หลังออกจากร้านเครื่องประดับและไปต่อที่ร้านเครื่องสำอางแล้ว ซูหนิงจิงก็สอบถามกู่ซิงว่าเธอต้องการซื้ออะไรหรือไม่
“ฉันไม่มีอะไรต้องซื้อตอนนี้ค่ะ นี่ก็เกือบสามทุ่มแล้ว ดิฉันว่าเรากลับกันดีกว่านะคะ”
“อืม… ดิฉันขอแวะซูเปอร์มาร์เก็ตสักครู่ได้ไหมคะ เพราะเราจะได้ซื้อวัตถุดิบเอาไว้ทำอาหารที่คอนโดวันพรุ่งนี้เช้าได้บ้าง”
“ตกลงค่ะ คุณซูเดินนำไปได้เลยค่ะ”
ซูหนิงจิงพยักหน้ารับคำกู่ซิงและเดินไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ชั้นหนึ่งทันที เธอรู้ดีว่าห้างแต่ละห้างส่วนใหญ่แบบแปลนแทบจะไม่ต่างกันสำหรับการวางสินค้าแต่ละอย่าง จึงทำให้เธอไม่ต้องเสียเวลาเดินหานานนัก
กว่าที่ซูหนิงจิงจะซื้อของเสร็จก็สามทุ่มครึ่งพอดี เธอรีบนำของในรถเข็นไปจ่ายเงินเพราะอีกไม่นานห้างก็จะปิดแล้ว หลังจ่ายเงินเสร็จเธอก็ชวนกู่ซิงกับลูกสาวไปขึ้นลิฟท์เพื่อกลับไปยังชั้น 4 ที่เธอจอดรถเอาไว้
เมื่อทั้งสามคนไปถึงรถแล้ว
วันนี้ทั้งวัน ซูหนิงเซียวจึงตั้งใจเรียนเรื่องการโพสท่าถ่ายแบบและการเดินแบบไปพร้อมกันด้วย ซึ่งการเดินแบบต้องใช้รองเท้าส้นสูงที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวานนี้ นับว่าแม่ของเธอคาดเดาได้ว่าเธอจำเป็นต้องใช้ของพวกนี้จริง ๆซูหนิงจิงปล่อยให้ลูกสาวเรียนรู้กับกู่ซิงไปตามสบาย ส่วนเธอก็ให้ลูกนำเสื้อผ้าเมื่อวานออกมาให้ทั้งหมด ก่อนที่จะโทรไปที่ฟร้อนเพื่อให้คนงานในคอนโดนำเสื้อผ้าไปซักอบรีดให้เสร็จในวันนี้ช่วงเย็น ถึงจะต้องเสียค่าบริการให้กับคอนโดไม่น้อย แต่ซูหนิงจิงยอมจ่ายเพื่อความสะดวกสบายมากกว่าที่จะต้องทำเองกู่ซิงที่แน่ใจแล้วว่าซูหนิงจิงไม่ธรรมดาจริง ๆ ขนาดเรื่องแค่การซักอบรีดผ้านั้นเธอยังจ้างคนของคอนโดแทนการทำเองเหมือนตอนอยู่ก้านโจว เธอไม่นึกแปลกใจที่ทำไมซูหนิงจิงจึงซื้อคอนโดนี้ เพราะมีบริการหลายอย่างให้กับผู้อาศัยด้วยนี่เองกู่ซิงที่สอนซูหนิงเซียวโพสท่าและเดินแบบในวันนี้ก็พอใจอย่างยิ่งที่ซูหนิงเซียวทำออกมาได้ดีมาก อย่างที่เธอไม่คิดว่าคนที่ไม่เคยเรียนมาก่อนสามารถทำได้ดีถึงขนาดนี้ งานในวันพรุ่งนี้จึ
ซูหนิงเซียวเดินนำหน้าแม่ของเธอออกไปจากห้องพร้อมรอยยิ้มบางประดับอยู่บนใบหน้า เมื่อกู่ซิงกับฟางหลิงหลิงเห็นซูหนิงเซียวในลุคใหม่ พวกเธอถึงกับตกตะลึงอย่างไม่อยากจะเชื่อ ว่าเด็กคนเมื่อกี้ที่ดูใส ๆ จะเปลี่ยนไปเป็นสง่างามแบบนี้เพียงแค่เปลี่ยนชุด แต่งหน้าและทำผมเท่านั้น นับว่าพวกเธอสองคนเลือกนางแบบไม่ผิดเลยจริง ๆ“น้องหนิงเซียวสวยหรูดูแพงมากเลยค่ะ เหมาะกับเสื้อผ้าเซ็ตนี้ของพี่จริง ๆ ช่างกล้องพร้อมหรือยังคะ นางแบบดิฉันจะได้รีบทำงาน ยังเหลืออีกหลายชุดนะคะ”“พร้อมแล้วครับ ให้น้องเข้ามาในฉากได้เลยครับ”การทำงานเริ่มขึ้นหลังจากซูหนิงเซียวเดินเข้าไปในฉากที่ทีมงานจัดเอาไว้ ในฉากนั้นมีเก้าอี้หรูหราอยู่หนึ่งตัว ซูหนิงเซียวโพสท่าโดยใช้เก้าอี้เป็นตัวเสริมให้ชุดโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะท่านั่ง ท่ายืน หรือท่าอื่น ๆ ที่เธอโพสออกมา มีแต่เสียงชื่นชมว่าเธอทำได้ดีมากทั้งสีหน้า แววตาและการโพส ทำให้เสื้อผ้าชุดนี้เหมาะสมกับเหล่าคนชั้นสูงและร่ำรวยที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของฟางหลิงหลิงใน
“ดิฉันไม่กังวลค่ะ ถ้าอย่างนั้นเราไปที่ห้างแวะซื้อชุดเก้าอี้สนามกับร่มสักหน่อยดีไหมคะ จะได้ไม่ต้องหาที่นั่งรอกันลำบากมากนัก หากมีงานอื่นเราก็จะได้ใช้บ่อย ๆ ด้วย”“ก็ดีนะคะ ดิฉันก็ลืมคิดไป เรายังมีเวลาเหลืออีกนานกว่าจะถึงเวลานัดค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็ไปที่ห้างใกล้ ๆ สวนสาธารณะก่อนก็แล้วกันนะคะ จะได้ทานอาหารที่นั่นค่อยไปเตรียมตัวที่สวนสาธารณะ”“ตกลงค่ะ ถ้าอย่างนั้นเราออกไปกันเลยดีไหมคะ”“ได้ค่ะ ทุกคนไปหยิบกระเป๋ากันก่อนแล้วค่อยออกไปกันนะคะ”สามสาวต่างวัยกลับเข้าห้องเพื่อนำสิ่งของจำเป็นไปด้วยในวันนี้ ทุกคนต่างตรวจดูสิ่งของในกระเป๋าของตัวเองว่าลืมอะไรหรือไม่ ส่วนซูหนิงเซียววันนี้ก็ใส่เพียงแค่ต่างหูกับสร้อยข้อมือสีชมพูไปด้วยเท่านั้น เธอสวมชุดเอี๊ยมยีนส์ทับเสื้อคอปกแขนตุ๊กตาจึงไม่อยากสวมสร้อยให้เกะกะ กระเป๋าวันนี้เธอใช้กระเป๋าทรงกลมสีน้ำตาลที่แม่เลือกให้พร้อมกับสวมรองเท้าส้นเต
ซูหนิงจิงกดเงินสดมาไว้สองหมื่นหยวน เธอไม่ค่อยชอบกดเงินสดบ่อยนักจึงได้กดมาไว้ทีละเยอะ ๆ เช่นนี้ เมื่อกดเสร็จแล้วเธอก็เดินนำซูหนิงเซียวกับกู่ซิงไปยังร้านบะหมี่เนื้อตุ๋นที่เธอสังเกตเห็นก่อนจะลงไปชั้นใต้ดินในร้านยังมีคนไม่มากนักเพราะอีกเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเที่ยง พวกเธอทั้งสามคนจึงเลือกที่นั่งก่อนจะนำเมนูมาดูเพื่อรอพนักงานมารับออเดอร์ หลังสั่งอาหารและเครื่องดื่มมาแล้ว ทั้งสามคนก็นั่งกินไปคุยกันไปอย่างไม่เร่งรีบ กระทั่งพวกเธอสั่งเครื่องดื่มในครั้งที่สามสำหรับกลับบ้านในเวลาบ่ายสองโมง แล้วถือแก้วออกจากร้านเพื่อเข้าห้องน้ำก่อนจะขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นสี่ที่มีรถของพวกเธอจอดอยู่ซูหนิงจิงขับรถไปยังสวนสาธารณะที่อยู่ไม่ไกล ตอนนี้แดดยังแรงอยู่มาก เมื่อไปถึงที่จอดรถของสวนสาธารณะที่กู่ซิงบอกเอาไว้แล้ว ทั้งสามคนช่วยกันยกกระเป๋าที่บรรจุเต็นท์กับเก้าอี้สนามไปวางใต้ต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลจากรถที่จอดอยู่นอกรั้วสวนสาธารณะมากนัก หลังช่วยกันกางเต็นท์กันแดดและเก้าอี้กับโต๊ะเสร็จแล้ว ซูหนิงจิงก็เดินกลับไปที่รถเพื่อนำโน้ตบุ๊คมาค้นหาข้อ
“สวัสดีครับน้อง เดี๋ยวรอให้ทีมงานพี่จัดฉากก่อนถ่ายให้เสร็จก่อนนะครับ เราค่อยเริ่มถ่ายกัน วันนี้มีชุดที่น้องจะต้องถ่ายอยู่ประมาณ 8 ชุดเท่านั้นครับ น่าจะไม่ค่ำมาก เพราะพี่อยากได้แสงตอนพระอาทิตย์ตกดิน น้องคงต้องเหนื่อยเรื่องการเปลี่ยนชุดสักหน่อยก่อนที่แสงจะหมดนะครับ”“ไม่มีปัญหาค่ะพี่ หนูจะพยายามเปลี่ยนชุดให้เร็วที่สุดค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นน้องนั่งรอกับคุณแม่และพี่กู่ก่อนก็แล้วกันนะครับ พี่จะไปดูทีมงานก่อน”“ได้ค่ะ” ซูหนิงเซียวยังคงยิ้มให้กับฉางเล่ออย่างมีมารยาท จนคนอย่างฉางเล่อที่มักชอบล้อเล่นกับนางแบบถึงกับไม่กล้าล้อเล่นกับซูหนิงเซียวเลยทีเดียว เขาเห็นมามากที่นางแบบมักจะอ่อยตากล้อง แต่สำหรับซูหนิงเซียวคนนี้ เขารู้สึกว่าเธอเข้าถึงยากกว่านางแบบคนอื่นจนไม่กล้าล้อเล่นเหมือนปกติ อีกทั้งแม่ของเธอเองก็ดูไม่เหมือนแม่บ้านธรรมดา ๆ เห็นได้จากการที่เธอนั่งดูงานที่โน้ตบุ๊คเครื่องหรูเขาก็พอจะรู้แล้วว่านางแบบคนใหม่นี้ฐานะน่าจะไม่ธรรมดา
หลังกินอาหารเช้ากันแล้ว ซูหนิงจิงก็บอกให้ลูกสาวใส่ชุดสูทที่เคยซื้อให้พร้อมกับรองเท้าส้นสูงสีดำมีสายรัดข้อเท้า กระเป๋าถือก็เป็นสีดำเข้าชุดกัน ส่วนตัวของซูหนิงจิงวันนี้สวมชุดกี่เพ้าผ่าข้างเข้ารูปสีฟ้าอ่อน พร้อมกับชุดเครื่องประดับชุดเพชรน้ำงามสีแดงเลือดนก ซึ่งตัดกับสีชุดของเธอจนทำให้เครื่องประดับโดดเด่นขึ้นมา ส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าสีแดงเช่นเดียวกัน กระเป๋าถือของเธอใช้กระเป๋าสีน้ำตาลแดงใบใหญ่สำหรับใส่ชุดเครื่องเพชรแซฟไฟร์ของลูกสาว รวมทั้งกระเป๋าสตางค์ใบเล็กและเอกสารส่วนตัวเผื่อเอาไว้ด้วยกู่ซิงที่เห็นการแต่งตัวแบบจัดเต็มของซูหนิงจิงก็ได้แต่มองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้า ผมที่ปักปิ่นเป็นมวยเข้ากับชุดกี่เพ้าของซูหนิงจิงนั้นช่างหาที่ติไม่ได้เลย เธอได้แต่นับถือซูหนิงจิงที่สามารถแปลงโฉมตัวเองออกมาได้อย่างลงตัวและดูสง่างามไปหมดทั้งตัว ส่วนกู่ซิงนั้นใส่เพียงชุดสูทสำหรับออกงานวันนี้เท่านั้นเอง ด้วยเธอต้องคอยดูแลซูหนิงเซียวในห้องแต่งตัวด้วย เพราะกลัวว่านางแบบเก่า ๆ จะกลั่นแกล้งซูหนิงเซียวซึ่งเป็นนางแบบหน้าใหม่ในวงการ แถมยังได้ใส
“พี่คะ หนูขอทราบราคาทั้งหมดได้ไหมคะ รวมราคาทำห้องอัดเสียงเล็ก ๆ ที่บ้านให้หนูด้วยนะคะ”“สักครู่นะครับ พี่ขอไปคุยกับช่างก่อนว่าถ้าเครื่องมิกซ์ขนาดนี้พร้อมทั้งอุปกรณ์เสริมครบชุดจะต้องทำห้องขนาดประมาณเท่าไหร่ เชิญลูกค้านั่งรอที่โซฟาก่อนครับ”ซูหนิงจิงพยักหน้าให้พนักงานขายก่อนจะพาซูหนิงเซียวกับกู่ซิงไปนั่งรอที่โซฟาซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของหน้าร้าน“แม่คะ แม่คิดว่าหนูจะทำได้ไหมเรื่องร้องเพลงกับแต่งเพลง หนูไม่อยากให้แม่ลงทุนโดยเสียเปล่ากับหนูนะคะ”“แม่บอกลูกแล้วว่าให้ทำตามที่ลูกชอบยังไงล่ะ ในเมื่อลูกคิดอยากเข้าวงการบันเทิงแต่แรกและเป็นคนขอแม่เอง แม่ก็สนับสนุนลูกทุกทางเท่านั้น เรื่องการที่ลูกจะประสบความสำเร็จหรือเปล่า ก็อยู่ที่ความพยายามของลูกเองและเหล่าแฟนคลับของลูกที่พวกเขาจะสนับสนุนผลงานของลูกกันมากขนาดไหน”“จริงอย่างที่น้องซูว่านะหนิงเซียว ถ้าหนูตั้งใจที่จะเอาดีทางด้านร้องเพลง
ไม่นานนักผู้จัดการคิวก็เรียกให้นางแบบเริ่มซ้อมเดินได้ นางแบบชุดแรกทั้งสิบคนต่างเดินอย่างรู้จังหวะกันเป็นอย่างดี ชุดที่สองเองก็ตามไปอย่างไม่มีอะไรผิดพลาด พอถึงชุดที่สามก่อนที่ซูหนิงเซียวจะขึ้นไปเดินบนเวที รุ่นพี่คนก่อนหน้ากลับผลักเธอเพื่อจะให้ตกบันได ดีที่ซูหนิงเซียวระวังตัวเอาไว้ก่อนจึงหลบได้ทัน จนทำให้คนที่ผลักเธอตกลงจากบันไดเสียเองจนร้องเสียงหลง คนอื่น ๆ ได้ยินเสียงวุ่นวายที่หลังเวทีก็รีบเดินมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ซูหนิงเซียวที่ทำหน้าไม่พอใจพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าแม่กับป้ากู่ของเธอมาหลังเวทีด้วยเช่นเดียวกัน“พี่ทำอะไรกันคะ ตั้งใจทำร้ายร่างกายหนูแบบนี้หนูสามารถแจ้งความได้นะคะ”“เชอะ ใครจะไปทำร้ายแกกัน ฉันแค่สะดุดจะล้มมือเลยคิดจะคว้าตัวแกเอาไว้เท่านั้นเอง”“ฮ่า ฮ่า ถ้าอย่างนั้นเรามาเปิดกล้องวงจรปิดดูกันดีหรือเปล่าคะ ว่าพี่สะดุดล้มหรืออะไรกันแน่”ฟางหลิงหลิงเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเดินมาไกล่เกลี่ยเพราะกลัวว่างานของเธอจะพังเพราะนา
“ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้เราค่อยคิดกันหลังจากดูหนิงเซียวอีกสักปีสองปีก็ได้ค่ะ อย่างไรถ้าเราต้องใช้โปรดิวเซอร์จริง ๆ ก็ไม่น่าจะหายากนัก”ซูหนิงจิงพยักหน้าเห็นด้วยกับกู่ซิง ไม่นานนักพวกเธอก็ทานอาหารเสร็จและจ่ายเงินก่อนจะออกจากร้านเพื่อไปซื้อหนังสือกันต่อ หลังจากซื้อหนังสือกันเกือบหนึ่งชั่วโมง กู่ซิงกับซูหนิงจิงก็ได้หนังสือหลายเล่มมาอ่านเพื่อเพิ่มความรู้ในเรื่องธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบันที่เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นรวมทั้งหนังสือเกี่ยวกับการเล่นหุ้นที่กู่ซิงสนใจอีกด้วย ทั้งสองคนจ่ายค่าหนังสือต่าง ๆ แยกกันเพราะกู่ซิงไม่อยากให้ซูหนิงจิงต้องมาจ่ายเงินสำหรับหนังสือและสมุดโน้ตส่วนตัวของเธอ ซึ่งซูหนิงจิงก็ไม่ได้ขัดกู่ซิง เธอเข้าใจดีว่ากู่ซิงคงเกรงใจเหมือนเคย“น้องซูคิดว่าเรื่องธุรกิจออนไลน์น่าสนใจเหรอคะ พี่เห็นน้องซื้อมาอ่านหลายเล่มเลย”“ใช่ค่ะ ตอนนี้น้องยังไม่ค่อยมีความรู้มากนักว่าจะต้องใช้ประโยชน์จากสื่อออนไลน์ยังไง น้องเลยอยากศึกษาเอาไว้เผื่อว่าเราจะสามารถนำความรู
ซูหนิงเซียวออกจากบ้านหลังทานอาหารเช้าเพื่อไปเรียนตามปกติ ซูหนิงจิง กับกู่ซิงก็นั่งคุยกันเรื่องสัญญาการจ้างงานที่ซูหนิงจิงส่งให้กู่ซิงอ่านดูก่อน“ขอบคุณมากนะคะน้องซูที่ไว้ใจพี่ พี่ลงชื่อเลยนะคะ”“ไม่มีปัญหาค่ะพี่กู่ ขอบคุณพี่กู่ด้วยนะคะที่ยอมทำงานกับน้อง หวังว่าหลังจากนี้เราจะช่วยกันดูแลงานและหนิงเซียวไปพร้อม ๆ กันได้อย่างดีด้วยค่ะ”กู่ซิงลงชื่อในเอกสารทั้งสองฉบับ โดยส่งฉบับหนึ่งให้ซูหนิงจิงเก็บเอาไว้ ส่วนเธอก็เก็บสัญญาเอาไว้กับตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน“เรื่องนั้นเป็นหน้าที่ของพี่อยู่แล้วค่ะ น้องซูไม่ต้องกังวลไป ตอนนี้แค่รอให้หนิงเซียวทำงานเพลงออกมาได้เสียก่อน พี่จะค่อย ๆ ประชาสัมพันธ์ผ่านทางเว่ยป๋อไปก่อนสำหรับซิงเกิ้ลแรก ส่วนเรื่องการวางแผนงานระยะยาว พี่อยากรอให้หนิงเซียวเรียนจบก่อน เพื่อที่จะได้มีเวลาเดินสายแสดงคอนเสิร์ตของตัวเองถ้าเพลงของหนิงเซียวติดตลาดและมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นนะคะ”“ควา
“น้องซูแน่ใจนะคะว่าจะไม่กู้เงินธนาคารสำหรับการลงทุนครั้งนี้”“แน่ใจค่ะพี่กู่ น้องคำนวณดูแล้วยังพอเหลือเงินสำหรับทำอย่างอื่นได้อีกสองร้อยกว่าล้านหยวน อย่าลืมว่าถ้าเราเริ่มโครงการได้สักครึ่งทางแล้วน้องจะให้บริษัทภายนอกมาขายโครงการของเรา เราสามารถนำเงินมัดจำของลูกค้าที่ต้องการซื้อห้องของเรากลับมาได้ในเวลานั้นด้วยนะคะ”“ถ้าน้องซูมั่นใจ พี่เองก็จะช่วยดูแลเรื่องการขายโครงการอีกแรงหนึ่งค่ะ”“ขอบคุณพี่กู่มากนะคะที่คอยช่วยเหลือน้องมาตลอด อย่างน้อยน้องก็ยังมีพี่กู่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ น้องก็สบายใจมากแล้วค่ะ ส่วนเรื่องสัญญาเงินเดือนของพี่กู่ เราจะเริ่มทำกันเมื่อไหร่ดีคะ ตอนนี้พี่กู่ก็เข้าใจโครงการของน้องมากพอแล้ว หลังจากนี้เรายังต้องไปทำสัญญากับบริษัทของกวานจื้อจิว จ้านเกาและเจิ้งจุนอีกนะคะ น้องอยากเคลียร์เรื่องเงินเดือนของพี่ให้เสร็จด้วยเลยค่ะ”“พี่แล้วแต่น้องจะเสนอให้เลยค่ะ อย่างไรตอนนี้พี่ก็กินอยู่ฟรีกับน้องซ
“ไม่เห็นจะยากเลยหนิงเซียว เธอก็เข้าไปดูในยูทูปหรือถามแฟนคลับในเว่ยป๋อของเธอก็ได้ว่าชอบฟังเพลงแนวไหน แล้วเธอค่อยหาตัวอย่างมาฟังแล้วทดลองแต่งเพลงในสไตล์ของตัวเองออกมา เดี๋ยวนี้หาข้อมูลง่ายจะตายไป”“นั่นสิ ๆ อย่างฉันนะชอบเพลงแนวน่ารัก ๆ สดใสเหมือนพวกไอดอลมากกว่า ฉันก็จะเลือกฟังแต่เพลงพวกนี้เวลาว่างนั่นแหละ แต่เวลาเล่นเปียโนฉันดันชอบเพลงแจ๊ส ก็เลยชอบเล่นเปียโนและแต่งเพลงแจ๊สมากกว่าเพราะมันสนุกดี”“อย่างนั้นเหรอ อืม ขอบใจพวกเธอนะที่คอยเป็นที่ปรึกษาให้ฉัน ฉันจะลองหาข้อมูลและฟังเพลงหลาย ๆ แบบดูก่อนว่าตัวฉันเองชอบสไตล์ไหน แล้วค่อยแต่งออกมาน่าจะดีกว่า”สามสาวนั่งกินไปคุยไปจนเกือบจะห้าโมงเย็นแล้วจึงได้แยกย้ายกันกลับบ้าน ซูหนิงเซียวส่งข้อความไปบอกแม่ของเธอก่อนแล้วว่าจะมานั่งกินไอศกรีมกับเพื่อนจึงไม่ได้กังวลว่าแม่จะเป็นห่วง เธอขับรถกลับคอนโดโดยใช้เวลาเพียง 15 นาทีถึงแม้รถจะติดมากก็ตาม เพราะห้างอยู่ฝั่งเดียวกับคอนโดของเธอที่อยู่ไม่ไกลจึงขับรถได้อย่างสบาย ๆ
หัวหน้าช่างหลังจากอธิบายการใช้งานหลายรูปแบบให้กับซูหนิงเซียวจบก็ชมเธอไม่น้อยกับคำถามต่าง ๆ ที่เธอสงสัย น้อยคนนักที่เขาไปติดตั้งให้จะกล้าถามคำถามเหล่านี้เพราะกลัวเสียหน้า แต่เด็กคนนี้ดูมีความพยายามทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในการใช้งานเครื่องมิกซ์และอุปกรณ์ทั้งหมด ทำให้เขาประทับใจไม่น้อยและยิ่งอยากเห็นผลงานการแต่งเพลงของเด็กคนนี้ในอนาคตอีกด้วย“ขอบคุณพี่มากนะคะที่ช่วยสอนจนหนูเข้าใจวิธีการใช้งานและเทคนิคต่าง ๆ”“เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ หวังว่าพวกผมจะได้ฟังผลงานเพลงดี ๆ จากคุณหนูหลังจากนี้นะครับ”ซูหนิงเซียวยิ้มรับคำของหัวหน้าช่างและชวนเขาออกไปด้านนอกเพื่อบอกแม่ของเธอว่าเรียนรู้กันเสร็จแล้ว จากนั้นซูหนิงจิง กู่ซิงและซูหนิงเซียวรอให้หัวหน้าช่างได้นั่งพักดื่มน้ำทานของว่างก่อนจะส่งพวกเขากลับพร้อมกันตอนนี้เป็นเวลาเกือบห้าโมงเย็นแล้ว ซูหนิงจิงจึงให้ลูกสาวเก็บของว่างและน้ำดื่มทั้งหมดบนโต๊ะรับแขกเข้าไปล้างทำความสะอาด ส่วนเธอจะเตรียมอาหา
หลังวางสายจากผู้จัดการโครงการ ซูหนิงจิงก็บอกเรื่องการติดตั้งแอร์ให้กับช่างทั้งสามคนทราบด้วย เพื่อที่พวกเขาจะได้อยู่รอก่อน เนื่องจากตอนนี้อุปกรณ์ที่เหลืออีกไม่มากกำลังจะติดตั้งเสร็จแล้ว หากพวกเขาทดสอบระบบเสียงก็จำเป็นจะต้องปิดห้องเพื่อเก็บเสียงด้วย เธอจึงกลัวว่าพวกเขาจะขาดอากาศหายใจกันเสียก่อน“ตกลงครับคุณผู้หญิง อีกไม่ถึง 20 นาทีก็น่าจะติดตั้งระบบไฟเรียบร้อยทั้งหมดครับ”“ขอบคุณมากนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะเตรียมของว่างเอาไว้ให้ระหว่างนั่งรอช่างแอร์มาติดตั้งหลังจากนี้ค่ะ”พนักงานทั้งสามต่างขอบคุณซูหนิงจิงแล้วเร่งต่อระบบไฟและเก็บสายให้ดีเพื่อที่เวลามีคนเข้ามาในห้องอัดจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุซูหนิงจิงชวนซูหนิงเซียวเข้าไปเตรียมของว่างเอาไว้ให้ช่างทั้งสามคนก่อนที่พวกเขาจะทำงานเสร็จ กู่ซิงเห็นว่าตัวเองไม่มีอะไรทำก็ขอไปช่วยยกด้วยเช่นกัน“อีกสักพักช่างแอร์จะเข้ามาติดแอร์ห้องอัดเสียงของลูกนะหนิงเซียว แม่แจ้งผู้จัด
“น้องซูอย่าพูดเรื่องผลประโยชน์กับพี่มากเลยค่ะ พี่เห็นหนิงเซียวเหมือนหลานสาวคนหนึ่งจริง ๆ และพี่ก็อยากเห็นว่าหนิงเซียวจะสามารถขึ้นไปสูงได้ถึงขั้นไหนในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะการเป็นนักร้องนักแต่งเพลงก็ดี หรือจะเป็นนางแบบและนักแสดงก็ดี พี่อยากสนับสนุนหนิงเซียวเหมือนน้องซูนั่นแหละค่ะ เพียงแต่พี่ไม่มีต้นทุนมากนักเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ในเมื่อน้องซูวางใจให้พี่ดูแลเบื้องหลังให้หนิงเซียว พี่เองก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ พี่ต้องขอบคุณน้องซูที่เชื่อใจพี่ด้วยนะคะ”“พี่กู่ไม่ต้องขอบคุณน้องหรอกนะคะ เรื่องในวงการบันเทิง ยังไงน้องก็ต้องพึ่งพาพี่กู่ให้แนะนำหนิงเซียวอยู่แล้วค่ะ”“แม่คะ ป้ากู่ คุยอะไรกันคะดูเครียดเชียว” ซูหนิงเซียวเดินมานั่งข้างแม่ก่อนจะถาม“แม่แค่อยากให้ป้ากู่ช่วยเหลือเรื่องดูแลลูกด้านงานเพลงน่ะ ลูกคิดยังไงถ้าจะโปรโมตงานเพลงด้วยตัวเองแทนที่จะเซ็นสัญญากับค่ายเพลง”“หนูคิดว่าก็ไม่เลวนะคะแม่ ถ้ามีการเซ็นส
วันจันทร์ต่อมา ซูหนิงเซียวไปขอลาอาจารย์ในรายวิชาที่เธอจะต้องเรียนในวันอังคารโดยแจ้งเหตุผลให้ทราบเรื่องการติดตั้งห้องแต่งเพลงของเธอที่บ้าน อาจารย์หลายคนเห็นว่าซูหนิงเซียวตั้งใจเรียนมาตลอดจึงเพียงแค่ให้เธอฝากเพื่อนจดเรื่องที่ต้องเรียนในวันพรุ่งนี้แล้วเอาไปทบทวนแทนระหว่างพักเบรกช่วงเที่ยง หานลู่หรงกับโจวเสี่ยวเซียนถามซูหนิงเซียวเรื่องที่เธอขอหยุดในวันพรุ่งนี้ด้วยความสงสัย“นี่หนิงเซียว พรุ่งนี้เธอมีธุระอะไรถึงต้องลาเรียนทั้งวันอ่ะ”โจวเสี่ยวเซียนรีบถามเพื่อนสาวหลังจากรับอาหารมานั่งทานกันที่โต๊ะแล้ว หานลู่หรงเองก็พยักหน้าตามเพื่อนที่ถามซูหนิงเซียวเช่นเดียวกัน“พรุ่งนี้จะมีช่างมาเทสระบบเครื่องมิกซ์เสียงกับอุปกรณ์ในห้องอัดเสียงที่บ้านฉันน่ะ ฉันเลยอยากอยู่ดูและสอบถามวิธีการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ฉันอยากแต่งเพลงเองเลยให้แม่พาไปดูอุปกรณ์พวกนั้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี่เอง”“โอ้โห แม่เธอยอมลงทุน
“พี่คะ หนูขอทราบราคาทั้งหมดได้ไหมคะ รวมราคาทำห้องอัดเสียงเล็ก ๆ ที่บ้านให้หนูด้วยนะคะ”“สักครู่นะครับ พี่ขอไปคุยกับช่างก่อนว่าถ้าเครื่องมิกซ์ขนาดนี้พร้อมทั้งอุปกรณ์เสริมครบชุดจะต้องทำห้องขนาดประมาณเท่าไหร่ เชิญลูกค้านั่งรอที่โซฟาก่อนครับ”ซูหนิงจิงพยักหน้าให้พนักงานขายก่อนจะพาซูหนิงเซียวกับกู่ซิงไปนั่งรอที่โซฟาซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของหน้าร้าน“แม่คะ แม่คิดว่าหนูจะทำได้ไหมเรื่องร้องเพลงกับแต่งเพลง หนูไม่อยากให้แม่ลงทุนโดยเสียเปล่ากับหนูนะคะ”“แม่บอกลูกแล้วว่าให้ทำตามที่ลูกชอบยังไงล่ะ ในเมื่อลูกคิดอยากเข้าวงการบันเทิงแต่แรกและเป็นคนขอแม่เอง แม่ก็สนับสนุนลูกทุกทางเท่านั้น เรื่องการที่ลูกจะประสบความสำเร็จหรือเปล่า ก็อยู่ที่ความพยายามของลูกเองและเหล่าแฟนคลับของลูกที่พวกเขาจะสนับสนุนผลงานของลูกกันมากขนาดไหน”“จริงอย่างที่น้องซูว่านะหนิงเซียว ถ้าหนูตั้งใจที่จะเอาดีทางด้านร้องเพลง