공유

บทที่ 596

작가: อี้ซัวเยียนอวี่
เมื่อเศษละอองฝุ่นจางหายออกไปแล้วนั้น ก็พลันพบกับสตรีที่สวมใส่ผ้าคลุมหน้านางหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังของท่านประมุข ก่อนจะใช้มีดด้ามเดียวปลิดชีพประมุขพรรคเทียนหลง

เพียงแค่มองครั้งเดียว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็จำได้ในทันทีว่าสตรีผู้นี้คือคนที่ยืมมือมาช่วยเหลือนางภายในอารามเต๋าคืนนั้น ทั้งยังเรียกขานตัวเองว่า “จางเสวี่ย”

“แม่นางหร่าน! เจ้ากำลังทำอะไร!” เหล่าลูกศิษย์พรรคเทียนหลงที่จดจำนางได้จากไกล ๆ นั้น พลางเอ่ยถามด้วยความโกรธแค้น

ประมุขพรรคที่ถูกแทงนั้น พลันหันมาคว้าคอของหร่านชิวเอาไว้

เขามิเคยคิดเลยว่า ลูกศิษย์ที่รักของตนเอง จักกล้ากระทำตัวหักหลังต่อตนเองเช่นนี้ได้

ประมุขพรรคที่กำลังรวบรวมกำลังภายในเมื่อครู่นั้น เขาย่อมมิมีทางรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นได้ทัน ผู้ที่ลงมือกับเขาในยามนี้ ถือว่าเป็นการมุ่งร้ายจะเอาชีวิตเลยทีเดียว!

เขาต้องการฆ่านังคนทรยศผู้นี้!

หากแต่เซียวอวี้ก้าวไวกว่าเขาไปหนึ่งก้าว พลางประทับฝ่ามือไปที่ด้านหลังประมุขพรรคในทันที

ฉึก—

เลือดสด ๆ สาดกระเซ็นบนผ้าคลุมหน้าของหร่านชิว แววตาของนางเจือไปด้วยความอำมหิต พร้อมทั้งแทงมีดลงไปที่ทรวงอกของประมุขพรรคเทียนหลงในทันท
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
댓글 (21)
goodnovel comment avatar
yin chen
ประมุขพรรคตายจริงมั้ย ขยันฟื้นกันบ่อย
goodnovel comment avatar
อาภรณ์ เมืองรักษา
ทุกคำถามไม่เคยใด้คำตอบเลยทำไมไม่ลงให้จบๆๆคนอ่านมีเงินจ่ายถ้าไม่มีตอนจบก็สรุปบทไปเลยเบื่อจะออกจากแอฟแล้ว
goodnovel comment avatar
Tunpimon Vunjun
แอ้ดใจร้ายเหมือนคนรักฉันเลย บอกเราดีแต่ก็นอกใจเรา555555
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 597

    เซียวอวี้มิอยากพบหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนในตอนนี้เขารู้ดีว่า การที่นางมาขอเข้าพบตนเองเช่นนี้ จักต้องเป็นเพราะต้วนไหวซวี่อย่างแน่นอนเนื่องจากเบาะแสที่มีอยู่ในมือของนางไม่เหลือแล้ว จึงต้องการความช่วยเหลือจากเขาดวงตาของเซียวอวี้พลันเจือไปด้วยความมืดมนหัวใจของมนุษย์นั้นสร้างมาจากเลือดเนื้อตัวเอง หากว่าเลือดเนื้อนี้ถูกทำลายจนได้รับบาดเจ็บ ก็ย่อมตกตายไปเมื่อคืนนี้ หลังจากที่เขารู้ว่านางทิ้งความปลอดภัยของเมืองหลวงและเลือกที่จะไปช่วยต้วนไหวซวี่นั้น เขาก็หมดความหวังในตัวนางแล้วการปล่อยนางไป ถือเป็นสิ่งที่เขาสมควรทำในตอนนี้ หากนางต้องการให้เขาช่วยเหลือนางอีกละก็ เขาคงไม่อาจทำเพื่อนางได้อีก“บอกไปว่าเราไม่ว่าง”เซียวอวี้มิต้องการเจอนาง ทั้งยังพยายามบีบให้นางต้องล่าถอยไปเองส่วนความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างนางกับต้วนไหวซวี่จักเป็นเช่นไรนั้น หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับเขาไม่ในยามนี้ เรื่องราวที่เขาจักต้องจัดการอยู่ภายในมือมีอยู่มากมายนักทั้งพรรคเทียนหลงและเซียวจั๋วเรื่องราวเหล่านี้มีสิ่งใดมิสำคัญไปมากกว่าการช่วยนางตามหาต้วนไหวซวี่กัน?ตกกลางคืน เซียวจั๋วถูกเรียกตัวเข้าวังในทันทีเขาเองก็

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 598

    ทั่วร่างของเซียวอวี้ราวกับถูกฟ้าผ่าไปในทันทีนางกำลังทำอันใดกัน!ทั่วร่างของเซียวอวี้พลันแข็งทื่อ คิ้วที่ขมวดเป็นปมเมื่อครู่นั้น พลันผ่อนคลายลงราวกับภูเขาหิมะที่ถูกความอบอุ่นของแสงอาทิตย์สาดส่องลงมาในทันทีเสมือนกับแผ่นดินที่แห้งแล้งได้มาพบเจอกับความชุ่มฉ่ำของน้ำฝน ราวกับขอนไม้ที่แห้งตายได้ฟื้นคืนชีพกลับมายามวสันตฤดูจิตใจของเขาที่แห้งเหือดมาเนิ่นนาน ราวกับมีบุปผาผลิดอกออกบานขึ้นมาในชั่วพริบตา ยามที่ดอกไม้สั่นไหวเบา ๆ นั้น ความรู้สึกหอมหวานปมซาบซ่านพลันแผ่ซ่านไปทั่วหน้าอก จนหลอมรวมมาเป็นเปลวเพลิงอันร้อนแรงในครานี้ เป็นนางที่ยอมถอดหน้ากากของตนเองออกมานางยอมออกมาเพื่อเผชิญหน้ากับเขาแล้วงั้นหรือ!เซียวอวี้คว้าด้านหลังคอของนางเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบตอบกลับไปเฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้ผลักเขาออกไป ยิ่งทำให้เซียวอวี้ได้ใจมากกว่าเดิมหัวใจที่ราวกับมีเพลิงไฟร้อนรุ่มอยู่ในนั้น เซียวอวี้พลันใช้แขนข้างหนึ่งโอบเอวของนางเอาไว้ ก่อนจะยกตัวนางขึ้นวางบนโต๊ะทรงงานของตัวเอง อ้อมแขนอันแข็งแกร่งกักขังเฟิ่งจิ่วเหยียนเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบต่อไปมิยอมปล่อยให้นางได้หนีหายจากไปอีก สิ่งที่เซียวอวี้นึกไม่ถึงก็คือ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 599

    เซียวอวี้นั่งอยู่บนหัวเตียง ทั่วร่างเพียงสวมเสื้อคลุมเอาไว้หลวม ๆ เท่านั้น พลางเผยให้เห็นหมัดกล้ามเนื้อที่อันล่ำสัน ที่มีเหงื่อไหลออกมาเล็กน้อยใบหน้าที่รูปงามพลางแสดงสีหน้าความเกียจคร้านออกมาเล็กน้อย หางตายังคงเจือไปด้วยรอยเปื้อนสีแดง ผมเผ้าที่เคยเกล้าเอาไว้ ในยามนี้กับยุ่งเหยิงในยามนี้ เขาจ้องมองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียนที่นั่งอยู่ข้างเตียงนางค่อย ๆ สวมใส่อาภรณ์ของตนเองลงไปทีละชิ้น ผมที่เกล้ามัดขึ้นไปใหม่ ทุกอริยาบถของนาง ในสายตาของเซียวอวี้แล้วนั้น มันเต็มไปด้วยความสบายตาสบายใจ ทั้งยังทำให้ภายในใจของเขาเกิดอาการร้อนรุ่มขึ้นมาไม่น้อยเซียวอวี้มิคิดเลยว่า ตนเองจักมีโอกาสได้โอบกอดนางอีกครั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ราวกับเพียงแค่ความฝันฉากหนึ่งยามที่เฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังจะลุกออกไปนั้น เซียวอวี้ก็สวมกอดนางจากด้านหลังในทันที“อย่าไปเลย เราจักช่วยคนให้เจ้า…”เขามิอยากเห็นนางตกตายไปได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยตัดบทเขาออกมาด้วยความใจเย็น“นี่คือเรื่องของหม่อมฉันเพคะ”เซียวอวี้มิยอมปล่อยมือ ก่อนจะกดคางของตนเองลงบนไหล่ของนาง “จิ่วหยาน เจ้ายังมีเราอยู่ในใจ อีกทั้งร่างกายของเจ้าเป็นค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 600

    กลางดึกนั้น ไทฮองไทเฮาต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคกระเพาะอาหาร พระนางได้แต่คร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวดหมอหลวงถูกเรียกตัวไปแล้ว ฝั่งของฝ่าบาทเองสมควรที่จะทราบสถานการณ์เช่นกันในเมื่อเป็นเรื่องเร่งด่วนเช่นนี้ หลิวซื่อเหลียงจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากต้องเข้าไปรายงานสถานการณ์ด้านในตำหนักเมื่อเห็นว่าประตูกั้นด้านในตำหนักถูกปิดสนิทนั้น ยามที่กำลังจะเอื้อมเอามือผลักเข้าไปด้านใน จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงที่ทำให้ใจตนเองเต้นรัวและใบหน้าของตนเองต้องเผลอแดงก่ำออกมาพระเจ้า!ด้านในนั้น...หลิวซื่อเหลียงก้าวถอยไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว และรีบหันกายวิ่งหนีไปทันทีสตรีที่อยู่ภายในห้องบรรทมนั้น มาจากที่ใด ? !ยามที่หลิวซื่อเหลียงวิ่งออกมานั้น เขาบังเอิญเจอเข้ากับเฉินจี๋เมื่อเห็นเสื้อผ้าอาภรณ์ที่อยู่ในมือของเฉินจี๋แล้ว หัวใจของหลิวซื่อเหลียงพลันเกิดอาการเต้นแรงขึ้นมานี่ นี่ นี่... นี่มันอาภรณ์ของบุรุษ!เมื่อครู่ หากเขาได้ยินไม่ผิดไปละก็ หรือว่า ผู้ที่คอยปรนนิบัติฝ่าบาทอยู่ด้านในนั้น หาใช่สตรีไม่ แต่เป็นบุรุษเช่นนั้นหรือ? !จบกัน!เหตุใดฝ่าบาทถึงเลอะเลือนเช่นนี้ได้กัน!เฉินจี๋ที่มิรู้ว่าหลิวซื่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 601

    เมืองอวี่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองหลวง สี่วันให้หลัง เฟิ่งจิ่วเหยียนก็เดินทางมาถึงเมืองอวี่ ต้วนเจิ้งติดตามนางไปตลอดทาง ด้วยสายตาที่มืดครึ้ม ในด้านหนึ่ง เขารู้สึกซาบซึ้งใจ ที่นางยอมเสี่ยงชีวิตของตนเองเพื่อไปยังเจดีย์เก้าชั้น เนื่องจาก หร่านชิวผู้นั้นพูดอยู่ตลอดเวลาว่าต้องการช่วยเหลือพี่ชายของเขา ครั้นได้ยินว่าพี่ชายถูกขังอยู่ในเจดีย์เก้าชั้น หร่านชิวกลับยอมแพ้ ทว่าในอีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับไปพัวพันกับฮ่องเต้สุนัขนั้น ซึ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจยิ่งนัก ในที่สุด วันนี้ ยามที่ทั้งสองกินมื้อเย็นที่โรงพักแรม ต้วนเจิ้งก็อดรนทนไม่ไหวแล้ว เขาวางกระแทกตะเกียบลงอย่างแรง “สรุปว่าเจ้ามีแผนอย่างไร ยังต้องการจะอยู่ด้วยกันกับพี่ชายของข้าหรือไม่!” หากต้องการ เหตุใดถึงยังไปทำเช่นนั้นกับฮ่องเต้ด้วย หากไม่ต้องการ ไยจะต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือพี่ชายด้วยเล่า เฟิ่งจิ่วเหยียนคีบอาหารอย่างใจเย็น “กินเถอะ” ในสายตาของนางนั้น เห็นเขาเป็นเพียงเด็กที่ยังไม่รู้จักโต ดังนั้น สำหรับบางคำพูด ก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เขาฟัง ครั้งนี้การไปที่เจดีย์เก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 602

    ต้วนเจิ้งโกรธเกรี้ยวไม่หยุด แรงที่เขาใช้เคาะประตูนั้น สามารถถอดบานประตูออกมาทั้งแผงได้เลย เมื่อครู่เขาเดินออกไปแค่ประเดี๋ยว แล้วย้อนลงมาดูที่ชั้นล่าง คนที่กินข้าวอยู่ก็ได้หายไปแล้ว ครั้นได้สอบถามกับเถ้าแก่ จึงรู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งมาหานาง และเดินกลับห้องไปพร้อมกับเฟิ่งจิ่วเหยียน เขาเพิ่งจะเคาะประตูเพียงไม่กี่ครั้ง ทันใดนั้นก็มีคนหลายคนปรากฏตัวขึ้น และจ้องมองเขาอย่างดุเดือด ราวกับว่าหากเขากล้าที่จะบุกเข้าไป พวกเขาก็พร้อมจะกระชากวิญญาณของเขาออกมาตรงนี้ นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี! เขาสงสัยว่า บุรุษที่อยู่ข้างในนั้น ควรจะเป็นฮ่องเต้! ทันใดนั้น ประตูพลันเปิดออก สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนที่มองมานั้นเย็นชานัก “มีอะไร” สองหมัดของต้วนเจิ้งกำแน่น “พวกเจ้ากำลังทำอะไรกันอยู่!” ทันทีที่พูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ยกคอเสื้อของเขาขึ้นมา และลากเขาออกไปทันที เหล่าองครักษ์ : ?? ต้วนเจิ้งถูกลากกลับไปที่ห้องของเขา จากนั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยเตือนเขา “อย่าสร้างปัญหาให้ข้า มิเช่นนั้นพวกเราก็ต่างคนต่างไป” ต้วนเจิ้งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ข้าไม่สนว่าเจ้าจะดีก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 603

    ขณะที่นางกำลังตกอยู่ในความฉงน เซียวอวี้มิอาจจะอดกลั้นไหว พลันเชยคางของนางขึ้น และจูบริมฝีปากของนาง เฟิ่งจิ่วเหยียนผลักเขาออกไปทันที เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “นี่ท่านจะทำอันใดเพคะ” เซียวอวี้แย้มยิ้ม “ความรักระหว่างชายหญิง ถึงคราวสุกงอม ก็ยากจะหักห้ามใจ” เหล่านี้ ล้วนเป็นคำพูดที่นางเคยกล่าวทั้งหมด เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าค่อนข้างลำบากใจ ก่อนหน้านี้ นางคิดว่าตนเองมิอาจรอดชีวิตกลับไป และไม่ได้พบกันอีก จึงได้ทำตามหัวใจตนเองและจูบเขาก่อน ตอนนี้มันช่างพูดไม่ออกจริง ๆ ... นางผุดลุกขึ้นยืน “นี่ก็ดึกมากแล้ว ท่านกลับไปพักผ่อนที่ห้องของท่านได้แล้วเพคะ” เซียวอวี้มองออกไปนอกประตู “เฉินจี๋ มีห้องว่างหรือไม่” คนข้างนอกเอ่ยตอบ “นายท่าน พวกเรามีคนมากเกินไป จึงไม่เหลือห้องว่างแล้วขอรับ” เซียวอวี้หันกลับมามองเฟิ่งจิ่วเหยียนพลางเอ่ย “เกรงว่า เราจักทำได้เพียงนอนเบียดกับรองผู้นำพันธมิตรซูแล้วกระมัง” เฟิ่งจิ่วเหยียนย่อมรู้ดีว่าเขาตั้งใจให้เป็นเช่นนี้ “ท่านอาจจะเข้าใจหม่อมฉันผิดไป เรื่องในคืนนั้น...” ทันใดนั้นเซียวอวี้เคร่งขรึมขึ้นมา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 604

    เซียวอวี้จำต้วนเจิ้งได้ และรู้ด้วยว่าเขาเป็นน้องชายร่วมสายเลือดของต้วนไหวซวี่ ดังนั้น จึงมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อต้วนเจิ้งไปตลอดการเดินทางนี้ หารู้ไม่ว่า ต้วนเจิ้งก็ทำเช่นเดียวกันกับเขา ในใจของต้วนเจิ้งนั้น พี่ชายของตนเองดีกว่าฮ่องเต้ผู้โง่เขลาองค์นี้เป็นสิบเป็นร้อยเท่า ไม่ช้าก็เร็ว เฟิ่งจิ่วเหยียนสตรีพิษคนนี้จักต้องนึกเสียใจ! สองวันต่อมา คณะเดินทางก็มาถึงเชิงภูเขาอวี้หลิง ภูเขาอวี้หลิงนั้นสูงตระหง่านโดดเด่น เหนือยอดเขามีเมฆบังหมอกปกคลุม ดุจแดนสวรรค์ ที่ซึ่ง เซียน และมารอยู่ร่วมกัน เฟิ่งจิ่วเหยียนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายสังหารที่รุนแรงนัก เป็นตามที่คาดไว้ ทันทีที่พวกเขาลงจากรถม้า พลันมีองครักษ์ลับหลายร้อยคนปรากฏตัวขึ้น และปิดกั้นทางเข้าไว้ “ผู้มาเป็นใคร!” ต้วนเจิ้งร้อนอกร้อนใจอยากจะเปิดเผยตัวตนเต็มที “ฮ่องเต้อยู่ที่นี่ พวกเจ้ายังไม่รีบคุกเข่าลงอีก!” เขาเพียงคิดง่าย ๆ เจดีย์เก้าชั้นแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอำนาจของราชสำนัก ลองคิดดูแล้วหากฮ่องเต้ตรัสเพียงคำเดียว พวกเขาทั้งหมดต้องหลีกทางให้อย่างเชื่อฟัง และการให้หนานซานอ๋องเปิดประตูทางเข้าเจ

최신 챕터

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1205

    ขณะที่องค์หญิงเซี่ยนอี๋กำลังถือพู่หยกอย่างพึงพอใจ ทันใดนั้นชายหนุ่มก็บีบคอของนาง  จนโซ่ที่ล่ามไว้ส่งเสียง“อึก!” นางพลันเบิกตากว้างไหนเสด็จพี่สี่บอกว่า ฮ่องเต้ฉีสูญเสียพลังภายในไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?เดิมทีเซียวอวี้คิดจะให้ความร่วมมือนาง เพื่อให้นางช่วยตัวเองหนีออกไปจากที่แห่งนี้ทว่า เขาประเมินความอดทนของตัวเองไว้สูงเกินไปเขาทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ!นางกล้าเอาพู่หยกนั้นไป!หลังจากเซียวอวี้บีบคอนาง นางก็พยายามชูพู่หยกไปด้านหลัง ไม่ยอมคืนให้เขาแต่ด้วยแรงมือของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ นางใกล้หมดลม แขนจึงหลุบลงเช่นนี้ เซียวอวี้จึงแย่งพู่หยกกลับมาได้ จากนั้นก็สะบัดนางออก ราวกับเพิ่งจับสิ่งของสกปรกมา ทั้งยังพูดอย่างไม่รักษาน้ำใจ“ไสหัวไป!”องค์หญิงเซี่ยนอี๋ได้รับความรักมาตั้งแต่เด็ก ไฉนเลยจะเคยถูกดูแคลนขนาดนี้นางไม่ยอม จึงจ้องเซียวอวี้ตาเขม็ง“ท่านจะต้องเสียใจ! นอกจากข้า ก็ไม่มีผู้ใดช่วยเจ้าออกไปจากที่นี่ได้!”เซียวอวี้ไม่สนใจนางอีกหากเพื่อหนีออกไป แล้วต้องร่วมเออออห่อหมกไปกับผู้หญิงคนนี้ เขากลัวสกปรกองค์หญิงเซี่ยนอี๋ถูกทำลายศักดิ์ศรี ลุกขึ้น แล้วยิ้มเยาะ“ท่านลำพองใจอะไรนัก? เป็

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1204

    องค์ชายสี่อ่านความคิดขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ออก จึงมีสีหน้าเคร่งขรึม“คนที่ขังอยู่ในนั้นคือใคร เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ต่อให้เสด็จพ่อจะตามใจเจ้าแค่ไหน ก็ไม่มีทางมอบเขาให้เจ้าแน่ เซี่ยนอี๋ เจ้าเลิกคิดเถิด”“หากท่านไม่บอก พรุ่งนี้ข้าจะมาอีก!” องค์หญิงเซี่ยนอี๋กอดอก พูดข่มขู่องค์ชายสี่กลัวเหลือเกินว่านางจะมาสร้างเรื่องวุ่นวายยัยเด็กนี่ดื้อรั้นมาตั้งแต่เด็ก ไม่ถึงเป้าหมายก็จะไม่ยอมหยุดครุ่นคิดอยู่นาน องค์ชายสี่ก็ตัดสินใจบอกนาง“นั่นคือฮ่องเต้ฉี คนที่เสด็จพ่อใช้ความพยายามอย่างมากในการจับตัวมา”ให้นางรู้ถึงตัวตนของคนผู้นั้น นางจะได้หวาดกลัวองค์หญิงเซี่ยนอี๋เบิกตาอ้าปากค้างในทันที จากนั้นใบหน้าก็ก่อเกิดริ้วแดง“เขาคือ…”นางไม่อยากจะเชื่อชื่อเสียงของฮ่องเต้หนุ่มจากหนานฉี นางเคยได้ยินมาเป็นเวลานานแล้วครั้งนี้ได้มาเจอ ช่างหล่อเหลาโดดเด่นอย่างที่ร่ำลือกันไม่มีผิดดูดีกว่าบรรดาราชบุตรเขยที่เสด็จพ่อให้นางเลือกเสียอีกและยังเป็นคนน่าเกรงขามถึงเพียงนั้น…องค์หญิงเซี่ยนอี๋จับชายเสื้อขององค์ชายสี่อย่างตื่นเต้น “เสด็จพี่ เสด็จพี่คนดีของข้า ข้ารับรองว่าจะไม่ทำเรื่องสำคัญของท่านกับเสด็จพ่อเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1203

    วังหลังเหล่าสนมต่างเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับราชสำนักส่วนหน้ามาบ้าง“ฮองเฮาจะให้เด็กเล็กขนาดนั้นขึ้นครองราชย์จริงหรือ? ช่างเละเทะเสียจริง!”“เห็นได้ชัดว่าหวังเพื่อควบคุมโอรสสวรรค์!”“นี่ก็เป็นส่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มิใช่หรือ ในเมื่อเหล่าขุนนางต่างพากันกดดันอย่างหนัก และยังมีทายาทในราชวงศ์ที่ไม่อยู่นิ่งอีกด้วย…”“ใช่สิ หากฮองเฮาไม่ทำเช่นนี้ พวกเราก็จะเดือดร้อนด้วย หากมีฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์  สิ่งแรกที่จะทำต้องเป็นการจัดวังหลังใหม่เป็นแน่”พวกนางกังวลเกี่ยวกับผลสรุปของราชสำนักส่วนหน้าหลังจากรอคอยอยู่หนึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็มีขันทีมารายงาน——องค์ชายน้อยได้ขึ้นครองบัลลังก์มังกรสำเร็จแล้ว แต่ยังมีคนยึดติดเรื่องฝาแฝดไม่ยอมปล่อยวาง บังคับให้ฮองเฮาต้องสังหารองค์ชายอีกองค์ทิ้งเมื่อเหล่านางสนมได้ยิน ก็เริ่มเป็นห่วงฮองเฮาขึ้นมาในฐานะเป็นแม่ จะทำใจทิ้งลูกแท้ ๆ ได้อย่างไร?ขุนนางใหญ่เหล่านั้นทำมากเกินไปแล้ว!ทว่า ฝาแฝดก็เป็นปัญหาจริง ๆ ไม่รู้ว่าฮองเฮาจะรับมืออย่างไรไม่นาน ก็มีขันทีมารายงานอีก“พระนางทุกท่าน เหล่าขุนนางได้สลายตัวแล้ว!”นางสนมทั้งหลายแปลกใจอย่างมากทำไมสลายต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1202

    เฟิ่งจิ่วเหยียนอุ้มลูก ยืนอยู่บนที่สูง แววตาสุขุมแน่วแน่“หากข้าอยากว่าราชการหลังม่าน แล้วเหตุใดจะไม่ได้?”เมื่อคำนี้พูดออกมา ทุกคนต่างส่งเสียงเกรียวกราว“ฮองเฮา ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับให้แม่ไก่มาขันในตอนเช้า นั่นฝ่าฝืนกฎเกณฑ์!”“ขออภัยกระหม่อมขอคัดค้าน!”ไทฮองไทเฮามีสีหน้าโรยรา มองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียน แล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอาฮองเฮาทำเช่นนี้ มันเสี่ยงมากเกินไปพูดตรงขนาดนี้ ขุนนางคนไหนจะยอมรับได้?เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความอดทนมากขนาดนั้น จึงวางองค์ชายลงบนบัลลังก์“ไม่ต้องกล่าวถึงว่าฝ่าบาทยังไม่เสด็จสวรรคต ถึงแม้ว่าท่านเป็นอะไรไปจริง ๆ ก็ยังมีองค์ชายสืบราชบัลลังก์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงเวลาสำหรับทุกท่านหรอก“วันนี้พวกเจ้าต่างพูดกันเซ็นแซ่ ราวกับอยากวางแผนชิงบัลลังก์เลยนะ!”ทหารคนหนึ่งโต้กลับไปอย่างฮึกเหิม“ฮองเฮา พวกกระหม่อมบริสุทธิ์ใจ กลับถูกท่านหยามเกียรติเช่นนี้! พวกกระหม่อมไม่ยอม!”ท่านอ๋องผู้หนึ่งมองไปทางไทฮองไทเฮา“เสด็จย่า ท่านพูดอะไรบ้างสิ!”เด็กทารกจะไปทำอะไรได้? คุ้มครองแผ่นดินไหวหรือ?จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็บอกว่าปวดหัว แล้วให้สาวใช้ประคองตัวเองออกไปเหล่าท่านอ๋องต่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1201

    แคว้นหนานฉีณ เมืองหลวงเรื่องที่ฮองเฮากลับวัง และให้กำเนิดฝาแฝด ใต้หล้าต่างรู้กันถ้วนหน้าอย่างรวดเร็วในวังหลวง ไทเฮาทั้งดีใจที่องค์ชายถือกำเนิดขึ้นมา ทั้งกังวลเรื่องฝาแฝดนางเรียกฮองเฮามาที่ตำหนักฉือหนิง ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดกับอีกฝ่าย“หากราชวงศ์มีฝาแฝด โดยเฉพาะองค์ชาย เช่นนั้นก็ต้องส่งคนหนึ่งออกไปนอกวัง“ฮองเฮา ข้ารู้ ไม่ว่าจะหน้ามือหรือหลังมือล้วนคือเลือดเนื้อ แต่เพื่อราชวงศ์ เจ้าต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด”ขนาดตอนนั้นตระกูลเฟิ่งมีลูกแฝดยังทอดทิ้งหนึ่งคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์ใบหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ กล่าวเหมือนไม่ได้ยิน“เด็กทั้งสองคน จะไม่มีใครถูกส่งออกไปทั้งนั้น”เซียวอวี้เองก็เคยพูด เขาจะปกป้องลูกของตัวเองไทเฮารู้เป็นอย่างดีว่าการเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่กฎก็เป็นเช่นนี้“ฮองเฮา อย่าหาว่าข้าใจร้ายเลย แม้นข้าจะยินยอม ขุนนางใหญ่เหล่านั้นก็คงไม่ยอมอยู่ดี“วันนี้อยากให้เจ้าเตรียมพร้อม“สุดท้ายเจ้าก็ต้องตัดสินใจ”วังหลังเหล่านางสนมรวมตัวกัน ต่างคนต่างมีความคิดแตกต่างกัน“มีคนบอกว่าฝ่าบาทเกิดเรื่อง  จริงหรือไม่?”“มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1200

    เซียวอวี้ที่ยังคงคอพับไร้เรี่ยวแรง ยกยิ้มเย็นที่มุมปากอย่างถากถางเขาไม่พูดอะไร ท่าทางทะนงองอาจคนที่อยู่ตรงหน้าแนะนำตัว “ข้าคือองค์ชายสี่แห่งแคว้นเป่ยเยี่ยน ครั้งนี้มาเป็นตัวแทนของเสด็จพ่อ เพื่อแสดงไมตรีในฐานะเจ้าบ้านต่อฮ่องเต้หนานฉี”เมื่อองค์ชายสี่มองส่งสัญญาณ ข้ารับใช้ก็นำอาหารเข้ามาเซียวอวี้ไม่แม้แต่จะมององค์ชายสี่มีความอดทน เขาพูดด้วยรอยยิ้ม“ฮ่องเต้หนานฉี พวกเราแคว้นเป่ยเยี่ยนเชิญท่านมาเป็นแขกด้วยความจริงใจ“เพียงแต่ข้างนอกอันตรายเกินไป จึงได้แต่จัดให้ท่านอยู่ที่นี่“ท่านวางใจเถิด รอให้แคว้นเป่ยเยี่ยนขับไล่กองทัพแคว้นหนานฉีออกไปจนได้ดินแดนที่สูญเสียไปคืนมา ย่อมปล่อยตัวท่านกลับไป”ริมฝีปากบางของเซียวอวี้ยิ้มเยาะเบา ๆพูดเสียดูดี ที่จริงก็แค่เอาเขาเป็นตัวประกัน ทำให้กองทัพแคว้นหนานฉีต่อต้านไม่ได้ก็เท่านั้นองค์ชายสี่เห็นเขาเยือกเย็นเพียงนี้ จึงขอตัวไปก่อนทว่าเมื่อออกมาด้านนอก องค์ชายสี่ก็พูดอย่างเย้ยหยัน“ตกเป็นเชลยแล้วยังจะโอหังเพียงนี้!”ที่ปรึกษาที่อยู่ข้างกายเขาพูด“องค์ชาย ฝ่าบาททรงมอบหมายเรื่องนี้ให้ท่าน ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป ได้ยินว่าฮ่องเต้หนานฉีผ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1199

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพรวมเป็นสำคัญ จึงต้องกลับแคว้นหนานฉีก่อนอู๋ไป๋วิตกกังวล“ท่านประมุข กระหม่อมกลัวว่านักฆ่าพวกนั้นจะลงมือกับท่านด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าท่านประมุขเพิ่งจะคลอดลูก จะทนรับแรงสั่นสะเทือนจากการเดินทางได้เช่นไร?สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา“กลับแคว้นหนานฉี”ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใดก็ต้องกลับไปกลัวก็กลัวแต่ เป้าหมายของนักฆ่าพวกนั้นคือก่อกวนแคว้นหนานฉี นางจะปล่อยให้พวกเขาสมหวังไม่ได้เด็ดขาดก่อนที่จะตามหาเซียวอวี้เจอ นางจะต้องช่วยเขาปกป้องแคว้นหนานฉีเอาไว้ให้ได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดการเรื่องในแคว้นซีนี่ว์ไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงว่าจะจัดการขับไล่กองทัพแคว้นเป่ยเยี่ยนอย่างไร ไปจนถึงผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นคนใหม่ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ประมุขคนใหม่ใช้อำนาจอย่างเผด็จการ นางจึงจัดตั้งนโยบายสามประมุขขึ้นในบรรดาสามคนนี้ มีคนหนึ่งเป็นบุรุษทำเช่นนี้จะได้ปลอบโยนเหล่าบุรุษในแคว้นซีนี่ว์ ป้องกันไม่ให้พวกเขาสร้างเรื่องวุ่นวายอีกเฟิ่งจิ่วเหยียนออกเดินทางกลับแคว้นหนานฉีอย่างรวดเร็วแม้ว่าหูย่วนเอ๋อร์จะตัดใจไม่ลง ทว่านางก็รู้ดีถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1198

    ประตูตำหนักเปิดออก นางกำนัลเดินออกมาจากด้านในแล้วพูดกับหูย่วนเอ๋อร์: “ท่านแม่ทัพ ท่านประมุขคลอดองค์ชายพระองค์หนึ่งออกมาอย่างปลอดภัยเพคะ”ที่แคว้นซีหนี่ว์ มีเพียงองค์หญิงเท่านั้นที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขได้ ดังนั้นองค์ชายผู้นี้จึงไม่เป็นที่ต้องการทว่าหูย่วนเอ๋อร์ยังคงรู้สึกขอบคุณสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง“องค์ชายก็ดี ปลอดภัยก็ดีแล้ว”ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสายเลือดเชื้อพระวงศ์เพิ่งจะพูดจบ หมอตำแยข้างในก็ร้องตะโกนอย่างตกใจ“ยังมีอีกพระองค์หนึ่ง!”ที่แท้ท่านประมุขก็ทรงตั้งครรภ์ฝาแฝดนี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของทุกคนแววตาหูย่วนเอ๋อร์มีความยินดีและการเฝ้ารอพาดผ่านหวังว่าจะเป็นแฝดชายหญิงหากเป็นองค์หญิง อนาคตย่อมสามารถสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นได้ภายในตำหนักเฟิ่งจิ่วเหยียนนึกไม่ถึงว่าคลอดออกมาแล้วคนหนึ่ง แล้วยังมีอีกคนโชคดีที่นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ยังใช้แรงไปไม่หมดก่อนหน้านี้เป็นเพราะตำแหน่งครรภ์ไม่ตรงจึงคลอดยากคนที่สองนี้กลับคลอดง่ายกว่ามาก ทว่าตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้สึกอะไรแล้ว นางเจ็บปวดจนชาไปหมดแล้ว ร่างกายส่วนล่างบวมเสียจนเหมือนว่าเนื้อส่วนนั้นไม่ใช่ของนางอีกต่อไปจนกร

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status