"ไอ้ผีทะเล วันๆ เอาแต่คิดเรื่องแบบนั้น?"เมื่อได้ยินเสียงที่หมดความอดทนของหลินเฟยถังรั่วเสวี่ยก็ทั้งโกรธและขบขันเป็นอย่างมาก"วันนี้อาเล็กไม่ค่อยสบาย เรื่องแบบนั้นนายอย่าคิดไปเลย ค่อยว่ากันวันอื่นเถอะ""วันอื่นมันเมื่อไหร่ล่ะ? ไม่ได้ ต้องวันนี้ สองวันแล้วนะที่ผมไม่ได้แตะต้องอาเล็ก คิดถึงจะตายอยู่แล้ว!"และหลินเฟยก็ใช้ตาทิพย์ของเขาโดยตรงซึ่งร่างกายที่ขาวราวกับหิมะก็ได้เผยออกมาจนหมดสิ้นเขามองจนน้ำลายไหล และลูกตาเกือบจะถลนออกมาแล้ว!"ฮึ่ม งั้นนายก็คิดให้พอเถอะ!""คืนนี้อาเล็กไม่มีอารมณ์!" เสียงที่เย้ายวนของถังรั่วเสวี่ยได้ดังแว่วมาความจริงแล้ว เธอก็แค่อยากจะแกล้งหลินเฟยเท่านั้นเอง"พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน คุณเปิดประตูให้ผมหน่อยสิ!""ผมก็คิดถึงคุณเหมือนกัน!""ผมอยากจะกอดคุณเสียเหลือเกิน!"ยิ่งถังรั่วเสวี่ยปฏิเสธมากเท่าไหร่ ไฟในใจของหลินเฟยก็ลุกโชนมากขึ้นเท่านั้นจากนั้นเขาก็หันไปพูดกับพานเสี่ยวเหลียนต่อ"ถุย นายคิดถึงอาเล็กไปเถอะ พี่สะใภ้ไม่คิดถึงนายหรอกนะ!""คืนนี้พี่สะใภ้ไม่มีอารมณ์ นายอยากจะไปหาใครก็ไป!"พานเสี่ยวเหลียนทำตามคำแนะนำของถังรั่วเสวี่ย พร้อมกับพูดล้อเลียนห
"หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ไม่ว่านายจะเสร็จหรือไม่ ก็อย่ามาทรมานพวกเราอีก…""แหะๆ วางใจได้เลยอาเล็ก ไม่ว่าผมจะเสร็จหรือไม่ ผมก็ต้องทำให้พวกคุณเสร็จก็พอแล้ว!"ฟิ้ว และหลินเฟยก็หมุดเข้ามาทันทีจากนั้นก็ล็อกประตูไม้เอาไว้อย่างแน่นหนาอย่างไรก็ตาม เมื่อถึงตอนดึกๆ เขายังจะได้ทำแบบนั้นกับลู่หลีอยู่ดี!ตอนนี้แค่เพิ่มน้ำมันหล่อลื่นกับถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนก่อนก็แล้วกัน!……และในขณะที่หลินเฟยกำลังต่อสู้กับถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนอย่างเมามันและติดหนึบเหมือนกาวอยู่นั้นในคืนที่มืดมิดรูปร่างที่สง่างามอาศัยแสงสลัวๆ บนโทรศัพท์มือถือของเธอคลำอย่างช้าๆ เข้ามาทางคลินิกแต่เมื่อเธอเดินผ่านห้องน้ำไปก็มีเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากข้างในและมันก็ทำให้เธอหยุดฝีเท้าลงอย่างไม่รู้ตัว"เสียงของถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียน ยังมีหลินเฟยอยู่ด้วย… ""โอ้พระเจ้า……"ที่แท้ ผู้ที่มาเยือนไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นหลิ่วจือจินที่กำลังทำงานล่วงเวลาเพื่อเร่งปรับแต่งวิลล่านั่นเองเนื่องจากวันนี้ยางรถของเธอรั่วเพราะไปเหยียบโดนตะปูเข้าประกอบกับทำงานล่วงเวลาจนดึกดื่น เธอจึงไม่กล้าที่จะขับกลับไปต
"นายอย่าเอาแต่พูดว่าพวกเราทนไม่ไหว นายก็ต้องหาสาเหตุของตัวเองด้วย นายเติบโตไปเรื่อยๆ แบบนี้ ใครล่ะจะทนไหว!"เสียงของพานเสี่ยวเหลียนดังมาจากห้องน้ำพูดไม่ได้ว่ามันคือความขุ่นเคืองใจ หรือความพึงพอใจกันแน่"แหะๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น""อาเล็ก พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน ในเมื่อพวกคุณทนไม่ไหวแล้ว งั้นก็ช่างมันเถอะ รอให้พวกคุณพักผ่อนให้หายดีก่อน แล้วค่อยว่ากันวันหลัง""เสื้อผ้าของผมเปียกโชกไปหมดแล้ว ผมจะไปเปลี่ยนเสื้อแล้วจะไปรับสารวัตรลู่แล้วล่ะ""พวกคุณไปนอนเถอะ ไม่ต้องรอผมกลับมาหรอกนะ"หลินเฟยพูดอย่างเคอะเขินออกมาพอพูดจบ เขาก็รีบเปิดประตูออกมาและปิดมันลงจากนั้นก็วิ่งหน้าตาตั้งเข้าไปในคลินิกทันทีเขาก็ไม่คิดว่าจะมีใครมาแอบมองด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้นแล้ว จะออกมาแบบนี้ได้อย่างไร"โอ้พระเจ้า... นี่ฉันมองไปผิดไปใช่ไหม...""เป็นไปได้ยังไง..."ก่อนที่หลินเฟยจะออกมา หลิ่วจือจินก็รีบซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้องแล้วแต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองมาที่หลินเฟยเมื่อมองแวบเดียว จู่ๆ เธอก็เข้าใจได้ในทันทีว่าทำไมหลินเฟยจึงสามารถต่อกลอนหนึ่งต่อสองได้แบบนี้!เธ
"ลู่หลี ถ้าไม่ไหวจริงๆ คุณอย่าทำมันเลยสายตรวจน่ะ ความจริงแล้ว ผมมีเงินมากมาย ให้คุณแค่ส่วนหนึ่งก็เพียงพอแล้วที่คุณจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข"หลินเฟยถอนหายใจและพูดออกมา"เงินของนายก็คือเงินของนาย ถึงจะให้ฉันก็ไม่เอาหรอก อีกอย่าง ถ้าเพราะมีเงินแล้วไม่ทำอะไรเลย ฉันทำไมได้หรอกนะ?""ฉันไม่สามารถอยู่ว่างๆ ได้ อีกครั้งฉันก็ชอบงานสายตรวจมากเลยนะ""ต่อไปถ้าฉันไม่อยากจะทำสายตรวจแล้ว ฉันก็ค่อยพิจารณาการเป็นดอกไม้ในแจกันสำหรับคุณก็แล้วกันนะ"ลู่หลีปฏิเสธโดยไม่ลังเลใจ"ผมแต่ไม่อยากจะเห็นคุณทำงานหนักขนาดนี้...""ในเมื่อคุณอยากจะเป็นสายตรวจ งั้นคุณก็เป็นไปก่อนเถอะ"ด้วยแบบนี้ ขณะที่หลินเฟยขับรถ เขาก็ได้พูดคุยกับลู่หลีไปด้วยไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หลินเฟยก็ได้มาถึงหน้าประตูสำนักงานสายตรวจในช่วงเวลานี้ นอกจากคนของสายตรวจที่อยู่เวรดึก คนที่เหลือก็ได้ทยอยกันออกไปแล้วในขณะนี้ ลู่หลีกำลังรอหลินเฟยอยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นรถของหลินเฟยจอดอยู่ตรงหน้า เธอถึงได้วางสายไปจากนั้นเธอก็เข้ามาในรถ และนั่งตรงเบาะข้างคนขับทันที"คุณกินข้าวเย็นหรือยัง?""ให้ผมขับรถพาคุณไปกินอะไรในเมืองหน่อยไหม แล้วเราค่อยก
"หลินเฟยไอ้เด็กคนนี้ เมื่อกี้ก็จัดการไปสองคนแล้ว ดึกดื่นค่อนคืนแบบนี้ ยังจะไม่หยุดไม่หย่อนอีก?""นี่เขาชอบทำแบบนั้นกับผู้หญิงแค่ไหนกันแน่..."หลิ่วจือจินที่นั่งอยู่ในรถเต็มไปด้วยสายตาที่แปลกๆเมื่อมองเห็นหลินเฟยอุ้มหญิงสาวเข้าไปในวิลล่า ลมหายใจของเธอก็กระสับกระส่ายอย่างเสียไม่ได้จู่ๆ เธอก็พูดกับตัวเองด้วยความงุนงงออกมา"แต่ทว่า ผู้หญิงที่เขาอุ้มมาครั้งนี้ ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นมาก่อน…"แม้ว่าหลิ่วจือจินจะพบการต่อสู้ของหลินเฟยเป็นครั้งที่สองแล้วแต่ในครั้งนี้ เนื่องจากหลิ่วจือจินไม่ได้สตาร์ทรถ ประกอบกับหลินเฟยก็กำลังจดจ่ออยู่กับตัวของลู่หลีเขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นหลิ่วจือจินที่อยู่ด้านในแต่อย่างใดเมื่อพวกเขาเข้ามาภายในของวิลล่าเนื่องจากกำลังตกแต่งภายใน สิ่งของจึงถูกวางอย่างระเกะระกะเต็มไปหมดหลินเฟยล้มเลิกความคิดที่จะไปสนุกที่วิลล่าทันที"ลู่หลี ด้านในมันยังทำไม่เสร็จเลย มันไม่มีที่เดินเสียด้วยซ้ำ""ยังไงเสียตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ไม่มีใครมาหรอก ถ้าอย่างนั้นเรามาทำที่หน้าประตูเลยนะดีไหม?"หลินเฟยวางลู่หลีที่อยู่ในอ้อมแขนลง และลองถามหยั่งเชิงออกไป"หือ? ที่ประตูมันไม
"ไม่ไหวแล้ว ฉันไม่สามารถแอบมองได้อีกต่อไปแล้ว...""แบบนี้มันผิดศีลธรรม คิดว่าไม่รู้อะไรเลยก็แล้วกัน นอน นอนไม่หลับก็ต้องนอน!"หัวใจของหลิ่วจือจินก็ยังเต้นเร็วยิ่งขึ้นเธอชักสายตากลับมา ร่างกายแข็งทื่อ และนอนลงไปบนเบาะที่วางราบด้วยความยากลำบากเธอบังคับตัวเองให้ข่มตานอน และพยายามทำให้ตัวเองผล็อยหลับไปแต่น่าเสียดายเหลือเกินที่ว่าตำแหน่งที่เธอจอดรถอยู่นั้น มันอยู่ใกล้ๆ กับประตูใหญ่ของวิลล่ามากเลยทีเดียวซึ่งมันก็ใกล้กับสถานที่ที่หลินเฟยและลู่หลีต่อสู้กันมากๆห่างออกไปเพียงยี่สิบเมตรเท่านั้นในช่วงดึกๆ ที่เงียบสงัด ความเคลื่อนไหวมันยิ่งชัดเจนเป็นอย่างมากขณะที่เสียงการต่อสู้ดังขึ้นหลิ่วจือจินก็ไม่สามารถรักษาจิตใจให้มั่นคงได้อีกต่อไปเธอพลิกตัวไปมา และยิ่งรู้สึกร้อนใจมากขึ้นกว่าเดิมมากเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ความรู้สึกวิตกกังวลนี้มันมาจากไหนและเมื่อไหร่จะจางหายไปเสียทีรอจนกระทั่งหลินเฟยและลู่หลีออกจากวิลล่าแล้วกลับไปที่คลินิกความวิตกกังวลบนตัวของหลิ่วจือจินก็ยังไม่ได้หายไปเลยแม้แต่น้อยจนกระทั่งประมาณตีสามเห็นจะได้หลิ่วจือจินง่วงจนทนไม่ไหวถึงได้ผล็อยหลับไปด้วย
"เสี่ยวโหรว ทำไมจู่ๆ เธอถึงไม่พูดไม่จาแบบนี้ล่ะ?""กำลังคิดอะไรอยู่น่ะ?"เมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของซูเสี่ยวโหรวหลี่เยี่ยนเหมยก็เหยียดนิ้วออกมา แกว่งไปมาต่อหน้าเธอ พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า"หือ ไม่มีอะไรหรอกผู้ใหญ่หลี่ เวลาก็ไม่เช้าแล้วนะ""ฉันต้องกลับไปทำอาหารที่คลินิก""ถ้าคุณไม่อยากจะทำอาหาร งั้นก็ไปกินที่คลินิกกับเราก็ได้นะ"ในที่สุด ซูเสี่ยวโหรวก็ดึงสติกลับมาได้ เธอลุกขึ้นจากเตียงและสวมเสื้อผ้าจากนั้นก็พูดกับหลี่เยี่ยนเหมยอย่างเหม่อลอยว่า"อะไรคือไม่เช้าแล้ว ตอนนี้ฟ้าเพิ่งจะสว่างเองนะ ดูเหมือนว่าเมื่อคืนเธอจะนอนเบียดกับฉัน เลยนอนไม่ค่อยจะสบาย สมองก็เลยไม่โลดแล่นแบบนี้"หลี่เยี่ยนเหมยพูดขอโทษซูเสี่ยวโหรว"ฉันคงไม่ไปล่ะนะ เดี๋ยวฉันทำกินเองง่ายๆ ก็ได้แล้วล่ะ""แต่ว่าหลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว หากเธอมีเวลา เธอพาฉันไปซื้อสุนัขหมาป่าที่ในตัวอำเภอหน่อยสิ""ถ้าไม่มีเวลา งั้นเธอก็บอกตำแหน่งในอำเภอมา ฉันจะไปเองก็ได้""แบบนี้ คืนนี้จะได้ไม่ต้องรบกวนเธอมานอนกับฉันแล้วล่ะ""ผู้ใหญ่หลี่ ฉันน่าจะมีเวลาไปเป็นเพื่อนคุณนะ""แต่ตอนนี้ฉันต้องกลับไปทำกับข้าวที่คลินิกก่อน ว่างแล้วฉันจะมาหาค
ซูเสี่ยวโหรวเม้มริมฝีปาก กลอกตามองบนแล้วพูดออกมา"เชอะ แต่ฉันว่าผู้ใหญ่หลี่จะต้องสนใจในตัวเธออย่างแน่นอน!""เธอรูปร่างหน้าตาดี แถมผิวยังขาวออกขนาดนี้ ถ้าผู้ใหญ่หลี่ไม่ชอบเธอ แล้วจะเรียกเธอไปทุกวันทำไมกัน!""ยิ่งเธอปกป้องผู้ใหญ่หลี่มากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งคิดว่าพวกเธอสองคนมีอะไรกันนะ!""ฉันเห็นเวลาตอนที่เธอเดิน มันดูแปลกๆ อยู่นะ!""รีบให้ฉันตรวจดูหน่อย เมื่อคืนวาน พวกเธอขัดถูกันแล้วหรือเปล่า?"พานเสี่ยวเหลียนยังคงไม่ลดละพอพูดจบ เธอก็เดินเข้ามาหาซูเสี่ยวโหรวพร้อมกับหยอกล้อ!"ว้าย พี่เสี่ยวเหลียน พี่อย่าเข้ามานะ!""ไม่อย่างนั้น ฉันก็จะไม่เกรงใจเหมือนกัน!"ซูเสี่ยวโหรวไม่กล้าให้พานเสี่ยวเหลียนตรวจสอบจึงรีบปกป้องส่วนที่สำคัญเอาไว้จนสุดชีวิตหลังจากล้อเล่นกันอยู่สักพัก ในที่สุดซูเสี่ยวโหรวก็เก็บความลับของตัวเองเอาไว้ได้!นอกจากนี้ เธอก็ได้รับรู้เรื่องราวจากปากของพานเสี่ยวเหลียนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหลี่เยี่ยนเหมยในวันนั้นกันแน่"ที่แท้ผู้ใหญ่หลี่ก็เผลอหกล้มบาดเจ็บจนเสื้อผ้าขาดก็เท่านั้นเอง ไม่น่าล่ะ ด้านล่างของเธอยังไม่ได้เสียหายอะไรเลย และยังสวมเสื้อของหลินเฟยอีกต่างหาก ดูท่าแ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได