แชร์

บทที่ 892

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
ซ่านชุนที่ได้รับหน้าที่อันใหญ่หลวง โดยการควบคุมทหารม้าของทั้งสี่แคว้นนั้น

เขารู้ดีว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนคือขวากหนามที่เป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับพวกเขา ในการโจมตีด่านเฉาอวี่๋ในครั้งนี้

นางเก่งในการนำทัพออกรบยิ่งนัก รัฐเหลียงที่อยู่แดนเหนือยังถูกนางตีจนแตกพ่ายกลายเป็นรัฐบริวารแล้ว นับว่าความสามารถของนางมิอาจดูถูกได้เลยจริง

ยิ่งกว่านั้น เมื่อวานนางยังสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาอย่างแสนสาหัสอีกด้วย

สร้างเนินฝังศพขึ้นมา โหดเหี้ยมและน่าขวัญผวายิ่งนัก!

ทำเอาเขาอยากจะสังหารสตรีนางนั่นเดี๋ยวนี้เลย!

รองแม่ทัพพลางเอ่ยปลอบใจออกมาว่า “ท่านแม่ทัพวางใจได้ขอรับ สายลับของพวกเราสามารถสังหารกวนไหลอิ้งได้ เช่นนั้นย่อมต้องสังหารฮองเฮาแห่งหนานฉีได้เช่นกันขอรับ!”

ซ่านชุนนึกอยากกินเนื้อแกะขึ้นมาอีกแล้ว

ทว่า เมื่อนึกไปถึงโคลงตลกขบขันที่ชาวหนานฉีตั้งขึ้นมานั้น กล่าวว่าเขากินเนื้อวัวเนื้อแกะ ก็เพื่อกลบกลิ่นที่ติดตัวของตนเอง นั่นจึงทำให้เขาอดที่จะรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาไม่ได้

กลุ่มหนานฉีพวกนั้น! ช่างน่ารังเกลียดยิ่งนัก!

ซ่านชุนพลางเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาว่า “หาใช่สตรีนางนั้นเพียงผู้เดียวไม่ ยังมีบัณฑ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (5)
goodnovel comment avatar
BoZi
คู่ซี้ผีผลัก รุ่ยอ๋องกับหร่วนฝูอวี้ เดี๋ยวได้กันแน่ๆ
goodnovel comment avatar
Orawin
สงสารรุ่ยอ๋องง่ะ
goodnovel comment avatar
Noi JN Phankhampha
สงสารรุ่ยอ๋องจัง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 893

    หร่วนฝูอวี้มิคิดเลยว่ารุ่ยอ๋องจักขี้สงสัยเช่นนี้นางจึงได้แต่แย้มยิ้มออกมา พลางเอ่ยอธิบายออกมาว่า “ข้าก็แค่กลัวว่าเจ้าจักทำให้ลูกตกใจ~”บ้าเอ๊ยเหตุใดเขาถึงหลงใหลในตัวเด็กขึ้นมารุ่ยอ๋องนึกว้าวุ่นใจยิ่งนัก ก่อนจะจ้องมองหร่วนฝูอวี้อย่างละเอียด“เจ้ามิได้มีอะไรปิดบังข้าอยู่จริง ๆ ใช่หรือไม่?”หร่วนฝูอวี้พลางหัวเราะออกมา“ไม่มี”เขามีรสนิยมชายรักชาย มิใช่ต้องไปตามหาบุรุษมาบันเทิงรื่นเริงจิตใจหรืออย่างไร? เหตุใดทั้งวันเอาแต่มาจ้องดูท้องของนางอยู่ได้เล่า?ทำเอานางหาโอกาสกำจัด “ลูกน้อย”ของตนเองมิได้เลย!รุ่ยอ๋องเก็บงำความสงสัยของตนเองเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยกำชับนางว่า “เด็กคนนี้จักต้องปลอดภัย”หร่วนฝูอวี้: ?ในที่สุด นางก็เข้าใจแล้วว่าความรู้สึกแปลก ๆ นี้คืออะไรกันแน่!ระหว่างที่เดินทางมา รุ่ยอ๋องมักจักกล่าวว่าเด็กคนนี้จักต้องเป็นเช่นไร อย่างเช่น ลูกต้องกินข้าวแล้ว ลูกต้องพักผ่อนแล้วที่แท้เขาต้องการให้นางเป็นเพียงสตรีที่อุ้มท้องลูกเท่านั้น!บุรุษผู้นี้น่าตายยิ่งนัก!……สองวันต่อมา หร่วนฝูอวี้จึงพารุ่ยอ๋องเข้าไปยังชายแดนหนานเจียงในทันทีรุ่ยอ๋องทำตามคำแนะนำของนางอย่างเคร่งครัด ระ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 894

    ดวงตาของรุ่ยอ๋องพลันแฝงไปด้วยความลึกล้ำในทันทีหนานเจียงอ๋องยังคงหวาดระแวงว่าหนานฉีจักมีเจตนาอื่นแอบแฝง จึงได้คิดจับเขามาเป็นตัวประกันเช่นนี้รุ่ยอ๋องพลันจับมือของหร่วนฝูอวี้ขึ้นมาต่อหน้าหนานเจียงอ๋อง“หากเป็นเรื่องของทางการแล้ว เราย่อมต้องนำทัพโจมตีและถอยทัพพร้อมทหารสามหมื่นนาย“ทว่า หากเป็นเรื่องส่วนตัวของตนเอง เราอยากจะอยู่รอพระชายาคลอดบุตรอยู่ที่หนานเจียงแห่งนี้”หร่วนฝูอวี้พลางเอนตัวไปพิงไหล่ของรุ่ยอ๋อง ก่อนจะจับแขนออดอ้อนออเซาะเขาด้วยท่วงท่าที่คุ้นเคย “ท่านอ๋อง~~ท่านดีกับหม่อมฉันยิ่งนัก หม่อมฉันทราบซึ้งใจท่านเป็นอย่างยิ่งเพคะ”นางจริงจังกับการแสดงของตนเองมากเกินไป จนมิรู้สึกตัวเลยว่าหน้าอกของตนเองกำลังถูไถกับแขนของรุ่ยอ๋องอยู่รุ่ยอ๋องรู้ว่านางแค่แสดงเล่น ๆ เท่านั้น ทว่า เขาก็ยังมิคุ้นชินกับการกระทำเช่นนี้ของนาง ทั่วร่างพลันแข็งทื่อไปในทันที พร้อมกับใบหูที่ค่อย ๆ แดงขึ้นมาเล็กน้อยหนานเจียงอ๋องพลางแย้มยิ้มขึ้นมาอย่างมีความหมาย“ในเมื่อทั้งรุ่ยอ๋องและพระชายารักใคร่กันเช่นนี้ ได้ เราอนุญาต! นำกำลังพลของหนานฉีทั้งสามหมื่นนายเข้ามาหนานเจียงได้เลย พวกเราจักมีรบร่วมรบมีศึกร่วม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 895

    หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนสังหารหมอทหารผู้นั้นแล้ว ก็ได้เลือกคนที่มีรูปร่างไม่ต่างจากหมอทหารคนนั้น มาปลอมกายให้เหมือนกัน เพื่อล่อให้คนมาตกหลุมพรางหลังจากที่นางรั้งรอเวลาผ่านไปสองสามวัน สายลับของศัตรูก็ปรากฏตัวขึ้นสายลับไปพบหมอทหาร เพื่อที่ต้องการจะลงมือวางยาพิษสังหารเฟิ่งจิ่วเหยียน เหมือนกับแผนการในคราก่อน ทว่า เขามิคิดเลยว่าอันตรายจะมารั้งรออยู่ด้านหลังของตนเองแล้วเช่นนี้เขาถูกองครักษ์เงาจับได้คาหนังคาเขา ยาพิษที่อยู่ในปากนั้นถูกนำออกมาแล้ว เพื่อป้องกันมิให้เขาปลิดชีพตนเองสายลับผู้นี้ รูปร่างผายผอม หากไปอยู่ท่ามกลางหมู่คนมากมายละก็ ย่อมมิเป็นที่สะดุดตาทว่า กลิ่นอายท่าทีที่นิ่งเงียบและสงบเสงี่ยมของเขานั้น แตกต่างจากคนปกติทั่วไปถึงแม้จะถูกจับได้ แต่เขาก็ยินยอมพร้อมที่จะตาย พลางก้มหน้ามองดูพื้นด้วยท่าทีใจเย็น มิพูดมิจาอันใดออกมาเฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูเขาด้วยสายตาเย็นชา หลังจากประเมินดูคนตรงหน้าแล้วนั้น นางจึงสั่งการออกมาอย่างเรียบง่ายว่า“โยนออกไปจากด่านเฉาอวี๋”มิมีการสอบสวน มิมีการทรมาน เพียงแค่ปล่อยตัวสายลับออกไปเท่านั้นหยิ่นซานและคนอื่นๆ ต่างก็มีท่าทีงุนงงไปในทันทีแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 896

    เหล่าราษฎรที่ได้รับข่าวสารกันอย่างกว้างขวางนั้นเมื่อทุกคนรู้ว่าฮองเฮาเสด็จไปยังชายแดนตะวันออก ทั้งยังออกรบจนแคว้นต้าเซี่ยและกองกำลังพันธมิตรทั้งสี่แคว้นถอยร่นออกไปไกลนับสิบลี้ยังมิทันที่ราชสำนักจักประกาศเฉลิมฉลองออกมา เหล่าราษฎรก็พากันยินดีกันถ้วนหน้าไปแล้วนักเล่าเรื่องบนท้องถนน บัณฑิตในร้านน้ำชา ต่างก็เอ่ยถึงความสำเร็จของฮองเฮายังกว้างขวาง“เมื่อเหล่าแคว้นที่อยู่รอบด้านรวมกำลังพลโจมตีหนานฉีนั้น ฟังดูน่ากลัวยิ่งนัก ที่แท้ทุกอย่างก็เพียงแค่โครงประดับ! ในยามนี้ พวกเขายังไม่มีปัญญาฝ่าแนวป้องกันชายแดนของหนานฉีของพวกเราเข้ามาได้ภาคใต้ได้ ช่างน่าขันเสียจริง!”“ชายแดนเหนือของพวกเรามีค่ายทหารเหนือที่กล้าหาญชาญชัย ทั้งยังมีรัฐเหลียงที่กำลังร่วมปกป้องชายแดนหนานฉีอีก หนานเจียงเองมีกองกำลังเสริมของรุ่ยอ๋อง ทางชายแดนตะวันตกมีหนานซานอ๋องผู้แกร่งกล้า ยามนี้ชายแดนตะวันออกมีฮองเฮา ทั้งยังเคยเป็นเทพสงครามแห่งค่ายทหารเป่ยต้าอีก! เวลานี้กองกำลังพันธมิตรล้ำเลิกที่จะบุกเข้ามาโจมตีหนานฉีของพวกเราไปได้เลย!”“ข้าได้ยินมาว่าฮองเฮาสร้างเนินฝังศพขึ้นมา เพื่อทำลายขวัญกำลังใจของกองทัพฝ่ายศัตรู ทำเอาแคว้นต้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 897

    นับตั้งแต่ที่มู่หรงหลันสมคบคิดกับพรรคเทียนหลงนั้น ทั้งยังวางแผนบีบบังคับนางในวัดอีก ตระกูลมู่หรงก็ถูกฝ่าบาทจงเกลียดจงชังในทันทีไทฮองไทเฮาที่ถูกจองจำอยู่ที่ภูเขาอวี้หยางนั้น ตระกูลมู่หรงย่อมมิมีสิทธิ์อันใดที่จักไปเอ่ยพูดต่อหน้าฮ่องเต้ได้อีกนับว่าโชคดีที่ฝ่าบาททรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าให้พวกเขาได้เข้ามาเยี่ยมเยียนไทฮองไทเฮาได้บ้างทว่า ไทฮองไทเฮาหาได้ดีใจที่ได้เห็นบุตรหลานเหล่านี้ไม่ยามที่นางยังเป็นสาวแรกรุ่นอยู่นั้น ก็จำเป็นต้องหาผลประโยชน์เพื่อตระกูลฝ่ายมารดา แม้นางจักแก่ชราแล้วในยามนี้ พวกเขาก็ยังมิวายปล่อยนางไปอีก!ผู้ที่มาเยือนภูเขาอวี้หยางในวันนี้ คือภรรยาของหลานชายที่ล่วงลับไปแล้วของนาง——ภรรยาเอกของบิดามู่หรงหลันนามว่าอันซื่อ และหลานชายหลานสาวของตระกูลสายรองอีกจำนวนหนึ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับใบหน้าซีดเซียวของเหล่าลูกหลานนั้น ไทฮองไทเฮาหาได้ปล่อยโอกาสให้พวกเขาเอ่ยอันใดออกมาไม่ พลางเอ่ยออกมาตามตรงว่า“เราถูกมู่หรงหลันทำร้ายจนต้องตกมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ พวกเจ้ายังคิดให้เราทำอันใดเพื่อพวกเจ้าอีกงั้นหรือ!“แต่นี้ไป พวกเจ้ามิจำเป็นต้องมาที่ภูเขาอวี้หยางอีกต่อไปแล้ว!”นางเพียงแค่ต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 898

    หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินทางไปยังชายแดนตะวันออกนั้น เซียวอวี้ก็เขียนจดหมายส่งถึงนางทุกวันไม่มีขาดแต่นางมักจะตอบเขากลับทุก ๆ สองสามวันเซียวอวี้หาได้คิดโทษนางไม่ ถึงอย่างไร นางที่อยู่ป้องกันศัตรูที่ชายแดนตะวันตกนั้น เขากลัวว่านางจักยุ่งจนมิมีเวลาแม้แต่จะกินข้าวกินปลา ชำระกายเลย การที่นางจักเขียนจดหมายตอบกลับมายามที่มีภารกิจติดพันตัวเป็นร้อยอย่างนั้น หาใช่เรื่องง่ายดายไม่ ทว่า เมื่อเซียวอวี้ได้ยินเฉินจี๋กล่าวว่า “ไม่มี” นั้น ภายในใจก็ทำเอารู้สึกผิดหวังขึ้นมาไม่ได้ที่เขาอยากเห็นจดหมายของนางนั้น นั่นเป็นเพราะเขาเป็นห่วงนาง อยากรู้ว่านางเป็นอย่างไรบ้างช่วงนี้เซียวอวี้ใช้มือข้างเดียวกุมหน้าผากของตนเองเอาไว้ ก่อนจะนวดคลึงไปที่หัวคิ้วของตนเอง พลางเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า: “ทางฝั่งของตงฟางซื่อเป็นเช่นไรบ้าง?”ตามแผนของเขาและจิ่วเหยี่ยนนั้น พวกเขาจักต้องทำให้กองกำลังศัตรูที่อยู่ชายแดนทั้งสี่ตั้งมั่นเสียก่อน เพื่อที่กองกำลังของตงฟางซื่อจักจัดการ “ใยแมงมุม” ให้สำเร็จเพราะเหตุนี้ เซียวอวี้จึงได้ส่งคนไปช่วยกลุ่มของตงฟางซื่อไม่น้อยเลยทีเดียวเฉินจี๋ตอบกลับด้วยท่าทีเคารพ“ไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 899

    กองกำลังพันธมิตรทั้งสี่ที่เตรียมกำลังพร้อมสู้รบนั้น พวกเขาต่างพากันมองไปยังด่านเฉาอวี๋ที่อยู่ไกล ๆ ราวกับลูกไก่ที่อยู่ในกำมือซ่านชุนมีความสุขยิ่งนัก เขาร่ำสุราลงไปหนึ่งถ้วย ก่อนจะร้องเพลงเสียงดังออกมา“ด่านเฉาอวี๋ ด่านเฉาอวี๋ สายลมพัดพาแขกมาเยือนนับหมื่นลี้! อีกไม่นาน ก็จักเป็นด่านเฉาอวี๋ของแคว้นต้าเซี่ยแล้ว!”ในวันเดียวกันนั้น ซ่านชุนก็ได้เขียนจดหมายส่งถึงจักรพรรดิ พลางเอ่ยเล่าเกี่ยวกับกองกำลังป้องกันของหนานฉี ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจว่า ชายแดนตะวันออกสามารถโจมตีได้ ขอให้พระองค์ช่วยส่งกองกำลังทหารมาเพิ่มอีกสามแคว้นก็ทำเช่นเดียวกัน พลันค่อย ๆ ทยอยส่งกองกำลังภายในแคว้นของตนเองออกมาศึกในครานี้ จักต้องได้ชัยกลับมาเท่านั้น!ในเมื่อหนานฉีไม่มีปืนมังกรไฟเช่นนี้ พวกเขาก็หามีอันใดให้ต้องกลัวไม่สำหรับเฟิ่งจิ่วเหยียนแล้ว แม้ว่าวรยุทธ์ของนางจักสูงส่งเพียงใด หากมิมีกำลังพลทหารที่เพียงพอ แม้แต่แม่บ้านแม่เรือนที่เฉลียวฉลาดก็มิสามารถหุงข้าวโดยไร้ข้าวสารไม่!แววตาของซ่านชุนพลันเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของนักสู้ในทันที“สั่งการลงไป ให้ทุกคนเตรียมจัดกระบวนทัพธนู!”“ขอรับ! ท่านแม่ทัพ!”พลั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 900

    หลังจากที่ฮ่องเต้แห่งต้าเซี่ยได้รับจดหมายของซ่านชุนนั้น เขาก็รีบสั่งการให้นำทัพใหญ่บุกเข้าไปตีด่านเฉาอวี๋ในทันทีหนึ่งเดือนต่อมา เมื่อกำลังเสริมจากทั้งสี่แคว้นมารวมตัวกันที่ด้านนอกด่านเฉาอวี๋นั้น กองกำลังพลันมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ขึ้นเป็นเท่าตัวกองทัพใหญ่จำนวนสองแสนนายนั้น กำลังยืนอยู่ด้านหน้าประตูเมือง มวลคนสีดำทมึนกำลังเคลื่อนที่มาอย่างรวดเร็วซ่านชุนผู้เป็นผู้นำของกองทัพนั้น พลันมีสีหน้ามืดครึ้มเขาต้องการสังหารพวกชาวหนานฉีที่หัวเราะเยาะเย้ยเขามานานแล้ว!“กระบวนทัพพลธนู เตรียมพร้อม!”เหล่าทหารที่มีหน้าที่รับผิดชอบธนูนั้น จึงก้าวขึ้นมาข้างหน้า พลางง้างคันธนูออกมาเพื่อเล็งไปที่กำแพงด่านเฉาอวี๋ในทันทีเมื่อเทียบกับธนูทั่วไปแล้ว หน้าไม้ของธนูนี้จักมีระยะยิงที่ไกลกว่า ทั้งยังมีความแม่นยำที่มากกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากนี้ กลไกที่ใช้หน้าไม้ดึงสายและยิงธนูนั้น ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากกว่าทว่า การทำธนูเช่นนี้ขึ้นมานั้น มีความซับซ้อนยิ่งนักทั้งลำกล้อง ข้อเหวี่ยง ตาแมวที่ใช้ในการเล็ง กลไกในการเหนี่ยวไกและอีกมากมายนั้น จำเป็นต้องใช้ช่างที่มีฝีมือละเอียดละออการทำธนูขึ้นมาหาใช

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 930

    ห้องชงชาในโรงพักแรมหมอทหารและลูกศิษย์ถูกพาเข้ามา ทำความเคารพฮ่องเต้บนพระที่นั่งหลักเซียวอวี้ล้างมืออย่างง่าย ๆ ใส่เสื้อคลุมสบาย ๆ แต่มิอาจปกปิดรังสีสูงส่งของฮ่องเต้ได้ ผมดำขลับมัดรวบด้วยผ้ายาวประดับมุขขาว คิ้วคมเด่นชัด ดูแข็งแรงกำยำ“ในเมื่อเป็นหมอทหาร เหตุใดไม่ตามกองทัพใหญ่ไป แต่กลับแอบหนีมาที่แห่งนี้?” เมื่อเผชิญกับคำซักถามของฮ่องเต้ หมอทหารก็อธิบายอย่างไม่เร่งรีบ“ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยได้รับคำสั่งในยามคับขัน หาใช่หมอทหารที่แท้จริงไม่”สิ้นคำกล่าว ก็มีคนเดินเข้ามาในห้องชงชา“ฝ่าบาท” ผู้มาคือเฟิ่งจิ่วเหยียนเมื่อเซียวอวี้เห็นนาง ก็รีบลุกขึ้น น้ำเสียงฟังดูตำหนิเล็กน้อย“ทำไมไม่นอนอีก?”เฟิ่งจิ่วเหยียนโค้งให้เขาเล็กน้อย จากนั้นก็นั่งลงพร้อมกับเขา แนะนำอาจารย์กับลูกศิษย์สองคนนั้นอย่างเป็นทางการ“เรื่องนี้หม่อมฉันเลินเล่อเอง ฝ่าบาท ตอนนั้นหม่อมฉันประสบภัยในภูเขาหิมะเทียนฉือ และได้รับการช่วยเหลือจากพวกเขา”สีหน้าของเซียวอวี้ผ่อนคลายลง ไม่ดุดันเหมือนก่อนหน้านี้เขารีบออกคำสั่ง“ที่แท้ก็เป็นสองคนนี้นี่เอง เชิญนั่ง”หมอเทวดาเฒ่ารีบโค้งคำนับ“มิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ข้าน้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 929   

    ณ จวนจู้กั๋วกง เมืองเซวียนองครักษ์เข้ามาในเรือนอย่างเร่งรีบ รายงานจู้กั๋วกงว่า“ใต้เท้า! กองทัพเยี่ยนจับฮ่องเต้เยี่ยน มุ่งหน้ามามอบตัว!”จู้กั๋วกงประหลาดใจเล็กน้อย“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ! ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใด?”จู้กั๋งกงรีบนำคนตรงไปที่นั่น จึงเห็นเพียง ฮ่องเต้เยี่ยนที่หิวจนผอมโซ ถูกกองทัพเยี่ยนจับมัดแขนมัดขา โยนทิ้งไว้บนพื้นกองทัพเยี่ยนถอดเสื้อเกราะออก คุกเข่าบนพื้น ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มขมขื่นอย่างเอาใจและประจบสอพลอ“ขอร้องพวกท่านล่ะ ให้อาหารข้ากินเถอะ…พวกข้ายอมแพ้แล้ว!”จู้กั๋วกงเหลือบมองฮ่องเต้เยี่ยนที่สลบบนพื้น จากนั้นก็ส่ายหน้าเกรงว่าฮ่องเต้เยี่ยนคงคาดคิดไม่ถึง ว่าตัวเองจะตกอยู่ในเงื้อมมือคนของตัวเองจิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึงจริง ๆจู้กั๋วกงออกคำสั่งเสียงแข็งกร้าว“จับพวกเขากลับไป คุมขังเอาไว้!”“รับทราบ!”ในคืนนั้น จู้กั๋วกงเขียนจดหมายด้วยตนเองหนึ่งฉบับ สั่งให้คนไปส่งให้ฝ่าบาทอย่างเร่งด่วนในเวลาเดียวกัน เซียวอวี้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงอยู่ระหว่างเดินทางกลับเมืองหลวงบนถนนที่พวกเขาเดินทางกลับ ล้วนมีประชาชนคอยต้อนรับตลอดทางคืนนี้ พวกเขาเข้าพักที่โรงพักแรม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 928     

    คำที่ผู้คุมโทษบอก ถานไถเหยี่ยนทำเป็นไม่สนใจดวงตาของเขามีเพียงใยแมงมุม สายตาว่างเปล่าทอดมองยาวไกล“สงครามข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง”ผู้คุมโทษถูกจ้างมาจัดการให้ ท่าทีจึงเคารพนอบน้อม“ฝ่าบาทเสด็จไปรบด้วยตัวเอง ปราบปรามกองทัพศัตรูในเมืองเซวียนได้แล้ว กองกำลังเสริมของแต่ละแคว้นก็ถูกจับไปเป็นเชลยหมด“ราชสำนักเกณฑ์ทหารทุกพื้นที่ เตรียมบุกโจมตีเป่ยเยี่ยนและแคว้นต้าเซี่ย คาดว่า แคว้นหนานฉีปลอดภัยแล้ว”สีหน้าของถานไถเหยี่ยนเฉยชา“เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับ ‘ใยแมงมุม’ หรือไม่”?ผู้คุมโทษนิ่งงันไปเล็กน้อย จากนั้นก็เรียกสติกลับมา“ท่านหมายถึงสนามกลไกของตระกูลตงฟางหรือ! ของสิ่งนั้นวิเศษมาก เผยแพร่ไปทั่วแคว้นหนานฉี ไม่ว่ากองทัพศัตรูจะปรากฏที่ไหน ก็จะถูกพวกเราขัดขวาง!”พูดถึงเรื่องนี้ ผู้คุมโทษก็รู้สึกมีเกียรติเขาหมกมุ่นอยู่กับการเล่าเรื่องราว จนไม่สังเกตเห็น ความเปลี่ยนแปลงของถานไถเหยี่ยน ภายในห้องขังถานไถเหยี่ยนหันมา เผชิญหน้ากับเขา ถามเสียงเข้มว่า“สนามกลไกของตระกูลตงฟาง?”ผู้คุมโทษพยักหน้าอย่างหนักแน่น“ใช่แล้ว! ตระกูลตงฟางนั่นแหละ! คุณชายตงฟางนำกองทัพใหญ่สร้างสนามกลไกขึ้นมา เพียงเส้นทา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 927

    เมืองเซวียนกองทัพศัตรูภายในเมือง นอกจากกองทัพเยี่ยนที่ถอยกองกำลังไปอยู่ภูเขาจิ่วเหลียน กองทัพอื่นล้วนถูกจับเป็นเชลยเชลยศึกถูกบังคับให้ถอดเสื้อเกราะ วางอาวุธลง ถึงจะถูกปล่อยออกไปจากเมืองเซวียนธนูแต่ละแบบของแคว้นต้าเซี่ย ล้วนถูกทิ้งไว้ในเมืองเซวียน เสียไปให้กองทัพแคว้นหนานฉีอย่างสูญเปล่าเดิมทีซ่านชุนอยากทำลายธนูเหล่านั้นทิ้งก่อนทว่า ยามที่พวกเขาวางอาวุธนั้น ต่างมีกองทัพแคว้นหนานฉียืนเฝ้าอยู่ข้าง ๆ ต่อให้เขาอยากเล่นตุกติก ก็ไม่มีโอกาสในสภาพอากาศหนาวเหน็บ เหล่าทหารกองทัพพันธมิตรออกไปจากเมืองเซวียนด้วยอาภรณ์ชิ้นบางเมื่อเห็นท่าทางหมดสภาพของกันและกัน ต่างคนต่างไม่ส่งเสียงออกมาซ่านชุนหันกลับไปมองเมืองเซวียน ปฏิญาณกับตัวเองว่า——เขาต้องได้นำกองทัพใหญ่โจมตีกลับอีก!หากไม่ใช่เพราะพวกเขาถูกลอบโจมตีโดยที่ไม่ได้เตรียมตัว  กินนอนก็ลำบาก กำลังทหารเบาบางลง  คงไม่แพ้จนมีสภาพน่าเวทนาขนาดนี้เหล่าเชลยศึกถูกส่งมายังค่ายทหาร ถูกควบคุมโดยแคว้นหนานฉีเข้าด้วยกันข้อดีของการถูกจับเป็นเชลยคือ มีอาหารให้กินในที่สุดถึงแม้ทุกคนจะได้กินแค่โจ๊กหนึ่งถ้วย หมั่นโถวหนึ่งลูก ก็ยังดีกว่าถูกขังอยู่ในเมือ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 926

    หร่วนฝูอวี้ดิ้นรนอยู่นาน จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“เฮ้อ! เจ้าโง่ จริง ๆ แล้ว…คืนนั้นเจ้าหลับอย่างกับหมูตาย เจ้าไม่ได้ร่วมหอกับข้าเลยสักนิด”รุ่ยอ๋องได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าพลันหม่นลงเขาแทบไม่อยากจะเชื่อเนื้อความที่เขาได้ยิน“เจ้า ว่าอะไรนะ?”ไม่ได้ร่วมหอ?แล้วเด็กคนนั้นล่ะ?สายตาที่หร่วนฝูอวี้มองมายังเขา เจือไปด้วยความสงสารไม่น้อยเขาโง่ถึงเพียงนี้เลยหรือ ตัวเองทำหรือไม่ทำก็ยังไม่รู้ หลังจากนี้กลัวจะถูกคนหลอกง่าย ๆ“ไม่ได้ร่วมหอ และไม่มีลูกด้วย เข้าใจหรือไม่?” นางพูดอย่างละเอียดอ่อนรุ่ยอ๋องออกแรงจับข้อมือของนาง จดจ้องนางแน่นิ่ง นัยน์ตาที่เคยสงบสุข ย้อมไปด้วยโทสะหลายส่วน“ไม่มีลูก? แล้วชีพจรครรภ์คืออะไร”เขานิสัยดี จนถึงเวลานี้ยังคุมอารมณ์อยู่หร่วนฝูอวี้ตอบกลับ“วิชาไสยเวทของหนานเจียง ข้าใช้วิชาไสยเวทสร้างขึ้นมา”รุ่ยอ๋องเข้าใจในทันที ไม่แปลกใจเลย ที่ครรภ์ของนางจะดูออกช้าขนาดนี้ที่แท้ไม่ใช่เพราะนางรักษารูปร่าง แต่นางไม่ได้ตั้งท้องเลยต่างหาก!นางโกหกเขามาตลอด!นางโกหกเขาได้อย่างไร…รุ่ยอ๋องรู้สึกแน่นหน้าอกหายใจลำบาก ทั่วทั้งร่างกายเหมือนมีไฟแผดเผา“ข้าไปทำอะไรให

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 925

    แคว้นหนานฉี ณ เมืองหลวงเหล่าราษฎรต่างใส่ใจสถานการณ์สงครามเป็นอย่างมาก เกรงว่าแคว้นหนานฉีจะล่มสลายทว่ากลับได้ยินข่าวว่าแคว้นหนานฉีจะบุกโจมตีกลับแคว้นเป่ยเยี่ยนและแคว้นต้าเซี่ยแล้ว“นี่เป็นเรื่องจริงหรือ?”“ก็เรื่องจริงน่ะสิ ข้ามีหลานคนหนึ่งอยู่ในค่ายทหาร เขาเขียนจดหมายกลับมา บอกว่าพวกเราไม่ต้องกังวลแล้ว ช่วงอันตรายของแคว้นหนานฉีได้ผ่านพ้นไปแล้ว ตอนนี้ผู้ที่ต้องกังวลว่าแคว้นจะล่มสลายคือแคว้นเป่ยเยี่ยนและแคว้นต้าเซี่ย แล้วก็แคว้นอื่น ๆ !”ข่าวนี้ทำให้คนยินดียิ่งราษฎรทุกคนมีความสุขจนกระโดดโลดเต้นจากนั้นก็ได้ยินอีกว่าราชสำนักกำลังเกณฑ์ทหาร“ประกาศการเกณฑ์ทหารได้ติดไปทั่ว ดูเหมือนว่าข่าวทั้งหมดจะเป็นเรื่องจริง!”“ข้าจะเข้าร่วมกองทัพ! สามารถขยายดินแดนเพื่อแคว้นหนานฉีได้ เป็นการสร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูล!”“ข้าจะไปลงชื่อ! แคว้นเป่ยเยี่ยนและแคว้นอื่น ๆ ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ทำผิดต่อแคว้นหนานฉีเรา จะให้พวกเขาอยู่อย่างสุขสบายไม่ได้!”การรับสมัครทหารขยายกำลังพลของราชสำนักในครั้งนี้ จำนวนคนที่มาสมัครมากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนถึงอย่างไรพอผ่านประสบการณ์แคว้นเกือบล่มสลายมา เหล่าราษฎรต่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 924

    “เสด็จพี่สะใภ้! ไม่เจอกันนานเลยเพคะ!” องค์หญิงน้อยทำการถวายคำนับตามธรรมเนียมในวังนางสวมชุดกระโปรงแบบสบายตัว ใบหน้าแดงระเรื่อ ลมหายใจหอบแฮ่ก ๆจากนั้นก็หันกลับมาถวายคำนับให้เซียวอวี้ต่อ“คารวะฝ่าบาท!”เฟิ่งจิ่วเหยียนถามอย่างไม่แปลกใจ“เหตุใดองค์หญิงจึงเข้าเมืองมาเล่า?”ทหารศัตรูในเมืองนี้ถูกควบคุมตัวเอาไว้เกือบหมดแล้ว ทว่าไม่อาจรับประกันได้ว่าจะปลอดภัยทั้งหมดใบหน้าองค์หญิงน้อยยิ้มแย้มดุจดอกไม้ ไม่มีท่าทีกลัวการสู้รบแม้แต่น้อย“ข้ามากับเสด็จพ่อ เสด็จพ่อเข้าเมืองมาส่งเสบียง ข้าสามารถช่วยได้นะ”เซียวอวี้ไม่คิดเช่นนั้น“เด็กน้อยคนหนึ่งอย่างเจ้า จะช่วยอะไรได้”องค์หญิงน้อยเท้าสะเอวด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วตอบอย่างไม่พอใจว่า“เสด็จพี่ฮ่องเต้ ท่านอย่าดูถูกคนอื่น“ข้าเติบโตในเมืองเซวียน สามารถบอกทางให้พวกเขาได้นะ!“จริงสิ เหตุใดพวกท่านจึงอยู่ที่โรงพักแรมหลวงนี่ ไม่ไปพักที่จวนกั๋วกงล่ะ? ที่นี่อัตคัดเกินไปแล้ว”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“หากในเมืองมีข้าศึกเคลื่อนไหว การพักอยู่ที่โรงพักแรมหลวงจะนำทหารออกไปได้สะดวกกว่า”องค์หญิงน้อยพยักหน้า จากนั้นสายตาก็ตกอยู่ที่มือข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 923

    เมื่อสองแคว้นสู้รบกัน ไม่อาจฆ่าราชทูตที่มาเยือนได้ราชทูตของต้าเซี่ยถูกนำตัวไปที่อำเภอหลิวที่อยู่ใกล้เมืองเซวียนผู้สูงศักดิ์ที่นั่งอยู่ด้านบนก็คือฮ่องเต้เซียวอวี้ราชทูตฝีปากคมกล้า ได้อธิบายว่าแคว้นต้าเซี่ยมาเจรจาสงบศึกด้วยความจริงใจ ทั้งยังหยิบยกเรื่องที่ว่าแคว้นหนานฉีและแคว้นต้าเซี่ยนั้นเป็นญาติพี่น้องกัน สาธยายไปจนถึงความสัมพันธ์กับองค์หญิงใหญ่เซียวอวี้นั่งอยู่บนที่นั่งประธาน ดื่มชาทีละคำ ดูไปแล้วเหมือนกำลังฟังอยู่ แต่กลับทำให้คนรู้สึกถึงความทระนงไม่อีนังขังขอบจนกระทั่งราชทูตนั่นพูดจบ เซียวอวี้ก็เหลือบตามองอย่างเย็นชา แววตาคมกริบดั่งธนู“เจรจาสงบศึก?”ราชทูตรีบถวายสาส์นตราตั้งที่เตรียมมาขึ้นไปทันทีหลังจากอ่านสาส์นตราตั้งจบ เซียวอวี้ค่อย ๆ ลุกขึ้น เงาร่างสูงใหญ่ราวกับกรงเล็บของสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่ไร้รูปร่างลงมาบีบคอราชทูตเอาไว้ราชทูตไม่กล้าเงยหน้าสบตาอันน่าเกรงขามของฮ่องเต้ เขาหลุบตาลง รู้สึกเพียงว่าลมหายใจติดขัดในความเงียบเชียบเพียงช่วงสั้น ๆ ไม่กี่ลมหายใจนั้น ราชทูตได้รับความทุกข์ทรมานอย่างยิ่งจากนั้นเซียวอวี้ก็เปิดปากแววตาของเขาแฝงไปด้วยนัยยิ้มเยาะ“เจ้าจะมาเจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 922

    แคว้นเป่ยเยี่ยน ณ จวนอัครเสนาบดีอัครเสนาบดีผู้ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการขมวดคิ้วแน่น ไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสุขสงบมาหลายคืนแล้วขุนนางใต้บังคับบัญชาเข้ามารายงานสถานการณ์การรบด้วยท่าทางแตกตื่น“ใต้เท้า! แย่แล้วขอรับ! กองหนุน...กองหนุนที่ส่งไปแคว้นหนานฉี ล้วนถูกกองทัพหนานฉีล้อมปราบ บ้างก็ตาย บ้างก็ถูกจับกุม!”อัครเสนาบดีที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงสุดพลันลุกขึ้นยืน“เมืองเซวียนหรือ? พวกฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง?”“ไม่ทราบเลยขอรับ จนถึงยามนี้ไม่มีข่าวมาจากเมืองเซวียนเลยขอรับ...”พูดยังไม่ทันจบ ขุนพลท่านหนึ่งก็เร่งรีบมาถึงจวนอัครเสนาบดี “ท่านอัครเสนาบดีขอรับ! เกิดเรื่องแล้ว! เมืองเซวียนเกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”อัครเสนาบดีพลันรู้สึกใจสั่นนี่ยังจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกหรือ?ขุนพลผู้นั้นส่งของที่นำมาขึ้นไป แล้วพูดอธิบายด้วยสีหน้าซีดขาว“นี่คือสาส์นตราตั้งจากแคว้นหนานฉี ต้องการประกาศสงครามกับแคว้นเป่ยเยี่ยนของเราขอรับ ทั้งยังบอกอีกว่าเมืองเซวียนถูกกองทัพหนานฉียึดเอาไว้แล้ว เป็นไปได้มากว่าฝ่าบาทกับเหล่าทหารอาจจะกลับมาไม่ได้แล้วขอรับ!”เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา เหล่าขุนนางรวมถึงอัครเสนาบด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status