จากนั้นเขาก็ขับรถพาสวีอิ๋งอิ๋งออกจากคลินิกไป"ว้าว คันนี้คือเมอร์เซเดส เบนซ์ มายบัคใช่ไหม?""ได้ยินมาว่ามันหลายล้านมากเลยนะ!""หลินเฟย ดูไม่ออกเลยนะว่า คุณเป็นเศรษฐีที่ถ่อมตัวคนหนึ่งด้วย!"สวีอิ๋งอิ๋งนั่งแถวหลังและอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจขึ้นมา"ผมไม่ถือว่าเป็นเศรษฐีอะไรหรอกนะ แต่ถ้าพี่อิ๋งทำงานให้ดีๆ ต่อไปเมื่อสวนใหญ่ขึ้น"หลินเฟยยิ้มอย่างเรียบๆ ออกมา"คุณก็สามารถซื้อมันได้ด้วยเช่นกัน""จริงเหรอ? คุณนี่ชอบล้อเล่นกับฉันจริงๆ ฉันแค่ได้นั่งรถของคุณเป็นครั้งคราว ฉันก็พอใจมากแล้วล่ะ!"สวีอิ๋งอิ๋งพูดพร้อมกับแลบลิ้นออกมา"ฉันว่าชีวิตนี้ฉันก็คงจะซื้อไม่ได้หรอก""ไม่แน่หรอกนะ ทุกเรื่องมีความเป็นไปได้ทั้งหมด!"หลินเฟยยิ้มๆ และไม่พูดอะไรอีก……ในเวลาเดียวกันทันทีที่ซูเสี่ยวโหรวได้มาถึงบ้านของหลี่เยี่ยนเหมยก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรออกไปหลี่เยี่ยนเหมยก็ได้ดึงเธอเข้ามาในห้อง พร้อมกับล็อกประตูอย่างแน่นหน้าจากนั้นก็พูดอย่างเป็นกังวลว่า"เสี่ยวโหรว เธอมาได้เสียที ฉันจะบอกอะไรเธอนะ วันนี้ฉันไปพบเรื่องที่หาคำอธิบายอะไรไม่ได้เลยมาด้วยล่ะ…""เกิดอะไรขึ้น ผู้ใหญ่หลี่?"ซูเสี่ยวโหรวพูดด้
"หือ...ผู้ใหญ่หลี่ เรื่องแบบนี้ ฉันจะช่วยคุณดูได้อย่างไร…"ซูเสี่ยวโหรวอดไม่ได้ที่จะเขินอายขึ้นมาเธอกำลังคิดจะบอกหลี่เยี่ยนเหมยว่า หากมีอะไรที่ผิดปกติไปก็สามารถรับรู้ได้หากสัมผัสอย่างละเอียดแต่ทว่า หลี่เยี่ยนเหมยกลับไม่ได้ให้โอกาสให้เธอพูดต่อเพียงแค่ไม่กี่ที เธอก็ได้ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดแล้วซูเสี่ยวโหรวหน้าแดงก่ำ และรีบเบนสายตาไปทางอื่น"เสี่ยวโหรว เราเป็นผู้หญิงด้วยกัน เธอไม่จำเป็นจะต้องอายหรอกนะ""ถ้าเธอไม่ช่วยฉันดู ฉันก็ไม่รู้จะไปหาคนที่เหมาะสมมาช่วยฉันอย่างไรแล้ว""ถ้าหาคำตอบในเรื่องนี้ไม่ได้ เกรงว่าคืนนี้ฉันก็คงจะไม่มีกะจิตกะใจที่จะข่มตานอนได้แล้วล่ะ"หลี่เยี่ยนเหมยเดินเข้ามาหาเธอ จับมือซูเสี่ยวโหรวเอาไว้แน่น พร้อมพูดขอร้องออกมาเธอได้พูดถึงขนาดนี้แล้วแน่นอนว่าซูเสี่ยวโหรวคงจะไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะปฏิเสธไปได้อีกแล้วนอกจากนี้ เธอก็อยากจะเห็นอย่างชัดเจนว่า หลินเฟยได้ทำอะไรหลี่เยี่ยนเหมยไปจริงๆ แล้วหรือเปล่า!หากมีแล้วละก็ มันน่าจะทิ้งร่องรอยเอาไว้อย่างชัดเจนแน่นอน!"งั้นก็ได้ ผู้ใหญ่หลี่ ฉันช่วยคุณดูก็ได้…"ซูเสี่ยวโหรวอดทนต่ออารมณ์แปลกๆ ในใจย่อตัวลง แล
เมื่อถอดรองเท้า ถุงเท้า และเสื้อคลุมเรียบร้อยแล้ว เธอก็ขึ้นไปบนเตียง พร้อมนอนพักผ่อนทันที"โอเค งั้นเราเข้านอนกันเถอะ""เตียงไม่ค่อยจะใหญ่ เราสองคนต้องนอนเบียดๆ กันหน่อย ต้องลำบากเธอแล้วนะ"หลี่เยี่ยนเหมยปิดไฟ และนอนลงข้างๆ ซูเสี่ยวโหรว……ในเวลาเดียวกัน หลินเฟยก็ได้พาสวีอิ๋งอิ๋งไปส่งที่หมู่บ้านสวีเจียแล้วระหว่างที่ขับรถกลับมานั้นใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที หลินเฟยก็ขับรถกลับมาถึงคลินิกแล้วเมื่อลงจากรถหลินเฟยก็ได้หยิบเคล็ดลับวิชาการต่อสู้ที่โจวจื่อหลงนำมาให้นั้นลงมาด้วยโดยคิดเอาไว้ว่า เขาจะหยิบมันมาศึกษาเมื่อมีเวลาว่างในขณะนี้ถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนก็กำลังลูบปลอบโยนลูกเสือสองสามตัวที่กำลังร้องเสียงหลงอยู่แต่ทว่า เสือใหญ่สองตัวกลับไม่ได้อยู่ด้วยแม้ว่าถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนจะพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ตามพวกเธอก็ยังไม่สามารถที่จะปลอบโยนให้ลูกเสือพวกนั้นหยุดร้องได้"อาเล็ก พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน พวกคุณไปอาบน้ำเถอะ""ลูกเสือพวกนี้ไว้เป็นหน้าที่ของผมเถอะ"เมื่อเห็นว่าถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนทำอะไรไม่ถูกหลินเฟยก็วางหนังสือเคล็ดลับไว้ข้างๆ แล้วพูดอย่า
"ไอ้ผีทะเล วันๆ เอาแต่คิดเรื่องแบบนั้น?"เมื่อได้ยินเสียงที่หมดความอดทนของหลินเฟยถังรั่วเสวี่ยก็ทั้งโกรธและขบขันเป็นอย่างมาก"วันนี้อาเล็กไม่ค่อยสบาย เรื่องแบบนั้นนายอย่าคิดไปเลย ค่อยว่ากันวันอื่นเถอะ""วันอื่นมันเมื่อไหร่ล่ะ? ไม่ได้ ต้องวันนี้ สองวันแล้วนะที่ผมไม่ได้แตะต้องอาเล็ก คิดถึงจะตายอยู่แล้ว!"และหลินเฟยก็ใช้ตาทิพย์ของเขาโดยตรงซึ่งร่างกายที่ขาวราวกับหิมะก็ได้เผยออกมาจนหมดสิ้นเขามองจนน้ำลายไหล และลูกตาเกือบจะถลนออกมาแล้ว!"ฮึ่ม งั้นนายก็คิดให้พอเถอะ!""คืนนี้อาเล็กไม่มีอารมณ์!" เสียงที่เย้ายวนของถังรั่วเสวี่ยได้ดังแว่วมาความจริงแล้ว เธอก็แค่อยากจะแกล้งหลินเฟยเท่านั้นเอง"พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน คุณเปิดประตูให้ผมหน่อยสิ!""ผมก็คิดถึงคุณเหมือนกัน!""ผมอยากจะกอดคุณเสียเหลือเกิน!"ยิ่งถังรั่วเสวี่ยปฏิเสธมากเท่าไหร่ ไฟในใจของหลินเฟยก็ลุกโชนมากขึ้นเท่านั้นจากนั้นเขาก็หันไปพูดกับพานเสี่ยวเหลียนต่อ"ถุย นายคิดถึงอาเล็กไปเถอะ พี่สะใภ้ไม่คิดถึงนายหรอกนะ!""คืนนี้พี่สะใภ้ไม่มีอารมณ์ นายอยากจะไปหาใครก็ไป!"พานเสี่ยวเหลียนทำตามคำแนะนำของถังรั่วเสวี่ย พร้อมกับพูดล้อเลียนห
"หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ไม่ว่านายจะเสร็จหรือไม่ ก็อย่ามาทรมานพวกเราอีก…""แหะๆ วางใจได้เลยอาเล็ก ไม่ว่าผมจะเสร็จหรือไม่ ผมก็ต้องทำให้พวกคุณเสร็จก็พอแล้ว!"ฟิ้ว และหลินเฟยก็หมุดเข้ามาทันทีจากนั้นก็ล็อกประตูไม้เอาไว้อย่างแน่นหนาอย่างไรก็ตาม เมื่อถึงตอนดึกๆ เขายังจะได้ทำแบบนั้นกับลู่หลีอยู่ดี!ตอนนี้แค่เพิ่มน้ำมันหล่อลื่นกับถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนก่อนก็แล้วกัน!……และในขณะที่หลินเฟยกำลังต่อสู้กับถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนอย่างเมามันและติดหนึบเหมือนกาวอยู่นั้นในคืนที่มืดมิดรูปร่างที่สง่างามอาศัยแสงสลัวๆ บนโทรศัพท์มือถือของเธอคลำอย่างช้าๆ เข้ามาทางคลินิกแต่เมื่อเธอเดินผ่านห้องน้ำไปก็มีเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากข้างในและมันก็ทำให้เธอหยุดฝีเท้าลงอย่างไม่รู้ตัว"เสียงของถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียน ยังมีหลินเฟยอยู่ด้วย… ""โอ้พระเจ้า……"ที่แท้ ผู้ที่มาเยือนไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นหลิ่วจือจินที่กำลังทำงานล่วงเวลาเพื่อเร่งปรับแต่งวิลล่านั่นเองเนื่องจากวันนี้ยางรถของเธอรั่วเพราะไปเหยียบโดนตะปูเข้าประกอบกับทำงานล่วงเวลาจนดึกดื่น เธอจึงไม่กล้าที่จะขับกลับไปต
"นายอย่าเอาแต่พูดว่าพวกเราทนไม่ไหว นายก็ต้องหาสาเหตุของตัวเองด้วย นายเติบโตไปเรื่อยๆ แบบนี้ ใครล่ะจะทนไหว!"เสียงของพานเสี่ยวเหลียนดังมาจากห้องน้ำพูดไม่ได้ว่ามันคือความขุ่นเคืองใจ หรือความพึงพอใจกันแน่"แหะๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น""อาเล็ก พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน ในเมื่อพวกคุณทนไม่ไหวแล้ว งั้นก็ช่างมันเถอะ รอให้พวกคุณพักผ่อนให้หายดีก่อน แล้วค่อยว่ากันวันหลัง""เสื้อผ้าของผมเปียกโชกไปหมดแล้ว ผมจะไปเปลี่ยนเสื้อแล้วจะไปรับสารวัตรลู่แล้วล่ะ""พวกคุณไปนอนเถอะ ไม่ต้องรอผมกลับมาหรอกนะ"หลินเฟยพูดอย่างเคอะเขินออกมาพอพูดจบ เขาก็รีบเปิดประตูออกมาและปิดมันลงจากนั้นก็วิ่งหน้าตาตั้งเข้าไปในคลินิกทันทีเขาก็ไม่คิดว่าจะมีใครมาแอบมองด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้นแล้ว จะออกมาแบบนี้ได้อย่างไร"โอ้พระเจ้า... นี่ฉันมองไปผิดไปใช่ไหม...""เป็นไปได้ยังไง..."ก่อนที่หลินเฟยจะออกมา หลิ่วจือจินก็รีบซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้องแล้วแต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองมาที่หลินเฟยเมื่อมองแวบเดียว จู่ๆ เธอก็เข้าใจได้ในทันทีว่าทำไมหลินเฟยจึงสามารถต่อกลอนหนึ่งต่อสองได้แบบนี้!เธ
"ลู่หลี ถ้าไม่ไหวจริงๆ คุณอย่าทำมันเลยสายตรวจน่ะ ความจริงแล้ว ผมมีเงินมากมาย ให้คุณแค่ส่วนหนึ่งก็เพียงพอแล้วที่คุณจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข"หลินเฟยถอนหายใจและพูดออกมา"เงินของนายก็คือเงินของนาย ถึงจะให้ฉันก็ไม่เอาหรอก อีกอย่าง ถ้าเพราะมีเงินแล้วไม่ทำอะไรเลย ฉันทำไมได้หรอกนะ?""ฉันไม่สามารถอยู่ว่างๆ ได้ อีกครั้งฉันก็ชอบงานสายตรวจมากเลยนะ""ต่อไปถ้าฉันไม่อยากจะทำสายตรวจแล้ว ฉันก็ค่อยพิจารณาการเป็นดอกไม้ในแจกันสำหรับคุณก็แล้วกันนะ"ลู่หลีปฏิเสธโดยไม่ลังเลใจ"ผมแต่ไม่อยากจะเห็นคุณทำงานหนักขนาดนี้...""ในเมื่อคุณอยากจะเป็นสายตรวจ งั้นคุณก็เป็นไปก่อนเถอะ"ด้วยแบบนี้ ขณะที่หลินเฟยขับรถ เขาก็ได้พูดคุยกับลู่หลีไปด้วยไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หลินเฟยก็ได้มาถึงหน้าประตูสำนักงานสายตรวจในช่วงเวลานี้ นอกจากคนของสายตรวจที่อยู่เวรดึก คนที่เหลือก็ได้ทยอยกันออกไปแล้วในขณะนี้ ลู่หลีกำลังรอหลินเฟยอยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นรถของหลินเฟยจอดอยู่ตรงหน้า เธอถึงได้วางสายไปจากนั้นเธอก็เข้ามาในรถ และนั่งตรงเบาะข้างคนขับทันที"คุณกินข้าวเย็นหรือยัง?""ให้ผมขับรถพาคุณไปกินอะไรในเมืองหน่อยไหม แล้วเราค่อยก
"หลินเฟยไอ้เด็กคนนี้ เมื่อกี้ก็จัดการไปสองคนแล้ว ดึกดื่นค่อนคืนแบบนี้ ยังจะไม่หยุดไม่หย่อนอีก?""นี่เขาชอบทำแบบนั้นกับผู้หญิงแค่ไหนกันแน่..."หลิ่วจือจินที่นั่งอยู่ในรถเต็มไปด้วยสายตาที่แปลกๆเมื่อมองเห็นหลินเฟยอุ้มหญิงสาวเข้าไปในวิลล่า ลมหายใจของเธอก็กระสับกระส่ายอย่างเสียไม่ได้จู่ๆ เธอก็พูดกับตัวเองด้วยความงุนงงออกมา"แต่ทว่า ผู้หญิงที่เขาอุ้มมาครั้งนี้ ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นมาก่อน…"แม้ว่าหลิ่วจือจินจะพบการต่อสู้ของหลินเฟยเป็นครั้งที่สองแล้วแต่ในครั้งนี้ เนื่องจากหลิ่วจือจินไม่ได้สตาร์ทรถ ประกอบกับหลินเฟยก็กำลังจดจ่ออยู่กับตัวของลู่หลีเขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นหลิ่วจือจินที่อยู่ด้านในแต่อย่างใดเมื่อพวกเขาเข้ามาภายในของวิลล่าเนื่องจากกำลังตกแต่งภายใน สิ่งของจึงถูกวางอย่างระเกะระกะเต็มไปหมดหลินเฟยล้มเลิกความคิดที่จะไปสนุกที่วิลล่าทันที"ลู่หลี ด้านในมันยังทำไม่เสร็จเลย มันไม่มีที่เดินเสียด้วยซ้ำ""ยังไงเสียตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ไม่มีใครมาหรอก ถ้าอย่างนั้นเรามาทำที่หน้าประตูเลยนะดีไหม?"หลินเฟยวางลู่หลีที่อยู่ในอ้อมแขนลง และลองถามหยั่งเชิงออกไป"หือ? ที่ประตูมันไม
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได