"ยังไม่ต้องหรอกหลินเฟย ขอบคุณความหวังดีของคุณนะ""แต่ว่า คุณไม่ต้องเป็นกังวลมากไปนะ พวกเราได้ไปพบสื่อแล้ว เชื่อว่าน่าจะได้เงินเดือนเร็วๆ นี้แหละ""ถ้าเราจัดการไม่ได้จริงๆ ฉันก็จะติดต่อคุณให้ภายหลังนะ"หลิ่วจือจินพูดอย่างขอบคุณออกมา"งั้นก็ได้ พี่หลิ่ว ถ้ามีเรื่องก็โทรหาผมได้ตลอดเวลานะ"หลินเฟยไม่ได้บังคับแต่อย่างใดโทรศัพท์มือถือเพิ่งจะวางสายไป ยังไม่ทันได้เก็บใส่กระเป๋าก็มีสายโทรเข้ามาอีกครั้งโดยที่ปลายสายมีเสียงที่ประหลาดใจดังแว่วมา"ไอ้หยา หลินเฟย ในที่สุดคุณก็รับสายสักที พรุ่งนี้เช้าฉันก็จะถึงบ้านแล้ว คุณคิดถึงฉันหรือเปล่า?""คุณไม่รู้หรอกนะว่า ช่วงเวลาหลายวันมานี้ ฉันคิดถึงคุณแทบแย่แล้วนะ!""ทุกคืนไม่มีคุณอยู่ด้วย ฉันนอนไม่หลับเลย!"เมื่อได้ยินเสียงนี้แล้ว เป็นความจริงที่เขาไม่ได้พบกับจ้าวลู่ลู่มาสักพักแล้วเมื่อเจ็ดแปดวันก่อน เพราะลูกชายของอาแต่งงาน เธอจึงติดตามจ้าวฟู่กุ้ยและจางอวี้หลานไปยังเมืองที่อยู่ข้างๆ ด้วยเดิมทีเธอคิดว่าอย่างมากวันสองวันก็กลับไปแล้วแต่ผลที่ได้ก็คือ ประจวบเหมาะกับอีกสองสามวันจะเป็นวันเกิดคุณตาของจ้าวลู่ลู่พอดีซึ่งเป็นวันแซยิดครบรอบแปดสิ
เห็นได้ชัดว่า มันเป็นเพราะการมาอย่างกะทันหันของลู่หลีและจางซินเยว่นั่นเอง"ผมรู้แล้วครับพี่สะใภ้"หลินเฟยวิ่งเหยาะๆ ไปตลอดทาง เมื่อพบว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ เขาก็โอบกอดเอวบางของพานเสี่ยวเหลียนเอาไว้ทันที"พี่สะใภ้ครับ พี่ยังเจ็บหน้าอกอยู่หรือเปล่า?""คืนนี้รอให้พวกเธอนอนกันหมดแล้ว ผมจะช่วยนวดรักษาให้นะครับ""เด็กบ้า ยังจำเรื่องที่พี่สะใภ้เจ็บหน้าอกอยู่อีก?""พี่ก็คิดว่านายมีผู้หญิงมากมายขนาดนั้น คงจะลืมพี่สะใภ้เก่าๆ อย่างพี่ไปแล้วเสียอีก"พานเสี่ยวเหลียนมองหลินเฟยอย่างเบาๆ แล้วพูดขึ้นมา"จะเป็นไปได้อย่างไรกันพี่สะใภ้ ต่อให้ผมจะมีผู้หญิงอีกหลายต่อหลายคน แต่ผมก็ไม่มีวันลืมพี่ได้ เพราะพี่เป็นผู้หญิงคนแรกในชีวิตผมเลยนะ"หลินเฟยรู้ว่าเธอกำลังหึงหวงอยู่และเขาก็จูบไปที่ริมฝีปากบางของเธออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยขึ้นมาหลังจากจูบไปสักพักแล้ว เธอก็สัมผัสได้ถึงความเร่าร้อนบนตัวของหลินเฟยและพานเสี่ยวเหลียนก็ไม่ได้โกรธอีกต่อไปในทางกลับกัน เธอก็รู้สึกเขินอายมากขึ้นอีกต่างหาก"หยุดจูบได้แล้วเสี่ยวเฟย กลับไปกินข้าวกันก่อน เดี๋ยวพวกเธอจะรอนานจนร้อนใจได้นะ""แล้วคืนนี้พบกันนะพี่สะใภ้""อืม พี่
ทันใดนั้น ถังรั่วเสวี่ยที่แกล้งหลับมาโดยตลอดหลังจากที่สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของพานเสี่ยวเหลียนแล้วนั้น เธอก็ลืมตาขึ้นมา แล้วกระซิบเบาๆ ว่า"เสี่ยวเหลียน เดี๋ยวก่อนสิ เธอจะไปไหน..."ขณะที่พูด ถังรั่วเสวี่ยก็ลุกขึ้นอย่างระมัดระวังและพยายามจะไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมาด้วยเช่นกัน"อาเล็ก ฉัน... อยากออกไปทำธุระส่วนตัวสักหน่อย ทำให้คุณตื่นขึ้นมา ต้องขอโทษจริงๆ…"พานเสี่ยวเหลียนไม่ได้บอกความจริงออกไปแม้ว่าเธอและถังรั่วเสวี่ยจะเคยนอนกับหลินเฟยด้วยกันมาไม่น้อยกว่าหนึ่งหรือสองครั้งแต่การที่แอบถังรั่วเสวี่ยไปหาหลินเฟยนั้น เธอมักจะรู้สึกว่าตัวเองผิดอยู่เล็กน้อย"ชูว์ เบาๆ หน่อย พวกเราออกไปพูดกันข้างนอกดีกว่า"เมื่อเห็นว่าพานเสี่ยวเหลียนสวมเพียงชุดแนบเนื้อ โดยไม่สวมเสื้อคลุมเสียด้วยซ้ำแบบนี้ไหนเลยที่ถังรั่วเสวี่ยจะเดาไม่ได้ว่าพานเสี่ยวเหลียนต้องการที่จะทำอะไรความจริงแล้ว เธอก็ไม่เคยหลับ และตั้งจะแอบไปพบกับหลินเฟยเช่นกัน"อาเล็ก คุณอยากจะพูดอะไรกับฉันงั้นเหรอ?"เมื่อออกไปข้างนอกแล้ว พานเสี่ยวเหลียนก็ดูกังวลอยู่เล็กน้อย"เสี่ยวเหลียน ระหว่างเราสองคนไม่จำเป็นจะต้องปิดบังอะไรหรอกนะ ฉันร
มีความเขินอายปะปนอยู่เล็กน้อย"ผมนอนไม่ค่อยหลับน่ะ คุณวิ่งมาทำอะไรที่นี่?"หลินเฟยแกล้งพูดถามออกมา"ฉัน...จำได้ว่าลู่หลีนั่นได้จงใจตอกกลับฉัน ฉันอารมณ์ไม่ค่อยจะดี ก็เลยอยากจะให้คุณมาอยู่เป็นเพื่อนหน่อยน่ะ""ไปเถอะ เราไปนั่งในรถกันดีกว่า… ไม่ได้เจอกันนานขนาดนี้ ฉันคิดถึงคุณมากเลยนะ"ขณะที่จางซินเยว่พูด เธอก็อยากจะเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งในรถภายในรถเมื่อพานเสี่ยวเหลียนและถังรั่วเสวี่ยที่นั่งก้มตัวอยู่เห็นแบบนี้แล้ว พวกเธอก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที!และหลินเฟยก็ยิ่งประหม่าไปมากกว่าเดิมเสียอีกขณะที่เขากำลังจะเอื้อมมือไปหยุดเธอ จู่ๆ จางซินเยว่ก็คิดอะไรขึ้นมาได้ จึงโน้มตัวและกระซิบข้างหูหลินเฟยว่า"จริงด้วยสิ หลินเฟย คุณเห็นน้าถังและพี่สะใภ้เสี่ยวเหลียนบ้างหรือเปล่า?""เมื่อกี้เหมือนฉันจะเห็นพวกเธอไปเข้าห้องน้ำนะ อยู่ในรถของคุณ...เมื่อพวกเธอกลับมาแล้ว เราจะถูกจับได้หรือเปล่า?"ที่แท้ในตอนที่ถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนออกไปนั้นเธอก็แกล้งหลับอยู่ด้วยเช่นกันเมื่อมองดูสีหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความกังวลแล้วนั้นเห็นได้ชัดว่าเธอกลัวว่าหากทำเรื่องอะไรลงไปแล้วจะถูกจับได้คาหนังคาเ
เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ลู่หลีก็เข้ามาคว้ามือของหลินเฟยเอาไว้ด้วยความโกรธแล้วดึงออกมาจากหุบเขาลึกคู่นั้นของจางซินเยว่"ด้วยสถานะประธานใหญ่ของเภสัชกรรมหนานผิง การที่เธอแอบออกมานอนกับหลินเฟยกลางดึกกลางดื่นแบบนี้ หากใครมารู้เข้าจะต้องกลายเป็นข่าวใหญ่อย่างแน่นอน!"เดิมทีเธอก็ไม่ถูกกับจางซินเยว่อยู่แล้ว และอยากจะนอนกับหลินเฟยด้วยแต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นว่าจางซินเยว่ได้พิชิตเสียก่อน หากเธอพูดดีด้วยก็คงจะแปลก"แล้วสายตรวจลู่ดึกดื่นไม่หลับไม่นอน หรือว่ามาเข้าห้องน้ำ? ดูคุณนุ่งน้อยห่มน้อยขนาดนี้ คุณก็มาหาหลินเฟยเพื่อหลับนอนด้วยไม่ใช่เหรอ?""ยังมีหน้ามาปิดบังฉันอีก!"จางซินเยว่ตะโกนออกมาอย่างโกรธเคืองโดยไม่ต้องคิดเหมือนกัน"คุณกับหลินเฟยไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย พวกคุณก็แค่เพื่อนรักในวัยเด็ก ต่อให้ฉันจะมาหลับนอนกับหลินเฟย คุณก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง!"ลู่หลีพูดอย่างไม่ยอมแพ้"เอาล่ะ พวกคุณสองคนหยุดทะเลาะกันได้แล้ว"ดูท่าทางแล้วสองคนนี้ยังคงทะเลาะกันอีกยาวหลินเฟยรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าไปหมดเขารีบเดินเข้าไปเพื่อดึงทั้งสองคนออกจากกัน"ถ้ามันไม่ได้จริงๆ งั้นพวกคุณสองคนก็ร่วมกันเถอะ ต่อไปเ
และสงครามที่ไร้ควันนี้ ถึงสามารถสงบลงได้ชั่วคราวสำหรับจะนอนหลับได้หรือไม่นั้น ก็ไม่มีใครรับรู้ได้"เสี่ยวเฟย ยังจะยืนเซ่ออะไรอยู่? นายก็ไปนอนได้แล้ว"เมื่อเห็นทั้งสองคนกลับไปนอนแล้ว ถังรั่วเสวี่ยก็พูดกับหลินเฟยอย่างรู้ๆ กันอยู่ด้วยสีหน้ามีความไม่พอใจปะปนอยู่เล็กน้อย"ผมรู้แล้วครับ อาเล็ก งั้นผมกลับไปนอนก่อนนะครับ พวกคุณก็เข้านอนกันไวๆ นะ"เมื่อมีจางซินเยว่อยู่ด้วยหลินเฟยก็ทำได้เพียงมองพวกเธอด้วยสายตาที่ปลอบโยนเท่านั้นจากนั้นก็กลับเข้าไปในรถตามเดิม……และค่ำคืนนี้ก็ผ่านไปอย่างสะลึมสะลือเมื่อเวลาเดินมาถึงเช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อเวลาประมาณหกเจ็ดโมง หลินเฟยก็ได้รับสายจากจ้าวลู่ลู่"หลินเฟย อีกสองชั่วโมงฉันก็จะถึงในเมืองแล้ว คุณขับรถมารับฉันได้เลยนะ""โทรมาปลุกคุณเช้าขนาดนี้ ต้องลำบากคุณแล้วนะ เดี๋ยวคุณมาฉันจะชดเชยให้คุณอย่างสาสมเลย"เสียงของจ้าวลู่ลู่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น"โอเค พี่ลู่ลู่ ผมเตรียมตัวแล้วจะไปเดี๋ยวนี้เลยครับ"หลินเฟยตอบรับอย่างสุดใจจากนั้น เขาก็วางสายไปในทันทีหลังจากมาคลินิกเพื่อล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้ว หลินเฟยก็บอกกล่าวเรื่องที่จะเข้าเมืองให้ถังรั่
"พี่หลิ่วอย่าเพิ่งร้อนใจไป เกิดอะไรขึ้น พี่ค่อยๆ บอกผมมา""ผมจะช่วยพี่คิดหาวิธีเอง"เมื่อรับรู้ได้ว่าอารมณ์ของหลิ่วจือจินผิดแปลกออกไปหลินเฟยก็ขมวดคิ้ว และพูดปลอบโยนออกมา"คือแบบนี้นะหลินเฟย เจ้านายโครงการนี้ชื่อว่าเฉินจินเหว่ย เป็นคนมาจากพื้นที่อื่น คนงานของฉันเริ่มทำงานด้วยเมื่อปีที่แล้ว…""จนถึงตอนนี้ เฉินจินเหว่ยคนนี้ค้างชำระคนงานของฉันอยู่ราวๆ ยี่สิบห้าล้าน""นักข่าวที่เราหามาเพื่อรายงานข่าวเรื่องนี้ เฉินจินเหว่ยโกรธจัด จึงส่งคนมารุมทำร้ายจนบาดเจ็บกันไปหมด…""เช้าวันนี้ ฉันได้พาคนงานไปยังสำนักงานที่เกี่ยวข้อง หวังว่าจะสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้""แต่คนที่สำนักงานนั้น กลับเป็นพวกเดียวกันกับเฉินจินเหว่ย ไม่เพียงไม่ช่วย แต่กลับพูดว่าเรากรรโชกเงินเดือนอย่างผิดๆ อีกต่างหาก ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาก็จะจับพวกเราเข้าคุกแล้วนะ…""พี่หลิ่วจนปัญหาจริงๆ ไม่งั้นก็คงไม่โทรหาคุณแบบนี้"ยิ่งหลิ่วจือจินพูดมากเท่าไหร่ น้ำเสียงของเธอก็ดูจะคับข้องใจมากขึ้นเท่านั้นยี่สิบห้าล้าน มันไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลยนั่นคือเงินที่คนงานกว่าสามสิบคนของเธอหามาได้อย่างยากลำบากในเวลาหนึ่งปี!เมื่อได้ยินสิ
"ทำไม คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?"เฉินจินเหว่ยขมวดคิ้ว และพูดอย่างไม่สบอารมณ์ออกมา"บอสเฉินค่ะ บริษัทของเราไม่ได้ขาดแคลนเงินสักหน่อย ทำไมคุณถึงต้องมอบเงินให้รองผู้อำนวยการผาง แทนที่จะยอมจ่ายเงินเดือนให้พวกเขาล่ะคะ?""ทั้งๆ ที่เงินเหล่านี้ พวกเขาสมควรจะได้รับมัน หากเรื่องนี้บานปลายขึ้นมา มันจะเป็นผลเสียกับบริษัทของเราด้วยนะคะ…"เลขาสาวถอนหายใจ และถามอย่างไม่เข้าใจออกมา"เธอเป็นเจ้านาย หรือฉันเป็นเจ้านายกันแน่?""ฉันไม่ขาดแคลนเงิน แล้วจะเก็บเอาไว้ใช้เองไม่ได้หรือยังไง? คนอื่นก็ค้างชำระเงินเดือนตั้งมากมาย ไม่ใช่มีแค่ฉันคนเดียวสักหน่อย!""ให้เธอไปทำอะไรเธอก็ไปทำ อย่ามาพูดมากอยู่แถวๆ นี้!""รีบออกไปเดี๋ยวนี้!"ได้ยินเพียงเสียงของเฉินจินเหว่ยที่ตบโต๊ะ พร้อมกับด่ากราดออกมา……ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงจากระยะไกลๆ หลินเฟยก็สามารถมองเห็นป้ายคำว่าบริษัทหยู่เวยจำกัดแขวนอยู่บนอาคารสูงได้โดยที่มีคนกลุ่มหนึ่งมายืนออกันอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ซึ่งนั่นก็คือหลิ่วจือจินและคนงานกว่าสามสิบคนของเธอนั่นเองนอกจากนั้น ยังมีเจ้าหน้าที่ในชุดเครื่องแบบราวๆ เจ็ดแปดคนยืนอยู่ มีทั้งคนแก่และคนหนุ่มสาวมา
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได