และเป้าหมายแรกที่หลินเฟยจะลงมือก็คือลู่หลีเป็นธรรมดาเพราะทุกครั้งที่พบกับจางซินเยว่เธอจะเป็นคนที่แสดงความไม่พอใจออกมาก่อนเป็นคนแรกและเมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ลู่หลีก็คงต่อต้านอย่างสุดความสามารถไปโดยปริยายแต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะดิ้นรนสักแค่ไหน เธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเฟยเลยแม้แต่น้อยหลังจากถูกลงโทษอย่างหนักหน่วงไปสิบกว่านาที เธอก็ร้องไห้และคร่ำครวญขอความเมตตาต่อจากนั้นในทันที หลินเฟยก็เริ่มสอนบทเรียนให้กับจางซินเยว่อย่างไม่หยุดหย่อนและก็ผ่านไปอีกสิบกว่านาทีเช่นกันจางซินเยว่ถึงได้ยอมรับความพ่ายแพ้ไปอย่างราบคาบเพราะท้ายที่สุดแล้ว หลินเฟยต้องการให้ทั้งสองคนเลิกนิสัยชอบโต้เถียงเมื่อเจอหน้ากันเสียทีโดยที่ในครั้งนี้ เขาก็ไม่ได้ออมแรงเลยแม้แต่น้อย"สิ่งที่ผมเพิ่งพูดไป คุณจำได้แล้วหรือยัง?""ครั้งหน้าเวลาที่พบกับพี่ซินเยว่ คุณยังจะกล้าโต้เถียงกันอีกหรือเปล่า?"หลินเฟยดูอารมณ์ดีและภาคภูมิใจในตัวเองแบบสุดๆ จากนั้นก็ลดสายตามองลงไปที่ลู่หลี พร้อมกับซักถามขึ้นมา"ไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าแล้วหลินเฟย ฉันผิดไปแล้ว...""ต่อไปซินเยว่ก็คือเพื่อนรักของฉัน นายอย่าสั่งสอนฉันอีกเลยนะ
ถังรั่วเสวี่ยพยักหน้าและพูดออกมาพร้อมกับมองส่งซูเสี่ยวโหรวและหลี่เยี่ยนเหมยเดินออกจากคลินิกไปพร้อมกันซึ่งคลินิกในเวลานี้ก็จะเหลือถังรั่วเสวี่ย พานเสี่ยวเหลียน และสวีอิ๋งอิ๋งแค่เพียงสามคนเท่านั้นและปัญหาที่ว่าสวีอิ๋งอิ๋งจะนอนที่ไหนก็ได้รับการแก้ไขไปโดยปริยาย……"เสี่ยวโหรว ดูเหมือนว่าเธอจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะ มีปัญหาอะไรในใจหรือเปล่า?"ระหว่างทาง หลี่เยี่ยนเหมยก็ได้ถามขึ้นมาอย่างสงสัย"ไม่มีหรอกผู้ใหญ่หลี่ ตอนกลางวันฉันเหนื่อยไปหน่อยน่ะ ไม่มีเรื่องในใจอะไรหรอกนะ"ซูเสี่ยวโหรวพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมาเล็กน้อยเดิมทีเธอและหลินเฟยก็แค่อยากจะลองดูก็แค่นั้นเธอไม่เคยคิดที่จะครอบครองหลินเฟย หรือแย่งชิงเขามาจากถังรั่วเสวี่ยและคนอื่นๆ เลยแม้แต่น้อยแต่ทว่าหลังจากที่ได้อยู่ด้วยกันจริงๆเมื่อเห็นหลินเฟยอยู่กับผู้หญิงคนอื่นๆเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาในใจด้วยเช่นกัน"จริงเหรอ? ฉันรู้สึกว่าวันนี้เธอดูแปลกๆ นะ ยังคิดว่ามีใครรังแกเธอเสียอีก ไม่มีก็ดีแล้วล่ะ""แต่ถ้ามีใครมารังแกเธอแล้วละก็ เธอต้องบอกฉันนะ ฉันจะจูงดำใหญ่กับดำเล็กไปกัดมันเลย!"หลี่เยี่ยนเหมยตบอกเพื่อยืนยันความ
"ผู้ใหญ่หลี่คะ คุณอย่า..."ในเวลานี้ มันสายเกินไปเสียแล้วที่ซูเสี่ยวโหรวจะหยุดเธอเอาไว้ได้และทำได้เพียงแค่เดินตามหลี่เยี่ยนเหมยเข้าไปเท่านั้น"ไอ้หนุ่มหลินเฟยนี่ช่างร่ำรวยจริงๆ ไม่เพียงเช่าซื้อที่ดินทั้งหมดในหมู่บ้านของเราเพื่อปลูกผลไม้เท่านั้น""แม้กระทั่งวิลล่าหลังใหญ่ก็สร้างออกมาได้มีสไตล์ขนาดนี้อีก""การตกแต่งภายในก็หรูหรา แม้กระทั่งบ้านของฉัน...แคกๆ แม้แต่บ้านในเมืองก็เทียบไม่ได้เลย"หลี่เยี่ยนเหมยเดินเข้าไปสำรวจทั่วทั้งวิลล่าพร้อมพูดชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง"ผู้ใหญ่หลี่คะ พอประมาณแล้วใช่ไหมคะ?""ฉันง่วงขึ้นมานิดหน่อยแล้ว เรารีบกลับไปนอนกันดีกว่านะ"ซูเสี่ยวโหรวกัดฟันและเดินสำรวจชั้นหนึ่งเป็นเพื่อนหลี่เยี่ยนเหมยจนจบจากนั้นเธอก็ดึงชายเสื้อของหลี่เยี่ยนเหมย พร้อมกับพูดออกมาโชคดีที่ว่าบริเวณชั้นหนึ่งที่พวกเธออยู่ไม่ได้ยินเสียงอะไรที่แปลกๆ แต่อย่างใดไม่อย่างนั้นแล้ว ซูเสี่ยวโหรวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอธิบายกับหลี่เยี่ยนเหมยอย่างไรได้เช่นกัน"เสี่ยวโหรว กว่าฉันจะเข้ามาได้ เธออยู่เดินสำรวจเป็นเพื่อนฉันอีกสักพักเถอะนะ ชั้นสองชั้นสามเรายังไม่ได้ขึ้นไปดูเลย""ดูเสร็จพวกเราก็จ
"พี่จะสอนบทเรียนให้ไอ้สารเลวคนนี้แทนเธอเอง!""มีอะไรกับเธอแล้ว ยังไปเล่นเลอะเทอะข้างนอกขนาดนี้อีก?""ช่างเป็นผู้ชายกากเสียจริงๆ!"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว หลี่เยี่ยนเหมยก็โกรธแค้นแทนซูเสี่ยวโหรวขึ้นมาทันทีเธอจึงตะคอกด้วยความโกรธออกไปแบบนั้น"ผู้ใหญ่หลี่คะ คุณอย่าเข้าไปเลยนะ มันเป็นความสมัครใจของฉันทั้งหมด ความจริงแล้วฉันรู้ว่าหลินเฟยมีผู้หญิงรอบกายมากมายขนาดนั้นมาตั้งนานแล้วค่ะ""ฉันไม่ได้โทษเขา ฉันแค่รู้สึกไม่สบายใจอยู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง เดี๋ยวก็หายแล้วล่ะค่ะ""คุณอย่าโกรธหลินเฟยเลยนะ ได้หรือเปล่า?"ซูเสี่ยวโหรวรีบเข้ามาขวางหลี่เยี่ยนเหมยเอาไว้ พร้อมกับพูดออกมา"นี่มัน...น้องเสี่ยวโหรว ไอ้หนุ่มหลินเฟยนั่นมีดีอะไรนักหนา?""มันคุ้มไหมที่เธอจะเอาตัวมาปกป้องเขาแบบนี้?"หลี่เยี่ยนเหมยขมวดคิ้วแน่น พร้อมพูดออกมาด้วยความสับสน"เธอคงไม่ได้ถูกเขารับเลี้ยงหรอกใช่ไหม?""ไม่หรอกค่ะผู้ใหญ่หลี่ ฉันแค่รู้สึกว่าหลินเฟยเป็นคนดี ก็เลยถูกเขาดึงดูดอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้"ซูเสี่ยวโหรวพูดขณะที่ถอนหายใจออกมา"โอ้พระเจ้า นี่เธอมีอะไรกับเขาโดยไม่ได้จับเงินเลยอย่างนั้นเหรอ?""แล้วเธอมีจุดม
"จริงเหรอคะคุณพ่อ? คุณพ่อคงไม่ได้ล้อหนูเล่นหรอกใช่ไหม?"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว เจียงเฉินหยู่ก็เปลี่ยนจากความกังวลมาเป็นความยินดี พร้อมถามด้วยความไม่เชื่อออกมาขณะนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลเจียงเฉินหยู่นั้นคิดถึงหลินเฟยมากเสียจริงๆนับตั้งแต่แยกตัวออกจากหลินเฟย เธอก็รู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งที่สำคัญในชีวิตได้ขาดหายไปอย่างไงอย่างงั้นและน่าเสียดายที่ว่า เจียงเจี้ยนเย่ได้ให้คนยึดโทรศัพท์มือถือของเจียงเฉินหยู่ไปเสียแล้วโดยบอกว่าให้เธอตั้งใจรักษาตัวให้ดีๆไม่อย่างนั้นแล้ว เจียงเฉินหยู่ก็คงระงับความคิดถึงในใจเอาไว้ไม่อยู่ และโทรหาหลินเฟยตั้งนานแล้ว"มันก็ต้องจริงอยู่แล้วล่ะ หนูเป็นลูกสาวของพ่อนะ พ่อเคยโกหกหนูตั้งแต่เมื่อไหร่?"เจียงเจี้ยนเย่ยิ้มอย่างจริงใจ"เยี่ยมไปเลยค่ะคุณพ่อ!""งั้นพรุ่งนี้พ่อต้องรีบมาตั้งแต่เช้านะคะ ไปทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลพร้อมกับหนู!""จริงด้วยสิ พ่ออย่ามือเอาโทรศัพท์มือถือมาให้หนูด้วยนะ!"เจียงเฉินหยู่พูดอย่างร่าเริงออกมา"ฮ่าฮ่า ได้สิ งั้นหนูพักคืนสุดท้ายที่นี่ก็แล้วกันนะ""พ่อจะกลับไปที่บริษัทเพื่อจัดการเรื่องต่างๆ ก่อน พรุ่งนี้เช้าพ่อจะมาหา""จริงด้
จากนั้นเธอก็ถูกหลินเฟยอุ้มกลับไปที่คลินิกในเวลานี้ ซูเสี่ยวโหรวก็ได้กลับมาจากที่พักของหลี่เยี่ยนเหมย และเตรียมอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว"หลินเฟย ซินเยว่ พวกคุณมาได้เวลาพอดีเลย รีบล้างมือและนั่งลงกินข้าวกันเถอะ"ซูเสี่ยวโหรวยกอาหารเช้าและเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมพูดกับทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม"วันนี้ซินเยว่รู้สึกไม่สบายนิดหน่อย ให้เธอพักผ่อนสักครู่ พวกเรากินกันไปก่อนก็แล้วกัน""จริงด้วยสิพี่เสี่ยวโหรว อาเล็ก พี่อิ๋งและคนอื่นๆ ล่ะ?"หลินเฟยมองเข้าไปในคลินิกพร้อมกับถามขึ้นมา"ไปดูต้นกล้าที่อ่างเก็บน้ำกันน่ะ เดี๋ยวก็น่าจะกลับมาแล้วล่ะ ให้ฉันไปเรียกป้าถังกลับมาไหม?"ซูเสี่ยวโหรวพูดตามความเป็นจริง"อ้อ ไม่ต้องหรอกครับ งั้นรออาเล็กและคนอื่นๆ กลับมาก่อนก็ได้"หลินเฟยพยักหน้าพร้อมกับพูดออกมาทันทีที่พูดจบก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังแว่วมาจากด้านนอกของคลินิกที่แท้ก็เป็นผู้ถือหุ้นบางส่วนของบริษัทเภสัชกรรมหนานผิงที่ได้ขับรถนำเงินสดห้าสิบล้านบาทมาตามคำสั่งของจางซินเยว่พร้อมกับขนต้นกล้าตัวยาสมุนไพรที่หลินเฟยต้องการทั้งหมดมาอีกด้วยหลินเฟยได้ให้คนขนต้นกล้าตัวยาสมุนไพรลงมาไว้ที่หน้าประตูของคล
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ร่าเริงแบบนั้นแล้วหลินเฟยก็สามารถเดาเจ้าของเสียงนั้นขึ้นมาได้หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาสักระยะหนึ่ง จริงๆ แล้วหลินเฟยก็อยากจะเจอเจียงเฉินหยู่ด้วยเช่นกันแต่ทว่าคำพูดของเจียงเฉินหยู่ มันกลับทำให้หลินเฟยรู้สึกอ่อนแรงอยู่เล็กน้อย"คุณเจียงครับ ช่วงนี้ผมค่อนข้างจะยุ่งน่ะครับ""ผมได้เช่าซื้อที่ดินสองพันเอเคอร์ในหมู่บ้าน เตรียมที่จะปลูกไม้ผลและตัวยาสมุนไพรนิดหน่อยน่ะครับ""ถ้าอย่างนั้นรอให้ผมเสร็จงานในส่วนนี้เสียก่อน แล้วผมจะพาอาเล็กเข้าไปหาคุณในเมืองจะดีหรือเปล่าครับ?""ปลูกไม้ผลและตัวยาสมุนไพรอย่างนั้นเหรอ?""หลินเฟย ตอนที่แยกกัน พ่อของฉันให้เช็คแสนล้านกับคุณไม่ใช่เหรอ?""คุณไม่เห็นจำเป็นต้องมาทำอะไรพวกนี้เลยนะ""อีกอย่าง ด้วยความสามารถของคุณแล้ว แค่ทำอะไรนิดหน่อยมันก็ดีกว่าการปลูกไม้ผลและตัวยาสมุนไพรไม่ใช่เหรอ?""เราแยกกันนานขนาดนี้แล้ว แม้แต่โทรศัพท์คุณก็ไม่เคยโทรหาฉันเลยสักสาย""คงไม่ใช่เพราะไม่อยากจะเจอฉัน คุณเลยหาข้ออ้างอะไรแบบนั้นหรอกนะ?"เจียงเฉินหยู่พูดอย่างไม่ค่อยจะพอใจมากนัก"คุณเจียง ผมจะไม่อยากเจอคุณได้ยังไงกันล่ะ?""ผมฝันถึงคุณแทบจะทุกคืนเล
แน่นอนว่าในใจของเธอไม่อยากจะให้หลินเฟยไปอยู่แล้วแต่ในเมื่อหลินเฟยไปทำอะไรกับใครเขาเอาไว้แล้วเธอก็ไม่สามารถจะปล่อยให้หลินเฟยทิ้งเจียงเฉินหยู่ไปด้วยเช่นกัน"พรุ่งนี้ก็แล้วกันครับ ผมจะอยู่กับพวกคุณอีกหนึ่งวัน จะได้จัดเตรียมต้นกล้าไม้ผลและตัวยาสมุนไพรให้เรียบร้อยด้วย""แต่อาเล็กไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะครับ""ต่อให้พวกเราจะไปแล้ว ก็ใช้เวลาอยู่ที่นั่นไม่นานหรอก พอสามารถกลับมาได้ เราก็จะกลับกันเลยนะ"หลินเฟยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดออกมา"เสี่ยวเฟยนะเสี่ยวเฟย นายจะให้อาเล็กพูดกับนายว่ายังไงดี?""นายจะต้องยุ่งกับผู้หญิงอีกสักกี่คน นายถึงจะหยุดเสียที"ถังรั่วเสวี่ยถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับพูดออกมา"อาเล็กครับ ผม ผมรับปากกับอาว่า""ต่อไปผมจะไม่ไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นๆ อีกแล้ว""อาอย่าโกรธเลยนะ ต่อให้ผมจะมีผู้หญิงอยู่ข้างกายมากมายเท่าไหร่""แต่คนที่ผมแคร์ที่สุดก็ยังเป็นอาอยู่ดีนะครับ"หลินเฟยตบมือหยกของถังรั่วเสวี่ยเบาๆ และพูดยืนยันออกมา"อืม นายจะไปหาพี่หลิ่วไม่ใช่เหรอ?""รีบไปเถอะ พอเสร็จแล้วอาเล็กจะไปซื้อกับข้าวเป็นเพื่อน"ถังรั่วเสวี่ยลูบศีรษะของหลินเฟย พร้อมกับพูดออกม
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได