Share

บทที่ 712

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
ใต้ฝ่าเท้า เกลื่อนกลาดไปด้วยศพ

หลังจากพวกองครักษ์ขึ้นไปบนภูเขาเทียนฉือ ถึงแม้ลงเขามาก่อนเฟิ่งจิ่วเหยียน ทว่ากำลังกายยังไม่ฟื้นคืนกลับมา

พวกเขาพยายามปกป้องเฟิ่งจิ่วเหยียน ล้วนตายอยู่ภายใต้ดาบของนักฆ่า

นักฆ่าก็ตายไปกว่าครึ่ง

ที่เหลือยี่สิบกว่าคน ล้อมรอบเฟิ่งจิ่วเหยียนกับอู๋ไป๋ไว้

ภาพตรงหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนปรากฏเป็นเงาภาพซ้อน ข้างหูเสียงดังอื้อ ได้ยินเสียงกรีดร้องของอู๋ไป๋อย่างเลือนราง

“นายท่าน ท่านรีบไป!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ดี พวกเขาหนีไม่พ้นแล้ว

บางที นี่ก็คือแผนลวงตั้งแต่แรกแล้ว

หลอกล่อนางมายังภูเขาหิมะเทียนฉือ รอหลังจากนางสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมด ค่อยลงมือฆ่า...

เฟิ่งจิ่วเหยียนหายใจหนักหน่วง แม้แต่เรี่ยวแรงถือดาบก็ไม่มีแล้ว

นางถือดาบไว้ ร่างกายโอนเอนเล็กน้อย

ติ๋งๆ!

ติ๋ง ๆ...

เลือดสีแดงเข้ม ไหลหยดออกมาจากปากของนาง

“นายท่าน!” ดวงตาอู๋ไป๋แดงจางๆ

นักฆ่าที่หลงเหลือพวกนั้นก็ล้วนได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อย

พวกเขาไม่คิดว่า ซูฮ่วนคนนี้จะฆ่ายากมากขนาดนี้

ทว่าตอนนี้นางโดดเดี่ยวไม่มีใครช่วย

ตูม...

มีเสียงดังมาจากบนยอดเขาหิมะ

ทุกคนเงยหน้ามอง จากนั้นดวงตาล้วนเบิกกว้าง

“หิมะถล่ม!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Nichaphat
สงสาร อู๋ไป๋ อย่าดุ นาง นางก็ทำตามคำสั่งง
goodnovel comment avatar
Prig Pannasa
ฮือออ สงสารอู่ไป๋อ่ะะะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 713

    อู๋ไป๋พุ่งออกไป กอดขาเซียวอวี้ไว้“ฝ่าบาท แม่ทัพน้อยไม่เป็นไร นางจะไม่เป็นไร ใช่หรือไม่!”เขาเข้าใจแล้ว!แม่ทัพน้อยรู้ หากนางมีอันตราย เขาต้องไม่ไปไหน เพื่อให้เขารีบไปอย่างรวดเร็ว นางสร้างเรื่องหลอกลวงว่าป้ายหยกมีความลับ ภารกิจสำคัญที่สุดของทหาร นั่นคือความเชื่อฟังกับความรับผิดชอบที่ฝังลึกถึงในกระดูกของเขาแม่ทัพน้อยใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ ทำให้เขาได้หนีเอาตัวรอด...เขากลับ เพิ่งคิดได้ในตอนนี้!เซียวอวี้เตะเขาอย่างไร้ความปรานี เดินออกไปนอกตำหนัก สีหน้าเยือกเย็นยิ่งกว่าฤดูหนาว เต็มไปด้วยไอสังหาร“นางต้องมีชีวิตอยู่ แน่นอน”นางยังไม่ได้แต่งงานกับเขา ยังตายไม่ได้!เขาจะต้องตามหานางให้เจอ!……คุกหลวงมู่หรงหลันนั่งอยู่บนหญ้าแห้งบนพื้น สวมชุดนักโทษ ไม่มีท่าทีสูงศักดิ์เหมือนที่ผ่านมาหม่ากงกงมาที่นี่ เพื่อบอกกับนาง“แม่นาง แผนการของท่านสำเร็จแล้ว“หิมะบนภูเขาหิมะเทียนฉือถล่ม ซูฮ่วน ตายแล้ว”มู่หรงหลันได้ยินเช่นนี้ ดวงตาที่ไร้ชีวิตชีวา เป็นประกายมีสีสันขึ้นมาทันที“ตายแล้วจริงๆ หรือ?”หม่ากงกงผงกศีรษะอย่างมั่นใจ“นั่นคือหิมะถล่ม ไม่มีใครสามารถรอดชีวิตมาได้ เวลานี้ฝ่าบาทออกจาก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 714

    ภูเขาหิมะเทียนฉือถูกปิดล้อมหนึ่งเดือน ตามคำร่ำลือ ทหารรักษาพระองค์ของฝ่าบาทถูกซุ่มโจมตี ไร้ผู้รอดชีวิต ฝ่าบาทเสด็จด้วยพระองค์เอง ตามหากระดูกผู้ภักดี เรียกดวงวิญญาณผู้ภักดีพริบตาเดียวก็ปลายเดือนสิบเอ็ดแล้วหิมะบนภูเขาเทียนฉือยิ่งหนาขึ้นแผ่นดินจะขาดผู้ปกครองไม่ได้สักวันวันนี้ รุ่ยอ๋องมาตามหา เฉินจี๋เห็นรุ่ยอ๋อง ก็พูดขึ้นมา “ท่านอ๋อง ขอท่านทรงกล่อมฝ่าบาทด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”รุ่ยอ๋องไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่หากคนที่ตายเป็นเพียงองครักษ์เหล่านั้น ไม่มีทางที่ฝ่าบาทจะไม่ทันได้มอบหมายอะไรเลย ก็ละทิ้งงานราชกิจของแผ่นดินเสียไปแบบนี้เมื่อถามเฉินจี๋ ค่อยรู้ว่า...ซูฮ่วนตายแล้วซูฮ่วนคนนั้นอีกแล้ว...รุ่ยอ๋องมองไปบนภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ความเศร้าโศกปรากฏชัดในแววตาอันอ่อนโยนเขาถามเฉินจี๋“ฝ่าบาท รักซูฮ่วนใช่หรือไม่?”รุ่ยอ๋องกับฝ่าบาทมีมิตรภาพอันลึกซึ้ง เฉินจี๋ครุ่นคิดดูแล้ว ก็เล่าความจริงให้ฟัง“ท่านอ๋อง ซูฮ่วนเป็นสตรี ฝ่าบาทเตรียมที่จะแต่งตั้งให้นางเป็นฮองเฮา นางมายังภูเขาหิมะเทียนฉือ เพื่อหาดอกจื่อซวี่ให้กับองค์หญิงน้อย”คำพูดไม่กี่ประโยคง่ายๆ ทำให้รุ่ยอ๋องตกตะลึงอย่างมาก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 715

    ไม่ทันรอให้รุ่ยอ๋องถูกพาตัวกลับเมืองหลวง เซียวอวี้หมดสติไปก่อนแล้วหมอบอกว่า ไข้หวัดลมหนาวของเขารุนแรงขึ้น จะต้องพักผ่อนดูแลให้ดีดังนั้น รุ่ยอ๋องตัดสินใจ ฉวยโอกาสตอนที่ฝ่าบาทไม่รู้สึกตัว พาตัวเขากลับวังหลวงอากาศบนภูเขาเทียนฉือหนาวเย็นมาก ไม่ควรอยู่นานฝ่าบาทไปแล้ว องครักษ์หลายร้อยคนยังอยู่เฉินจี๋สั่งการพวกเขา เมื่อพบศพของซูฮ่วน ให้รีบรายงานทันทีเขามั่นใจว่า หิมะถล่มเช่นนี้ ต่อให้เป็นคนที่มีวรยุทธสูงส่งแค่ไหน ก็หนีไม่พ้นอู๋ไป๋ที่อยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดนี้ ก็ก่นด่าขึ้นมาอย่างโกรธเคือง“ไอ้สารเลว! เฉินจี๋! ไสหัวเจ้าไป! นายท่านของข้าต้องยังไม่ตาย! !”เฉินจี๋รู้ว่าในใจอู๋ไป๋รู้สึกแย่ จึงไม่ถือสาทว่า ในฐานะที่เขาเป็นราชองครักษ์ จะต้องปกป้องฝ่าบาทเขาไม่สามารถจะทนเห็นฝ่าบาทเพื่อตามหาศพ จนตนเองต้องป่วยลุกไม่ขึ้นไม่ได้อีกต่อไปหลังจากมองกระโจมที่ถูกรื้อ ฝ่าบาทถูกพาตัวไป อู๋ไป๋คุกเข่าบนพื้นหิมะ มองดูภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอย่างเหม่อลอย ในใจทุกข์ระทม“อ้าก...” เขาทุบกำปั้นลงไป ฝังหัวเข้าไปในหิมะและปล่อยเสียงคำรามต่ำ“ตามหาคนต่อไป” ข้างหน้ามีเสียงทุ้มต่ำของหยิ่นลิ่วดังขึ้นมา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 716

    เมืองหลวง ภายในวังหลังจากที่หมอหลวงฝังเข็มใช้ยา เซียวอวี้ค่อยๆ ดีขึ้นมา ทว่าร่างกายยังอ่อนแอมาก ราวกับสูญเสียดวงวิญญาณ ไร้ซึ่งชีวิตชีวาคนฉลาดล้วนมองออก ครั้งนี้ฝ่าบาทป่วยอย่างสาหัสมากตำหนักฉือหนิงไทเฮาร้อนรุ่มดั่งไฟสุมทรวง“เกิดอะไรขึ้นกันแน่! หลายวันก่อนฝ่าบาทรีบร้อนออกจากวัง แล้วทำไมถึงกลายเป็นสภาพเช่นนี้?”ถามอะไรกุ้ยหมัวมัวก็ไม่รู้เรื่องสีหน้าหนิงเฟยเป็นกังวล “ท่านป้า ฝ่าบาทไม่มีโอรสสักคน หากเป็นอะไร...” “หุบปาก! พูดจาอะไรเหลวไหล!” ไทเฮาพูดตัดบททันทีหนิงเฟยกัดริมฝีปาก“ท่านป้า ท่านอย่าหาว่าข้าพูดจาไม่น่าฟัง ฝ่าบาทอยู่ในสภาพเช่นนี้ พวกเราจำเป็นต้องวางแผนไว้แล้ว”“น้องหญิงพูดถูก” องค์หญิงใหญ่เดินเข้ามาจากข้างนอก คนยังมาไม่ถึง เสียงมาถึงก่อนแล้วไทเฮาราวกับหาเจอแกนสำคัญ สีหน้าที่ตึงเครียดค่อยผ่อนคลายลง“ฉีเอ๋อร์! เจ้ามาแล้วหรือ!”องค์หญิงใหญ่นั่งลง สีหน้าเคร่งขรึม“ส่วนหน้ามีข่าวลือแพร่สะพัด แต่ละฝ่ายเริ่มเคลื่อนไหวสั่นคลอน เสด็จแม่ เราจำเป็นต้องเตรียมการ จะให้ใครมาฆ่ามาแกงไม่ได้!”ไทเฮามององค์หญิงใหญ่ แล้วก็มองหนิงเฟย“พวกเจ้า...เฮ้อ! ฝ่าบาทเพียงเป็นไข้หวัด ไม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 717

    ดอกจื่อซวี่ที่เฟิ่งจิ่วเหยียนแลกมาด้วยชีวิต หลังจากองค์หญิงน้อยทานแล้ว ชีวิตพ้นขีดอันตรายชั่วขณะเซียวอวี้ยืนอยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าเรียบเฉย มาเยี่ยมดูอาการขององค์หญิงน้อยเวลานี้นางมีพลังงานเต็มเปี่ยม นั่งอยู่บนเตียง จิบยาทีละน้อยรอยยิ้มของนางบริสุทธิ์อ่อนหวาน“เสด็จพี่ฮ่องเต้ ท่านเก่งมากเลย! พวกเขาล้วนพูดว่า ทานให้คนไปหายาวิเศษมาก รักษาอาการป่วยของข้าจนหายแล้ว ตอนนี้ข้าไม่เจ็บปวดเลยสักนิดแล้ว!”เฉินจี๋รู้สึกเย็นวาบที่สันหลังเขาอยากอุดปากองค์หญิงน้อยไว้จริงๆสิ่งที่ฝ่าบาทเสียใจที่สุดในตอนนี้ ก็คือให้ซูฮ่วนไปยังภูเขาเทียนฉือจู้กั๋วกงน้ำตาคลอเบ้า คุกเข่าอยู่ตรงหน้าฝ่าบาท“ฝ่าบาท บุญคุณยิ่งใหญ่ของท่าน กระหม่อมไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร! องครักษ์ที่นำดอกจื่อซวี่กลับมาคนนั้น กระหม่อมอยากเจอเขา แสดงความ...”“จู้กั๋วกง!” เฉินจี๋ทนไม่ไหวแล้ว เสี่ยงโทษการขัดต่อพระบัญชา ก็ต้องพูดขัดจังหวะสีหน้าเซียวอวี้ดั่งน้ำนิ่ง แววตาไร้ความรู้สึก ราวกับไม่มีคลื่นกระเพื่อมแม้แต่น้อยเขาเพียงมององค์หญิงน้อยอยู่อย่างเงียบๆองค์หญิงน้อยตาดี เห็นเส้นผมเสด็จพี่ฮ่องเต้มีเส้นสีเทาเงินอยู่บ้างเล็กน้อย ดูเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 718

    หม่ากงกงทำความเคารพอย่างยิ้มแย้ม“แม่นาง นี่คือโอรสที่ท่านคลอดให้กับฝ่าบาทในปีนั้น!”แววตามู่หรงหลันมัวหมอง พร้อมย้อนถามเขา “ไม่ต้องพูดถึงในตอนนั้น ข้ารักษาเด็กคนนั้นไว้ไม่ได้“หรือเจ้าไม่รู้ว่า ฝ่าบาทไม่เคยแตะต้องข้า?”หม่ากงกงพูดขึ้นมาอย่างไม่หวาดหวั่น “ขอเพียงแม่นางมีโอรสคนหนึ่ง ถึงตอนนั้น เราบอกว่าเขาเป็นลูกของผู้ใด เขาก็จะเป็นลูกของผู้นั้น” แววตามู่หรงหลัน ไม่อ่อนโยนเหมือนอย่างที่ผ่านมา กลายเป็นเฉียบคม“พวกเจ้าคิดจะใช้เด็กคนนี้เพื่อขึ้นครองบัลลังก์?“ฝ่าบาทไม่มีทางยอมจำนนง่ายๆ !“เขารู้ดีแก่ใจ เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเขา“เขาจะเลอะเลือนถึงขั้น ยกบัลลังก์ให้กับเด็กนอกคอกที่มาจากไหนก็ไม่รู้ได้อย่างไร!” หม่ากงกงเดินไปที่ข้างเตียง เอื้อมมือลูบใบหน้าของเด็กคนนั้นแผ่วเบา พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเชื่องช้า“เรื่องนี้ก็ต้องดูความสามารถของแม่นางแล้ว”……เมืองหลวงจวนตระกูลเฟิ่งนายท่านเฟิ่งหงุดหงิดมากก่อนหน้านี้ฝ่าบาทตรัสว่าจะแต่งตั้งฮองเฮา ทำไมจนถึงบัดนี้แล้วยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร?เป็นถึงกษัตริย์แห่งแผ่นดิน คงไม่ได้พูดล้อเล่นกับเขามั้ง!เมื่อคิดอีกที หรือจิ่วเหยียนเปลี่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 719

    เหล่าขุนนางยังไม่ทันไล่เรียงเรื่องให้เข้าใจ ในท้องพระโรงก็มีเสียงกรีดร้องระเบิดขึ้นมาในทันใด“ฝ่าบาท ท่านพูดว่าลูกสาวของกระหม่อม นางเป็นอะไร ! !” นายท่านเฟิ่งราวกับถูกสายฟ้าผ่า น้ำเสียงแหบแห้งเขาเพิ่งรู้ว่า เกิดเรื่องกับลูกสาวของเขา!ดวงตาเซียวอวี้มืดมน ราวกับปกคลุมไปด้วยหมอกหนา“นาง เป็นหรือตายยังไม่รู้”นายท่านเฟิ่งอารมณ์พลุ่งพล่านอย่างฉับพลัน ระบายความโกรธอย่างเดือดดาลเขาลุกขึ้นยืน คว้าจับเพื่อนร่วมงานที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง จากนั้นก็ฟาดตบหน้าอีกฝ่ายหลายที ฟาดตบไปด้วย ก่นด่าไปด้วย“เป็นเจ้า! เมื่อครู่เจ้าพูดว่าไม่ต้องช่วย! ข้าได้ยินหมดแล้ว! ไอ้เวร! ข้าจะฆ่าเจ้า! ทำไมไม่ช่วยลูกสาวของข้า! ห๊ะ? ทำไม!”“นางอายุสิบหกก็เข้าสู่สนามรบแล้ว! อายุสิบหกเอง! ลูกสาวของพวกเจ้าตอนอายุสิบหกกำลังทำอะไรอยู่! ห๊ะ?“ข้าจะฉีกปากของเจ้า!”ขุนนางบุ๋นที่ถูกตบยังคงมึนงงนี่ใต้เท้าเฟิ่ง บ้าไปแล้วหรือ!ขุนนางคนอื่นเห็นแล้ว ก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว ต้องอยู่ไกลห่างจากคนบ้าคนนั้นนายท่านเฟิ่งอดกลั้นมานานมากแล้วเขาเก็บความลับนั้นไว้ ไม่กล้าบอกกับใคร อัดอั้นใจอย่างมาก!นั่นเป็นลูกสาวแท้ๆ ของเขา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 720

    ข้างนอกกระท่อมมุงจาก ชายชราผมขาวกำลังเฝ้าดูไฟใต้เตาต้มยา เด็กจัดยาวิ่งออกมาจากข้างในห้อง พร้อมตะโกนด้วยความตื่นเต้น“อาจารย์ อาจารย์! มีพี่ชายคนหนึ่งขยับแล้ว! เขาจะตื่นแล้วใช่หรือไม่!”ผู้เฒ่าเอามือไพล่หลัง เดินหลังค่อมเข้าไปในห้อง หลังจากตรวจดู ก็ส่ายหัวถอนหายใจ“กระดูกทั้งร่างกายถูกแช่แข็ง คิดอยากตื่นขึ้นมา ยาก!”เด็กจัดยาตัวน้อยหน้ามุ่ย “งั้นจะทำอย่างไรดี! อาจารย์ ข้าจะไปเก็บยาเดี๋ยวนี้ เก็บยามากมายมาให้พวกเขา!……ภูเขาหิมะเทียนฉือหลังจากฮูหยินเมิ่งมาถึง กลับถูกองครักษ์ขวางไว้อยู่ข้างล่างสุดท้ายแล้วอู๋ไป๋มาหา พาพวกนางเข้าไป“ฮูหยิน พวกเราตามหามาตั้งนานแล้ว ก็หาแม่ทัพน้อยไม่เจอ” อู๋ไป๋ผอมเกินไปจนดูไม่เข้ารูป “เช่นนี่จะแสดงว่า แม่ทัพน้อยยังมีชีวิตอยู่ใช่หรือไม่?”เขาเงยหน้าขึ้นมามองฮูหยินเมิ่ง หวังอยากให้นางให้คำตอบกับตนเองฮูหยินเมิ่งมองขึ้นไปบนภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะสูงตระหง่าน สีหน้าเยือกเย็น“จิ่วเหยียนยังมีเรื่องค้างคาอีกมากมาย นางยังไม่ยอมตายหรอก”ความพากเพียรของเด็กคนนั้น คนธรรมดาไม่อาจคาดคิดได้ขอเพียงนางอยากมีชีวิตอยู่ ก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้!ด้วยความเชื่อมั

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1030

    ณ ตำหนักฉือหนิงสายตาที่ไทเฮามองมายังฮ่องเต้ ดูไม่สบายใจและไม่มั่นใจอยู่บ้างนางไม่คิดว่า ฝ่าบาทเป็นห่วงนาง เลยแวะมาเยี่ยมนางเซียวอวี้พูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการถามสารทุกข์สุกดิบใด ๆ“ถวายบังคมเสด็จแม่“เราจะไม่อยู่วัง วันกลับยังไม่แน่ชัด เรื่องภายในวังหลัง เรากังวลว่าหนิงเฟยคนเดียวจะตัดสินใจไม่ได้ จึงอยากฝากให้ท่านดูแลชั่วคราว”ไทเฮางุนงงยิ่งกว่าเดิมเขาจะออกจากวังไปทำอะไรอีก?ไม่ใช่ว่าเพิ่งกลับมาเมื่อไม่กี่วันก่อนหรือ?เซียวอวี้ส่งสายตา หลิวซื่อเหลียงจึงนำตราประทับทองวางลงบนโต๊ะมีตราประทับทอง ก็จะสามารถควบคุมเรื่องทุกอย่างในวังหลังได้นานแล้วที่ไทเฮาไม่ได้จับตราประทับทองแต่บางเรื่อง นางเองก็เข้าใจเป็นอย่างดี“ฮ่องเต้ เจ้าไม่อยู่วังอีกแล้วหรือ ครั้งนี้เพราะอะไรล่ะ? อีกอย่าง ตอนนั้นฮองเฮาใส่ชุดสามัญชนออกตรวจแต่ละเมืองกับเจ้า ทำไมมีแต่เจ้ากลับมาคนเดียว ฮองเฮาล่ะ?”แววตาของเซียวอวี้ราบเรียบ คำโป้ปดพูดออกมาโดยไม่ต้องคิด“เราต้องกลับมาจัดการเรื่องสำคัญในราชสำนัก ฮองเฮายังออกตรวจอยู่ ครั้งนี้ เราจึงต้องไปตามหานาง”ไม่รู้ไทเฮาเชื่อหรือไม่ เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างขณะที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1029

    เซียวอวี้ไม่ทันได้รอให้เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับมา แต่กลับได้ยินข่าวลือที่นางจะขึ้นบัลลังก์ในแคว้นซีหนี่ว์เขาไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็อดที่จะคิดไปต่าง ๆ นานาไม่ได้จากนิสัยของจิ่วเหยียน มีความเป็นไปได้ว่าเพื่อปกป้องแคว้นซีหนี่ว์แล้ว นางจะปล่อยไปตามสถานการณ์ รับช่วงแก้ปัญหาต่อของแคว้นซีหนี่ว์ นัยน์ตาของเซียวอวี้เจือแววหม่นหมองเขาสั่งเฉินจี๋ “ไปสืบมาให้ชัดเจน ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่!”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”เฉินจี่เองก็ไม่อยากจะเชื่อ ฮองเฮาจะทิ้งฝ่าบาท และหันหลังให้แคว้นหนานฉีทั้งอย่างนี้วันต่อมาณ ตำหนักฉือหนิง หลายวันนี้ไทเฮารู้สึกอ่อนเพลีย มักจะนอนไม่หลับสนิทหมอหลวงตรวจชีพจรให้นาง หนิงเฟยเฝ้าอยู่ข้าง ๆ “หมอหลวง ร่างกายของท่านป้าเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรหรือไม่?”หมอหลวงโค้งคำนับ “ทูลพระนาง เส้นลมปราณจุดเริ่นของไทเฮาอ่อนแรง เส้นลมปราณไท่ชงก็น้อยลง  ชีพจรเทียนขุยหดหาย อุโมงค์อุดตัน ระดูหมด”เขาอธิบายจบ สีหน้าของไทเฮาพลันแข็งค้าง หัวใจเหมือนถูกอะไรทับไว้ จนหายใจไม่ออกระดูหมด นั่นหมายความว่านางเข้าสู่วัยชราอย่างสมบูรณ์นี่เป็นเรื่องที่สตรีต้องประสบพบเจอในชีวิตแต่นางไม่คิดเลยว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1028

    หัวหน้าแม่ทัพของแคว้นเจิ้งมีสีหน้าอดกลั้น“ผู้หญิงคนนั้นพูดถูก ควรถอยทัพ เพื่อปกป้องกองกำลังของแค้นให้คงอยู่!”หัวหน้าแม่ทัพแคว้นเสี่ยวโจวหงุดหงิดอย่างยิ่ง“สุดท้ายสวรรค์ก็ไม่เข้าข้างข้า! ตอนนี้แคว้นซีหนี่ว์และแคว้นหนานฉี ผูกมัดรวมกันแล้ว!”หากพวกเขาเคลื่อนทัพเมื่อใด กองทัพชายแดนตะวันตกของแคว้นหนานฉีก็จะเคลื่อนไหวทันทีพอถึงเวลานั้น พวกเขาก็จะถูกโจมตีทั้งสองทางอันตรายนี้ จะเข้าไปเสี่ยงไม่ได้แคว้นหนานฉีในปัจจุบัน เปรียบเสมือนปีศาจจอมตะกละที่กินอย่างไรก็ไม่อิ่มท้องหากถูกพวกเขาโจมตียึดครอง  ก็ไม่ใช่แค่ตกเป็นแคว้นอาณานิคม แต่แคว้นจะล่มสลายอย่างสมบูรณ์ ไม่มีวันได้ฟื้นคืนชีพกลับมาอีก……บริเวณขอบชายแดนเฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่ไปไหนลมค่อย ๆ แรงขึ้น หูย่วนเอ๋อร์นำผ้าคลุมกันลม มาคลุมให้นางอย่างนอบน้อมสายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนทอดมองยังเบื้องหน้า กล่าวอย่างลุ่มลึก“แม่ทัพหู ข้าอยากให้เจ้าบอกมาตามตรง“เรื่องที่สองแม่ลูกหลิวอิ๋งกลับมาที่แคว้นซีหนี่ว์ ท่านป้ารู้หรือไม่?”หูย่วนเอ๋อร์บอกอย่างงุนงง“ยามที่ประมุขแคว้นรักษาตัวอยู่ที่ชานเมือง นางรู้อะไร หรือไม่รู้อะไรนั้น  ข้าไม่รู้เรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1027

    เมื่อเห็นว่าขอร้องไปก็ไร้ความหวัง เจิ้งจีก็ตะโกนสาปแช่งไล่หลังเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ค่อย ๆ เดินออกไปไกล“เฟิ่งจิ่วเหยียนเจ้าไม่ได้ตายดีแน่ เจ้าสร้างบาปกรรมเช่นนี้  ชั่วชีวิตนี้เจ้ามีลูกอีกไม่ได้แน่นอน!”เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยิน ในใจกลับไม่สะทกสะท้านด้านหลัง มีเสียงยกดาบและลงดาบดังตามมาติด ๆหลิวอิ๋งพูดถูก  ถูกประหารศีรษะก็แค่หลุดล่วงบนพื้นวันนี้ ศีรษะของนางหลุดในวังหลวงแคว้นซีหนี่ว์หัวกลิ้งหลุน ๆ ดึงดันหันไปทางตำหนักหลัก จ้องบัลลังก์ที่นางยังไม่ได้ครอบครอง อย่างตายตาไม่หลับเจิ้งจีเห็นภาพนี้ พลันนิ่งอึ้ง“ไม่นะ! ไม่——ท่านแม่!”เมื่อเห็นดาบกำลังจะฟันลงที่นาง นางก็เบิกตากว้างนางเสียใจนางไม่น่าตามมารดาไปที่เมืองหลวง ไม่น่าไปฝันลม ๆ แล้ง ๆ อยากเป็นนางสนม ไม่น่ากลับมาที่แคว้นซีหนี่ว์อีกครั้งหากนางอยู่ที่เจียงโจว ก็คงไม่ตายต่อมา เลือดสด ๆ ก็สาดกระเซ็นออกมา…ศีรษะหลุดออกจากบ่าหล่นบนพื้นตายตาไม่หลับเหมือนกัน……นอกชายแดนแคว้นซีหนี่ว์กองทัพของแคว้นเสี่ยวโจวและแคว้นเจิ้งโจวเตรียมบุกโจมตีเวลากลางคืน ทหารสอดแนมมารายงาน“ท่านแม่ทัพ! ประมุขแคว้นซีหนี่ว์สิ้นพระชนม์แล้ว! แต่ซู่ย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1026

    ความผูกพันที่เฟิ่งจิ่วเหยียนมีต่อแคว้นซีหนี่ว์ ไม่ลึกซึ้งเท่าความผูกพันที่มีต่อแคว้นหนานฉีเนื่องจากนางเติบโตในแคว้นหนานฉีตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเคยเป็นทหารของแคว้นหนานฉีญาติสนิทมิตรสหายของนาง ล้วนอยู่ในแคว้นหนานฉีทั้งนั้นตอนนี้ นางยังเป็นฮองเฮาของแคว้นหนานฉีอีกด้วยหากนางตัวคนเดียว บางทีนางอาจจะสามารถอยู่ได้แบบไม่ต้องลังเล แต่ว่าตอนนี้ หากให้นางทิ้งทุกอย่างในแคว้นหนานฉี อยู่เป็นฮ่องเต้ที่แคว้นซีหนี่ว์ นางทำไม่ได้นางมีหลายเรื่องที่ปล่อยวางไม่ได้และยังอาลัยอาวรณ์อยู่สามีของนาง ท่านอาจารย์และอาจารย์หญิง แล้วไหนจะเวยเฉียง…ทว่า แคว้นซีหนี่ว์เองก็ต้องปกป้องในด้านส่วนตัว นี่คือสายเลือดตระกูลบรรพบุรุษของนางในด้านส่วนรวม จำเป็นต้องมีแคว้นเฉกเช่นแคว้นซีหนี่ว์ เพื่อสังคมโลกที่ไม่ยุติธรรมต่อสตรี อีกอย่าง แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งก็สนิทชิดเชื้อกับเป่ยเยี่ยน หากพวกเขาแบ่งแยกแคว้นซีหนี่ว์ ก็จะสร้างความกดดันต่อชายแดนทางตะวันตกของแคว้นหนานฉี หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด“ข้าจะช่วยแคว้นซีหนี่ว์ปราบปรามศัตรูให้ล่าถอย แต่ตำแหน่งฮ่องเต้ คงต้องให้ผู้ปรา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1025

    ณ แคว้นหนานฉีภายในพระราชวังความรู้สึกไม่สบายใจของเซียวอวี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆเขาฝืนอ่านฎีกาจนจบ แล้วขึ้นราชรถไปตำหนักหย่งเหอด้วยจิตใจที่ล่องลอยหลิวซื่อเหลียงรีบตามมาด้านหลัง เขามองออกว่าฝ่าบาทกำลังวิตกกังวล ก็นึกว่าฝ่าบาททรงกังวลเรื่องของแคว้น จึงให้ข้าหลวงถอยออกไปด้วยสายตาที่เฉียบแหลมเซียวอวี้นั่งเหม่อลอยอยู่ที่เก้าอี้ในตำหนักชั้นในเป็นเวลานานหากไม่ติดเรื่องฐานะฮ่องเต้ ยามนี้เขาอยากจะไปแคว้นซีหนี่ว์ ตามจิ่วเหยียนของเขากลับมาแล้วแคว้นซีหนี่ว์ในเวลาเดียวกันเฟิ่งจิ่วเหยียนตกอยู่ในสองสถานการณ์ที่ยากลำบากด้านหนึ่ง นางรู้ดีว่าด้วยฐานะฮองเฮาแคว้นหนานฉีของนาง ไม่อาจอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ได้อีกด้านหนึ่ง แคว้นซีหนี่ว์ถูกคุกคามจากแคว้นศัตรู หากนางพาท่านแม่จากไปโดยไม่สนใจความอยู่รอดของแคว้นซีหนี่ว์ ย่อมทำใจได้ยากภายในตำหนัก โอวหยางเหลียนและหูย่วนเอ๋อร์ต่างคุกเข่าให้นางอยู่บนพื้น ขอร้องให้นางอยู่ต่อด้านนอกตำหนัก เหล่าขุนนางที่เดิมยังอยู่ที่ท้องพระโรงหน้า ไม่รู้ว่าได้ข่าวมาจากที่ใด ยามนี้ต่างก็มาคุกเข่าอยู่ด้านนอก ขอให้นางขึ้นครองราชย์แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนหนักอึ้ง“ลุกข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1024

    หลิวอิ๋งไม่สนใจว่าคนอื่นเป็นอย่างไรบ้าง นางถามเจิ้งจีเป็นอย่างแรก“ท่านป้าของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง!”“ท่านแม่ ท่านป้าสวรรคตแล้วเจ้าค่ะ...”ความทรงจำของเจิ้งจีเลือนราง จึงนึกว่าท่านแม่เองก็จำได้ไม่ชัดเจนเช่นกันหญิงผู้นั้นตายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ใช่หรือยามนี้นางจึงรีบพูดเรื่องสำคัญ “ท่านแม่ มีคนบุกเข้าไปในตำหนักบรรทม พวกเขาตีข้าจนสลบ ท่านรีบส่งทหารรักษาพระองค์ไปจับพวกเขาเร็วเข้า!”หลังจากเจิ้งจีที่อยู่นอกตำหนักฟื้นขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมาก ยังมีเสียงเลือนรางที่ดังมาจากด้านในตำหนักอีก ปฏิกิริยาแรกของนางก็คือหนีเพื่อไปขอความช่วยเหลือ ดังนั้นนางจึงไม่รู้ว่าใครเป็นคนตีนางจนสลบ และไม่รู้ว่าในตำหนักเกิดอะไรขึ้นเมื่อหลิวอิ๋งได้ยินคำพูดของลูกสาว ก็คิดว่าประมุขแคว้นตายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่ได้มีเรื่องอย่างการฟื้นคืนชีพ ก็รู้สึกยินดียิ่งตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ที่ว่าประมุขแคว้นยังเหลือลมหายใจอยู่อะไรนั่น ที่แท้ก็เป็นการหลอกนาง!เฮ้อ! โชคดีที่นางไม่ติดกับ!พอซู่เฉียนเสวี่ยตายแล้ว ทีนี้นางอยากรู้นัก ใครจะพิสูจน์ได้เล่าว่านางไม่ใช่ซู่ยวน?......ตอนที่นายหญิงเฟิ่งมาถึงพระราชว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1023

    “ท่านประมุข แคว้นเสี่ยวโจวและแคว้นเจิ้งต่างจ้องแคว้นเราตาเป็นมัน ท่านทำใจทิ้งพวกเราลงได้หรือเพคะ!”“ท่านประมุข ท่านจะต้องอายุยืนเป็นร้อยปี! ได้โปรดทำใจให้ฮึกเหิมเพื่อแคว้นซีหนี่ว์ จะต้องทรงดีขึ้นนะเพคะ!”“ท่านประมุข หม่อมฉันไร้ความสามารถ หม่อมฉันมาช่วยพระองค์ช้าเกินไป! แท้ที่จริงแล้วหลิวอิ๋งผู้นั้น ใช่ใต้เท้าซู่ยวนหรือไม่เพคะ? ขอท่านเผยความจริงด้วยเถิด!”ประมุขแคว้นที่อยู่บนเตียง เบ้าตาจมลึก ริมฝีปากซีดขาว ผอมจนเห็นกระดูก อาภรณ์ขาวบนร่างดูราวกับผ้าห่อศพ แผ่กลิ่นอายความตายออกมาลมหายใจของนางแผ่วเบา ทว่าเสียงที่ออกมาจากปากกลับชัดเจนยิ่ง “หลิวอิ๋ง...ไม่ใช่ซู่ยวน จะให้นางทำให้แคว้นซีหนีว์วุ่นวายไม่ได้!”เมื่อซู่เฉียนเสวี่ยพูดคำสุดท้ายจบ ก็ราวกับว่านางได้ใช้เรี่ยวแรงไปจนหมดแล้ว นางหายใจรุนแรงราวกับว่าวิญญาณในร่างกำลังล่องลอยออกไป นางเงยหน้าขึ้นด้วยความทรมานอย่างที่สุด เพื่อให้ลมหายใจเคลื่อนผ่านสะดวกเหล่าขุนนางคนสนิทต่างก่นด่าถึงความไม่เป็นธรรม“ท่านประมุข ท่านวางใจเถิดเพคะ! หม่อมฉันจะไม่ยอมให้ซู่ยวนตัวปลอมนั่นขึ้นครองราชย์เด็ดขาด!”“ใช่ ฆ่านางซะ! นางหลอกลวงเบื้องสูง ทั้งยังทำร้ายท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1022

    หลิวอิ๋งดิ้นรนเหมือนคนบ้า“ปล่อยข้า! ข้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของท่านประมุขนะ! ข้าจะไปพบท่านพี่! พวกเจ้าจะทำร้ายท่านพี่ของข้า!”“ขุนนางรัก รีบหยุดพวกเขาเร็ว!“พวกเขาต้องมีเจตนาร้ายแน่!”ยามนี้เหล่าขุนนางต่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ต่อให้พวกนางอยากจะช่วย ก็ยังต้องดูด้วยว่าตนมีความสามารถที่จะช่วยหรือไม่แม่ทัพใหญ่ทั้งสี่มีอำนาจคุมกองทัพ รวมกับฮองเฮาแคว้นหนานฉีเองก็อยู่ที่นี่ จะให้สู้อย่างไรเล่า?อีกทั้งประมุขคนใหม่นี้มีเหตุผลชอบธรรมจริงหรือไม่ ก็ยังต้องพิจารณากันอีกที!หากนางไม่ใช่ซู่ยวนจริง ๆ พวกนางจะไม่กลายเป็นประสงค์ดีแต่ดันทำเรื่องไม่ดีลงไป แล้วช่วยคนชั่วทำความผิดหรอกหรือ?เสียงโวยวายของหลิวอิ๋ง เฟิ่งจิ่วเหยียนทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่นางสั่งทุกคนอย่างหนักแน่น“แม่ทัพหู ท่านดูแลท้องพระโรงให้ดี“แม่ทัพอีกสามท่านแยกกันเฝ้าประตูวัง ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออกทั้งสิ้น ป้องกันไม่ให้สายลับของแคว้นอื่นฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวาย“มั่วซินหมัวมัว พาขุนนางคนสนิทสองสามคนตามข้าไปพบท่านประมุข”“เพคะ!” หูย่วนเอ๋อร์และมั่วซินหมัวมัวตอบรับคำสั่งขุนนางบุ๋นบู๊ที่เหลือเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกสั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status