Share

บทที่ 45

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
“ยืนงงอะไรอยู่เล่า? พระนางล่ะ!”

ซุนหมัวมัวเห็นเหลียนซวงยืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม จึงผลักนางเบา ๆ

เหลียนซวงได้สติกลับมา เหงื่อเย็นท่วมศีรษะทันที

“ข้า...ข้าจะไปหาพระนางเดี๋ยวนี้”

แย่แล้ว

นางจะไปหาพระนางจากที่ไหนกันเล่า!

ซุนหมัวมัวรุดหน้าไปต้อนรับการเสด็จมาเยือนของฮ่องเต้ก่อน

จักรพรรดินั่งอยู่ม้านั่งไม้สีทองขลับด้วยสีแดงด้านนอกตำหนัก เสื้อผ้าสีดำแก่ไม่มีแม้แต่รอยยับ เหมือนกับนิสัยของเขาไม่มีผิด  มีความรับผิดชอบและละเอียดรอบคอบ  เคร่งขรึมเอาจริงเอาจัง

“ฮองเฮาล่ะ”

ซุนหมัวมัวประเคนชาให้ : “กราบทูลฝ่าบาท พระนางคงจะกำลังเสด็จมา คงจะสรงน้ำอยู่เพคะ”

เซียวอวี้เลิกคิ้วขึ้น

ก่อนหน้านี้ที่เขาออกจากตำหนักหลิงเซียวมา เดิมวางแผนจะกลับไปที่ตำหนักจื้อเฉินทันที

ระหว่างทางผ่านตำหนักหย่งเหอ จึงเปลี่ยนใจชั่วคราว มาถามความคืบหน้าในการสืบสวนของฮองเฮาเสียหน่อย

นางกลับมาสรงน้ำในยามนี้เสียอย่างนั้น

ผ่านไปครู่ใหญ่ ก็ยังไม่เห็นฮองเฮาออกมา

เซียวอวี้จวนจะหมดความอดทน

ซุนหมัวมัวเองก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติ

นางรีบร้อนเข้าไปในตำหนัก กลับเห็นเหลียนซวงยืนแข็งทื่อราวกับตอไม้อยู่ในด้านในฉากกั้น

เมื่อเห็นเช่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (4)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
นางเอกฉลาดและว่องไวมาก
goodnovel comment avatar
Duangporn
กำบังติดตามมอ่า
goodnovel comment avatar
Chanyanut Saenkam
สนุกมากจริงๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 46

    เซียวอวี้เดินตรงมาหาเฟิ่งจิ่วเหยียน แววตาดูพินิจพิเคราะห์เฟิ่งจิ่วเหยียนวางตัวสงบนิ่ง มือข้างหนึ่งซ่อนอยู่ในแขนเสื้อกว้าง “หม่อมฉันคารวะฝ่าบาทเพคะ”“เมื่อครู่เจ้าเพิ่งออกมาจากห้องปลดทุกข์รึ” เซียวอวี้ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้ารับ“เพคะ ฝ่าบาท”เซียวอวี้ขมวดคิ้ว “มีกลิ่นคาวเลือด”จังหวะการหายใจของเฟิ่งจิ่วเหยียนแปรปรวนเล็กน้อยเพราะเปื้อนเลือดจำนวนมากของโจรภูเขา อีกทั้งยังไม่ได้ชำระกาย ดังนั้นย่อมต้องได้กลิ่นคาวเลือดในยามนี้นางแสร้งทำเป็นอ่อนแอ มองดูเหมือนบอบบางจนไม่อาจต้านทานแรงลม ไร้เรี่ยวแรงจะโต้ตอบ“ฝ่าบาท...หม่อมฉันมีรอบเดือนเพคะ”เซียวอวี้พลันหรี่ตาลงและเพ่งมองนางนี่เป็นครั้งที่สองที่นักฆ่าปรากฏตัวใกล้ตำหนักหย่งเหอจะบังเอิญถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนละสายตาลง ท่าทีนอบน้อม แต่ทันใดนั้น ฝ่ายบุรุษกลับคว้าข้อมือข้างหนึ่งของนางขึ้นมาดูเหมือนจะทำให้นางตกใจ ดวงตาพลันเบิกกว้าง“ฝ่าบาท...”นิ้วมือของเขากดที่ข้อมือของนางนี่กำลังทดสอบพลังภายในของนาง!ร่างกายของเฟิ่งจิ่วเหยียนแข็งทื่อ ไม่ขยับเขยื้อนโชคดีมือที่คว้าไปเป็นข้างซ้าย ไม่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 47

    ณ ตำหนักหย่งเหอนอกจากไทเฮาและฮ่องเต้ประทับอยู่ที่นี่ ยังมีหวงกุ้ยเฟยอยู่ด้วยหวงกุ้ยเฟยแอบบิดผ้าเช็ดหน้าในมือ ในใจรู้สึกเย็นวาบเฟิ่งเวยเฉียงหญิงต่ำช้าผู้นี้ ไม่คาดคิดว่าจะกล้าเปิดโปงเรื่องลักพาตัว!นางก็อยากเห็นเช่นกัน หญิงต่ำช้าผู้นี้จะจัดฉากละครอะไรกัน!เฟิ่งจิ่วเหยียนสั่งให้คนพาโจรภูเขาออกมาเนื่องจากพวกเขามีจำนวนคนมาก จึงพาแค่หัวหน้ากลุ่มโจรออกมาสอบปากคำเฟิ่งจิ่วเหยียนยืนขึ้นรายงาน“กลุ่มโจรภูเขาที่ลักพาตัวหม่อมฉันในวันนั้น บิดาของหม่อมฉันจับตัวพวกเขาไว้หมดแล้วเพคะ”“ตำแหน่งเบาะแสของพวกเขาไม่ธรรมดา ผ่านเหตุการณ์ไปหลายเดือน ถึงจะได้เจอตัวพวกเขา”“ยังโชคดีที่ฮ่องเต้ทรงรับปาก หม่อมฉันจึงได้รับโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และตามหาคนร้ายตัวจริง!”“หลังจากสอบสวนแล้ว โจรเหล่านี้ก็สารภาพว่า คนที่สั่งให้พวกเขามาลักพาตัวหม่อมฉัน ก็คือจ้าวเฉียน...คนสนิทข้างกายหวงกุ้ยเฟยเพคะ!”ประโยคสุดท้าย นางจงใจหยุดแล้วค่อยเอ่ยต่อ แสดงความหมายเป็นนัยที่ลึกล้ำ ในวินาทีนั้น แววตาของเซียวอวี้ราวกับคมดาบ ฉายประกายดุดันมาที่นางนี่เป็นสิ่งที่นางสืบหาจนรู้ หรือกำลังใส่ร้ายตำหนักหลิงเซียว?หวงกุ้ย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 48

    เฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่เรียกพยานออกมาทันที กลับถามหัวหน้าโจรผู้นั้นก่อน“เจ้ายืนกรานว่าเห็นจ้าวเฉียน เช่นนั้นเจ้าจำได้หรือไม่ วันนั้นเป็นวันอะไรเดือนอะไร”“จำได้! วันที่ 10 เดือน10”หวงกุ้ยเฟยยิ้มเยาะ “แน่ใจถึงเพียงนั้นเชียวรึ ความจำของเจ้าช่างดีเหลือเกิน ถ้าคนไม่รู้จะคิดว่าเจ้า...”นางมองฮองเฮาโดยมีความหมายอื่นแอบแฝง บอกเป็นนัย ๆ ว่าโจรผู้นี้รับสินบนจากฮองเฮาหัวหน้าโจรรีบแก้ต่างทันที“วันที่ 10 เดือน 10 ของทุกปีเป็นวันบูชาขุนเขา บรรดาพี่น้องเรากำลังกินดื่มสังสรรค์ และจ้าวเฉียนก็มาถึง...”จ้าวเฉียนเหมือนได้จับช่องโหว่ของอีกฝ่ายได้ จึงรีบร้อนตะโกนขึ้น“ปรักปรำ! บ่าวอยู่ในวังตลอดเวลา จะขึ้นไปบนภูเขาได้อย่างไร!”สิ่งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนรออยู่ก็คือประโยคนี้ของเขา “จ้าวเฉียน แล้วเจ้าแน่ใจได้อย่างไร วันที่ 10 เดือน 10 ตัวเจ้าอยู่ในวังหลวง?”จ้าวเฉียนกลอกตาไปมา“ไม่ใช่แค่วันที่ 10 เดือน 10 บ่าวอยู่ปรนนิบัติรับใช้หวงกุ้ยเฟยมาตลอด ครั้งก่อนที่ออกจากวัง ก็เพราะทำความดีความชอบเลยได้กลับไปอยู่พร้อมหน้าครอบครัว “หากฮองเฮามิทรงเชื่อ ก็ตรวจดูในสมุดรายชื่อผู้ที่เข้าออกวังได้พ่ะย่ะค่ะ“การ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 49

    องครักษ์นำทองคำในมือของจินเหนียงจื่อมาตรวจสอบ ผลลัพธ์ตรงตามคำพูดของฮองเฮา ทองคำในมือของโจรภูเขากับจินเหนียงจื่อเป็นชุดเดียวกัน!จ้าวเฉียนปากสั่น แต่ยังคิดจะปฏิเสธ“ทองคำที่หลอมออกมาในชุดเดียวกัน ไม่ได้มีเพียงหนึ่งหรือสองก้อน บ่าวแค่บังเอิญว่ามีทองคำชุดนั้น จะนำมาพิสูจน์ได้อย่างไร...”เฟิ่งจิ่วเหยียนขัดจังหวะคำพูดของเขา และเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน“โจรภูเขาชอบของมีค่า โดยเฉพาะเงินกับทองคำ นั่นเป็นเพราะไม่ต้องยุ่งยากนำตั๋วเงินไปแลกเป็นเงินอีก“จ้าวเฉียนคิดจะติดสินบนโจรภูเขา ทองคำที่นำออกมาจะต้องมีจำนวนเยอะ ไม่มีทางนำทองคำที่กระจัดกระจายไม่เต็มจำนวนไปแน่ อีกอย่างทองคำมากมายขนาดนั้น จะนำออกจากวังก็คงไม่สะดวกนัก ดังนั้นเขาจึงนำตั๋วเงินออกจากวัง แล้วค่อยไปแลกเป็นทองคำที่ร้านแลกเงินในเมืองหลวง”“ส่วนร้านแลกเงินถ้าเบิกทองคำจำนวนมาก ๆ ในครั้งเดียว ทองคำนั้นจะต้องมีหมายเลขกำกับที่เรียงกัน...”ไทเฮาโบกพระหัตถ์ “ฮองเฮา ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าพูดมาตั้งมากมาย ก็เพื่อจะพิสูจน์ว่า ทองคำเหล่านี้เป็นชุดเดียวกันกับที่ถูกนำออกมาจากร้านแลกเงิน ใช่หรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้ารับ“ใช่เพคะ เสด็จแม่”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 50

    “ฮองเฮากำลังสงสัยคำตัดสินของเราใช่หรือไม่!” แววตาของเซียวอวี้เคร่งขรึม แฝงความน่าเกรงขามเฟิ่งจิ่วเหยียนมองเขาด้วยสายตาเยือกเย็นนี่หรือจักรพรรดิที่นางและเหล่าทหารนับหมื่นนับพันจงรักภักดี?เขาไม่ใช่แค่ฮ่องเต้ทรราช ยิ่งเหมือนฮ่องเต้ที่ไร้ความชอบธรรม!ทันใดนั้นนางก็เอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น“โทษฐานที่จ้าวเฉียนต้องแบกรับนั้น ไม่ใช่แค่บงการให้โจรภูเขามาลักพาตัว”“ยังมีสิ่งใดอีก?” ไทเฮารู้สึกร้อนใจคิ้วตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูเยือกเย็นและเคร่งขรึม“ก่อนหน้านี้หม่อมฉันเคยถามจ้าวเฉียน เขายืนกรานว่า วันที่ 10 เดือน 10 ปฏิบัติงานอยู่ในวังหลวง ต่อมาพอตรวจสอบสมุดรายชื่อผู้ที่เข้าออกวัง รวมถึงสมุดบันทึกการทำงานของตำหนักหลิงเซียว ต่างก็ยืนยันในสิ่งที่เขาพูด ทว่าความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น นี่แสดงให้เห็นว่า...”เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันยกมือ หลังจากลากมือไปตามแนวนอนกลางอากาศ ก็ชี้ไปที่หวงกุ้ยเฟยด้วยท่าทางดุดัน “หวงกุ้ยเฟยในฐานะผู้คุมตำหนัก ไม่เคร่งครัดกับบ่าวรับใช้ ในขณะเดียวกัน ยังถือครองตราประทับทองคำ ต้องควบคุมดูแลวังหลังด้วย แต่ทว่าในวังกลับมีการสร้างเรื่องเท็จผู้ที่เข้าออกวัง จึงถือว่าละเลยหน้า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 51

    เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของจักรพรรดิ เฟิ่งจิ่วเหยียนแบะปากและยิ้มเยาะตัวเอง“หม่อมฉันกล้าหาญ?“ฝ่าบาท หลังจากหม่อมฉันได้รับการช่วยเหลือกลับมา ถึงแม้ตัวเองจะบริสุทธิ์ แต่กลับไม่มีใครเชื่อ “คนรอบข้างพากันเกลี้ยกล่อมหม่อมฉัน ให้พยายามนิ่งเฉย อย่าตอบโต้ข้อสงสัยและข่าวลือเหล่านั้น รอให้ข่าวลือเงียบหายไปเอง รอให้ผู้คนลืมเรื่องนี้ไปเอง”“แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น“แต่ละวันหม่อมฉันต้องใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดกลัวและความเจ็บปวด กระทั่งยังสงสัยในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่รู้จริง ๆ ว่าเอากฎเกณฑ์ใดมาวัดความบริสุทธิ์ของสตรีผู้หนึ่ง และยิ่งไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนที่ถูกลักพาตัว คนที่ถูกทำลายชื่อเสียง ซึ่งเห็นชัดอยู่แล้วว่าเป็นคนที่ถูกทำร้าย ถึงได้กลายเป็นคนทำผิด และยังกลายเป็นหญิงสำส่อนตามขี้ปากของชาวบ้าน!“ถ้าหม่อมฉันไม่กล้าหาญ คงตายไปกับข่าวลือนั้นตั้งแต่แรก ไฉนเลยจะกล้าสวมเครื่องยศสตรี เพื่ออภิเษกสมรสเข้าวัง?“ถ้าหม่อมฉันไม่กล้าหาญ ไฉนเลยจะกล้าขอร้องพระองค์ให้สืบค้นหาความจริง“หม่อมฉันมีความกล้าหาญ ฉะนั้นแล้ว ขอฮ่องเต้ทรงถอดถอนตำแหน่งฮองเฮาด้วย! หม่อมฉันจะได้มีความกล้าหาญอีกครั้ง จะน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 52

    “มีราชโองการ! หวงกุ้ยเฟยรับราชโองการ!”ชุนเหอประคองหวงกุ้ยเฟยเดินออกมาด้านนอกตำหนัก และโค้งคำนับจากนั้นก็คอยฟังข้าหลวงผู้นั้นอ่านราชโองการ“ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่ง จ้าวเฉียนนำทรัพย์สินของพระราชวังไปขายต่อ มีหลักฐานชัดเจน ส่วนหวงกุ้ยเฟยละเลยการตรวจสอบ นับตั้งแต่บัดนี้ ให้นำตราประทับทอง ส่งมอบให้กับฮองเฮาเพื่อควบคุมวังหลัง...”เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าหวงกุ้ยเฟยพลันเปลี่ยนในทันทีฮ่องเต้ต้องการยึดตราประทับทองของนางไปจริงหรือ?ถึงเวลานี้ ราชโองการยังอ่านไม่จบพลันได้ยินข้าหลวงผู้นั้นเอ่ยอีกว่า“นอกจากนี้ ให้หวงกุ้ยเฟยลดตำแหน่งลงมาเป็นกุ้ยเฟย!”อะไรกัน!ทุกคนในตำหนักหลิงเซียวต่างมีสีหน้าตกตะลึงจ้าวเฉียนทำความผิด เหตุใดหวงกุ้ยเฟยจึงถูกลงโทษร้ายแรงเช่นนี้?ตั้งแต่หวงกุ้ยเฟยได้รับความโปรดปราน ก็ไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้ชุนเหอก็ไม่อยากเชื่อ จึงรีบประคองพระสนมของตนใบหน้าของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ยังคงสงบนิ่ง แต่มือไม้ชา สีหน้าไม่แช่มชื่นเหมือนปกติทั่วไป“หม่อมฉัน น้อมรับราชโองการ”หลังจากข้าหลวงที่อ่านราชโองการกลับไป หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ก็นั่งลงบนเก้าอี้ แววตาดูว่างเปล่า ไม่รู้ว่านางกำลังคิด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 53

    ตำหนักหย่งเหอเฟิ่งจิ่วเหยียนเสร็จจากชำระกาย กำลังนั่งสางผมอยู่ข้างตั่งนอกหน้าต่างพลันมีเสียงกึกกัก เหมือนเสียงลูกไก่จิกเม็ดข้าวสาร ดวงตาของนางเป็นประกาย จึงลุกขึ้นยืนและเดินไปทันทีบนบานหน้าต่างกระดาษสะท้อนเงาด้านข้างของนาง ผมยาวสยาย จมูกเป็นสันคมนางเปิดหน้าต่างออกไป นกพิราบส่งสารขนดำกำลังใช้ปากจิกขอบหน้าต่าง ดูร้อนใจราวกับจะพูดว่า “เหตุใดจึงมาเปิดประตูช้าถึงเพียงนี้”ดูฉุนเฉียวอย่างมากเฟิ่งจิ่วเหยียนเปิดกระบอกไม้ไผ่ที่ผูกติดกับขานกพิราบส่งสาร และหยิบสารลับด้านในออกมา—— [หนูถูกจับเข้ากรงแล้ว]หนู หมายถึงพวกโจรภูเขาเหล่านั้นทำศึกต้องใช้กลอุบายนางหลอกพวกเขา จัดส่งไปยังซ่องชายชั้นต่ำ พวกเขาจะถูกเฉือนลิ้น ตัดเส้นเอ็นมือเอ็นเท้า จะถูกทรมานทุกวัน จนกระทั่งตาย!แต่ถึงแม้โจรภูเขาจะได้รับผลกรรม เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ยังไม่มีความสุขเวยเฉียงบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนั้น ต่อให้ทรมานพวกโจรภูเขาเท่าใด ก็ยากที่จะบรรเทาความแค้นในใจของนางได้คนชั่วร้ายอย่างหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ยังไม่ถูกจับแม้แต่สาวใช้อย่างเหลียนซวงก็ยังโกรธแค้น“ผู้บงการตัวจริงยังคงลอยนวล มันไม่ยุติธรรมเลย! หรือฮ่องเต้จะไม่เ

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1202

    เฟิ่งจิ่วเหยียนอุ้มลูก ยืนอยู่บนที่สูง แววตาสุขุมแน่วแน่“หากข้าอยากว่าราชการหลังม่าน แล้วเหตุใดจะไม่ได้?”เมื่อคำนี้พูดออกมา ทุกคนต่างส่งเสียงเกรียวกราว“ฮองเฮา ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับให้แม่ไก่มาขันในตอนเช้า นั่นฝ่าฝืนกฎเกณฑ์!”“ขออภัยกระหม่อมขอคัดค้าน!”ไทฮองไทเฮามีสีหน้าโรยรา มองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียน แล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอาฮองเฮาทำเช่นนี้ มันเสี่ยงมากเกินไปพูดตรงขนาดนี้ ขุนนางคนไหนจะยอมรับได้?เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความอดทนมากขนาดนั้น จึงวางองค์ชายลงบนบัลลังก์“ไม่ต้องกล่าวถึงว่าฝ่าบาทยังไม่เสด็จสวรรคต ถึงแม้ว่าท่านเป็นอะไรไปจริง ๆ ก็ยังมีองค์ชายสืบราชบัลลังก์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงเวลาสำหรับทุกท่านหรอก“วันนี้พวกเจ้าต่างพูดกันเซ็นแซ่ ราวกับอยากวางแผนชิงบัลลังก์เลยนะ!”ทหารคนหนึ่งโต้กลับไปอย่างฮึกเหิม“ฮองเฮา พวกกระหม่อมบริสุทธิ์ใจ กลับถูกท่านหยามเกียรติเช่นนี้! พวกกระหม่อมไม่ยอม!”ท่านอ๋องผู้หนึ่งมองไปทางไทฮองไทเฮา“เสด็จย่า ท่านพูดอะไรบ้างสิ!”เด็กทารกจะไปทำอะไรได้? คุ้มครองแผ่นดินไหวหรือ?จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็บอกว่าปวดหัว แล้วให้สาวใช้ประคองตัวเองออกไปเหล่าท่านอ๋องต่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1201

    แคว้นหนานฉีณ เมืองหลวงเรื่องที่ฮองเฮากลับวัง และให้กำเนิดฝาแฝด ใต้หล้าต่างรู้กันถ้วนหน้าอย่างรวดเร็วในวังหลวง ไทเฮาทั้งดีใจที่องค์ชายถือกำเนิดขึ้นมา ทั้งกังวลเรื่องฝาแฝดนางเรียกฮองเฮามาที่ตำหนักฉือหนิง ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดกับอีกฝ่าย“หากราชวงศ์มีฝาแฝด โดยเฉพาะองค์ชาย เช่นนั้นก็ต้องส่งคนหนึ่งออกไปนอกวัง“ฮองเฮา ข้ารู้ ไม่ว่าจะหน้ามือหรือหลังมือล้วนคือเลือดเนื้อ แต่เพื่อราชวงศ์ เจ้าต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด”ขนาดตอนนั้นตระกูลเฟิ่งมีลูกแฝดยังทอดทิ้งหนึ่งคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์ใบหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ กล่าวเหมือนไม่ได้ยิน“เด็กทั้งสองคน จะไม่มีใครถูกส่งออกไปทั้งนั้น”เซียวอวี้เองก็เคยพูด เขาจะปกป้องลูกของตัวเองไทเฮารู้เป็นอย่างดีว่าการเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่กฎก็เป็นเช่นนี้“ฮองเฮา อย่าหาว่าข้าใจร้ายเลย แม้นข้าจะยินยอม ขุนนางใหญ่เหล่านั้นก็คงไม่ยอมอยู่ดี“วันนี้อยากให้เจ้าเตรียมพร้อม“สุดท้ายเจ้าก็ต้องตัดสินใจ”วังหลังเหล่านางสนมรวมตัวกัน ต่างคนต่างมีความคิดแตกต่างกัน“มีคนบอกว่าฝ่าบาทเกิดเรื่อง  จริงหรือไม่?”“มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1200

    เซียวอวี้ที่ยังคงคอพับไร้เรี่ยวแรง ยกยิ้มเย็นที่มุมปากอย่างถากถางเขาไม่พูดอะไร ท่าทางทะนงองอาจคนที่อยู่ตรงหน้าแนะนำตัว “ข้าคือองค์ชายสี่แห่งแคว้นเป่ยเยี่ยน ครั้งนี้มาเป็นตัวแทนของเสด็จพ่อ เพื่อแสดงไมตรีในฐานะเจ้าบ้านต่อฮ่องเต้หนานฉี”เมื่อองค์ชายสี่มองส่งสัญญาณ ข้ารับใช้ก็นำอาหารเข้ามาเซียวอวี้ไม่แม้แต่จะมององค์ชายสี่มีความอดทน เขาพูดด้วยรอยยิ้ม“ฮ่องเต้หนานฉี พวกเราแคว้นเป่ยเยี่ยนเชิญท่านมาเป็นแขกด้วยความจริงใจ“เพียงแต่ข้างนอกอันตรายเกินไป จึงได้แต่จัดให้ท่านอยู่ที่นี่“ท่านวางใจเถิด รอให้แคว้นเป่ยเยี่ยนขับไล่กองทัพแคว้นหนานฉีออกไปจนได้ดินแดนที่สูญเสียไปคืนมา ย่อมปล่อยตัวท่านกลับไป”ริมฝีปากบางของเซียวอวี้ยิ้มเยาะเบา ๆพูดเสียดูดี ที่จริงก็แค่เอาเขาเป็นตัวประกัน ทำให้กองทัพแคว้นหนานฉีต่อต้านไม่ได้ก็เท่านั้นองค์ชายสี่เห็นเขาเยือกเย็นเพียงนี้ จึงขอตัวไปก่อนทว่าเมื่อออกมาด้านนอก องค์ชายสี่ก็พูดอย่างเย้ยหยัน“ตกเป็นเชลยแล้วยังจะโอหังเพียงนี้!”ที่ปรึกษาที่อยู่ข้างกายเขาพูด“องค์ชาย ฝ่าบาททรงมอบหมายเรื่องนี้ให้ท่าน ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป ได้ยินว่าฮ่องเต้หนานฉีผ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1199

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพรวมเป็นสำคัญ จึงต้องกลับแคว้นหนานฉีก่อนอู๋ไป๋วิตกกังวล“ท่านประมุข กระหม่อมกลัวว่านักฆ่าพวกนั้นจะลงมือกับท่านด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าท่านประมุขเพิ่งจะคลอดลูก จะทนรับแรงสั่นสะเทือนจากการเดินทางได้เช่นไร?สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา“กลับแคว้นหนานฉี”ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใดก็ต้องกลับไปกลัวก็กลัวแต่ เป้าหมายของนักฆ่าพวกนั้นคือก่อกวนแคว้นหนานฉี นางจะปล่อยให้พวกเขาสมหวังไม่ได้เด็ดขาดก่อนที่จะตามหาเซียวอวี้เจอ นางจะต้องช่วยเขาปกป้องแคว้นหนานฉีเอาไว้ให้ได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดการเรื่องในแคว้นซีนี่ว์ไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงว่าจะจัดการขับไล่กองทัพแคว้นเป่ยเยี่ยนอย่างไร ไปจนถึงผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นคนใหม่ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ประมุขคนใหม่ใช้อำนาจอย่างเผด็จการ นางจึงจัดตั้งนโยบายสามประมุขขึ้นในบรรดาสามคนนี้ มีคนหนึ่งเป็นบุรุษทำเช่นนี้จะได้ปลอบโยนเหล่าบุรุษในแคว้นซีนี่ว์ ป้องกันไม่ให้พวกเขาสร้างเรื่องวุ่นวายอีกเฟิ่งจิ่วเหยียนออกเดินทางกลับแคว้นหนานฉีอย่างรวดเร็วแม้ว่าหูย่วนเอ๋อร์จะตัดใจไม่ลง ทว่านางก็รู้ดีถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1198

    ประตูตำหนักเปิดออก นางกำนัลเดินออกมาจากด้านในแล้วพูดกับหูย่วนเอ๋อร์: “ท่านแม่ทัพ ท่านประมุขคลอดองค์ชายพระองค์หนึ่งออกมาอย่างปลอดภัยเพคะ”ที่แคว้นซีหนี่ว์ มีเพียงองค์หญิงเท่านั้นที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขได้ ดังนั้นองค์ชายผู้นี้จึงไม่เป็นที่ต้องการทว่าหูย่วนเอ๋อร์ยังคงรู้สึกขอบคุณสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง“องค์ชายก็ดี ปลอดภัยก็ดีแล้ว”ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสายเลือดเชื้อพระวงศ์เพิ่งจะพูดจบ หมอตำแยข้างในก็ร้องตะโกนอย่างตกใจ“ยังมีอีกพระองค์หนึ่ง!”ที่แท้ท่านประมุขก็ทรงตั้งครรภ์ฝาแฝดนี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของทุกคนแววตาหูย่วนเอ๋อร์มีความยินดีและการเฝ้ารอพาดผ่านหวังว่าจะเป็นแฝดชายหญิงหากเป็นองค์หญิง อนาคตย่อมสามารถสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นได้ภายในตำหนักเฟิ่งจิ่วเหยียนนึกไม่ถึงว่าคลอดออกมาแล้วคนหนึ่ง แล้วยังมีอีกคนโชคดีที่นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ยังใช้แรงไปไม่หมดก่อนหน้านี้เป็นเพราะตำแหน่งครรภ์ไม่ตรงจึงคลอดยากคนที่สองนี้กลับคลอดง่ายกว่ามาก ทว่าตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้สึกอะไรแล้ว นางเจ็บปวดจนชาไปหมดแล้ว ร่างกายส่วนล่างบวมเสียจนเหมือนว่าเนื้อส่วนนั้นไม่ใช่ของนางอีกต่อไปจนกร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1197

    เคร้ง!พู่กันในมือเฟิ่งจิ่วเหยียนหล่นลง นางมองอู๋ไป๋ด้วยสีหน้าเย็นชา“พวกเฉินจี๋เล่า!”อู๋ไป๋ส่ายศีรษะ“เฉินจี๋เองก็หายตัวไปพ่ะย่ะค่ะ ไม่ง่ายเลยที่จะส่งข่าวนี้กลับมา! ท่านประมุข พวกเราทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตรายแต่ก็ไม่ตื่นตระหนก หลังจากสงบอารมณ์ลงได้อย่างรวดเร็วก็สั่งอู๋ไป๋“สั่งการลงไปให้ทุกจวนในแคว้นซีหนี่ว์ตามหาพระสวามี“พร้อมทั้งส่งองครักษ์ลับทุกคนออกไป รวมถึงกองทัพอินทรีเหิน“ให้พวกเขาตามหาฝ่าบาทตามแนวชายแดน!”อู๋ไป๋รีบไปจัดการตามคำสั่งหากเกิดอะไรขึ้นกับฝ่าบาทต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่!หลังจากอู๋ไป๋ออกไป เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าฝ่ามือของตนเต็มไปด้วยเหงื่อฎีกาบนโต๊ะนางก็ดูไม่รู้เรื่องแล้วทุกอย่างที่คิด มีแต่เรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของเซียวอวี้เป็นไปได้มากว่าคนที่ลงมือรู้ถึงฐานะของเขาดีเฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าเคร่งขรึม หน้าซีดไร้เลือดไม่นานอู่ไป๋ก็กลับมา“ท่านประมุข จัดการเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ยังมีองครักษ์ที่มาส่งข่าวผู้นั้น ท่านต้องการพบเขาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เขาพูดจบแล้ว ทว่ากลับไม่ได้ยินท่านประมุขตอบอะไรอู่ไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1196

    พรุ่งนี้เซียวอวี้ก็ต้องเดินทางกลับแคว้นหนานฉีแล้ว คืนนี้เขานอนกอดเฟิ่งจิ่วเหยียน ทั้งคืนไม่อาจหลับตาลงได้เขาวางมือข้างหนึ่งไว้บนท้องของนาง สัมผัสกับการเคลื่อนไหวในครรภ์ที่มีอยู่บางเวลาหากเวลาหยุดลงตรงนี้ได้ ก็คงจะดีทว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงเขายังคงเป็นฮ่องเต้แคว้นหนานฉี ไม่อาจเห็นแก่ความรู้สึกส่วนตัว ละเลยความปลอดภัยของแคว้นได้เฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็นอนไม่หลับนางกุมแขนของเขาเบา ๆ พูดด้วยน้ำเสียงสงบและอ่อนโยน“อย่างมากสุดหนึ่งเดือน หม่อมฉันก็จะกลับแคว้นหนานฉีเพคะ”เซียวอวี้จุมพิตซอกคอนาง “ได้ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะไม่ผิดคำพูด”ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใดเขาถึงรู้สึกกระวนกระวายใจเหมือนกับท้องฟ้าที่มืดครึ้มไปด้วยฝน ยากที่ท้องฟ้าจะปลอดโปร่งวันที่สอง ในที่สุดเซียวอี้ก็ต้องออกเดินทางแล้ววันนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ว่าราชการ นางนั่งรถม้าไปส่งเขาออกจากเมืองด้วยตนเองข้างกายเซียวอวี้มีองครักษ์ติดตามมากมาย ส่วนเหล่าองครักษ์เงา เขาล้วนให้อยู่กับเฟิ่งจิ่วเหยียน ให้พวกเขาคอยปกป้องฮองเฮาและเด็กให้ดีส่งกันพันลี้ ก็ต้องจากกันเซียวอวี้กำชับหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการกินข้าวและการนอน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1195

    ในใจเฟิ่งจิ่วเหยียนพลุ่งพล่านด้วยเพลิงอารมณ์อันร้อนแรง นางเม้มริมฝีปาก พูดกับเซียวอวี้“เราเป็นสามีภรรยากัน ข้าย่อมมิอาจทำใจห่างจากท่านได้ “แต่ราชการบ้านเมืองประดุจเพลิงโหมกระหน่ำ จะให้ข้ามีจิตห่วงใยแต่เรื่องรักใคร่ได้อย่างไร? “ฝ่าบาท ท่านก็เช่นกัน อย่าได้พูดสิ่งที่หามีสาระไม่ เร่งจัดการราชกิจให้เป็นกิจจะลักษณะเถิดเพคะ...”นางพลางพูด พลางถอยออกจากอ้อมกอดของเขา บีบคั้นให้เขาจำต้องให้ความสำคัญแก่งานราชกิจก่อนสิ่งอื่นใดเซียวอวี้จ้องนางนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างอดกลั้น“ได้”พูดจบ เขาก็หมุนตัวออกจากห้องทรงพระอักษร เหมือนกลั้นลมหายใจไว้ มิคาดหวังคำปลอบประโลมจากนางอีกต่อไปด้านนอกตำหนัก เซียวอวี้ยืนท่ามกลางลมห้วงราตรี สัมผัสได้ถึงไอสังหารเยือกเย็นของแคว้นซีหนี่ว์สายตาของเขาทอดมองไกลลิบ สั่งเฉินจี๋ด้วยสีหน้าเรียบเฉย“เตรียมรถม้า พรุ่งนี้กลับแคว้นหนานฉี”สีหน้าเฉินจี๋ไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใด ๆ แต่ในใจกลับแอบลิงโลด ในที่สุดก็ได้ออกจากแคว้นซีหนี่ว์แล้วเฉินจี๋ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม “จะให้จัดหมอตำแยติดตามไปด้วยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เผื่อฮองเฮาประสูติกลางทา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1194

    เฟิ่งจิ่วเหยียนจำลายมือในกระดาษนั้นได้แน่ชัด ว่าเป็นลายมือของเลี่ยอู๋ซิน เลี่ยอู๋ซินเป็นสหายสนิทของเมิ่งสิงโจวศิษย์พี่ของนาง ก่อนหน้านี้เพื่อสืบหาความจริงคดีมนุษย์โอสถ นางเคยติดต่อกับเลี่ยอู๋ซิน ได้ข่าวว่าหลังจากความจริงกระจ่าง เลี่ยอู๋ซินก้ไปยังแคว้นตงซาน ไล่ล่าซุนโฉวที่เป็นหัวหน้ากลุ่มมนุษย์โอสถที่หลงเหลือ ครั้งนี้เขาส่งข่าวสารมาโดยมิได้ปรากฏตัว ดูท่าออกจะลึกลับพิกลอยู่เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “หากมีสิ่งใดเคลื่อนไหวผิดแผก ไยไม่เขียนบอกให้ชัดเจนโดยตรง?”นางก้มมองข้อความ เซียวอวี้ผู้ยืนอยู่ข้างตัวนางคาดคะเน “เลี่ยอู๋ซินอาจไม่สะดวกปรากฏตน หรือผู้ที่ส่งข่าวครั้งนี้ มิใช่เขาเองก็เป็นได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนโน้มเอียงไปทางข้อสันนิษฐานประการหลังมากกว่า อาจเป็นเลี่ยอู๋ซินมอบหมายให้คนนำข้อความมา หากมิใช่เช่นนั้น คงไม่จำต้องปิดบังอำพรางถึงเพียงนี้“แคว้นตงซาน…” เฟิ่งจิ่วเหยียนพึมพำในลำคอ ครานั้นแต่ละแคว้นโจมตีแคว้นหนานฉี ก็เพราะแคว้นตงซานเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง เห็นได้ชัดว่าความทะเยอทะยานของพวกเขาไม่ธรรมดา ยามนี้แคว้นตงซานเคลื่อนไหวผิดแผก เกรงว่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status