แชร์

บทที่ 909

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
เดิมรุ่ยอ๋องคิดว่า การที่กองกำลังพันธมิตรเผ่าสุยเหอถอนทัพ เป็นกลอุบาย

ทว่าหลังจากลาดตระเวนยามค่ำคืน พวกเขาถอนทัพครั้งนี้ ราวกับรีบหลบหนี จนไม่มีเวลาหยิบหม้อไหกระทะ และกองไฟยังไม่ดับด้วยซ้ำ

ครั้นได้สอบถามเพิ่มเติมจึงพบว่า กองกำลังพันธมิตรเผ่าสุยเหอได้ยินข่าวลือเรื่องขุมทรัพย์เมืองเซวียน จึงเร่งรีบถอนทัพทันที

เรื่องเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน รุ่ยอ๋องจึงมิรู้ว่าจะรับมืออย่างไรดี

กองทัพศัตรูถอนทัพหมดแล้ว เขายังจะต้องปักหลักพิทักษ์ต่อไปหรือไม่?

อีกด้านหนึ่ง

กองกำลังพันธมิตรเผ่าสุยเหอที่มุ่งหน้าไปทางเหนือมีความรีบร้อนอย่างมาก

เหล่าทหารเคลื่อนพลฝ่าลมหิมะ ใบหน้าดุร้าย

ทหารม้ากองหน้าตะโกนปลุกเร้า

“ท่านแม่ทัพมีคำสั่ง! เร่งเดินหน้าให้เร็วขึ้น!”

เหล่าทหารรู้สึกน่าสังเวช

“เร่งรีบแล้วอย่างไร สุดท้ายขุมทรัพย์ก็มิใช่ของพวกเราอยู่ดี หาเรื่องลำบากไปไย!”

“ถูกต้องอย่างที่ว่า! ทันทีที่ได้ยินเรื่องศิลาหยกกับขุมทรัพย์ในเมืองเซวียน ก็รีบแตกค่ายกลางดึก อันที่จริงมีสมบัติก็มีแค่นั้น ศิลาหยกก็มีเพียงแผ่นเดียว แล้วมันจะมาอยู่ในมือพวกเราได้อย่างไร?”

“เจ้าจะพูดอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 910

    ไม่กลัวศัตรูที่เก่งกาจ กลัวแต่เพื่อนร่วมงานที่โง่เขลา ถึงแม้ซ่านชุนจะต้องการศิลาหยกของหนานฉีมากเพียงใด ก็ยังตระหนักถึงความสำคัญในหน้าที่ของแต่ละคน เขาเป็นผู้ที่บุกยึดด่านเฉาอวี๋ได้ และบุกเข้าสู่หนานฉีอย่างสง่าผ่าเผย กองกำลังพันธมิตรเผ่าสุยเหอคืออะไร? ไม่สามารถโจมตีเอาชนะได้ กลับจะมาเอาเปรียบกองทัพพันธมิตรตะวันออกของพวกเขา โดยไม่ลงแรงสักนิด! เมื่อคิดเช่นนี้ ซ่านชุนยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก ทว่าคนเหล่านั้นมุ่งตรงมาที่นี่แล้ว มิอาจขับไล่ออกไปได้ เขาทำได้แค่ออกคำสั่ง “ทุกคนจงฟัง แม้จะไม่กินไม่ดื่ม ก็ต้องเร่งรีบออกเดินทาง เพื่อให้แน่ใจว่าจะไปถึงเมืองเซวียนก่อนแคว้นอื่น!” “ขอรับ!” …… กานโจว กองทัพพันธมิตรของต้าเซี่ยล้อมรอบเมือง พลางจ้องมองไปที่กองทัพตงจิ้งของหนานฉี หารู้ไม่ว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนได้นำกองทัพใหญ่ออกไปแล้ว ผ่านช่องทางลับ “ใยแมงมุม” โดยเหลือเพียงคนกลุ่มเล็ก ๆ ไว้ เพื่อสร้างภาพลวงว่ากานโจวเต็มไปด้วยกองกำลังทหาร ที่ตอบโต้ศัตรูได้ ช่องทางลับใต้ดินนี้ ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางตรง กองทัพตะวันออกจึงเดินทางมาถึงเมืองม่อแล้ว ที่นี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 911

    ข้างนอกเมืองเซวียน ลมเย็นหนาวเหน็บ เหล่าทหารหนานฉีนับแสนถืออาวุธต่าง ๆ ในมือ พร้อมร้องเพลงของทหารเสียงนั้นกึกก้องดังสนั่นทั่วเมืองเซวียน ราวกับสัตว์ร้ายยักษ์ถูกกักขัง อดใจรอไม่ไหวที่จะหลุดออกจากกรง ส่งเสียงคำรามกึกก้อง แผ่นดินเมืองเซวียนถึงกับสั่นสะเทือนเฟิ่งจิ่วเหยียนขี่ม้าศึก ภายใต้ชุดเกราะ ร่างกายเปี่ยมไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่นางมองกำแพงเมืองตรงหน้าอย่างเยือกเย็นกลกลอนปิดตายของประตูได้ทำงาน คนที่อยู่ข้างใน ใครก็ล้วนหนีไม่พ้น...บนหอประตูเมืองซ่านชุนจมอยู่ในความตกตะลึง เป็นเวลานานจึงได้สติกลับมาสีหน้ารองขุนพลด้านข้างเขา ต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน“ท่านแม่ทัพ นั่นล้วนเป็นกองทัพตงจิ้ง เหตุใดพวกเขาถึง...มาปรากฏในเมืองเซวียน? !”หรือว่าบินมา?ฮ่องเต้เยี่ยนได้ยินว่าข้างนอกมีกองทัพตงจิ้ง ก็กราดเกรี้ยวทันที ยกมือคว้าจับคอเสื้อซ่านชุน เอ่ยถามอย่างโกรธจัด“เจ้าบอกว่า กองทัพตงจิ้งถูกขังอยู่ในกานโจว ออกมาไม่ได้ไม่ใช่หรือ!“เกิดอะไรขึ้นกับคนพวกนี้!“ซ่านชุน นี่คือผลงานของเจ้า! !”ซ่านชุนใจคอไม่ดี พูดอะไรไม่ออกในทันทีกองทัพพันธมิตรเผ่าสุยเหอที่อยู่ข้างหลัง ฉวยโอกาสซ้ำเติม หัวเราะเย้ย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 912

    ใครเป็นคนลงกลอนประตูเมือง?เห็นได้ชัดว่า ไม่ใช่การกระทำของคนของพวกเขาเองซึ่งก็หมายความว่า ท่ามกลางพวกเขา มีไส้ศึกของทหารหนานฉีปะปนอยู่!พวกกองทัพพันธมิตร รู้สึกเย็นวาบไปทั้งแผ่นหลัง!หลังจากตกตะลึง ก็ต่างสงสัยกันขึ้นมาเผ่าสุยเหอตำหนิแคว้นต้าเซี่ย ที่นำกองทัพพันธมิตรตงปู้“ไส้ศึกคนนั้นจะต้องซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า! มีเพียงพวกเจ้าที่ได้ต่อสู้กับกองทัพตงจิ้ง! พวกเราล้วนไม่ได้ผ่านทางชายแดนใต้”ซ่านชุนรีบโต้กลับ “กองทัพพันธมิตรเป่ยเยี่ยน ก็ได้รับมือกับทหารหนานฉีเหมือนกัน อีกทั้ง แม้ว่าพวกเจ้ามาจากทางทิศใต้ ก็อาจมีไส้ศึกปะปนอยู่ได้ เป็นที่น่าสงสัยเหมือนกัน!”เวลานี้ฮ่องเต้เยี่ยนกลับใจเย็นลงเขาขัดจังหวะการถกเถียงของพวกเขา“มิต้องทะเลาะกันแล้ว! ทะเลาะกันจนเราปวดศีรษะ!“ไม่ว่าไส้ศึกจะอยู่ที่ใด สิ่งที่เร่งด่วนในตอนนี้คือต่อต้านศัตรู!“กลไกประตูเมืองเซวียนลงกลอนแล้ว พวกเราออกไปไม่ได้ ทหารหนานฉีก็โจมตีเข้ามาไม่ได้ จะต้องกลัวอันใด!”คำพูดนี้ฟังดูมีเหตุผล กลับอดคิดอย่างละเอียดไม่ได้ซ่านชุนมีประสบการณ์ทำศึกอยู่บ้าง จึงถามกลับ“ฮ่องเต้เยี่ยน คงมิใช่ว่าจนถึงตอนนี้แล้วท่านยังไม่ตระ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 913

    เสียงร้อง “มีผี” ทำให้ทหารเวรยามดึกตกใจขนลุกขึ้นมาเห็นเพียง ในเมืองเซวียน เดิมพื้นที่ว่างเปล่าอันกว้างใหญ่ ปรากฏทหารจำนวนมาก!ทหารเหล่านั้นสวมเสื้อเกราะแคว้นหนานฉี ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงภายใต้เสียงฟ้าร้อง ไฟผีสีเขียวพวยพุ่งออกมาตามร่างกายบนกำแพงเมือง มีคนกรีดร้องขึ้นมาอย่างตกใจ“ทหารวิญญาณ! เป็นทหารวิญญาณ! !”ข่าวลือเกี่ยวกับทหารวิญญาณยืมเส้นทาง แต่ละแคว้นล้วนเคยได้ยินแม้นมีคำกล่าวว่า หากมิกระทำเรื่องละอายใจ ก็ไม่ต้องกลัวผีมาเคาะประตูกลางคืนความจริงแล้ว นอกจากพวกที่กระทำเรื่องละอายใจ คนขี้ขลาดก็กลัวผีบนโลกนี้ คนขี้ขลาดมีจำนวนมากกว่าเห็นทหารวิญญาณยืมเส้นทาง เหล่าทหารเฝ้าเวรยามดึกสั่นเทา คนที่กล้าหาญรีบไปรายงานแม่ทัพทหารวิญญาณมากมายขนาดนั้น แต่ละคนสีหน้าขาวซีด เห็นแล้วทำให้คนขนลุกหลังจากซ่านชุนได้ยินเรื่องนี้ ก็รีบสวมเสื้อเกราะ ออกไปตรวจดูสถานการณ์เขาก็ไม่เคยเห็นทหารวิญญาณด้วยตาตนเองเมื่อเห็นทหารหนานฉี ที่เดินอยู่อย่างประหลาดเหล่านั้น ชายร่างโตแท้ ก็ตกใจจนสีหน้าขาวซีดเขาพยายามสงบสติอารมณ์ สั่งการทหารภายใต้บังคับบัญชา“ทุกคนหันหน้าไป หลับตา ไม่ต้องมองพวกเขา!”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 914

    มือซ่านชุนสั่นเทา“อะไรนะ? ฆ่าคน?”สีหน้าทหารผู้น้อยคนนั้นขาวซีด คุกเข่าอยู่บนพื้น ชี้ไปทางด้านนอก พูดกับซ่านชุน“หลังจากทหารวิญญาณเหล่านั้นผ่านแดนไปแล้ว ได้ฆ่าคนของพวกเราไปหลายสิบคน พวกเขาตายอย่างอนาถ น่ากลัวมาก...แม่ทัพ เช่นนี้จะทำอย่างไรดี!”ซ่านชุนอึ้งตะลึงจะทำอย่างไรดี?เขาก็อยากรู้ว่าจะทำอย่างไรดี!เขาทำศึกต่อสู้กับคนมากว่าครึ่งชีวิต ล้วนต่อสู้กับคน เป็นครั้งแรกที่จะต่อสู้กับผีจวนจู้กั๋วกงองครักษ์พุ่งเข้ามาถึงในห้องหลัก“ฝ่าบาท! ทหารวิญญาณฆ่าคนแล้ว!”ฮ่องเต้เยี่ยนลุกขึ้นนั่ง ได้ยินว่าทหารวิญญาณฆ่าคน เขาตาแดงขึ้นมาทันที“เราบอกแล้ว! ผีขวางฆ่าผี! ฆ่าทหารวิญญาณเหล่านั้นให้หมด!”ฮ่องเต้เยี่ยนบ้าคลั่ง ทุกคนล้วนรู้ดีทว่าคิดไม่ถึง เขาบ้าถึงขั้นจะต่อสู้กับผีองครักษ์เรียนตอบ“ฝ่าบาท นั่นคือทหารวิญญาณ ปรากฏตัวออกมาให้เห็น แล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พวกเราจับตัวไม่ได้ พวกเขาฆ่าทหารเวรยามหน่วยเล็กของพวกเราหนึ่งหน่วย พริบตาเดียวก็ไม่เห็นร่องรอยแล้ว ไม่รู้ว่าจะลงมืออย่างไร!”แววตาฮ่องเต้เยี่ยนเยือกเย็นหรือเมืองเซวียนนี้ มีผีจริง ๆ ?ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิด มือลูบตรงเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 915

    หัวใจทหารเสริมของแคว้นต้าเซี่ยรู้สึกหวาดกลัวเมื่อคิดดูอีกที ถึงแม้ทหารหนานฉีมีศิลาหยก ทว่าฮ่องเต้ฉีมีกำลังทหารม้าเพียงกลุ่มเล็ก คิดอยากต่อสู้กับกองทัพแสนคนของพวกเขา? เหิมเกริมเกินไปหรือไม่!หลังจากนั้น ภาพที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้พวกเขายากที่จะลืมไปตลอดชีวิตเห็นเพียงทั่วทั้งพื้นดินแยกออก กองกำลังทหารเป็นหมื่น ๆ พัน ๆ จากทั่วสี่ทิศปรากฏตัวออกมาพวกเขาถูกล้อมแล้ว!ผู้นำทัพของแคว้นต้าเซี่ยตกตะลึงทหารที่อยู่ด้านหลังจับอาวุธไว้แน่น “แม่ทัพ! มีทหารซุ่มโจมตี!”สายตาเซียวอวี้เยือกเย็น ราวกับวิญญาณน้ำค้างแข็งหนาวเหน็บ ไม่มีความสงสารเลยสักนิด“ผู้ที่ยอมจำนน จะไม่ถูกฆ่า”ทหารแคว้นต้าเซี่ยเตรียมหน้าไม้ ก่อตัวเป็นค่ายกลผู้นำทัพตะโกนขึ้นมา“ปฏิญาณตนไม่ยอมจำนน ฆ่าทหารหนานฉีให้สิ้น...”ท่าทีเซียวอวี้เยือกเย็น โบกมือ ค่ายกลธนูไกลออกไปที่เตรียมไว้ตั้งแต่แรก ถูกยิงออกมาอย่างนับไม่ถ้วน...ส่วนอีกด้านทางเหนือของแคว้นหนานฉีกองทัพเยี่ยนแสนนาย ก็เผชิญการซุ่มโจมตีเมิ่งฉวีนำกองทัพเป่ยจิ้ง มาปรากฏอย่างไร้ร่องรอย ข้างกายยังมีศิลาหยกชิ้นหนึ่งทหารเป่ยเยี่ยนรู้จักเมิ่งฉวี รู้สึกตกตะลึงกองทัพเป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 916

    จนมาถึงเดือนสาม สภาพอากาศเริ่มอบอุ่น ดอกไม้นับพันบานสะพรั่งทหารเสริมแต่ละแคว้นเข้ามาในชายแดนแคว้นหนานฉี ถูกเซี่ยวอวี้นำทัพล้อมปราบ “ใยแมงมุม” อยู่ข้างใต้ คนอยู่ข้างบน ยากที่จะป้องกันเหล่าทหารแต่ละแคว้นไม่เคยเห็นกลยุทธ์การต่อสู้เช่นนี้มาก่อน กลไกกับดักที่ “รอคอย” ทหารหนานฉีก็เคลื่อนไหวลึกลับการยุทธ์หัวใจอยู่ที่รวดเร็วเซียวอวี้นำทัพด้วยพระองค์เอง ทำอันใดเด็ดขาดเฉียบคมทางด้านเมืองเซวียนกองทัพพันธมิตรไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับทหารเสริมของแคว้นตนเองพวกเขาถูกขังสามเดือนแล้ว เสบียงอาหารยิ่งอยู่ยิ่งน้อย ไม่สามารถที่จะเลี้ยงทหารมากมายขนาดนี้แล้วปล่อยแบบนี้ต่อไป ต่อให้หาเจอขุมทรัพย์เมืองเซวียน พวกเขาก็ไม่มีชีวิตได้เสพสุขช่วงเวลานี้ พวกเขาลองที่จะเปิดกลไกกลอนประตูเมืองอย่างไรก็ตาม จำนวนคนมากกว่าห้าแสนคน กลับไม่มีใครสามารถเปิดกลไกได้ซ่านชุนพาเหล่าทหาร ใช้ค้อน ใช้มีด คิดอยากฟันทำลายประตูเมืองทว่ากลไกผนังเหล็ก แข็งแกร่งคงกระพันจวนจู้กั๋วกงฮ่องเต้เยี่ยนเห็นกับข้าวบนโต๊ะ ก็วางตะเกียบลงอย่างแรงพับ!เขาถามขึ้นมา“แค่นี้หรือ? เนื้อล่ะ!”องครักษ์ตอบ “ฝ่าบาท เสบียงอาหารในค่ายไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 917

    ในตำหนักอ๋องแห่งหนานเจียงรุ่ยอ๋องถูกยกย่องให้เป็นแขกพิเศษอ๋องแห่งหนานเจียงยกจอกขึ้นมา พูดด้วยความปรารถนาดี“ข้ารู้อยู่แล้ว แคว้นหนานฉีมีแผนการใหญ่“รุ่ยอ๋อง ยามนี้แนวโน้มอิทธิพลแคว้นหนานฉีกำลังมาแรง ช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดือนเศษ ก็สามารถปราบกองกำลังเสริมได้เป็นแสนกว่า ช่างน่าชื่นชมยิ่งนัก!“คาดว่าไม่ช้า แคว้นหนานฉีก็จะสามารถขับไล่ทหารศัตรูไปได้หมดสิ้นแล้ว!”รุ่ยอ๋องไม่กระหยิ่มยิ้มย่อง เขาไม่ถือตัว ไม่หยิ่งผยอง“แคว้นหนานฉีสามารถทำลายล้างศัตรู มาจากความร่วมมือร่วมใจกัน“การศึกในตอนนี้ยังไม่แน่นอน ยังประมาทศัตรูไม่ได้”อ๋องแห่งหนานเจียงกับเสนาบดีมองตากันหลังจากนั้น เสนาบดีคนนั้นลุกขึ้นมา“รุ่ยอ๋อง แคว้นของท่านได้ชัยชนะอย่างต่อเนื่อง เมฆครึ้มผ่านไปมองเห็นท้องฟ้าสีครามแล้ว กองทัพพันธมิตรเผ่าสุยเหอข้างนอกหนานเจียง ก็ล้วนล่าถอยแล้ว ท่านเห็นว่าหนานเจียง ไม่จำเป็นต้องมีทหารของท่านคอยเฝ้าปกป้องแล้ว ใช่หรือไม่?”สายตารุ่ยอ๋องเปลี่ยนไปที่แท้ นี่ต่างหากที่เป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหนานเจียง...อยากให้กองทัพหนานฉีถอนกำลังออกจากหนานเจียงรุ่ยอ๋องยิ้มแย้มด้วยสีหน้าอ่อนโยน“ในเมื่อเป็น

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 938

    ราชทูตแคว้นตงซานมาพร้อมกับผ้าทอและอาชา เริ่มจากปฏิบัติด้วยความสุภาพก่อน“แคว้นตงซานเราไม่เคยเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างแคว้น ครั้งนี้แต่ละแคว้นมาล้อมโจมตีหนานฉี ฮ่องเต้พวกเราก็ได้ยินข่าวลือเหล่านี้เช่นกัน ต่างพูดกันว่า ข้อพิพาทนี้ ต้นเหตุมาจากการยุยงของแคว้นตงซาน”ราชทูตแคว้นอื่นต่างมองหน้ากันราชทูตแคว้นตงซานผู้นี้หมายความว่าอย่างไร? คำนึงแต่ตนเองไม่สนใจผู้อื่นรึ?ในตอนแรก มิใช่แคว้นตงซานพวกเขาส่งคนมาพูดหว่านล้อมว่า หากร่วมมือกับพวกเขาโจมตีหนานฉี จะแบ่งดินแดนหนานฉีให้หรอกหรือ!หลี่หลิงราชทูตแคว้นตงซานกล่าวต่อ“หลังจากสืบสวนอยู่หลายทาง พวกเราถึงสืบพบว่า เดิมทีแล้ว ทั้งหมดนี้ถานไถเหยี่ยนเป็นคนทำ“เขาหลอกลวงอวดอ้าง จนได้รับความไว้วางพระทัยจากฝ่าบาทของเรา ถูกยกย่องให้เป็นราชครู และถือเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของแคว้นตงซานด้วย “นึกไม่ถึงว่า เขายังไม่พึงพอใจกับสิ่งนี้ เจตนาจะหลอกล่อกษัตริย์ของเรา ให้กษัตริย์ของเราโจมตีหนานฉี เพื่อจะได้เป็นมหาอำนาจ กษัตริย์ของเรามีสติ จึงไม่หลงกลการยั่วยุ“นึกไม่ถึงว่าเขายังไม่ยอมหยุดความคิดชั่วร้าย ยังแอบตระเวนไปยังแต่ละแคว้น เพื่อยุยงให้แต่ละแคว้นล้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 937

    เรื่องส่งคืนกองทัพอินทรีเหินให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียน ตอนที่นางเสร็จสิ้นจากการไปเป็นราชทูตที่แคว้นซีหนี่ว์ เซียวอวี้ก็เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ทว่าภายหลังเจอกับสงครามครั้งใหญ่ เรื่องนี้จึงถูกพักไว้ก่อนเซียวอวี้เป็นฝ่ายเริ่มพูดเรื่องนี้ ซ้ำยังเตรียมการทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี ถือว่ามีความจริงใจเต็มเปี่ยมโดยมิต้องสงสัยทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับเป็นกังวล“เรื่องนี้ ราชสำนักรู้หรือไม่เพคะ?”เซียวอวี้สวมกอดนางจากทางด้านหลัง ราวกับได้ครอบครองทั้งใต้หล้า“เราเคยเรียกพบขุนนางคนสำคัญหลายคนในราชสำนักตั้งแต่แรก เพื่อบอกเรื่องนี้กับพวกเขา พวกเขาต่างก็คิดว่า เราสมควรทำเช่นนี้“วันนี้ประชุมราชกิจ เราก็ประกาศกับเหล่าขุนนางอย่างเป็นทางการแล้ว ทว่าก็มีบางคนคัดค้านเช่นกัน แต่เราพูดเพียงว่า ‘ตอนนี้หนานฉีต้องโจมตีกับแคว้นอื่น ผู้ใดที่คัดค้าน เราจะให้ออกไปสนามรบ’ ดังนั้น พวกเขาก็พากันเงียบกริบ“เจ้าเห็นหรือไม่ เรื่องนี้มิได้ยากเย็น”ถึงแม้เขาเอ่ยออกมาดูเหมือนจะง่ายดาย เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับรู้ว่า เพื่อตราคำสั่งทหาร เขาต้องทุ่มเทความพยายามอย่างมากขุนนางใหญ่ในราชสำนักเหล่านั้น โดยเฉพาะขุนนางอาวุโส แต่ละคนมีฝีปา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 936

    เซียวอวี้กับเซียวฉีเริ่มจะขัดแย้งกันเขานึกไม่ถึงว่า เซียวฉีจะใส่ร้ายเขาต่อหน้าจิ่วเหยียนเช่นนี้“วาดภาพ” อะไรกัน เขาจำสิ่งใดมิได้เลย!เซียวฉีเล่าออกมาเป็นเรื่องเป็นราว“ตอนที่เขาออกไปเที่ยวเล่นกับเหล่าเสด็จพี่ อาภรณ์ของทุกคนเรียบร้อยกันหมด ทว่าของเขามักจะทำขาดอยู่เสมอ ซ้ำยังขาดตรงส่วนก้นด้านหลัง จนเห็นกางเกงลายดอกไม้ยามเหมันต์ และเพราะกลัวเสด็จพ่อจะทรงดุ จึงต้องเดินถอยหลัง“พอโตขึ้นมาหน่อย เขาก็ชอบไปเล่นกับสาวน้อยนางกำนัล...”“พูดจาเพ้อเจ้อ! เราเคยทำเรื่องแบบนั้นที่ไหนกัน!” เซียวอวี้ไม่ยอมรับ จึงตะโกนเรียกเฉินจี๋ให้เข้ามาทันที เพื่อใช้กำลังขับไล่เซียวฉีออกจากตำหนักหย่งเหอองค์หญิงใหญ่มิยอมให้เซียวอวี้อยู่อย่างสงบ ขณะถูกพาตัวไป นางยังพยายามจะหันกลับมา พร้อมตะโกน“สาวน้อยนางกำนัลไม่ยอมเล่นกับท่าน ท่านยังแกล้งนอนคว่ำอยู่บนพื้น ฮองเฮา เขายังชักดิ้นชักงอด้วย!”สีหน้าของเซียวอวี้หม่นคล้ำราวกับน้ำหมึก“ปิดปากนางไว้!”ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน เฉินจี๋ตื่นตระหนกจนมิรู้จะใช้วิธีใด จึงรีบทำให้ตัวคนหมดสติทันทีก่อนองค์หญิงใหญ่จะหมดสติ ก็ยังเหลือกตาขาวในตำหนักชั้นในขณะที่เซียว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 935

    ราชทูตจากแคว้นต่าง ๆ มาโดยพร้อมเพรียง และเข้าพักในโรงพักแรมเหล่าราษฎรได้ยินเรื่องนี้ ภายใต้แรงผลักดันจากความโกรธแค้น จึงรวมตัวกันไปก่อจลาจลที่โรงพักแรม เพื่อต้องการจะสั่งสอนกลุ่มราชทูตเหล่านั้นยังมีชาวยุทธภพบางส่วน อาศัยวิทยายุทธ์อันแข็งแกร่ง พยายามบุกเข้าไปในโรงพักแรมพวกเขาจับราชทูตมัดไว้ และพาออกไปด้านนอก เพื่อให้เหล่าราษฎรได้ขว้างปาผักเน่า และด่าประณามเหล่าราชทูตมิกล้าต่อต้าน และมิอาจต่อต้านได้ด้วยราชทูตของต้าเซี่ยมิอาจทนต่อความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้“ราษฎรเลวทราม! ราษฎรเลวทราม!! ข้าเป็นราชทูต พวกเจ้าทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้!”สิ่งที่เขาได้รับจากการขัดขืน คือฝ่ามือของเหล่าราษฎรเป็นเพราะคนเหล่านี้ ที่เกือบจะทำให้หนานฉีต้องล่มสลายพวกเขายังมีหน้ามาหนานฉีอีกหรือ?เหล่าราษฎรระบายความโกรธอยู่พักหนึ่ง ไม่นานก็ถูกทางการปราบปราม เหล่าราชทูตจึงได้รับการช่วยเหลือ แต่ละคนใบหน้าปูดบวมเขียวช้ำ สติมึนงงณ หอสุราใกล้เคียง ภายในห้องส่วนตัวบนชั้นสองราชทูตสองคนของแคว้นตงซานยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้านนอกโรงพักแรมหนึ่งในนั้นรู้สึกโชคดี“ท่านแม่ทัพหยวน โชค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 934

    เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเซียวอวี้ตื่นขึ้นมา ก็ไม่เห็นเงาของเฟิ่งจิ่วเหยียนแล้วคงจะตื่นเช้าไปฝึกยุทธ์อีกเป็นแน่เซียวอวี้เปลี่ยนอาภรณ์ด้วยตนเอง มิได้ให้ผู้ใดมารับใช้หลิวซื่อเหลียงยกอ่างน้ำร้อนเข้ามา “ฝ่าบาท ฮองเฮาทรงเสด็จไปที่คุกเทียนเหลาตั้งแต่เช้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้ขมวดคิ้วมุ่นนางไปคุกเทียนเหลาด้วยเหตุใด?ณ คุกเทียนเหลาระหว่างเฟิ่งจิ่วเหยียนกับถานไถเหยี่ยน มีเพียงประตูคุกคั่นอยู่หนึ่งบานถานไถเหยี่ยนนั่งสงบนิ่งอยู่ข้างกำแพง บนกำแพงที่อยู่ด้านหลังยังสลักภาพ “ใยแมงมุม” ไว้ ภายใต้แสงเงา ยิ่งขับเน้นให้เขาดูเยือกเย็นเป็นพิเศษ“ฮองเฮาเสด็จมาเอง คิดว่าคงมิได้มาเพื่อพูดคุยความหลังกับข้ากระมัง”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูดุดัน“แคว้นตงซานส่งราชทูตมาที่หนานฉี ก็เพื่อช่วยเหลือเจ้า”สีหน้าของถานไถเหยี่ยนดูเป็นปกติ“จะช่วยข้า หรือจะสังหารข้า ก็ไม่ต่างกัน”ดูเหมือนเขาจะถอดใจแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนถามขึ้นในทันที “อาจารย์เต็มใจจะอยู่ที่หนานฉีหรือไม่”ถานไถเหยี่ยนรู้สึกประหลาดใจ หลังจากตะลึงงันอยู่ชั่วขณะ ก็เงยหน้าขึ้นมองนางเห็นนางมีสีหน้าจริงจัง ไม่เหมือนพูดหยอกล้อ“ฮองเฮา ทรงมิอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 933

    ในเมื่อเป็นสามีภรรยากัน เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่มีสิ่งใดต้องปิดบังต่อเซียวอวี้ นางจึงบอกตามความจริง“ก็แค่จดหมายเพคะ”เซียวอวี้เลือกหยิบจดหมายขึ้นมาหนึ่งฉบับ เห็นบนนั้นเขียนว่า---[อาเหยียนที่รัก]สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา จากนั้นฝืนข่มความรู้สึกไม่พอใจนั้นไว้ และหันมายิ้มให้เฟิ่งจิ่วเหยียนพร้อมถามว่า“นี่ต้วนไหวซวี่เป็นคนเขียนทั้งหมดหรือ?”หว่านชิวยืนอยู่ด้านข้าง เหมือนจะรับรู้บางอย่าง ทว่าก็ยังไม่แน่ชัด และยังไม่เข้าใจหลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนเหลือบมองที่เซียวอวี้ ก็หันไปพูดกับหว่านชิว “เจ้าออกไปก่อน”“เพคะ ฮองเฮา”ในตำหนักชั้นในไม่มีผู้อื่น เหลือเพียงฮ่องเต้กับฮองเฮาสองคนเท่านั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนหยิบจดหมายฉบับนั้นมาจากมือเซียวอวี้ และเอ่ยอย่างจริงจัง“เรื่องในอดีต ฝ่าบาทจักสนพระทัยไปไยเพคะ”เซียวอวี้กลับคว้าข้อมือของนางไว้ “เราอยากอ่าน”เขาดูท่าทางจริงจังอย่างมาก “เราอยากรู้ว่า ในจดหมายของเขา เขียนอะไรบ้าง และยิ่งอยากรู้ว่า เจ้าตอบเขาว่าอย่างไร”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย“ฝ่าบาท...”เซียวอวี้เอ่ยแทรกคำพูดของนาง มองนางด้วยสายตาที่ยากจะเข้าใจ พร้อมกับย้อนถาม“ม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 932

    หลายวันก่อนเหล่าราชทูตก็ทยอยกันมาถึงแล้ว กำลังรอให้ฮ่องเต้ฉีเรียกเข้าเฝ้า เพื่อเจรจาเรื่องชดเชยการสงบศึกพวกเขามิอาจรบได้อีก และมิอาจเดิมพันได้ไหวหากหนานฉีโจมตีแว่นแคว้นของพวกเขาจริง ๆ จักต้องล่มสลายเป็นแน่ไม่เพียงแต่แคว้นเล็ก ๆ ที่ผู้คนรู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย แคว้นใหญ่อย่างต้าเซี่ยก็เช่นเดียวกันราชทูตต้าเซี่ยต้องการจะเข้าเฝ้าองค์หญิงใหญ่ เพราะหวังว่าองค์หญิงใหญ่จะออกหน้า ประสานความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้นทว่า แม้แต่ประตูจวนองค์หญิงใหญ่พวกเขาก็ยังมิอาจเข้าไปได้เหล่าราชทูตอยู่รวมกัน ต่างมองหน้ากัน และถอนหายใจพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย“เฮ้อ!”“ทุกท่าน พวกท่านจะยอมจำนนต่อข้อเรียกร้องของหนานฉี ยอมยกดินแดนตามที่พวกเขาต้องการจริงหรือ?”“แล้วจะอย่างไร? พวกเรายังมีทางเลือกอื่นอีกหรือ?”“พวกเรามิใช่เป่ยเยี่ยน ไม่มีกองกำลังมากพอที่จะต่อสู้กับหนานฉีได้ การสงบศึกถึงจะรับประกันความสงบสุขได้”เหล่าราชทูตสีหน้าซีดเผือด ราวกับแบกภูเขาลูกใหญ่ หายใจแทบไม่ออกหากรู้แต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ ตอนนั้นคงจะไม่เข้าร่วมกับการสู้รบครั้งนี้......จันทราลอยอยู่บนกิ่งไม้ ม่านราตรีมาเยือนงานเลี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 931

    เฟิ่งจิ่วเหยียนสังเกตว่า หลังจากเซียวอวี้ได้พบกับอาจารย์ศิษย์ทั้งสองคน หลายวันต่อมาหลังจากนั้นดูเหมือนในใจมีเรื่องครุ่นคิด คิ้วขมวดปมไม่คลาย คิดดูแล้วอาจจะวิตกกังวลเรื่องของมนุษย์โอสถขณะที่นางขี่ม้าอยู่ด้านหน้าเพื่อเปิดทาง จะรู้สึกอยู่เสมอว่ามีสายตาหนึ่งกำลังจ้องมองนางเมื่อหันกลับมา ก็มองเห็นเพียงเซียวอวี้ ใบหน้าเขาไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ดวงตาดำคล้ำคู่นั้นลึกล้ำยากจะหยั่งถึง มองไม่ออกว่าเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่ต้นเดือนเจ็ดกองทัพใหญ่ได้รับชัยชนะ และกลับมาถึงเมืองหลวงผู้คนในเมืองหลวงพากันออกจากบ้านเรือน มายืนอยู่ริมถนนสายหลักเพื่อต้อนรับกองทัพใหญ่ชาวบ้านต่างเปล่งเสียงด้วยความยินดี“ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี!”“ฮองเฮาทรงเกรียงไกร!”เด็กตัวเล็ก ๆ ก็ถูกพ่อแม่จับยกขึ้นเหนือศีรษะ เพื่อมองดูฉากเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ผู้คนพากันพูดปากต่อปาก“ว่ากันว่าฝ่าบาททรงนำทัพด้วยพระองค์เอง จนพลิกสถานการณ์เลวร้าย แก้ไขวิกฤตในเมืองเซวียน ทหารกองทัพศัตรูก็ถูกจับกุมทั้งหมด”“ชายแดนเหนือกับชายแดนตะวันออกสร้างการป้องกันขึ้นมาใหม่! แคว้นต่าง ๆ ถูกหนานฉีพวกเราตีพ่ายจนหวาดกลัว คงมิกล้ามารุกรานอีกเป็นแน่!”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 930

    ห้องชงชาในโรงพักแรมหมอทหารและลูกศิษย์ถูกพาเข้ามา ทำความเคารพฮ่องเต้บนพระที่นั่งหลักเซียวอวี้ล้างมืออย่างง่าย ๆ ใส่เสื้อคลุมสบาย ๆ แต่มิอาจปกปิดรังสีสูงส่งของฮ่องเต้ได้ ผมดำขลับมัดรวบด้วยผ้ายาวประดับมุขขาว คิ้วคมเด่นชัด ดูแข็งแรงกำยำ“ในเมื่อเป็นหมอทหาร เหตุใดไม่ตามกองทัพใหญ่ไป แต่กลับแอบหนีมาที่แห่งนี้?” เมื่อเผชิญกับคำซักถามของฮ่องเต้ หมอทหารก็อธิบายอย่างไม่เร่งรีบ“ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยได้รับคำสั่งในยามคับขัน หาใช่หมอทหารที่แท้จริงไม่”สิ้นคำกล่าว ก็มีคนเดินเข้ามาในห้องชงชา“ฝ่าบาท” ผู้มาคือเฟิ่งจิ่วเหยียนเมื่อเซียวอวี้เห็นนาง ก็รีบลุกขึ้น น้ำเสียงฟังดูตำหนิเล็กน้อย“ทำไมไม่นอนอีก?”เฟิ่งจิ่วเหยียนโค้งให้เขาเล็กน้อย จากนั้นก็นั่งลงพร้อมกับเขา แนะนำอาจารย์กับลูกศิษย์สองคนนั้นอย่างเป็นทางการ“เรื่องนี้หม่อมฉันเลินเล่อเอง ฝ่าบาท ตอนนั้นหม่อมฉันประสบภัยในภูเขาหิมะเทียนฉือ และได้รับการช่วยเหลือจากพวกเขา”สีหน้าของเซียวอวี้ผ่อนคลายลง ไม่ดุดันเหมือนก่อนหน้านี้เขารีบออกคำสั่ง“ที่แท้ก็เป็นสองคนนี้นี่เอง เชิญนั่ง”หมอเทวดาเฒ่ารีบโค้งคำนับ“มิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ข้าน้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status