แชร์

บทที่ 274

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-13 18:46:45
คนงานผู้นั้นยังอยากพูดอะไรอีกซักหน่อย ทว่าเมื่อเซียวอวี้ส่งสายตาดุดันมา เขาก็ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวและหุบปากอย่างว่าง่ายในทันที

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพียงคิดว่าเซียวอวี้มีความเคยชินที่แปลกดี

ถึงอย่างไรในค่ายทหารก็มีคนชอบว่ายน้ำในฤดูหนาว บอกว่าทำเช่นนี้จะทำให้ร่างกายแข็งแรง

สามวันจากนั้นก็เดินทางถึงเมืองหลวง ก่อนที่จะเข้าไปในวัง เหลียนซวงถูกส่งมาอยู่ข้างกายนาง

เหลียนซวงรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“ฮองเฮา!”

เมื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนถามถึงได้รู้ว่าหลังจากที่นาง ‘ตาย’ เซียวอวี้สร้างเรื่องโกหกว่านางอยู่ที่วิหารบรรพบุรุษมาโดยตลอด และเพื่อกลบเกลื่อนให้แนบเนียน ยังได้ส่งเหลียนซวงไปอยู่ที่นั่น

หลังจากกลับวัง เซียวอวี้ก็เริ่มสะสางราชกิจ

เฟิ่งจิ่วเหยียนก็อาศัยอยู่ที่ตำหนักหย่งเหอ ดำรงตำแหน่งฮองเฮาของนางต่อไป

ทุกอย่างดูสงบสุขดี ทว่าความจริงแล้วคลื่นใต้น้ำกำลังเชี่ยวกราก

เมื่อรอบด้านไม่มีใครอยู่ เหลียนซวงถึงกล้าเอ่ยปากถาม

“ฮองเฮาเพคะ ฝ่าบาทหาตัวท่านเจอหรือเพคะ?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายหน้า

“ไม่ใช่”

หากนางไม่ยินดีปรากฏตัว เซียวอวี้ย่อมหานางไม่เจอ

ยามนี้กักเฉียวม่อไว้ในเมืองหล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Prig Pannasa
เริ่มจะถามความคิดเห็นละน๊าา เริ่มใส่ใจละด้วยแหละ อั๊ยยยย
goodnovel comment avatar
Naugh Ty Meaw
ฮ่องเต้หลงรักแล้ว แต่คุณน้องยังไร้ความรู้สึกแบบนี้ จะรกันตอนไหนก่อน จากที่หมั่นไส้อิฮ่องเต้เริ่มจะสงสารละ เพราะน้องเหมือนหุ่นยนต์เหลือเกิน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 275

    เมื่อพูดถึงการปรนนิบัติ เซียวอวี้ถึงได้เห็นว่าสีหน้าของนางมีการเปลี่ยนแปลงถึงแม้ว่าความเปลี่ยนนั้นจะเล็กน้อยมาก ก็ยังไม่อาจรอดพ้นสายตาเขาไปได้นั่นเป็นสีหน้าของความตื่นตระหนก ขัดแย้ง และต่อต้านขัดขืนเซียวอวี้โกรธจนหัวเราะ“ไม่ใช่ว่าเจ้าพูดได้เพียง ‘เพคะ’ หรอกรึ”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูลำบากใจอยู่บ้างนางอ้าปาก ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไรยามนี้พูดให้น้อยจึงจะดีโชคดีที่เซียวอวี้ทนการปฏิบัติอย่างเย็นชาของนางไม่ไหว ไม่นานก็จากไปสองวันต่อมาเฉียวม่อก็มาถึงเมืองหลวงและรับตำแหน่งเป็นองครักษ์อารักขาประตูนางเข้าวังเพื่อแสดงความขอบคุณเป็นสิ่งแรกความรู้สึกที่เซียวอวี้มีต่อนางนั้นย้อนแย้งเป็นอย่างมากด้านหนึ่ง หากไม่ใช่นางเปิดเผยข้อมูลออกมา เขาไม่มีทางหาฮองเฮาพบได้เร็วขนาดนี้ทว่าอีกด้านหนึ่ง ผู้ที่หักหลังคนอื่นย่อมไม่ใช่คนดีเขาไม่เคยโอ้อวดว่าตนเป็นสุภาพบุรุษผู้มีคุณธรรม ทว่าเขาดูถูกคนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ก่อนที่เฉียวม่อจะออกจากวัง คนของตำหนักหย่งเหอก็ส่งคนมารับนางนางเดาไว้แต่แรกแล้วเมื่อเข้ามาในตำหนักหย่งเหอก็พบเพียงศิษย์พี่ผู้เดียวเท่านั้นนางยังคงถวายคำนับอย่างเคารพนบนอบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 276

    “กุ้ยเหริน ท่านเป็นอะไรไปหรือเพคะ?” สาวใช้ชิวหงถามอย่างเป็นห่วงมู่หรงฉานรีบเก็บจดหมายฉบับนั้นไว้ ใบหน้าโอบอ้อมอารีเหมือนปกติ ทว่าเลือดในกายกลับไหลเวียนเร็วขึ้น แอบให้กำลังใจตัวเองลับ ๆ “ไม่มีอะไร”สองวันต่อมาณ ตำหนักหวั่นโซ่วไทฮองไทเฮาฟังที่มู่หรงฉานพูดจบ พลันระเบิดอารมณ์ออกมาทันที“ได้เยี่ยงไรกัน! พวกตระกูลเฟิ่ง…พวกเขากล้าดีอย่างไร!”นางโกรธไม่เบา ความบริสุทธิ์ผุดผ่องจากการกินมังสวิรัติปฏิบัติธรรม พลันพังทลายลงในชั่ววินาทีนี้จากนั้นนางก็ถามมู่หรงฉานว่า“ฉานเอ๋อร์ เรื่องนี้ เจ้าตรวจสอบมาดีแล้วจริง ๆ หรือ?”มู่หรงฉานพูดความจริงกับนาง“ยามได้รับจดหมายลับนั้นครั้งแรก หม่อมฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันเพคะ“แต่เมื่อคิดว่าหากเรื่องนี้เป็นความจริง เช่นนั้นหม่อมฉันก็ไม่สามารถทนมองท่านกับฝ่าบาทถูกหลอกได้“ด้วยเหตุนี้ หม่อมฉันจึงไหว้วานให้ท่านพ่อส่งคนไปที่วัดหลงหัว ทันทีที่สืบเจอว่าเป็นเรื่องจริง ถึงได้รีบมาทูลรายงานท่านในทันที”ไทฮองไทเฮามีความน่าเกรงขามล้นเหลือ แม้นดวงตาจะเริ่มฝ้าฟาง แต่ความคิดความอ่านมิได้มืดบอด“จะยังไม่กล่าวถึงผู้ส่งจดหมายลับให้เจ้า ในเมื่อเรื่องที่ตร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 277

    นายท่านเฟิ่งสารภาพออกมาโดยที่ไม่ต้องบังคับใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเซียวอวี้พลันปกคลุมไปด้วยไอทะมึนไทฮองไทเฮาพิโรธหนักกว่าเดิม“เจ้ามันเลวทราม! หลอกปั่นหัวฮ่องเต้องค์ก่อน ทำทุกวิถีทางให้บุตรสาวได้เป็นฮองเฮา เจ้า…เจ้าสมควรถูกประหาร!”ใบหน้าอ่อนโยนมีเมตตาของมู่หรงฉาน เผยรอยยิ้มออกมาอย่างรวดเร็วนายท่านเฟิ่งผู้นี้ช่างขี้ขลาดยิ่งนักในเมื่อกลัวตายถึงเพียงนี้ ก็ไม่ควรทำเรื่องหลอกลวงเช่นนั้นออกมาตั้งแต่แรกนายท่านเฟิ่งหมอบลงกับพื้น กล่าวอย่างสั่นเทิ้ม“ฝ่าบาท กระหม่อมทำแต่เพียงผู้เดียวพ่ะย่ะค่ะ“นอกจากกระหม่อมแล้ว ก็มิมีผู้ใดรู้เรื่องนี้…โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮองเฮา ฮองเฮาไม่รู้อะไรด้วยเลยพ่ะย่ะค่ะ”ไทฮองไทเฮามิอาจปล่อยผ่านได้“ฝ่าบาท อย่าไปฟังเขาพูดมากความ! เรื่องนี้ ฮองเฮาต้องรู้ด้วยแน่ ๆ! ถึงจะไม่รู้จริง ๆ ก็สมควรรับโทษร่วมด้วย!”นายท่านเฟิ่งได้ยินประโยคนี้ ก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างเดือดพล่าน“ไม่ใช่! ฮองเฮาไม่ผิด!“ตั้งแต่นางเป็นเด็ก กระหม่อมอบรมสั่งสอนนางด้วยชีวิตจิตใจ กระหม่อมเพียงอยากให้นางมีชีวิตแต่งงานที่ดีที่สุดในใต้หล้านี้!“ตอนนั้นสตรีจากตระกูลเหล่านั้น ไม่มีผู้ใดเทียบเทียมบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 278

    ฮองเฮาตั้งครรภ์แล้ว!คนที่ดีใจที่สุดเห็นจะเป็นนายท่านเฟิ่งรอมาเนิ่นนาน คาดหวังมาโดยตลอด ในที่สุดฮองเฮาก็ตั้งครรภ์เสียที!เขาแทบลืมเลือนสิ่งที่เขาเผชิญอยู่ในตอนนี้ไปหมดสิ้น ทั้งยังยิ้มอย่างซื่อบื้อ ปากแทบหุบเข้าหากันไม่ได้มู่หรงฉานยืนแข็งค้างอยู่กับที่ คำพูดที่ฝ่าบาททรงตรัสเมื่อครู่สะท้อนในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่หยุดนางไม่คาดคิดเลยว่า ฮองเฮาจะตั้งครรค์!ไทฮองไทเฮารับแรงกระตุ้นนี้ไม่ไหว พลันทรุดฮวบลงบนเก้าอี้บ่าวรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ รีบเข้ามาพยุงนาง“ไทฮองไทเฮาเพคะ!”ไทฮองไทเฮากลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โบกมือ บอกให้บ่าวรับใช้ถอยออกไปจากนั้น นางก็จี้ถามเซียวอวี้“เรื่องตั้งแต่ยามใดกัน  เจ้าอย่าคิดที่จะหลอกข้าเชียวนะ หลายวันที่ผ่านมา เจ้ามิเคยโปรดปรานฮองเฮา แล้วนางจะไปตั้งครรภ์ได้อย่างไร?”เซียวอวี้กล่าวอย่างไม่ร้อนตัว“ตั้งครรภ์ในวิหารบรรพบุรุษ ในบันทึกราชกิจและพระราชดำรัสไม่มีบันทึกไว้”“วิหารบรรพบุรษ?!” ไทฮองไทเฮาแน่นหน้าอกอย่างมาก แทบหายใจไม่ออกนางยกมือชี้หน้าเซียวอวี้“เจ้า…เจ้าเป็นกษัตริย์ของแคว้นนะ! เหตุใดพวกเจ้าถึงได้ทำเรื่องเช่นนั้นในวิหารบรรพบุรุษของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 279

    ไทฮองไทเฮาถูกเซียวอวี้กระตุ้นต่อมโมโหจนพูดไม่ออกแก้ไขหนังสือแห่งโชคชะตาเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ฮ่องเต้ปล่อยผ่านไปได้หรือ?เขาไม่ใช่คนจิตใจดีถึงเพียงนั้นเสียหน่อย!เฟิ่งจิ่วเหยียนเม้มริมฝีปากนางเข้าใจ การที่เซียวอวี้ทำเช่นนี้ ก็เพื่อศักดิ์ศรีของเชื้อพระวงศ์ฮ่องเต้ถูกขุนนางผู้หนึ่งปั่นหัวอลหม่าน ซึ่งดูหมดรัศมีจริง ๆ เซียวอวี้กล่าวขึ้นมาอีก“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เรากับฮ่องเต้องค์ก่อนไม่เหมือนกัน เราไม่เคยเชื่อหนังสือแห่งโชคชะตาสักครั้ง”ไทฮองไทเฮาเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจฝั่งเซียวอวี้พูดจบไม่ทันไร นางก็เป็นลมล้มพับไปถือคติไม่เห็นหน้าย่อมไม่เสียอารมณ์……จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็สลบไป จึงถูกนำตัวไปตรวจอาการภายในตำหนักยังดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมากหมอหลวงกล่าวว่า แค่ได้รับผลกระทบทางจิตใจในชั่วขณะหลังจากที่นางฟื้นขึ้นมา เซียวอวี้ก็ไปหาไทฮองไทเฮาในตอนนั้นเชื่องซึมผิดปกติ เพียงพูดว่า“เจ้าเป็นฮ่องเต้ อยากทำอะไร ก็ทำเถอะ”หลังจากที่เซียวอวี้ทูลลา มู่หรงฉานก็เข้ามาในตำหนักนางเฝ้าอยู่ข้างแท่นบรรทมของไทฮองไทเฮา ขอบตาแดงก่ำเล็กน้อยไทฮองไทเฮารู้ว่านางกตัญญูรู้คุณ และรู้ว่า นางต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 280

    ม่านไข่มุกกระทบกันจนเกิดเสียงเซียวอวี้โยนอีกฝ่ายลงบนเตียง โถมตัวเข้าใส่อย่างไม่ทะนุถนอม ทั้งยังจับแขนทั้งสองข้างของนาง กดไว้เหนือศีรษะทั้งสองด้านเขาขึ้นคร่อม มองทุกอย่างของนางราวกับว่าในสายตาของเขา นางเป็นเพียงเหยื่อที่เขาสามารถใช้มือจับมาได้ง่าย ๆ เห็นนางออกแรงดิ้น แต่กลับไม่กล้าเผยวรยุทธ์ออกมา เห็นสีหน้าของนางเดี๋ยวซีดเดี๋ยวคล้ำเขียว เห็นลมหายใจของนางแปรปรวน กลายเป็นถี่กระชั้น…เฟิ่งจิ่วเหยียนออกแรง แต่ไม่กล้าออกแรงทั้งหมดนางไม่เคยอับจนหนทางเท่านี้มาก่อนถูกบุรุษกดทับไว้ใต้ร่าง ขยับไปไหนไม่ได้มือทั้งสองข้างยังถูกกดเอาไว้ จนร่างกายท่อนบนออกแรงไม่ได้ไม่นานหลังจากนั้น หน้าผากของนางก็มีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นมาดวงตาของเซียวอวี้ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ รุกลามเป็นกองเพลิงในชั่ววินาที แล้วไปกระจุกรวมตัวอยู่บริเวณเอวสอบของเขาแววตาที่มองนาง เหมือนหมาป่านักล่าที่กำลังหิวโหยสุดขีดลูกกระเดือกขยับขึ้นลง ลำคอแห้งผากขึ้นเรื่อย ๆ …เขาไม่ให้โอกาสคนใต้ร่างได้หายใจหายคอ ริมฝีปากบางเฉียบก็ประทับลงมาแรงนั้นทำให้ปากของนางแง้มเปิดออกหลังจากนั้นก็พุ่งจู่โจม ตรงดิ่งไปยังส่วนลึกดูดกล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 281

    ภายในตำหนักจื้อเฉิน ฉากบังตาอันสูงใหญ่แข็งแรง ถูกฮ่องเต้ทำลายด้วยมือในชั่วพริบตา จนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆหลิวซื่อเหลียงยืนอยู่ด้านนอกประตู เดิมทีแล้วเขาไม่กล้าเข้าไปและไม่รู้ว่าฮ่องเต้ทรงกริ้วเรื่องใดเขาได้ยินว่า ฮองเฮาทรงตั้งครรภ์แล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีหรอกหรือ?ทว่าดูจากท่าทางของฮ่องเต้แล้ว เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่า---เด็กในท้องของฮองเฮา หรือว่าไม่ใช่ลูกของฮ่องเต้?มิเช่นนั้นแล้วเขาก็คิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ฮ่องเต้ทรงมีเหตุผลใดถึงโมโหได้เพียงนี้ณ ตำหนักเซี่ยวเสียนสิ่งของในมือของหนิงเฟยพลันร่วงลงพื้น ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตกใจและเสียใจ“ฮองเฮาทรงตั้งครรภ์?”สาวใช้พยักหน้าอย่างลนลาน“เพคะพระนาง อีกสักพักในวังหลวงก็ต้องทราบเรื่องกันหมด”หนิงเฟยกัดริมฝีปากตนจนเกือบเป็นแผล“นึกไม่ถึงว่าจะเร็วเพียงนี้ เหตุใดถึงเร็วเพียงนี้! ฝ่าบาท...ทรงมิเคยโปรดปรานฮองเฮามิใช่หรือ!”“ไม่มีผู้ใดกล้าถกเถียงกันในเรื่องนี้ แต่บ่าวเดาว่า น่าจะตอนอยู่ที่วิหารบรรพบุรุษ...”“หุบปาก!” ความริษยาในดวงตาของหนิงเฟยร้อนแรงราวกับเปลวเพลิง ที่สามารถเผาไหม้กลืนกินทุกสิ่งวิหารบรรพบุรุษ จะเป็นไปได้อย่างไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 282

    เฉียวม่อนั่งอยู่ในห้อง ใบหน้าของนางที่ถูกแสงเทียนสาดส่อง เผยให้เห็นถึงความร้ายกาจศิษย์พี่กับฮ่องเต้มีความรักต่อกัน นางก็รู้สึกประหลาดใจแล้วนึกไม่ถึงว่าศิษย์พี่จะตั้งครรภ์อีก!มู่หรงฉานผู้นั้นก็เป็นคนไร้ประโยชน์!ตนอุตส่าห์นำจุดอ่อนที่สำคัญมอบให้มู่หรงฉาน เพื่อหวังจะใช้นางเล่นงานศิษย์พี่ เหตุใดนางถึงไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย?หรือยังสงสัยว่าเรื่องนั้นเป็นจริงหรือไม่?หารู้ไม่ว่า มู่หรงฉานทูลให้ไทฮองไทเฮาทราบแต่แรกแล้ว เหตุเพราะฮองเฮาทรงตั้งครรภ์ เรื่องทั้งหมดจึงจำเป็นต้องระงับไว้ก่อนณ ตำหนักฟางเฟยในขณะนี้มู่หรงฉานรู้สึกหม่นหมอง นางแน่นในอกความเชื่อมั่นก่อนจะเข้าวังถูกทำลายสิ้น เหลือเพียงความพ่ายแพ้อับจนหนทางชิวหงยืนหลบอยู่ด้านข้าง นางไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดทว่านางก็ไม่เข้าใจ ฮ่องเต้ทรงมิเคยลืมหรงเฟย แล้วเหตุใดถึงสนพระทัยฮองเฮา?ในยามราตรี เมฆหมอกเหนือตำหนักฟางเฟยยังไม่จางหาย ทว่ากลับยิ่งหนาขึ้นขันทีเข้ามาถ่ายทอดคำสั่ง“กุ้ยเหริน ฮองเฮาทรงรับสั่งให้ท่านเข้าเฝ้า”ชิวหงรู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที“กุ้ยเหริน หรือฮองเฮาจะทรงสืบรู้ว่า ท่านนำเรื่องนั้นไปกราบทูลไทฮองไทเฮา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 672

    “ท่านแม่! ท่านว่าอะไรนะ ข้ายังมีน้องสาวอีกคนรึ?!”เฟิ่งเหยียนเฉินไม่อยากจะเชื่อน้องสาวอีกคนนึงของเขา เพิ่งเกิดได้ไม่นานก็ถูกส่งตัวออกไปแล้วที่ฮูหยินเฟิ่งบอกเขาก็เพราะหวังว่าบุตรชายจะได้รู้ว่าเขายังมีน้องสาวที่ต้องปกป้องอีกคนหนึ่งเฟิ่งเหยียนเฉินอึ้งไปครู่หนึ่ง“ท่านแม่ เดี๋ยวนะ เหตุใดคนที่แต่งกับฮ่องเต้แต่แรกถึงเป็นจิ่วเหยียน ไม่ใช่เวยเฉียงเล่า?“เช่นนั้นเวยเฉียงล่ะ? เวยเฉียงไปไหนแล้ว?”แววตาของฮูหยินเฟิ่งแฝงไปด้วยความโกรธแค้น“เป็นท่านพ่อของเจ้า สามีชั่วนั่น! เขาคิดว่าหลังจากเวยเฉียงถูกลักพาตัวไปก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่อาจเข้าวังไปเป็นฮองเฮาได้ จึงส่งเวยเฉียงออกไปเสีย ทั้งยังโกหกว่านางตายแล้ว! เขาหลอกพวกเราทุกคน!”“หากไม่ใช่เพราะจิ่วเหยียน ยามนี้เวยเฉียงจะเป็นหรือตายอยู่ข้างนอกก็ไม่รู้!”เฟิ่งเหยียนเฉินที่น่าสงสารถูกปกปิดจนไม่รู้อะไรเลย แม้แต่เรื่องที่เวยเฉียงถูกลักพาตัวไป สูญเสียความบริสุทธิ์ เขาก็เพิ่งได้รู้ความจริงเอาตอนนี้เขารู้สึกว่าในหัวมีแต่เสียงดังหึ่งหึ่งสวรรค์!ในช่วงที่เขาตกอยู่ในความกลัดกลุ้มนั่น ที่แท้ตระกูลเฟิ่งกลับเกิดเรื่องมากมายเพียงนี้เขาที่เป็นพี่ชาย ช่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 671

    ณ ค่ายเป่ยต้าสีหน้าของเมิ่งฉวีเขียวคล้ำ เขามองไปที่ฮ่องเต้เบื้องหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ“ฝ่าบาท ท่าน...” ตรัสว่าอะไรนะ ถุงยาง?ยังอยากให้ฮูหยินทำถุงยางให้มากหน่อย?จากที่เขารู้ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะทำให้ไปสิบอันหรอกหรือ?ใช้หมดเร็วขนาดนี้เลยหรือ?!เมิ่งฉวีอดไม่ได้ที่จะคิดว่า...หนุ่มแน่นช่างกำลังวังชาดีเสียจริงเซียวอวี้ไม่สะดวกที่จะพูดเรื่องนี้กับฮูหยินเมิ่ง จึงคิดจะพูดกับเมิ่งฉวีแทนถึงอย่างไรก็เป็นบุรุษด้วยกันเมิ่งฉวีรู้สึกลิ้นจุกปาก “ฝ่าบาท เรื่องนี้ยากนัก กับฮูหยิน กระหม่อมเองก็พูดไม่ออกพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้นั่งดื่มชาอยู่ในกระโจม ท่าทางดูผ่อนคลายสงบนิ่งเขากล่าวอย่างไม่ช้าไม่เร็วว่า“จิ่วเหยียนกับฮูหยินเมิ่งผูกพันดุจมารดาและบุตร นางต้องแต่งงานไปไกลถึงเมืองหลวง เราตัดสินใจว่าจะให้ฮูหยินเมิ่งติดตามไปด้วย”เมิ่งฉวี: !!!ฝ่าบาทจะมาพรากพวกเขาสามีภรรยาออกจากกันได้อย่างไร!นี่กำลังขู่เขาอย่างนั้นหรือ?……ณ จวนแม่ทัพเวยเฉียงกับสาวใช้นามไฉ่เยว่ย้ายมาอยู่ที่นี่ รู้สึกไม่คุ้นเคยอยู่บ้างยังดีที่นางคุ้นเคยกับท่านพี่และฮูหยินเมิ่ง จึงไม่ถึงกับประหม่าฮูหยินเมิ่งสงสารที่เวยเฉี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 670

    วินาทีที่ถอดหน้ากากของนางออก เซียวอวี้เห็นนางยิ้มดั่งดอกไม้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนางยิ้มอย่างปล่อยตัว มีความสุขอาจเป็นเพราะดื่มจนเมา ทิ้งเกราะป้องกันตัว นางล้มสู่อ้อมกอดของเขา เกาะไหล่ของเขา แล้วลุกขึ้นมา“ข้าไม่ได้เมา...”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเดินยังไม่มั่นคง ยังบอกว่าไม่เมา?“ตงฟางซื่อส่งเจ้ากลับมา” เขาไม่ได้ถาม ทว่าเป็นการพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจหยิ่นลิ่วคอยปกป้องนางอยู่ตลอดตอนที่ตงฟางซื่อไปหาถึงเซียวเหยาจวี เซียวอวี้ก็รู้แล้วภายหลังนางตามตงฟางซื่อไปยังหอสุรา ดื่มสุราทานข้าวกับคนเหล่านั้น เขาก็รู้เขาอดกลั้นไม่ไปรบกวนนาง เพราะเขารู้ดี นั่นคือเพื่อนสนิทของนาง เป็นวิถีชีวิตของนางถึงแม้ว่านางกำลังจะแต่งงานกับเขา นั่นก็คือสิ่งที่นางไม่อาจทอดทิ้งทว่า นางเป็นสตรีผู้หนึ่ง ดื่มอยู่ข้างนอกจนดึกขนาดนี้ เหลวไหลเกินไปแล้วเซียวอวี้วางหน้ากาก จับปลายคางของนางไว้“ดื่มไปมากเท่าไหร่? ถึงได้เมาเป็นสภาพเช่นนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียนคลี่มือของเขาออก แววตาเต็มไปด้วยความมัวหมอง ไม่เย็นชาเหินห่างเหมือนทุกวันที่ผ่านมา“ก็บอกแล้ว ข้าไม่ได้เมา”นางลุกขึ้น อยากหาน้ำดื่มทว่าเวลาถัดมา ตรงแขนมีแรง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 669

    ไม่ได้เจอกันหลายเดือน ตงฟางซื่อยิ่งอยู่ยิ่งดำเฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นมาต้อนรับ“เจ้ามาได้อย่างไร?”ตงฟางซื่อหรี่ตายิ้มแย้ม “ข้าได้เจอกับอู๋ไป๋ จึงถามเขาว่าเจ้าอยู่ที่ใด ไม่ใช่ว่าไม่ต้อนรับข้ากระมัง?”สหายเก่ามาพานพบ มิใช่เรื่องน่ายินดีหรือเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างจริงใจ “เป็นไปได้อย่างไร เชิญนั่ง”สายตาของตงฟางซื่อหันไปมองเฟิ่งเวยเฉียง เห็นนางหน้าตาเหมือนกับซูฮ่วน ก็เดารู้ว่าพวกนางเป็นพี่น้องกันเฟิ่งจิ่วเหยียนแนะนำให้เขารู้จัก“คนนี้คือน้องสาวข้า เวยเฉียง”“เวยเฉียง คนนี้คือคุณชายตงฟาง”ทั้งสองคนต่างผงกศีรษะเป็นการทักทายตงฟางซื่อพูดเข้าเรื่องทันที“เรื่องของหยางเหลียนซั่ว ข้าได้บอกพวกเหล่าฝานแล้ว ทุกคนกำลังตามสืบร่องรอยของเขา ข้ามาหาเจ้าในวันนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งจะปรึกษา”เฟิ่งจิ่วเหยียนให้เวยเฉียงกับต้วนเจิ้งกลับห้องไปก่อนเวยเฉียงพูดขึ้นมาด้วยเสียงเบา “ท่านพี่ คุณชายตงฟาง พวกเจ้าคุยกันตามสบาย”ต้วนเจิ้งกลับไม่ยอม“ข้าไม่ไป หยางเหลียนซั่วทำให้พี่ชายข้าตาย เป็นศัตรูของข้า ข้าจะไปตามหาเขาพร้อมกับพวกเจ้า แล้วก็ฆ่าเขา!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจ เพียงเร่งเร้าตงฟางซื่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 668

    เรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ปิดบังแล้วนางพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา“ท่านดูไม่ออกหรือ ข้าไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องนั้น?”ตลก ผู้ลี้ภัย ลิงผอมตัวดำ! ตอนกลางวันเขาพูดว่านางเช่นนี้ !นางอยากยอมรับสิแปลก!เวลานี้ เซียวอวี้ก็คิดขึ้นมาได้ นางกำลังไม่พอใจอะไรที่แท้ก็อยากรักษาภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่อยากยอมรับว่านางคือลิงน้อยคนนั้นเขาเสียใจอย่างมาก รีบพูดขอโทษขึ้นมา“เราผิดไปแล้ว ตอนนั้น...เรากลัวว่าเจ้าจะเข้าใจผิด จึงตั้งใจพูดแบบนั้น ความจริงแล้ว เราจดจำเจ้ามาตลอด วีรชนน้อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอียงศีรษะเล็กน้อย มองดูเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเซียวอวี้จูบบนหน้าผากของนาง จากนั้นก็หยิบผ้าแห้งผืนนั้นมา เช็ดผมที่เปียกให้กับนางด้วยตนเอง กระทำอยู่อย่างอ่อนโยน ราวกับในมือถือสิ่งของล้ำค่าเอาไว้“ปีนั้นเมืองซีซิ่นเกิดทุพภิกขภัย เราเพิ่งเข้าเมืองมาก็ถูกปล้นแล้ว ไม่สามารถที่จะลงมือทำร้ายประชาชน โชคดีที่เจ้ามาปรากฏ เวลานี้เราพูดความจริง เจ้าในตอนนั้นถึงแม้ยังเด็ก ทว่าท่าทีขี่ม้า ดูสง่างามยิ่งกว่าบุรุษจริงๆ”“ไม่ใช่ตลกหรอกหรือ?” นางยังคงไม่ยิ้มแย้ม คำพูดแฝงไปด้วยความเหน็บแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 667

    เซียวอวี้จำได้ดี ตอนนั้น ขนมเกาลัดที่ยัยเด็กคนนั้นให้เขา ก็ละเอียดแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ กระทั่งละเอียดเป็นเศษกลับอร่อยมากเขารู้สึกหัวใจเต้นราวกับตีกลอง พร้อมลองถามฮูหยินเมิ่ง“มีเพียงนางที่กินแบบนี้?”ฮูหยินเมิ่งผงกหัวอย่างยิ้มแย้ม“ก็ใช่นะสิ มีแค่นางคนเดียว เพราะตอนอายุห้าขวบเคยสำลัก ทั้งรักทั้งเกลียดขนมเกาลัด คิดว่าทุบแล้วค่อยกิน เหมือนอย่างกับมันจะเชื่อฟังขึ้น ภายหลังจึงเคยชิน กินแบบนี้มาตลอด”คิดถึงจิ่วเหยียนตอนเด็กที่น่ารักดื้อรั้น และยังมีท่าทีดุร้าย บนใบหน้าฮูหยินเมิ่งปรากฏความอ่อนโยนของความเป็นแม่ “เด็กคนนั้น พริบตาเดียวก็โตขนาดนี้แล้ว...”เมื่อพูดเสร็จ แววตาฮูหยินเมิ่งก็กลายเป็นเฉียบคมขึ้นมาทันที ทุบฝ่ามือลงไป ผ่านบนไม้กระดาน ขนมเกาลัดชิ้นหนึ่งถูกทุบจนแบนเฉินจี๋ : ! ! !ฝ่ามือของฮูหยินเมิ่ง ดุเดือดมากเวลานี้ สีหน้าเซียวอวี้แข็งทื่อใช่ !อยู่ดี ๆ ใครจะทุบขนมเกาลัดที่เป็นชิ้นสมบูรณ์ให้แหลก !และปีนั้น ยัยเด็กคนนั้นอายุเพียงสิบขวบ เมื่อนับดูแล้ว ก็อายุไม่ต่างอะไรกับเฟิ่งจิ่วเหยียนบังเอิญบวกกับบังเอิญ นั่นก็จะไม่ใช่ความบังเอิญแล้ว !แล้วก็คิดถึงความผิดปกติของนาง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 666

    เมื่อครู่เซียวอวี้วู่ว่ามไปหน่อย เวลานี้สงบสติลง ก็รู้ตัวว่าตนเองตื่นตระหนกตื่นตูมไปแล้วพวกนางปรึกษาเรื่องตั้งกองกำลังหญิง คำนึงถึงแผ่นดินราษฎรเขากลับใจแคบ ยอมรับไม่ได้ ช่างเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีเอาเสียเลยเมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาดับความขุ่นเคืองในใจด้วยตนเองหลังจากนั้นก็ล้วงเอาขนมเกาลัดออกมาหลายชิ้น พวกมันถูกกระดาษมันห่อเป็นชั้น ๆ ยังร้อนอยู่เลย“ขนมเกาลัดที่ฮูหยินเมิ่งเพิ่งทำวันนี้ ข้าเอามาให้เจ้ากิน”สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ยังยืนยันคำพูดเดิม “ข้าไม่ชอบกิน”เซียวอวี้ดึงมือของนางมา วางขนมเกาลัดไว้บนฝ่ามือของนาง“ยังคิดจะโกหกข้า?“อาจารย์กับอาจารย์หญิงของเจ้าก็พูดแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตเจ้าชอบทานขนมเกาลัดที่สุด“เรารู้ ทำไมเจ้าถึงโกหกเรา”เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นมาเขารู้?หลังจากนั้น เซียวอวี้ก็พูดขึ้นมาอย่างมั่นใจในตนเอง“เจ้าถือสาเรื่องที่เราพูดถึง รู้สึกไม่พอใจ ใช่หรือไม่”เฟิ่งจิ่วเหยียน : ...เซียวอวี้อธิบายให้นางฟังอย่างจริงจัง“เราจำได้จนถึงตอนนี้ แค่ขนมเกาลัดชิ้นเดียว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคนที่ให้ขนมเกาลัดเลย“เจ้าไม่รู้ ยัยเด็กคนนั้นป่าเถื่อนมาก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 665

    เห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนอึ้ง เซียวอวี้ถามขึ้นมาด้วยเสียงเบา“ทำไมหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนได้สติกลับมา สายตาจ้องบนใบหน้าของเขา “ไม่เป็นไร"เซียวอวี้นึกว่านางยังเข้าใจผิดอยู่ จึงพูดขึ้นมาอีก“ไม่ได้โกหกเจ้า เป็นยัยเด็กคนนั้นจริง ๆ “ตัวผอม ๆ บนใบหน้าเปื้อนไปด้วยฝุ่น ไม่รู้ว่าลี้ภัยมาจากไหน...”“ตลกมากใช่ไหม” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขัดจังหวะเขา พร้อมถามขึ้นมาด้วยเสียงต่ำเซียวอวี้ผงกหัว“อืม”เฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปมองข้างนอกรถม้า ไม่พูดอะไรอีกทว่า แอบกำหมัดแน่นไม่นาน เฉินจี๋ซื้อขนมเกาลัดกลับมาแล้วเซียวอวี้ยื่นมาให้เฟิ่งจิ่วเหยียนหนึ่งชิ้น นางส่ายหัวพร้อมพูดขึ้นมา “ขอบพระทัย ทว่าข้าไม่ชอบทานสิ่งนี้”ตอนที่พูดประโยคนี้ นางไม่ได้มองดูเขาแต่ละคนชอบทานไม่เหมือนกัน เซียวอวี้ไม่สงสัยว่ามีอะไรระหว่างทาง เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นร้านขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป จึงสั่งให้หยุดรถม้าอาจารย์หญิงพูดไม่ผิด จะแต่งตัวเป็นชายอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ ควรที่จะซื้อชุดสตรีบ้างแล้ว“ข้าขอทำธุระส่วนตัว ท่านกลับไปก่อน”พูดเสร็จ นางก็กระโดดลงจากรถม้าเซียวอวี้เปิดม่าน มองเงาแผ่นหลังของนาง แล้วก็ย้อนครุ่นคิดเขาทำอะไรผิด พ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 664

    “พี่สาว...”เฟิ่งเวยเฉียงเพิ่งวิ่งมาหา ก็เห็นบุรุษด้านข้างพี่สาวคนผู้นั้นสวมชุดผ้าแพรสีม่วง ดูออกว่าเขาพยายามที่จะไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ ทว่าก็ยังคงไม่สามารถปกปิด ความสูงศักดิ์อย่างไม่ธรรมดารอบตัวเขาโดยเฉพาะใบหน้าเผด็จการน่าเกรงขาม ดูก็รู้ว่ามีสถานะสูงส่ง ไม่ให้มีการฝ่าฝืน“ข้าน้อยถวายบังคมฝ่าบาท” เฟิ่งเวยเฉียงก้มศีรษะลงทันที ไม่กล้ามองอีกฝ่ายสาวใช้ไฉ่เยว่ ก็รีบถวายความเคารพตามได้เห็นพระพักตร์จักรพรรดิ พูดว่าไม่ตื่นเต้นนั้นเป็นความเท็จ ฝ่ามือของนางเหงื่อไหลชุ่มฝ่าบาทแตกต่างจากที่นางคิดไว้ไม่มาก...สูงส่งเย็นชา ยากที่จะคาดเดาว่ารู้สึกอย่างไรไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า คุณหนูจิ่วเหยียนเคยชินกับการอยู่ข้างกายเขาได้อย่างไรเมื่อเซียวอวี้เห็นเฟิ่งเวยเฉียง ก็รู้ว่านางกับเฟิ่งจิ่วเหยียน สมกับที่เป็นฝาแฝดกัน ใบหน้าเหมือนกันเลยทว่าลักษณะนิสัย ดูก็รู้ว่าไม่เหมือนกันนางเพียงยืนอยู่ไม่พูดอะไร เขาก็สามารถมองทะลุถึงใจนาง เป็นคนไร้เดียงสา เป็นสตรีที่ไม่หวั่นไหวกับเรื่องทางโลกคนหนึ่ง“ครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องมากพิธี” เซียวอวี้พยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทว่า เฟิ่งเวยเฉียงยังคงรู้สึกว่าเขาเยือ

DMCA.com Protection Status