Share

บทที่ 182

Penulis: อี้ซัวเยียนอวี่
เมื่อหลิวซื่อเหลียงเห็นฮ่องเต้ทรงใจลอย เขาจึงส่งสัญญาณให้ขันทีคนอื่น ๆ ถอยหลังไป

“อ๊า!” ในขณะนั้นเอง ลูกขนไก่ที่จิ้งกุ้ยเหรินเตะลอยขึ้นสูงมาก ทุกคนพากันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ

ลูกขนไก่ตรงหน้าที่ดูเหมือนจะรับได้ยาก ทว่ากลับเห็นจิ้งกุ้ยเหรินกระโดดขึ้นสูง และรับมันได้โดยไม่เสียการทรงตัว

“กุ้ยเหรินสายตาดีมาก!” บรรดาข้าหลวงพากันกล่าวชม

จิ้งกุ้ยเหรินกำลังจะเตะลูกขนไก่ลูกที่สอง แต่นางกลับเห็นฮ่องเต้ยืนอยู่ตรงทางเดินไม่ไกลนัก ดูท่วงท่าสง่างาม

นางควบคุมอาการร่าเริงในทันทีทันใด สีหน้ากลับดูซีดขาว นางจึงหยุดและยืนนิ่งทันที จากนั้นเผยรอยยิ้มสุภาพอ่อนหวาน และแสดงความเคารพ

“หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท”

ลูกขนไก่ตกลงบนพื้น เหล่านางกำนัลต่างพากันทำความเคารพทันที

“ถวายบังคมฝ่าบาท!”

หลิวซื่อเหลียงได้ยินคำพูดของไทฮองไทเฮา เขารู้สึกเห็นใจจิ้งกุ้ยเหรินอยู่บ้าง

เดิมทีนางเป็นคนร่าเริงแจ่มใส ทว่านางกลับถูกบังคับให้เรียบร้อยสงบเสงี่ยม

เซียวอวี้มองแววตาของจิ้งกุ้ยเหริน จากนั้นก็แค่สั่งให้นางทำตัวตามปกติ และเดินออกไปจากตำหนักวั่นโซ่ว

จิ้งกุ้ยเหรินมองดูแผ่นหลังของเขาที่ห่างออกไปไกล ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อย

.
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
อีส้ม มันร้าย
เพรชมีไว้ทำไมคะ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 183

    “ว่าอย่างไรนะ? แม่ทัพน้อย ชายแดนเหนือเกิดเรื่องอันใดขึ้น?”อู๋ไป๋ก็เช่นเดียวกับเฟิ่งจิ่วเหยียน พวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาหลายเดือนแล้ว เรื่องราวที่ชายแดนเหนือจึงรู้เพียงเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าที่นั่นเกิดเรื่อง อู๋ไป๋ก็เริ่มกระวนกระวายดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเต็มไปด้วยความคับแค้น มือกำแน่นจนเริ่มสั่น“กองทัพมังกรพยัคฆ์ที่นำทัพโดยจางเฉิง ถูกกองทัพเหลียงซุ่มโจมตีที่เนินเขาหานซาน คนทั้งสามร้อยยี่สิบสี่คนตายหมดทั้งกองทัพ”อู๋ไป๋ราวกับถูกเทสาดด้วยน้ำแข็ง โลหิตทั่วร่างจับตัวแข็งม่านตาขยายขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นเพราะความโศกเศร้าและความโกรธแค้นที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ร่างกายจึงสั่นเทิ้มไปทั้งตัวตึง!เขาหันหลังกลับและต่อยเข้าไปที่กำแพงหนึ่งหมัดตัวคนหันหน้าเข้าหากำแพง ก้มหัวลง ไหล่เริ่มสั่น เขายกมือขึ้นปาดน้ำตา จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองบนคานไม้ เขากัดมือตัวเองและส่งเสียงร้องอย่างอัดอั้น“ฮือ——”เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ตรงนั้น ภายใต้ตะเกียงน้ำมัน ใบหน้าของนางถูกปกคลุมด้วยเงามืดแววตาของนางดูเยือกเย็น หรือเป็นความสงบนิ่งที่เกือบจะไม่ปกติหลังจากอู๋ไป๋ระบายความรู้สึกคับแค้นใจอยู่ครู่หนึ่ง เขาเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 184

    ในห้องทรงพระอักษร หลังจบจากว่าราชกิจเช้า เซียวอวี้ให้เสนาบดีคนสำคัญบางคนอยู่ร่วมกันหารือการต่อสู้ที่เนินเขาหานซานถูกยั่วยุปลุกปั่นจากกองทัพเหลียง จากนั้นหนานฉีก็ตั้งตัวเป็นฝ่ายรับ คราวนี้รัฐเหลียงใช้วิธีการเดิม ต้องการเจรจาสงบศึกอีก เหล่าขุนนางส่วนใหญ่ของหนานฉีเชื่อว่า พฤติกรรมของคนโฉดนั้นไม่น่าเชื่อถือแต่ขุนนางบางคนไม่คิดเช่นนั้น“ฝ่าบาท ก่อนหน้านี้กองทัพเหลียงผิดคำพูด เป็นเพราะแม่ทัพน้อยเมิ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาจึงคิดว่าพอจะสู้รบและยึดเมืองที่ถูกโจมตีคืนมาได้“ทว่าตอนนี้ กระหม่อมได้ยินว่าแม่ทัพน้อยเมิ่งหายเป็นปกติแล้ว รัฐเหลียงจึงไม่กล้าก่อเรื่องอีก มิสู้หยุดแค่นี้ พักฟื้นและฟื้นฟูสำคัญกว่า!”สีหน้าของเซียวอวี้ดูเรียบเฉย ฟังการสนทนาของพวกเขาโดยไม่เอ่ยสิ่งใดจนกระทั่งหลิวซื่อเหลียงเดินเข้ามาและกระซิบที่ข้างหูของเขา“ฝ่าบาท ฮองเฮาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้เห็นว่าเวลาพอสมควรแล้ว จึงให้เหล่าขุนนางกลับไปก่อนจากนั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนก็เข้ามาในห้องทรงพระอักษรเซียวอวี้วางสาส์นกราบทูลไว้ข้างมือ และเงยหน้าขึ้นมองนาง“วังหลังเกิดอะไรขึ้น?”เขารู้จักนางดี ถ้าไม่ใช่เรื่องส

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 185

    เซียวอวี้ลุกขึ้นยืนแบบพรวดพราด ประกายตาสีดำฉายแววของนักล่า“เจ้านี่...ช่างพูดอย่างไม่ละอายใจ!”ฟังดูคล้ายจะตำหนินาง ทว่ากับมองไม่เห็นความโกรธเฟิ่งจิ่วเหยียนมองออกว่า เขาถูกตนโน้มน้าว เริ่มคันไม้คันมือ และพร้อมจะต่อสู้นางก้มศีรษะอย่างเคารพ“กองทัพชายแดนเหนือเป็นกองทัพที่แข็งแกร่ง เมื่อออกคำสั่งทางการทหาร กองทัพจะต้องพิชิตแคว้นอาณานิคมให้กับท่านได้อย่างแน่นอน!”“พูดได้ดี!” เซียวอวี้รู้สึกสบายใจยิ่งนักเขาจึงออกคำสั่งทันที “เรียกแม่ทัพมาหารือเรื่องนี้!”นี่เป็นการเรียกแม่ทัพมาเท่านั้นไม่ใช่หารือเรื่องสงครามหรือสงบศึก แต่เป็นการกำหนดแผนที่ชัดเจนและรอดำเนินการณ เวลานี้เฟิ่งจิ่วเหยียนบรรลุจุดประสงค์แล้ว นางจึงสามารถกลับได้ทว่านางยังมีบางอย่างจะพูด“ฝ่าบาท สงครามครั้งนี้มีบทบาทสำคัญอย่างมาก หม่อมฉันยินดีจะไปวัดต้าเจา เพื่ออธิษฐานขอพรให้ทหารหนานฉีของเรา จนกว่าสงครามจะยุติ”เซียวอวี้เหลือบมองนาง และก้มคางลงเล็กน้อย“ในเมื่อเจ้ามีเจตนาเช่นนี้ เราก็อนุญาต”การอธิษฐานขอพรของฮองเฮา สิ่งนี้ถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับเหล่าทหารด้วยจากนั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนก็โค้งคำนั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 186

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าเรียบเฉยนางกลับเมืองหลวงในคราวนี้พกอาวุธติดตัวมาด้วยไม่กี่ชิ้น มีกริช ทวนยาวถอดประกอบได้ และแส้เก้าท่อน ทั้งหมดถูกเก็บไว้ในกล่องเดียวกันนางไม่ขาดแคลนอาวุธ ในตัวยังพกเข็มเงินชุดหนึ่ง รวมทั้งอาวุธลับฉะนั้นแม้เหลียนซวงจะลืมนำมาก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ทว่า ในวังผู้คนพลุกพล่าน หากคนที่มีเจตนาแอบแฝงล่วงรู้ เรื่องราวกลับจะยุ่งยากเฟิ่งจิ่วเหยียนถามด้วยน้ำเสียงขรึม“เจ้าวางกล่องใบนั้นไว้ที่ใด?”เหลียนซวงคิดไปคิดมาและตอบอย่างมั่นใจว่า“บ่าวลืมหยิบมา มันก็น่าจะอยู่ที่เดิมเพคะ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ นัยน์ตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูคลายกังวลนางหยิบถ้วยชาขึ้นมา “ถ้าเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร”กล่องใบนั้นนางเป็นคนนำไปวางเอง ตำแหน่งมิดชิด จึงไม่น่ามีคนสังเกตเห็นวัดต้าเจามีคนนิยมมากราบไหว้มากมายทว่าก็มีคำสั่งห้ามออกจากเคหสถานยามวิกาลเช่นเดียวกับวัดอื่น ๆพอตกกลางคืน ประตูและหน้าต่างจะถูกปิด ไม่รับผู้ที่มากราบไหว้ และไม่ให้ผู้ใดออกมาเดินอยู่ด้านนอกห้องที่เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งทำสมาธิ ในยามปกติแทบจะไม่มีคนมารบกวนหลังอาหารมื้อเย็นเฟิ่งจิ่วเหยียนกระโดดปีนข้ามกำแพงหนีออกจากวัดโดย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 187

    ฮูหยินเมิ่งไม่ทันได้ล้างหน้าแปรงผม นางลุกขึ้นนั่ง และรีบสอบถามสาวใช้ว่า“เกิดอะไรขึ้น!”“กองทัพถูกปิดล้อม มีเพียงครึ่งหนึ่งที่กลับมาได้! ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพกลับมาไม่ได้...”ฮูหยินเมิ่งพลันรู้สึกเจ็บที่ใจ แต่นางยังคงรักษาอาการสงบนิ่งของฮูหยินแม่ทัพไว้ รีบสวมเสื้อคลุมและเตรียมออกไปดูด้านนอก ขณะที่นางกำลังจะออกไป เฉียวม่อก็เดินเข้ามาเฉียวม่อไล่สาวใช้ให้ออกไป จากนั้นถึงกล้าถอดหน้ากากออก และโผเข้ากอดฮูหยินเมิ่งด้วยความตระหนก“อาจารย์หญิง...ท่านอาจารย์นำทัพขนาบหลัง เพื่อให้ข้าสามารถบุกเข้าไป แต่เขา...เขาไม่สามารถออกมาได้ และติดกับอยู่ในวงล้อมของศัตรู!“ชาวเหลียงชั่วช้า และวางกับดักตั้งแต่เนิ่น ๆ“อาจารย์หญิง เราควรทำอย่างไรดี?”เฉียวม่อใจไม่กล้านัก ก่อนหน้านี้มีเฟิ่งจิ่วเหยียนคอยปกป้อง ทว่าพอเจอกับเหตุการณ์แบบนี้จึงตื่นตระหนก ฮูหยินเมิ่งแตะที่หลังนางเบา ๆ“อย่าร้องเลย บอกมาให้ชัดเจนว่าเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างไร พวกเราถึงจะคิดหาวิธีช่วยคนได้”ฮูหยินเมิ่งจะแบ่งขอบเขตความสัมพันธ์ชัดเจนมาตั้งแต่แรกนางเป็นทั้งอาจารย์หญิงของเฟิ่งจิ่วเหยียน และเป็นแม่บุญธรรม นางจะมองเฟิ่งจิ่วเหยียน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 188

    ราชทูตรัฐเหลียงท่าทางเย่อหยิ่ง เขาเอ่ยอย่างไม่อ้อมค้อมว่า“แม่ทัพน้อยเมิ่ง หากท่านไม่ถอยทัพ ก็ทำได้แค่เก็บศพของแม่ทัพเมิ่งเท่านั้น ถึงแม้จะชนะการสู้รบในครั้งนี้ แต่ไม่มีบิดาของเจ้า ชีวิตนี้จะขมขื่นปานใด“ข้าขอพูดบางประโยคที่ฟังแล้วไม่รื่นหูนัก ดินแดนที่สู้รบกันแห่งนี้ ไม่ได้มีไว้เพื่อท่านเลย”“เฉียวม่อที่สวมหน้ากากผู้นี้ ลักษณะท่าทางคล้ายเฟิ่งจิ่วเหยียนในอดีตนางลุกขึ้นยืน ดวงตาทั้งคู่ที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากเต็มไปด้วยความแค้น“ฝ่าบาทมีรับสั่งว่า หนานฉีของเราจะต้องสู้รบจนถึงที่สุด เชิญราชทูตกลับไปเถอะ ข้าไม่อาจถอนกำลังทหารเพื่อช่วยบิดาได้!”ในแง่หนึ่งเหล่าทหารชื่นชมความกล้าหาญของนาง แต่ในอีกแง่หนึ่งก็ไม่อาจทนเสียสละแม่ทัพเมิ่ง รวมถึงเหล่าทหารที่ถูกจับไปพร้อมกันทว่าอยู่ต่อหน้าราชทูตรัฐเหลียง พวกเขาก็ต้องทำตามเฉียวม่อ“สู้จนตัวตายและไม่ถอยทัพเด็ดขาด!”“ใช่แล้ว ไม่ถอยทัพเด็ดขาด!”ราชทูตเห็นพวกเขาแต่ละคนเป็นเช่นนี้จึงหัวเราะด้วยความโกรธเขายกนิ้วโป้งให้เฉียวม่อ และเอ่ยประชดประชันว่า“แม่ทัพน้อยเมิ่ง ท่านเป็นลูกกตัญญูจริง ๆ!”เมื่อพูดจบประโยค ราชทูตก็เดินออกไปไม่ว่าเขาจะเดิน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 189

    ฮูหยินเมิ่งเงยหน้าขึ้น แล้วพูดอย่างหนักแน่น“อยากไปก็ให้พวกเขาไป แต่ข้าจะอยู่ที่นี่”หลีฮวาคุกเข่าลง“นายหญิง ท่านอยู่ที่ไหน บ่าวก็จะอยู่ที่นั่นด้วย!”“ท่านแม่” จู่ ๆ เฉียวม่อก็เดินเข้ามา และส่งสัญญาณให้หลีฮวาออกไปก่อนนางเดินมาข้างหน้าฮูหยินเมิ่ง คุกเข่าข้างหนึ่งแล้วทำความเคารพแบบทหาร“ท่านแม่ สถานการณ์โดยรวมสำคัญกว่า สถานที่แห่งนี้ไม่ควรอยู่นาน จึงขอให้ท่านย้ายออกจากค่ายไปพร้อมกับกองทัพด้วย”ฮูหยินเมิ่งก้มหน้าอ่านตำราต่อไป ท่าทางอ่อนโยนแต่แน่วแน่“หากไปกันหมด ผู้ใดจะเก็บศพสามีของข้า?”ม่านตาของเฉียวม่อหดลง เผยให้เห็นความเจ็บปวด“อาจารย์หญิง...”ฮูหยินเมิ่งเป็นสตรีองอาจ นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้เฉียวม่อจึงทิ้งทหารม้าเบาราวสิบกว่านายไว้คอยคุ้มกัน จากนั้นจึงนำกองทัพย้ายออกจากค่ายไปก่อน ก่อนจะแยกย้าย นางนั่งอยู่บนหลังม้าด้วยท่าทีอาลัยอาวรณ์ และสั่งกับทหารใต้บังคับบัญชาว่า“ต้องคุ้มกันฮูหยินให้ดี! มิเช่นนั้นจะตัดหัวของเจ้า!”“ขอรับ แม่ทัพน้อย!”ทุกคนออกไปหมดแล้ว ค่ายที่คึกคักแต่เดิม เหลือเพียงกองถ่านที่ถูกเผาจนไหม้เกรียมฮูหยินเมิ่งมองไปยังที่ไกล ๆ และกลับไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 190

    “ท่านแม่ทัพ! เขาคือเมิ่งสิงโจว เมิ่งสิงโจวตัวจริง เขากลับมาแล้ว!”หัวหน้าแม่ทัพเหลียงตะลึงงันเมิ่งสิงโจว?เป็นไปได้อย่างไร!เขาไม่ได้นำกองกำลังแสนกว่านายเคลื่อนทัพไปทางทิศตะวันออกหรอกหรือ! ทว่าบุกกลับมาโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้!ก่อนที่แม่ทัพเหลียงจะทันได้ตั้งสติ พลันได้ยินเสียงร้องน่าเวทนามาจากทางเข้าค่ายทหารฝ่ายตรงข้ามคือทหารม้าเพียงสิบกว่านาย ทว่าราวกลับม้าป่าข้ามแดน ย่ำเท้าเข้ามาหาพวกเขาหัวหน้าแม่ทัพตะโกนว่า “ตกใจอะไร ตั้งแถวและขวางพวกเขาไว้!!”เชลยศึกหนานฉีเห็นทหารกำลังเสริมมาแล้ว จึงเข้ามาร่วมสู้รบ คอยติดตามอยู่ข้างหลังกลุ่มของเฟิ่งจิ่วเหยียน และต่อสู้อย่างเต็มที่ทวนเงินพู่แดงของเฟิ่งจิ่วเหยียนด้ามนั้นดื่มเลือดมาจนนับไม่ถ้วนเมื่อหัวหน้าแม่ทัพและบรรดารองแม่ทัพเห็นเหตุการณ์ พลันสร่างเมาในทันทีคำพูดคุยโวเมื่อครู่ ที่เอ่ยว่าจะบุกเข้าไปในเจ๋อเทียนเชวี่ย ทั้งหมดราวกับเป็นความฝันก็ไม่ปานเมิ่งสิงโจวผู้นี้ ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!เขาฆ่าคนจนตาพร่ามัวไปหมดเขาไม่ใช่มนุษย์อย่างสิ้นเชิง!เมื่อเหล่าทหารเหลียงได้ยินว่าเมิ่งสิงโจวมาแล้ว พวกเขายังไม่ทันสู้รบก็หมดแรงเสียก่อน

Bab terbaru

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1186

    หนานฉีทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน มิใช่การกระทำที่ชาญฉลาดสงครามที่แคว้นต่าง ๆ ล้อมโจมตีหนานฉี ต้องสูญเสียกำลังทหารจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายต่างจำเป็นต้องพักฟื้นและฟื้นฟูเป่ยเยี่ยนกล้าเคลื่อนทัพไปทางใต้ เป็นเพราะไม่มีอุปสรรค สามารถยึดครองแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้โดยไม่สูญเสียกำลังทหารแม้แต่นายเดียวแม้ว่าหนานฉีจะไม่พอใจเป่ยเยี่ยนมากเพียงใด ก็ไม่อาจประกาศสงครามโดยไม่ไตร่ตรองถึงแม้คืนที่ผ่านมารุ่ยอ๋องจะหลับไม่เต็มที่ สมองก็ยังคงตื่นอยู่เขาคัดค้านการส่งกองทัพออกไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยนอย่างเด็ดขาดแม่ทัพอาวุโสหลี่ไม่พอใจ“ท่านอ๋อง ขอบังอาจถามว่าตอนนี้ฮ่องเต้ทรงประทับอยู่ที่ใด?”รุ่ยอ๋องมีท่าทีลังเล เรื่องเช่นนี้ คงต้องมอบให้ฮ่องเต้ตัดสินพระทัยในที่ประชุม รุ่ยอ๋องเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน“ท่านแม่ทัพอาวุโสหลี่ ข้ารู้ว่าท่านปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อต้านเป่ยเยี่ยน ทว่าเรื่องนี้สุดท้ายแล้วมิใช่หนานฉีควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว“การส่งกองทัพไปช่วยแคว้นซีหนี่ว์เพื่อขัดขวางแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง เป็นเพราะเรากับแคว้นซีหนี่ว์เป็นพันธมิตรกัน หากส่งกองทัพไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน พวกเราจะใช้เหตุผลใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1185

    หร่วนฝูอวี้สวมอาภรณ์ผ้าโปร่งบางเบา เดินออกมาจากด้านหลังฉากกั้นทันทีรุ่ยอ๋องจ้องมองนางตาไม่กะพริบ เหงื่อในฝ่ามือก็ยิ่งออกมาก“ข้า ข้ายังมีเอกสารทางการ...”เขาไม่มีประสบการณ์เลย จำต้องดูจากสมุดภาพทว่าคำพูดนี้ เขาไม่อาจเอ่ยออกมาได้ดวงตาของหร่วนฝูอวี้หรี่ลงทันที สายตาราวกับสัตว์ป่าที่ออกล่าเหยื่อ“เอกสารทางการ? ข้าว่า เจ้าคงคิดจะหนีกระมัง!”นางก้าวเท้ายาวมาข้างหน้า พร้อมกับข่มขู่: “มาถึงสถานที่ของข้าแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะออกไปได้!”พูดจบ นางก็ตรงไปแบกคนขึ้นมาทันทีรุ่ยอ๋องไม่คาดคิดเลยว่า จะเป็นเหตุการณ์เช่นนี้!ศีรษะของเขาคว่ำลง เมื่อเลือดสูบเข้า ก็มีแต่ความว่างเปล่าไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้?อย่างน้อยเขาก็เป็นบุรุษ!ตึง!หร่วนฝูอวี้โยนเขาลงบนเตียง ไม่ทะนุถนอมแม้แต่น้อยจากนั้นด้วยความรวดเร็วและง่ายดาย นางก็ถอดเข็มขัดบนตัวของรุ่ยอ๋องออกมาในที่สุดรุ่ยอ๋องก็ได้สติกลับมา รีบคว้าปกคอเสื้อของตนเองไว้“เจ้าช้าก่อน...”นางร้อนใจจนไม่อาจทนไหว!หร่วนฝูอวี้นั่งอยู่บนเอวของเขา กดมือทั้งสองข้างของเขาวางไว้ข้างศีรษะทั้งสองด้านมองเห็นบุรุษที่ยามปกติมีระเบียบแบบแผน เยือกเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1184

    “เจ้าคิดจะ...มีลูกกับข้า?” คิ้วของรุ่ยอ๋องขมวดปมแน่น จ้องมองหร่วนฝูอวี้ที่อยู่ตรงหน้า ดูเหมือนจะทำตัวไม่ถูกเหตุใดจู่ ๆ นางถึงมีความคิดเช่นนี้ได้?เพียงเพื่อจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับฮองเฮาหรือ? หร่วนฝูอวี้ยังคงจับปกเสื้อของเขาอยู่ พร้อมกับมองสำรวจเขาด้วยท่าทางของผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า“พวกเราเป็นสามีภรรยากัน มีลูกแล้วจะอย่างไร?“เจ้ายังจะเรื่องมากอีกรึ?”รุ่ยอ๋องส่ายศีรษะอย่างแข็งเกร็ง“ข้าเพียงรู้สึกว่า...”นี่ไม่ปกติเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีคนขัดขวางการกระทำที่ขาดสติของหร่วนฝูอวี้ได้นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่า การจะมีลูกนั้น มีความหมายอย่างไร“ข้าไม่ใช่คนใจง่ายเช่นนั้น” รุ่ยอ๋องผลักนางออกไปโดยแสร้งทำเป็นสุขุมเยือกเย็น พร้อมกับหันหลังให้นาง สายตามองไปยังที่ไกล ๆ“ใจง่ายรึ?” หร่วนฝูอวี้หัวเราะด้วยความโมโห เช่นนั้นก็เท่ากับว่านางเป็นคนใจง่ายรึ?บุรุษสุนัขผู้นี้ ปากช่างร้ายกาจนัก!“ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะไปหาคนอื่น!”หร่วนฝูอวี้พูดได้ทำได้ รุ่ยอ๋องจึงรีบคว้าแขนของนางไว้“เจ้าเสียสติไปแล้วรึ?!”นางเป็นพระชายาของเขา จะมีสัมพันธ์กับชายอื่นได้อย่างไร?หร่วนฝูอวี้เกลียดท่าทางลั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1183

    ด้านนอกห้องทรงพระอักษรเซียวอวี้ยืนอยู่ด้วยสีหน้าคร่ำเคร่งได้ยินว่าเสนาบดีที่ช่วยปกครองเหล่านี้ต้องการทำตามโอวหยางเหลียน ใช้ความตายมาข่มขู่จิ่วเหยียนวิธีนี้ช่างชั่วร้ายยิ่งนักจนกระทั่งตอนที่เห็นพวกนางเดินออกมา และไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย เซียวอวี้ถึงค่อยโล่งใจเหล่าเสนาบดีทำเป็นมองไม่เห็นเขา มีเพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่มองเขาด้วยแววตาที่แฝงความรู้สึกซับซ้อนฮ่องเต้ฉีเสด็จมาที่แคว้นซีหนี่ว์ด้วยพระองค์เอง คิดดูแล้วก็คงกังวลพระทัยว่าประมุขแคว้นจะทรงหวั่นไหว ไม่เสด็จกลับไปหนานฉีอีกเห็นได้ชัดว่า พวกเขาเป็นเช่นเดียวกัน ไม่อาจคาดเดาจิตใจของประมุขแคว้นได้ช่างน่าเศร้าจริง ๆเมื่อเปรียบเทียบเช่นนี้ หูย่วนเอ๋อร์ก็รู้สึกสบายใจโดยไม่รู้ตัวยิ่งไปกว่านั้นคำพูดแต่ละคำของประมุขแคว้นนั้นมีความหมายอันลึกซึ้ง สิ่งที่พวกนางพยายามจะรักษาไว้ อย่างมากเพียงชั่วชีวิตเดียวนี่เหมือนกับการที่หมอรักษาโรค รักษาที่ปลายเหตุมิได้รักษาที่ต้นเหตุเมื่อครู่ประมุขแคว้นเอ่ยกับพวกนางมากมาย ทำให้พวกนางเข้าใจว่า ต้นเหตุที่แคว้นซีหนี่ว์ไม่อาจสร้างความยิ่งใหญ่ได้ ก็คือ “บาดแผลภายใน”การกดขี่บุรุษภายในแคว้นมากเกินไป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1182

    เสนาบดีที่ช่วยปกครองต่างก็เป็นคนสนิทของอดีตประมุข แต่ละคนล้วนเป็นเสาหลักสำคัญของราชสำนักพวกนางยืนอยู่นอกห้องทรงพระอักษร ถึงอายุจะต่างกัน ทว่าล้วนมีความจงรักภักดีและกล้าหาญ“พวกหม่อมฉันขอเข้าเฝ้าประมุขแคว้น!”เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรในห้องทรงพระอักษร ด้วยสายตาที่แน่วแน่นางจ้องมองเงาร่างของแต่ละคนที่อยู่ด้านนอกตำหนัก ความแน่วแน่ในดวงตาเจือความหม่นหมอง“ให้พวกนางเข้ามา”ไม่นาน เหล่าเสนาบดีก็ทยอยกันเข้ามาด้านใน หูย่วนเอ๋อร์ที่บาดเจ็บหนักนอนอยู่บนแคร่หามนั้นเห็นเด่นชัดที่สุดเฟิ่งจิ่วเหยียนวางฎีกาที่อยู่ในมือลง กวาดตามองพวกนางแวบหนึ่ง“ต้องการจะพูดสิ่งใด?”“ท่านประมุขแคว้น พวกหม่อมฉันทราบแล้ว เหตุใดใต้เท้าโอวหยางถึงสิ้นใจ” ลมหายใจของหูย่วนเอ๋อร์สงบนิ่ง ทว่ามองเห็นบาดแผลภายในไม่รุนแรงเสนาบดีคนอื่น ๆ จึงเอ่ยต่อ“ใต้เท้าโอวหยางทำเพื่อความมั่นคงของแผ่นดินแคว้นซีหนี่ว์ นางอาศัยความตาย ขอร้องให้ประมุขแคว้นทรงอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ต่อไป!”สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูสงบนิ่ง มิได้เอ่ยขัดจังหวะคำพูดของพวกนางหูย่วนเอ๋อร์ลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก หันไปโน้มศีรษะให้เฟิ่งจิ่วเห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1181

    การตายของโอวหยางเหลียน สำหรับหูย่วนเอ๋อแล้ว เป็นการสูญเสียที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง ในบรรดาขุนนางใหญ่ของราชสำนัก พวกนางทั้งสองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันที่สุด ที่สำคัญกว่านั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป หูย่วนเอ๋อร์มิได้เตรียมใจไว้เลย สาวใช้ตอบอย่างระมัดระวัง “บ่าวรู้เพียงว่า ใต้เท้าโอวหยางกินยาพิษฆ่าตัวตายเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์ไม่เชื่อ ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ไฉนใต้เท้าโอวหยางกลับมาฆ่าตัวตาย? “ต้องมีคนวางแผนสังหารนางเป็นแน่! เรื่องนี้ ท่านประมุขแคว้นทราบหรือไม่!” สาวใช้ผงกศีรษะ “ตอนที่ใต้เท้าโอวหยางเกิดเรื่อง ท่านประมุขแคว้นก็อยู่ที่จวนโอวหยางเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์มีน้ำตาคลอหน่วย รู้สึกเสียใจที่ตนเองบาดเจ็บ จึงไม่สามารถออกไปสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง การตายของโอวหยางเหลียน มิใช่เพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่ตกตะลึงสงสัย ยังสร้างความวุ่นวายในราชสำนักด้วย ในการประชุมราชสำนักวันรุ่งขึ้น หัวข้อที่เหล่าขุนนางเอ่ยถึง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของโอวหยางเหลียน เสนาบดีสามรัชสมัยผู้นี้ ไม่มีผลงานอะไรยิ่งใหญ่แต่ก็ทำงานอย่างหนักหน่วง ควรได้รับการเชิดชูหลังสิ้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1180

    เมื่อหมอหลวงมาถึง โอวหยางเหลียนก็เสียชีวิตจากพิษแล้ว เหล่าคนรับใช้ในจวนต่างคุกเข่าลงกับพื้น ส่งเสียงร้องไห้ดังระงมไม่ขาดสาย “ใต้เท้า——” สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนจดจ้องไปบนเตียง ที่มีโอวหยางเหลียนนอนอยู่บนนั้น ที่จากไปอย่างเด็ดเดี่ยว ยอมตายเพื่อตักเตือน โอวหยางเหลียนทำเช่นนี้ ทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องรับภาระที่หนักหน่วง “ฝังศพอย่างสมเกียรติ” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยสั้น ๆ จบ พลันลุกขึ้นและเดินออกไป เสียงร้องไห้ทางด้านหลังนั้น ราวกับลอยเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของนาง เซียวอวี้ยืนอยู่ที่ข้างประตู ยื่นมือให้นางจับไว้อย่างมั่นคง การตายของโอวหยางเหลียน เปรียบเหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถูกโยนลงทะเลสาบ สร้างแรงกระเพื่อม แต่ก็สงบลงในที่สุด เขาหาได้สนใจความเป็นหรือตายของโอวหยางเหลียนไม่ สนใจเพียงสุขภาพของจิ่วเหยียนเท่านั้น สีหน้าของนางดูมิสู้ดีเลย “กลับวังก่อนเถิด” เขาตัดสินใจแทนนาง ในรถม้า เฟิ่งจิ่วเหยียนเงียบจนน่าใจหาย เซียวอวี้ไม่ได้รบกวนนาง เพียงอยู่เคียงข้างนาง และคอยเป็นที่พึ่งพิงให้นางเสมอ หลังจากกลับมาถึงวัง คนทั้งสองนั่งอยู่ข้างเตียง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1179

    โอวหยางเหลียนมองเห็นความหวั่นไหวในใจของเฟิ่งจิ่วเหยียน นี่คือสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น “ตั้งแต่เยาว์วัยท่านก็แตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปในหนานฉี “ท่านกำเนิดมาเพื่อแคว้นซีหนี่ว์เพคะ “ท่านก็คงจะคิดด้วยว่า หนานฉีกดขี่สตรีที่มีความสามารถเกินไป “แต่ท่านมิอาจเปลี่ยนแปลงมันได้ “ท่านประมุขแคว้น ท่านเคยคิดหรือไม่ หากท่านให้กำเนิดองค์หญิงรัชทายาท ในแคว้นซีหนี่ว์แห่งนี้ นางจะกลายเป็นประมุขแคว้น ทว่าในหนานฉี นางจะเป็นเพียงองค์หญิง แม้จะได้รับความโปรดปราน แต่ไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมของการช่วยเหลือสามีและดูแลบุตรได้ “ในหนานฉี ผู้หญิงทุกคนไม่สามารถเป็นแม่ทัพหญิงเช่นท่านได้ ฮ่องเต้ฉีองค์ปัจจุบันหลักแหลมกว่าใครอย่างมิต้องสงสัย แต่ทายาทรุ่นหลังเล่า? ท่านประมุขแคว้น ท่านไม่คิดเพื่อตัวเอง ก็ต้องคิดถึงลูก ๆ ของท่านด้วยเพคะ!” เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้ตกอยู่ในกับดักชั่วร้ายที่โอวหยางเหลียนสร้างขึ้น ใบหน้าของนางแน่วแน่ “สิ่งที่เจ้าพูด ล้วนอ้างแต่มุมมองของผู้หญิง “ลองคิดอีกมุม หากเราให้กำเนิดองค์ชาย สถานการณ์ของเขาในแคว้นซีหนี่ว์ ก็ไม่ต่างกับสถานการณ์ขององค์หญิงในหนานฉี”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1178

    หูย่วนเอ๋อร์ถูกลอบสังหาร โอวหยางเหลียนจึงเสนอให้เซียวอวี้เป็นผู้นำทัพ นี่ยิ่งทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนเกิดความสงสัยอย่างเลี่ยงมิได้ นางหันกลับไปมองที่โอวหยางเหลียน “เราคิดว่า เจ้าเหมาะที่จะปกป้องเมืองมากกว่าพระสวามี” มีความแปลกประหลาดในแววตาของโอวหยางเหลียน “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยินดีจะไปเพคะ!” นางรับคำสั่งอย่างง่ายดาย หาได้มีพิรุธไม่ เฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้ต้องการให้โอวหยางเหลียนเป็นผู้นำทัพจริง ๆ ดวงตาของนางมืดมน กล่าวอย่างสื่อความนัย “ท่านป้าอายุมากแล้ว จะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร “เมื่อผ่านพ้นวันเกิดปีที่แปดสิบแล้ว มิลองเกษียณแล้วกลับบ้านเกิด มีชีวิตบั้นปลายที่ดีเล่า” ตามกฎระเบียบของแคว้นซีหนี่ว์ เมื่อขุนนางมีอายุครบเจ็ดสิบห้าปี ก็สมควรเกษียณและกลับบ้านเกิด ม่านตาของโอวหยางเหลียนเบิกกว้าง “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยังทำได้...” เฟิ่งจิ่วเหยียนลดเสียงลง “นี่คือเกียรติยศสุดท้ายที่เราจะมอบให้ท่าน” ทั้งเรื่องซูถงและการลอบสังหารหูย่วนเอ๋อร์คืนนี้ หากจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับโอวหยางเหลียน นางหาได้เชื่อไม่ นางได้จัดสาย

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status