공유

บทที่ 297

작가: อี้ซัวเยียนอวี่
เซียวอวี้หยิบถุงหอมขึ้น เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างในทันที

เขาจ้องมองไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเพื่อมิให้นางคิดทำอะไรบุ่มบ่าม

ในขณะเดียวกัน ก็ส่งเสียงสั่งการไปยังด้านนอกตำหนักว่า

“เชิญหมอหลวง!”

ไม่นานนัก หมอหลวงชราที่เป็นผู้ดูแลเรื่องการตั้งครรภ์ของฮองเฮาก็รีบมาในทันที

เขารู้ดีว่าฮองเฮาหาได้ตั้งครรภ์ไม่

หมอหลวงเพียงแค่ดมถุงหอมก็สามารถสรุปออกมาได้ว่า

“ทูลฝ่าบาท สิ่งนี้คือกลิ่นหลิงหลิงพ่ะย่ะค่ะ มีส่วนช่วยในการส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต”

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้หาได้พบความผิดปกติไม่

คำพูดของหมอหลวงหลังจากนั้นกลับขยายความออกมาในทันที

“ทว่า ของสิ่งนี้มีกลิ่นเหมือนกับกลิ่นชะมด หากสตรีมีครรภ์สัมผัสได้สูดกลิ่นเข้าไปเป็นเวลานานนั้น ย่อมส่งผลต่อทารกในครรภ์ จนนำไปสู่การตกเลือดหรืออาจทำให้ทารกในครรภ์ตายได้พ่ะย่ะค่ะ! มิต้องเอ่ยถึงสตรีตั้งครรภ์เลย แม้แต่สตรีปกติทั่วไปก็มิเหมาะที่จะพกถุงหอมนี้”

เฟิ่งจิ่วเหยียนลอบกำหมัดแน่นอยู่ในแขนเสื้อของตนเอง

เจอจนได้...

ดวงตาของเซียวอวี้ค่อย ๆ มืดครึ้มลง ราวกับว่าแสงสว่างที่ค่อย ๆ มอดดับไป ทั้งยังเจือไปด้วยความหนาวเย็น ทำเอาผู้คนนึกหวาดกลัวจนตัวสั่นไปในทันที

ทว่า
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
댓글 (21)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
บอกตรงๆเริ่มรำคาญ
goodnovel comment avatar
Ariyaki
ตอนแรกเหมือนเนื้อหาจะคืบหน้า อ่านไป อ่านมาถอยหลังกลับอีกแระ พอไม่ไปไหน คนอ่านก็ท้อใจ ไม่น่าติดตาม ก็ไม่อ่านอีก หันไปดูละครคุณธรรมจีน กันหมด
goodnovel comment avatar
Pusanisa Nok Siriwuth
สนุกค่ะ บีบคั้นใจมาก ฮ่องเต้ก็มากเกิน จนเหมือนโง่เง่าเต่าตุ่นห้องหุ่นกาโม่ 555 ฮองเฮา ออกจากวังไปเถอะเพคะ เด่วหม่อมฉันตามไปเอง
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 298

    เมื่อเฉียวม่อเห็นฝ่าบาทเดินออกจากตำหนักหย่งเหอไปนั้น นางจึงรีบติดตามไปในทันทีนางที่เป็นเพียงองครักษ์อารักขาประตูนั้น โดยปกติแล้วหากมิได้มีพระราชโองการเรียกตัวย่อมมิอาจเข้ามาในวังได้ในฐานะที่นางเป็นสตรีนั้น เกรงว่าไม่ว่าจักมียศถาบรรดาศักดิ์ใหญ่โตเพียงใด ก็มิอาจเข้าร่วมการว่าความหรือการประชุมเพื่อพูดคุยเรื่องบ้านเมืองได้หากว่ากันแล้ว นางมีโอกาสน้อยมากนักที่จะได้พบฮ่องเต้ยามที่นางอยากจะเอ่ยเรื่องบางอย่างออกมานั้น กลับเห็นนัยน์ตาที่แดงก่ำทั้งสองข้างของฮ่องเต้เข้าเสียก่อน ราวกับอยากจะสังหารผู้ใดก็ไม่ปานนางพลันรู้สึกหวาดผวาไปในทันที ความประทับใจที่ฝ่าบาทมีให้แก่นางนั้น อย่างมากที่สุดคือท่าทีเข้มงวดหรือใบหน้าที่มีรอยยิ้ม หาได้น่ากลัวเท่ากับวันนี้ไม่“เรื่องใด?” กลิ่นอายที่แผ่ออกมาทั่วร่างของเซียวอวี้ราวกับประติมากรรมน้ำแข็งก็ไม่ปาน สามารถแช่แข็งความอบอุ่นโดยรอบที่หลงเหลืออยู่เฉียวม่อที่ได้สติกลับมานั้น นางจึงรีบยกมือขึ้นคำนับในทันที“หม่อมฉันมีพิมพ์เขียวอาวุธที่หม่อมฉันอยากจะนำมาถวายแด่ฝ่าบาทเพคะ!”ลมหนาวที่พัดผ่านหน้าทำเอารู้สึกความเจ็บปวดขึ้นมาในฐานะฮ่องเต้ของแผ่นดินนั้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 299

    เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ดีกว่าผู้ใด ปืนหอกไฟแบบใหม่นั้นดูเหมือนว่าจะสามารถใช้การได้ดี แต่แท้จริงแล้ว หาได้ง่ายดายเช่นนั้นไม่สิ่งที่เฉียวม่อมองว่าเป็นสมบัติอันล้ำค่าจนนำไปเป็นของตัวเอง แท้จริงแล้วล้วนเป็นสิ่งไร้ค่าสำหรับนางในขณะเดียวกัน ผู้คนภายในกรมศัสตราวุธต่างก็พากันล้อมดูภาพพิมพ์เขียวแผ่นนั้นสายตาของพวกเขาพลันเปล่งประกายออกมา ทั้งยังเอ่ยชมเชยออกมาไม่ขาดปากว่า“เมิ่งเฉียวม่อผู้นี้นับว่าเป็นวีรสตรีจริง ๆ ! นางสามารถวาดพิมพ์เขียวออกมาได้งดงามจริง ๆ !”“กรมศัสตราวุธของพวกเรามิได้มีของดี ๆ แบบนี้มานานแล้ว! แจ้งข่าวแก่ช่างฝีมือทุกนายว่า เรื่องอื่นมิจำเป็นต้องสนใจ รีบสร้างปืนหอกไฟแบบใหม่ขึ้นมาเสียก่อนเถอะ!”“ข้าตั้งหน้าตั้งตารอคอยยิ่งนัก!”หลังจากที่ได้เห็นภาพพิมพ์เขียวนั้น คำชื่นชมสรรเสริญเยินยอที่มีต่อเฉียวม่อก็เพิ่มขึ้นมาในทันทีสตรีที่แปลกประหลาดเช่นนี้ ใต้หล้านับว่าหาได้ยากยิ่งนักนับว่าโชคดีที่นางเกิดและเติบโตในหนานฉีปืนหอกไฟหรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าปืนฉับพลัน ปืนลำสั้นจักยาวประมาณหนึ่งนิ้ว และปืนลำกล้องยาวจักยาวถึงเจ็ดนิ้วรูปร่างภายนอกดูเหมือนท่อยาว ๆ หลังจากที่มีการ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 300

    ตำหนักเซี่ยวเสียนหนิงเฟยที่กำลังแต่งองค์ทรงเครื่องอยู่นั้น พลันทุบปิ่นปักผมในมือลง ทำเอานางกำนัลที่กำลังทำผมให้อยู่ถึงกับหวาดผวารีบคุกเข่าลงไปในทันที“พระสนมใจเย็น ๆ ก่อนนะเพคะ!”หนิงเฟยมองดูตัวเองในคันฉ่อง ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อนวันนี้เป็นวันเกิดอายุครบยี่สิบปีของนางหลังจากที่ใช้ชีวิตทุกข์ทรมานและเศร้าโศกมานานหลายปี ใบหน้านี้หาได้หลงเหลือความเป็นสตรีในวัยแรกแย้มเอาไว้ไม่ จำเป็นต้องใช้เครื่องประทินโฉมต่าง ๆ มากมาย ถึงได้มองดูมีความเปล่งประกายงดงามออกมานางที่มีตำแหน่งเป็นถึงนางสนม หากแต่หาได้เคยร่วมบรรทมกับฮ่องเต้ไม่ บอกไปผู้ใดจักไปเชื่อฮองเฮาที่มาทีหลังแต่มีสถานะที่มั่นคง นางก็หาได้อันใดไม่ ในยามนี้นางยังมาถูกสตรีเช่นมู่หรงฉานที่เพิ่งแต่งเข้ามาได้ไม่ครบหนึ่งปีแซงหน้าไปอีก!ทั้งยังเป็นในวันเกิดของนางอีก...หนิงเฟยยังคงเอ่ยถามด้วยท่าทีไม่อยากจะเชื่อว่า“ฝ่าบาทเรียกตัวให้จิ้งกุ้ยเหรินมาร่วมบรรทมจริง ๆ หรือ?”สาวใช้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น รีบร้อนพยักหน้าลงในทันที“เพ...เพคะ”นางรู้ดีว่าพระสนมไม่พอใจ แต่ก็มิกล้าเอ่ยโป้ปดออกมาเรื่องที่จิ้งกุ้ยเหรินถูกเรียกให้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 301

    ณ ตำหนักหย่งเหอ การที่จิ้งกุ้ยเหรินได้ร่วมบรรทม ฮองเฮาไร้ซึ่งปฏิกิริยาใด ๆ กลับเป็นซุนหมัวมัวที่ร้อนใจจนอยู่ไม่เป็นสุข หากว่าจิ้งกุ้ยเหรินก็ตั้งครรภ์พระโอรสด้วย ฮองเฮาก็มิใช่ผู้เดียวที่ได้ครอบครองความโปรดปรานจากฝ่าบาท! ยิ่งไปกว่านั้นจิ้งกุ้ยเหรินกับหรงเฟยดูคล้ายกันราวกับแกะ บัดนี้ฝ่าบาทยังแสดงความปรารถนาต่อนาง เกรงว่าในวันข้างหน้าจะต้องเต็มไปด้วยความโปรดปรานนางอย่างแน่นอน เหตุใดฮองเฮายังมีอารมณ์ไปเยือนตำหนักฉือหนิง เพื่อร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของหนิงเฟยอีกเล่า! ตำหนักฉือหนิง ไทเฮา ฮองเฮาและเหล่านางสนมร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของหนิงเฟย ทว่าช่างไร้ความครื้นเครง เนื่องจากหัวใจของใครหลายคนลอยไปอยู่ที่ตำหนักฟางเฟยแล้ว สุราชั้นยอดที่ดื่มนี้ช่างไร้รสชาติ ไทเฮาเคยผ่านการเป็นนางสนมมาก่อน ย่อมทราบความคิดของพวกนาง นางเอ่ยอย่างมีความนัย “ในเมื่อได้เข้าวังกันแล้ว ทุกคนจึงเปรียบเสมือนเป็นพี่น้องกัน สมควรมีความปรารถนาดีต่อกัน จึงจะทำให้วังหลังแห่งนี้เกิดความสามัคคีได้ และเมื่อนั้นฝ่าบาทจึงสามารถทุ่มเทกับราชกิจในพระราชวังส่วนหน้าได้อย่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 302

    “ฮองเฮาเพคะ” นางสนมเจียงเดินออกมาจากหลังต้นไม้ พร้อมแววตาที่หนักอึ้ง เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยถามอย่างสงบนิ่ง “มีธุระอันใด?” นางสนมเจียงผงกศีรษะด้วยความลังเลใจ หลังจากนั้น นางก็เดินตามเฟิ่งจิ่วเหยียนไปที่ตำหนักหย่งเหอด้วยกัน เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโถงชั้นในแล้ว นางสนมเจียงพลันรีบร้อนคุกเข่าลงต่อหน้านางทันที “ฮองเฮา ท่านได้โปรดช่วยหม่อมฉันด้วยเพคะ!” เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ตรงนั้น ด้วยความเงียบสงบอย่างยิ่ง “อยากร่วมบรรทมด้วยหรือ?” น้ำเสียงของนางเย็นยะเยือก นางสนมเจียงพลันกัดริมฝีปาก และพยักหน้าอย่างยากลำบาก นางหันหน้าระบายความในใจต่อเฟิ่งจิ่วเหยียน ด้วยน้ำตาคลอหน่วย “หม่อมฉันมิรู้วิธีต่อสู้เพื่อแย่งชิงความโปรดปรานเลย “จิ้งกุ้ยเหรินเข้าวังช้ากว่าหม่อมฉัน กลับสามารถ...กลับสามารถได้ร่วมบรรทมแล้ว หม่อมฉันไม่อยากยอมรับจริง ๆ “ฮองเฮาเพคะ ในราตรีนี้หนิงเฟยใช้วาจาหยาบคายก็จริง ทว่านางมิได้พูดเกินความจริงเลย บัดนี้ท่านกำลังตั้งครรภ์ มิอาจร่วมบรรทมด้วยได้ ย่อมจะมีคนถือโอกาสนี้ปีนขึ้นที่สูงกว่า “แทนที่จะ...แทนที่จะให้ผู้อื่นได้ประโยชน์ มิสู

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 303

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมิทราบสาเหตุที่ตัวเองหมดสติ เมื่อตื่นขึ้นมา พลันได้เห็นเซียวอวี้นั่งอยู่ข้างเตียง ด้วยสีหน้าบึ้งตึง และประกายตาคมกริบกว่าเดิม “ตื่นแล้วรึ?” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เจือกลิ่นอายสังหาร นางมองเลยออกไป จึงได้เห็นเหลียนซวงคุกเข่าอยู่บนพื้น ยังมีเสียงกรีดร้องโหยหวนติดต่อกันอยู่นอกตำหนัก ลอยทะลุเข้ามาในโสตของนาง หนึ่งในนั้นมีซุนหมัวมัวที่ถูกทรมานอย่างหนักด้วย นางถูกโบยด้วยไม้ ปากก็ร้องตะโกนขอความเป็นธรรม “ฝ่าบาท บ่าวมีความภักดีต่อฮองเฮาอย่างสุดซึ้ง! ฝ่าบาทเพคะ——บ่าวไม่มีเหตุผลที่จะทำร้ายพระโอรสเลย...” เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องการลุกขึ้น กลับได้ยินเซียวอวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “นอนลง!” นางรู้สึกสับสน ทว่ายังรู้สึกได้ชัดเจนถึงร่างกายที่อ่อนแรงมาก ราวกับถูกถ่ายเลือดออกมา... น้ำเสียงของเซียวอวี้มิต่างจากกรวดทราย ที่ประสานกับความหนาวเหน็บของเหมันตฤดู “หากว่าเจ้ากำลังตั้งครรภ์บุตรอยู่จริง ๆ วันนี้คงรักษาชีวิตไว้มิได้” เฟิ่งจิ่วเหยียนย่นคิ้วเบา ๆ ร้ายแรงถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? เหลียนซวงก็เงยหน้า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 304

    ในเดือนแรกของปี อากาศยังคงหนาวเหน็บ บรรดาข้าหลวงถูกกดลงกับพื้นเป็นแถวเรียงราย แล้วโบยด้วยไม้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะ ผู้คนต่างเล่าลือว่าฮ่องเต้เผด็จการและโหดเหี้ยม ทว่ามู่หรงฉานไม่เคยได้เห็นเองกับตา ในเวลานี้มาได้เห็นแล้ว นางค่อนข้างรู้สึกไม่สบายใจนัก นางสงบจิตใจพลางฝืนเดินเข้าสู่ห้องบรรทม เมื่อได้เห็นฝ่าบาทประทับอยู่ข้างเตียง หัวคิ้วขมวดมุ่น ส่วนฮองเฮากำลังนอนอยู่บนเตียง มองแล้วน่าจะยังไม่ได้สติเลย “หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ...” มู่หรงฉานก้าวเดินไปข้างหน้า น้ำเสียงนุ่มนวลละมุนละไม เซียวอวี้ได้ยินเสียงของนาง เพียงเหลือบมองผ่านทางหางตา นัยน์ตาของเขาสื่อถึงแววตำหนิ “ข้างนอกอากาศหนาวนัก ออกมาทำอันใด?” ถ้อยคำเหล่านี้ทำให้ผู้คนได้ยินถึงความใส่ใจที่เจืออยู่ มู่หรงฉานตอบเสียงแผ่วเบา “หม่อมฉันเป็นห่วงฮองเฮาเพคะ ฝ่าบาท พระวรกายของฮองเฮาเป็นอย่างไรบ้างเพคะ?” เซียวอวี้เบนสายตามองไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียน และกล่าวน้ำเสียงเย็นชา “มิได้ร้ายแรงแต่อย่างใด” สายตาของจิ้งกุ้ยเหรินหยุดลงที่ครรภ์นั้นของฮองเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 305

    ไทฮองไทเฮาก็ประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากไม่คาดคิดว่าฮ่องเต้จะยินยอมปลดฮองเฮาอย่างง่ายดาย ดูเหมือนว่าตอนนั้นที่เขาคัดค้านการปลดฮองเฮา คงเพราะเห็นแก่บุตรในครรภ์ของฮองเฮาเป็นแน่ ทว่าหลังจากนั้น เซียวอวี้ก็กล่าวเสริมว่า “เพียงแต่เรื่องนี้มิอาจทำโดยพลการ เราจึงต้องการทราบว่าเสด็จย่าประสงค์จะปลดฮองเฮาด้วยเหตุผลใด?” ไทฮองไทเฮาไตร่ตรองอยู่สักพัก หากฮองเฮาไม่ได้กระทำความผิดร้ายแรง ก็มิอาจปลดนางลงจากตำแหน่งได้ตามอำเภอใจจริง ทว่า ก็มิอาจเปิดเผยหนังสือแห่งโชคชะตาออกสู่สาธารณชนได้เช่นกัน เวลานี้นางประสบกับความลำบากใจ “เช่นนั้นประกาศต่อสาธารณชนว่านางป่วยด้วยโรคเรื้อรัง!”…… ข่าวการแท้งบุตรของฮองเฮา ได้แพร่กระจายไปยังตระกูลเฟิ่งที่อยู่นอกพระราชวังอย่างรวดเร็ว หลังจากได้ทราบข่าวแล้ว นายท่านเฟิ่งรู้สึกราวกับได้เผชิญกับศัตรูที่ชั่วร้าย ร่างกายพลันทรุดลงบนเก้าอี้ “ทารกน้อย ไม่มีแล้วหรือ?” หลานชายของเขา ว่าที่องค์รัชทายาทในอนาคต และความรุ่งโรจน์ของตระกูลเฟิ่ง พลันสูญสิ้นหมดแล้ว! ด้านฮูหยินเฟิ่งกลับกังวลเกี่ยวกับร่างกายหงส์ของฮองเฮามากกว่า

최신 챕터

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1190

    เฉินจี๋เบิกตาโตทันที จ้องมองที่อู๋ไป๋“ลังเลอะไร?”อู๋ไป๋เอ่ยออกมาจากใจจริง“ประมุขแคว้นทรงให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และความชอบธรรมอย่างยิ่ง เรื่องที่เคยรับปากกับประมุขแคว้นองค์ก่อน ไม่ว่าจะอย่างไรก็จะต้องทำให้ได้“ส่วนตอนนี้ก็ได้ครอบครองอำนาจของกษัตริย์อีก...เฮ่อ ไม่ใช่ว่านางจะถูกล่อลวงด้วยอำนาจ ที่จริงคือการแบกรับภาระของอาณาประชาราษฎร์เอาไว้โดยไม่รู้ตัว และยิ่งปล่อยวางไม่ได้“นี่เป็นความร้ายกาจของหญิงชราอย่างโอวหยางเหลียนผู้นั้น ก่อนตายนางให้ประมุขแคว้นไปเยี่ยมราษฎรของแคว้น ก็เพื่อให้ประมุขแคว้นทรงซึมซับเป็นส่วนหนึ่งกับแคว้นซีหนี่ว์อย่างแท้จริง”เฉินจี๋ขมวดคิ้วแน่น“ในเมื่อมีเรื่องเช่นนี้ เหตุใดเจ้าไม่บอกแต่แรก!”อู๋ไป๋ยกไหล่ขึ้น“บอกไปจะมีประโยชน์อันใด? เจ้าขัดขวางไม่ให้ประมุขแคว้นเสด็จไปตรวจดูสถานการณ์ภัยพิบัติได้หรือ?“อีกอย่าง เจ้าคิดว่าประมุขแคว้นทรงไม่รู้แจ้งด้วยพระองค์เองหรือ?“ทว่าความจริงคือ สถานการณ์ภัยพิบัติในแคว้นซีหนี่ว์รุนแรง และประมุขแคว้นก็ทรงทราบถึงเจตนาของโอวหยางเหลียนเป็นอย่างดี แต่ยังคงแน่วแน่ที่จะไปที่นั่น”เฉินจี๋เห็นเขาเข้าใจประมุขแคว้นเช่นนี้ จึงร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1189

    ณ พระราชวังเนื่องจากเฟิ่งจิ่วเหยียนต้องหักโหมกับงานราชกิจ ร่างกายจึงเหนื่อยล้าเซียวอวี้เป็นห่วงนางกับลูกมาตลอด ทว่าหากนางตัดสินใจจะทำสิ่งใดแล้ว ต่อให้เขาพร่ำบ่นอีกก็ไร้ประโยชน์ถ้าเช่นนั้นเขาก็พูดให้น้อย และทำให้มากจะดีกว่าฎีกาของแต่ละวัน เขาจะช่วยนางอ่านก่อน และอธิบายให้เข้าใจ นางจะได้ใช้ความคิดน้อยลงเพื่อช่วยนางแบ่งเบาภาระ เขาจึงตั้งใจเป็นพิเศษที่จะเรียนรู้ลายมือของนางอาหารของนาง เขาก็ยังลงมือทำด้วยตนเองสามีที่ดีเช่นนี้ เดิมควรจะได้รับคำชมเชยจากผู้คนทว่าเหล่าข้าหลวงยังคงดูหมิ่นพระสวามีที่มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจนอย่างเขา คิดว่าเขาไม่ดีเหมือนซ่งหลีที่เป็นมิตรเข้ากับคนง่ายตอนนี้เห็นเขาใส่ใจดูแลประมุขแคว้นเช่นนี้ ต่างก็เข้าใจว่าเขาประจบประแจงอย่างเต็มที่บริเวณวังหลัง ขันทีกลุ่มหนึ่งกำลังวิจารณ์กระซิบกระซาบ “ตอนที่อดีตประมุขแคว้นทรงครองบัลลังก์ วิธีแย่งชิงความสนใจและความหึงหวงในวัง ข้าเห็นมามากแล้ว ส่วนตอนนี้พระสวามีเซียวคนนี้ก็ไม่ด้อยไปกว่ากันเลย”“มิเช่นนั้นจะได้รับความโปรดปรานจากประมุขแคว้น จนได้รับการแต่งตั้งเป็นพระสวามี เพียงแค่อาศัยการรบชนะครั้งเดียวได้อย่างไรเล่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1188

    ชาวบ้านมองดูประมุขแคว้นที่ไม่เหมือนเอ่ยคำพูดเท็จ พร้อมถามด้วยความสงสัย“ท่านประมุขแคว้น แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งใกล้จะถูกเป่ยเยี่ยนยึดครองแล้ว พวกเราจะย้ายเข้าไปได้อย่างไร?”เป่ยเยี่ยนมีอำนาจแข็งแกร่ง นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันดีเฟิ่งจิ่วเหยียนมีท่าทีใจเย็น“เราไม่มีทางกล่าวเท็จอย่างเด็ดขาด สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำ คือให้ความร่วมมือกับราชสำนักในการบันทึกจำนวนคน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโยกย้าย “ถึงตอนนั้นย่อมจะมีที่ดินให้พวกเจ้าอย่างแน่นอน”ชาวบ้านยังคงรู้สึกว่าไม่น่าเชื่ออย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่เหล่าขุนนางก็ยังรู้สึกตกใจกองทัพเยี่ยนใกล้จะยึดครองแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้ทั้งหมดแล้ว แล้วจะเอาที่ดินมาแบ่งให้แคว้นซีหนี่ว์ได้อย่างไร?หรือว่า แคว้นซีหนี่ว์จะต้องทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน?เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ก่อนหน้านี้ประมุขแคว้นก็ไม่เคยเอ่ยถึงมาก่อนไม่ว่าจะอย่างไร ก็ควรหารือกับเหล่าขุนนางในราชสำนักทุกคนมีความคิดที่ต่างกันไป ทว่าก็ไม่กล้าเอ่ยออกมาตรง ๆมีเพียงเซียวอวี้ที่เชื่อมั่นเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างแน่วแน่ พลางแอบจูงมือนางอย่างเงียบ ๆหลังจากกลับไปที่ราชสำนักเหล่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1187

    เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้มาก่อนแล้วว่า เมื่อสองเดือนก่อน เพื่อเอาชนะแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง เซียวอวี้จึงทำให้น้ำท่วมทั้งสามกองทัพมองดูเหมือนเป็นเขาที่ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงขึ้นในพื้นที่ปลายน้ำทว่าในความเป็นจริง ตั้งแต่ก่อนหน้านั้น น้ำก็ท่วมทุ่งนาอยู่ก่อนแล้ว ชาวบ้านก็ได้พากันย้ายออกไปนางมองไปยังชาวบ้านเหล่านั้น เข้าใจถึงจิตใจของพวกเขาในเวลานี้ที่นาคือทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขา หลายคนต้องอาศัยที่นาเหล่านี้ดำรงชีวิตพวกเขาต้องการช่องทางระบายอารมณ์ และต้องการหนทางมีชีวิตรอดภัยธรรมชาติ ไม่อาจโทษฟ้าได้เช่นนั้นก็ต้องโทษมนุษย์“พระสวามีเซียวใช้น้ำเพื่อทำลายศัตรู ได้รับการเห็นชอบจากเรา “เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว โทษฟ้าโทษคนก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีตได้“เราสัญญาว่า ราชสำนักจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่“สิ่งที่ต้องทำอย่างแรก ก็คือการระบายน้ำ”นางเรียกขุนนางท้องถิ่นมา และถามหาความรับผิดชอบต่อหน้าธารกำนัล“เราสั่งให้พวกเจ้าระบายน้ำออกให้ทันกาล เหตุใดจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นผล!”ขุนนางผู้นั้นก้มศีรษะลงต่ำ“ท่านประมุขแคว้นมีสิ่งที่ท่านไม่ทรงทราบ สถานการณ์ของที่นี่ซับซ้อน เนื่องจากตั้งอยู่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1186

    หนานฉีทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน มิใช่การกระทำที่ชาญฉลาดสงครามที่แคว้นต่าง ๆ ล้อมโจมตีหนานฉี ต้องสูญเสียกำลังทหารจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายต่างจำเป็นต้องพักฟื้นและฟื้นฟูเป่ยเยี่ยนกล้าเคลื่อนทัพไปทางใต้ เป็นเพราะไม่มีอุปสรรค สามารถยึดครองแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้โดยไม่สูญเสียกำลังทหารแม้แต่นายเดียวแม้ว่าหนานฉีจะไม่พอใจเป่ยเยี่ยนมากเพียงใด ก็ไม่อาจประกาศสงครามโดยไม่ไตร่ตรองถึงแม้คืนที่ผ่านมารุ่ยอ๋องจะหลับไม่เต็มที่ สมองก็ยังคงตื่นอยู่เขาคัดค้านการส่งกองทัพออกไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยนอย่างเด็ดขาดแม่ทัพอาวุโสหลี่ไม่พอใจ“ท่านอ๋อง ขอบังอาจถามว่าตอนนี้ฮ่องเต้ทรงประทับอยู่ที่ใด?”รุ่ยอ๋องมีท่าทีลังเล เรื่องเช่นนี้ คงต้องมอบให้ฮ่องเต้ตัดสินพระทัยในที่ประชุม รุ่ยอ๋องเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน“ท่านแม่ทัพอาวุโสหลี่ ข้ารู้ว่าท่านปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อต้านเป่ยเยี่ยน ทว่าเรื่องนี้สุดท้ายแล้วมิใช่หนานฉีควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว“การส่งกองทัพไปช่วยแคว้นซีหนี่ว์เพื่อขัดขวางแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง เป็นเพราะเรากับแคว้นซีหนี่ว์เป็นพันธมิตรกัน หากส่งกองทัพไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน พวกเราจะใช้เหตุผลใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1185

    หร่วนฝูอวี้สวมอาภรณ์ผ้าโปร่งบางเบา เดินออกมาจากด้านหลังฉากกั้นทันทีรุ่ยอ๋องจ้องมองนางตาไม่กะพริบ เหงื่อในฝ่ามือก็ยิ่งออกมาก“ข้า ข้ายังมีเอกสารทางการ...”เขาไม่มีประสบการณ์เลย จำต้องดูจากสมุดภาพทว่าคำพูดนี้ เขาไม่อาจเอ่ยออกมาได้ดวงตาของหร่วนฝูอวี้หรี่ลงทันที สายตาราวกับสัตว์ป่าที่ออกล่าเหยื่อ“เอกสารทางการ? ข้าว่า เจ้าคงคิดจะหนีกระมัง!”นางก้าวเท้ายาวมาข้างหน้า พร้อมกับข่มขู่: “มาถึงสถานที่ของข้าแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะออกไปได้!”พูดจบ นางก็ตรงไปแบกคนขึ้นมาทันทีรุ่ยอ๋องไม่คาดคิดเลยว่า จะเป็นเหตุการณ์เช่นนี้!ศีรษะของเขาคว่ำลง เมื่อเลือดสูบเข้า ก็มีแต่ความว่างเปล่าไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้?อย่างน้อยเขาก็เป็นบุรุษ!ตึง!หร่วนฝูอวี้โยนเขาลงบนเตียง ไม่ทะนุถนอมแม้แต่น้อยจากนั้นด้วยความรวดเร็วและง่ายดาย นางก็ถอดเข็มขัดบนตัวของรุ่ยอ๋องออกมาในที่สุดรุ่ยอ๋องก็ได้สติกลับมา รีบคว้าปกคอเสื้อของตนเองไว้“เจ้าช้าก่อน...”นางร้อนใจจนไม่อาจทนไหว!หร่วนฝูอวี้นั่งอยู่บนเอวของเขา กดมือทั้งสองข้างของเขาวางไว้ข้างศีรษะทั้งสองด้านมองเห็นบุรุษที่ยามปกติมีระเบียบแบบแผน เยือกเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1184

    “เจ้าคิดจะ...มีลูกกับข้า?” คิ้วของรุ่ยอ๋องขมวดปมแน่น จ้องมองหร่วนฝูอวี้ที่อยู่ตรงหน้า ดูเหมือนจะทำตัวไม่ถูกเหตุใดจู่ ๆ นางถึงมีความคิดเช่นนี้ได้?เพียงเพื่อจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับฮองเฮาหรือ? หร่วนฝูอวี้ยังคงจับปกเสื้อของเขาอยู่ พร้อมกับมองสำรวจเขาด้วยท่าทางของผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า“พวกเราเป็นสามีภรรยากัน มีลูกแล้วจะอย่างไร?“เจ้ายังจะเรื่องมากอีกรึ?”รุ่ยอ๋องส่ายศีรษะอย่างแข็งเกร็ง“ข้าเพียงรู้สึกว่า...”นี่ไม่ปกติเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีคนขัดขวางการกระทำที่ขาดสติของหร่วนฝูอวี้ได้นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่า การจะมีลูกนั้น มีความหมายอย่างไร“ข้าไม่ใช่คนใจง่ายเช่นนั้น” รุ่ยอ๋องผลักนางออกไปโดยแสร้งทำเป็นสุขุมเยือกเย็น พร้อมกับหันหลังให้นาง สายตามองไปยังที่ไกล ๆ“ใจง่ายรึ?” หร่วนฝูอวี้หัวเราะด้วยความโมโห เช่นนั้นก็เท่ากับว่านางเป็นคนใจง่ายรึ?บุรุษสุนัขผู้นี้ ปากช่างร้ายกาจนัก!“ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะไปหาคนอื่น!”หร่วนฝูอวี้พูดได้ทำได้ รุ่ยอ๋องจึงรีบคว้าแขนของนางไว้“เจ้าเสียสติไปแล้วรึ?!”นางเป็นพระชายาของเขา จะมีสัมพันธ์กับชายอื่นได้อย่างไร?หร่วนฝูอวี้เกลียดท่าทางลั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1183

    ด้านนอกห้องทรงพระอักษรเซียวอวี้ยืนอยู่ด้วยสีหน้าคร่ำเคร่งได้ยินว่าเสนาบดีที่ช่วยปกครองเหล่านี้ต้องการทำตามโอวหยางเหลียน ใช้ความตายมาข่มขู่จิ่วเหยียนวิธีนี้ช่างชั่วร้ายยิ่งนักจนกระทั่งตอนที่เห็นพวกนางเดินออกมา และไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย เซียวอวี้ถึงค่อยโล่งใจเหล่าเสนาบดีทำเป็นมองไม่เห็นเขา มีเพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่มองเขาด้วยแววตาที่แฝงความรู้สึกซับซ้อนฮ่องเต้ฉีเสด็จมาที่แคว้นซีหนี่ว์ด้วยพระองค์เอง คิดดูแล้วก็คงกังวลพระทัยว่าประมุขแคว้นจะทรงหวั่นไหว ไม่เสด็จกลับไปหนานฉีอีกเห็นได้ชัดว่า พวกเขาเป็นเช่นเดียวกัน ไม่อาจคาดเดาจิตใจของประมุขแคว้นได้ช่างน่าเศร้าจริง ๆเมื่อเปรียบเทียบเช่นนี้ หูย่วนเอ๋อร์ก็รู้สึกสบายใจโดยไม่รู้ตัวยิ่งไปกว่านั้นคำพูดแต่ละคำของประมุขแคว้นนั้นมีความหมายอันลึกซึ้ง สิ่งที่พวกนางพยายามจะรักษาไว้ อย่างมากเพียงชั่วชีวิตเดียวนี่เหมือนกับการที่หมอรักษาโรค รักษาที่ปลายเหตุมิได้รักษาที่ต้นเหตุเมื่อครู่ประมุขแคว้นเอ่ยกับพวกนางมากมาย ทำให้พวกนางเข้าใจว่า ต้นเหตุที่แคว้นซีหนี่ว์ไม่อาจสร้างความยิ่งใหญ่ได้ ก็คือ “บาดแผลภายใน”การกดขี่บุรุษภายในแคว้นมากเกินไป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1182

    เสนาบดีที่ช่วยปกครองต่างก็เป็นคนสนิทของอดีตประมุข แต่ละคนล้วนเป็นเสาหลักสำคัญของราชสำนักพวกนางยืนอยู่นอกห้องทรงพระอักษร ถึงอายุจะต่างกัน ทว่าล้วนมีความจงรักภักดีและกล้าหาญ“พวกหม่อมฉันขอเข้าเฝ้าประมุขแคว้น!”เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรในห้องทรงพระอักษร ด้วยสายตาที่แน่วแน่นางจ้องมองเงาร่างของแต่ละคนที่อยู่ด้านนอกตำหนัก ความแน่วแน่ในดวงตาเจือความหม่นหมอง“ให้พวกนางเข้ามา”ไม่นาน เหล่าเสนาบดีก็ทยอยกันเข้ามาด้านใน หูย่วนเอ๋อร์ที่บาดเจ็บหนักนอนอยู่บนแคร่หามนั้นเห็นเด่นชัดที่สุดเฟิ่งจิ่วเหยียนวางฎีกาที่อยู่ในมือลง กวาดตามองพวกนางแวบหนึ่ง“ต้องการจะพูดสิ่งใด?”“ท่านประมุขแคว้น พวกหม่อมฉันทราบแล้ว เหตุใดใต้เท้าโอวหยางถึงสิ้นใจ” ลมหายใจของหูย่วนเอ๋อร์สงบนิ่ง ทว่ามองเห็นบาดแผลภายในไม่รุนแรงเสนาบดีคนอื่น ๆ จึงเอ่ยต่อ“ใต้เท้าโอวหยางทำเพื่อความมั่นคงของแผ่นดินแคว้นซีหนี่ว์ นางอาศัยความตาย ขอร้องให้ประมุขแคว้นทรงอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ต่อไป!”สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูสงบนิ่ง มิได้เอ่ยขัดจังหวะคำพูดของพวกนางหูย่วนเอ๋อร์ลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก หันไปโน้มศีรษะให้เฟิ่งจิ่วเห

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status