Share

บทที่ 301

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
ณ ตำหนักหย่งเหอ

การที่จิ้งกุ้ยเหรินได้ร่วมบรรทม ฮองเฮาไร้ซึ่งปฏิกิริยาใด ๆ กลับเป็นซุนหมัวมัวที่ร้อนใจจนอยู่ไม่เป็นสุข

หากว่าจิ้งกุ้ยเหรินก็ตั้งครรภ์พระโอรสด้วย ฮองเฮาก็มิใช่ผู้เดียวที่ได้ครอบครองความโปรดปรานจากฝ่าบาท!

ยิ่งไปกว่านั้นจิ้งกุ้ยเหรินกับหรงเฟยดูคล้ายกันราวกับแกะ บัดนี้ฝ่าบาทยังแสดงความปรารถนาต่อนาง เกรงว่าในวันข้างหน้าจะต้องเต็มไปด้วยความโปรดปรานนางอย่างแน่นอน

เหตุใดฮองเฮายังมีอารมณ์ไปเยือนตำหนักฉือหนิง เพื่อร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของหนิงเฟยอีกเล่า!

ตำหนักฉือหนิง

ไทเฮา ฮองเฮาและเหล่านางสนมร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของหนิงเฟย ทว่าช่างไร้ความครื้นเครง

เนื่องจากหัวใจของใครหลายคนลอยไปอยู่ที่ตำหนักฟางเฟยแล้ว

สุราชั้นยอดที่ดื่มนี้ช่างไร้รสชาติ

ไทเฮาเคยผ่านการเป็นนางสนมมาก่อน ย่อมทราบความคิดของพวกนาง

นางเอ่ยอย่างมีความนัย

“ในเมื่อได้เข้าวังกันแล้ว ทุกคนจึงเปรียบเสมือนเป็นพี่น้องกัน สมควรมีความปรารถนาดีต่อกัน จึงจะทำให้วังหลังแห่งนี้เกิดความสามัคคีได้ และเมื่อนั้นฝ่าบาทจึงสามารถทุ่มเทกับราชกิจในพระราชวังส่วนหน้าได้อย่า
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (19)
goodnovel comment avatar
Natsikarn Rattanajeena
เรื่องอะไรบอกบุญหน่อยค่ะ เราหาเรื่องที่จบแล้วไม่มีเลยในแอพนี้
goodnovel comment avatar
Porpla Premjit
ถ้าลงแค่วันละตอน อาจจะต้องลาขาดแล้วค่ะ ขี้เกียจรอแล้ว
goodnovel comment avatar
So da Rtd.
มเหสีร้อยเล่ห์ของผู้สำเร็จราชการ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 302

    “ฮองเฮาเพคะ” นางสนมเจียงเดินออกมาจากหลังต้นไม้ พร้อมแววตาที่หนักอึ้ง เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยถามอย่างสงบนิ่ง “มีธุระอันใด?” นางสนมเจียงผงกศีรษะด้วยความลังเลใจ หลังจากนั้น นางก็เดินตามเฟิ่งจิ่วเหยียนไปที่ตำหนักหย่งเหอด้วยกัน เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโถงชั้นในแล้ว นางสนมเจียงพลันรีบร้อนคุกเข่าลงต่อหน้านางทันที “ฮองเฮา ท่านได้โปรดช่วยหม่อมฉันด้วยเพคะ!” เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ตรงนั้น ด้วยความเงียบสงบอย่างยิ่ง “อยากร่วมบรรทมด้วยหรือ?” น้ำเสียงของนางเย็นยะเยือก นางสนมเจียงพลันกัดริมฝีปาก และพยักหน้าอย่างยากลำบาก นางหันหน้าระบายความในใจต่อเฟิ่งจิ่วเหยียน ด้วยน้ำตาคลอหน่วย “หม่อมฉันมิรู้วิธีต่อสู้เพื่อแย่งชิงความโปรดปรานเลย “จิ้งกุ้ยเหรินเข้าวังช้ากว่าหม่อมฉัน กลับสามารถ...กลับสามารถได้ร่วมบรรทมแล้ว หม่อมฉันไม่อยากยอมรับจริง ๆ “ฮองเฮาเพคะ ในราตรีนี้หนิงเฟยใช้วาจาหยาบคายก็จริง ทว่านางมิได้พูดเกินความจริงเลย บัดนี้ท่านกำลังตั้งครรภ์ มิอาจร่วมบรรทมด้วยได้ ย่อมจะมีคนถือโอกาสนี้ปีนขึ้นที่สูงกว่า “แทนที่จะ...แทนที่จะให้ผู้อื่นได้ประโยชน์ มิสู

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 303

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมิทราบสาเหตุที่ตัวเองหมดสติ เมื่อตื่นขึ้นมา พลันได้เห็นเซียวอวี้นั่งอยู่ข้างเตียง ด้วยสีหน้าบึ้งตึง และประกายตาคมกริบกว่าเดิม “ตื่นแล้วรึ?” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เจือกลิ่นอายสังหาร นางมองเลยออกไป จึงได้เห็นเหลียนซวงคุกเข่าอยู่บนพื้น ยังมีเสียงกรีดร้องโหยหวนติดต่อกันอยู่นอกตำหนัก ลอยทะลุเข้ามาในโสตของนาง หนึ่งในนั้นมีซุนหมัวมัวที่ถูกทรมานอย่างหนักด้วย นางถูกโบยด้วยไม้ ปากก็ร้องตะโกนขอความเป็นธรรม “ฝ่าบาท บ่าวมีความภักดีต่อฮองเฮาอย่างสุดซึ้ง! ฝ่าบาทเพคะ——บ่าวไม่มีเหตุผลที่จะทำร้ายพระโอรสเลย...” เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องการลุกขึ้น กลับได้ยินเซียวอวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “นอนลง!” นางรู้สึกสับสน ทว่ายังรู้สึกได้ชัดเจนถึงร่างกายที่อ่อนแรงมาก ราวกับถูกถ่ายเลือดออกมา... น้ำเสียงของเซียวอวี้มิต่างจากกรวดทราย ที่ประสานกับความหนาวเหน็บของเหมันตฤดู “หากว่าเจ้ากำลังตั้งครรภ์บุตรอยู่จริง ๆ วันนี้คงรักษาชีวิตไว้มิได้” เฟิ่งจิ่วเหยียนย่นคิ้วเบา ๆ ร้ายแรงถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? เหลียนซวงก็เงยหน้า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 304

    ในเดือนแรกของปี อากาศยังคงหนาวเหน็บ บรรดาข้าหลวงถูกกดลงกับพื้นเป็นแถวเรียงราย แล้วโบยด้วยไม้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะ ผู้คนต่างเล่าลือว่าฮ่องเต้เผด็จการและโหดเหี้ยม ทว่ามู่หรงฉานไม่เคยได้เห็นเองกับตา ในเวลานี้มาได้เห็นแล้ว นางค่อนข้างรู้สึกไม่สบายใจนัก นางสงบจิตใจพลางฝืนเดินเข้าสู่ห้องบรรทม เมื่อได้เห็นฝ่าบาทประทับอยู่ข้างเตียง หัวคิ้วขมวดมุ่น ส่วนฮองเฮากำลังนอนอยู่บนเตียง มองแล้วน่าจะยังไม่ได้สติเลย “หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ...” มู่หรงฉานก้าวเดินไปข้างหน้า น้ำเสียงนุ่มนวลละมุนละไม เซียวอวี้ได้ยินเสียงของนาง เพียงเหลือบมองผ่านทางหางตา นัยน์ตาของเขาสื่อถึงแววตำหนิ “ข้างนอกอากาศหนาวนัก ออกมาทำอันใด?” ถ้อยคำเหล่านี้ทำให้ผู้คนได้ยินถึงความใส่ใจที่เจืออยู่ มู่หรงฉานตอบเสียงแผ่วเบา “หม่อมฉันเป็นห่วงฮองเฮาเพคะ ฝ่าบาท พระวรกายของฮองเฮาเป็นอย่างไรบ้างเพคะ?” เซียวอวี้เบนสายตามองไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียน และกล่าวน้ำเสียงเย็นชา “มิได้ร้ายแรงแต่อย่างใด” สายตาของจิ้งกุ้ยเหรินหยุดลงที่ครรภ์นั้นของฮองเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 305

    ไทฮองไทเฮาก็ประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากไม่คาดคิดว่าฮ่องเต้จะยินยอมปลดฮองเฮาอย่างง่ายดาย ดูเหมือนว่าตอนนั้นที่เขาคัดค้านการปลดฮองเฮา คงเพราะเห็นแก่บุตรในครรภ์ของฮองเฮาเป็นแน่ ทว่าหลังจากนั้น เซียวอวี้ก็กล่าวเสริมว่า “เพียงแต่เรื่องนี้มิอาจทำโดยพลการ เราจึงต้องการทราบว่าเสด็จย่าประสงค์จะปลดฮองเฮาด้วยเหตุผลใด?” ไทฮองไทเฮาไตร่ตรองอยู่สักพัก หากฮองเฮาไม่ได้กระทำความผิดร้ายแรง ก็มิอาจปลดนางลงจากตำแหน่งได้ตามอำเภอใจจริง ทว่า ก็มิอาจเปิดเผยหนังสือแห่งโชคชะตาออกสู่สาธารณชนได้เช่นกัน เวลานี้นางประสบกับความลำบากใจ “เช่นนั้นประกาศต่อสาธารณชนว่านางป่วยด้วยโรคเรื้อรัง!”…… ข่าวการแท้งบุตรของฮองเฮา ได้แพร่กระจายไปยังตระกูลเฟิ่งที่อยู่นอกพระราชวังอย่างรวดเร็ว หลังจากได้ทราบข่าวแล้ว นายท่านเฟิ่งรู้สึกราวกับได้เผชิญกับศัตรูที่ชั่วร้าย ร่างกายพลันทรุดลงบนเก้าอี้ “ทารกน้อย ไม่มีแล้วหรือ?” หลานชายของเขา ว่าที่องค์รัชทายาทในอนาคต และความรุ่งโรจน์ของตระกูลเฟิ่ง พลันสูญสิ้นหมดแล้ว! ด้านฮูหยินเฟิ่งกลับกังวลเกี่ยวกับร่างกายหงส์ของฮองเฮามากกว่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 306

    ณ ตำหนักวั่นโซ่ว ไทฮองไทเฮาเค้นถาม “เพียงเนรเทศฮองเฮาไปที่ตำหนักเย็นเท่านั้นหรือ? เช่นนั้นแล้วราชโองการปลดฮองเฮาเล่า?” สาวใช้ตะลึงพรึงเพริด “ราชโองการปลดฮองเฮา…ยังมิได้ประกาศเพคะ” ไทฮองไทเฮาขมวดคิ้วขึ้น ฮ่องเต้ครานี้คิดจะทำอะไรหรือ? หรือเขายังไม่คิดจะปลดฮองเฮา? ไม่ นางต้องคิดมากเกินไปแล้วแน่ ฮ่องเต้เพียงแต่มีราชกิจรัดตัว จึงยังไม่คิดถึงเรื่องนี้ในยามนี้ “ช่างเถิด คอยอีกสามสี่วันค่อยว่ากันเถิด” การปลดฮองเฮาจำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบอย่างโปร่งใสทุกช่องทาง มิใช่เรื่องที่จะสำเร็จในวันสองวันอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน ณ ตำหนักฉือหนิง ก็กำลังสดับฟังข่าวเรื่องการปลดฮองเฮาอยู่เช่นกัน ท่าทีตอบสนองของไทเฮาดุเดือดรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง “เป็นพระประสงค์ของไทฮองไทเฮาอีกแล้วหรือ?” “ไยฝ่าบาททรงเชื่อฟังตามคำสั่งของนางไปหมดทุกอย่าง! ร่วมเรือนหอกับฮองเฮาต้องเป็นเช่นนี้ ร่วมบรรทมกับจิ้งกุ้ยเหรินต้องเป็นเช่นนั้น ยามนี้แม้แต่จะปลดฮองเฮายังไม่คิดจะมาหารือกับข้า!” “ในสายตาของเขาคงไม่เหลือที่ให้พระมารดาอย่างข้าผู้นี้ดำรงอยู่เสียนานแล้วกระมัง!” กุ้ยหมัวมัวรู้สึกวิตกอย่างหนักหน่วง “ไทเฮาเพค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 307

    ห่างจากเวลาที่เฟิ่งจิ่วเหยียนถูกลอบวางยาพิษ เพียงสิบสี่ชั่วยามเท่านั้น เซียวอวี้รวดเร็วเด็ดขาดดั่งอสนีบาตลมพายุ จับตัวคนร้ายลอบวางยาพิษได้แล้วจริง ๆ เฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็รู้สึกสงสัยเช่นกัน ว่าบุคคลผู้นั้นเป็นใคร ถึงได้เสาะหายาพิษหายากอย่างอ่างโลหิตมาไว้ในครอบครองได้เช่นนี้ เหลียนซวงสืบทราบมาจนได้คำตอบแล้ว “เป็นหลี่เหม่ยเหรินเพคะ! เข้าวังมาพร้อมกับจิ้งกุ้ยเหริน ในคืนนั้นที่ตำหนักฉือหนิงจัดงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดฉลองให้หนิงเฟย หลี่เหม่ยเหรินเองก็อยู่ด้วยเพคะ” “เป็นนางลอบผสมยาพิษลงในสุราที่พระนางดื่ม” “ทว่าฝ่าบาทสืบว่านางเป็นคนลงมือได้อย่างไร บ่าวเองก็ไม่ทราบเพคะ” “หลังจากค้นพบความจริงแล้ว หลี่เหม่ยเหรินคนนั้นก็ถูกรับสั่งประหาร ได้ยินมาว่าก่อนตายยังถูกทรมาน ร่างกายทั้งบนล่างไม่เหลือชิ้นดีเลยเพคะ…” เหลียนซวงยิ่งพูดยิ่งรู้สึกขนลุกขนพองไปทั้งตัว เหมือนว่าคืนนี้ลมพัดมาเป็นระยะ มืดทึมทึบน่ากลัวอย่างไรพิกล เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความทรงจำใดเกี่ยวกับหลี่เหม่ยเหรินคนนั้น ทว่า ในวังแห่งนี้เหตุการณ์เจ้าปองร้ายข้า ข้าปองร้ายเจ้าก็มีไม่น้อย บางครั้งไม่จำเป็นต้องมีความแค้นลึกซึ้งใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 308

    นายท่านเฟิ่งถูกนำทางไปยังตำหนักเย็น มองเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังตักน้ำในบ่อด้วยตนเองแล้ว โทสะในตัวพลันเดือดพล่านขึ้นมา นางยังทำตัวเหมือนทองไม่รู้ร้อนได้อีกหรือ! ไม่สนใจเลยว่าคนอื่นจะเป็นจะตายอย่างไร! ก่อกรรมทำเข็ญไม่รู้สิ้น! เขาให้กำเนิดบุตรีที่ไร้ซึ่งหัวจิตหัวใจคนนี้ออกมาได้อย่างไรกัน! เป็นเหลียนซวงที่มองเห็นเขาก่อน “นายท่าน!” เฟิ่งจิ่วเหยียนเหลือบสายตาขึ้นมองไป เห็นนายท่านเฟิ่งที่กำลังถลึงตามองท่าทางกระฟัดกระเฟียดจนหนวดกระพือ …… วันนี้แสงแดดส่องกำลังดี ขับไล่ความไอหนาวออกไปได้มากทีเดียว ทว่าภายในตำหนักเย็น แสงอาทิตย์ส่องเข้าไปไม่ถึง ทั้งมืดมิดและหนาวเหน็บยิ่งนัก เหลียนซวงก่อกองไฟง่าย ๆ ขึ้นมากองหนึ่ง นายท่านเฟิ่งกลัวความหนาว และไม่สนใจห่วงภาพลักษณ์แล้ว ย่อกายนั่งลงข้างกระถางไฟทันที อุ่นมือที่หนาวจวนจะแข็งแล้วก่อนใคร เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ไม่ไกลนัก ลงมือเติมน้ำมันตะเกียงด้วยตนเอง นายท่านเฟิ่งเชิดคอขึ้นอย่างดื้อรั้น “ไม่ผิด ข้าเป็นผู้เปลี่ยนหนังสือแห่งโชคชะตา แต่คิดสิว่าที่ข้าทำไปนั้นเพื่อใครกัน? “สองวันนี้ ข้าตรากตรำวิ่งวุ่นอยู่ด้านนอก แต่เจ้ากลับคอยแช่งให้ข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 309

    รัตติกาลเยื้องกรายมาถึง เฟิ่งจิ่วเหยียนผลัดอาภรณ์เป็นชุดดำพรางตัวแล้ว หลบหนีออกจากตำหนักไปได้อย่างราบรื่น ตำหนักเย็นไม่เหมือนตำหนักหย่งเหอ องครักษ์น้อย และหละหลวมยิ่งนัก ไม่มีใครเลยจะสังเกตเห็นว่าฮองเฮาได้ออกไปจากตำหนักแล้ว ด้านนอกตำหนัก อู๋ไป๋เมื่อเห็นธนูส่งสารของแม่ทัพน้อยแล้ว ก็รีบเข้าไปยังศาลเจ้าร้างทันที “แม่ทัพน้อย!” เขาประสานมือคารวะ เฟิ่งจิ่วเหยียนปกปิดใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นเพียงดวงตาดุดันคู่หนึ่งเท่านั้น “สืบมาได้ความว่าอย่างไรบ้าง” “ข้าน้อยติดตามเฉียวม่อตลอด จนถึงเมื่อสองวันก่อนในที่สุดก็ได้เบาะแสแล้วขอรับ” “หน้าประตูจวนของนางมีชายขายผักคนหนึ่ง ท่าทางน่าสงสัยยิ่งนัก” “ข้าน้อยตั้งใจจับสังเกตเขาไปก่อนสักระยะหนึ่งแล้วค่อยลงมือขอรับ” เฟิ่งจิ่วเหยียนกดปลายคางลงเล็กน้อย “รอบคอบสักหน่อยก็นับว่าไม่เลว” อู๋ไป๋กลับรู้สึกเป็นกังวลกับสถานการณ์ของนางมากกว่า “แม่ทัพน้อย เมื่อไม่กี่วันก่อนได้ยินว่าท่านเสียบุตรในครรภ์ไป และยังถูกเนรเทศไปอยู่ที่ตำหนักเย็นด้วย ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่ขอรับ?” เฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็นสุขุม “ไม่เป็นอะไร “ข้าออกจากตำหนักม

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 750

    หยางเหลียนซั่วสูญเสียกำลังภายในของตนเองไปทั้งหมด ทั้งยังมิอาจต้านทานอันใดได้อีกเพียงแค่สัญญาณมือของเซียวอวี้ ทหารองครักษ์จึงก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะจับหยางเหลียนซั่วล็อคด้วยโซ่ตรวนเอาไว้ และนำตัวไปขังไว้ในกรงเหล็กที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ยามที่หยางเหลียนซั่วถูกนำตัวไปนั้น ปากเขายังคงก่นด่าสาปแช่งออกมาไม่มีหยุด“ซูฮ่วน! เจ้าต้องไม่ตายดี——”ฝานจิ้นพลางทุบหม้อข้าวหม้อแกงทั้งหมดพลางเอ่ยถามความเป็นไปเป็นมาว่า“ซูฮ่วน เจ้ารีบบอกมาเร็วเข้า เจ้าคิดหาวิธีมาต่อกรกับหยางเหลียนซั่วได้อย่างไร?”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ยามที่หยางเหลียนซั่วดูดซับกำลังภายในของฝ่าบาทนั้น พลังงานที่แท้จริงของเขาหาได้เสถียรไม่ นั่นจึงทำให้ข้าเริ่มสงสัย“ต่อมา หลังจากที่ข้าเห็นหร่านชิวดูดซับกำลังภายในของหยางเหลียนซั่วไปแล้วนั้น ข้าก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น”“มั่นใจเรื่องอะไร” ฝานจิ้นที่มีนิสัยใจร้อนนั้น เขาจึงรีบเร่งถามออกมาเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงพูดต่อไปอีกว่า“วิชาดาราโรยหมื่นวิถีนั้น มิอาจดูดซับกำลังภายในของผู้อื่นได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด“แม้แต่เหวก็ยังมีก้นบึ้ง“หร่านชิวมิอาจดูดซับกำลังภายในได้ม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 749

    เฟิ่งจิ่วเหยียนพลางหันไปพูดกับตงฟางซื่อพร้อมพรรคพวกของเขา “ส่งกำลังภายในของพวกเจ้ามาให้ข้า!”ตงฟางซื่อหาได้มีท่าทีสงสัยอันใดไม่ รีบวิ่งเข้าไปที่ข้างหลังของนางในทันที ก่อนจะทำเช่นเดียวกันกับเซียวอวี้ พร้อมถ่ายทอดพลังกำลังภายในของตนเองให้นางแม้ว่าคนอื่นจักไม่ค่อยเข้าใจเหตุผล ทว่า ด้วยความเชื่อใจที่พวกเขามีให้แก่ซูฮ่วนนั้น เขาเลือกที่จะเชื่อใจนางเฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องมองหยางเหลียนซั่วที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเย็นชาหยางเหลียนซั่วพลันเอ่ยหัวเราะเยาะนางออกมาว่า“ซูฮ่วน! เจ้าที่รนหาที่ตาย ยังต้องการลากผู้อื่นลงไปตายพร้อมกับเจ้าอีกงั้นหรือ! ดี ข้าจักทำให้ความหวังของเจ้าเป็นจริง!”หยางเหลียนซั่วที่คล้ายกับธาตุไฟเข้าแทรกไปมากขึ้นทุกที ทว่า สติอันน้อยนิดกำลังดึงตัวเขาเอาไว้ ให้เขาตั้งใจต่อกรกับคนตรงหน้าทว่า เมื่อคิดไปถึงหร่านชิวที่เป็นบุตรสาวของตนเองนั้น ทั้งยังตกตายด้วยน้ำมือของเขาอีก ความตั้งใจของเขาก็สั่นคลอน พร้อมกำลังภายในที่เกิดความแปรปรวนขึ้นมา ราวกับสายน้ำที่กำลังเดือดพล่านปะทุขึ้น...หร่วนฝูอวี้ที่กำลังถ่ายทอดกำลังภายในของตนเองให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยเช่นกัน นางพลันรู้สึกว่ายากลำบ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 748

    เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงก้าวไปข้างหน้า พลางหันไปกล่าวกับหยางเหลียนซั่ว“หยางเหลียนซั่ว หร่านชิวเป็นบุตรสาวของเจ้าจริง ๆ เป็นบุตรสาวแท้ ๆ ของเจ้า”หยางเหลียนซั่วยังคงมีท่าทีไม่เชื่อตงฟางซื่อจึงออกหน้าช่วยพูดอีกแรง“ข้าสามารถพิสูจน์ได้ หยางเหลียนซั่ว ก่อนหน้านั้นที่กลายว่าเจ้ามิใช่ทายาทสายเลือดแคว้นฉินนั้น ล้วนแต่หลอกเจ้า ทว่า หร่านชิว เป็นบุตรของเจ้าจริง ๆ ”“ไร้สาระ! นางมิมีทางเป็นบุตรสาวของข้าได้!” หยางเหลียนซั่วตอบกลับด้วยท่าทีฉุนเฉียว “ข้าจักสังหารพวกเจ้าทั้งหมด——”หร่านชิวที่ใกล้จะหมดลมหายใจก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นกันตงฟางซื่อได้แต่ถอนหายใจออกมา“หร่านชิว เป็นไปไม่ได้ที่มารดาของเจ้าจักเอาเรื่องเช่นนี้มาโกหกเจ้า เจ้าเพียงแค่เรียก 'บิดา' ออกมาคำเดียว แล้วก็จากไปอย่างสงบเสียเถิด”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา“เพียงเพื่อฝึกฝนวิชามารนั้น หร่านชิวทำร้ายผู้คนในพันธมิตรอู่หลินไปมากมาย นางมีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนัก เหมือนกับบิดาของตนเองมิมีผิด“หยางเหลียนซั่ว เจ้าควรดีใจที่มีบุตรสาวเช่นนี้“หากว่าเจ้าสามารถฟื้นคืนราชวงศ์เฉินได้จริง มีบุตรสาวเช่นนี้ สายเลือดของเจ้าย่อมมิมีท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 747

    หร่านชิวที่รู้สึกผิดอยู่ในใจนั้น ค่อย ๆ เดินถอยหลัง “ไม่ ไม่ใช่... ข้ามิใช่วิชาดาราโรยหมื่นวิถี ข้า...เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หยางเหลียนซั่วคือบิดาของเจ้า พวกเจ้าบุตรบิดาต่างก็ทำให้ทั่วทั้งยุทธภพหาได้มีความสงบสุขไม่ หร่านชิว เจ้าก็สมควรตาย”“ไม่! เขามิใช่บิดาของข้า!” หร่านชิวรีบร้อนปฏิเสธออกมาในทันทีนางเพียงแค่ต้องการครอบครองโลกของวรยุทธ์ อยากได้รับความชื่นชมการยอมรับจากผู้คนมากมาย นางจักมีบิดาที่เลวร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร!เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาอย่างเย็นชาว่า“หรือมิใช่พวกเจ้าสองพ่อลูกรวมหัวกัน จัดฉากละครนี้ขึ้นมา แท้จริงแล้วก็เพื่อที่จะกำจัดพวกข้าทิ้งไปงั้นหรือ!”“ซูฮ่วน! เจ้าใส่ร้ายฉัน! ข้ากับเขา…”เฟิ่งจิ่วเหยียนพลางเอ่ยตัดบดออกมา ก่อนจะกล่าววาจาเกรี้ยวกราดออกมาว่า“เหตุใดเจ้าถึงหยุดมือเล่า เหตุใดถึงมิคิดต่อสู้กับเขาต่อไป! ที่เจ้าต้องการให้คนอื่นขึ้นไปสู้แทนนั้น ทั้ง ๆ ที่รู้แก่ใจว่าพวกเข้ามิอาจเอาชนะหยางเหลียนซั่วได้ นั่นก็เพราะต้องการส่งพวกข้าไปตาย แล้วให้เขาสูบฉีดกำลังภายในของพวกข้าไปใช่หรือไม่!”หร่านชิวพลันส่ายหัวไปมาไม่มีหยุด“ไม่... ข้าได้ร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 746

    หยางเหลียนซั่วมิเคยคิดเลยว่า ตนเองจะมีบุตรสาวแท้ ๆ กับเขาด้วยเขาไม่เชื่อหร่านชิวก็ไม่เชื่อเช่นกัน“ท่านแม่! ท่านกำลังพูดเรื่องอะไรกัน!”คนพวกนี้เพียงเพราะต้องการช่วยเหลือนาง ถึงได้เอ่ยคำโกหกเหล่านี้ออกมางั้นหรือ?เมื่อเห็นว่าหยางเหลียนซั่วยังมีเจตนาที่ต้องการจะสังหารบุตรสาวของตนเองอีกครั้ง ฮูหยินหร่านจึงเปิดเผยเรื่องราวที่แท้จริงในปีนั้นออกมาโดยมิสนสิ่งใดอีก“หยางเหลียนซั่ว! ท่านจำมิได้หรือ... ในปีนั้น ยามที่ท่านฝึกฝนวิชามารได้ไม่นาน เกิดธาตุไฟเข้าแทรก จึงจำความสิ่งใดมิชัดแจ้ง ถึงได้ ถึงได้ทำให้ข้าได้รับความอับอายเช่นนั้น!“หร่านชิวคือบุตรสาวของท่าน! เป็นบุตรสาวที่ข้าตั้งครรภ์ในคืนนั้น!”หยางเหลียนซั่วก่นด่าสาปแช่งออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว“นังสารเลว! ผู้ที่ธาตุไฟเข้าแทรกคือเจ้าต่างหาก!”หร่านชิวเมื่อเห็นมารดาของตนเองสำลักออกมาเป็นเลือดไม่มีหยุดนั้น พร้อมทั้งร่างกายที่ค่อย ๆ เย็นชืดนางพยายามประคองมารดาของตนเอง “ท่านแม่ ท่านมิต้องพูดอันใดแล้ว ท่านมิควรมาที่นี่!”กำลังภายในในร่างกายของหยางเหลียนซั่วนั้นกำลังเกิดการปั่นป่วนยิ่งนัก หากแต่ถูกเขากดมันเอาไว้หยางเหลียนซั่วนึกหง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 745

    หร่านชิวที่เป็นผู้ฝึกตนวิชาดาราโรยหมื่นวิถีนั้น กำลังดูดซับกำลังภายในของหยางเหลียนซั่ว จนทำให้ทักษะของนางเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากทั้งนางและหยางเหลียนซั่วต่างก็ต่อกรกันตั้งแต่พื้นดินจนไปถึงบนภูเขา ทว่า ไม่ว่าพวกเขาจะเคลื่อนตัวไปที่ใด ทั้งฝุ่นควันเศษหินต่างก็ปลิวว่อนตลบอบอวลไปหมดในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง กองทัพหนานฉีก็กำลังโรมรันกับกองทัพเยี่ยนรองแม่ทัพเยี่ยนที่เห็นเงาของหยางเหลียนซั่วเลือนรางนั้น ภายในใจนึกเป็นกังวลยิ่งนักมิใช่กล่าวว่าตนเองสามารถสังหารฮ่องเต้หนานฉีได้อย่างง่ายดายงั้นหรือ?เหตุใดยามนี้ถึงยังไม่ยอมจัดการเล่า?ฝั่งของเขาใกล้จะต้านไม่ไหวเต็มทีแล้ว!เมื่อพบเจอกับการซุ่มโจมตีของกองทัพหนานฉีหลายต่อหลายครั้งเช่นนี้ ยามที่พวกเขาคิดว่าสามารถจัดการได้แล้วนั้น ก็มักจะมีคนกลุ่มใหม่พุ่งเข้ามาต่ำช้ายิ่งนัก!เหล่าทหารของกองทัพเยี่ยนต่างก็หวาดผวาไปในทันทีแม่ทัพใหญ่กองทัพฉีกวนไหลอิ้งขี่ม้าบุกเข้ามา พลางร้องตะโกนออกมาว่า“กองทัพเยี่ยนจงฟัง ท่านแม่ทัพของเรากล่าวว่า ตราบใดที่พวกเจ้ายอมวางอาวุธ ถอดชุดเกราะออก และโยนหมวกเหล็กบนหัวทิ้งไปเพื่อยอมจำนนนั้น ก็จักอนุญาติให้กองทัพเยี่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 744

    “พวกเจ้ายังคิดที่จะโกหกข้าอีกหรือ! ซูฮ่วน เจ้าสมควรตาย!” หยางเหลียนซั่วไม่มีทางที่ถูกคำพูดยั่วยุของพวกเขาทำให้ไขว้เขวอีกต่อไปเขาหาได้คิดฟังสิ่งใดไม่ พลางสูบฉีดกำลังภายในของตงฟางซื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนชักดาบของตนเองออกมาในทันที ก่อนจะพุ่งทะยานเข้าไป ราวกับนกนางแอ่นที่บินได้อย่างคล่องแคล่ว พลางพุ่งตรงไปที่หยางเหลียนซั่ว...หูทั้งสองข้างของหยางเหลียนซั่วกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังดาบอันแหลมคมที่เข้ามาใกล้ ๆ เขาเอียงตัวไปด้านข้าง ถูกบังคับให้เก็บพลังภายในกลับตงฟางซื่อถือโอกาสหลุดพ้นออกมาและล้มลง หลังของเขากระแทกกับพื้นหินอันขรุขระไปในทันที พร้อมด้วยผมเผ้าที่กระจัดกระจายออกมาหยางเหลียนซั่วมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปโต้กลับเฟิ่งจิ่วเหยียนภายในใจของเขาที่มีจิตใจอาฆาตแค้นนั้น อยากที่จะสังหารนักฆ่าที่ปลิดชีพบุตรชายของตนเป็นอย่างยิ่ง!ทว่า หยางเหลียนซั่วหาได้โจมตีออกไปโดยตรงไม่ แต่กลับเคลื่อนที่ไปที่ข้างหลังของนางแทนพร้อมทั้งฝ่ามือที่กำลังจะกระแทกมาที่หลังของนาง“ซูฮ่วน! ระวัง!” ตงฟางซื่อร้องเตือนผัวะยามที่เฟิ่งจิ่วเหยียนหันหน้ากลับมานั้น เป็นเซียวอวี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 743

    “หยางเหลียนซั่ว ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัวออกมาเสียที!”บนเนินเขา ตงฟางซื่อพร้อมทั้งเหล่าสหายในยุทธภพมากมายมารวมตัวกันจัดตั้งค่ายกลเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ได้ติดต่อกับพวกเขามาก่อนหน้านั้น การซุ่มโจมตีกานโจวในครานี้ ไม่เพียงแต่เพื่อกองทัพเยี่ยนเท่านั้น แต่ยังเพื่อจับกุมหยางเหลียนซั่วอีกด้วยถึงแม้ว่าหยางเหลียนซั่วจักสามารถระบุตำแหน่งได้จากการฟังเสียงก็ตาม แต่นั่นก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวพอสมควรอีกทั้ง กานโจวแห่งนี้เป็นสถานที่ที่หยางเหลียนซั่วไม่คุ้นชินอีกด้วยผมเผ้าของหยางเหลียนซั่วที่มิได้มัดให้เรียบร้อยนั้น ทว่า ดวงตาทั้งสองข้างกลับถูกมัดด้วยผ้าสีดำ หูของเขาตั้งขึ้นเพื่อพยายามแยกแยะเสียงอย่างเต็มที่“เซียวอวี้! ซูฮ่วน! พวกเจ้าสองคน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”อย่างแรก เขาต้องการหวนคืนแว่นแคว้น อย่างที่สองเขาต้องการแก้แค้นพวกมันสองคนสังหารบุตรชายของเขา แค้นในครานี้อย่างไรก็ต้องชำระ!เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่บนที่สูง พลางก้มมองดูเขาอย่างเย็นชาผู้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นางนั้นคือเซียวอวี้เหล่าแม่ทัพคนอื่น ๆ ก็นำกองกำลังของตนออกไปสู้รบกับกองทัพเยี่ยนที่เนินเขาด้วยกำลังพลเพียงแค่ห้าพันนายเท่านั้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 742

    เมื่อเป่ยเยี่ยนต้องการถอยทัพนั้น หาใช่เรื่องดีสำหรับหยางเหลียนซั่วไม่เขาจึงเข้าพบฉินเซียวในทันที“ท่านแม่ทัพ นี่เป็นเพียงเล่ห์เหลี่ยมของพวกฉีเท่านั้น…”กองทัพใหญ่ได้เคลื่อนย้ายแล้ว ฉินเซียวมิต้องการฟังเรื่องไร้สาระอันใดจากเขาอีก“หยางเหลียนซั่ว เป็นเพราะเจ้ากล่าวว่าพวกเรามีโอกาสได้ชัย ฝ่าบาทจึงส่งกองกำลังเสริมมาให้กับพวกเราแน่! พวกเราหาได้มีความคิดที่จะต้องมารบกับหนานฉีจริง ๆ ไม่! ยามนี้งามหน้ายิ่งนัก เรื่องของเจ้าก็มิอาจจัดการได้สำเร็จ ยังมาทำให้พวกเราต้องสูญเสียกองกำลังอีกครึ่งหนึ่งไปอีก!“แม่ทัพเช่นข้านึกสงสัยยิ่งนัก ว่าเจ้าร่วมมือกับเซียวอวี้เพื่อมาทำลายเป่ยเยี่ยนของข้าใช่หรือไม่!“ไสหัวไป! คิดว่าตนเองเป็นใครกัน ถึงจะมาให้พวกข้าทำงานถวายชีวิตให้กับเจ้า?”ใบหน้าของหยางเหลียนซั่วพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาไปในทันทีเพียงแค่เขาโบกมือเล็กน้อยก็คว้าเข้าที่คอของฉินเซียวฉินเซียวตกใจยิ่งนักทั้งยังเจือไปด้วยความโกรธเกรี้ยว“หยางเหลียนซั่ว...เจ้า...”ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ากำลังภายในที่ร่างกายของเขากำลังรั่วไหลออกมาหยางเหลียนซั่วที่กำลังดูดซึมกำลังภายใน พลางเอ่ยถามออกมาด้วยท่าทีเคร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status