“ถ้าจะขายให้พวกนั้น สู้ขายให้ฉันไม่ดีกว่าเหรอ!”จ้าวฟู่กุ้ยขมวดคิ้วออกมาอย่างไม่พอใจไม่ว่าจะพูดยังไง เขาและหวังต้าหลินก็เป็นเพื่อนกันมานาน แต่ตอนนี้เขากลับเลือกที่จะช่วยคนนอก ไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิดยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าหลินเฟย จ้าวฟู่กุ้ยก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองรักษาเกียรติเอาไว้ไม่ได้“ทำไมเอ็งเรื่องเยอะจังวะ บอกว่าไม่ให้ก็คือไม่ให้ไง!”“รีบพาคนกลับไปเถอะ!”หวังต้าหลินพูดออกมาอย่างไม่สนใจ น้ำเสียงเองก็ดังมากกว่าปกติ“ได้ งั้นเขื่อนนี่ก็แบ่งกันคนละครึ่งไปเลย เอ็งไม่ยอมฝั่งเอ็งให้ก็อย่าหวังว่าจะได้ทางฝั่งหมู่บ้านนี่ด้วย”“งั้นต่อไปก็สนใจแค่ฝั่งของตัวเองก็พอ!”จ้าวฟู่กุ้ยเองก็พูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ“แล้วแต่เลย!”หวังต้าหลินไม่เคยคิดอยากจะได้เขื่อนจากทางฝั่งของหมู่บ้านเถาฮวาอยู่แล้ว เมื่อทิ้งขยะเสร็จก็รีบหันตัวเดินกลับเข้าบ้านไปในทันทีเสียงปังดังขึ้นก่อนประตูจะถูกปิดลง“หวังต้าหลิน คะ...คอยดูเถอะ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกจะไม่มีวันที่ต้องมาขอร้องฉันน่ะ!”จ้าวฟู่กุ้ยโกรธจนควันออกหู!“ไม่เป็นไรหรอกพ่อ เขื่อนนั่นใหญ่จะตาย พวกเราใช้แค่ทางฝั่งของหมู่บ้านเราก็พอแล้ว ไม่ต้องโมโหไปหรอก”จ
“ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ต้องบอกให้ป้าจางกลับมาจริงๆหรอ?”หลินเฟยรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ถึงยังไงไปแล้วก็เสียเวลาเปล่าอยู่ดี“ให้เขาไปเถอะ ผู้หญิงพวกนี้อยู่บ้านซักผ้าเป็นก็พอละ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องของเขาหรอก”“รอเนื้อตัวมอมแมมกลับมาก็ทำตัวดีเอง”ใบหน้าของจ้าวฟู่กุ้ยเต็มไปด้วยความไม่ชอบใจในตัวจางอวี้หลาน เห็นได้ชัดว่าสะสมความไม่ชอบเธอมานานแล้ว“พ่อนั่นแม่ ทำไมพ่อถึงพูดออกมาอย่างนี้ล่ะ”จ้าวลู่ลู่ไม่พอใจจึงพูดออกไปแต่ก็วนกลับมาคิดอีกรอบว่าจางอวี้หลานวันๆก็เล่นแต่ไพ่นกกระจอก กลับมาบ้านก็ไม่ทำอะไร งานบ้านก็เป็นหน้าที่ของจางฟู่กุ้ยให้จางอวี้หลานเดินเหยียบตะปูยังจะถือว่าเป็นเรื่องดีเสียกว่าอีกทั้งยังจากหมู่บ้านเถาฮวาถึงหมู่บ้านตระกูลหวัง ใช้เวลาเดินอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงนิสัยของจางอวี้หลานประเมินได้ว่าเดินไม่ถึงบ้านตระกูลหวัง ตัวเองเหนื่อยก็เดินกลับมาแล้ว!“ช่างเถอะหลินเฟย อย่าไปยุ่งเรื่องของแม่ฉันเลย กลางวันนี้กินข้าวที่บ้านฉันก่อนไหม?”“ได้สิ เดี๋ยวฉันโทรบอกคุณอาเขาก่อน แกจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ”หลินเฟยหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาถังรั่วเสวี่ย“เที่ยงนี้กินข้าวที่บ้านลู่ลู่ครับ
จ้าวลู่ลู่คิดว่าตัวเองจะต้องอบรมสั่งสอนจ้าวฟู่กุ้ยบ้างเสียแล้ว!แต่ซูเสี่ยวโหรวที่นั่งอยู่ข้างๆ อดจะเบะปากไม่ได้หลินเฟยใช้เวลาแค่ครึ่งวันก็หาเงินได้หลายร้อยล้าน แบบนี้เรียกว่าการหาเงินยากอีกเหรอ? แบบนี้มันดูถูกหลินเฟยไปหน่อยหรือเปล่า!“นี่สินะที่เรียกว่าลูกสาวโตแล้วจะไม่ยอมเชื่อฟังน่ะ!”“นี่ยังไม่ได้แต่งออกไปก็ไม่สนใจพ่อตัวเองแล้วนะ!”จ้าวฟู่กุ้ยอดไม่ได้ที่จะถอนลมหายใจออกมา และสุดท้ายก็ตอบรับออกมาอย่างไม่ใส่ใจ“หึ เงินของหลินเฟยก็คือเงิน ฉันก็ต้องสนใจที่มาที่ไปของเงินทุกบาททุกสตางค์สิ”จ้าวลู่ลู่ตอบออกมาอย่างย่ามใจ“เอ่อ ดีมั้งแบบนี้” หลินเฟยรู้สึกเขินๆ“ดูเข้าสิ ถ้าให้คอยควบคุมเรื่องเงินคงจะไม่มีความสุขสินะ!” จ้าวลู่ลู่เบะปาก“อย่าไปพูดอะไรที่มันไม่เข้าท่าอยู่เลย พ่อกับเสี่ยวเฟยจะออกไปซื้อของมาทำกับข้าว พวกเธอก็รออยู่ที่บ้านแล้วกัน”จ้าวฟู่กุ้ยรู้สึกอึดอัดใจพูดจบก็ชวนหลินเฟยออกไปซื้อของในเมืองด้วยกัน“คุณลุงไม่ต้องไปฟังลู่ลู่หรอกนะครับ เงินนี่ให้ลุง ลุงก็เอาไปใช้เถอะ”“ฉันเองก็เป็นถึงผู้ใหญ่บ้าน เวลาจะออกไปทำธุระที่ไหนก็ไม่ควรจะเดินไปอย่างเดียว”“ก็เอาเงินนี้ไปซื้อรถสัก
“แม่ไม่ได้ไปหมู่บ้านตระกูลหวังเหรอ? ถ้าอย่างนั้นแม่อาจจะไปเล่นไพ่นกกระจอกแล้วหรือเปล่านะ?” จ้าวลู่ลู่นึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งขึ้นมาตอนที่จางอวี้หลานเล่นไพ่นกกระจอก ไม่ว่าใครจะโทรไป เธอก็จะไม่รับสายอีกทั้งจางอวี้หลานก็ขี้เกียจมาก จ้าวลู่ลู่ไม่เชื่อว่าเธอจะเดินเท้าไปถึงหมู่บ้านตระกูลหวังได้“ก็เป็นไปได้นะ พ่อจะลองไปหาแม่ดู ลูกกินข้าวก่อนเถอะ”จ้าวฟู่กุ้ยสาวเท้าเดินออกจากประตูไปอย่างรวดเร็วด้วยอารมณ์หงุดหงิด เขาไปยังสถานที่ที่จางอวี้หลานมักจะไปเล่นไพ่นกกระจอกเป็นประจำหมู่บ้านเถาฮวาก็ไม่ได้ใหญ่โตหลินเฟยและคนอื่น ๆ คาดว่าจ้าวฟู่กุ้ยน่าจะตามจางอวี้หลานเจอภายในสิบนาที ดังนั้นทุกคนจึงไม่ได้ทานอาหารแต่รอจนครึ่งชั่วโมงผ่านไป จ้าวฟู่กุ้ยก็วิ่งกลับมาคนเดียวอย่างรีบร้อนด้วยสีหน้าสุดจะย่ำแย่“พ่อกลับมาแค่คนเดียวเหรอคะ?”“แม่หนูล่ะ?”เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าอันย่ำแย่ของจ้าวฟู่กุ้ย จ้าวลู่ลู่ก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ“ไอ้หยา เลิกพูดได้แล้ว ไม่รู้ว่าเธอไปไหนกันแน่ พ่อหาอยู่ตั้งนานแล้ว คนในหมู่บ้านก็ไม่มีใครบอกว่าเจอเธอเลยสักคน!”“พ่อโทรไปเธอก็ไม่รับ”จ้าวฟู่กุ้ยเหนื่อยจน
“พี่จะกลัวอะไร อย่าว่าแต่จะทำให้มันสลบเลย แค่ไม่ทุบมันตายก็บุญแค่ไหนแล้ว”หวังเอ้อหลินไม่กลัวเลยสักนิดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการก่นด่าของหวังต้าหลิน แถมยังมีรอยยิ้มอันเย่อหยิ่งต้องรู้ว่า ตอนที่เขาอยู่ต่างประเทศ การฆ่าคนร่วมกันกับองค์กรเป็นเรื่องที่เขาทำเป็นประจำ“น้องรอง นี่แก…แกพูดอะไรอยู่ ไม่เจอกันสิบกว่าปี แกนี่โตมาทนมือทนตีนจริง ๆ เลยนะ”“เธอเป็นภรรยาผู้นำหมู่บ้านนะ ถ้าเกิดตายขึ้นมาแกได้ติดคุกแน่ หรืออาจจะถูกตัดสินประหาร ตกลงแกรู้บ้างหรือเปล่าว่าผลลัพธ์มันหนักแค่ไหน!”“ถ้าให้พี่พูด พี่ว่าแกพาเธอไปส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาซะ แล้วก็ยกอ่างเก็บน้ำให้เขารับผิดชอบไปซะ เรื่องราวมันจะได้ไม่ใหญ่โตไปกว่านี้!”หวังต้าหลินสอนเขาให้ทำตัวดีขึ้นกว่านี้“เป็นไปไม่ได้ ต่อให้ฟ้าต้องถล่ม อ่างเก็บน้ำนี่ก็ยกให้คนอื่นไม่ได้!”หวังเอ้อหลินยังไม่ทันได้อ้าปาก แจ็คชายหนุ่มต่างชาติก็อดไม่ได้ที่จะแผดเสียงแทรกขึ้นมา!“กูไม่ได้พูดกับมึง กูพูดกับน้องกูอยู่!”หวังต้าหลินไม่ได้สนใจความคิดของชายต่างชาติคนนี้อยู่แล้ว เขาแค่อยากให้น้องชายของตัวเองเป็นคนดีเท่านั้น!“พี่ ผมจะบอกความจริงพี่ก็แล้วกัน”“ที่จริงใต้
“เอ้อหลิน ตกลงแกเข้าร่วมองค์กรอะไรกันแน่ แกบอกความจริงพี่ได้ไหม?”เมื่อแจ็คเดินออกไปไกลแล้ว หวังต้าหลินถึงได้สติคืนมาจากความกลัวก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เอ่ยปากถามหวังเอ้อหลิน“พี่ อย่าถามผมเลย!”“ยิ่งพี่รู้มากเท่าไร มันก็ยิ่งส่งผลร้ายต่อพี่มากเท่านั้น!”“พี่แค่รู้ว่าผมจะไม่ทำร้ายพี่ก็พอ คุณหนูขององค์กรเรารับปากผมแล้วว่าหลังจากภารกิจนี้เสร็จสิ้น เธอจะให้ผมสิบล้านดอลลาร์!”“รอผมทำภารกิจสุดท้ายนี้เสร็จผมก็จะไม่ทำแล้ว!”“ถ้ามีเงินก้อนนี้ ผมจะให้พี่ได้มีชีวิตสุขสบาย!”หวังเอ้อหลินพูดโน้มน้าวด้วยใบหน้าอันชั่วร้าย มีหลายเรื่องที่เขาไม่อาจบอกหวังต้าหลิน“หนึ่งสิบล้านดอลลาร์เหรอ? เอ้อหลิน นี่แกมั่นใจว่าพวกนั้นไม่ได้หลอกแกใช่ไหม?”“ทำไมพี่รู้สึกว่าพวกนั้นดูไม่เหมือนคนดีเลยสักนิด!”หวังต้าหลินกลืนน้ำลาย เขารู้สึกว่าลำคอของเขาแห้งผากความแตกต่างของเงินดอลลาร์กับเงินบาทตัวเขาเข้าใจดี สิบล้านดอลลาร์ ก็เท่ากับสามสิบสี่สิบล้านบาท!คนบ้านนอกแก่ ๆ แบบหวังต้าหลินไม่กล้าคิดฝัน!“วางใจเถอะพี่ ผมทำงานกับพวกเขามาสิบกว่าปีแล้ว พวกเขาไม่มีทางหลอกผมแน่!”เมื่อหวังเอ้อหลินเห็นสีหน้าลังเลของหวังต้าหลิน
หวังเอ้อหลินไม่ได้อยากเสี่ยงอันตราย ทำได้เพียงพาหวังต้าหลินจากไป!“หนี......ใช่ รีบหนี!”หวังต้าหลินที่ตกตะลึง เมื่อเห็นว่าหลินเฟยยิ่งอยู่เข้าใกล้ จึงรีบยกขาวิ่งเผ่นแนบไป!“ต้องแจ้งแจ็คให้พาคนมา ควบคุมคนเหล่านี้เอาไว้ ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่!”หวังเอ้อหลินวิ่งหนีไปด้วย ล้วงโทรศัพท์ออกมาจะโทรศัพท์แจ้งแจ็คไปด้วย!“ไอ้เวรอย่าหนีสิวะ ดูสิว่าฉันจะไม่ฆ่าพวกแกให้ตาย!”จ้าวฟู่กุ้ยเห็นสองพี่น้องหวังต้าหลินเผ่นแนบ จึงร้อนใจจนสบถด่า!“ลุงวางใจเถอะ พวกเขาหนีไม่พ้นหรอก!”“ส่วบส่วบ!”หลินเฟยก้มตัวลงไปเก็บก้อนหินสองก้อนขึ้นมาแล้วขว้างออกไป!เสียงทะลุอากาศดังขึ้น หินสองก้อนนั้นทั้งเร็วทั้งแม่นยำ เหมือนกับลูกกระสุน กระแทกเข้าที่ขาของหวังต้าหลินกับหวังต้าเอ้อ!“โอ๊ย!”สองพี่น้องหวังต้าหลินส่งเสียงออกมาแล้วล้มลง และขาของทั้งสองคนบนตำแหน่งที่ถูกก้อนหินกระแทก มีเลือดไหลไม่หยุด!“เชี่ยแม่ง ไอ้หมอนี่เป็นใครกัน!”หวังเอ้อหลินดึงก้อนหินก้อนหนึ่งที่พบเห็นได้ทั่วพื้นออกมาจากบาดแผล ทันใดนั้นก็รู้สึกตกตะลึงและรู้สึกโมโหต่อหลินเฟย!ตอนนี้ขาได้รับบาดเจ็บ สองพี่น้องหวังต้าหลิน
“แกแม่งโวยวายอะไร แกคิดว่าตัวเองเจ๋งมากนักเหรอ?”“ขยะอย่างแกเนี่ยนะ แกยังอยากจะฆ่าพวกเราให้ตายด้วยเหรอ?”จ้าวฟู่กุ้ยขากเสมหะที่เหนียวข้นออกไป!หวังเอ้อหลินมองไปทางด้านหลังของจ้าวฟู่กุ้ย ไม่ได้ตอบอะไร ใบหน้าเผยรอยยิ้มดุร้ายออกมาเล็กน้อยกองทัพเสริมที่เขาเรียกมาได้มาถึงแล้ว!“เขาฆ่าพวกแกไม่ได้ แต่ฉันทำได้!”ไม่ไกลนัก วัยรุ่นชาวต่างชาติผมสีบลอนด์ตาสีฟ้าคนหนึ่งเดินเข้ามา มือทั้งสองข้างถือปืนเอาไว้ข้างละกระบอก เขาก็คือแจ็ค!“ชาวต่างชาติ......”“แม่เจ้า นี่คงไม่ใช่ปืนหรอกนะ......”เมื่อเห็นว่าในมือของแจ็คมีปืนอยู่สองกระบอก จ้าวฟู่กุ้ยกับจ้าวลู่ลู่และซูเสี่ยวโหรวทั้งสามคนสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีพวกเขาเป็นแค่คนธรรมดา เห็นปืนแล้วไม่กลัวถึงจะแปลก!มีเพียงหลินเฟยที่ยังถือว่านิ่งเฉยเขาจ้องมองไปที่แจ็คด้วยความโมโหและงงงวย หลินเฟยเกลียดที่สุดที่ถูกคนใช้ปืนชี้หน้า ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกสงสัยหมู่บ้านตระกูลหวังสถานที่ห่างไกลความเจริญแบบนี้ ทำไมถึงได้มีชาวต่างชาติพกปืนมา?อีกอย่างดูท่าทางของชาวต่างชาติคนนี้ เหมือนว่าจะเป็นพวกเดียวกับหวังเอ้อหลิน! เป้าหมายที่เขามาที่นี่คืออะไร?“แจ็ค นายมาไ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได