แชร์

บทที่ 338

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
กลางดึกในยามราตรี หร่วนฝูอวี้ที่ยังมิได้เข้านอนนั้น

ยามจื่อที่มีพลังงานหยินอยู่มาก ทำให้นางต้องนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง พลางจุดธูปหอมไปด้วยเพื่อฝึกฝนหนอนพิษ

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของคนมากมายจากด้านนอกนั้น นางก็ลืมตาตื่นขึ้นมาในทันที พร้อมทั้งสายตาที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและเย็นชา

ดีนัก นางจักได้ใช้พวกเขาในการฝึกฝนหนอนกู่ตัวใหม่ของนาง...

ปั้ง

ชายชุดดำพลบันบุกเข้าไปด้านในในทันที

ห้องเล็ก ๆ กลับเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย

หร่วนฝูอวี้แย้มยิ้มอย่างมีเสน่ห์ให้กับพวกเขา นางเพียงโบกมือไปมา ชั่วพริบตา แมลงพิษที่มีรูปร่างคล้ายกับตั๊กแตนตำข้าวก็ถูกโยนออกมาใส่พวกเขาในทันที

พวกมันบินไปตกอยู่บนร่างของชายชุดดำ

เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ทั่วร่างของเหล่าชายชุดดำก็เกิดอาการแผ่ร้อนออกมา

เขารู้สึกแปลก ๆ ออกมาในทันที ก่อนจะร้องตะโกนถอดเสื้อผ้าออกมา พลางตะโกนออกมาว่าร้อน

ความรู้สึกราวกับทั่วร่างถูกแผดเผา ถึงแม้จะถอดอาภรณออกมาหมดทั้งตัวแล้ว พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าร้อนอยู่

ชายชุดดำที่ทนไม่ไหวนั้น จึงรีบกระโดดออกจากหน้าต่างไปในทันที

ใบหน้าของเฉินจี๋จึงเผยความเย็นชาและแข็งกระด้างออกมา

สตรีหนานเจียงผู้นี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Kitty _Narak
กราบงามๆ สำหรับตอนที่เพิ่มมา ......
goodnovel comment avatar
Double Rainbow
เมื่อไหร่จะลงให้จบสักทีนะ เบื่อจะรอแล้ว
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 339

    เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเงยหน้าขึ้น พลางใช้สายตาเอ่ยห้ามปรามนางหร่วนฝูอวี้พลางทำท่าทีเหมือนรู้สึกผิดเมื่อถูกจับได้ พร้อมทั้งค่อย ๆ เอามือเปลี่ยนไปลูบไล้หน้ากากเหล็ก ราวกับว่าทำเช่นนี้คล้ายกับตนเองกำลังลูบใบหน้าของอีกฝ่ายอยู่“หนาวยิ่งนัก…ให้ข้า…ได้เห็นใบหน้าของเจ้า ได้หรือไม่?”ถึงแม้ว่านางจะทำตัวไร้เหตุผลไปบ้าง ทว่า นางกลับรู้จักวางตัวยิ่งนักไม่ว่านางจะทะเลาะกับซูฮ่วนเช่นไร เขามิเคยโกรธนางเป็นจริงเป็นจังเลยสักครั้ง ทั้งยังมิเคยตัดขาดความสัมพันธ์กับนางอีกด้วย ทว่า หากนางล่วงเกินกฎของซูฮ่วนโดยการถอดหน้ากากของเขาออกมาละก็ มิตรภาพระหว่างพวกนางก็จะสิ้นสุดลงเฟิ่งจิ่วเหยียนมิตอบ หากแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำแผลให้หร่วนฝูอวี้เช่นเดิมหร่วนฝูอวี้ที่กำลังภายในฟื้นคืนมาส่วนหนึ่งนั้น จึงเริ่มเอ่ยวาจาแทะโลมออกมาว่า“เจ้าที่เห็นเรือนร่างของข้าเช่นนี้แล้ว เจ้าจักรับผิดชอบอย่างไร”เฟิ่งจิ่วเหยียนหันกายกลับมาล้างมือ พลางเอ่ยขึ้นมาว่า“ข้าได้ยินว่าเจ้าจักแต่งเข้ามาเป็นสนม”หร่วนฝูอวี้พลางเอ่ยถามกลับด้วยรอยยิ้มล้อเลียนว่า“อะไรกัน เจ้าหึงงั้นรึ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนหันกลับมามองนางด้วยความเย็นชา ในแววตาขอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 340

    โรงพักแรม ยามที่ราชทูตหนานเจียงตื่นขึ้นมายามเที่ยงวัน ก็พบว่าหร่วนฝูอวี้หายตัวไปแล้วระหว่างการเดินทางนั้น หร่วนฝูอวี้มักจะหายออกจากกลุ่มคณะไป นั่นจึงทำให้ราชทูตคิดว่าเป็นเรื่องปกติพวกเขาจึงคิดว่าหร่วนฝูอวี้ไปหาซูฮ่วนผู้นั้นอีกแล้วยามที่เขาถูกม้าลากไปเมื่อนั้น ร่างกายยังเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำมากมาย ทั้งยังบวมปวดออกมาอีกด้วย จึงไม่คิดจะละความพยายามในการตามหาตัวหร่วนฝูอวี้ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น หากแต่ราชทูตคนอื่น ๆ ก็นอนอยู่บนเตียง พลางร้องให้คร่ำครวญกับอาการบาดเจ็บของตนเองเช่นกันราชทูตจากแคว้นซีหนี่ว์ยังคงดื้อรั้น ถึงแม้ว่าอาการบาดเจ็บของนางจะยังมิอาจลงจากเตียงมาได้ แต่นางก็ยังเอ่ยออกมาว่า“พวกเราแคว้นซีหนี่ว์จักมิยอมให้มีการผูกขาดเหมืองหินเซวียนอิงอย่างแน่นอน!“ทุกท่าน! ตราบใดที่พวกเราร่วมมือกัน พวกเราย่อมสามารถทำให้แคว้นหนานฉียอมจำนนต่อพวกเราได้อย่างแน่นอน!“เรื่องนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากแคว้นหนานฉีสามารถทำตามใจตนเองได้เมื่อใด รัฐเหลียงของเราในวันนี้ย่อมเป็นของพวกเราในวันพรุ่งนี้!”ห้องของราชทูตแดนเหนือที่อยู่ข้าง ๆ กันนั้น เดิมทีทั่วร่างก็เจ็บปวดรวดร้าวจนต้องนอนพักรัก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 341

    ในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ไม่กี่วัน เฉียวม่อสูญเสียข้ารับใช้ของตนเองไปถึงสามคนนางรู้ดีว่าคนเหล่านั้นจักต้องพบเจอกับความโชคร้ายมากกว่าเรื่องดีอย่างแน่นอนความแค้นนี้นางมิอาจกล้ำกลืนมันลงไปได้!ศิษย์พี่คิดว่า กำจัดคนของนางไปได้สามคนแล้ว นางจักไม่มีคนอื่นให้ใช้การอีกหรืออย่างไร?เฉียวม่อใช้แรงบีบถ้วยชาจนมันแตกคามือ แววตาพลันเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟันอย่างรุนแรง...สองวันต่อมาฮูหยินเฟิ่งพาลูกสะใภ้ไปถวายเครื่องหอมที่วัดอยู่นาน มิกลับมาเสียทีนายท่านเฟิ่งจึงนึกเป็นกังวลและไม่สบายใจยิ่งนัก ยิ่งเหตุการณ์ที่เวยเฉียงถูกลักพาตัวไปทำร้ายยังฝังใจพวกเขามาจนถึงทุกวันนี้ นายท่านเฟิ่งเป็นกังวลว่าฮูหยินและลูกสะใภ้ของตนเองจักถูกพวกโจรจับไปด้วยเช่นกัน จึงรีบร้อนเรียกพ่อบ้านมาในทันที“รีบส่งข่าวไปหาคุณชายใหญ่ให้รีบกลับมาที่จวนเสีย! เร็วเข้า!”จากนั้นไม่นาน เฟิ่งเหยียนเฉินก็กลับเข้ามาเมื่อได้ยินว่าทั้งมารดาและฮูหยินของตนเองหายตัวไปนั้น ภายในใจเขารู้สึกตื่นตระหนกยิ่งนัก“เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้อย่างไร? หายตัวไปนานเท่าใดแล้ว? เหล่าองครักษ์ที่ติดตามตัวไปด้วยเล่า?”นายท่านเฟิ่งกัดฟันกล่าวออกมา“ข้าสั่ง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 342

    เมื่อศิษย์พี่ศิษย์น้องมาพบหน้ากัน หาได้มีความอบอุ่นเหมือนเช่นเดิมอีกต่อไปไม่เฉียวม่อเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่รู้เป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า“ฮองเฮาเอ่ยเรียกตัวหม่อมฉันเข้าวังมาด้วยเรื่องอันใดกันหรือเพคะ?”ภายในตำหนักที่มีเพียงคนสองคนเท่านั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่า“เรื่องราวในวันนี้ เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่?”ใบหน้าเฉียวม่อที่ดูไร้เดียงสา “ฮองเฮาว่าอย่างไรนะเพคะ?”ทันทีที่เฉียวม่อพูดจบ ฝ่ามืออันรุนแรงของนางก็พุ่งโจมตีไปที่หน้าอกของเฉียวม่อในทันที...ผลัวะเฉียวม่อที่ถูกโจมตีนั้น ทั่วร่างของนางกระเด็นออกไปไหล แผ่นหลังของนางพุ่งไปชนกับเสากลมในทันที พร้อมทั้งคิ้วที่ขมวดเป็นปมไปด้วยความเจ็บปวดทว่า เมื่อได้เห็นท่าทีศิษย์พี่กำลังโกรธเกรี้ยวนั้น นางจึงหัวเราะออกมา“ศิษย์พี่ เป็นท่านที่ทำร้ายข้าก่อน“เป็นท่านที่เอาแต่กัดข้าไม่ปล่อย ทั้งยังจับตัวคนของข้าไป“เช่นนี้ ข้าเพียงแต่ขอให้ท่านรับรู้เอาไว้ว่า ข้าหาใช่ลูกพลับนิ่มไม่… เรื่องราวในวันนี้ เป็นเพียงคำเตือนเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น“หากว่าท่านยังมิคิดคืนคนของข้ามาละก็ ในคราหน้าข้ามิรับประกัน ว่าจักทำอะไรกับคนของตระกูลเฟ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 343

    เซียวอวี้ใช้สายตาเย็นชาจ้องมองไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียน ราวกับพยายามจะมองให้ทะลุปรุโปร่งเฟิ่งจิ่วเหยียนยังมีท่าทีสงบเงียบ หาได้มีท่าทีตื่นตระหนกใด ๆ ไม่ในเมื่อนางเป็นถึงฮองเฮา เหตุใดนางถึงจะไม่ใช้อำนาจสิทธิพิเศษของฮองเฮาเล่า?หากจะลงโทษเฉียวม่อได้นั้น ด่านที่ต้องผ่านไปให้ได้ก็คือเซียวอวี้บางที เพียงแค่อาการบาดเจ็บของนางอาจจะยังไม่เพียงพอเฟิ่งจิ่วเหยียนที่เตรียมคำพูดของตนเองเอาไว้ ยามที่นางกำลังจะเปิดปาดกล่าวออกมานั้น กลับได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำของเซียวอวี้เอ่ยออกมาอย่างเสียงดังว่า“จับกุมเมิ่งเฉียวม่อเข้าคุก!”เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงกับเงียบไปในทันทีเขาจักตัดสินใจเช่นนี้จริง ๆ หรือ?ด้านนอกตำหนักเมื่อรู้ว่าฝ่าบาทต้องการจะลงโทษตนเองนั้น เฉียวม่อตกใจยิ่งนักนางที่เป็นขุนนางที่จงรักภักดีต่อแคว้นหนานฉี มิต้องเอ่ยถึงเรื่องที่นางมิได้เป็นคนลอบสังหารฮองเฮา ถึงแม้ว่านางจักทำจริง ๆ ฝ่าบาทก็มิอาจลงโทษนางเช่นนี้ได้ฝ่าบาทยังมิทันได้ฟังคำพูดของนางเลย เหตุใดถึงได้ตัดสินใจว่าคำพูดของฮองเฮาเป็นเรื่องจริงแล้วเล่า!“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันหาได้ทำการลอบสังหารไม่ หม่อมฉันมิได้ทำ!”ไม่ว่าเฉียวม่อจัก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 344

    เฟิ่งจิ่วเหยียนที่คิดว่าตนเองฟังผิดไปนั้นนางคือฮองเฮาทว่า หร่วนฝูอวี้คิดจะทำร้ายนางเมื่อใดกัน?ผู้ที่หร่วนฝูอวี้ต้องการจะลอบสังหารคือเซียวอวี้ต่างหาก!เฟิ่งจิ่วเหยียนวางไหสุราในมือลง ก่อนจะจ้องมองไปที่เซียวอวี้ พลางเอ่ยถามว่า“ท่าน แน่ใจหรือ?”เรียวคิ้วของเซียวอวี้พลันขมวดเข้าหากันในทันทีซูฮ่วนผู้นี้ มิได้กล่าวว่าตนเองสอบถามเรื่องราวทั้งหมดแล้วงั้นหรือเซียวอวี้ที่มีการเตรียมการมาก่อนแล้วนั้น พลันหยิบกล่องไม้ใบหนึ่งขึ้นมาด้านในเป็นแมงมุมพันร่างที่พวกเขาพบเจอภายในตำหนักหย่งเหอคืนนั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกงุนงงยิ่งนักหร่วนฝูอวี้จักสังหารคนนั้น นางฆ่าหนึ่งคน แถมอีกคนขึ้นมาเมื่อใดกัน!อีกทั้ง เซียวอวี้พบแมงมุมพันร่างในตำหนักหย่งเหอได้อย่างไร?จู่ ๆ เฟิงจิ่วเหยียนก็จำได้ในทันที งานเลี้ยงวันเกิดของเขาในคืนนั้น เขาเคยเรียกนางไปที่ตำหนักจื่อเฉินหรือว่าจะเป็นตอนนั้นกัน...ดวงตาของเซียวอวี้ที่พาดผ่านไปด้วยความเย็นชานั้น ราวกับว่าเรื่องนี้มิอาจหารือเจรจาต่อไปได้อีกหลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนสงบสติอารมณ์ของตนเองแล้ว“สืบเรื่องต้องให้ลึกถึงตอ นั่นคือสงครามชายแดนระหว่างสองแคว้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 345

    “หร่วนฝูอวี้ เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนเช่นใดกัน!”นางจักไปเป็นนายบำเรอได้อย่างไร!หร่วนฝูอวี้หาได้ฟังคำพูดของเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ สายตายังคงเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟัน“ข้าว่าแล้ว จักต้องเป็นสารเลวผู้นั้นที่แย่งชิงท่านไป!”หร่วนฝูอวี้เป็นคนแรกที่เรียกขานฝ่าบาทว่าสารเลวผู้นั้นไม่ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนจักเอ่ยปฏิเสธเพียงใด หร่วนฝูอวี้หาได้ฟังเข้าหูนางไม่ทั้งยังคิดว่าสิ่งที่ตนเองคิดเป็นเรื่องที่ถูกต้องอีกด้วย“เจ้ากล่าวว่าตนเองชอบบุรุษ อีกทั้งฮ่องเต้สารเลวผู้นั้น ข้าได้ยินมาว่าเขามิใคร่ชื่นชมสตรีเท่าใด อีกทั้งตำหนักในวังหลัง หาได้มีหวงกุ้ยเฟยไม่ เกรงว่าเขาคงใช้นางสนมเหล่านั้นเป็นฉากหน้า และคอยเก็บซ่อนชายบำเรอเช่นเจ้าเอาไว้อย่างแน่นอน!”ความคิดที่ผิดแปลกของหร่วนฝูอวี้กลับพูดถูกออกมาครึ่งหนึ่งยิ่งเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินคำว่า “สารเลว” และ “ชายบำเรอ” จากปากของนางแล้วนั้น นางถึงกับหมดคำจะพูด“เจ้า……”ทว่า ยามที่หร่วนฝูอวี้กำลังมีอารมณ์ดุเดือดเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนย่อมมิอาจเอ่ยแทรกอันใดเข้าไปได้“เป็นเพราะสารเลวผู้นั้นหลอกลวงเจ้า! สามปีที่ผ่านมาของเจ้านั้น... เจ้าผ่านมันมาได้อย่างไร…”ยิ่งพูดมาก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 346

    จดหมายของอาจารย์หญิงที่ส่งมานั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนตั้งใจอ่านตัวอักษรทุกตัวมิให้ตกหล่นแม้แต่ตัวเดียวแววตาของนางค่อย ๆ เย็นยะเยือกลง ราวกับธารน้ำแข็งที่มิมีวันละลายหายไปทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิด เป็นฝีมือของเฉียวม่อจริง ๆ ด้วย!เฟิ่งจิ่วเหยียนกำจดหมายเอาไว้แน่น สีหน้าของนางแสดงถึงความโกรธเกรี้ยวออกมาอย่างปิดไม่มิดนางอยากจะรีบวิ่งไปที่คุกหลวงเพื่อสังหารเฉียวม่อให้ตายคามือทว่า สติกลับเอาชนะความเลือดร้อนในกายของนางเอาไว้ได้ ยิ่งเป็นช่วงเวลาเช่นนี้ นางยิ่งแต่ต้องเก็บงำอารมณ์กรุ่นโกรธของตนเองเอาไว้หากมิมีแผนการรับมือนั้น ย่อมมิอาจลงมือบุ่มบ่ามได้แม้จักสังหารเฉียวม่อลงไปแล้วก็ตาม ก็มิอาจทำให้นางถูกโทษทัณฑ์ใด ๆ ได้อยู่ดีเรื่องกองทัพมังกรพยัคฆ์ถูกลวงไปสังหาร เหตุการณ์ของเวยเฉียง บัญชีแค้นทั้งหมดนี้ นางจะต้องให้เฉียวม่อชำระคืนทีเดียวเลย!เนื้อหาในจดหมายที่อาจารย์หญิงส่งมานั้น ยังเอ่ยถึงจางฉี่หยางอีกด้วยเขาช่างเป็นคนกล้าหาญชาญชัยยิ่งนัก ขาดเพียงโอกาสที่จะให้เขาได้สร้างผลงานทั้งอาจารย์และอาจารย์หญิงต่างก็รับรู้แผนการของนางเป็นอย่างดี ทั้งยังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยฝึกฝนจางฉี่หยา

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 750

    หยางเหลียนซั่วสูญเสียกำลังภายในของตนเองไปทั้งหมด ทั้งยังมิอาจต้านทานอันใดได้อีกเพียงแค่สัญญาณมือของเซียวอวี้ ทหารองครักษ์จึงก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะจับหยางเหลียนซั่วล็อคด้วยโซ่ตรวนเอาไว้ และนำตัวไปขังไว้ในกรงเหล็กที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ยามที่หยางเหลียนซั่วถูกนำตัวไปนั้น ปากเขายังคงก่นด่าสาปแช่งออกมาไม่มีหยุด“ซูฮ่วน! เจ้าต้องไม่ตายดี——”ฝานจิ้นพลางทุบหม้อข้าวหม้อแกงทั้งหมดพลางเอ่ยถามความเป็นไปเป็นมาว่า“ซูฮ่วน เจ้ารีบบอกมาเร็วเข้า เจ้าคิดหาวิธีมาต่อกรกับหยางเหลียนซั่วได้อย่างไร?”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ยามที่หยางเหลียนซั่วดูดซับกำลังภายในของฝ่าบาทนั้น พลังงานที่แท้จริงของเขาหาได้เสถียรไม่ นั่นจึงทำให้ข้าเริ่มสงสัย“ต่อมา หลังจากที่ข้าเห็นหร่านชิวดูดซับกำลังภายในของหยางเหลียนซั่วไปแล้วนั้น ข้าก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น”“มั่นใจเรื่องอะไร” ฝานจิ้นที่มีนิสัยใจร้อนนั้น เขาจึงรีบเร่งถามออกมาเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงพูดต่อไปอีกว่า“วิชาดาราโรยหมื่นวิถีนั้น มิอาจดูดซับกำลังภายในของผู้อื่นได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด“แม้แต่เหวก็ยังมีก้นบึ้ง“หร่านชิวมิอาจดูดซับกำลังภายในได้ม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 749

    เฟิ่งจิ่วเหยียนพลางหันไปพูดกับตงฟางซื่อพร้อมพรรคพวกของเขา “ส่งกำลังภายในของพวกเจ้ามาให้ข้า!”ตงฟางซื่อหาได้มีท่าทีสงสัยอันใดไม่ รีบวิ่งเข้าไปที่ข้างหลังของนางในทันที ก่อนจะทำเช่นเดียวกันกับเซียวอวี้ พร้อมถ่ายทอดพลังกำลังภายในของตนเองให้นางแม้ว่าคนอื่นจักไม่ค่อยเข้าใจเหตุผล ทว่า ด้วยความเชื่อใจที่พวกเขามีให้แก่ซูฮ่วนนั้น เขาเลือกที่จะเชื่อใจนางเฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องมองหยางเหลียนซั่วที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเย็นชาหยางเหลียนซั่วพลันเอ่ยหัวเราะเยาะนางออกมาว่า“ซูฮ่วน! เจ้าที่รนหาที่ตาย ยังต้องการลากผู้อื่นลงไปตายพร้อมกับเจ้าอีกงั้นหรือ! ดี ข้าจักทำให้ความหวังของเจ้าเป็นจริง!”หยางเหลียนซั่วที่คล้ายกับธาตุไฟเข้าแทรกไปมากขึ้นทุกที ทว่า สติอันน้อยนิดกำลังดึงตัวเขาเอาไว้ ให้เขาตั้งใจต่อกรกับคนตรงหน้าทว่า เมื่อคิดไปถึงหร่านชิวที่เป็นบุตรสาวของตนเองนั้น ทั้งยังตกตายด้วยน้ำมือของเขาอีก ความตั้งใจของเขาก็สั่นคลอน พร้อมกำลังภายในที่เกิดความแปรปรวนขึ้นมา ราวกับสายน้ำที่กำลังเดือดพล่านปะทุขึ้น...หร่วนฝูอวี้ที่กำลังถ่ายทอดกำลังภายในของตนเองให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยเช่นกัน นางพลันรู้สึกว่ายากลำบ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 748

    เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงก้าวไปข้างหน้า พลางหันไปกล่าวกับหยางเหลียนซั่ว“หยางเหลียนซั่ว หร่านชิวเป็นบุตรสาวของเจ้าจริง ๆ เป็นบุตรสาวแท้ ๆ ของเจ้า”หยางเหลียนซั่วยังคงมีท่าทีไม่เชื่อตงฟางซื่อจึงออกหน้าช่วยพูดอีกแรง“ข้าสามารถพิสูจน์ได้ หยางเหลียนซั่ว ก่อนหน้านั้นที่กลายว่าเจ้ามิใช่ทายาทสายเลือดแคว้นฉินนั้น ล้วนแต่หลอกเจ้า ทว่า หร่านชิว เป็นบุตรของเจ้าจริง ๆ ”“ไร้สาระ! นางมิมีทางเป็นบุตรสาวของข้าได้!” หยางเหลียนซั่วตอบกลับด้วยท่าทีฉุนเฉียว “ข้าจักสังหารพวกเจ้าทั้งหมด——”หร่านชิวที่ใกล้จะหมดลมหายใจก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นกันตงฟางซื่อได้แต่ถอนหายใจออกมา“หร่านชิว เป็นไปไม่ได้ที่มารดาของเจ้าจักเอาเรื่องเช่นนี้มาโกหกเจ้า เจ้าเพียงแค่เรียก 'บิดา' ออกมาคำเดียว แล้วก็จากไปอย่างสงบเสียเถิด”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา“เพียงเพื่อฝึกฝนวิชามารนั้น หร่านชิวทำร้ายผู้คนในพันธมิตรอู่หลินไปมากมาย นางมีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนัก เหมือนกับบิดาของตนเองมิมีผิด“หยางเหลียนซั่ว เจ้าควรดีใจที่มีบุตรสาวเช่นนี้“หากว่าเจ้าสามารถฟื้นคืนราชวงศ์เฉินได้จริง มีบุตรสาวเช่นนี้ สายเลือดของเจ้าย่อมมิมีท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 747

    หร่านชิวที่รู้สึกผิดอยู่ในใจนั้น ค่อย ๆ เดินถอยหลัง “ไม่ ไม่ใช่... ข้ามิใช่วิชาดาราโรยหมื่นวิถี ข้า...เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หยางเหลียนซั่วคือบิดาของเจ้า พวกเจ้าบุตรบิดาต่างก็ทำให้ทั่วทั้งยุทธภพหาได้มีความสงบสุขไม่ หร่านชิว เจ้าก็สมควรตาย”“ไม่! เขามิใช่บิดาของข้า!” หร่านชิวรีบร้อนปฏิเสธออกมาในทันทีนางเพียงแค่ต้องการครอบครองโลกของวรยุทธ์ อยากได้รับความชื่นชมการยอมรับจากผู้คนมากมาย นางจักมีบิดาที่เลวร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร!เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาอย่างเย็นชาว่า“หรือมิใช่พวกเจ้าสองพ่อลูกรวมหัวกัน จัดฉากละครนี้ขึ้นมา แท้จริงแล้วก็เพื่อที่จะกำจัดพวกข้าทิ้งไปงั้นหรือ!”“ซูฮ่วน! เจ้าใส่ร้ายฉัน! ข้ากับเขา…”เฟิ่งจิ่วเหยียนพลางเอ่ยตัดบดออกมา ก่อนจะกล่าววาจาเกรี้ยวกราดออกมาว่า“เหตุใดเจ้าถึงหยุดมือเล่า เหตุใดถึงมิคิดต่อสู้กับเขาต่อไป! ที่เจ้าต้องการให้คนอื่นขึ้นไปสู้แทนนั้น ทั้ง ๆ ที่รู้แก่ใจว่าพวกเข้ามิอาจเอาชนะหยางเหลียนซั่วได้ นั่นก็เพราะต้องการส่งพวกข้าไปตาย แล้วให้เขาสูบฉีดกำลังภายในของพวกข้าไปใช่หรือไม่!”หร่านชิวพลันส่ายหัวไปมาไม่มีหยุด“ไม่... ข้าได้ร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 746

    หยางเหลียนซั่วมิเคยคิดเลยว่า ตนเองจะมีบุตรสาวแท้ ๆ กับเขาด้วยเขาไม่เชื่อหร่านชิวก็ไม่เชื่อเช่นกัน“ท่านแม่! ท่านกำลังพูดเรื่องอะไรกัน!”คนพวกนี้เพียงเพราะต้องการช่วยเหลือนาง ถึงได้เอ่ยคำโกหกเหล่านี้ออกมางั้นหรือ?เมื่อเห็นว่าหยางเหลียนซั่วยังมีเจตนาที่ต้องการจะสังหารบุตรสาวของตนเองอีกครั้ง ฮูหยินหร่านจึงเปิดเผยเรื่องราวที่แท้จริงในปีนั้นออกมาโดยมิสนสิ่งใดอีก“หยางเหลียนซั่ว! ท่านจำมิได้หรือ... ในปีนั้น ยามที่ท่านฝึกฝนวิชามารได้ไม่นาน เกิดธาตุไฟเข้าแทรก จึงจำความสิ่งใดมิชัดแจ้ง ถึงได้ ถึงได้ทำให้ข้าได้รับความอับอายเช่นนั้น!“หร่านชิวคือบุตรสาวของท่าน! เป็นบุตรสาวที่ข้าตั้งครรภ์ในคืนนั้น!”หยางเหลียนซั่วก่นด่าสาปแช่งออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว“นังสารเลว! ผู้ที่ธาตุไฟเข้าแทรกคือเจ้าต่างหาก!”หร่านชิวเมื่อเห็นมารดาของตนเองสำลักออกมาเป็นเลือดไม่มีหยุดนั้น พร้อมทั้งร่างกายที่ค่อย ๆ เย็นชืดนางพยายามประคองมารดาของตนเอง “ท่านแม่ ท่านมิต้องพูดอันใดแล้ว ท่านมิควรมาที่นี่!”กำลังภายในในร่างกายของหยางเหลียนซั่วนั้นกำลังเกิดการปั่นป่วนยิ่งนัก หากแต่ถูกเขากดมันเอาไว้หยางเหลียนซั่วนึกหง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 745

    หร่านชิวที่เป็นผู้ฝึกตนวิชาดาราโรยหมื่นวิถีนั้น กำลังดูดซับกำลังภายในของหยางเหลียนซั่ว จนทำให้ทักษะของนางเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากทั้งนางและหยางเหลียนซั่วต่างก็ต่อกรกันตั้งแต่พื้นดินจนไปถึงบนภูเขา ทว่า ไม่ว่าพวกเขาจะเคลื่อนตัวไปที่ใด ทั้งฝุ่นควันเศษหินต่างก็ปลิวว่อนตลบอบอวลไปหมดในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง กองทัพหนานฉีก็กำลังโรมรันกับกองทัพเยี่ยนรองแม่ทัพเยี่ยนที่เห็นเงาของหยางเหลียนซั่วเลือนรางนั้น ภายในใจนึกเป็นกังวลยิ่งนักมิใช่กล่าวว่าตนเองสามารถสังหารฮ่องเต้หนานฉีได้อย่างง่ายดายงั้นหรือ?เหตุใดยามนี้ถึงยังไม่ยอมจัดการเล่า?ฝั่งของเขาใกล้จะต้านไม่ไหวเต็มทีแล้ว!เมื่อพบเจอกับการซุ่มโจมตีของกองทัพหนานฉีหลายต่อหลายครั้งเช่นนี้ ยามที่พวกเขาคิดว่าสามารถจัดการได้แล้วนั้น ก็มักจะมีคนกลุ่มใหม่พุ่งเข้ามาต่ำช้ายิ่งนัก!เหล่าทหารของกองทัพเยี่ยนต่างก็หวาดผวาไปในทันทีแม่ทัพใหญ่กองทัพฉีกวนไหลอิ้งขี่ม้าบุกเข้ามา พลางร้องตะโกนออกมาว่า“กองทัพเยี่ยนจงฟัง ท่านแม่ทัพของเรากล่าวว่า ตราบใดที่พวกเจ้ายอมวางอาวุธ ถอดชุดเกราะออก และโยนหมวกเหล็กบนหัวทิ้งไปเพื่อยอมจำนนนั้น ก็จักอนุญาติให้กองทัพเยี่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 744

    “พวกเจ้ายังคิดที่จะโกหกข้าอีกหรือ! ซูฮ่วน เจ้าสมควรตาย!” หยางเหลียนซั่วไม่มีทางที่ถูกคำพูดยั่วยุของพวกเขาทำให้ไขว้เขวอีกต่อไปเขาหาได้คิดฟังสิ่งใดไม่ พลางสูบฉีดกำลังภายในของตงฟางซื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนชักดาบของตนเองออกมาในทันที ก่อนจะพุ่งทะยานเข้าไป ราวกับนกนางแอ่นที่บินได้อย่างคล่องแคล่ว พลางพุ่งตรงไปที่หยางเหลียนซั่ว...หูทั้งสองข้างของหยางเหลียนซั่วกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังดาบอันแหลมคมที่เข้ามาใกล้ ๆ เขาเอียงตัวไปด้านข้าง ถูกบังคับให้เก็บพลังภายในกลับตงฟางซื่อถือโอกาสหลุดพ้นออกมาและล้มลง หลังของเขากระแทกกับพื้นหินอันขรุขระไปในทันที พร้อมด้วยผมเผ้าที่กระจัดกระจายออกมาหยางเหลียนซั่วมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปโต้กลับเฟิ่งจิ่วเหยียนภายในใจของเขาที่มีจิตใจอาฆาตแค้นนั้น อยากที่จะสังหารนักฆ่าที่ปลิดชีพบุตรชายของตนเป็นอย่างยิ่ง!ทว่า หยางเหลียนซั่วหาได้โจมตีออกไปโดยตรงไม่ แต่กลับเคลื่อนที่ไปที่ข้างหลังของนางแทนพร้อมทั้งฝ่ามือที่กำลังจะกระแทกมาที่หลังของนาง“ซูฮ่วน! ระวัง!” ตงฟางซื่อร้องเตือนผัวะยามที่เฟิ่งจิ่วเหยียนหันหน้ากลับมานั้น เป็นเซียวอวี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 743

    “หยางเหลียนซั่ว ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัวออกมาเสียที!”บนเนินเขา ตงฟางซื่อพร้อมทั้งเหล่าสหายในยุทธภพมากมายมารวมตัวกันจัดตั้งค่ายกลเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ได้ติดต่อกับพวกเขามาก่อนหน้านั้น การซุ่มโจมตีกานโจวในครานี้ ไม่เพียงแต่เพื่อกองทัพเยี่ยนเท่านั้น แต่ยังเพื่อจับกุมหยางเหลียนซั่วอีกด้วยถึงแม้ว่าหยางเหลียนซั่วจักสามารถระบุตำแหน่งได้จากการฟังเสียงก็ตาม แต่นั่นก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวพอสมควรอีกทั้ง กานโจวแห่งนี้เป็นสถานที่ที่หยางเหลียนซั่วไม่คุ้นชินอีกด้วยผมเผ้าของหยางเหลียนซั่วที่มิได้มัดให้เรียบร้อยนั้น ทว่า ดวงตาทั้งสองข้างกลับถูกมัดด้วยผ้าสีดำ หูของเขาตั้งขึ้นเพื่อพยายามแยกแยะเสียงอย่างเต็มที่“เซียวอวี้! ซูฮ่วน! พวกเจ้าสองคน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”อย่างแรก เขาต้องการหวนคืนแว่นแคว้น อย่างที่สองเขาต้องการแก้แค้นพวกมันสองคนสังหารบุตรชายของเขา แค้นในครานี้อย่างไรก็ต้องชำระ!เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่บนที่สูง พลางก้มมองดูเขาอย่างเย็นชาผู้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นางนั้นคือเซียวอวี้เหล่าแม่ทัพคนอื่น ๆ ก็นำกองกำลังของตนออกไปสู้รบกับกองทัพเยี่ยนที่เนินเขาด้วยกำลังพลเพียงแค่ห้าพันนายเท่านั้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 742

    เมื่อเป่ยเยี่ยนต้องการถอยทัพนั้น หาใช่เรื่องดีสำหรับหยางเหลียนซั่วไม่เขาจึงเข้าพบฉินเซียวในทันที“ท่านแม่ทัพ นี่เป็นเพียงเล่ห์เหลี่ยมของพวกฉีเท่านั้น…”กองทัพใหญ่ได้เคลื่อนย้ายแล้ว ฉินเซียวมิต้องการฟังเรื่องไร้สาระอันใดจากเขาอีก“หยางเหลียนซั่ว เป็นเพราะเจ้ากล่าวว่าพวกเรามีโอกาสได้ชัย ฝ่าบาทจึงส่งกองกำลังเสริมมาให้กับพวกเราแน่! พวกเราหาได้มีความคิดที่จะต้องมารบกับหนานฉีจริง ๆ ไม่! ยามนี้งามหน้ายิ่งนัก เรื่องของเจ้าก็มิอาจจัดการได้สำเร็จ ยังมาทำให้พวกเราต้องสูญเสียกองกำลังอีกครึ่งหนึ่งไปอีก!“แม่ทัพเช่นข้านึกสงสัยยิ่งนัก ว่าเจ้าร่วมมือกับเซียวอวี้เพื่อมาทำลายเป่ยเยี่ยนของข้าใช่หรือไม่!“ไสหัวไป! คิดว่าตนเองเป็นใครกัน ถึงจะมาให้พวกข้าทำงานถวายชีวิตให้กับเจ้า?”ใบหน้าของหยางเหลียนซั่วพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาไปในทันทีเพียงแค่เขาโบกมือเล็กน้อยก็คว้าเข้าที่คอของฉินเซียวฉินเซียวตกใจยิ่งนักทั้งยังเจือไปด้วยความโกรธเกรี้ยว“หยางเหลียนซั่ว...เจ้า...”ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ากำลังภายในที่ร่างกายของเขากำลังรั่วไหลออกมาหยางเหลียนซั่วที่กำลังดูดซึมกำลังภายใน พลางเอ่ยถามออกมาด้วยท่าทีเคร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status