หลินเฟยคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า สายตรวจหญิงกลุ่มนี้จะแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ทุกคำพูดมีนัยทั้งหมดและดูเหมือนจะแกล้งหยอกล้อเขาอย่างคลุมเครืออะไรแบบนั้น!"เหอะๆ ผมเป็นเด็กดีที่จิตใจบริสุทธิ์นะครับ""ผมไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้หรอก""หากพวกคุณขืนยังวิพากษ์วิจารณ์อยู่ ระวังผู้อำนวยการลู่มาได้ยินเข้าแล้วจะจัดการพวกคุณนะ!"หลินเฟยบุ้ยๆ ปาก และทำเป็นไม่แยแสและพูดอย่าง 'ขู่' เล็กน้อย"วางใจเถอะคุณหมอเทวดาหลิน พวกเราก็เห็นว่าคุณอายุยังน้อยอยู่ ก็เลยล้อเล่นแค่นั้นแหละ""เรื่องแบบนี้ พวกเรารู้ดี จะไม่เที่ยวไปพูดที่ไหนอย่างแน่นอน"สายตรวจหญิงกลุ่มนั้นยิ่งหัวเราะเสียงดังมากขึ้นกว่าเดิมสายตาที่มองมายังหลินเฟยนั้น ราวกับมองน้องชายของตัวเองเมื่อถูกพวกเธอมองแบบนี้ หลินเฟยก็รู้สึกขนลุกขนชันขึ้นมาทันทีกระทั่งสงสัยเสียด้วยซ้ำว่า พวกเธอก็มีตาทิพย์อยู่เหมือนกันหรือเปล่าจึงทำได้เพียงหาข้ออ้างในการโทรหาผู้อำนวยการโม่เพื่อถอยออกห่างจากสถานที่นี้ โดยกลับมารออยู่ที่รถผ่านไปไม่นานรถหรูคันหนึ่งก็ได้ขับมาจอดอยู่หน้าสำนักงานสายตรวจเมื่อประตูรถถูกเปิดออกสาวสวยที่รูปร่างสูงโปร่ง สง่างาม และน่าทึ่งส
มู่ชิงชิงเงยหน้ามามองหลินเฟยอย่างเคลิ้มๆ แล้วพูดขึ้นมาเมื่อมองเห็นปากเชอร์รี่เล็กๆ แบบนั้นแล้ว หัวใจของหลินเฟยก็สั่นสะท้านเขากอดมู่ชิงชิงเอาไว้แน่น และคิดอยากจะจูบลงไปสักทีแต่ผลที่ตามมาก็คือ ทุกอย่างได้ถูกเหลิ่งหนิงซวงที่อยู่ข้างๆ ขัดจังหวะไปเสียหมด"เฮ้ พวกคุณสองคนอย่าให้มันมากเกินไปนะ!""ถ้าอยากจะหวานแหววกัน ก็รอให้ส่งผู้อำนวยการโม่เสียก่อน แล้วพวกคุณค่อยกลับไปหวานแหววกันต่อที่วิลล่าก็แล้วกัน!""ฉันไม่อยากจะเป็นก้างขวางคอของพวกคุณหรอกนะ!"ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อพูดแบบนี้ออกมาเหลิ่งหนิงซวงกลับรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ในใจขึ้นมาจริงๆ"ช่างมันเถอะหลินเฟย ทางนั้นยังมีคนมองดูอยู่นะ…""ถ้าคุณมีเวลา ค่อยไปหาหนิงซวงที่วิลล่าก็แล้วกัน"เพราะท้ายที่สุดแล้ว มู่ชิงชิงไม่ใช่คนที่หน้าหนาเท่ากับหลินเฟยขนาดนั้นเธอเหลือบมองไปทางสายตรวจหญิงพวกนั้นพร้อมผลักหลินเฟยออกไปเบาๆ ทั้งขมขื่นและหวานแหววอยู่เล็กน้อยโชคดีที่เธอและหลินเฟยมีรถช่วยบังเอาไว้สายตรวจหญิงเหล่านั้นจึงมองไม่ชัดว่าหลินเฟยทำอะไรกับมู่ชิงชิงกันแน่"มี น่าจะมีเวลาน่ะ"หลินเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดตามความจริง"หลังจากส่งผู้อำนวยกา
"เรื่องอะไรเหรอผู้อำนวยการโม่ คุณพูดมาตรงๆ เถอะ""ถ้าคุณพบปัญหาอะไรแล้วละก็ พวกเราสามารถช่วยคุณได้นะ"หลินเฟยถามอย่างสงสัย"ใช่ หรือว่าจะเป็นเพื่อนหรือญาติพี่น้องทางนี้ ต้องการคนดูแล?""ถ้าเป็นแบบนั้น เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ไว้เป็นหน้าที่ของฉันเถอะ ฉันจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด!"เหลิ่งชิงซงพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อได้เห็นโม่หลินกำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งและย้ายไปอยู่ในตัวเมืองเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาขึ้นมาแต่อย่างไรก็ตาม เหลิ่งชิงซงก็รู้ดีว่าต่อไปขอแค่เขารักษาความสัมพันธ์กับหลินเฟยตลอดไป การเลื่อนตำแหน่งมันก็เพียงรอเวลาเท่านั้นแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่ด้วยความสัมพันธ์ของหลินเฟย โดยพื้นฐานแล้วจะไม่มีใครแตะต้องเขาได้"ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ ญาติพี่น้องและผองเพื่อนของฉันได้ดูแลมาตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วล่ะ ความจริงแล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับลู่หลีน่ะ"เมื่อได้ยินคำพูดของคนทั้งสอง โม่หลินก็ส่ายหน้าแล้วพูดออกมา"เกี่ยวข้องกับฉัน? หรือว่าฉันไปทำอะไรผิดเอาไว้?"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ลู่หลีก็ถามด้วยความสงสัยขึ้นมาทันที"คุณคิดมากไปแล้วล่ะเสี่ยวลู่"โม่หลินส่ายหน้าอย่างขบขัน
หลังจากพูดคุยกันต่อไปได้อีกสักระยะหนึ่งตรงมุมทางเดินที่ไม่ไกลออกไปมากนักเจ้าหน้าที่สายตรวจสองนายก็ได้พาหญิงสาวผมบลอนด์คนหนึ่งเดินออกมาใบหน้าของเธอสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ผิวขาวราวกับน้ำนมตามแบบฉบับของผู้หญิงตะวันตก อกยื่นตูดงอน เอวคอดราวกับผึ้งน้อยแม้ว่าจะใส่กุญแจมือ โดยระบุว่าเธอเป็นนักโทษคนหนึ่งแต่ก็ยังยากที่จะเก็บซ่อนออร่าที่ไม่ซ้ำใครเอาไว้ได้เธอคืออลิซ สมาชิกองค์กรแบล็คโกลฟส์คนสำคัญที่ถูกหลินเฟยและลู่หลีจับมาตอนนั้นนั่นเอง!หลังจากผ่านไปหลายวัน สาวผมบลอนด์ชาวหมี่คนนี้ก็ยังสามารถจำหลินเฟยที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนได้เพียงแค่ชำเลืองตามองเท่านั้น!ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและโกรธแค้น!"ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ในที่สุดเราก็พบกันอีกครั้งจนได้!""ใช่ เราพบกันอีกแล้วนะ อีแก่ชาวหมี่ ดูจากสายตา หรือว่าอยากจะกินฉันเสียให้ได้?"หลินเฟยหัวเราะคิกคัก แล้วเดินเข้าไปทักทายอย่าง 'อบอุ่น'หากในตอนนี้มีคนไม่มาก หลินเฟยก็คงจะกระโจนเข้าไปเตะก้นของเธอสักครั้งแล้ว"กินนายน่ะเหรอ? ใช่ เลือดของนายอร่อยมากเลยนะ ฉันลืมไม่ลงเลยล่ะ อยากจะกินนายอีกจริงๆ!"อลิซเลียริมฝีปาก แล้วพูดด้วยสีหน้าและแวว
หลังจากมองส่งโม่หลินและกลุ่มคนจากไปไกลแล้วนั้นเหลิ่งชิงซงถามหลินเฟยว่ามีเวลาเข้าไปพบปะสังสรรค์ในเมืองหรือไม่หลังจากหลินเฟยปฏิเสธไปอย่างอ้อมๆ เพราะยังมีงานที่จะต้องทำเขาจึงขึ้นรถและขับนำหน้าออกไปก่อน"หลินเฟย พวกเราก็ควรจะกลับแล้วนะ มีเวลาก็ค่อยเจอกัน!"ในตอนแรกมู่ชิงชิงต้องการอยู่ต่อและไปกับหลินเฟยแต่เหลิ่งหนิงซวงกลับพูดทักทายหลินเฟยและลากเธอขึ้นไปในรถโดยตรง"หนิงซวง เดี๋ยวหลินเฟยยังต้องกลับไปที่วิลล่ากับฉันอยู่นะ เธอลากฉันมาทำไมกัน?"หลังจากเข้าไปในรถ มู่ชิงชิงก็พร่ำบ่นขึ้นมาเล็กน้อย"นี่พี่ แม้แต่พ่อของฉัน หลินเฟยยังไม่ได้กลับไปด้วยเลย""คงเป็นเพราะลู่หลีคนนั้นแน่ๆ""ในเมื่อเขารับปากว่าจะกลับไปกับพี่ เขาก็ต้องทำได้อยู่แล้วล่ะ""ในเวลานี้ถ้าพี่อยู่รอเขาแล้วละก็ พี่แต่งตัวสวยขนาดนี้ ถ้าหากลู่หลีนั่นเกิดสงสัยจะทำอย่างไรล่ะ?"เหลิ่งหนิงซวงพูดด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลใจ"ก็จริงนะ ทำไมฉันคิดไม่ถึงเลยล่ะ ขอบคุณเธอมากนะหนิงซวง"หลังจากนั้นมู่ชิงชิงถึงจะคิดขึ้นมาได้พร้อมกับพูดขอบคุณเหลิ่งหนิงซวงไปเสียยกใหญ่"เฮ้อ ขอบคุณสองคำนี้ฉันฟังมาพอแล้วล่ะ ฉันแค่หวังว่าพี่สาวของฉันจะ
"เธอเอากุญแจวิลล่ามาให้ฉันเถอะ แล้วเธอก็ออกไปช้อปปิ้งได้!""รอให้หลินเฟยออกไปตอนบ่าย แล้วเธอก็ค่อยกลับมาก็แล้วกัน!"เมื่อเห็นว่าหลินเฟยเดินออกจากสำนักงานสายตรวจมู่ชิงชิงก็รีบตะโกนเรียกเหลิ่งหนิงซวงอย่างมีความสุข"อ้อ โอเคพี่สาว นี่กุญแจ…"เมื่อเห็นมู่ชิงชิงมีความสุขมากขนาดนี้ เหลิ่งหนิงซวงก็ยิ่งกระอึกกระอักในใจมากไปกว่าเดิมทั้งๆ ที่เธอรู้จักกับหลินเฟยก่อนแต่ตอนนี้กลับเป็นมู่ชิงชิงที่รู้จักหลินเฟยทีหลัง และได้อยู่กับหลินเฟยแบบนี้!ขณะที่เธอกำลังจะยื่นส่งกุญแจให้กับมู่ชิงชิงจู่ๆ เหลิ่งหนิงซวงก็ตัดสินใจอะไรบางอย่างขึ้นมาและใส่มันกลับเข้าไปในกระเป๋าพร้อมพูดกับมู่ชิงชิงอย่างหลีกเลี่ยงสายตาว่า"จริงด้วยสิพี่ จู่ๆ ฉันก็คิดอะไรขึ้นมาได้ ฉันมีของที่สำคัญมากลืมไว้ที่วิลล่าน่ะ""ถ้าอย่างนั้น ฉันไปส่งพี่ดีกว่านะ""พอฉันได้ของแล้ว ฉันจะออกไปทันที""งั้นก็ได้ งั้นเรากลับไปกันเถอะ""ฉันจะบอกให้หลินเฟยขับรถตามพวกเราไปก็แล้วกันนะ"มู่ชิงชิงก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จึงพยักหน้าตอบรับทันทีหลังจากลงจากรถแล้วหลังจากที่มู่ชิงชิงได้อธิบายสถานการณ์อย่างคร่าวๆ ให้หลินเฟยฟังเธอก็กลับเข้าไป
แม้ว่าหลินเฟยจะไม่ได้ดูแข็งแกร่งขนาดนั้นแต่หลังจากที่เขาได้กดทับร่างกายของมู่ชิงชิงเอาไว้อย่างแน่นหนาขนาดนั้นมู่ชิงชิงถึงจะได้รับรู้ว่าพลังระเบิดที่มีอยู่ในร่างกายของหลินเฟยนั้น!มันได้รีเฟรชความคิดของมู่ชิงชิงไปเสียใหม่แล้ว!หัวใจของมู่ชิงชิงเต้นไม่เป็นจังหวะและมันก็เต้นตึกตักไปเรื่อยๆเธอทั้งตื่นตระหนก ตกใจ เต็มไปด้วยความคาดหวัง และก็ยังรู้สึกเคอะเขินเป็นอย่างมาก!เธอคร่ำครวญและพูดขึ้นมาว่า"อืม...หลินเฟย หลินเฟย คุณอย่าเพิ่งรีบถอดเสื้อผ้าของฉันเลยนะ!""ฉัน... ฉันยังไม่พร้อม คุณให้ฉันเตรียมตัวสักหน่อยจะได้ไหม!""ฉันค้นหาในโทรศัพท์มือถือแล้ว""หากผู้หญิงยังไม่มีอารมณ์ การทำแบบนั้นมันก็จะน่าเบื่อเอาเสียมากๆ…""อ้อ? แม้แต่เรื่องแบบนี้ คุณก็ยังค้นหาแล้ว!""แหะๆ งั้นคุณได้ค้นหาหรือเปล่าว่า คุณจะมีอารมณ์ได้เร็วมากแค่ไหน?"เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้ว หลินเฟยก็ขมวดคิ้วด้วยความสนใจและดวงตานั้นก็เปล่งประกายขึ้นมาทันทีราวกับคนโรคจิตที่หิวโหยเป็นอย่างมากพร้อมกับกวาดตามองไปที่ร่างกายของมู่ชิงชิงอย่างตะกละตะกลามมู่ชิงชิงพูดถูกเรื่องแบบนี้ หากผู้หญิงยังไม่ได้รู้สึกอะไรผู้
หลังจากนั้นไม่นานในความเป็นจริง เธอก็ได้แอบเดินกลับมาที่นี่อีกครั้งแต่ทว่า เธอไม่ได้กลับมาที่วิลล่าแต่อย่างใดแต่เธอกลับแอบอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้านหลังวิลล่าเสียต่างหากและสถานที่นี้มู่ชิงชิงและหลินเฟยไม่สามารถสังเกตได้"หืม...นี่พี่ชิงชิงกับหลินเฟย คงจะอยู่กันแล้วใช่ไหม?"เหลิ่งหนิงซวงรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย พร้อมกับหยิบรีโมทคอนโทรลออกมาจากกระเป๋ารวมถึงโทรศัพท์มือถือ จากนั้นเธอก็ปรับไปที่ศูนย์ควบคุมของซอฟต์แวร์ตรวจสอบบางอย่างจากนั้น เธอก็ได้หันไปทางห้องที่มู่ชิงชิงและหลินเฟยอยู่พร้อมกับกดสวิตช์รีโมทคอนโทรลเบาๆใช่แล้ว ห้องของเหลิ่งหนิงซวง ความจริงแล้วเธอติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ เพียงแต่ว่า เธอไม่เคยใช้มันมาก่อนก็เท่านั้นเองและในครั้งนี้เธอได้หยิบมันออกมา เพื่อใช้ในจุดประสงค์อื่นๆหลังจากนั้นไม่นานบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ฉากในห้องของเหลิ่งหนิงซวงและหลินเฟยก็ได้ปรากฏขึ้นมาเนื้อหาในนั้น รวมถึงเสียงที่ดังขึ้นมาจู่ๆ มันก็ทำให้ดวงตาของเหลิ่งหนิงซวงเบิกกว้าง และใบหน้าก็แดงก่ำไปจนถึงใบหู"นี่พี่ร้องไห้จริงๆ...""หลินเฟยทำไมถึง...""โอ้พระเจ้า...ทำไมถึง...""แค่ดูอย่างเดียวไ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได