จนทำให้เขารู้สึกตัวตื่น บิดขี้เกียจและพยุงตัวลุก สิ่งแรกที่เขาจะมองคือเบื้องหน้า ตรงระเบียงซึ่งอยู่ปลายเท้า ผ้าม่านถูกเปิดเอาไว้ แต่ไม่ได้เปิดกร

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 33

    “เอ่อ พี่... แปบเดียวนะ แล้วเดี๋ยวออกมาครับ”“ค่ะ” เธอรับคำ จากนั้นเขาจึงรีบปลีกตัวกลับเข้าห้องตัวเอง เพื่อจะได้แต่งตัวเสียใหม่ ใช้เวลาเร็วกว่าเธอมากพอสมควร เพราะผู้ชายไม่ได้พิถีพิถันอะไรมาก ทว่าระหว่างที่คเชนทร์ยังอยู่ในห้อง จันทรภาก็นั่งตรงโซฟา แต่เธอไม่ได้มองออกไปยังระเบียง หากแต่ถือโทรศัพท์เอาไว้และมองมัน พร้อมกับมือที่สั่นเทาและตัดสินใจลองเปิดเครื่อง พร้อมกับมีสายที่ไม่ได้รับมากมาย แต่เธอไม่ได้สนใจสายที่ไม่ได้รับ ทว่ากลับเปิดคลิปนั้นดูอีกรอบต่างหาก เธอยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูใกล้ๆ เพ่งมองในสิ่งที่อยู่ในคลิปนั้น ใช่... มันทำให้เธอมีน้ำตา แต่มากไปกว่านั้นคือความเกลียด โกรธนึกสาปแช่งทั้งคู่ให้พังพินาศ อย่าลุกขึ้นมาลืมตาอ้าปากได้อีกเลย เธอคิดอย่างโกรธแค้น พร้อมกับถามใจตัวเอง ว่าแท้จริงแล้วรักตุลยเทพมากน้อยแค่ไหนถึงได้ยอมแต่งงาน และมองไม่เห็นความเลวร้ายที่เขาซ่อนเอาไว้ มองไม่เห็นแม้กระทั่งว่าเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดทว่าตอนนี้มันไม่ควรมีความรักอีกต่อไปแล้ว มันมีแต่ความเกลียดชัง รอเถอ

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 32

    “ก็... ไม่ได้พูดอย่างนั้นซะหน่อยค่ะ”“มันเป็นเรื่องจริง ไม่เคยเที่ยวแบบนี้แล้วทำไมถึงชอบล่ะ”“เจ้าเป็นคนที่ชอบลอง ชอบเรียนรู้ แต่มันไม่ค่อยได้มีโอกาสนั้นค่ะ พ่อกับแม่ไม่ค่อยให้ทำ พาไปแต่ที่หรู”“ถึงว่า พอหลุดออกจากกรอบได้ อย่างกับปล่อยปลาไหลลงตม”“หมายถึงยังไงคะ” เธอถามด้วยความสงสัยเชียว“ก็แบบนึกถึงปลาไหลสิ ดิ้นลงน้ำร่าเริงเชียว” พูดไม่พอ เขาทำท่าดุ๊กดิ้กอย่างกับปลาไหลอีกต่างหาก“หืม” เธอไม่รู้จะเถียงอย่างไร จึงทำได้แต่เพียงวิดน้ำใส่เขา“โอ๊ย! หืม เข้าตา” เขาก็ร้องบ้างเมื่อน้ำเข้าตา“อุ้ย! แสบตาไหมคะ” เธออุทานด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบเดินมาหาเขาตรงขอบตลิ่ง เขาก็เอามือเช็ดๆ ที่ตาตัวเอง เพื่อที่จะได้มองเธอให้ชัดขึ้น และยังไม่ทันได้พูดเขาก็วิดน้ำใส่เธอเสียเลย“นี่! นี่ นี่” เขาวิดน้ำใส่เธอไม่ยั้ง เรียกได้ว่าแ

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 31

    ผ่านไปประมาณห้านาที เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินมาที่ด้านหลัง กระทั่งมีเสียงเอ่ยขึ้น“คุณ เอ่อ” น้ำเสียงประหม่าของเธอทำให้เขาหันขวับกลับไปมอง แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อขอบผ้าถุงด้านบนถูกมันเอาไว้ด้วยเส้นยางเป็นจุกเชียว“พระคุณ เอ่อ ฮ่าๆๆ” คเชนทร์ได้แต่หัวเราะลั่น“นี่คุณ อย่าหัวเราะสิ ลืมไปว่า... ใส่ไม่เป็น”“แล้วอยากได้ผ้าถุงเนี่ยนะ แถมยังรู้จักด้วย”“พยายามแล้วมันหลุด มันแบบว่า มันไม่อยู่อ่ะ ร่วงตลอด”“ผมเห็นตอนเช้าที่ลงไปดำน้ำน่ะ มันก็ไม่ได้เล็กนะ ทำไมมันไม่อยู่ล่ะ” เขาพูดจายียวนใส่เธอ“ว๊ายนี่ เพียะ!” ด้วยความขัดเขินเธอก็ฟาดที่แขนของเขาแรงๆ“โอ๊ย! ตีอีกแล้ว วันนี้หลายรอบแล้วนะ”“มาสอนเลย พูดมาก”“ใส่แบบนี้ก็ดีนะคุณ น่ารักดี”“ไม่เอา” เธอทำท่างอแง

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 30

    “คนหื่นเนี่ยต้องให้หน้าตาเป็นยังไงไม่ทราบ”“ก็... แบบโรคจิต แต่คุณไม่อะ”“ผมหล่อเกินจะเป็นโรคจิตล่ะสิ”“เปล่า ไม่ได้หล่อเลย”“อ๋อ คุณสวยมาก”“ค่ะ ฉันรู้ตัว”“ถึงผมจะไม่หล่อมาก แต่ว่าท่ายากผมเยอะ”“โอ๊ย! พูดอะไรไม่รู้ ไปหาผ้าถุงมาเลยค่ะ จะเล่นน้ำ”“มืดๆ เนี่ยนะ”“ก็... จะได้ไม่มีคนเห็นไง คุณก็เฝ้า”“ทำไมผมต้องเฝ้าด้วยวะเนี่ย”“ใช่ค่ะ คุณเป็นเจ้าของบ้าน”“โอยยยย แก้ผ้าอาบเลยไม่ได้เหรอ”“จะบ้าเหรอคะ”“ไม่บ้า มืดๆ ใครจะเห็น มีนิดๆ หน่อยๆ จะเขินอะไร”“อ้าย! อีคุณเชนทร์” สิ้นคำเธอก็ฟาดเพียะไปที่ต้น

  • แสนเถื่อนยอดรัก   บทที่ 29

    “ผมขอตัวนะพี่เกตุ” คเชนทร์บอกเสียงเครียดขึ้น“ไปเถอะเดี๋ยวพี่ดูเด็กๆ ต่อ”“ครับ” รับคำเสร็จ คเชนทร์ก็ออกไปจากห้องและลงไปยังชั้นล่าง ขณะที่พ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ยืนสูบบุหรี่ที่หน้าบ้าน คล้ายกับจะรอเขาอย่างนั้นแหละ“ทำไมเร็ว” พ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ถาม“อ่อ นิทานเรื่องใหม่สั้นมากครับ เล่าจบเร็วก็เลยลงมา”“หึๆ แล้วเด็กๆ หลับหรือยัง”“ยังครับ” คเชนทร์ตอบเสียงหม่น พลางมองหน้าพ่อเลี้ยงด้วยแววตาเศร้าๆ มีน้ำใสๆ คลอเล็กน้อย“มีอะไร หืม” พ่อเลี้ยงถามทันที“เด็กๆ บอกว่า พ่อเล่านิทานให้ฟัง เรื่อง... พ่อ” คเชนทร์เอ่ยเสียงสั่นเครือขึ้นมาเสียอย่างนั้น เหมือนความรู้สึกบางอย่างมันตีขึ้นมาจนเก็บอาการไม่อยู่“ทำไมพ่อเล่าแบบนี้”“อยากเป็นปีศาจเหรอเชนทร์”“ผมเป็นปีศาจ ส่วนพ่

DMCA.com Protection Status