Share

บทที่ 45

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
“ยืนงงอะไรอยู่เล่า? พระนางล่ะ!”

ซุนหมัวมัวเห็นเหลียนซวงยืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม จึงผลักนางเบา ๆ

เหลียนซวงได้สติกลับมา เหงื่อเย็นท่วมศีรษะทันที

“ข้า...ข้าจะไปหาพระนางเดี๋ยวนี้”

แย่แล้ว

นางจะไปหาพระนางจากที่ไหนกันเล่า!

ซุนหมัวมัวรุดหน้าไปต้อนรับการเสด็จมาเยือนของฮ่องเต้ก่อน

จักรพรรดินั่งอยู่ม้านั่งไม้สีทองขลับด้วยสีแดงด้านนอกตำหนัก เสื้อผ้าสีดำแก่ไม่มีแม้แต่รอยยับ เหมือนกับนิสัยของเขาไม่มีผิด  มีความรับผิดชอบและละเอียดรอบคอบ  เคร่งขรึมเอาจริงเอาจัง

“ฮองเฮาล่ะ”

ซุนหมัวมัวประเคนชาให้ : “กราบทูลฝ่าบาท พระนางคงจะกำลังเสด็จมา คงจะสรงน้ำอยู่เพคะ”

เซียวอวี้เลิกคิ้วขึ้น

ก่อนหน้านี้ที่เขาออกจากตำหนักหลิงเซียวมา เดิมวางแผนจะกลับไปที่ตำหนักจื้อเฉินทันที

ระหว่างทางผ่านตำหนักหย่งเหอ จึงเปลี่ยนใจชั่วคราว มาถามความคืบหน้าในการสืบสวนของฮองเฮาเสียหน่อย

นางกลับมาสรงน้ำในยามนี้เสียอย่างนั้น

ผ่านไปครู่ใหญ่ ก็ยังไม่เห็นฮองเฮาออกมา

เซียวอวี้จวนจะหมดความอดทน

ซุนหมัวมัวเองก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติ

นางรีบร้อนเข้าไปในตำหนัก กลับเห็นเหลียนซวงยืนแข็งทื่อราวกับตอไม้อยู่ในด้านในฉากกั้น

เมื่อเห็นเช่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (4)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
นางเอกฉลาดและว่องไวมาก
goodnovel comment avatar
Duangporn
กำบังติดตามมอ่า
goodnovel comment avatar
Chanyanut Saenkam
สนุกมากจริงๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 46

    เซียวอวี้เดินตรงมาหาเฟิ่งจิ่วเหยียน แววตาดูพินิจพิเคราะห์เฟิ่งจิ่วเหยียนวางตัวสงบนิ่ง มือข้างหนึ่งซ่อนอยู่ในแขนเสื้อกว้าง “หม่อมฉันคารวะฝ่าบาทเพคะ”“เมื่อครู่เจ้าเพิ่งออกมาจากห้องปลดทุกข์รึ” เซียวอวี้ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้ารับ“เพคะ ฝ่าบาท”เซียวอวี้ขมวดคิ้ว “มีกลิ่นคาวเลือด”จังหวะการหายใจของเฟิ่งจิ่วเหยียนแปรปรวนเล็กน้อยเพราะเปื้อนเลือดจำนวนมากของโจรภูเขา อีกทั้งยังไม่ได้ชำระกาย ดังนั้นย่อมต้องได้กลิ่นคาวเลือดในยามนี้นางแสร้งทำเป็นอ่อนแอ มองดูเหมือนบอบบางจนไม่อาจต้านทานแรงลม ไร้เรี่ยวแรงจะโต้ตอบ“ฝ่าบาท...หม่อมฉันมีรอบเดือนเพคะ”เซียวอวี้พลันหรี่ตาลงและเพ่งมองนางนี่เป็นครั้งที่สองที่นักฆ่าปรากฏตัวใกล้ตำหนักหย่งเหอจะบังเอิญถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนละสายตาลง ท่าทีนอบน้อม แต่ทันใดนั้น ฝ่ายบุรุษกลับคว้าข้อมือข้างหนึ่งของนางขึ้นมาดูเหมือนจะทำให้นางตกใจ ดวงตาพลันเบิกกว้าง“ฝ่าบาท...”นิ้วมือของเขากดที่ข้อมือของนางนี่กำลังทดสอบพลังภายในของนาง!ร่างกายของเฟิ่งจิ่วเหยียนแข็งทื่อ ไม่ขยับเขยื้อนโชคดีมือที่คว้าไปเป็นข้างซ้าย ไม่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 47

    ณ ตำหนักหย่งเหอนอกจากไทเฮาและฮ่องเต้ประทับอยู่ที่นี่ ยังมีหวงกุ้ยเฟยอยู่ด้วยหวงกุ้ยเฟยแอบบิดผ้าเช็ดหน้าในมือ ในใจรู้สึกเย็นวาบเฟิ่งเวยเฉียงหญิงต่ำช้าผู้นี้ ไม่คาดคิดว่าจะกล้าเปิดโปงเรื่องลักพาตัว!นางก็อยากเห็นเช่นกัน หญิงต่ำช้าผู้นี้จะจัดฉากละครอะไรกัน!เฟิ่งจิ่วเหยียนสั่งให้คนพาโจรภูเขาออกมาเนื่องจากพวกเขามีจำนวนคนมาก จึงพาแค่หัวหน้ากลุ่มโจรออกมาสอบปากคำเฟิ่งจิ่วเหยียนยืนขึ้นรายงาน“กลุ่มโจรภูเขาที่ลักพาตัวหม่อมฉันในวันนั้น บิดาของหม่อมฉันจับตัวพวกเขาไว้หมดแล้วเพคะ”“ตำแหน่งเบาะแสของพวกเขาไม่ธรรมดา ผ่านเหตุการณ์ไปหลายเดือน ถึงจะได้เจอตัวพวกเขา”“ยังโชคดีที่ฮ่องเต้ทรงรับปาก หม่อมฉันจึงได้รับโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และตามหาคนร้ายตัวจริง!”“หลังจากสอบสวนแล้ว โจรเหล่านี้ก็สารภาพว่า คนที่สั่งให้พวกเขามาลักพาตัวหม่อมฉัน ก็คือจ้าวเฉียน...คนสนิทข้างกายหวงกุ้ยเฟยเพคะ!”ประโยคสุดท้าย นางจงใจหยุดแล้วค่อยเอ่ยต่อ แสดงความหมายเป็นนัยที่ลึกล้ำ ในวินาทีนั้น แววตาของเซียวอวี้ราวกับคมดาบ ฉายประกายดุดันมาที่นางนี่เป็นสิ่งที่นางสืบหาจนรู้ หรือกำลังใส่ร้ายตำหนักหลิงเซียว?หวงกุ้ย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 48

    เฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่เรียกพยานออกมาทันที กลับถามหัวหน้าโจรผู้นั้นก่อน“เจ้ายืนกรานว่าเห็นจ้าวเฉียน เช่นนั้นเจ้าจำได้หรือไม่ วันนั้นเป็นวันอะไรเดือนอะไร”“จำได้! วันที่ 10 เดือน10”หวงกุ้ยเฟยยิ้มเยาะ “แน่ใจถึงเพียงนั้นเชียวรึ ความจำของเจ้าช่างดีเหลือเกิน ถ้าคนไม่รู้จะคิดว่าเจ้า...”นางมองฮองเฮาโดยมีความหมายอื่นแอบแฝง บอกเป็นนัย ๆ ว่าโจรผู้นี้รับสินบนจากฮองเฮาหัวหน้าโจรรีบแก้ต่างทันที“วันที่ 10 เดือน 10 ของทุกปีเป็นวันบูชาขุนเขา บรรดาพี่น้องเรากำลังกินดื่มสังสรรค์ และจ้าวเฉียนก็มาถึง...”จ้าวเฉียนเหมือนได้จับช่องโหว่ของอีกฝ่ายได้ จึงรีบร้อนตะโกนขึ้น“ปรักปรำ! บ่าวอยู่ในวังตลอดเวลา จะขึ้นไปบนภูเขาได้อย่างไร!”สิ่งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนรออยู่ก็คือประโยคนี้ของเขา “จ้าวเฉียน แล้วเจ้าแน่ใจได้อย่างไร วันที่ 10 เดือน 10 ตัวเจ้าอยู่ในวังหลวง?”จ้าวเฉียนกลอกตาไปมา“ไม่ใช่แค่วันที่ 10 เดือน 10 บ่าวอยู่ปรนนิบัติรับใช้หวงกุ้ยเฟยมาตลอด ครั้งก่อนที่ออกจากวัง ก็เพราะทำความดีความชอบเลยได้กลับไปอยู่พร้อมหน้าครอบครัว “หากฮองเฮามิทรงเชื่อ ก็ตรวจดูในสมุดรายชื่อผู้ที่เข้าออกวังได้พ่ะย่ะค่ะ“การ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 49

    องครักษ์นำทองคำในมือของจินเหนียงจื่อมาตรวจสอบ ผลลัพธ์ตรงตามคำพูดของฮองเฮา ทองคำในมือของโจรภูเขากับจินเหนียงจื่อเป็นชุดเดียวกัน!จ้าวเฉียนปากสั่น แต่ยังคิดจะปฏิเสธ“ทองคำที่หลอมออกมาในชุดเดียวกัน ไม่ได้มีเพียงหนึ่งหรือสองก้อน บ่าวแค่บังเอิญว่ามีทองคำชุดนั้น จะนำมาพิสูจน์ได้อย่างไร...”เฟิ่งจิ่วเหยียนขัดจังหวะคำพูดของเขา และเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน“โจรภูเขาชอบของมีค่า โดยเฉพาะเงินกับทองคำ นั่นเป็นเพราะไม่ต้องยุ่งยากนำตั๋วเงินไปแลกเป็นเงินอีก“จ้าวเฉียนคิดจะติดสินบนโจรภูเขา ทองคำที่นำออกมาจะต้องมีจำนวนเยอะ ไม่มีทางนำทองคำที่กระจัดกระจายไม่เต็มจำนวนไปแน่ อีกอย่างทองคำมากมายขนาดนั้น จะนำออกจากวังก็คงไม่สะดวกนัก ดังนั้นเขาจึงนำตั๋วเงินออกจากวัง แล้วค่อยไปแลกเป็นทองคำที่ร้านแลกเงินในเมืองหลวง”“ส่วนร้านแลกเงินถ้าเบิกทองคำจำนวนมาก ๆ ในครั้งเดียว ทองคำนั้นจะต้องมีหมายเลขกำกับที่เรียงกัน...”ไทเฮาโบกพระหัตถ์ “ฮองเฮา ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าพูดมาตั้งมากมาย ก็เพื่อจะพิสูจน์ว่า ทองคำเหล่านี้เป็นชุดเดียวกันกับที่ถูกนำออกมาจากร้านแลกเงิน ใช่หรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้ารับ“ใช่เพคะ เสด็จแม่”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 50

    “ฮองเฮากำลังสงสัยคำตัดสินของเราใช่หรือไม่!” แววตาของเซียวอวี้เคร่งขรึม แฝงความน่าเกรงขามเฟิ่งจิ่วเหยียนมองเขาด้วยสายตาเยือกเย็นนี่หรือจักรพรรดิที่นางและเหล่าทหารนับหมื่นนับพันจงรักภักดี?เขาไม่ใช่แค่ฮ่องเต้ทรราช ยิ่งเหมือนฮ่องเต้ที่ไร้ความชอบธรรม!ทันใดนั้นนางก็เอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น“โทษฐานที่จ้าวเฉียนต้องแบกรับนั้น ไม่ใช่แค่บงการให้โจรภูเขามาลักพาตัว”“ยังมีสิ่งใดอีก?” ไทเฮารู้สึกร้อนใจคิ้วตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูเยือกเย็นและเคร่งขรึม“ก่อนหน้านี้หม่อมฉันเคยถามจ้าวเฉียน เขายืนกรานว่า วันที่ 10 เดือน 10 ปฏิบัติงานอยู่ในวังหลวง ต่อมาพอตรวจสอบสมุดรายชื่อผู้ที่เข้าออกวัง รวมถึงสมุดบันทึกการทำงานของตำหนักหลิงเซียว ต่างก็ยืนยันในสิ่งที่เขาพูด ทว่าความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น นี่แสดงให้เห็นว่า...”เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันยกมือ หลังจากลากมือไปตามแนวนอนกลางอากาศ ก็ชี้ไปที่หวงกุ้ยเฟยด้วยท่าทางดุดัน “หวงกุ้ยเฟยในฐานะผู้คุมตำหนัก ไม่เคร่งครัดกับบ่าวรับใช้ ในขณะเดียวกัน ยังถือครองตราประทับทองคำ ต้องควบคุมดูแลวังหลังด้วย แต่ทว่าในวังกลับมีการสร้างเรื่องเท็จผู้ที่เข้าออกวัง จึงถือว่าละเลยหน้า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 51

    เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของจักรพรรดิ เฟิ่งจิ่วเหยียนแบะปากและยิ้มเยาะตัวเอง“หม่อมฉันกล้าหาญ?“ฝ่าบาท หลังจากหม่อมฉันได้รับการช่วยเหลือกลับมา ถึงแม้ตัวเองจะบริสุทธิ์ แต่กลับไม่มีใครเชื่อ “คนรอบข้างพากันเกลี้ยกล่อมหม่อมฉัน ให้พยายามนิ่งเฉย อย่าตอบโต้ข้อสงสัยและข่าวลือเหล่านั้น รอให้ข่าวลือเงียบหายไปเอง รอให้ผู้คนลืมเรื่องนี้ไปเอง”“แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น“แต่ละวันหม่อมฉันต้องใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดกลัวและความเจ็บปวด กระทั่งยังสงสัยในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่รู้จริง ๆ ว่าเอากฎเกณฑ์ใดมาวัดความบริสุทธิ์ของสตรีผู้หนึ่ง และยิ่งไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนที่ถูกลักพาตัว คนที่ถูกทำลายชื่อเสียง ซึ่งเห็นชัดอยู่แล้วว่าเป็นคนที่ถูกทำร้าย ถึงได้กลายเป็นคนทำผิด และยังกลายเป็นหญิงสำส่อนตามขี้ปากของชาวบ้าน!“ถ้าหม่อมฉันไม่กล้าหาญ คงตายไปกับข่าวลือนั้นตั้งแต่แรก ไฉนเลยจะกล้าสวมเครื่องยศสตรี เพื่ออภิเษกสมรสเข้าวัง?“ถ้าหม่อมฉันไม่กล้าหาญ ไฉนเลยจะกล้าขอร้องพระองค์ให้สืบค้นหาความจริง“หม่อมฉันมีความกล้าหาญ ฉะนั้นแล้ว ขอฮ่องเต้ทรงถอดถอนตำแหน่งฮองเฮาด้วย! หม่อมฉันจะได้มีความกล้าหาญอีกครั้ง จะน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 52

    “มีราชโองการ! หวงกุ้ยเฟยรับราชโองการ!”ชุนเหอประคองหวงกุ้ยเฟยเดินออกมาด้านนอกตำหนัก และโค้งคำนับจากนั้นก็คอยฟังข้าหลวงผู้นั้นอ่านราชโองการ“ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่ง จ้าวเฉียนนำทรัพย์สินของพระราชวังไปขายต่อ มีหลักฐานชัดเจน ส่วนหวงกุ้ยเฟยละเลยการตรวจสอบ นับตั้งแต่บัดนี้ ให้นำตราประทับทอง ส่งมอบให้กับฮองเฮาเพื่อควบคุมวังหลัง...”เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าหวงกุ้ยเฟยพลันเปลี่ยนในทันทีฮ่องเต้ต้องการยึดตราประทับทองของนางไปจริงหรือ?ถึงเวลานี้ ราชโองการยังอ่านไม่จบพลันได้ยินข้าหลวงผู้นั้นเอ่ยอีกว่า“นอกจากนี้ ให้หวงกุ้ยเฟยลดตำแหน่งลงมาเป็นกุ้ยเฟย!”อะไรกัน!ทุกคนในตำหนักหลิงเซียวต่างมีสีหน้าตกตะลึงจ้าวเฉียนทำความผิด เหตุใดหวงกุ้ยเฟยจึงถูกลงโทษร้ายแรงเช่นนี้?ตั้งแต่หวงกุ้ยเฟยได้รับความโปรดปราน ก็ไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้ชุนเหอก็ไม่อยากเชื่อ จึงรีบประคองพระสนมของตนใบหน้าของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ยังคงสงบนิ่ง แต่มือไม้ชา สีหน้าไม่แช่มชื่นเหมือนปกติทั่วไป“หม่อมฉัน น้อมรับราชโองการ”หลังจากข้าหลวงที่อ่านราชโองการกลับไป หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ก็นั่งลงบนเก้าอี้ แววตาดูว่างเปล่า ไม่รู้ว่านางกำลังคิด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 53

    ตำหนักหย่งเหอเฟิ่งจิ่วเหยียนเสร็จจากชำระกาย กำลังนั่งสางผมอยู่ข้างตั่งนอกหน้าต่างพลันมีเสียงกึกกัก เหมือนเสียงลูกไก่จิกเม็ดข้าวสาร ดวงตาของนางเป็นประกาย จึงลุกขึ้นยืนและเดินไปทันทีบนบานหน้าต่างกระดาษสะท้อนเงาด้านข้างของนาง ผมยาวสยาย จมูกเป็นสันคมนางเปิดหน้าต่างออกไป นกพิราบส่งสารขนดำกำลังใช้ปากจิกขอบหน้าต่าง ดูร้อนใจราวกับจะพูดว่า “เหตุใดจึงมาเปิดประตูช้าถึงเพียงนี้”ดูฉุนเฉียวอย่างมากเฟิ่งจิ่วเหยียนเปิดกระบอกไม้ไผ่ที่ผูกติดกับขานกพิราบส่งสาร และหยิบสารลับด้านในออกมา—— [หนูถูกจับเข้ากรงแล้ว]หนู หมายถึงพวกโจรภูเขาเหล่านั้นทำศึกต้องใช้กลอุบายนางหลอกพวกเขา จัดส่งไปยังซ่องชายชั้นต่ำ พวกเขาจะถูกเฉือนลิ้น ตัดเส้นเอ็นมือเอ็นเท้า จะถูกทรมานทุกวัน จนกระทั่งตาย!แต่ถึงแม้โจรภูเขาจะได้รับผลกรรม เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ยังไม่มีความสุขเวยเฉียงบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนั้น ต่อให้ทรมานพวกโจรภูเขาเท่าใด ก็ยากที่จะบรรเทาความแค้นในใจของนางได้คนชั่วร้ายอย่างหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ยังไม่ถูกจับแม้แต่สาวใช้อย่างเหลียนซวงก็ยังโกรธแค้น“ผู้บงการตัวจริงยังคงลอยนวล มันไม่ยุติธรรมเลย! หรือฮ่องเต้จะไม่เ

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 946

    ด้านนอกประตูวังนั้นหลิวอิ๋งและบุตรสาวของนางถูกไล่ออกไปทันทีไม่ว่าพวกนางจะเอ่ยย้ำว่าเป็นเครือญาติของฮองเฮามากเท่าไหร่เหล่าองครักษ์พลางกล่าวออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ว่า: “ฮองเฮามีรับสั่งว่า ไม่พบ!”สาวใช้ของพวกนางพลันก้าวเข้าไปข้างหน้า ก่อนจะซักถามพวกเขาว่า“มีตาหามีแววไม่! พวกเจ้ามิได้ไปแจ้งให้ฮองเฮาทราบอย่างแน่นอนเลย!”องครักษ์ที่ทำหน้ารักษาประตูวังจึงชักอาวุธออกมา“หากกล้าก่อเรื่องที่หน้าประตูวัง คงมิอยากจะมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่!”เมื่อหลิวอิ๋งและอีกสองคนเห็นสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า พวกนางจึงค่อย ๆ ล่าถอยออกไปแต่โดยดีทว่า พวกนางหาได้คิดยอมแพ้ไม่!เจิ้งจีบุตรสาวของนางพลันเป็นเดือดเป็นร้อนไปในทันที ก่อนจะจับแขนมารดาของตน พลางเอ่ยถาม“ท่านแม่ ฮองเฮามิให้พวกเราเข้าพบเช่นนี้ พวกเราจักทำเช่นไรกันดีเจ้าคะ? แคว้นพันธมิตรต่างก็เปิดเส้นทางการค้าขายมากมาย โดยเฉพาะแคว้นตงซาน จำนวนพ่อค้าหลวงเองก็มีจำกัด พวกเรามิอาจปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นได้นะเจ้าคะ”สายตาอของหลิวอิ๋งพลันเจือไปด้วยความเย็นชาเล็กน้อย เผยให้เห็นท่าทีสงบและฉลาดหลักแหลม“ไม่ต้องรีบร้อนไป ในเมื่อคนเป็นลูกมิยอมใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 945

    เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับการปรากฏตัวของท่านน้าหญิงของตนเองเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงสั่งให้คนไปตรวจสอบตัวตนของนางมาเสียก่อนการสืบหาในครานี้ กินเวลาไปเกือบทั้งวันด้านนอกประตูวัง ยังมีแม่ลูกคู่หนึ่งยืนอยู่ พร้อมด้วยสาวใช้ของนางเมื่อเหล่าองครักษ์เห็นว่านางเรียกตนเองว่าเป็นเครือญาติของฮองเฮานั้น พวกเขาก็หาได้กล้าทำอะไรไม่ พลางพาพวกนางไปพักที่ศาลาเพื่อรอฮองเฮาเรียกตัวเข้าพบใกล้พลบค่ำหว่านชิวพลันเดินเข้ามาภายในตำหนักในขณะเดียวกัน เฟิ่งจิ่วเหยียนที่กำลังอ่านจดหมายจากท่านอาจารย์ของนาง เนื้อหาพลันระบุเอาไว้ ชายแดนเหนือได้ทำการวางแนวป้องกันแบบใหม่ลงไปแล้ว มิกลัวว่าฝั่งเป่ยเยี่ยนจะลอบเข้ามาโจมตีอีกต่อไปหว่านชิวพลางโค้งกายคำนับ“ฮองเฮาเพคะ สืบพบแล้วเพคะ สตรีผู้นี้มีนามว่า ‘หลิวอิ๋ง’ เป็นท่านน้าหญิงของพระองค์จริง ๆ เพคะ ทว่า...” หว่านชิวพลันเปลี่ยนหัวเรื่อง “องครักษ์ยังสืบพบอีกว่า มารดาของท่านได้ทำการตัดสายสัมพันธ์กับตระกูลเดิมไปเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ท่านน้าหญิงของฮองเฮาผู้นี้ มิทราบว่าสมควรจักให้พบหรือไม่ให้พบดีเพคะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนวางจดหมายในมือของนางลง ก่อนจะสั่งการว่า“เจ้าไปที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 944

    เจียงหลินจึงเอ่ยอธิบายก่อน: “สำหรับเส้นทางการค้าลับนั้น ตระกูลเจียงเองก็เคยใช้งานเช่นเดียวกัน ทว่า เรื่องมนุษย์โอสถนั้น หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับตระกูลเจียงไม่”เรียวนิ้วของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเขี่ยไปที่รอบปากจอกสุรา สายตาของนางหาได้สนใจสิ่งใดไม่“เล่าต่อเถิด ว่าเรื่องเป็นมาเช่นไร”เจียงหลินพลันกัดฟันเอ่ยออกมา“ข้ากลัวว่าท่านจักเป็นกังวล จึงมิกล้าเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาให้ท่านฟัง”“เส้นทางการค้าลับนั้นมีมานานนับหลายสิบปีแล้ว การค้าของตระกูลเจียงนั้นมีบางครั้งก็จำเป็นต้องใช้งานพวกเขาบ้าง“สิ่งที่ข้าสืบพบก็คือ ไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นการค้าของพวกมนุษย์โอสถรุ่งเรืองยิ่งนัก ทว่า มิรู้เพราะเหตุใดช่วงนี้ราวกับพวกเขาได้ยินข่าวลืออะไรบางอย่าง จึงไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ มานานแล้ว“ข้าเองก็ได้ส่งคนไปซุ่มรอตรวจสอบอยู่ หากพบว่ามีการค้าขายเกี่ยวกับมนุษย์โอสถเมื่อใดนั้น ย่อมต้องแจ้งให้ท่านทราบอย่างแน่นอน“ทว่า ในยามนี้หาได้พบสิ่งใดไม่”หลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ฟังจนจบแล้วนั้น อย่างน้อยนางก็มั่นใจได้เรื่องหนึ่งว่า มนุษย์โอสถไปมาระหว่างแคว้นตงซานกับหนานฉีจริง ๆ ……ช่วงนี้ นับตั้งแต่ฮ่องเต้จนไปถึงขุนน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 943

    ปั้ง!ถานไถเหยี่ยนยกมือขึ้นข้างหนึ่ง หยวนจั้นที่ตกใจจนมิทันได้ป้องกันตนเองนั้น ก็ถูกกำลังภายในอันแข็งแกร่งกระแทกออกไปในทันทีหยวนจั้นที่ได้สติกลับมานั้น จึงปรับสมดุลกำลังภายในในร่างกายของตนเองให้มั่นคง ทว่า ก็ยังไม่อาจยืนหยัดได้อย่างมั่นคงนักร่างกายของหยวนจั้นซวนเซถอยหลังไปสองสามก้าว พร้อมทั้งแผ่นหลังที่ไปกระแทกเข้ากับประตูห้องขังที่อยู่ด้านหลังเขาเมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองนั้น พลันเห็นว่าถานไถเหยี่ยนได้ทำลายกุญแจประตูห้องขัง ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเขา...หยวนจั้นเอามือกุมหน้าอกของตนเองเอาไว้ ดวงตาค่อย ๆ หรี่ลง พร้อมด้วยเปลือกตาของเขาที่สั่นไหวไปเล็กน้อยคนผู้นี้ มีความสามารถล้ำลึกถึงเพียงนี้เลยหรือ?เพียงไม่กี่อึดใจเดียว ถานไถเหยี่ยนก็เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของเขา พลางยกมือขึ้นมาวางบนไหล่ของหยวนจั้นหยวนจั้นที่คิดว่าถานไถเหยี่ยนจะลงมือกับตนเองนั้น กลับเห็นว่าเขาเพียงแค่ปัดฝุ่นออกจากหัวไหล่ให้ตนเองเท่านั้นเสมือนกับว่า เขายังคงเป็นอาจารย์ที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนในความทรงจำของเขาอยู่จากนั้น ถานไถเหยี่ยนพลันจัดแจงอาภรณ์ที่เต็มไปด้วยรอยยับให้เรียบร้อย พวกเขาราวกับศิษย์อาจารย์ที

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 942

    หลังจากจับกุมพัศดีได้นั้น เขาหาได้มีท่าทีสำนึกผิดไม่“ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยทำสิ่งใดผิดไปงั้นหรือ…”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดมองเขาไม่ นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาพลางกล่าวออกมาว่า“ในฐานะพัศดีนั้น กลับกระทำการรับสินบน ติดต่อกับศัตรูต่างแคว้น ย่อมต้องถูกโทษประหาร!”พัศดีพลันมีสีหน้าซีดเผือดไปในทันทีเหตุใดถึง?ฮองเฮาทรงทราบว่าเขาลอบทำสิ่งใดเช่นนั้นหรือ?ผู้ใดเป็นคนทรยศเขากัน!พัศดีพลันรีบก้มลง พร้อมโขกหัวลงบนพื้นเพื่อ ร้องขอความเมตตา“ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยมิกล้าอีกแล้ว! ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิด ได้โปรด...”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้คิดฟังเรื่องไร้สาระจากเขาไม่ พลางหันไปสั่งการกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคุกเทียนเหลาว่า“ข้าจักให้เวลาพวกเจ้าสามวัน ไปทำการสืบค้นเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าเสีย”“พ่ะย่ะค่ะ!” เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้รับผิดชอบนั้นพลันก้มหน้าลงด้วยความละอายใจเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงหันไปกล่าวกับพัศดีคนอื่น ๆ ที่ยืนเนื้อตัวสั่นเทาว่า“ภายในสามวันนี้ หากผู้ใดยอมสารภาพออกมาแต่โดยดี จักได้รับโทษสถานเบา หากว่าทำการสืบหาตัวมาได้เมื่อใดนั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 941

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมาพบกับถานไถเหยี่ยนอีกครั้ง แววตาของเขายังคงสงบเงียบดังเดิม ทว่า มิได้ไร้ชีวิตชีวาเหมือนดังแต่ก่อนอีกด้วย“ถานไถเหยี่ยน เจ้ารู้หรือไม่ว่า แคว้นตงซานได้ส่งราชทูตมาขอพาตัวเจ้ากลับไปจัดการด้วย?”ถานไถเหยี่ยนพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉยเมย“คิดไว้แล้วว่าจักต้องเป็นเช่นนี้“พวกเขาหาได้มาเพื่อข้าไม่ แต่มาเพื่อ ‘ใยแมงมุม’ ของตระกูลถานไถต่างหาก”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีท่าเคร่งขรึมไปในทันที“เจ้าจึงคิดใช้ประโยชน์จากคนทุกคน รวมไปถึงแคว้นตงซานด้วยหรือ”ถานไถเหยี่ยนพลันหัวเราะเยาะตนเองออกมา“ดังนั้น ชีวิตนั้นแสนสั้น อย่างไรย่อมต้องถูกผู้อื่นสังหารตามอำเภอใจ”เขารู้ดีว่า หากตนเองกลับไปถึงแคว้นตงซานเมื่อใดนั้น จุดจบคงมิได้ดีนักทว่า เขาหาได้กลัวตายไม่ ทั้งยังมองดูความตายอย่างไม่ยี่หระอีกด้วยเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยตรงเข้าประเด็นในทันที“เจ้าคิดดีแล้วหรือ”เรียวคิ้วดวงตาที่งดงามของถานไถเหยี่ยน พลันเผยให้เห็นท่าทีเด็ดขาดออกมาหากเขายังตัดสินใจไม่ได้ เขาคงมิมาขอพบนางเช่นนี้“กระหม่อมเต็มใจที่จะช่วยให้หนานฉีรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ” พูดจบ เขาพลันโค้งกายคำนับเฟิ่งจิ่วเหยียนในทันที

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 940

    ราชทูตหลี่หลิงแสดงสีหน้าประหลาดใจทันทีทำการค้า?นี่เป็นการบังคับฝืนใจกันโดยแท้แคว้นตงซานพวกเขาไม่เคยทำการค้ากับแคว้นอื่นมาก่อนทว่าหากไม่ยินยอม เกรงว่าฮ่องเต้ฉีจักต้องให้พวกเขาชดเชยด้วยการยกดินแดนให้เป็นแน่!ต้องโทษที่เขาผิดพลาดเพราะคำพูด จนสร้างปัญหาเช่นนี้!หลี่หลิงรู้สึกเสียใจอย่างมาก พร้อมกับมองไปทางหยวนจั้นที่อยู่ข้างกันหยวนจั้นพยักหน้าเบา ๆหลังจากหลี่หลิงได้รับอนุญาต ถึงได้ก้าวไปข้างหน้า“เรื่องทำการค้า ถือเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองแคว้น กระหม่อมจะนำเจตนารมณ์นี้กราบทูลต่อกษัตริย์ของกระหม่อม!”เวลายิ่งนานอุปสรรคยิ่งมาก เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีทางให้โอกาสพวกเขาได้กลับคำ“ฝ่าบาท แม้จริงอยู่ที่ว่าเรื่องดี ๆ มักจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่หม่อมฉันกลัวว่าเวลาจะไม่คอยท่า มิสู้ให้คนร่างหนังสือข้อตกลงขึ้นมา แล้วให้ราชทูตลงนาม จากนั้นค่อยนำกลับไปยังแคว้นตงซาน พร้อมกับออกสาส์นตราตั้งอย่างเป็นทางการ?”ราชทูตถูกส่งมา ก็ถือเป็นตัวแทนของฮ่องเต้นั่นเอง ทันทีที่ลงนาม ก็จะไม่มีทางกลับคำเซียวอวี้ยิ้มน้อย ๆ และกุมมือเฟิ่งจิ่วเหยียนต่อหน้าฝูงชน“นับว่าฮองเฮาวิเคราะห์ได้รอบคอบ“ใครก็ได้ ไปร่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 939

    แคว้นตงซานมีราชทูตสองคนหลี่หลิงผู้นั้นตกหลุมพรางกับคำพูด เมื่อเห็นว่าทำให้แคว้นตนกำลังตกอยู่ในอันตราย เหงื่อก็เริ่มผุดออกมาเต็มใบหน้าเขามองไปทางราชทูตอีกผู้หนึ่ง---หยวนจั้นชายหนุ่มรูปร่างซูบผอม ท่าทางดูเหมือนใจเย็น ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ แทบจะมิได้เอ่ยสิ่งใดเลยในยามนี้ เขาเอ่ยอย่างช้า ๆ “กระหม่อมได้ยินว่า ครั้งนี้หนานฉีเอาชนะแต่ละแคว้นได้ เป็นเพราะมีตัวช่วยอย่าง ‘ใยแมงมุม’ ที่ดัดแปลงโดยตระกูลตงฟาง ทว่าการค้นพบ ‘ใยแมงมุม’ ก็เป็นความดีความชอบของถานไถเหยี่ยนเช่นกัน“ดังนั้น กระหม่อมสงสัยว่า ถานไถเหยี่ยนยุยงให้เกิดข้อพิพาท ก็เพื่อล่อลวงกองกำลังของแต่ละแคว้นมาที่หนานฉี ทำให้ง่ายต่อการที่จะทำลายแต่ละแคว้น“มิเช่นนั้นจะทำไปเพื่อเหตุใด ตามหลักเหตุผล แคว้นท่านจักต้องเกลียดชังถานไถเหยี่ยนจนเข้ากระดูก ทว่าตอนนี้แค่เพียงจับเขาคุมขังไว้?“หากมองจากสิ่งนี้ แคว้นท่านไม่ยินยอมที่จะมอบถานไถเหยี่ยนให้ในตอนนี้ ก็เพื่อต้องการจะปกป้องชีวิตถานไถเหยี่ยน”ขุนนางหนานฉีเริ่มโมโห“ช่างพูดจาใส่ร้ายอย่างชั่วช้า! คนเลวนั้นกล่าวโทษคนอื่นเพื่อปกปิดความผิดตน!”“เมื่อครู่ยังพูดว่าถานไถเหยี่ยนเป็นคนของแคว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 938

    ราชทูตแคว้นตงซานมาพร้อมกับผ้าทอและอาชา เริ่มจากปฏิบัติด้วยความสุภาพก่อน“แคว้นตงซานเราไม่เคยเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างแคว้น ครั้งนี้แต่ละแคว้นมาล้อมโจมตีหนานฉี ฮ่องเต้พวกเราก็ได้ยินข่าวลือเหล่านี้เช่นกัน ต่างพูดกันว่า ข้อพิพาทนี้ ต้นเหตุมาจากการยุยงของแคว้นตงซาน”ราชทูตแคว้นอื่นต่างมองหน้ากันราชทูตแคว้นตงซานผู้นี้หมายความว่าอย่างไร? คำนึงแต่ตนเองไม่สนใจผู้อื่นรึ?ในตอนแรก มิใช่แคว้นตงซานพวกเขาส่งคนมาพูดหว่านล้อมว่า หากร่วมมือกับพวกเขาโจมตีหนานฉี จะแบ่งดินแดนหนานฉีให้หรอกหรือ!หลี่หลิงราชทูตแคว้นตงซานกล่าวต่อ“หลังจากสืบสวนอยู่หลายทาง พวกเราถึงสืบพบว่า เดิมทีแล้ว ทั้งหมดนี้ถานไถเหยี่ยนเป็นคนทำ“เขาหลอกลวงอวดอ้าง จนได้รับความไว้วางพระทัยจากฝ่าบาทของเรา ถูกยกย่องให้เป็นราชครู และถือเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของแคว้นตงซานด้วย “นึกไม่ถึงว่า เขายังไม่พึงพอใจกับสิ่งนี้ เจตนาจะหลอกล่อกษัตริย์ของเรา ให้กษัตริย์ของเราโจมตีหนานฉี เพื่อจะได้เป็นมหาอำนาจ กษัตริย์ของเรามีสติ จึงไม่หลงกลการยั่วยุ“นึกไม่ถึงว่าเขายังไม่ยอมหยุดความคิดชั่วร้าย ยังแอบตระเวนไปยังแต่ละแคว้น เพื่อยุยงให้แต่ละแคว้นล้อ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status