"พี่ซู พี่จะไม่อยู่ในเมืองแล้วหรือคะ?"จ้าวลู่ลู่ถามด้วยความประหลาดใจแน่นอนว่า เธอไม่ได้คิดว่าซูเสี่ยวโหรวจะติดตามหลินเฟยเพื่อเรื่องเงินอยู่แล้ว"ไม่ล่ะ ที่นี่ไม่มีอะไรให้ฉันต้องเป็นกังวลอีกแล้ว"ซูเสี่ยวโหรวส่ายหน้าไปมา และยิ้มอย่างขมขื่น"ร้านถูกจำนองไปแล้ว และจะถึงกำหนดอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว และน้องชายที่ไม่เอาไหนของฉัน...ฉันก็ดูแลเขาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว""ฉันรู้สึกว่าพวกคุณเป็นคนที่ดีมาก หลายปีขนาดนี้แล้ว ไม่เคยมีใครที่ปกป้องและยืนหยัดเพื่อฉันอย่างพวกคุณมาก่อนเลย"ขณะที่พูด ซูเสี่ยวโหรวก็อดที่จะหลั่งน้ำตาออกมาไม่ได้ถ้าวันนี้เธอไม่ได้พบกับหลินเฟย เธอคงถูกซูไห่เทาและจ้าวหู่ลากไปชำระหนี้แล้วอย่างแน่นอน"หลินเฟย พี่ซูน่าสงสารจริงๆ งั้นเราพาเธอกลับไปที่หมู่บ้านด้วยกันจะดีหรือเปล่า"ผู้หญิงมักจะเต็มไปด้วยความอ่อนไหว เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ จ้าวลู่ลู่ก็อดที่จะนึกสงสารซูเสี่ยวโหรวขึ้นมาไม่ได้"กลับไปที่หมู่บ้านพร้อมกับเรา มันก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ แต่พี่ซูยังไม่มีที่พักเลยนะตอนนี้"หลินเฟยคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง และพูดออกมา"เรื่องนี้...งั้นก็ไปพักอยู่ที่บ้านฉันก็ได้นะ?"
ไม่ว่าซูเสี่ยวโหรวจะตอบตกลงหรือไม่ก็ตาม จ้าวลู่ลู่ก็ได้ลากเธอเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนมเสียแล้วเพราะเสื้อผ้าของซูเสี่ยวโหรวขาดจนเป็นรูแล้ว ดังนั้นจ้าวลู่ลู่จึงเลือกชุดให้เธอเป็นอันดับแรกนี่เป็นครั้งแรกที่ซูเสี่ยวโหรวได้เข้ามาร้านหรูแบบนี้ และเธอก็รู้สึกประหม่าและไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียมากๆซึ่งจ้าวลู่ลู่ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนัก เพราะเสื้อผ้าทุกชุดก็หมื่นขึ้นทุกชิ้น แพงก็หลายแสน หลายหมื่นเลยทีเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงการดูถูกดูแคลนจากสายตาของใครเขาหลินเฟยจึงตะโกนเรียกพนักงานในร้านมาทันที "คุณรูดให้ผมสักห้าล้านก่อนก็แล้วกัน แล้วคุณก็พาพวกเธอทั้งสองไปลองชุดด้วยนะ""โอเค...โอเคค่ะคุณผู้ชาย!""คุณทั้งสองคะ ถูกใจชุดไหนก็เลือกลองได้เลยนะคะ!"หลังจากที่รูดเงินเสร็จแล้ว พนักงานสาวในร้านก็มองจ้าวลู่ลู่และซูเสี่ยวโหรวด้วยสายตาที่อิจฉาเป็นอย่างยิ่ง!"ขอบคุณนะสามี งั้นฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ!"เมื่อเห็นว่าหลินเฟยใจป้ำขนาดนี้ จ้าวลู่ลู่ก็รู้สึกมีความสุขเอาเสียมากๆนี่เธอเรียกหลินเฟยว่า "สามี" ในที่สาธารณะแบบนี้เลยหรือนี่"ขอบคุณนะสามี……"ซูเสี่ยวโหรวประหม่าจนเกินไป และแทบจะเรียกตามจ้าวลู
เจิ้งเวยเวยพนักงานสาวรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินหลินเฟยพูดว่าหน้าอกของเธอที่อายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดใหญ่ไม่เท่าแฟนของเขา และบั้นท้ายที่งอนสวยเพราะเธอตั้งใจฝึกมาโดยเฉพาะก็ไม่ดีเท่าอีกต่างหากจะคุยโม้ให้มันมีหลักการหน่อยไม่ได้เหรอ?และเมื่อได้ยินหลินเฟยพูดโอ้อวดอีกว่า เขาจะซื้อชุดชั้นในร้อยกว่าชุด เธอก็โพล่งเสียงหัวเราะออกมา พร้อมกับพูดว่า"ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ดูแล้วขนของนายคงยังขึ้นไม่ครบเลยนะ?""นายรู้หรือเปล่าว่าชุดชั้นในร้านนี้ราคาเท่าไหร่? เงินเดือนหนึ่งเดือนของพนักงานออฟฟิศธรรมดาก็แทบจะซื้อไม่ได้แล้ว!""ร้อยกว่าชุด มันหลายแสนเลยนะ นายเอาอะไรมาซื้อได้?"โดยหลักก็คือ หลินเฟยดูอายุน้อยจนเกินไป และไม่มีออร่าของเศรษฐีแต่อย่างใด ซึ่งก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงสายตาที่ดูถูกของเจิ้งเวยเวยได้"มันก็แค่ไม่กี่แสนเอง ถูกท่าทางแบบนั้นของคุณแล้ว ผมยังคิดว่าจะราคาเท่าไหร่เสียอีก"หลินเฟยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินราคาตอนนี้เขามีเงินแล้ว และน้ำเสียงการพูดก็แข็งกร้าวขึ้นมาแล้วด้วย"บอกมาเถอะว่าจะขายหรือไม่ขาย คุณไม่ขายก็ช่างมันเถอะ""ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ขายนะ แต่ต่อให้ฉันจะขาย นา
แต่ทว่าขณะที่เธอพูดแบบนี้ออกมา กลับไม่ได้สังเกตสีหน้าที่ตื่นตระหนกอย่างชัดเจนของหลิวคังที่อยู่ข้างๆ"ไอ้เด็กบ้า คุณชายอย่างฉันไม่อยากจะไปถือสาเอาความอะไรกับแกหรอกนะ แกรีบมาขอโทษแฟนของฉันเดี๋ยวนี้ แล้วก็ไสหัวออกไปซะ!""ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าคุณชายอย่างฉันหยาบคายกับแกนะ!"เมื่อหลิวคังเห็นว่าหลินเฟยสามารถบอกได้ว่าหยกนั้นเป็นของปลอมเพียงมองผ่านแค่แวบเดียว เขาก็รีบกระโดดออกมาและแสร้งทำเป็นโกรธ พร้อมกับต้องการไล่ตะเพิดหลินเฟยออกไป!เพราะหลีกเลี่ยงการที่หลินเฟยจะสังเกตสิ่งผิดปกติอย่างอื่นได้"ได้ยินหรือเปล่า นายทำให้แฟนของฉันโกรธแล้วนะ ผลที่จะตามมานั้นร้ายแรงมาก ยังไม่รีบมาขอโทษ แล้วไสหัวออกไปอีก?"เจิ้งเวยเวยรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากเมื่อมีคนมาหนุนหลังให้แบบนี้ และใบหน้านั้นก็เหิมเกริมขึ้นมาทันที!"ฉันไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย ทำไมต้องขอโทษด้วย"หลินเฟยไม่ได้มีสีหน้าที่ตื่นตระหนก แต่กลับพูดอย่างเรียบเฉยขึ้นมาแทน"นายใส่ร้ายแฟนของฉัน เยาะเย้ยเป็นนัยว่าฉันโง่ นายยังจะไม่ได้พูดอะไรผิดอีกงั้นเหรอ?"เจิ้งเวยเวยตะคอกใส่หน้าเขา ราวกับว่าเธอน้อยเนื้อต่ำใจเอาเสียมากๆ"ที่ฉันพูดก็แค่ความจริ
"คุณ...ทำไมคุณถึงลงมือตบตีแบบนี้..."เจิ้งเวยเวยถูกตบไปหนึ่งฉาด และสามารถจินตนาการได้ว่าเธอโกรธมากแค่ไหนแต่ทว่า เมื่อเห็นจ้าวลู่ลู่ที่สวมเสื้อผ้าราคาเป็นแสน เธอก็เดาว่าคงจะเป็นคนใหญ่คนโต จึงไม่กล้าเอาคืนแต่อย่างใด"ฮึ่ม ตบเธอแล้วจะทำไมล่ะ ใครใช้ให้เธอมารังแกแฟนของฉันแบบนี้ล่ะ!"หลังจากจ้าวลู่ลู่ดึงสติกลับมาได้ เธอก็รู้ว่าตัวเองได้หุนหันพลันแล่นเกินไปแล้วแต่ทว่า การที่เจิ้งเวยเวยมารังแกหลินเฟยนั้น มันน่าโมโหจนเกินไป หากให้โอกาสกับจ้าวลู่ลู่อีกครั้ง เธอก็ยังที่จะลงมืออีกครั้งเหมือนกัน!แม้ว่าซูเสี่ยวโหรวจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่สามารถมองออกว่า เธอเห็นด้วยกับการกระทำของจ้าวลู่ลู่"อุ๊ย สาวน้อยนี่เก่งจริงๆ เลยนะ"หลินเฟยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เมื่อเห็นจ้าวลู่ลู่ดูเหมือนเสือตัวน้อย"หลิวคัง ดูเขาสิ...เขายังหัวเราะเยาะฉันอีก!"เจิ้งเวยเวยที่อยู่ในอารมณ์โกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้ยินหลินเฟยพูดเยาะเย้ยตัวเองแบบนี้ เธอก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ และหวังแค่ว่าจะสามารถพึ่งแฟนหนุ่มที่เป็นทายาทเศรษฐีคนนี้ โดยที่หวังจะให้เขาระบายความโกรธแทนตัวเองนั่นเอง!"เวยเวย เรื่องนี้ช่างมันเถอะนะ ย
"มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่ เงินโอนกลับมาก็โอเคแล้ว คุณกลับไปทำงานเถอะนะ"หลินเฟยดูข้อความเตือน และพบว่ามีเงินสี่สิบล้านกว่าๆ เข้ามาในบัญชีจริงๆ เขาจึงโบกมือให้กับพนักงานสาวไปอย่างสบายๆ พร้อมกับพูดขึ้นมา"ได้ค่ะคุณผู้ชาย หากคุณมีปัญหาอะไร สามารถติดต่อเราได้ทุกเมื่อนะคะ ฉันยินดีให้บริการค่ะ!"พนักงานสาวได้โค้งคำนับเก้าสิบโอเค มอบนามบัตรใบหนึ่งเอาไว้ และกลับไปที่ร้านเสื้อผ้าตามเดิม"หลินเฟย ทำไมคุณสะเพร่าแบบนี้ เงินห้าสิบล้าน กลายเป็นห้าล้านได้อย่างไรกัน?"จ้าวลู่ลู่อดที่จะดุไม่ได้"หลินเฟย ต่อไปจะซื้ออะไร คุณจะต้องรอบคอบกว่านี้สักหน่อยนะ"ซูเสี่ยวโหรวก็พูดเตือนออกมาเช่นกัน"แหะๆ ผมรู้แล้วครับ ต่อไปจะรอบคอบให้มากกว่านี้"หลินเฟยเกาหัวแล้วก็ยิ้มๆ"ไอ้เด็กนี่ รวยขนาดนี้ได้อย่างไรกัน..."เจิ้งเวยเวยตะลึงงันในทันที!เดิมทีเธอคิดว่าหลินเฟยถูกจ้าวลู่ลู่รับเลี้ยงเสียอีก แต่เห็นได้ชัดว่า เธอได้เข้าใจผิดไปหมดแล้ว!เศรษฐีที่แท้จริงคือหลินเฟย!เมื่อดูจากท่าทางที่ไม่แยแสของหลินเฟย ดูเหมือนว่าห้าสิบล้านสำหรับเขา มันไม่ได้มากอะไรเลย!และเมื่อนึกถึงคำพูดที่ต่อว่าหลินเฟยไปเมื่อครู่นี้
จ้าวลู่ลู่คิดเองเออเองว่า หลินเฟยมีเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น และการที่ซื้อเสื้อผ้าเซ็กซี่ก็ต้องให้เธอใส่อย่างแน่นอนแต่ด้วยชุดชั้นในกว่าร้อยชุดแบบนี้ แค่คิดจ้าวลู่ลู่ก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว!เมื่อถึงตอนนั้น หลินเฟยก็คงเหมือนม้าป่าที่หลุดจากการควบคุมแบบนั้นหรอกเหรอ?และหลินเฟยก็รับรู้ด้วยว่าจ้าวลู่ลู่นั้นเข้าใจผิดไปแล้วแต่ก็ไม่สามารถจะอธิบายได้เช่นกัน เขาจึงทำได้เพียงแค่พูดตามความคิดของจ้าวลู่ลู่ และเผยยิ้มที่แสนจะลามกออกมาเท่านั้น"ไอ้หยา หลินเฟย คุณนี่ลามกจริงๆ เลยนะ!"จ้าวลู่ลู่ทั้งเขินอายทั้งโกรธเคือง"คือว่า...หลินเฟยดูเหมือนจะเชื่อฟังอยู่นะ ทำไม...ทำไมถึงเป็นแบบนี้..."เมื่อเห็นรอยยิ้มและท่าทางเกินจริงของหลินเฟยแบบนั้นแล้ว ซูเสี่ยวโหรวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขันขึ้นมานอกจากนี้ ใบหน้าของซูเสี่ยวโหรวยังแดงเล็กน้อยเมื่อเธอเหลือบมองชุดชั้นในเซ็กซี่ในร้านเธอเป็นคนหัวโบราณมากหากเธอถูกขอให้ใส่ชุดแบบนี้ เธอจะไม่มีวันรับปากอย่างแน่นอน!แต่สิ่งที่ซูเสี่ยวโหรวไม่รู้ก็คือ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็สวมชุดแบบนี้ ในห้องครัว ฝ่าลมฝนฟ้าคะนองกับหลินเฟย จนได้ขึ้นสวรรค์...ขณะที่ซ
"ยังจะต้องพูดอีกเหรอ?""พี่ซูเพิ่งจะย้ายเข้ามาและตัวคนเดียวด้วย ฉันก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนทำความคุ้นเคยอยู่แล้วล่ะ""คืนนี้ฉันจะนอนกับพี่ซูนะ คงไม่ไปหาคุณแล้วล่ะ"จ้าวลู่ลู่กลอกตามองบนให้กับหลินเฟย เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่อีกอย่าง เมื่อวานหลินเฟยก็แทบจะทำให้เธอแยกร่างเสียให้ได้ และถึงตอนนี้ช่วงล่างของเธอก็ยังเจ็บอยู่เลยนะคืนนี้ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เธอก็ไม่กล้าไปนอนร่วมเตียงกับหลินเฟยอย่างแน่นอน"ลู่ลู่ หลินเฟย รบกวนพวกคุณจริงๆ""รอให้วิลล่าของพวกคุณสร้างเสร็จ ฉันจะทำแปลงผักขนาดใหญ่ขึ้นมา และก็จะปลูกผักสดๆ เอาไว้ด้วย""แล้วก็เลี้ยงเป็ด ไก่ หรือเปล่าอะไรจำพวกนี้ ฉันจะทำอาหารให้พวกคุณทานทุกวันเลย!"ซูเสี่ยวโหรวพูดขอโทษหลินเฟยและจ้าวลู่ลู่เธอมักจะรู้สึกเสมอว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลย แต่กลับได้รับการดูแลจากหลินเฟยและจ้าวลู่ลู่ มันจึงทำให้เธอละอายใจเอาเสียมากๆและวิธีการเดียวที่ดีที่สุดในการตอบแทนก็คือ การที่เธอทำอาหารให้กับหลินเฟยและจ้าวลู่ลู่เพียงเท่านั้น"ดีเลยครับพี่ซู ถึงเวลานั้นก็ต้องรบกวนพี่แล้วนะครับ"หลินเฟยตอบกลับมา ในขณะที่สนทนากันอยู่นั้น เขาก็ได้ออกม
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได