Share

บทที่ 651

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
เฟิ่งจิ่วเหยียนมุ่นคิ้ว ขณะที่มองดูของหมั้นเหล่านั้น

ฮูหยินเมิ่งที่อยู่ด้านข้างเอ่ย “ผู้มาส่งของได้กำชับไว้เป็นพิเศษ นี่เป็นของหมั้นสำหรับฮองเฮาในอนาคต และอีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาสามเดือนที่ตกลงกันแล้ว ดูเหมือนฝ่าบาทมั่นใจว่าเจ้าจะต้องแต่งงานกับเขาแน่”

เฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าสงบนิ่ง ก่อนจะคำนับอาจารย์หญิงอย่างรู้สึกผิด

“ทำให้ท่านกับอาจารย์ต้องลำบากแล้วเจ้าค่ะ”

พูดจบ ก็มีเสียงคนเอ่ยรายงานจากด้านนอก

“ฮูหยิน มีคนมาขอพบคุณชายซูขอรับ”

เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกหวั่นไหวในใจ เสมือนสายลมพัดผ่านผิวน้ำ สร้างระลอกคลื่นเล็ก ๆ ทีละน้อย

……

ณ จวนแม่ทัพ

ห้องโถงส่วนหน้า

เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นว่า ผู้มาเยือนเป็นชายสวมหน้ากากในเครื่องแบบเน้นความคล่องตัวคนหนึ่ง

เขาคารวะให้นางด้วยความเคารพ

“ข้าน้อยหยิ่นลิ่ว ได้รับบัญชาจากฝ่าบาท มาส่งของสิ่งหนึ่งให้ท่านขอรับ”

จากนั้น ชายคนนั้นพลันหยิบกล่องผ้าไหมทรงยาวใบหนึ่ง มอบให้นาง

นางมิได้รับ

นางระแวดระวังอย่างมาก ถึงแม้คนผู้นี้จะอ้างว่าเป็นคนของเซียวอวี้ ก็หาได้ปักใจเชื่อทันทีไม่

คนผู้นั้นเมื่อเห็นเช่นนี้ จึงเปิดก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
WLFJ
คิดออกไหมอ่ะ เค้าอยากให้ปักปิ่นด้วยตัวเองไง อิอิ ลุ้นๆ พระเอกจะมีไหวพริบไหม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 652

    ภายใต้แสงจันทรา สีหน้าของเฟิ่งเวยเฉียงเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งประหลาดใจ ตื่นเต้น และเสียใจที่รู้ความจริงช้าไป... พี่สาวเข้าพิธีสมรสกับฝ่าบาทในนามของนาง และได้หย่าร้างกับฝ่าบาทอีก!? ราวกับนางกำลังฟังคนเล่านิทาน “ท่านพี่ ท่านหย่าร้าง เพราะไม่ชอบฝ่าบาทหรือ?” ตอนนี้นางได้พบกับชายที่นางชอบแล้ว จึงหวังว่าพี่สาวจะได้มีความสุขเช่นกัน เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูจันทราบนนภา และเอ่ยอย่างเยือกเย็น “ในตอนแรกก็ไม่ชอบหรอก...” ทันใดนั้น เมฆาเคลื่อนคล้อย บดบังแสงจันทรา ณ เมืองหลวง ในพระราชวัง อุทยานหลวง หรงเฟยเข้ามายืนขวางรุ่ยอ๋องที่กำลังจะออกจากวัง และซักถามเขา “ฝ่าบาทเสด็จไปที่ใด?” แววตาที่อ่อนโยนของรุ่ยอ๋องไร้ระลอกคลื่น “ก่อนหน้านี้เกิดกบฏในเมืองเซวียน และมีการจัดสรรเบี้ยหวัดทหารใหม่ ฝ่าบาทไม่วางพระทัย จึงเสด็จไปตรวจสอบที่เมืองเซวียนด้วยพระองค์เอง เพื่อให้แน่ใจว่าเบี้ยหวัดจะถึงมือของทหารทุกนาย นอกจากนี้ ยังเป็นการตรวจสอบการทำงานของขุนนางชุดใหม่ในเมืองเซวียนด้วย “เรื่องเหล่านี้ พระสนมมิใช่ทราบอยู่แล้วหรือ? เหตุใดมาถามอีก”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 653

    ยามเข้าสู่ต้นคิมหันต์ เซียวอวี้สวมเสื้อคลุมยาวครึ่งตัวผ้าโปร่งสีม่วงเข้ม แสงตะวันสาดส่องลงมา ยิ่งสง่างามเลิศล้ำ ทุกคนในลานกว้างก็เข้ามาทำความเคารพตามแม่ทัพเมิ่ง ไม่เว้นฮูหยินเมิ่งด้วยเช่นกัน เฟิ่งจิ่วเหยียนได้สติเป็นคนสุดท้าย จึงก้มลงทำมือคารวะ “ถวายบังคมฝ่าบาท” นางไม่คาดคิดว่า เซียวอวี้จะมาเยือน โดยเฉพาะตอนนี้นางเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องหยางเหลียนซั่วกับพรรคเทียนหลง การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเขา จึงทำให้นางรับมือไม่ทัน... “ไม่ต้องมากพิธี” เซียวอวี้ก้าวไปข้างหน้า พลันช่วยประคองเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยตนเอง ครั้นนางยืดกายขึ้น เขาจึงถือโอกาสกระซิบข้างหูนาง “ครบกำหนดสามเดือน เจ้าควรจะให้คำตอบแก่เราแล้ว” สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่แปรเปลี่ยน “เพคะ” แม่ทัพเมิ่งย่นคิ้วเบา ๆ เหตุใดฝ่าบาทจึงเสด็จมายังชายแดนเหนืออีกแล้ว? ทรงไม่ไว้วางใจเขามากขนาดนั้นเชียวหรือ? เซียวอวี้ยังต้องการจะพูดคุยกับเฟิ่งจิ่วเหยียนต่อ เมิ่งฉวีพลันก้าวไปข้างหน้า และทูลรายงานอย่างจริงจังเคร่งครัด “ฝ่าบาท เรื่องความวุ่นวายในเมืองเซวียนนั้น กระหม่อมขอบังอาจแสดงความเห็น เพี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 654

    ใบหน้าที่หล่อเหลาของเซียวอวี้ถูกปกคลุมด้วยความอดกลั้นและยับยั้งชั่งใจ เขายัดพิมพ์เขียวปืนมังกรไฟใส่มือของนางคืนทันที “เราไม่ต้องการ! “เราทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเจ้า ไม่เคยคิดที่จะให้เจ้ามาตอบแทน “ถึงแม้เจ้าไม่อยากแต่งงานกับเรา ก็มิจำเป็นต้องเอาสิ่งใดมาแลกกับอิสรภาพ “เฟิ่งจิ่วเหยียน เจ้าเป็นอิสระตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” เฟิ่งจิ่วเหยียนก้มศีรษะลงมองกระบอกไม้ไผ่ส่งสาส์นในมือตนเอง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองชายตรงหน้าอีกครั้ง นางเอ่ยด้วยท่าทางจริงจัง “หม่อมฉันถูกทอดทิ้งตั้งแต่เกิด และเป็นอาจารย์กับอาจารย์หญิงคอยเลี้ยงดูหม่อมฉันขึ้นมา “ดังนั้น หม่อมฉันควรจัดเตรียมสินเดิมด้วยตนเอง “ทว่ารายได้ตลอดหลายปีของหม่อมฉัน ได้นำไปซื้อเซียวเหยาจวีหมดแล้ว ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้เป็นสินเดิมของเวยเฉียง “ดังนั้น หม่อมฉันจึงเหลือเงินเก็บไม่มากนักเพคะ” เซียวอวี้ยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจ “เจ้าต้องการจะพูดอันใดกันแน่?” เดิมเขาไม่ใช่คนโง่เขลา ทว่าในขณะนี้ สมองของเขาอย่างไรก็ไม่สามารถทำงานได้เลย และเข้าใจได้เฉพาะถ้อยคำที่ชัดเจนตรงไปตรงมาเท่านั้น ใบหน้าของเฟิ่งจิ่ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 655

    ในยามที่ความรักคุกรุ่น เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ผลักเซียวอวี้ออก และถามเขา “หยิ่นลิ่วผู้นั้น เป็นท่านสั่งให้มาติดตามหม่อมฉันหรือไม่เพคะ?” ในเวลานี้เซียวอวี้ไร้ซึ่งความสนใจจะตอบคำถามที่ไม่สลักสำคัญเหล่านี้ เขาจับปลายคางของนางไว้ ป้องกันมิให้นางหลบเลี่ยง ทว่านางค่อนข้างดื้อรั้น และยกมือข้างหนึ่งปิดปากเขาไว้ “ส่งมาตั้งแต่เมื่อไร ตอนที่หม่อมฉันออกจากเมืองอวี่ เขาได้ติดตามมาหรือไม่เพคะ?” เซียวอวี้พยักศีรษะ “อืม เพียงแต่เจตนามิใช่เพื่อสอดแนมเจ้า เราเพียงสั่งให้เขาคอยคุ้มกันเจ้า เพราะกลัวว่าเจ้าจะได้เผชิญหน้ากับหยางเหลียนซั่ว” เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างใจเย็น “คราวหน้า จักต้องแจ้งให้หม่อมฉันทราบก่อนเพคะ” “ได้สิ” สันกรามของเขาคมชัด ลูกกระเดือกกลิ้งขึ้นลง ราวกับเพลิงหิวกระหายโหมไหม้ จักให้ตอบว่าอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น “เราจะทำต่อได้หรือยัง?” นิ้วหัวแม่มือของเขาลูบริมฝีปากของนาง ความหมายชัดเจนคือ หมกหมุ่นถึงเรื่องนี้มานานแล้ว ต้องการดับความกระหายเหลือเกิน เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีโอกาสได้ขัดเขินเลย “ทว่า...อื้อ!” นางยังไม่ทันได้เอ่ยมากมาย เซียวอวี้พลันกระโจน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 656

    สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ฮูหยินเมิ่งจึงออกหน้ากล่าว “ฝ่าบาท พระองค์คงยังไม่ทราบ เวยเฉียงก็อาศัยอยู่ที่นั่นด้วย เกรงว่าจะไม่สะดวกเพคะ” เซียวอวี้กลับเอาแต่จ้องมองไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างไม่กะพริบตา เพื่อรอคำตอบจากนาง เฟิ่งจิ่วเหยียนได้แต่เอ่ย “รบกวนอาจารย์หญิงแล้วเจ้าค่ะ คืนนี้ข้าจะพักที่จวนแม่ทัพ” เพียงเท่านี้เซียวอวี้ก็พอใจ เฟิ่งจิ่วเหยียนนอนอยู่ที่เรือนปีกตะวันตก เซียวอวี้พำนักที่เรือนปีกตะวันออก เดิมทีก็ควรอยู่กันอย่างสงบ ทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งจะผล็อยหลับไป พลันมีคนเข้ามา นางลุกขึ้นนั่งอย่างตื่นตัว กลับได้เห็นว่า เป็นเซียวอวี้ “ไยท่านถึงมาที่นี่เพคะ” นางวางกริชกลับไว้ใต้หมอนอย่างเงียบ ๆ เซียวอวี้ยกชายเสื้อคลุมขึ้นแล้วนั่งบนเตียงของนาง ก่อนจะจับมือนางไว้ “ร่างแผนปรับโครงสร้างที่อาจารย์ของเจ้าเขียนนั้น เรายิ่งอ่านก็ยิ่งฮึกเหิม จึงนอนไม่หลับ อีกทั้งยังนึกขึ้นได้ว่า มีอีกสิ่งหนึ่งที่เรายังมิได้ทำให้เสร็จ” “เรื่องใดเพคะ?” หลังจากนั้นเขาหยิบปิ่นหงส์ออกมา “มิใช่ขอเราปักปิ่นให้เจ้าเองหรือ” เฟิ่งจิ่วเหยียนปล่อยมวยผมสยายออกแล้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 657

    เมิ่งฉวีแกล้งเมากรึ่ม ทั้งที่จริงแล้วจิตใจกระจ่างใสดุจคันฉ่อง เขาบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจในวัยเด็กของจิ่วเหยียนให้ฟัง ด้วยต้องการให้ฝ่าบาทได้รู้จักจิ่วเหยียนมากขึ้น ทว่าสิ่งใดสมควรพูดนั้น เขายังรู้จักแยกแยะได้ “มีเด็กผู้ชายหลายคนชื่นชอบนางพ่ะย่ะค่ะ “ทว่า เด็กหญิงคนนั้นหาได้รับรู้ไม่ แข็งทื่อเสมือนก้อนหินก็มิปาน “ในสมัยนั้นมีเด็กชายคนหนึ่งมาเรียนวิทยายุทธกับกระหม่อมด้วย และมักจะชอบดึงผมของจิ่วเหยียนบ่อย ๆ เพราะแค่อยากให้นางหันมาสนใจตนเองมากขึ้น ผลลัพธ์คือ สาวน้อยโมโหโทโสขึ้นมา และกระชากดึงผมของเขาติดออกมาเป็นกำมือ “หลังจากนั้น เด็กชายคนนั้นไม่เคยกลับมาเรียนอีกเลยพ่ะย่ะค่ะ” เมิ่งฉวีเอ่ยถึงแค่เรื่องเล็กน้อยไม่มีปัญหามากนัก และมิได้เอ่ยถึงต้วนไหวซวี่เลย เขาย่อมรู้ว่า ต้วนไหวซวี่แตกต่างจากเด็กชายเหล่านั้น เพราะนั่นคือคนที่จิ่วเหยียนเคยชอบด้วยใจจริง ถึงแม้ฝ่าบาทจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเก่าก่อนก็ตาม ก็คงมิชอบฟังเรื่องแบบนี้ กลับกลายเป็นว่า หม้อไหนไม่เดือดกลับยกหม้อนั้นแทน เซียวอวี้รุกถามเอง “ในเมื่อนางหัวช้าขนาดนั้น แล้วนางตกหลุมร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 658

    ต้วนเจิ้งถูกพาไปยังกระโจมที่พัก และที่นั่นมีเพียงฮ่องเต้พระองค์เดียวเท่านั้น เขาถามอย่างโกรธเคืองโดยไร้ซึ่งความเกรงกลัว “จักต้องทำอย่างไร...ท่านถึงจะยอมปล่อยนางไป!” คิ้วกระบี่ของเซียวอวี้ขมวดแน่น ในยามที่อยู่ต่อหน้าผู้อื่น เขามิได้อัธยาศัยดีเหมือนอยู่ต่อหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียน ร่างกายแผ่รัศมีความเป็นศัตรู ประสงค์จะฆ่าคนสารเลวที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำได้ทุกเวลา เซียวอวี้เผชิญหน้ากับต้วนเจิ้งผู้เกรี้ยวกราด ด้วยการเอ่ยเหน็บแนม “พวกเจ้าสองคนพี่น้อง นิสัยช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว” คนหนึ่งอ่อนโยนใจดี อีกคนหนึ่งเห็นแก่ตัวและเลวทราม ต้วนเจิ้งหรี่ตาลง “ตอบข้ามาสิ! ท่านจะปล่อยนาง และกลับไปที่วังหลวงของท่านได้หรือไม่!” เซียวอวี้ได้ฟังเช่นนี้ แค่รู้สึกว่ามันน่าตลกสิ้นดี สีหน้าแววตาของเขาทั้งน่าเกรงขามและเย็นชา “เจ้าควรจะนึกโชคดี ที่เจ้ามีพี่ชายที่ดี” ต้วนเจิ้งเอ่ยจี้ใจดำเขาในคำเดียว “ท่านกล้าทำร้ายข้ารึ? เชื่อหรือไม่ว่า หากท่านกล้าทำร้ายข้า นางก็จะทิ้งท่านไปทันที!” เซียวอวี้กำหมัดที่อยู่ใต้แขนเสื้อกว้างจนแน่น ไอ้เด็กนี่... ต้วนเจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 659

    หลังจากที่หยางเหลียนซั่วได้รับการช่วยเหลือไปได้ ก็ถูกติดประกาศจับทั่วแคว้นหนานฉี นอกจากราชสำนัก ยังมีกลุ่มในยุทธภพเช่น พันธมิตรอู่หลินที่นำโดยหร่านชิว และจอมยุทธ์พเนจรทั่วไปที่นำโดยตงฟางซื่อ พวกเขาล้วนกำลังตามล่าตัวหยางเหลียนซั่วผู้ชั่วร้าย ทว่าเส้นทางหลบหนีของหยางเหลียนซั่วมีความลึกลับยิ่งนัก จึงไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เลย คาดไม่ถึงว่า จักได้รับข่าวดีอย่างกะทันหันเช่นนี้ ในห้องหนังสือ หยิ่นลิ่วทูลรายงาน “ฝ่าบาท หยิ่นเอ้อร์ส่งข่าวมาว่า หยางเหลียนซั่วเคยปรากฏตัวในเขตแดนเป่ยเยี่ยนพ่ะย่ะค่ะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนก็อยู่ที่นั่นด้วย ครั้นได้ฟังข่าวนี้ พลางคิดถึงการคาดเดาครั้งก่อนของนางกับอาจารย์และอาจารย์หญิง “มีความเป็นไปได้สูงที่หยางเหลียนซั่วจะลอบติดต่อกับชาวเป่ยเยี่ยนมานานแล้ว” เซียวอวี้เผยสีหน้าเย็นชาเคร่งขรึม หากหยางเหลียนซั่วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเป่ยเยี่ยนแล้วไซร้ หนานฉียังสามารถส่งทูตไปเจรจา เพื่อขอให้เป่ยเยี่ยนอนุญาตให้พวกเขาจับกุมอาชญากรได้ ทว่าหากเป็นจริงดังที่เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าว หยางเหลียนซั่วได้ร่วมมือกับศัตรู เช่นนั้นก็ทำได้เพียงแอบดำเ

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1026

    ความผูกพันที่เฟิ่งจิ่วเหยียนมีต่อแคว้นซีหนี่ว์ ไม่ลึกซึ้งเท่าความผูกพันที่มีต่อแคว้นหนานฉีเนื่องจากนางเติบโตในแคว้นหนานฉีตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเคยเป็นทหารของแคว้นหนานฉีญาติสนิทมิตรสหายของนาง ล้วนอยู่ในแคว้นหนานฉีทั้งนั้นตอนนี้ นางยังเป็นฮองเฮาของแคว้นหนานฉีอีกด้วยหากนางตัวคนเดียว บางทีนางอาจจะสามารถอยู่ได้แบบไม่ต้องลังเล แต่ว่าตอนนี้ หากให้นางทิ้งทุกอย่างในแคว้นหนานฉี อยู่เป็นฮ่องเต้ที่แคว้นซีหนี่ว์ นางทำไม่ได้นางมีหลายเรื่องที่ปล่อยวางไม่ได้และยังอาลัยอาวรณ์อยู่สามีของนาง ท่านอาจารย์และอาจารย์หญิง แล้วไหนจะเวยเฉียง…ทว่า แคว้นซีหนี่ว์เองก็ต้องปกป้องในด้านส่วนตัว นี่คือสายเลือดตระกูลบรรพบุรุษของนางในด้านส่วนรวม จำเป็นต้องมีแคว้นเฉกเช่นแคว้นซีหนี่ว์ เพื่อสังคมโลกที่ไม่ยุติธรรมต่อสตรี อีกอย่าง แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งก็สนิทชิดเชื้อกับเป่ยเยี่ยน หากพวกเขาแบ่งแยกแคว้นซีหนี่ว์ ก็จะสร้างความกดดันต่อชายแดนทางตะวันตกของแคว้นหนานฉี หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด“ข้าจะช่วยแคว้นซีหนี่ว์ปราบปรามศัตรูให้ล่าถอย แต่ตำแหน่งฮ่องเต้ คงต้องให้ผู้ปรา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1025

    ณ แคว้นหนานฉีภายในพระราชวังความรู้สึกไม่สบายใจของเซียวอวี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆเขาฝืนอ่านฎีกาจนจบ แล้วขึ้นราชรถไปตำหนักหย่งเหอด้วยจิตใจที่ล่องลอยหลิวซื่อเหลียงรีบตามมาด้านหลัง เขามองออกว่าฝ่าบาทกำลังวิตกกังวล ก็นึกว่าฝ่าบาททรงกังวลเรื่องของแคว้น จึงให้ข้าหลวงถอยออกไปด้วยสายตาที่เฉียบแหลมเซียวอวี้นั่งเหม่อลอยอยู่ที่เก้าอี้ในตำหนักชั้นในเป็นเวลานานหากไม่ติดเรื่องฐานะฮ่องเต้ ยามนี้เขาอยากจะไปแคว้นซีหนี่ว์ ตามจิ่วเหยียนของเขากลับมาแล้วแคว้นซีหนี่ว์ในเวลาเดียวกันเฟิ่งจิ่วเหยียนตกอยู่ในสองสถานการณ์ที่ยากลำบากด้านหนึ่ง นางรู้ดีว่าด้วยฐานะฮองเฮาแคว้นหนานฉีของนาง ไม่อาจอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ได้อีกด้านหนึ่ง แคว้นซีหนี่ว์ถูกคุกคามจากแคว้นศัตรู หากนางพาท่านแม่จากไปโดยไม่สนใจความอยู่รอดของแคว้นซีหนี่ว์ ย่อมทำใจได้ยากภายในตำหนัก โอวหยางเหลียนและหูย่วนเอ๋อร์ต่างคุกเข่าให้นางอยู่บนพื้น ขอร้องให้นางอยู่ต่อด้านนอกตำหนัก เหล่าขุนนางที่เดิมยังอยู่ที่ท้องพระโรงหน้า ไม่รู้ว่าได้ข่าวมาจากที่ใด ยามนี้ต่างก็มาคุกเข่าอยู่ด้านนอก ขอให้นางขึ้นครองราชย์แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนหนักอึ้ง“ลุกข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1024

    หลิวอิ๋งไม่สนใจว่าคนอื่นเป็นอย่างไรบ้าง นางถามเจิ้งจีเป็นอย่างแรก“ท่านป้าของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง!”“ท่านแม่ ท่านป้าสวรรคตแล้วเจ้าค่ะ...”ความทรงจำของเจิ้งจีเลือนราง จึงนึกว่าท่านแม่เองก็จำได้ไม่ชัดเจนเช่นกันหญิงผู้นั้นตายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ใช่หรือยามนี้นางจึงรีบพูดเรื่องสำคัญ “ท่านแม่ มีคนบุกเข้าไปในตำหนักบรรทม พวกเขาตีข้าจนสลบ ท่านรีบส่งทหารรักษาพระองค์ไปจับพวกเขาเร็วเข้า!”หลังจากเจิ้งจีที่อยู่นอกตำหนักฟื้นขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมาก ยังมีเสียงเลือนรางที่ดังมาจากด้านในตำหนักอีก ปฏิกิริยาแรกของนางก็คือหนีเพื่อไปขอความช่วยเหลือ ดังนั้นนางจึงไม่รู้ว่าใครเป็นคนตีนางจนสลบ และไม่รู้ว่าในตำหนักเกิดอะไรขึ้นเมื่อหลิวอิ๋งได้ยินคำพูดของลูกสาว ก็คิดว่าประมุขแคว้นตายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่ได้มีเรื่องอย่างการฟื้นคืนชีพ ก็รู้สึกยินดียิ่งตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ที่ว่าประมุขแคว้นยังเหลือลมหายใจอยู่อะไรนั่น ที่แท้ก็เป็นการหลอกนาง!เฮ้อ! โชคดีที่นางไม่ติดกับ!พอซู่เฉียนเสวี่ยตายแล้ว ทีนี้นางอยากรู้นัก ใครจะพิสูจน์ได้เล่าว่านางไม่ใช่ซู่ยวน?......ตอนที่นายหญิงเฟิ่งมาถึงพระราชว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1023

    “ท่านประมุข แคว้นเสี่ยวโจวและแคว้นเจิ้งต่างจ้องแคว้นเราตาเป็นมัน ท่านทำใจทิ้งพวกเราลงได้หรือเพคะ!”“ท่านประมุข ท่านจะต้องอายุยืนเป็นร้อยปี! ได้โปรดทำใจให้ฮึกเหิมเพื่อแคว้นซีหนี่ว์ จะต้องทรงดีขึ้นนะเพคะ!”“ท่านประมุข หม่อมฉันไร้ความสามารถ หม่อมฉันมาช่วยพระองค์ช้าเกินไป! แท้ที่จริงแล้วหลิวอิ๋งผู้นั้น ใช่ใต้เท้าซู่ยวนหรือไม่เพคะ? ขอท่านเผยความจริงด้วยเถิด!”ประมุขแคว้นที่อยู่บนเตียง เบ้าตาจมลึก ริมฝีปากซีดขาว ผอมจนเห็นกระดูก อาภรณ์ขาวบนร่างดูราวกับผ้าห่อศพ แผ่กลิ่นอายความตายออกมาลมหายใจของนางแผ่วเบา ทว่าเสียงที่ออกมาจากปากกลับชัดเจนยิ่ง “หลิวอิ๋ง...ไม่ใช่ซู่ยวน จะให้นางทำให้แคว้นซีหนีว์วุ่นวายไม่ได้!”เมื่อซู่เฉียนเสวี่ยพูดคำสุดท้ายจบ ก็ราวกับว่านางได้ใช้เรี่ยวแรงไปจนหมดแล้ว นางหายใจรุนแรงราวกับว่าวิญญาณในร่างกำลังล่องลอยออกไป นางเงยหน้าขึ้นด้วยความทรมานอย่างที่สุด เพื่อให้ลมหายใจเคลื่อนผ่านสะดวกเหล่าขุนนางคนสนิทต่างก่นด่าถึงความไม่เป็นธรรม“ท่านประมุข ท่านวางใจเถิดเพคะ! หม่อมฉันจะไม่ยอมให้ซู่ยวนตัวปลอมนั่นขึ้นครองราชย์เด็ดขาด!”“ใช่ ฆ่านางซะ! นางหลอกลวงเบื้องสูง ทั้งยังทำร้ายท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1022

    หลิวอิ๋งดิ้นรนเหมือนคนบ้า“ปล่อยข้า! ข้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของท่านประมุขนะ! ข้าจะไปพบท่านพี่! พวกเจ้าจะทำร้ายท่านพี่ของข้า!”“ขุนนางรัก รีบหยุดพวกเขาเร็ว!“พวกเขาต้องมีเจตนาร้ายแน่!”ยามนี้เหล่าขุนนางต่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ต่อให้พวกนางอยากจะช่วย ก็ยังต้องดูด้วยว่าตนมีความสามารถที่จะช่วยหรือไม่แม่ทัพใหญ่ทั้งสี่มีอำนาจคุมกองทัพ รวมกับฮองเฮาแคว้นหนานฉีเองก็อยู่ที่นี่ จะให้สู้อย่างไรเล่า?อีกทั้งประมุขคนใหม่นี้มีเหตุผลชอบธรรมจริงหรือไม่ ก็ยังต้องพิจารณากันอีกที!หากนางไม่ใช่ซู่ยวนจริง ๆ พวกนางจะไม่กลายเป็นประสงค์ดีแต่ดันทำเรื่องไม่ดีลงไป แล้วช่วยคนชั่วทำความผิดหรอกหรือ?เสียงโวยวายของหลิวอิ๋ง เฟิ่งจิ่วเหยียนทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่นางสั่งทุกคนอย่างหนักแน่น“แม่ทัพหู ท่านดูแลท้องพระโรงให้ดี“แม่ทัพอีกสามท่านแยกกันเฝ้าประตูวัง ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออกทั้งสิ้น ป้องกันไม่ให้สายลับของแคว้นอื่นฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวาย“มั่วซินหมัวมัว พาขุนนางคนสนิทสองสามคนตามข้าไปพบท่านประมุข”“เพคะ!” หูย่วนเอ๋อร์และมั่วซินหมัวมัวตอบรับคำสั่งขุนนางบุ๋นบู๊ที่เหลือเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกสั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1021

    บนบัลลังก์มังกร หลิวอิ๋งมองเฟิ่งจิ่วเหยียนที่กำลังได้เปรียบแล้วฝืนยิ้ม“ที่แท้ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดนี่เอง ถึงอย่างไรความจริงก็เป็นเรื่องภายในของแคว้นซีหนี่ว์ แคว้นหนานฉี...”เฟิ่งจิ่วเหยียนขัดจังหวะหลิวอิ๋งที่กำลังพูดด้วยแววตาเย็นชา“ข้าจะพบประมุขแคว้น”หลิวอิ๋งซ่อนเจตนาไม่ดีไว้ในรอยยิ้ม“ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือ ประมุขแคว้นทรงสวรรคตแล้ว ยามนี้ยังไม่ได้ประกาศออกไป เพราะกลัวว่าในแคว้นจะเกิดความวุ่นวาย หากพวกเจ้าไม่เชื่อก็รีบไปที่ตำหนักบรรทมสิ ประมุขแคว้น...ทรงอยู่ในโลงแล้ว”“อะไรนะ!” ปฏิกิริยาของมั่วซินหมัวมัวรุนแรงมากหลิวอิ๋งแสร้งแสดงท่าทีเสียใจ ใช้มือหนึ่งปิดใบหน้า ไหล่สั่นสะท้าน ราวกับกำลังสะอึกสะอื้นด้วยความเศร้านางก้มศีรษะลงครึ่งนึง แล้วกล่าวเสริมว่า“เหล่าขุนนางรักเอ๋ย ไม่ใช่ว่าข้าต้องการปิดบังพวกท่าน ทว่านี่เป็นเรื่องกะทันหัน ภายในก็วุ่นวาย ภายนอกศัตรูรุกราน ข้าไม่กล้าพูดออกมา“วันนี้ กบฏมั่วซินกลับเดินเข้ามาติดกับดักด้วยตนเอง ในที่สุดวิญญาณของท่านพี่ที่อยู่บนสวรรค์ ก็ได้ตายตาหลับเสียที“ท่านพี่...”นางร้องไห้เสียใจ ทำให้เหล่าขุนนางร้องตามไปด้วย“ท่านประมุข!”มั่วซินห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1020

    เหล่าขุนนางของแคว้นซีหนี่ว์ล้วนรู้ดี มั่วซินหมัวมัวเป็นคนเก่าแก่ข้างกายประมุข ได้รับความไว้วางใจจากประมุขเป็นอย่างมากคำพูดของนาง น่าจะไม่ผิดทว่า ใต้เท้าซู่ยวนคนนี้ เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของประมุข...ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใครมั่วซินกล่าวหาว่าสถานะซู่ยวนเป็นตัวปลอม ซู่ยวนก็กล่าวหาว่ามั่วซินกบฏ ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีความคิดเห็นของตนเองจนเฟิ่งจิ่วเหยียนออกมาพูด“เหตุใดไม่ให้ประมุขทรงตรัสด้วยตนเอง?”เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ สายตาหลิวอิ๋งฉายแววความโหดร้าย“ข้าไม่มีทางให้พวกเจ้าทำร้ายพี่สาว! พวกเจ้าเป็นโจรกบฏ อย่าคิดที่จะได้พบประมุข! ทหาร จัดการพวกนาง!”“ข้าจะดูว่าใครกล้าลงมือ!” แม่ทัพใหญ่หูย่วนเอ๋อร์ออกมายืนด้านหน้า ปกป้องเฟิ่งจิ่วเหยียนกับมั่วซินหมัวมัวหลิวอิ๋งตำหนิหูย่วนเอ๋อร์“แม่ทัพหู เจ้าก็คิดจะกบฏหรือ! เห็นแก่ที่พวกเจ้าไม่รู้ความจริง ถูกคนหลอกลวง ข้าให้โอกาสพวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย รีบมายืนฝั่งข้า! จับกุมตัวโจรกบฏ!”หูย่วนเอ๋อร์พูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม“ต่อให้จะลงโทษใคร ก็ควรให้ประมุขตัดสิน! ใต้เท้าซู่ยวน ประมุขอยู่ที่ใด!”หลิวอิ๋งเห็นว่าคนพวกนี้ไม่ฟังคำพูดตนเอง บีบ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1019

    ในพระราชวัง แคว้นซีหนี่ว์หลิวอิ๋งพาประมุขกลับวังอย่างเปิดเผย เหล่าข้าหลวงล้วนเคารพนาง ไม่สงสัยในตัวนางเพื่อไม่ให้ประมุขเปิดปากขอความช่วยเหลือ หลิวอิ๋งให้นางทานยาสลบ ทำให้นางตกอยู่ในสภาวะหมดสติเทียบกับความใจเย็นของหลิวอิ๋ง เจิ้งจีรู้สึกตื่นเต้น ไม่กล้ามองผู้ใดจนกระทั่งพาประมุขส่งมาถึงตำหนักบรรทม หลังจากสั่งให้ข้าหลวงทั้งหมดออกไปแล้ว เจิ้งจีค่อยถามด้วยเสียงเบา“ท่านแม่ เราทำเช่นนี้ จะไม่มีใครรู้จริง ๆ หรือ?”หลิวอิ๋งมองประมุขบนเตียง ด้วยแววตาโหดเหี้ยม“นางใกล้จะตายแล้ว ตำแหน่งประมุข ไม่ช้าก็จะเป็นของข้า ขอเพียงข้าควบคุมทั่วทั้งแคว้นซีหนี่ว์ ก็จะไม่มีใครกล้าเป็นศัตรูกับข้า!”เจิ้งจียังคงรู้สึกหวาดกลัวหวนคิดถึงเมื่อไม่นาน นักฆ่าพวกนั้นบุกเข้ามาในจวนชานเมือง สังหารองครักษ์ข้างกายประมุข แล้วก็ปลอมเป็นองครักษ์ ร่วมมือกับพวกนาง พาประมุขกลับวังตอนนี้ นักฆ่าพวกนั้นก็อยู่ในวัง กระทั่ง คอยจับตามองอยู่ข้างกายพวกเขาต่อให้ท่านแม่เป็นประมุข ก็จะสามารถสบายใจไม่ทุกข์ไม่ร้อนจริงหรือ?“ท่านแม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ข้ากลัว”น้ำเสียงเจิ้งจีสั่นเทาหลิวอิ๋งลูบใบหน้านาง พูดเตือนนาง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1018

    ในพระราชโองการที่ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนนั้น เขียนบันทึกไว้อย่างชัดเจน ขอเพียงนางยินยอม ก็สามารถเป็นประมุขแคว้นซีหนี่ว์ได้ทุกเมื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนถือพระราชโองการไว้ ในใจรู้สึกว้าวุ่นตลอดเวลาที่ผ่านมา นางคิดเพียงว่าตนเองคือคนของแคว้นหนานฉี เพื่อปกป้องแผ่นดิน ตายอยู่บนสนามรบ ก็ไม่ตำหนิเสียใจทว่าตอนนี้...ประมุขแคว้นซีหนี่ว์รู้นิสัยของนางเป็นอย่างดี รู้ว่านางไม่มีทางรับอำนาจปกครองแคว้นซีหนี่ว์“เด็กดี พระราชโองการฉบับนี้ เป็นสิ่งรับประกันที่ป้าให้กับเจ้า ให้อนาคตเจ้ามีทางถอย”บนโลกนี้ การมีชีวิตอยู่ของสตรีนั้นยากลำบากมีเพียงแคว้นซีหนี่ว์ เป็นผืนแผ่นดินของสตรีในความรู้สึกส่วนตัว นางยังคงคาดหวังให้จิ่วเหยียน สามารถกลับมาสู่ตระกูลทว่าอย่างไรนี่ก็เป็นเพียงความหวังจิ่วเหยียนกับฮ่องเต้ฉีเป็นสามีภรรยาที่รักใคร่กัน กำลังเป็นช่วงเวลาที่ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ แยกจากกันไม่ได้นายหญิงเฟิ่งคาดเดาได้ว่าในพระราชโองการมีอะไร สีหน้าแสดงออกถึงตกตะลึง“พี่สาว ท่านคิดอยากที่จะ...”ประมุขพูดขัดนาง“ซู่ยวน ให้เด็กตัดสินใจเองเถอะ”จากนั้นก็หันไปสั่งมั่วซิน“เราเหนื่อยแล้ว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status