แชร์

บทที่ 613

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-03 15:43:24
ในตารางหมากรุก เลือดสดสาดกระเซ็น

ขาทั้งคู่ของหลวงจีนถูกตัด ดวงตาถลนด้วยความโกรธแค้น

เซียวอวี้ยืนถือดาบ หัวเราะอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต

“เจ้า...วางหมากต่อสิ”

แม้แต่เฟิ่งจิ่วเหยียนยังคิดไม่ถึง เซียวอวี้จะเลือกวิธีโหดเหี้ยมขนาดนี้ จบการแข่งขันในครั้งนี้ก่อนกำหนด

ภายใต้ความมั่นใจว่าตารางหมากรุกไม่วุ่นวาย ตัดขาทั้งคู่ของหลวงจีน

คนอื่นเห็นเช่นนี้แล้ว ก็ลุกขึ้นมาด้วยความโกรธ

เฟิ่งจิ่วเหยียนหัวเราะเย้ย

“ทำไม ยอมรับการพ่ายแพ้ไม่ได้หรือ?”

เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ ทิ่มแทงเข้าไปในศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยของพวกเขา

หลวงจีนกัดฟัน “ให้พวกเขาไป ! ”

ดังนั้น พวกเขาผ่านชั้นสามไปได้แล้ว

หลังจากพวกเขาไปแล้ว หลวงจีนคนนั้นถูกคนประคองไปด้านข้าง

เขามองดูเงาหลังทั้งสองคนจากไปอย่างเยือกเย็น พูดยิ้มอย่างชั่วร้าย

“ชั้นสี่ขึ้นไปต่างหาก ถึงเป็นแดนนรกเจดีย์เก้าชั้นที่แท้จริง”

……

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม

ตูม ! ! !

เฟิ่งจิ่วเหยียนถูกชนกระเด็น แผ่นหลังกระแทกกับกำแพง

เซียวอวี้มองเห็นกับตา ไม่สามารถทำอะไรได้

เพราะนี่เป็นกฎเกณฑ์ท้าทายของชั้นสี่...ผู้ท้าทายต้องปิดตาไว้ ต่อสู้ด้วยมือเปล่าในระยะประชิด

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 614

    เมื่อครู่ตอนที่ประตูทางเข้าเจดีย์เก้าชั้นเปิด ทุกคนก็ล้วนเห็นแล้วเฉินจี๋คิดว่า ต้วนเจิ้งพูดถูกในเมื่อทางเข้าสามารถเปิดได้ ฉะนั้น สามารถเข้าได้ ก็ต้องสามารถออกได้สิ !ที่ไหนได้ หนานซานอ๋องพูดขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน“หากง่ายขนาดนี้ เจดีย์เก้าชั้นก็ไม่เรียกว่าเป็นเจดีย์เก้าชั้นแล้ว”“ทางเข้าเจดีย์เก้าชั้น มิใช่ประตูเปิดปิดง่ายดายแบบนั้น ที่พวกเจ้าสามารถมองเห็น คือด้านนอกประตู”“ข้างในยังมีอีกประตูหนึ่ง เรียกว่าประตูด้านใน”“ปกติที่ประตูด้านนอกปิดอยู่ ประตูด้านในจะเปิดอยู่”“เมื่อเปิดประตูด้านนอก ประตูด้านในก็จะปิดก่อน ยังเปิดใช้งานกลไกลูกศรหมื่นดอกยิงทิศทางเดียวระหว่างประตูด้านในและด้านนอก ไม่มีผู้ใดสามารถหลบพ้นได้”เฉินจี๋เกลียดชังเจดีย์เก้าชั้นนี้ยิ่งนักเขาร้องขอหนานซานอ๋อง“ท่านอ๋อง ขอร้องท่านเปิดประตูทางเข้า ให้พวกเราได้เข้าไปคุ้มกัน ! ”แววตาหนานซานอ๋องเมินเฉย“ไม่ได้”กฎปฏิบัติ จะทำให้วุ่นวายไม่ได้เฉินจี๋ชักกะบี่ออกมาทันทีทว่า หนานซานอ๋อง ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดจึงเตรียมการป้องกันไว้ตั้งแต่แรกแล้วเขามีคำสั่ง สิบสองเทพชะตามาปรากฏตัวทันที ขวางรั้งเฉินจี๋เหล่าองครั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 615

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูหน้ากาก แตกจน สวมไม่ได้แล้วแต่นางก็ไม่กลัวว่าคนที่นี่จะรู้จัก หันหลังเดินจากไปโดยตรง มุ่งหน้าไปบนชั้นหกข้างหลัง คนที่แพ้ให้กับนาง ก่อนตายได้พูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ“หากไม่ใช่เพราะข้า...ถูกดูดพลังไปครึ่งหนึ่ง ก็ไม่ถึงกับ ไม่ถึงกับต้องพ่ายแพ้...”เฟิ่งจิ่วเหยียนค่อยรู้ว่า คนพวกนี้ล้วนถูกดูดพลังภายในไปส่วนหนึ่งแววตาของนางเยือกเย็นไม่ว่ายังไง นางก็ชนะแล้วยังเหลือเจดีย์อีกสี่ชั้น นางก็จะสามารถได้เจอต้วนไหวซวี่แต่นางเหนื่อยมากนัก... เซียวอวี้รีบประคองนางไว้ “พักก่อน”เฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายหัว“ไม่ ไม่ช้าข้า...”เซียวอวี้ไม่พูดอะไรกับนางมาก ลงมือตีนางสลบทันทีเขามองเห็นถึงความเหนื่อยล้าของนาง ปล่อยแบบนี้ต่อไป ยังไปไม่ถึงชั้นที่เก้า นางก็จะหมดแรงจนตายเขาโน้มศีรษะลง จูบบนหน้าผากของนาง พร้อมพูดขึ้นมาอย่างอ่อนโยน “เรารู้ว่าเจ้าไม่ต้องการ ทว่า พึ่งพาเราบ้างเป็นบางครั้งก็จักดี”ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนตอนที่เฟิ่งจิ่วเหยียนฟื้นขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าตนเองอยู่ชั้นที่เท่าไรแล้วนางนั่งอยู่ข้างกำแพงหิน ลืมตาขึ้นมา สิ่งที่ปรากฏให้เห็น คือใบหน้าเยือกเย็นชาของเซียวอวี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 616

    เฟิ่งจิ่วเหยียนหันมามองเซียวอวี้ “เมื่อครู่ท่านพูดว่าอะไรนะ?”ดวงตาดำเข้มลึกล้ำราวกับเหวของเซียวอวี้ อดทนต่อร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ นั่งตัวตรงแล้วนำกริชที่พกติดตัวออกมาหลังจากนั้น เขาใช้กริชแทนพู่กัน วาดภาพบนพื้นเฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งลง มองดูสิ่งที่เขาวาด จากนั้นก็พบว่าเป็นแผนที่ในฐานะที่เซียวอวี้เป็นกษัตริย์ รอบรู้แผนที่แผ่นดินของตนเองเป็นอย่างดีเขาวาดได้อย่างยอดเยี่ยม ชายแดนเส้นเขตเมืองมีความชัดเจน แม้แต่หุบเขา แม่น้ำ ล้วนถูกวาดออกมานางไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงวาดภาพพวกนี้เป็นเพราะได้รับบาดเจ็บ เขาวาดได้ครึ่งหนึ่งก็รู้สึกเกินกำลัง เฟิ่งจิ่วเหยียนประคองเขาไว้ พร้อมพูดขึ้นมาด้วยเสียงต่ำ“ที่เหลือ ให้ข้าวาด”นางท่องยุทธภพ ได้เห็นทิวทัศน์ทัศนียภาพมากมายด้วยตาตนเองภายหลังเข้าไปอยู่ในค่ายทหาร ยิ่งต้องรอบรู้สภาพภูมิประเทศทั้งหมดเซียวอวี้เชื่อมั่นในตัวนาง ยื่นกริชมาให้ หลังจากนั้นก็เอนพิงบนผนังหิน มือข้างหนึ่งกุมหน้าอกไว้ หายใจค่อนข้างเจ็บปวดหลังจากเวลาผ่านไปสองเค่อ เฟิ่งจิ่วเหยียนวาดเสร็จแล้วนางหันมามองเซียวอวี้ “ได้หรือยัง?”เซียวอวี้ส่ายหัว “เหลืออีกหนึ่งภาพ”ทว่าภาพนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 617

    หน้ากากอันเดิมของเฟิ่งจิ่วเหยียนแตกแล้ว จำต้องใช้หน้ากากของคนอื่นมาแทน ทว่าไม่ค่อยพอดีกับใบหน้า แลดูเล็กไปหน่อยสีหน้าเซียวอวี้เต็มไปด้วยไอสังหาร มองดูคนตรงกลางอย่างเยือกเย็นชาเขาลงมือทันที โดยไม่มีการทักทายใด ๆหยางเหลียนซั่วยังคงอยู่ในท่านั่งสมาธิไม่ขยับเขยื้อนยังไงข้างกายเขา ยังมีห้าราชาคอยปกป้องทว่าหลังจากนั้น เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดเฟิ่งจิ่วเหยียนลอบโจมตีข้างหลัง เข็มเงินเล่มหนึ่งแทงตรงท้ายทอยเซียวอวี้ท่าทีถือกระบี่เคลื่อนไหวของเขาหยุดชะงัก ทันใดนั้นก็หันมามองอย่างไม่คาดคิด ราวกับถูกหักหลังอย่างรุนแรง“ทำไมเจ้า...”พูดยังไม่ทันจบ เขาก็หมดสติล้มลงบนพื้น พร้อมทั้งกระบี่เล่มนั้นก็ลงตกพื้นเสียงดัง “ตัง” จากกรงเล็บเฉียบคมกลายเป็นเหล็กไร้ค่าห้าราชาพรรคเทียนหลง ต่างมองสบตากันนี่เกิดอะไรขึ้น?หยางเหลียนซั่วมองฮ่องเต้ที่ล้มกองบนพื้นแวบหนึ่ง แล้วก็หันไปมองเฟิ่งจิ่วเหยียนเฟิ่งจิ่วเหยียนมองข้ามเซียวอวี้ ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว พร้อมยกมือประสาน“ข้าน้อยซูฮ่วน”ราชามังกรม่วงหัวเราะเย้ยอย่างโกรธจัด“ซูฮ่วน? ยังกล้ามาจริง ๆ ! เจ้ารู้หรือไม่ พวกเราเป็นใคร?”ในระหว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 618

    ให้นางฆ่าเซียวอวี้?ฝ่ามือเฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็นนางย้อนถามหยางเหลียนซั่ว ด้วยท่าทีเป็นปกติ“พวกเจ้ามีวิธีออกจากเจดีย์?”ความหมายในคำพูด แสดงว่าฮ่องเต้รู้ทว่า หยางเหลียนซั่วไม่หลงเชื่อ ดวงตาของเขาเฉียบคมเหมือนกริช“ฆ่าเขา”เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินมาข้างหน้า ปกป้องเซียวอวี้“ข้าเอาขุมทรัพย์ คน ข้าก็เอา”ราชามังกรม่วงลุกขึ้นมาใหม่ หันไปพูดกับหยางเหลียนซั่ว “ประมุขพรรค มีกลอุบาย ! ซูฮ่วนเชื่อถือไม่ได้ ! ”หยางเหลียนซั่วจ้องมองเฟิ่งจิ่วเหยียนเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาตามตรง“ซูฮ่วนชอบผู้ชาย คนนี้ ข้ายังไม่เบื่อ“ฆ่าเขา พวกเจ้าใครสามารถชดเชยให้ข้าที่ดีกว่านี้?”พูดเสร็จ นางกวาดสายตาหันไปมองห้าราชา เหมือนกำลังคัดเลือกของ แววตากำเริบเสิบสาน แฝงไปด้วยความหยอกล้อ พร้อมพูดเพิ่มเติมขึ้นมา “ใช่แล้ว ข้าชอบเล่นแบบตื่นเต้น หากพวกเจ้าทนได้ ต่อให้อายุมากหน่อย ข้าก็ไม่ถือสา...”เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ ราชามังกรม่วงถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัวแววตาหยางเหลียนซั่วเยือกเย็น“นำทาง”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองห้าราชา อย่างค่อนข้างเสียดายทว่า มิมีใครสบตานางสักคนหยางเหลียนซั่วไม่ได้ไปจากชั้นเก้า สั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 619

    หลังจากราชามังกรม่วงกับราชามังกรแดงตาย เฟิ่งจิ่วเหยียนชี้ไปยังสองคนท่ามกลางฝูงคนชั่วร้าย “พวกเจ้า สวมเสื้อผ้า ปลอมตัวเป็นพวกเขา”คนพวกนั้นไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของเฟิ่งจิ่วเหยียน ทว่า เพื่อรักษาชีวิตตนเองให้รอด และเพื่อขุมทรัพย์อะไรนั่น จึงยอมฟังนางชั่วขณะพวกเขาเหล่านี้ หากไม่มีความสามารถบ้าง ก็คงจะไม่ถูกกักขังอยู่ในเจดีย์เก้าชั้น ดังนั้นการปลอมตัวเป็นอีกคนหนึ่ง เป็นเรื่องง่ายมากเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า สวมหน้ากาก ก็เหมือนขึ้นมาจริง ๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เฟิ่งจิ่วเหยียนพาพวกเขา กลับไปชั้นบนสูงสุดหยางเหลียนซั่วนั่งขัดสมาธิฝึกพลังลมปราณ ได้ยินพวกเขากลับมา ก็ลืมตาขึ้นราชามังกรม่วงเดินหน้ามาทำความเคารพ“ประมุขพรรค สำรวจดูแล้ว เป็นสถานที่พวกเราคาดคิดไม่ถึงจริง ๆ อยู่ใต้ดินเจดีย์ชั้นห้า ถึงว่ามันค่อนข้างหนากว่าชั้นอื่น”หยางเหลียนซั่วมองดูรอยเลือดบนตัวพวกเขาอย่างเย็นชาเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาตามตรง“พวกเขาคิดสังหารข้า ทว่าไม่สำเร็จ หากข้าเป็นเจ้า จะไม่รีบฆ่าปิดปาก ยังไง ใครจะไปรู้ว่าตำแหน่งที่ข้าบอกเป็นจริงหรือเท็จ”คำพูดของนางแฝงไปด้วยความข่มขู่หยางเหลียนซั่วมองดูนางอย่างเคร่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 620

    เซียวอวี้วิ่งขึ้นไปข้างบน วิ่งมาจนถึงชั้นบนสุดเขารู้ว่าไปข้างล่างนั้นมีโอกาสรอดมากกว่า ทว่าหากเขาเลือกลงไปข้างล่าง เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่มีทางรอดแล้วอย่างแรก เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ร่างกายของนางผอมเล็กกว่า วิชาตัวเบาก็ดีกว่า สามารถผ่านประตูข้างในไปได้ไวกว่า มีโอกาสออกไปจากเจดีย์ได้มากกว่าอย่างที่สอง เมื่อออกไปจากเจดีย์แล้ว ก็ต้องพูดกล่อมให้หนานซานอ๋องทำลายเจดีย์ หากคนที่ยังอยู่ในเจดีย์คือนาง หนานซานอ๋องไม่มีทางสนใจความเป็นความตายของนาง ทว่าหาก...คนที่ติดอยู่ข้างในคือเขาที่เป็นฮ่องเต้ หนานซานอ๋องอาจจะมีความกังวลบ้างจะว่าไปแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้คิดวางแผนเรื่องออกจากเจดีย์เลยนางคิดเพียงให้เขามีชีวิตอยู่ กระทั่ง นางเตรียมพร้อมที่จะตายไปพร้อมกับต้วนไหวซวี่เขาจะให้นาง “สมปรารถนา” ได้อย่างไร !……เฟิ่งจิ่วเหยียนวิ่งมาถึงชั้นหนึ่งแล้วสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เวลาคับขัน นางจะลังเลไม่ได้เจดีย์เก้าชั้นเข้าได้ออกไม่ได้ ทางเข้าก็คือทางออกนางอยากออกไป ก็ต้องรอประตูเปิดเซียวอวี้เข้ามาแล้ว ยังไงพวกเฉินจี๋ก็จะต้องหาทางเข้ามาคุ้มกันประตูนี้ ยังไงก็จะต้องเปิดนางพยายามอย่างที่สุด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 621

    “ซูฮ่วน? ! เจ้าออกมาได้อย่างไรกัน! ฝ่าบาทเล่า!” เฉินจี๋มองไปที่ด้านหลังของนางทันที กลับมองเห็นเพียงประตูที่ปิดอยู่ ไม่มีเงาร่างของฮ่องเต้หนานซานอ๋องถามอย่างรีบร้อน“คุณชายซู! ฝ่าบาทเล่า!”ยามนี้เขากลับไม่เรียกว่าฮ่องเต้ทรราชแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันกล่าว “ขอท่านอ๋องโปรดรีบออกคำสั่งให้ระเบิดทำลายเจดีย์เก้าชั้นเดี๋ยวนี้!”สีหน้าของหนานซานอ๋องกลายเป็นสีเขียวทันที“เจ้าว่าอะไรนะ”ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตรงนี้คือตำแหน่งโลหิตหงส์ ฝ่าบาทเองก็ยังอยู่ข้างในนะ!ซูฮ่วนผู้นี้คิดจะยืมมือเขาปลงพระชนม์รึ!“ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาด!”เฟิ่งจิ่วเหยียนอธิบายให้เขาฟัง “ฝ่าบาททรงอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ประมุขพรรคเทียนหลงบุกโจมตีขึ้นไปได้ทุกเมื่อ ดังนั้นจึงต้องรีบทำลายมันทิ้ง เร็วเข้า!”ถึงจะเป็นเช่นนี้ หนานซานอ๋องก็ยังคงส่ายหน้าท่าทางของเขาหนักแน่นมาก“ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้! พอเจดีย์เก้าชั้นถูกทำลาย โลหิตหงส์ก็จะถูกตัดขาด ข้าไม่อาจทำลายโลหิตหงส์นี้ได้! นี่เกี่ยวพันถึงชะตาของแคว้นหนานฉี เรื่องนี้อย่าว่าแต่ข้ารับผิดชอบไม่ไหว ฝ่าบาทเองก็รับผิดชอบไม่ไหวเช่นกัน!”เฉินจี๋โมโหขึ้นบ้างแล้ว“หนานซานอ๋อง!

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 634

    เพื่อรับมือกับหยางเหลียนซั่ว เซียวอวี้ได้เตรียมการป้องกันไว้แล้วเหล่าองครักษ์จึงตั้งค่ายกล พร้อมปล่อยตาข่ายลงมา เหมือนกับดักจับปลา ทำให้หยางเหลียนซั่วติดอยู่ในตาข่ายจากนั้นคนจำนวนหนึ่งก็รีบล้อมวงเข้ามา และย้ายตำแหน่งกัน ปากตาข่ายจึงรัดแน่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ตามการเคลื่อนไหวของพวกเขาหยางเหลียนซั่วเหวี่ยงมือทั้งสองข้าง และดิ้นรนทว่า การพังทลายของเจดีย์เก้าชั้น เดิมก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นยังต่อสู้กับคนจำนวนมาก โดยเฉพาะการโจมตีของซูฮ่วน บวกกับในเวลานี้เขาธาตุไฟเข้าแทรก พลังเจินชี่กลับรั่วไหลออกมา ตาข่ายนี้ ในยามปกติเขาสามารถทำลายได้อย่างง่ายดาย ทว่าตอนนี้กลับมีกำลังไม่เพียงพอพลังเจินชี่รั่วไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเขาก็ได้รับความทรมานเช่นกัน“ยิงธนู!!” หนานซานอ๋องออกคำสั่งตามมาในขณะที่กำลังจะยิงสังหารราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่นี้ได้ แต่จู่ ๆ หมอกควันสีขาวก็กระจายฟุ้งขึ้นมาโดยรอบตรงกลางหมอกควันนั้น ก็คือหยางเหลียนซั่ว เฟิ่งจิ่วเหยียนหัวใจบีบแรงแย่แล้ว!มีคนช่วยหยางเหลียนซั่ว!หมอกควันหนาทึบ ทุกคนมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ชัด ทั้งยังสำลักควันหนานซานอ๋

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 633

    หยางเหลียนซั่วดูดซับพลังภายในของคนจำนวนมาก หาใช่จะควบคุมได้ง่ายเพียงนั้นแรงกระตุ้นจากคำพูดของเฟิ่งจิ่วเหยียน ทำให้พลังเจินชี่ภายในของเขาแปรปรวนเพื่อป้องกันมิให้พลังเจินชี่พลุ่งพล่าน จนทำให้ธาตุไฟเข้าแทรก เขาจึงมิอาจใช้เคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถีได้ ขณะเดียวกันก็ยังต้องใช้พลังภายในควบคุมตนเองให้นิ่งในเสี้ยววินาทีสั้น ๆ นี้ ก็ทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนและตงฟางซื่อมีโอกาสท่าทะลวงพิฆาต---กระบวนท่าโจมตีเป็นคู่ของพวกเขาเฟิ่งจิ่วเหยียนโยนกระบี่ให้ตงฟางซื่อ คนหลังเปลี่ยนมาโจมตีทางตรงก่อน ท่าเคลื่อนไหวกระบี่วกวนจนทำให้ลายตาหยางเหลียนซั่วถอยหลังไปหลายก้าว ทว่ากลับไม่สังเกตเห็นว่า เหนือศีรษะของเขา เฟิ่งจิ่วเหยียนราวกับนกอินทรีโฉบลงมากินเหยื่อ พร้อมกับพลังที่รวบรวมอยู่ในฝ่ามือตูม!ฝ่ามือของนางกระแทกลงมาบนศีรษะของหยางเหลียนซั่ว!ในเสี้ยววินาทีนั้น กะโหลกศีรษะของเขาสั่นไหวเมื่อเห็นเช่นนี้ เซียวอวี้ก็รีบซัดฝ่ามือจากด้านข้างเพิ่มไปอีกหนึ่งฝ่ามือสิบเอ็ดเทพชะตาก็รีบเข้ามาเสริมกำลัง และใช้กระบวนท่าโจมตีหยางเหลียนซั่วโดยพร้อมเพรียงกองกำลังมากกว่าสิบคนก็โจมตีมาในเวลาเดียวกัน หยางเหลียนซั่วขับ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 632

    ภูเขาอวี้หลิงหยางเหลียนซั่วราวกับพญาวานร กระโดดออกมาท่ามกลางก้อนหินกระจัดกระจายเหล่าทหารเหมือนเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจตงฟางซื่อพุ่งมาด้านหน้าในทันที และขวางหยางเหลียนซั่วไว้ด้วยพละกำลังของตนเอง เพื่อไม่ให้คนวิ่งหนีไปได้ทันใดนั้น สิบสองเทพชะตาที่คุ้มกันขุนเขาก็ลงมือ ตั้งค่ายกลปิดล้อมหยางเหลียนซั่ว และเปิดฉากโจมตีเขาอย่างต่อเนื่องเฟิ่งจิ่วเหยียนพร้อมคณะรีบตามไป และมองเห็นฉากการประมือของพวกเขาการต่อสู้อันดุเดือดทำให้ก้อนหินภูเขาแตกกระจายเหล่าทหารใช้ลูกธนูยิงออกไป ทว่ายากจะเล็งไปยังหยางเหลียนซั่วได้อย่างแม่นยำเฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้สวมหน้ากาก จึงเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงในเวลานี้ หยางเหลียนซั่วจดจำเซียวอวี้ได้ และยิ่งจดจำ “เมิ่งสิงโจว” ได้อย่างชัดเจน---คนร้ายที่ลอบสังหารเจาเอ๋อร์ของเขา!หากมิใช่เมิ่งสิงโจว เจาเอ๋อร์ก็คงมิอยู่ในสภาพปางตาย! ดวงตาของหยางเหลียนซั่วใต้หน้ากากพลันแดงก่ำเขารีบพุ่งออกมาจากวงล้อมของสิบสองเทพชะตา และมุ่งตรงมายังเซียวอวี้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนเฟิ่งจิ่วเหยียนชักกระบี่ยาวออกจากฝัก และเดินตรงไปด้านหน้าเซียวอวี้กับตงฟางซื่อสองคนก็โจมตีจากด้านข้างทั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 631

    ต้วนไหวซวี่ตายแล้วที่จริงชีวิตเขาใกล้จะมอดดับไปนานแล้วหลายปีที่ผ่านมา เขาฝืนทนอยู่ได้ ก็เพื่อรักษาข้อตกลงห้าปีนั้นตอนนี้ เมื่อเห็นว่าอาเหยียนของเขามีความสามารถปกป้องตนเองได้ ข้างกายยังมีสหายและคนรัก รู้ว่านางมิจำเป็นต้องการตนอีกต่อไป เขาก็ปลดปล่อยพลังอย่างหมดสิ้นชีวิตนี้ของเขาไม่เจ็บแค้น และไม่เสียใจเสียงร่ำไห้ของต้วนเจิ้งนั้น ทำลายความเงียบสงัดของรัตติกาลทั่วทั้งจวนอ๋องถูกปกคลุมด้วยความมัวหมองเซียวอวี้ยืนอยู่ที่ลานกว้าง พร้อมแหงนหน้าขึ้น และมองไปยังดวงจันทร์สีขาวนวลดวงนั้นเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกังวลใจหากต้วนไหวซวี่ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะสามารถแย่งชิงมาได้จริง ๆ หรือไม่?พวกเขาอยู่ด้วยกันเพียงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่วัน รวมถึงเคยพูดคุยกันไม่กี่ประโยค เขาก็รู้แล้วว่า เหตุใดตอนแรกเฟิ่งจิ่วเหยียนถึงชอบต้วนไหวซวี่ถึงเพียงนั้นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนเช่นนี้ กระทั่งตายก็ยังนึกถึงคนอื่นเขามิอยากเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนร่ำไห้ให้กับต้วนไหวซวี่ จึงกลับเข้าห้องในทันที ทั้งรู้สึกว้าวุ่นในใจ เหมือนสิ่งของกระจัดกระจายมากมาย กำลังลอยละลิ่ว ทำให้คนคว้าไว้ไม่ได้ จิตใจจึงกระวนกระวาย......หนานซ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 630

    “ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น!” เฟิ่งจิ่วเหยียนตกใจอย่างมากแม้นหมอจะบอกว่า เวลาของต้วนไหวซวี่เหลือไม่มากแล้ว แต่อย่างน้อยก็ยังเหลือเวลาอยู่อีกหลายวันนางยังไม่ทันได้เตรียมใจ——เขากำลังจะลาจากโลกนี้ไปแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนรีบกลับไปที่จวนหนานซานอ๋องเมื่อเปิดประตูเข้าไป เห็นเพียงต้วนไหวซวี่นอนอยู่บนเตียง ลมหายใจเริ่มโรยรินขึ้นเรื่อย ๆ ความมีชีวิตชีวาบนใบหน้าหล่อเหลานั้นค่อย ๆ เลือนหายไปต้วนเจิ้งคุกเข่าอยู่ข้างเตียง กุมมือของเขาไว้แน่น“ท่านพี่ ท่านพี่! ท่านอย่าหลับนะ! กว่าเราจะช่วยท่านออกมาได้…ท่านพี่!”เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินเข้าไปทีละก้าวอย่างแข็งทื่อ จ้องมองต้วนไหวซวี่แน่นิ่ง นัยน์ตาทอแววเวทนา“ไหวซวี่…”ผ้าปูเตียงเปื้อนไปด้วยเลือดสด ๆ ของเขา เขามองมาที่นาง ด้วยแววตาอ่อนโยน ราวกับว่าไม่อยากให้นางกังวลและกลัว“อาเหยียน ข้าไม่เป็นอะไร” เขาพยายามยิ้มออกมาเฟิ่งจิ่วเหยียนกำหมัดแน่นนางรู้ว่าร่างกายของเขาต้องแบกรับความเจ็บปวดมากแค่ไหนมากถึงขนาดที่ว่า ทุกครั้งที่หายใจ เหมือนถูกลงโทษประหารแล่เนื้อการมีชีวิตอยู่สำหรับเขา ไม่ได้สบายในวินาทีนี้ นางปล่อยวางแล้วดังนั้นนางจึงนั่งลงข้างเต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 629

    ตงฟางซื่อตอบกลับยิ้ม ๆ“ได้สิ ลำบากนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร กลัวแต่หยางเหลียนซั่วจะหนีไปได้จริง ๆ”หนึ่งชั่วยามต่อมาเฟิ่งจิ่วเหยียนกลับมาถึงจวนหนานซานอ๋องได้ยินว่าอาการของต้วนไหวซวีแย่ลง นางจึงรีบเข้าไปในห้องของเขาข้างเตียง สีหน้าของต้วนเจิ้งค่อนข้างย่ำแย่“วันนี้ฮ่องเต้มาหาพี่ชายของข้า ทำให้พี่ชายของข้าอาเจียนเลือดออกมา”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยต้วนไหวซวี่อธิบายด้วยสีหน้าอ่อนแรง“อย่าไปฟังที่อาเจิ้งพูด ไม่เกี่ยวอะไรกับฮ่องเต้ ร่างกายของข้าไม่ดีเอง อาเหยียน พวกเจ้าเจอศพประมุขพรรคหรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดอย่างใจเย็น“เพื่อป้องกันไม่ให้คนหนีออกไปได้ ตอนนี้เหล่าทหารทำได้เพียงเฝ้าไว้ยังไม่ขุด จึงยังไม่เจอศพ ไหวซวี่ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลมาก มีคนอยู่มากมาย ไม่มีทางปล่อยให้เขาหนีไปได้หรอก”หัวคิ้วของต้วนไหวซวี่ขมวดเข้าหากัน“ข้ากลัวว่า ประมุขพรรคจะไม่ตายง่าย ๆ …อาเหยียน เจ้าต้องระวัง และป้องกันมากหลายเท่านะ“หากเขาหนีไปได้จริง ๆ เจ้าจงจำไว้ว่า…วิชาดาราโรยหมื่นวิถีควบคุมได้ยาก สิ่งที่กลัวที่สุดคือจิตใจว้าวุ่น ไม่เช่นนั้นอาจหมกมุ่นเหมือนถูกมนต์ดำ…แค่ก ๆ !”ต้วนไหวซวี่ร่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 628

    ดูเหมือนการมาเยือนของเซียวอวี้ จะอยู่ในความคาดหมายของต้วนไหวซวี่เขานั่งพิงหัวเตียง สีหน้าซีดขาวตามประสาคนป่วย จากนั้นก็ดุต้วนเจิ้งว่า “อาเจิ้ง อย่าเสียมารยาท เจ้าออกไปก่อน”ต้วนเจิ้งไม่กล้าปล่อยพี่ชายไว้กับฮ่องเต้ทรราชคนหลังอารมณ์ดุร้ายแค่ไหน เขาเคยได้ยินมาเซียวอวี้เดินตรงไปนั่งข้างโต๊ะ พูดอย่างเปิดเผยว่า“ให้เขาอยู่ด้วยก็ได้“สิ่งที่เรากำลังจะพูดกับเจ้าต่อจากนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ให้คนฟังไม่ได้”ต้วนไหวซวี่พยักหน้าอย่างยากลำบาก“พ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้นั่งอยู่ตรงนั้น ท่าทางน่าเกรงขาม“เรารู้ เจ้าเป็นคนรุ่นหลังของตระกูลต้วน“ตระกูลต้วนก่อกบฏจนถูกสังหารชั่วโคตร ที่พวกเจ้าสองพี่น้องโชคดีรอดมาได้ ก็นับว่าเป็นบุญคุณจากสวรรค์แล้ว“เฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นฮองเฮาของเรา…”ต้วนเจิ้งรีบแก้คำพูดให้เขา “อดีตฮองเฮาต่างหาก พวกท่านหย่าร้างกันแล้ว ทั่วใต้หล้าต่างรู้กันหมด”เซียวอวี้ปรายตามองเขาอย่างเย็นชา คร้านจะโต้แย้งอะไรกลับไป“เห็นแก่ความรู้สึกของนาง เราจะละเว้นโทษให้พวกเจ้าสองพี่น้อง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปพวกเจ้าหลุดพ้นจากการเป็นผู้กระทำต่ำช้า กลับมาเป็นผู้บริสุทธิ์อีกครั้ง”ต้วนเจิ้งค่อนข้า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 627

    เฟิ่งจิ่วเหยียนคาดเดา“หนานซานอ๋องคิดว่า คนร้ายถูกส่งเข้ามาในเจดีย์เก้าชั้น เพื่อนำมาหล่อเลี้ยงโลหิตหงส์ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น“ตอนนั้นปฐมจักรพรรดิต้องใช้คนมีชีวิตมาบูชายัญ เพื่อสยบความดุร้ายของศิลาหยก“ด้วยเหตุนี้ จึงนำอาภรณ์ของเชื้อพระวงศ์มาใส่ให้คนร้ายเหล่านี้ แลกกับความสงบสุขของราชวงศ์”ส่วนเหตุใดต้องเลือกคนร้ายเหล่านั้น ประการแรก ปฐมจักรพรรดิยังพอมีจิตสำนึก คิดว่าคนเหล่านี้กระทำผิดอย่างไร้ขอบเขต ไม่ว่าตายแบบไหนยังนับว่าเบาเกินไปสำหรับพวกเขาประการที่สอง เจดีย์เก้าชั้นจองจำผู้กระทำผิดชั่วร้ายไว้ ตัดความคิดของคนที่ต้องการตามหาสมบัติ ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนหลีกห่างเซียวอวี้พยักหน้า เห็นด้วยกับการคาดเดาของนาง“ปฐมจักรพรรดิไม่ได้บอกความจริงกับหนานซานอ๋อง จนหนานซานอ๋องสืบสายเลือดมาถึงปัจจุบัน ก็ยังคิดว่าสิ่งที่พวกเขาเฝ้าปกปักษ์คือโลหิตหงส์”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวน้ำเสียงเรียบนิ่ง“นี่เป็นเรื่องปกติของมนุษย์“มีฐานะเป็นถึงฮ่องเต้ คงไม่อยากให้มนุษย์โลกคิดว่า เขาจะกลัวศิลาหยก”พูดมาถึงตรงนี้ นางก็ต้องเอ่ยถึงอีกเรื่อง“ไหวซวี่บอกว่า หยางเหลียนซั่วผู้นั้นคือคนรุ่นหลังของแคว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 626

    เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นยืน โค้งคำนับท่านอ๋องทั้งสองคนสองคนนั้นกลับหันไปคารวะเซียวอวี้ใบหน้าของอ๋องผู้เฒ่าออบโอ้มอารี เอ่ยอย่างหยอกล้อ“แม่นางเฟิ่ง โลหิตหงส์ขาดแล้ว ช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ หากเจ้าอภิเษกกับฝ่าบาทอีกครั้งได้…”หัวคิ้วของเฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดเล็กน้อยเซียวอวี้รู้ดี ในตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความคิดพิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่ดี ๆ ก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ก็มีแต่จะทำให้นางหงุดหงิดเขาเป็นฝ่ายตัดบทของอ๋องผู้เฒ่า“พูดเรื่องสำคัญได้แล้ว”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ตัวว่าสถานะของตัวเองไม่เหมาะสม จึงจะขอตัวออกมาเซียวอวี้กลับคว้าแขนของนางไว้ “เจ้าไม่ต้องไป”“เพคะ”หนานซานอ๋องกล่าวอย่างนอบน้อม“ฝ่าบาท ที่กระหม่อมกับท่านพ่อมา เพราะอยากขอคำชี้แนะเรื่องขุมทรัพย์กับศิลาหยก เจดีย์เก้าชั้นถูกทำลายแล้ว ต่างถูกฝังไว้ใต้ดินทั้งหมด จำเป็นต้องขุดมาหรือไม่”เซียวอวี้ถามอย่างเรียบนิ่ง“เรื่องศิลาหยก พวกเจ้ารู้มากแค่ไหน?”หนานซานอ๋องหันไปมองอ๋องผู้เฒ่าเขาสงสัยมาตลอด ของศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ เหตุใดปฐมจักรพรรดิต้องครอบงำมันไว้ในเจดีย์เก้าชั้น?คำบอกเล่าของตงฟางซื่อก่อนหน้านี้ ทำให้เขาพะว้า

DMCA.com Protection Status