"หึ นายคนนี้จะต้องไม่มีเจตนาดีอย่างแน่นอน!"จ้าวลู่ลู่กอดแขนของหลินเฟยเอาไว้ด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อด้วยความเขินอายเมื่อมาถึงคลินิก"หลินเฟย...คุณกลับมาแล้ว มันช่างดีจริงๆ!"ซูเสี่ยวโหรวที่กำลังทำอาหารอยู่ เมื่อมองเห็นหลินเฟย เธอก็ดีใจเป็นอย่างมาก!แต่เธอก็แสดงออกไม่เก่งมากนัก จนเวลาผ่านไปนาน เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเมื่อหลินเฟยเห็นดังนั้น สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และรีบเดินเข้าไปหาเธอทันที"พี่เสี่ยวโหรว ผมกลับมาแล้ว คุณอย่าได้เป็นกังวลใจไปเลยนะ"ซูเสี่ยวโหรวใช้เวลาพักใหญ่ในการสงบสติอารมณ์ความตื่นเต้น และพูดด้วยรอยยิ้มออกมา"กลับมาก็ดีแล้ว คุณรีบพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวอาหารก็เสร็จแล้วล่ะ""เดี๋ยวเรามากินข้าวด้วยกันนะ"หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเมื่อมองไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหาร หลินเฟยก็มีความเจริญอาหารเป็นอย่างมาก และมีอารมณ์ความรู้สึกอย่างท่วมท้นยังไงที่บ้านก็ดีที่สุดหากตัวเองตายไปจริงๆ ไม่รู้ว่าคนที่ห่วงใยเขาเหล่านี้จะเสียใจสักแค่ไหนหลังจากมื้ออาหารเดิมทีทุกคนได้เตรียมตัวที่จะไปพักผ่อนแล้ว แต่จ้าวลู่ลู่กลับหน้าแดงก่ำและดึงหลินเฟยเข้าไปในรถทันที"เด็กสาวค
รอจนกระทั่งฟ้าใกล้สว่างรถยนต์ถึงได้เงียบสนิท โดยจ้าวลู่ลู่ที่อยู่ในรถเต็มไปด้วยความอ่อนล้า แต่ก็ได้รับความพอใจอย่างเต็มที่จนผล็อยหลับไปในที่สุดในที่สุดหลินเฟยก็หลับตาลง และนอนหลับฝันดีไปพักใหญ่จนกระทั่งถึงเที่ยงวัน"หลินเฟย ลู่ลู่ พวกเธอสองคนมากินข้าวได้แล้วนะ!"ซูเสี่ยวโหรวทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเข้ามาเรียกหลินเฟยอย่างอ่อนโยนจากนั้นหลินเฟยและจ้าวลู่ลู่ก็หาวพร้อมกับเดินไปยังคลินิกหลินเฟยในตอนนี้รู้สึกลำบากใจขึ้นมาเล็กน้อยแม้ว่าคืนที่ผ่านมา เขาจะได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่เมื่อถูไถไปกับจ้าวลู่ลู่ แต่การที่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก็ทำให้จ้าวลู่ลู่รู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมากในเวลานี้แต่ทว่าเมื่อหลินเฟยได้เห็นรอยคล้ำใต้ตาของถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนแล้วนั้น เขาก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก"อาเล็ก พี่สะใภ้ ตาของพวกคุณเป็นอะไรไปน่ะ?"เมื่อคืนเขาไม่ได้ไปรบกวนผู้หญิงทั้งสองคนนี้สักหน่อย แต่ทำไมเธอถึงไม่ได้พักผ่อนดีๆ แบบนี้ด้วยล่ะ?เมื่อหลินเฟยครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ในใจ ผู้หญิงทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่จะมองมาที่หลินเฟยและกลอกตาให้เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมา เสียงคร่ำครวญของจ้
"มีเหรอ พี่เสี่ยวโหรว พี่อ่อนไหวเกินไปแล้วมั้ง"เมื่อเห็นซูเสี่ยวโหรวขมวดคิ้ว หลินเฟยก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีเขารีบเปิดกระจกรถแล้วเหยียบคันเร่งเพื่อให้ลมพัดเข้ามามันคงจะแย่ถ้าซูเสี่ยวโหรวเห็นอะไรบางอย่าง! "พี่เสี่ยวโหรว พวกเรารีบไปกันเถอะ""นอกจากจะซื้อเมล็ดพันธุ์แล้ว เรายังซื้อผักได้ด้วย ไม่งั้นมันจะไม่สด! "หลินเฟยหาเหตุผล"อืม อาหารที่บ้านก็เหลือน้อยแล้ว"ซูเสี่ยวโหรวก็ไม่ได้คิดอะไรมาก พร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อยหลินเฟยจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงตลาดในเมือง"หลินเฟย เธอไปซื้อเครื่องมือการเกษตรเถอะ เตรียมไว้สำหรับการปลูกผัก""ซื้อผัก เมล็ดพันธุ์อะไรนั่น เดี๋ยวฉันไปเอง แบบนี้จะได้ไม่เสียเวลา"ซูเสี่ยวโหรวเสนอขึ้นมาก่อนลงจากรถ"ก็ได้ งั้นพี่เสี่ยวโหรวผมก็ไปก่อนนะ"หลังจากได้ยินคําพูดนี้หลินเฟยก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาพยักหน้าและเห็นด้วยหลังจากลงจากรถแล้วเดินไปอีกฝั่งหนึ่งของตลาดอย่างไรก็ตามหลินเฟยและซูเสี่ยวโหรวไม่ได้ทันสังเกตว่าเมื่อพวกเขาเพิ่งลงจากรถก็มีพวกอันธพาลสองสามคนจ้องมองซูเสี่ยวโหรว แววตาของพวกมันเต็มไปด้วยความหื่นกรามยังไ
“วันนี้ไม่ว่าพ่อนายจะเป็นใคร ฉันก็จะสั่งสอนนายแทนพ่อนายเอง!”หลังจากที่คำพูดของหลินเฟยจบลง เขาก็พุ่งตรงไปที่พวกนักเลงนั่นอีกครั้งตอนนี้ในใจของหลินเฟยเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาจึงไม่ออมมือแต่อย่างใดในเวลาไม่ถึงห้านาทีพวกนักเลงก็ร้องโอดครวญไม่หยุด เลือดและน้ำตานองอยู่เต็มหน้าไปหมด“ลูกพี่ถูกชก!”เมื่อพวกนักเลงสองสามคนที่อยู่ข้างๆ เห็นแบบนั้นแล้วต่างก็ตะลึงงัน นึกไม่ถึงว่าลูกพี่ของตัวเองจะมีจุดจบแบบนี้ได้ยังไงตอนนี้พวกนักเลงก็ไม่มีอารมณ์จะมาสนใจชายตรงหน้าว่าทำไมถึงได้กล้าดีขนาดนี้ แต่กลับรีบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรแทนไม่อย่างนั้น ถ้าหากจางเฮ่าเกิดโดนชกจนเป็นอะไรไปขึ้นมา พวกเขาก็คงจะไม่ได้มีจุดจบดีเช่นกัน!ในขณะที่หลินเฟยชกอย่างเมามันอยู่นั้น ผู้คนก็กำลังมุงดูอยู่รอบๆ อย่างเมามันไม่แพ้กัน แต่เมื่อเห็นพวกนักเลงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร พวกเขาก็ตกใจทันที จึงรีบเข้าไปห้ามหลินเฟยเอาไว้ “พ่อหนุ่ม เลิกชกได้แล้ว ตอนนี้ก็ได้ระบายอารมณ์แล้ว ยังไงก็รีบไปเถอะ!”“ใช่ๆ!คนคนนี้นายต่อกรไม่ไหวหรอก พ่อเขาเป็นถึงนายกเทศมนตรีเชียวนะ! ”หลังจากที่ได้ยินคำพูดของคนรอบข้าง ในใจของซูเสี่ยวโหรวก็ยิ่งเป็นกั
“นายบ้านี่พูดว่าอะไรนะ?!”เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฟย จางเฮ่าก็ยิ่งโกรธจนตัวสั่น!จางเฮ่าที่ถูกเลี้ยงแบบตามใจแต่เด็ก ไม่เคยหัวร้อนขนาดนี้มาก่อน!“นายคู่ควรที่จะใช้นามสกุลฉันงั้นเหรอ?ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน!”หลินเฟยมองไปยังจางเฮ่าที่ไม่มีทีท่าจะยอมอ่อนข้อให้ จึงพุ่งเข้าไปชกจางเฮ่าอีกครั้งโดยทันทีชกจนจางเฮ่าไม่มีเรี่ยวแรงจะสู้กลับ!ทันใดนั้นเองมีเสียงเกรี้ยวกราดดังมาจากที่ไม่ไกลนัก“หยุดนะ!กล้าดีมาจากไหน!”“กล้าทำร้ายคนกลางถนนได้ยังไง ยังมีกฎหมายอยู่หรือเปล่า?”“ดูเหมือนว่านายจะไม่รู้ว่าคำว่าตายสะกดยังไง!”หลังจากที่ได้ยินเสียงนั้น หลินเฟยก็หันกลับมาเห็นเพียงแต่ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้า มองไปยังหลินเฟยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นด้านหลังของเขามีรถหลายคันที่นำชายฉกรรจ์ราวๆ สิบกว่าคนลงรถมา ต่างมองไปที่หลินเฟยแล้วกำหมัดแน่น“จาง……จางกุ้ยเฉวียนมาแล้ว!”เมื่อเห็นแบบนี้ คุณลุงคุณป้าที่ขายผักอยู่รอบๆ ก็รู้สึกกลัวขึ้นมา แล้วรีบถอยออกในทันที พวกเขารู้ในทันทีว่าชายคนที่นำพรรคพวกมานั้นก็คือ จางกุ้ยเฉวียน นายกเทศมนตรีของเมืองนี้นี่ไม่ใช่คนธรรมดาที่พวกเขาจะสามารถต่อกรได้ถ้
จางกุ้ยเฉวียนจ้องมองไปยังหลินเฟย สีหน้าและแววตานั้นเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม“นายกล้าดียังไงมากล่าวหาฉัน? นายห่วงตัวเองก่อนเถอะ...”จางกุ้ยเฉวียนไม่ทันได้พูดจบ เขาก็อ้าปากกว้างด้วยความตกใจขณะนี้ หลินเฟยก็พุ่งเข้ามาในกลุ่มถึงแม้ว่าในมือของพวกอันธพาลจะกำท่อเหล็กอยู่ แต่ว่าต่อหน้าหลินเฟยพวกเขาก็ไม่กล้าปะทะแต่อย่างใดตอนนี้หลินเฟยได้พุ่งเข้ามาอยู่ในกลุ่มราวกับว่าหมาป่าเข้ามาอยู่ในฝูงแกะ และเขาก็ได้ต่อยพวกนั้นให้ล้มลงอย่างรวดเร็วผู้คนโดยรอบเหมือนเห็นเหตุการณ์นี้ต่างพากันปรบมือกันเกลียว แต่ทว่าหลินเฟยกลับเดินไปที่จางกุ้ยเฉวียนด้วยสีหน้าเยาะเย้ยในตอนนี้จางกุ้ยเฉวียนก็ไม่ได้มีท่าทีอวดดีเหมือนกับเมื่อก่อน แววตาของเขากลับมีแต่ความกลัว บนหน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น“นาย....”“นายจะทำอะไร?”พอได้ยินเช่นนั้นหลินเฟยก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น“ฉันต้องทำอะไรล่ะ?”“แน่นอนว่าก็ต้องสั่งสอนนายอีกสักหน่อยยังไงล่ะ!”เมื่อเห็นหมัดของหลินเฟยต่อยเขาจนร่วง จางกุ้ยเฉวียนแทบจะไม่สนใจศักดิ์ศรี ตัวของเขากลิ้งลงไปเหมือนกับลูกบอล ไม่สามารถหลบหนีไปได้เลยหมัดนี้แทบจะทำให้อุจจาร
ตอนนี้หลินเฟยต้องการออกไปจากจางกุ้ยเฉวียน ผู้คนเหล่านี้ก็ไม่กล้าที่จะขัดขวางเขาแม้ว่าจะแฝงไปด้วยความน่ากลัวก็ตามไม่นานหลินเฟยก็ได้ขับรถพาซูเสี่ยวโหรวกลับหมู่บ้านเถาฮวาโดยเร็วในระหว่างทางกลับหมู่บ้าน ซูเสี่ยวโหรวถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอตบไปที่หน้าอกของตัวเองและพูดกับหลินเฟยว่า“หลินเฟย ก่อนหน้านี้ฉันตกใจจริงๆนะ”“ขอบคุณนายมากนะ พวกเราถึงได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย!”“แต่ว่าหลังจากนี้นายก็ต้องระวังตัวด้วยนะ อย่าใจร้อนแบบนี้เป็นอันขาด”“นายก็ต้องรู้ว่าคนที่นายมีเรื่องด้วยคือนายกเทศมนตรี พวกเราจะทำอย่างไรถ้าเกิดพวกเขาเข้ามาหาเรื่องอีก? ”ซูเสี่ยวโหรวพูดถึงตรงนี้จิตใจของเธอก็รู้สึกหวาดกลัว เธอโน้มตัวไปข้างหน้าและมองไปที่หลินเฟยดูสายตากังวลเมื่อซูเสี่ยวโหรวตบไปที่หน้าอกของเธอ ลูกพีชอันอวบอ้วนทั้งสองลูกที่สั่นเทาตามแรงมือของเธอได้ดึงดูดความสนใจของหลินเฟยหลินเฟยทั้งขับรถทั้งแอบมองไปที่ลูกพีชสองลูกนั้น ยุ่งจนพันกันอย่างยุ่งเหยิงในตอนนี้ซูเสี่ยวโหรวขยับตัวโน้มเอนไปข้างหน้า ทำให้เข็มขัดนิรภัยคาดลูกพีชสองลูกนั้นอย่างแน่นขนัดช่วงเวลานี้ทำให้ดึงดูดความสนใจของหลินเฟยได้อย่างสิ้นเชิ
หลังจากที่โจวไห่ชวนรับโทรศัพท์ คิ้วของเขาก็ขมวดทันทีเรื่องของจางกุ้ยเฉวียนไม่สามารถหลบหนีสายตรวจเช่นเขาได้เขาไม่คิดเลยว่าคนอายุน้อยอย่างหลินเฟยจะมีวิธีการที่น่ากลัวเช่นนี้ได้!รู้หรือไม่ว่าเด็กคนนั้นสามารถฆ่าคนที่มีพละกำลังมากมายหลายสิบคนในกระบวนท่าเดียว!เขายังปฏิบัติต่อจางกุ้ยเฉวียนและลูกชายของเขาอย่างน่าสมเพชอีกต่างหาก!แม้ว่าภายในใจของโจวไห่ชวนไม่ยินยอมที่จะไปที่นั่น แต่ทว่าเขาก็ไม่กล้าที่จะไปเจอหน้าจางกุ้ยเฉวียนเพราะถ้าเขาได้สูญเสียที่พึ่งอย่างจางกุ้ยเฉวียนไปจริงๆ ต่อไปเขาก็จะไม่สามารถใช้ชีวิตในแต่ละวันได้!“ได้ นายรอฉันพาคนมารวมตัวกัน หลังจากนั้นพวกเราทั้งหมดไปที่นั่นด้วยกัน”……ขณะนี้ หลินเฟยไม่รู้เกี่ยวกับปัญหาที่เขาอาจจะต้องเผชิญเลยสักอย่างเขานำเมล็ดพันธุ์พืชและอุปกรณ์การเกษตรที่เขาซื้อมา หลังจากนั้นเขาก็สั่งให้พานเสี่ยวเหลียนและจ้าวลู่ลู่ไปปลูกผักด้วยกันเพราะว่าถังรั่วเสวี่ยสายตาไม่ดี หลินเฟยจึงขอให้เธอพักผ่อน……อีกฝั่งหนึ่งณ หน่วยงานตำรวจสายตรวจระดับอำเภอ ลู่หลีมองไปที่อธิบดีโม่หลินด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“ท่านอธิบดี ครั้งนี้เราสามารถจับคนใส่ถุงมือสีดำได้น
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได